View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/06/2016 8:06 am Post subject: |
|
|
ทางคู่ มาบกะเบา-จิระ ผ่านบอร์ด สศช.แล้ว เร่งแจงแบ่งสร้างแอร์พอร์ตลิงก์พญาไท-บางซื่อก่อน
โดย MGR Online 6 มิถุนายน 2559 05:36 น. (แก้ไขล่าสุด 6 มิถุนายน 2559 07:43 น.)
บอร์ดสภาพัฒน์ฯ ไฟเขียวรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-จิระ วงเงินกว่า 2.9 หมื่นล้าน คาดชง ครม.อนุมัติใน มิ.ย. พร้อมเปิดประมูล ปลัดคมนาคม จี้ ร.ฟ.ท.เร่งแจงข้อมูลสภาพัฒน์ฯ ขอตัดตอนก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงก์ต่อขยายพญาไท-บางซื่อก่อน ด้านบอร์ด สผ.อนุมัติ EIA ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนองแล้ว กทพ.เร่งออกแบบ เปิดประมูลต้นปี 60
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดสภาพัฒน์ฯ) เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงินลงทุน 29,667.66 ล้านบาทแล้ว โดยคาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้ จากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สามารถเปิดประกวดราคาก่อสร้างได้ทันที โดยเส้นทางนี้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) ได้เห็นชอบรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว
ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ที่เตรียมเสนอบอร์ดสภาพัฒน์ฯ พิจารณาเป็นลำดับต่อไป คือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงินลงทุน 24,940.96 ล้านบาท
นายชาติชายกล่าวว่า การลงทุนโครงการตามแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2559-2560 ขณะนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย โดยจะเร่งรัด ร.ฟ.ท.ให้สรุปแผนงานโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ส่วนต่อขยาย ดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 21.8 กิโลเมตร วงเงิน 31,139.35 ล้านบาท เพื่อชี้แจงต่อสภาพัฒน์ฯ หลังจากก่อนหน้านี้ทางบอร์ดสภาพัฒน์ฯ ยังไม่เห็นชอบกรณีที่จะก่อสร้างช่วงพญาไท-บางซื่อก่อน ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะต้องทำข้อมูลชี้แจงเพิ่มเติมถึงความจำเป็นในการก่อสร้างช่วงพญาไท-บางซื่อก่อนเพื่อให้สอดคล้องกับการก่อสร้างรถไฟสายสีแดง Missing Link ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดง บางซื่อ-หัวลำโพง วงเงิน 44,157 ล้านบาท ที่จะต้องใช้พื้นที่โครงสร้างเดียวกัน ซึ่งเป็นรูปแบบคลองแห้ง จำเป็นต้องก่อสร้างไปพร้อมกัน ขณะที่ช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองนั้นยังติดปัญหาเรื่องพื้นที่เขตทางที่อาจจำเป็นต้องมีการใช้ทางร่วม (Share Track) กับรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน, ไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ
ทางสภาพัฒน์ฯ ให้ ร.ฟ.ท.ศึกษาภาพรวมทั้งโครงการ เพราะเป้าหมายของแอร์พอร์ตลิงก์ต่อขยายเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิกับดอนเมือง ตลอดจนดูความสัมพันธ์ของจำนวนผู้โดยสาร เศรษฐกิจระยะยาว รวมถึงรูปแบบการลงทุนและบริหารจัดการยังไม่ชัดเจน ต้องทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงสภาพัฒน์ฯ ให้เข้าใจประเด็นความจำเป็นและข้อจำกัดที่ต้องแบ่งการก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงก์ช่วงพญาไท-บางซื่อก่อน เพราะถ้ารอก่อสร้างทีเดียวถึงดอนเมืองอาจจะกระทบต่อการก่อสร้างสายสีแดง Missing Link ที่จะล่าช้าไปด้วย แต่จะเสนอขออนุมัติทั้งโครงการจากพญาไท-ดอนเมือง นายชาติชายกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 2/2559 ได้เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทางรวม 16.9 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 2.8 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อยู่ระหว่างออกแบบก่อสร้างจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ต้นปี 2560 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี โดยระหว่างนี้ทาง กทพ.จะต้องเสนอแผนการลงทุนก่อสร้างว่าจะใช้เงินกู้ หรือจะตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเข้ามาเพื่อเสนอตามขั้นตอนต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 06/06/2016 9:51 am Post subject: |
