รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Mongwin]

ช่างสำรวจกำลังใช้เครื่อง GNSS receiver รุ่น EPOCH 50 วัดระดับถนนภายในตลาดรถไฟสงขลา ภายใต้งานศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ - สงขลา
19 พ.ย. 58
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.706659156100933.1073741834.104281206338734

[ksomchai]

อ่านในเฟสบุ๊กแล้ว เดาเอาว่าปลายรางก็จะอยู่ที่สถานีสงขลา่เช่นเดิมนะครับ
_________________

[Wisarut]

ประมูลรถไฟทางคู่สายแรก แปดริ้ว-ขอนแก่นหมื่นล้าน
เดลินิวส์
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา 4:00 น.

ประเดิมแล้ว รฟท.ประมูลรถไฟทางคู่สายแรก ฉะเชิงเทรา-คลอง19-ขอนแก่น วงเงินหมื่นล้าน ด้าน ชิโนไทย-ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง คว้างานก่อสร้าง

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้มีการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีอ๊อกชั่น)หาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 10,524 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย.58 ที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สัญญา
สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบัวใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง กรอบวงเงินค่าก่อสร้าง วงเงิน 9,926 ล้านบาท และ

สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ กรอบวงเงินค่าก่อสร้าง วงเงิน 598 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายละเอียดการประกวดราคาในสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบัวใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง วงเงิน 9,926 ล้านบาท มีเอกชนร่วมประมูล 6 ราย ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอ็นจิเนียริ่ง กลุ่มกิจการร่วมค้าทีซี จอยต์เวนเจอร์, บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนิยริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และกลุ่มกิจการร่วมค้าซีเคซีเอช โดยบริษัทที่เสนอราคาต่ำที่สุด คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนิยริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เสนอราคา 9,825 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1% หรือ 101 ล้านบาท ส่วนเอกชนที่เสนอราคาต่ำเป็นอันดับที่สองเสนอที่ 9,869 ล้านบาท

ส่วนสัญญาสอง งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ กรอบวงเงินค่าก่อสร้าง 598 ล้านบาท มีเอกชนเข้าร่วมประมูล 4 ราย ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย กลุ่มกิจการร่วมค้าทีซี จอยต์เวนเจอร์, บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ และบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง โดยบริษัทไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง เสนอราคาต่ำสุด 407 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 32% หรือ 191 ล้านบาท ส่วนเอกชนที่เสนอราคาต่ำเป็นอันดับที่สองเสนอราคา 434 ล้านบาท“

[Mongwin]

นายกเทศบาลเมืองทุ่งสง ระบุ รถไฟทางคู่ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ ช่วยให้การเดินทาง ขนส่งสินค้า สะดวก ประหยัด ปลอดภัย เศรษฐกิจของประเทศเจริญมากยิ่งขึ้น
แหล่งที่มา : สวท.อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
วันที่ข่าว : 21 พฤศจิกายน 2558

นายกเทศบาลเมืองทุ่งสง ระบุ รถไฟทางคู่ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ ช่วยให้การเดินทาง ขนส่งสินค้า สะดวก ประหยัด ปลอดภัย เศรษฐกิจของประเทศเจริญมากยิ่งขึ้น

นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง พร้อม หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชน รับฟังการชี้แจงโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จากบริษัทที่ปรึกษา 6 บริษัทของกระทรวงคมนาคม นำโดย นายธีรวิทย์ สุภาทิพย์ วิศวกรโยธา งานทาง พร้อม คณะ ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กล่าวว่า ประชาชนต้องโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เพราะช่วยให้เดินทางด้วยความรวดเร็ว ประหยัด ปลอดภัย เป็นอีกทางเลือกของประชาชน นอกจากเดินทางด้วยเครื่องบิน และรถโดยสาร ถ้าโครงการผ่านการพิจารณาในทุกขั้นตอนแล้ว การก่อสร้างระบบรางทั่วประเทศจะแล้วเสร็จ หลังจากรอคอยมาเป็นเวลานานกว่า 100 ปี คิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วในการพัฒนาระบบราง และ อำเภอทุ่งสงกำลังจัดทำโครงการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้ทุ่งสง ตอนกลาง รางคู่จะเป็นส่วนสำคัญช่วยผลักดันเศรษฐกิจแก่อำเภอทุ่งสง ใช้ขนส่งทั้งคนและสินค้า เกิดประโยชน์กับประชาชนและภาคเศรษฐกิจในภาคใต้และทั้งประเทศ

บริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ชี้แจงแนวคิดการออกแบบโครงการ , การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ แนวทางการประชาสัมพันธ์โครงการฯให้ประชาชนได้รับทราบว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สุราษฎร์ธานี –ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทางรวม 323 กม. สร้างรางคู่ผ่าน จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และ จ.สงขลา มีจำนวนสถานีและที่หยุดรถไฟ 60 แห่ง ก่อสร้างเป็นทางคู่ ขนาดทาง 1 เมตร ขนานไปกับทางรถไฟเดิม ยกเว้นบางพื้นที่ที่ต้องปรับแนวเส้นทาง เพื่อรองรับความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร.ต่อ ชั่วโมง มีการก่อสร้างรั้วสองข้างทางรถไฟเพื่อป้องกันอันตรายตลอดแนวทางรถไฟ ออกแบบจุดตัดทางรถไฟ ตลอดแนวเส้นทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากทางลัดผ่าน และปรับปรุงสถานีให้เหมาะสม สอดคล้องกับสถาปัตยกรรม ขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ มีแผนดำเนินการ ตั้งแต่การศึกษาความเหมาะสมและออกแบบ เริ่มตั้งแต่ปี 2558 ผ่านการพิจารณาจาก ครม.จนถึงขั้นตอนก่อสร้าง และเปิดดำเนินการรถไฟทางคู่ได้ในปี 2566

ผู้เข้ารับฟังการชี้แจง ได้ให้ข้อเสนอแนะเรื่องการทำเส้นทางข้ามทางรถไฟ ไม่ให้อยู่ห่างจากจุดเดิมเกินไป เพื่อความสะดวกแก่ประชาชนจำนวนมาก ที่ใช้เส้นทางเป็นประจำเพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัดในเขตเมือง รวมทั้งแนะนำว่าบางพื้นที่มีการทำสะพานกลับรถยกสูง อาจจะไม่เหมาะสม เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านประดิษฐานอยู่ เพื่อจัดทำโครงการฯให้มีความเหมาะสม สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

[Mongwin]

ช่างสำรวจเล่าให้ฟังว่า ในการสำรวจเส้นทางรถไฟเก่าสายหาดใหญ่-สงขลา เพื่อวัดระดับและตำแหน่งต่าง ๆ ในเขตทางรถไฟนั้น ใช้โปรแกรม Orux Maps และเอาแผนที่ของการรถไฟมา overlay ในโทรศัพท์มือถือ และใช้ Google Maps ร่วมด้วย ตัวแผนที่จะบอกว่าโฉนดของรถไฟมีอยู่แค่ไหน

วันนี้ (22 พ.ย. 58) จะแยกทีมสำรวจเป็น 2 ทีม ทีมหนึ่งไปทางโรงแรมกรีนเวิลด์ อีกทีมมุ่งหน้าไปทางแยกสายท่าเรือทะเลสาบ (สะพานเหล็ก)
การสำรวจจะเดินละเอียดทุกจุด เท่าที่จะฝ่าเข้าไปได้ เคยผ่านแถวบางแก้วมาแล้ว น่าจะรวมระยะทางได้ 80 กว่ากิโลแล้ว

