Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13265061
ทั้งหมด:13576344
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 121, 122, 123 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44542
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/02/2016 11:39 am    Post subject: Reply with quote

รฟท. เริ่มงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางแรกช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 36 เดือน เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่มความจุและรองรับขบวนรถได้อีก 2 เท่าตัว
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
วันที่ข่าว : 10 กุมภาพันธ์ 2559

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ที่สถานีท่าพระ จังหวัดขอนแก่น สำหรับการก่อสร้างทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เส้นทางแรกของการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งของประเทศว่าด้วยการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมืองหรือการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ จากทั้งหมด 6 เส้นทาง

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างกิจการร่วมค้าซีเคซีเอชเริ่มงานโครงการรถไฟทางคู่ ดำเนินงานรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น ประกอบด้วยการก่อสร้างทางคู่ระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร โดยก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทางขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิมมีสถานีรับ-ส่งผู้โดยสาร 19 สถานี สถานีย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้าตู้สินค้ารวม 3 แห่ง ซึ่งทางรถไฟส่วนใหญ่เป็นทางระดับพื้นยกเว้นช่วงสถานีขอนแก่น เป็นโครงสร้างทางยกระดับระยะทางประมาณ 5.4 กิโลเมตรพร้อมงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทางระยะเวลาในการก่อสร้าง 36 เดือน มูลค่าก่อสร้างประมาณ 26,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถรองรับขบวนรถและเพิ่มความจุของทางรถไฟเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว เพิ่มความรวดเร็วและความตรงต่อเวลาในการเดินทางด้วยขบวนรถไฟ

----

รฟท.เริ่มก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นวันนี้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559, 11:26

รฟท. เริ่มก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วง "จิระ-ขอนแก่น" วันนี้ พร้อมเร่งประมูลสายลพบุรี-ปากน้ำโพ, มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ และประจวบฯ-ชุมพร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่สถานีท่าพระ จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างกิจการร่วมค้าซีเคซีเอช ประกอบด้วยบริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ช. ทวีการก่อสร้าง จำกัด โดยการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-สถานีขอนแก่น ประกอบด้วย การก่อสร้างทางคู่ระยะทาง 187 กิโลเมตร

โดยจะมีการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม มีสถานีรับส่งผู้โดยสารรวม 19 สถานี สถานีย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้ารวม 3 แห่ง พร้อมงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทางรถไฟ โดยการก่อสร้างเวลาประมาณ 36 เดือน เมื่อการก่อสร้างเสร็จจะเป็นการพลิกโฉมของการขนส่งทางรถไฟได้อย่างชัดเจน เนื่องจากจะสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัวมีความปลอดภัยทั้งการเดินรถของผู้โดยสารและขนส่งสินค้า รวมทั้งเดินรถตรงต่อเวลามากขึ้น

สำหรับการประกวดราคาจ้างโครงการก่อสร้างทางคู่เส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นที่ผ่านมา ประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออคชั่น) ผลการประกวดราคากิจการร่วมค้าซีเคซีเอช เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยวงเงิน 23,444 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนด 23,622 ล้านบาท ที่ 177 ล้านบาท หรือต่ำกว่าประมาณร้อยละ 0.75

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า การประมูลโครงการรถไฟทางคู่ของ รฟท.ที่อยู่ในแผนปฏิบัติการลงทุนระยะเร่งด่วนปี 2559 จำนวน 6 เส้นทาง จะสามารถเปิดประมูลเสร็จภายในต้นปี 2559 และเริ่มก่อสร้างปีหน้าทั้งหมด โดยขณะนี้ประมูลเสร็จแล้ว 2 เส้นทาง คือ สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และสายชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ส่วนสายนครปฐม-หัวหิน กำหนดเปิดประมูลเดือนมกราคม 2559 และ 3 สายที่เหลือ สายลพบุรี-ปากน้ำโพ, สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ และสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร เริ่มประมูลต้นปี 2559 เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้แน่นอน

----

คมนาคม วางศิลาฤกษ์ สร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น อย่างเป็นทางการ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 ก.พ. 2559 12:12

คมนาคม เริ่มสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น อย่างเป็นทางการแล้ว เผย อยู่ภายใต้วงเงิน 23,400 ล้าน 187 กม. ใช้เวลาสร้าง 3 ปี ระบุ ช่วยกระจายความเจริญ สร้างความเข้มแข็งต่อ ศก.ในประเทศ ขณะที่ โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 เตรียมจัดประกวดราคาดำเนินการสร้าง...