|
|
ออ ฐานเศรษฐกิจฉบับวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2559 มีพูดถึง ทางคู่ มาบกะเบา-จิระ ที่ต้องเจาะอุโมงค์ และ สร้างทางลอยฟ้า ผ่านดงพระยาเย็น และ เขือนลำตะคอง ด้วยครับ
รถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ลงทุนเฉียด3หมื่นล้านเชื่อมโลจิสติกส์อีสาน
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,163 วันที่ 5 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559
รถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ลงทุนเฉียด3หมื่นล้านเชื่อมโลจิสติกส์อีสาน
โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ นี้จัดเป็นอีกหนึ่งเส้นทางตามแผนเร่งรัดรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน เน้นเพื่อการขนส่งและจัดการโลจิสติกส์ โดยได้คาดการณ์ปริมาณการขนส่งทางรถไฟทั้งผู้โดยสารและสินค้าในปีที่เปิดให้บริการโดยมีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 41,390 เที่ยวต่อวันและปริมาณสินค้า 15,720 ตันต่อวัน
ล่าสุดได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ(บอร์ด)สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา โดยโครงการนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) หลังจากนี้ร.ฟ.ท.จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้ดำเนินโครงการ จากนั้นจะนำรายละเอียดไปกำหนดราคากลางและจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)เสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)ร.ฟ.ท.อนุมัติให้เปิดการประกวดราคาโครงการดังกล่าวเพื่อหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการต่อไป คาดว่าจะประกาศขายซองประกวดราคาได้ในเดือนกรกฎาคม 2559 และเมื่อได้ตัวผู้รับจ้างจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี (ประมาณปี 2562)
โครงการนี้เริ่มดำเนินการขอพระราชกฤษฎีกาเวนคืนมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2558 คาดว่าจะได้รับการพิจารณาเดือนกันยายน 2559 สำรวจและประเมินราคาตั้งแต่ตุลาคมนี้ไปจนถึงเดือนมีนาคมปี 2560 และจะเริ่มเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 รวมงบประมาณทั้งสิ้น 29,667 ล้านบาท รวมระยะทางทั้งสิ้น 131 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงมาบกะเบา-ปางอโศก ระยะทาง 32 กิโลเมตร และช่วงปางอโศก-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 101 กิโลเมตร จำนวนทั้งสิ้น 20 สถานี กรณีวิเคราะห์โครงการระยะ 30 ปีมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ(EIRR) 23.97%
สำหรับรูปแบบการลงทุนจะมีความเหมาะสมนั้นก็คงต้องให้ครม.พิจารณาเห็นชอบ โดยทั้ง 4 รูปแบบที่ร.ฟ.ท.เตรียมนำเสนอ คือ รูปแบบที่ 1 ร.ฟ.ท.ลงทุนเองทั้งหมด ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน งานเครื่องกล และระบบไฟฟ้า ขบวนรถและหัวรถจักร รวมทั้งการบริหารจัดการโครงการ และให้บริการ รูปแบบที่ 2 คือภาครัฐออกเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด รวมทั้งงานเครื่องกลและระบบไฟฟ้า ส่วนร.ฟ.ท.ลงทุนขบวนรถและหัวรถจักร รวมทั้งผู้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ การกำหนดอัตราค่าโดยสารและจัดเก็บรายได้ทั้งหมด