สำหรับที่ตั้งของสถานีรถไฟสงขลาแห่งใหม่ (หากไม่ได้ใช้สถานีรถไฟหลังเก่า) คงต้องรอผลการประชุมกลุ่มย่อยต่อไปก่อน ช่างเพียงแต่สำรวจแล้วส่งข้อมูลให้การรถไฟ
ในการสำรวจก็เคยได้พบปะกับผู้นำสลัม 4 ภาคแล้วด้วย
ช่างสำรวจทีมนี้ไม่มีใครเป็นคนในพื้นที่สงขลาเลย เดินสำรวจตามที่ app ชี้ แล้ววัดไปตามที่ได้รับมอบหมาย การทำงานสะดวก ไม่มีปัญหาใด ๆ กับคนในพื้นที่
ชุมชน 4 ภาคที่ช่างได้สัมผัส มีทั้งผู้ที่ทำสัญญาเช่ากับรถไฟ มีทั้งผู้บุกรุกครับ
https://www.facebook.com/songkhlastation/posts/707614196005429

[Mongwin]

4 บิ๊กรับเหมาฯ ผ่านคุณสมบัติชิงรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น เสนอราคา 8 ธ.ค.นี้
ข่าวหุ้น 2015-11-25 09:44:00

นายกมล ตั้งจิตเจริญชัย รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.จะเปิดให้เสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ราคากลาง 2.36 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 8 ธ.ค.58 หลังวานนี้ (25 พ.ย.) ได้ประกาศบริษัทผู้ผ่านคุณสมบัติ 4 รายตามที่ยื่นซองประกวดราคาจ้างก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ,บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

อีกทั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ กิจการร่วม ซีเคซีเอช (บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด

ส่วนเส้นทางที่จะเปิดประกวดราคาเป็นเส้นต่อไป คือ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท คาดจะออก TOR ได้ในเดือนธ.ค. 58 และคาดว่าจะเปิด e-Auction ได้ประมาณปลายเดือนม.ค. 59

สำหรับรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทางที่เหลือ ได้แก่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท, ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท และ ช่วงมาบกะเบา-จิระ วงเงิน 2.98 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม เส้นทางช่วงมาบกะเบา-จิระ ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ก่อนเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)(EIA) สำหรับเส้นทางที่เหลืออีก 3 เส้นทาง นายกมล คาดว่า จะเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ไม่เกินเดือน มิ.ย. 59

----

4 รับเหมาใหญ่ฉลุยชิงดำรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น 2.3 หมื่นล้าน
โดย MGR Online 25 พฤศจิกายน 2558 10:02 น.

ร.ฟ.ท.ประกาศ “ITD-CK-STEC-UNIQ” 4 ผู้รับเหมา ผ่านคุณสมบัติ เข้าชิงดำสัญญาก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น 2.36 หมื่นล้าน เตรียมเปิดแข่งเสนอราคา 8 ธ.ค.นี้

นายกมล ตั้งกิจเจริญชัย รองผู้ว่าการกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน 1 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากการพิจารณาคุณสมบัติและมีสิทธิ์เสนอราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 172 กิโลเมตร วงเงิน 23,622,003,000 บาท ปรากฏว่าผู้ยื่นเอกสารประมูล 4 รายผ่านการพิจารณาทั้งหมด ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD 2. กลุ่มกิจการร่วมค้า CKCH (บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด) 3. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ 4. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนิยริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ซึ่ง ร.ฟ.ท.กำหนดให้มีการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 8 ธ.ค. 2558

ทั้งนี้ มีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาโครงการรวม 9 ราย ประกอบด้วย 1. ITD 2. CK 3. บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด 4. UNIQ 5. บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 6. STEC 7. บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด 8. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด และ 9. บริษัท ทิพากร จำกัด โดยยื่นเอกสาร 4 ราย

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ประกอบด้วย

1. การก่อสร้างทางวิ่งรถไฟในโครงการ เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ตำแหน่งด้านขวาทาง (ด้านตะวันออก) และขนานไปกับทางรถไฟเดิม ระยะทางรวมประมาณ 187 กิโลเมตร ระยะห่างทั่วไปจากทางเดิมประมาณ 6.0 เมตร โครงสร้างทางรถไฟเป็นทางวิ่งระดับพื้นทั้งหมด ยกเว้นช่วงบริเวณสถานีขอนแก่นจะเป็นทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 5.4 กิโลเมตร มีสะพานรถไฟจำนวน 84 สะพาน