วันที่ 10 ก.พ. 59 นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ทำพิธีเปิดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ที่สถานีรถไฟท่าพระ จังหวัดขอนแก่น ถือเป็นการเริ่มต้นลงมือก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางนี้อย่างเป็นทางการ โดยพื้นที่ก่อสร้างจะเริ่มจาก 2 สถานี คือ สถานีรถไฟขอนแก่น และสถานีรถไฟหนองบัวลาย จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากมีความพร้อมทั้งวัสดุและแรงงานมากที่สุด

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น อยู่ภายใต้กรอบวงเงิน 23,400 ล้านบาท ระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร รวม 19 สถานีโดยสาร และ 3 สถานีขนถ่ายตู้สินค้า ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี โดยมี บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง ดำเนินการก่อสร้าง

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เป็นการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคทั้งการท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้า ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สามารถสร้างความเข้มแข็งต่อเศรษฐกิจในประเทศได้

นายออมสิน กล่าวด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย นั้น ในสัปดาห์ต่อไปจะจัดให้มีการประกวดราคาเพื่อดำเนินการสร้าง.

----

เริ่มแล้วสร้างรถไฟทางคู่ถนนจิระ-ขอนแก่น คาดปี 61 เปิดใช้งานได้
โดย MGR Online 10 กุมภาพันธ์ 2559 14:20 น. (แก้ไขล่าสุด 10 กุมภาพันธ์ 2559 14:27 น.)

Click on the image for full size
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีเปิดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ถนนจิระ-ขอนแก่น ที่อ.เมืองขอนแก่น

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - รมช.คมนาคม ร่วมผู้ว่าการการรถไฟฯ ทำพิธีเปิดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ที่สถานีท่าพระ วงเงินก่อสร้างกว่า 26,000 ล้านบาท ระยะทาง 187 กิโลเมตร คาดเปิดใช้งานปี 2561 มุ่งกระจายความเจริญด้านท่องเที่ยว-ขนส่ง สู่ภาคอีสานเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

วันนี้ (10 ก.พ. 59) ที่บริเวณสถานีรถไฟท่าพระ ในเขตเทศบาลตำบลท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเช้า หลังจากนั้นนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามเส้นทางก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น พร้อมพิธีเริ่มงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมชนทางถนนจิระ-ขอนแก่น และทำพิธีเปิดป้ายเริ่มงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฯ โดยมีนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รอง ผวจ.ขอนแก่น และหัวหน้าส่วนราชการ จ.ขอนแก่น พ่อค้า นักธุรกิจใน จ.ขอนแก่น เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก

สืบเนื่องจากการก่อสร้างทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ว่าด้วยการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง หรือการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามสัญญาว่าจ้าง กิจการร่วมค้าซีเคซีเอช ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด เพื่อดำเนินงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงจากสถานีชุมทางถนนจิระ-สถานีขอนแก่น

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ถือเป็นโครงการสำคัญโครงการหนึ่งที่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล มุ่งเน้นและส่งเสริมการพัฒนาระบบรางให้มีบทบาทสำคัญต่อภาคการขนส่ง สามารถช่วยพัฒนาศักยภาพการเดินรถ และการขนส่งทางรถไฟ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ทั้งด้านการท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้า ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายการเดินทาง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงในภาคการขนส่ง

การรถไฟฯ จึงมีโครงการที่จะพัฒนาทางคู่อย่างต่อเนื่องเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมพื้นฐานอื่นๆ เน้นการบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้า และบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า การก่อสร้างทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เป็นเส้นทางแรกของการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งของประเทศว่าด้วยการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมืองหรือการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ จากทั้งหมด 6 เส้นทาง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างกิจการร่วมค้าซีเคซีเอช เริ่มงานโครงการรถไฟทางคู่ ดำเนินงานรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น