รูปแบบที่ 3 ภาครัฐออกเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดรวมทั้งงานเครื่องกลและระบบไฟฟ้า ส่วนร.ฟ.ท.ทำหน้าที่บำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเปิดให้เอกชนลงทุนในส่วนขบวนรถและมีหน้าที่บำรุงรักษาขบวนรถ รวมทั้งเป็นผู้ดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ โดยร.ฟ.ท.จ่ายค่าจ้างและค่าเช่าให้เอกชน ร.ฟ.ท.ทำหน้าที่กำหนดอัตราค่าโดยสารและเก็บรายได้ทั้งหมด และรูปแบบที่ 4 รัฐบาลออกเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด รวมทั้งงานเครื่องกลและระบบไฟฟ้า ส่วนร.ฟ.ท.ทำหน้าที่บำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเปิดโอกาสให้เอกชนลงทุนในส่วนของขบวนรถและทำหน้าที่บำรุงรักษาขบวนรถ รวมทั้งเป็นผู้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการและเก็บรายได้จากค่าโดยสารและค่าขนส่งสินค้าในอัตราที่ร.ฟ.ท.กำหนด ทั้งนี้ยกเว้นเอกชนจะจ่ายค่าสัมปทานการใช้รางและค่าบริหารจัดการตารางเดินรถให้แก่ ร.ฟ.ท. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 07/06/2016 12:20 pm Post subject: |
|
|
พลิกปูม 1 ใน 5 บ.ร่วม ที่ปรึกษา รถไฟรางคู่ ฟัน 542 ล.-เคยอยู่กลุ่ม คู่แข่ง บ.ทีมฯ
เขียนโดยisranews
หมวดหมู่จัดซื้อจัดจ้าง | รายงาน-สกู๊ป | เรื่องเด่น -
สำนักข่าวอิศรา
เขียนวันที่ วันอาทิตย์ ที่ 05 มิถุนายน 2559 เวลา 21:00 น.
พลิกปูม ปัญญา คอนซัลแตนท์ 1 ใน 5 บ.ร่วม ที่ปรึกษา โครงการศึกษารถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่ 117.6 ล.พบปี 44-58 คว้า 5 หน่วยงาน ก.คมนาคม 542 ล.เคยอยู่กลุ่มเดียวเอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง ฯคู่แข่ง บ.ทีม ฯ ในกรมทางหลวง
เปิดขุมทรัพย์ จ้างที่ปรึกษา ใน ก.คมนาคม 2 กลุ่มใหญ่รวบ 146 โครงการ 6.3 พันล.
เขียนโดยisranews
หมวดหมู่จัดซื้อจัดจ้าง | รายงาน-สกู๊ป | เรื่องเด่น -
สำนักข่าวอิศรา
เขียนวันที่ วันศุกร์ ที่ 03 มิถุนายน 2559 เวลา 21:00 น.
ชำแหละเม็ดเงินค่า จ้างที่ปรึกษา ใน ก.คมนาคม 2 กลุ่มใหญ่ ทีมคอนซัลติ้ง ฯ-เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง ฯกวาด 146 โครงการ 6.3 พันล. ช่วงปี 44-58 ก่อนเกิดกรณีร้องศึกษารถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่ 117.6 ล. สนข. พบ 4 หน่วยงาน อื้อซ่า |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/06/2016 10:33 am Post subject: |
|
|
คาดรถไฟทางคู่ 'มาบกะเบา-จิระ' เข้าครม.ในเดือนนี้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 08 มิถุนายน 2559, 07:30
"รมว.คมนาคม" เตรียมเสนอโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-จิระ เข้า ครม.ภายในเดือนนี้ ส่วนอีก 3 เส้นทาง คาดเข้าครม.ช่วงปลายเดือน ก.ค.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าจะเสนอโครงการรถไฟ ทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-จิระ ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาได้ในเดือนมิ.ย. นี้ และคาดว่า จะเริ่มต้นก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้จะเสนอโครงการรถไฟทาง คู่อีก 3 เส้นทาง เข้าครม.ในปลายเดือนก.ค.นี้
ขณะที่จะเร่งโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้น ทางกรุงเทพฯ-หัวหิน เข้าครม.ให้ ทันในไตรมาส 3/59 ส่วนโครงการรถไฟไทย-จีน จะมีการประชุมร่วมกันครั้ง ต่อไปใน กลางเดือนนี้ และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในก.ย.59
"แผนปี 59 เรามี 20 โครงการ ตอนนี้ขออนุมัติ ครม.ได้ 11 โครงการ ถ้าทางคู่มาบกะเบา-จิระ เข้าครม.เดือนนี้ ก็จะ เป็น 12 โครงการ โครงการ ที่เหลือก็จะเร่งผลักดันตั้งแต่ไตรมาสสามเป็นต้นไป" นายอาคม กล่าว
สำหรับในเดือนก.ค.จะเสนอเข้าครม. รวม 6 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสาย สีแดงอ่อนและสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัว ลำโพง วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท และเส้นทางแอร์พอร์ตลิงก์ พญาไท- บางซื่อ-ดอนเมือง มูลค่า 3.1 หมื่น ล้านบาท หากผ่านครม.คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปลายปี59
โครงการรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำ โพ วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท,ช่วงนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาทและช่วงหัวหิน -ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท หากผ่านครม.คาดว่า จะเปิดประมูลได้ภายในปลาย ปี 59
นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะเสนอครม.ให้ทัน ไตรมาส 3/59 ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอคณะ กรรมการนโยบายการให้ เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) รวมทั้งยังมีเส้นทางกรุงเทพฯ -ระยอง และเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่จะพยายามเสนอครม.ในไตรมาส 3 ด้วย
ด้านโครงการรถไฟไทย-จีน จะมีการประชุมร่วมกัน ครั้งต่อไปในกลาง เดือนนี้ และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในก.ย.59 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 08/06/2016 7:34 pm Post subject: |
|
|
รฟท.มั่นใจเปิดประมูลรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทางทันภายในปี 59 ส่วน 2 เส้นแรกคาดแล้วเสร็จปี 61-62
ข่าวหุ้น-การเงิน
โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
พุธที่ 8 มิถุนายน 2559 15:39:12 น.
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ตามนโยบายรัฐบาล และยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย และมั่นใจว่ารถไฟทางรู่อีก 5 เส้นทางที่เหลือจะเปิดประมูลได้ทันภายในปี 59 โดยล่าสุด 2 เส้นทาง ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ลงมือก่อสร้างก้าวหน้าไปแล้ว 0.75-1.42% คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปี 61-62
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ รฟท.เปิดเผยว่า โครงการรถไฟทางคู่ที่เหลือตามแผนงานอีก 5 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร รถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. และรถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. คาดจะทยอยเปิดประกวดราคาได้ภายในปี 59 ทั้งหมด เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 8 ปีที่กำหนดไว้
รฟท.ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางได้มีการดำเนินงานสนองต่อนโยบายของรัฐบาล โดยที่ผ่านมาได้มีการลงนามสัญญาจ้างผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สำเร็จแล้ว 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
ทั้งนี้ ปัจจุบันทั้ง 2 เส้นทาง ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วตามแผนตั้งแต่เดือน ก.พ. 59 ที่ผ่านมา และมีความก้าวหน้าไปตามลำดับ ดังนี้เส้นทางแรก รถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอยสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย ระยะทาง 97 กม. และทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines)3 แห่ง ระยะทาง 7.1 กม.ขณะนี้มีความก้าวหน้าไปแล้ว 0.75%และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จได้เดือนก.พ. 61
ส่วนงานสัญญา 2 งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ ระยะทาง 9 กม. พร้อมอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทาง 1.2 กม.มีความก้าวหน้าไป 0.80%และก่อสร้างเสร็จเดือน เม.ย. 61
ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กม.มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างไปแล้ว 1.42%และก่อสร้างเสร็จเดือน ก.พ. 62
จากการที่นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยให้เกิดการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางรางได้ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการสร้างรถไฟทางคู่จะช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งของการเดินรถและลดระยะเวลาสับหลีกขบวนอันเป็นอุปสรรคให้การขนส่งทางรถไฟล่าช้า รวมถึงยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งต่อหน่วยให้ถูกลงจากปัจจุบันไทยมีต้นทุนโลจิสติกส์ต่อจีดีพีสัดส่วนร้อยละ 14.2 ตลอดจนช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้ในระยะยาว"ผู้ว่า รฟท. กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 08/06/2016 7:44 pm Post subject: |