2. งานก่อสร้างสถานีรถไฟระดับพื้น 18 สถานี และป้ายหยุดรถไฟ 7 แห่ง และสถานีรถไฟยกระดับ (สถานีขอนแก่น) 1 สถานี

3. งานก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) ซึ่งกำหนดไว้ 3 แห่ง ได้แก่ สถานีบ้านกระโดน สถานีชุมทางบัวใหญ่ และสถานีท่าพระ

4. งานก่อสร้างโยธา และอื่นๆ ของโครงการ เช่น งานระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนเดินข้าม งานรั้วตลอดแนวของโครงการ

5. งานก่อสร้างถนนยกระดับ (Overpass) ถนนยกระดับรูปตัวยู (Elevated Two Way U-Turn) ท่อเหลี่ยม (Box Culvert) หรือยกระดับทางรถไฟ เพื่อแก้ปัญหาจุดตัดระหว่างถนนกับทางรถไฟ

6. งานระบบราง เป็นทางกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge)

7. งานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทางโครงการ

8. งานรื้อย้ายชุมชน และสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการ โดยผู้เสนอราคาต้องดำเนินการรื้อย้าย รวมถึงการเจรจาและจ่ายค่าชดเชย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแต่กรณีชุมชน

[Wisarut]

[Wisarut]

ดูข่าวเรืองโครงการสร้างทางคู่ติดรถไฟฟ้าจาก หาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร มูลค่า 12169 ล้านบาท แล้ว ก็หมายใจว่าจะเปิดการเดินรถได้ ในปี 2564 ตามแผนโดยในปีแรกจะมี รถโดยสารเดินได้ 6 คู่ (12 เที่ยว) และ รถสินค้าเดินได้ 4 คู่ (8 เที่ยว) ในปี 2564 และ รถโดยสาร 16 คู่ (32 เที่ยว) และ รถสินค้า 7 คู่ (14 เที่ยว) ในปี 2594

https://www.facebook.com/Gimyongdotcom/posts/1007202719337670

เดินหน้าลุย! สนข.ประชุมสรุปผลโครงการ “รถไฟฟ้าทางคู่” จากหาดใหญ่สู่ปาดังเบซาร์


โดย MGR Online

26 พฤศจิกายน 2558 12:25 น. (แก้ไขล่าสุด 26 พฤศจิกายน 2558 12:33 น.)


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เดินหน้าประชุมสรุปผลโครงการศึกษาและออกแบบรถไฟฟ้าทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ที่ จ.สงขลา

วันนี้ (26 พ.ย.) ที่โรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสาธิต ธรรมประดิษฐ์ รองผู้ว่าฯ สงขลา พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการ (สัมมนาครั้งที่ 3) โครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รอง ผอ.สนข. กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สนข. กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการโครงการศึกษาและออกแบบทางรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเหมาะสมโครงการ พร้อมศึกษาผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ สังคม การเงิน แนวทางการลงทุนที่เหมาะสม และวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการ และออกแบบรายละเอียด ประมาณการราคา และจัดทำเอกสารประกวดราคาเพื่อการก่อสร้าง เป็นการประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยจัดการประชุมในครั้งนี้ได้มีการนำเสนอภาพรวมการดำเนินการศึกษาโครงการด้านวิศวกรรม ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งศึกษา และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อไป


สำหรับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่เริ่มจากชุมทางหาดใหญ่ ผ่านสถานีคลองแงะ และสิ้นสุดที่จุดหยุดรถที่ชายแดนฝั่งไทย รวมระยะทาง 44.5 กม. ซึ่งจะขยายโครงข่ายจากสถานีด่านปาดังเบซาร์ชายแดนมาเลเซีย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบรถไฟทางคู่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า สายอิโปห์-ปาดังเบซำร์-กัวลาลัมเปอร์-ยะโฮร์บารูห์ ซึ่งจะเชื่อมต่อข้ามไปยังสิงคโปร์ได้