ประกอบด้วยการก่อสร้างทางคู่ระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร โดยก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทางขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิมมีสถานีรับ-ส่งผู้โดยสาร 19 สถานี สถานีย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้าตู้สินค้ารวม 3 แห่ง ซึ่งทางรถไฟส่วนใหญ่เป็นทางระดับพื้น ยกเว้นช่วงสถานีขอนแก่นเป็นโครงสร้างทางยกระดับระยะทางประมาณ 5.4 กิโลเมตร พร้อมงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทาง ระยะเวลาในการก่อสร้าง 36 เดือน มูลค่าก่อสร้างประมาณ 26,000 ล้านบาท

“การดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ในกรอบวงเงิน 26,007.20 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี เริ่มก่อสร้างกลางปี 2558 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2561 ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ชุมทางจิระ จังหวัดนครราชสีมา-ขอนแก่น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย (2558-2565) ตามแผนงานที่ 1 เกี่ยวกับการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง โดยรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการได้รับความเห็นชอบแล้วจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2557”นายออมสินกล่าว และว่าลักษณะก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม ระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร โดยทางรถไฟส่วนใหญ่อยู่ระดับพื้น ยกเว้นช่วงบริเวณสถานีขนส่งขอนแก่นเป็นทางยกระดับ มีสถานีรับส่งผู้โดยสาร 19 แห่ง สถานีย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้าตู้สินค้า 3 แห่ง โดยยกเลิกจุดตัดทางรถไฟที่เสมอระดับกับถนนทุกแห่ง และก่อสร้างทางต่างระดับในตำแหน่งที่มีความเหมาะสมแทน พร้อมทั้งก่อสร้างรั้วตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ซึ่งเป็นการเพิ่มความจุของทางรถไฟ ตลอดจนความเร็วและความปลอดภัยในการให้บริการรองรับปริมาณผู้โดยสารและสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารประมาณ 27,200-38,800 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 37,000-55,000 คนต่อวันในปี 2577 และคาดการณ์ปริมาณขนส่งสินค้าที่ผ่านเส้นทางประมาณ 10,900-11,300 ตันต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 36,400 ตันต่อวันในปี 2577

โครงการดังกล่าวจะเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางและขนส่งสินค้า รวมทั้งระบบลอจิสติกส์ของประเทศ สามารถรองรับปริมาณความต้องการเดินทางและขนส่งสินค้าทางรถไฟในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งจากถนนไปสู่ราง รวมทั้งการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูง ครม.จึงเห็นชอบให้เร่งดำเนินการก่อสร้าง

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44542
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/02/2016 4:12 pm    Post subject: Reply with quote


https://www.youtube.com/watch?v=DDmr1EVKFxQ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44542
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/02/2016 9:07 pm    Post subject: Reply with quote


https://www.youtube.com/watch?v=f1EfXzrRHg0
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Aesthetics
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 31/07/2015
Posts: 30