|
|
"บีทีเอส" จ่อทำธุรกิจขนส่งสินค้าทางรถไฟ เน้นบ้านไผ่-นครพนม และ ขอนแก่น-แหลมฉบัง
ขอขอบคุณภาพและข่าว ฐานเศรษฐกิจ
5-8 มิถุนายน 2559
เปิดแผนชิงรถไฟขนสินค้า บิ๊กBTSส่งอดีตรองผู้ว่าการร.ฟ.ท.ตามผลศึกษาเส้นทาง
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 10 มิถุนายน 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,164 วันที่ 9 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559
บีทีเอสเปิดยุทธศาสตร์ใหม่ แตกไลน์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางรถไฟ ดึงอดีตรองผู้ว่า ร.ฟ.ท.เสริมทัพ เกาะติดโครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้น สายบ้านไผ่-นครพนม และขอนแก่น-แหลมฉบัง โดยเตรียมแผนระดมทุน 4-5 แนวทาง ด้านผู้ว่าการรถไฟฯเผยรายได้จากค่าระวางขนส่งสินค้าและผู้โดยสารรอบ 6 เดือนทะลุกว่า 1.4 พันล้านบาท
ดร.อาณัติ อาภาภิรม กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจว่า บริษัทมีความสนใจลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยเฉพาะเส้นทางนครพนม-มุกดาหาร-ร้อยเอ็ด-บ้านไผ่ และเส้นทางขอนแก่น-แหลมฉบัง ซึ่งสามารถเชื่อมโยงเส้นทางกัน เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าเป็นหลัก เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวนี้รัฐบาลมีแผนเชื่อมโยงกับท่าเรือแหลมฉบังเข้ากับเมืองที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมรูปแบบเขตเศรษฐกิจพิเศษและประตูการค้าชายแดน
ทั้งนี้ บีทีเอสได้มอบหมายให้นายประจักษ์ มโนธรรม อดีตรองผู้ว่า ร.ฟ.ท.ในฐานะที่ปรึกษานายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) ทำหน้าที่ติดตามผลการศึกษาโครงการตามแผนพัฒนารถไฟและรถไฟฟ้าของร.ฟ.ท.
การลงทุนในโครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางนี้ บริษัทเล็งเห็นว่ามีความน่าสนใจสำหรับการแตกไลน์ธุรกิจไปสู่การให้บริการขนส่งสินค้านอกเหนือจากที่ให้บริการผู้โดยสารในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการวันละกว่า 6 แสนเที่ยวคน
ดร.อาณัติ กล่าวอีกว่า บีทีเอสมีเครื่องมือหรือรูปแบบการลงทุนหลากหลายให้เลือกใช้ ปัจจุบันใช้เงินไปแล้วราว 6 หมื่นล้านบาทในการตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบีทีเอสโกร์ท นอกจากนั้นยังมีสิทธิ์ที่จะใช้ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญ(วอแรนท์)ซึ่งสามารถใช้ได้ทันที อีกทั้งยังสามารถออกหุ้นกู้ได้อีกแนวทางหนึ่งซึ่งแล้วแต่ว่าจะต้องการจำนวนมากน้อยแค่ไหน เท่านั้นยังไม่พอสามารถจะเพิ่มทุนได้อีกด้วย และแนวทางสุดท้ายคือการกู้เงินจากสถาบันการเงินไปใช้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ แต่เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยแพงบีทีเอสจึงขอใช้เป็นแนวทางสุดท้ายมากกว่า
ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าร.ฟ.ท.กล่าวว่า ปัจจุบันเส้นทางบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม อยู่ระหว่างยื่นขอพระราชกฤษฎีกาเวนคืนรวม 929 หลังคาเรือน ใช้งบจำนวน 4,529 ล้านบาท จัดเป็นรถไฟสายใหม่ที่แยกจากสถานีบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มีระยะทาง 354 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 6 หมื่นล้านบาท เตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้เปิดประมูลหาตัวผู้รับจ้างได้ภายในปลายปีนี้และเริ่มก่อสร้างในปี 2560