แนวเส้นทาง และรูปแบบที่เหมาะสมเป็นการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ด้วยรางขนาดความกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) เป็นกำรออกแบบปรับปรุงทางวิ่งเดิม และก่อสร้างเพิ่มทางวิ่งให้เป็นทางคู่ ในการศึกษานี้ใช้ความเร็วในการออกแบบ (design speed) ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงต้องมีการปรับแนวเส้นทาง และปรับโค้งเพื่อให้รองรับความเร็วที่กำหนด และมีความปลอดภัยในการเดินรถ เกือบจะตลอดแนวสามารถพัฒนาในเขตทางรถไฟที่มีอยู่ได้ ทำให้มีผลกระทบในการเวนคืนที่ดินน้อย โดยมีเพียงช่วงที่ กม.ที่ 967 ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมราว 22 ไร่

ทั้งนี้ เมื่อพัฒนาเป็นระบบทางคู่แล้ว คาดว่าการเดินรถจะมีความเร็วของขบวนรถโดยสารเฉลี่ย 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขบวนรถสินค้ามีความเร็วเฉลี่ย 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากขบวนรถไม่ต้องรอการสับหลีก ทำให้การเดินรถจากชุมทางหาดใหญ่ ถึงสถานีปาดังเบซาร์ ในระยะทาง 44.5 กม. จะใช้เวลาเพียง 26 นาที จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่มีคุณภาพ รื้อฟื้นบรรยากาศการเดินทางด้วยรถไฟซึ่งเป็นวิถีของภาคใต้ ซึ่งเส้นทางนี้จะรองรับจำนวนผู้โดยสาร 3.5 ล้านคน/ปี และขนส่งสินค้ำ 1.5 ล้านตัน/ปีในอนาคต

โดยการออกแบบครั้งนี้ได้ออกแบบปรับปรุงไม่ให้มีจุดตัดเสมอระดับรวม 33 แห่ง โดยออกแบบทางลอด หรือทางข้ามในรูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้การเดินทางทั้งรถไฟ และรถยนต์ตลอดแนวเส้นทางสัญจรได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งออกแบบปรับปรุงระบบกรระบายน้ำ และควบคุมน้ำท่วมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการขับเคลื่อนขบวนรถไฟจะใช้แรงดันไฟฟ้า 25 kV (AC Voltage) จาก Overhead Catenary System ผ่าน Pantograph ไปยัง Circuit Breaker และ Main Transformer เพื่อจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับให้แก่ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนที่ติดตั้งอยู่บนเพลาล้อของรถ

โดยติดตั้งระบบการจ่ายไฟฟ้าให้แก่ขบวนรถไฟฟ้าตลอดแนวเส้นทางจากเดิมที่การขับเคลื่อนของหัวรถจักรเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานสะอาด ไม่มีมลพิษ และมีส่วนลดสาเหตุการเกิดโลกร้อน โครงการนี้จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจะสร้างโอกาสทางการค้า เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงระหว่างอำเภอหาดใหญ่ กับประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และเชื่อมต่อกับทางคู่ที่มีแผนพัฒนาเป็นโครงข่ายทั่วประเทศ

ซึ่งจะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นการพัฒนาสู่คุณภาพการดำเนินงานของระบบรางของประเทศไทย เพื่อก้าวสู่บทบาทของการเป็นผู้นำ และเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงการเดินทาง และขนส่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไป

[itpcc]

เมืองไทยมีใครฟ้องร้องเรื่องทัศนอุจาดมั้ยครับ? เพราะการทำ Overhead catenary อาจจะทำให้เกิดทัศนอุจาดในบางพื้นที่ได้
//น่าสนใจว่าหลังการสร้างทางรถไฟเสร็จจะเปลี่ยนแปลงเมืองหาดใหญ่และตามเส้นทางไปอย่างไร จะคอยติดตามเรื่อยๆ ครับ

[Wisarut]