PostPosted: 11/02/2016 1:26 am    Post subject: Reply with quote

ผมว่าถึงเวลาตื่นจากฝันได้แล้วะครับสำหรับทางรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ไม่มีใครให้อะไรใครโดยไม่หวังผลประโยชน์อะไร มองแบบไม่เข้าข้างตนเองเกินไปผมเชื่อว่าคนไทยเรามีศักยภาพที่จะต่อยอดให้การพัฒนาระบบรางเป็นไปอย่างยั่งยืนได้ ผมไม่แน่ใจว่าผู้เกี่ยวข้องผู้มีอำนาจตัดสินใจท่านเคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับปรัชญา"เศรษฐกิจพอเพียง"ตามแนวพระราชดำริดีแค่ไหน?ลองดูแผ่นภาพประกอบ
Click on the image for full size
ถ้าพิณากันตาม3ห่วง2เงื่อนไข แค่ความพอประมาณโครงการรถไฟไทยจีนก็ไม่ผ่านแล้วครับ ใครมันจะนั่งรถไฟไปเที่ยวไหนกันบ่อยละครับ ค่ารถมันถูกพอที่จะให้คนนั่งได้มากเที่ยวเหรอครับ ในยุค4Gแบบนี้
ไม่ต้องพูดไปไกลว่ารถจะเป็นแบบไหนครับ แค่ออกข่าวที่ผ่านๆมายังไม่พอประมาณเลย ออกมาเยอะแต่หาได้เห็นรูปธรรมไม่ เสียเวลาสื่อ เสียเวลาสังคมเค้าครับ ความมีเหตุผลอย่างAPRLที่ราคาสูงเวอร์เกินว่าราคาที่สากลโลกเค้าซื้อกัน ทุกอย่างสมัยนี้พอจะหาข้อมูลสอบเทียบกันได้หมดครับ ผมไม่เข้าใจผู้มีอำนาจตัดสินใจเหมือนกันที่จีนเอาดอกเบี้ยสูงก็มีท่าทีขึ้นมา แต่พอจะซื้อแอร์พอร์ตลิ้งค์ 7 ขบวนราคามหาโหดกลับเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ของที่ไม่จำเป็นเช่นรั่วเหล็กดักควายขยันสร้างในหลายพื้นที่ทั้งๆที่อัตราการรถควายหรือวัวแล้วรถไฟตกรางน้อยมากๆแทบจะไม่มีเลย แล้วรั่วดังกล่าวก็ไม่ได้เสริมสมรรถนะให้กับองค์กรแต่ประการใด ดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยครับ แต่ก็มีเหตุผลมี่เราก็พอจะรู้ๆกันอยู่ Rolling Eyes ยิ่งมีภูมิคุ้มกันไม่ต้องพูดถึงครับ แถบจะไม่ได้สร้างหรือต่อยอดอะไรที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับคนรุ่นหลังเลย แทนที่เงินนับล้านๆบาท มันเพียงพอที่จะสร้างบุคคลากร องค์ความรู้ สถาบัน กลุ่มธุรกิจ เพิ่มคุณค่าให้กับสังคม ให้กับเศรษฐกิจของชาติในด้านอื่นเพิ่มเติม อย่าลืมนะครับว่าเราไม่ได้มีชาติไทยไว้แค่ 10-20ปีนี้ ต่อไปรถไฟจังหวัดโน้นนี้ก็ต้องมีครับ แล้วชาติไทยจะซื้อรถไฟจากชาติอื่นไปทั้งชาติเหรอครับ? แค่แท่งเบรคก็มีบริบทในการพัฒนาในตัวของมันอยู่แล้วครับ เพียงต่อยอดต่อ ยังมีมากมายอีกหลายสิ่งที่ให้เราต่อยอดพัฒนาต่อไปได้ อาจจะเป็นการบริหารจัดการ การบริการ การตลาด ฯลฯสร้างทางรถไฟฟ้าแต่จ้างพม่า ลาว กัมพูชา เป็นคนงาน แล้วคนไทยได้อะไรละครับ? ได้นั่งกับรับภาระหนี้สาธารณะต่อหัวเพิ่มขึ้นใช่มั้ยครับ? สรุป 3 ห่วง ไม่ผ่านสักข้อเลยครับ แต่ผมไม่ได้ค้านว่าไม่ให้ทำอะไรเลยครับ เพียงแต่เห็นได้ชัดเลยครับไม่ได้สอดคล้องกับบริบทของสถานการณ์ความเหมาะสมเลย คิดแต่จะกู้จีนให้ได้ดอกเบี้ยถูกๆแต่ต้องปรับลดสเป็ตแล้วให้คนในชาติรุ่นหลังต้องมาอดทนกับความไม่สมบูรณ์ครบครัน มานั่งด่าพ่อล่อเเม่ท่าน ผมว่าเราเสียเวลาปูพื้นฐานให้ดีก่อนดีกว่ามั้ยครับ?
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 11/02/2016 10:17 am    Post subject: Reply with quote

ลุยมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด ติดตั้งระบบ-ซื้อรถสายสีแดงหมุนเงินไตรมาสแรก
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
10 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 21:30:56 น.


คมนาคมเร่งตอกเข็มมอเตอร์เวย์ "พัทยา-มาบตาพุด" รถไฟทางคู่ "จิระ-ขอนแก่น" "แปดริ้ว-แก่งคอย" หมุนเงินไตรมาสแรก ครม.ไฟเขียวสายสีแดง เพิ่มเงิน 1.8 หมื่นล้าน เร่งติดระบบราง ซื้อขบวนรถซัพพลายเออร์ญี่ปุ่น 3.2 หมื่นล้าน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กำลังเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นรูปธรรมเพื่อขับเคลื่อนเม็ดเงินเข้า สู่ระบบเศรษฐกิจครึ่งปีแรกปีนี้ มีมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด 32 กม. ค่าก่อสร้าง 14,200 ล้านบาท เซ็นแล้ว 5 สัญญาเมื่อ 8 ก.พ.อีก 8 สัญญาจะเซ็นในเดือน มี.ค. นอกจากนี้จะเริ่มก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง วงเงินกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท วันที่ 10 ก.พ.มีพิธีเริ่มต้นสายจิระ-ขอนแก่น และ17 ก.พ.เริ่มฉะเชิงเทรา-คลอง 19-แก่งคอย