เส้นทางนี้จุดเด่นคือแนวเส้นทางสามารถเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษและประตูการค้าชายแดนด้านสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม อีกทั้งแนวเส้นทางยังเชื่อมโยงกับเส้นทางจากแม่สอด-ตาก-กำแพงเพชร- นครสวรรค์ที่จะเป็นแนวเส้นทางเชื่อมฝั่งตะวันตกของไทย นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมกับเส้นทางขอนแก่น-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทางกว่า 500 กม. คาดใช้งบไม่น้อยก่อสร้างกว่า 5 หมื่นล้านบาทโดยจะเน้นเพื่อการขนส่งสินค้าตั้งเป้าขนได้กว่า 3.8 ล้านตัน/ปี
สำหรับช่วงระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา(ตุลาคม 2558-มีนาคม 2559)ร.ฟ.ท.มีปริมาณผู้โดยสาร(ในระบบเชิงพาณิชย์) จำนวน 5.2 ล้านคน และเชิงสังคมจำนวน 12.3 ล้านคน มีรายได้จากการโดยสารเชิงพาณิชย์ 596 ล้านบาท รายได้จากการขนส่งสินค้าและอื่นๆจำนวน 907 ล้านบาท มีปริมาณการขนส่งสินค้าแบบเหมาคัน อาทิ แอลพีจี แก๊ส น้ำมันดิบ ปูนซีเมนต์ถุง-ผง น้ำตาลและสินค้าอื่นๆรวมกว่า 6 ล้านตัน และมีรายได้จากค่าระวางกว่า 853 ล้านบาท รวมมีรายได้จากค่าระวางและค่าโดยสาร 1,4449 ล้านบาท
Last edited by Wisarut on 10/06/2016 10:58 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 20/06/2016 3:01 pm Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.ฟังความเห็นโครงการรถไฟทางคู่สุราษฎร์ฯ-หาดใหญ่-สงขลา
โดย MGR Online
20 มิถุนายน 2559 13:58 น.
นายศุภวัชร ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดและพบปะผู้เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 โครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาและผู้เกี่ยวข้องจัดขึ้น ณ โรงแรมแก้วสมุย เพื่อนำเสนอแนวเส้นทางโครงการ ที่ตั้งสถานี ลักษณะ และรูปแบบแนวเส้นทาง ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการศึกษาของโครงการเพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด รวมทั้งเพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการรับรู้และระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ตลอดจนข้อห่วงกังวลต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงการ ที่สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่
ทั้งนี้ แนวเส้นทางช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา มีระยะทางประมาณ 321 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และจังหวัดสงขลา การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่ ระยะทาง 292 กิโลเมตร มีทั้งสิ้น 58 สถานี และช่วงชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 29 กิโลเมตร มีทั้งสิ้น 7 สถานี โดยการดำเนินโครงการขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดโครงการโดยกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งหากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นการส่งเสริมการลงทุนในโครงข่ายที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการบริการขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญในภาคใต้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 20/06/2016 6:36 pm Post subject: |
|
|
ชงอนุมัติรถไฟทางคู่เฉียด 3 หมื่นล้าน
โพสต์ทูเดย์ 20 มิ.ย. 59 07:46 น.
คมนาคมชง ครม.อังคารนี้พิจารณาลงทุนรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 2.98 หมื่นล้าน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 มิ.ย.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 131 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.98 หมื่นล้านบาท ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเปิดประมูลคัดเลือกผู้รับเหมาและจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี หรือแล้วเสร็จในปี 2562
ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงมาบกะเบา-ปางอโศก 32 กิโลเมตร และช่วงปางอโศก-ชุมทางถนนจิระ 101 กิโลเมตร |
|
Back to top |
|
|
|