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 9 ก.พ. อนุมัติปรับวงเงินเพิ่มรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) 26 กม. 18,402 ล้านบาท จาก 75,548 ล้านบาท เป็น 93,950 ล้านบาท หลังจากนี้การรถไฟฯ เร่งรัดเซ็นงานสัญญาที่ 3 ติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลรวมรถไฟฟ้า 32,399 ล้านบาทกับกลุ่ม MHSC (มิตซูบิชิเฮฟวี่-ฮิตาชิ-สุมิโตโม) จากญี่ปุ่น เป็นอีกโครงการที่จะเริ่มนับหนึ่งกลางปีนี้

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ต้องขอวงเงินเพิ่มเติมเนื่องจากปรับแบบก่อสร้างจาก 3 รางเป็น 4 ราง ทำให้งานสัญญา 1-3 ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 8,104 ล้านบาท แยกเป็นสัญญา 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ อาคารซ่อมบำรุงและสถานีจตุจักร มีกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสยู (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) ก่อสร้าง วงเงิน 4,315 ล้านบาท และ 29,826 ล้านบาทสัญญา 2 งานทางวิ่งรถไฟยกระดับและระดับดิน พร้อมอาคารสถานี 6 สถานี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ก่อสร้าง 3,352 ล้านบาท จากเดิม 21,235 ล้านบาท สัญญา 3 วงเงิน 473 ล้านบาท จากเดิม 32,399 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างสายสีแดง ปัจจุบันงานโยธาสัญญาที่ 1 คืบหน้า 40% และสัญญา 2 ก้าวหน้า 57% ส่วนสัญญา 3 หลังเซ็นสัญญาแล้วจะใช้เวลาติดตั้งราง ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสารและจัดหาขบวนรถไฟฟ้าช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต 48 เดือน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44542
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/02/2016 5:57 pm    Post subject: Reply with quote

พิธีเริ่มงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น


https://www.youtube.com/watch?v=Vw8UQ9pH3a8
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44542
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/02/2016 1:00 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่ ช่วงจิระ–ขอนแก่น เริ่มตอกเสาเข็ม
บ้านเมือง วันจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559, 07.54 น.

รถไฟทางคู่ ช่วงจิระ–ขอนแก่น เริ่มตอกเสาเข็มโครงการเรียบร้อยแล้ว

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ถือเป็นภารกิจหลักที่สำคัญตามแผนระบบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยที่เป็นนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้มีการเริ่มต้นโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภายหลังที่นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร บริเวณสถานีท่าพระ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเส้นทางแรกของการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ภายหลังที่บริษัทเอกชนอย่างกิจการร่วมค้าซีเคซีเอช ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด เป็นบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว สำหรับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ถือเป็นเส้นทางแรกที่จะเชื่อมโยงเส้นทางด้านบนและด้านล่างของประเทศเข้าหากัน ทำให้การเดินทางรวดเร็วยิ่งขึ้น ตามแผนใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี

โดยกระทรวงคมนาคมจะผลักดันให้การก่อสร้างรวดเร็วขึ้นกว่าแผนที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการเส้นทางดังกล่าวได้รวดเร็วมากขึ้น โดยระหว่างการก่อสร้างจะให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน 2 ริมทางรถไฟน้อยที่สุดหรือไม่ให้มีการเวนคืนเลย เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน หากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องความรวดเร็ว เนื่องจากไม่ต้องรอสับหลีกขบวนรถ รวมถึงเป็นการแก้ไขปัญหาจุดตัดรถไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย โดยจะสร้างเป็นทางสะพานรถข้ามแทนจุดตัดทางรถไฟ อย่างไรก็ตาม การขนส่งด้วยระบบทางรางมีต้นทุนที่คุ้มค่า

สำหรับเส้นทางช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เป็นเส้นทางแรกของการเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟทางคู่จากนั้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 จะเริ่มเปิดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทางประมาณ 106 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอีกเส้นทางในโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยเส้นทางนี้จะมีแผนก่อสร้างพร้อมการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางรถไฟระยะทาง 9 กิโลเมตร ทั้งนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างยาวนานกว่าช่วงอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเซ็นสัญญาว่าจ้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะสามารถเชื่อมโยงไปเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จซึ่งทั้ง 2 เส้นทางจะเชื่อมโยงกันได้ สำหรับเส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นนั้น นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางทั้งผู้โดยสารและสินค้าแล้ว ยังช่วยแก้ไขปัญหาคอขวดด้านการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

นอกจากนี้สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะดำเนินการในระยะต่อไป ประกอบด้วยเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร และเส้นทางมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร และเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร รวมทั้งสิ้น 6 เส้นทางตามแผนต้องดำเนินการภายในปี 2559 ซึ่งจะมีการก่อสร้างภายในระยะเวลา 3 ปี อย่างไรก็ตามหากการก่อสร้างโครงการทั้ง 6 เส้นทางแล้วเสร็จยิ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งจะสามารถเชื่อมโยงเข้าหากันได้ทั้งหมด

“การก่อสร้างทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ว่าด้วยการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง หรือการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างเพื่อดำเนินงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงจากสถานีชุมทางถนนจิระ-สถานีขอนแก่น ประกอบด้วย การก่อสร้างทางคู่ ระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร โดยก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม มีสถานีรับ-ส่ง ผู้โดยสาร รวม 19 แห่ง สถานีย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้าตู้สินค้ารวม 3 แห่ง โดยทางรถไฟส่วนใหญ่เป็นทางรถไฟระดับพื้น ยกเว้นช่วงบริเวณสถานีขอนแก่นเป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 5.4 กิโลเมตร พร้อมงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 36 เดือน หรือ 3 ปีโดยประมาณ และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถพลิกโฉมหน้าการขนส่งทางรถไฟได้อย่างชัดเจน เพราะจะทำให้มีความจุของทางรถไฟเพิ่ม สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว มีความปลอดภัยในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มความรวดเร็วและความตรงต่อเวลาในการเดินขบวนรถไฟได้อีกด้วย”

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ถือเป็นโครงการที่สำคัญโครงการหนึ่งที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นและส่งเสริมการพัฒนาระบบราง ให้มีบทบาทสำคัญต่อภาคการขนส่ง สามารถช่วยพัฒนาศักยภาพในการเดินรถ และการขนส่งทางรถไฟ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ทั้งด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงในภาคการขนส่ง การรถไฟฯ จึงมีโครงการที่จะพัฒนาทางคู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมพื้นฐานอื่นๆ เน้นการบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้าและบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับมูลค่าก่อสร้างโครงการดังกล่าวตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ในกรอบวงเงิน 26,007.20 ล้านบาท ทั้งนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ชุมทางจิระ จ.นครราชสีมา-ขอนแก่น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย (2558-2565) ตามแผนงานที่ 1 เกี่ยวกับการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง โดยรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการได้รับความเห็นชอบแล้วจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2557 ลักษณะโครงการเป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิมระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร โดยมีการยกเลิกจุดตัดทางรถไฟที่เสมอระดับกับถนนทุกแห่ง และก่อสร้างทางต่างระดับในตำแหน่งที่มีความเหมาะสมแทน พร้อมทั้งก่อสร้างรั้วตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ซึ่งเป็นการเพิ่มความจุของทางรถไฟ ตลอดจนความเร็วและความปลอดภัยในการให้บริการ รองรับปริมาณผู้โดยสารและสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารประมาณ 27,200-38,800 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 37,000-55,000 คนต่อวันในปี 2577 และคาดการณ์ปริมาณขนส่งสินค้าที่ผ่านเส้นทางประมาณ 10,900-11,300 ตันต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 36,400 ตันต่อวันในปี 2577

หากโครงการดังกล่าวจะเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางและขนส่งสินค้า รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ของประเทศ สามารถรองรับปริมาณความต้องการเดินทางและขนส่งสินค้าทางรถไฟในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งจากถนนไปสู่ราง รวมทั้งการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีผลตอบทางทางเศรษฐกิจสูง ครม.จึงเห็นชอบให้เร่งดำเนินการก่อสร้าง

-----

ต่อคิวประมูลทางคู่
โพสต์ทูเดย์ 15 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 09:13 น.

รถไฟทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ต่อคิวเข้า ครม.ทันในเดือน ก.พ.นี้ คาดประมูล มี.ค.-เม.ย.

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติเห็นชอบรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม.

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า จะเสนอโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางมาบกะเบา-จิระ วงเงิน 29,853 ล้านบาท ให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาทันภายในเดือน ก.พ.นี้ จากที่ก่อนหน้านี้ที่กระทรวงได้เสนอโครงการไปให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ด สศช.) พิจารณาแล้ว

ทั้งนี้ คาดว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเริ่มประมูลคัดเลือกหาผู้รับเหมาโครงการรถไฟทางคู่เส้นดังกล่าวได้ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2559

สำหรับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางมาบกะบา-ชุมทางถนนจิระ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 มาบกะเบา-ปางอโศก ระยะทาง 32 กม. เริ่มต้นบริเวณสถานีมาบกะเบา จ.สระบุรี โดยมีโครงสร้างทางรถไฟยกระดับช่วงประมาณ 4.8 กม. และมีอุโมงค์รถไฟ 2 ช่วง ระยะทาง 6 กม.

ช่วงที่ 2 จากปางอโศก-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 101 กม. เริ่มต้นที่สถานีปางอโศก ก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับแนวทางรถไฟเดิม สิ้นสุดที่สถานีชุมทางถนนจิระ จ.นครราชสีมา และมีอุโมงค์หลังสถานีคลองขนานจิตร

นายออมสิน กล่าวว่า ทางรถไฟเส้นนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรถไฟและลดระยะเวลาเดินทาง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 16/02/2016 10:05 am    Post subject: Reply with quote

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 (พรุ่งนี้) จะมีพิธีเปิดการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย ณ สถานีรถไฟองครักษ์ จ.นครนายก
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/1268292193184843


Last edited by Wisarut on 24/09/2022 9:33 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44542
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/02/2016 10:42 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เริ่มตอกเสาเข็มรถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย คาดแล้วเสร็จปี 62
RYT9 -- พุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 10:19:42 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้จัดพิธีเปิดการดำเนินงานในโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และพิธีทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปฎิบัติงาน ณ สถานนีรถไฟองครักษ์ อ. องครักษ์ จ.นครนายก หลังจากนั้นเป็นพิธีเปิดการดำเนินงานในโครงการก่อสร้างฯ โดยนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม มาเป็นประธานในพิธี

โครงการก่อสร้างทางคู่ เป็นโครงการที่จะสนับสนุนการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งผู้โดยสาร และสินค้าตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเร็ว ลดระยะเวลาการเดินทาง ทำให้รถไฟมีความตรงต่อเวลา และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ใน ภาคการขนส่งของประเทศ ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งทางรถไฟให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าทางถนน สู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า

โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่จำนวน 1 ทาง คู่ขนานไปกับทางเดิม เริ่มจากสถานีฉะเชิงเทราไปตามทางรถไฟสายตะวันออกเดิม (สายอรัญประเทศ) ผ่านสถานีบางน้ำเปรี้ยวถึงสถานีคลองสิบเก้า แยกขนานไปกับทางรถไฟสายคลองสิบเก้า – แก่งคอย ผ่านสถานีองครักษ์ วิหารแดง บุใหญ่ สุดปลายทางที่สถานี แก่งคอย ซึ่งผ่านพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่อำเภอองครักษ์ และอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และพื้นที่อำเภอวิหารแดง อำเภอเมือง และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ใช้ระยะเวลาการดำเนินงาน 36 เดือน (เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2562) โดยแบ่งออกเป็น 2 สัญญา ดังนี้

สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่- แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง (ฉะเชิงเทรา บ้านภาชี และแก่งคอย) ระยะทางรวมประมาณ 106 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 9,825.81 ล้านบาท บริษัทคู่สัญญาก่อสร้าง คือ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)

สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ ระยะทางรวมประมาณ 9 กิโลเมตร และอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย 1.2 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 407.04 ล้านบาท บริษัทคู่สัญญาก่อสร้าง คือ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด

โครงการก่อสร้างทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย สอดคล้องกับแนวทางการลงทุนในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 10 ในด้านการลดต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ รองรับการขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกและท่าเรือแหลมฉบังกับพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น น้ำมัน ก๊าซ LPG ปูนซีเมนต์ สินค้าบรรจุคอนเทนเนอร์ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญในการช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและบริการระหว่างจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการ ขนส่ง (Modal Shift) ไปสู่ระบบรางและสนับสนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการกระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มความจุสูงสุดของทางในระบบทำให้ขนส่งสินค้าได้มากขึ้น ในขณะที่ค่าขนส่งลดต่ำลง เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ทำให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สามารถเชื่อมโยงโครงข่ายการบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้า และบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

----

[url=]ออมสินเปิดงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา[/url]
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 11:34 น.

Click on the image for full size

รมช.คมนาคม ก่อสร้างรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เล็งเสนอ ครม. พิจารณาอีก 3 เส้นทาง คาดประกวดราคาครบทุกเส้นทางภายในปีนี้

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดเริ่มต้นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ว่า กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งถือเป็นโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการ ขณะที่อีก 3 เส้นทาง คือ เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร และเส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร คาดว่าจะสามารถประกวดราคาได้ทุกเส้นทางภายในปีนี้ โดย การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. จะต้องเร่งเดินหน้างานตามแผนงานที่กำหนด

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ร.ฟ.ท. ได้เริ่มต้นโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร งบประมาณ 9,825.81 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลาดำเนินงาน 36 เดือน แล้วเสร็จกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งได้มีการแบ่งงานเป็น 2 สัญญา ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งผู้โดยสาร และสินค้าตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเร็ว ลดระยะเวลาการเดินทาง ทำให้รถไฟมีความตรงต่อเวลา และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่งของประเทศ ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม จูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งทางรถไฟให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าทางถนน สู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44542
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/02/2016 12:33 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมชง ครม.อนุมัติรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทาง
สำนักข่าวไทย กอง บก.ข่าวเศรษฐกิจ 2016/02/17 11:32 AM

นครนายก 17 ก.พ. – กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทางปลายเดือนนี้ ล่าสุดวันนี้เปิดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา -คลอง 19 –แก่งคอย

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานการดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา -คลอง 19 -แก่งคอย ระบุว่าปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทาง ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ 148 กิโลเมตร ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ 131 กิโลเมตร ช่วงนครปฐม – หัวหิน 170 กิโลเมตร และช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร 167 กิโลเมตร ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไปตามโรดแมพที่กระทรวงคมนาคมตั้งไว้ตามนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ต้องการผลักดันให้มีการพัฒนาระบบรางโดยเฉพาะรถไฟทางคู่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่เส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลอง 19- แก่งคอย เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทาง คู่ขนานไปกับทางเดิม เริ่มจากสถานีฉะเชิงเทราไปตามทางรถไฟสายตะวันออกเดิม (สายอรัญประเทศ) ผ่านสถานีบางน้ำเปรี้ยวถึงสถานีคลอง 19 แยกขนานไปกับทางรถไฟสายคลอง 19 – แก่งคอย ผ่านสถานีองครักษ์ วิหารแดง บุใหญ่ สุดปลายทางสถานีแก่งคอย ซึ่งผ่านพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่อำเภอองครักษ์ และอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และพื้นที่อำเภอวิหารแดง อำเภอเมือง และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ใช้ระยะเวลาดำเนินงาน 36 เดือน

ส่วนงานก่อสร้างทั้ง 2 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง (ฉะเชิงเทรา บ้านภาชี และแก่งคอย) ระยะทางรวมประมาณ 106 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 9,825.81 ล้านบาท บริษัทคู่สัญญาก่อสร้าง คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ ระยะทางรวมประมาณ 9 กิโลเมตร และอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย 1.2 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 407.04 ล้านบาทบริษัทคู่สัญญาก่อสร้าง คือ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา – คลอง 19 – แก่งคอย สอดคล้องกับแนวทางการลงทุนในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 10 ลดต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ รองรับการขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกและท่าเรือแหลมฉบังกับพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น น้ำมัน ก๊าซ LPG ปูนซีเมนต์ สินค้าบรรจุคอนเทนเนอร์ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและบริการระหว่างจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) ไปสู่ระบบรางและสนับสนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการกระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มความจุสูงสุดของทางในระบบทำให้ขนส่งสินค้าได้มากขึ้น ขณะที่ค่าขนส่งลดต่ำลงเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายการบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้าและบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 121, 122, 123 ... 389, 390, 391  Next
Page 122 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©