RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13262269
ทั้งหมด:13573549
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 138, 139, 140 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/07/2016 11:32 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่… สู่คุณภาพชีวิตของชาวล้านนา
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 23 July 2559507

กระทรวงคมนาคม ได้จัดทำแผนการดำเนินงานโครงการการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ปี 2558 โดยมีเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ รวมอยู่ในแผนดำเนินการระยะที่ 2 (พ.ศ.2559-2563) ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 รับทราบแผนการดำเนินงานดังกล่าว เป็นผลให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2558 ให้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ดังกล่าว

Click on the image for full size
แผนผังเส้นทางไรไฟ เด่นชัย เชียงใหม่

โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ นอกจากเป็นแผนงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ปี 2558-2565 และแผนการดำเนินงานโครงการการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ปี 2558 แล้วยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันซึ่งได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ไว้เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ในนโยบายข้อที่ 6 การเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ข้อ 6.12 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและคมนาคม และนโยบายข้อที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน ที่มุ่งเน้นการต่อเชื่อมเส้นทางคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์จากฐานการผลิตในชุมชนสู่แหล่งแปรรูป และประตูการค้าหลักของประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจแก่พื้นที่ต่างๆ ในประเทศและรองรับปริมาณการเดินทางและการขนส่งที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย

ในการดำเนินงาน สนข.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดระบบรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่โดยมีจุดมุ่งหมายว่าระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งสินค้า การเดินทาง เพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศตามแหล่งสถานที่ที่สำคัญในเขตภาคเหนือ เพิ่มความจุทาง ลดระยะเวลา และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่งของประเทศ ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะทั้งพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศ และจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการทางรางมากยิ่งขึ้น ลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ความสำคัญกับการขนส่งผู้โดยสารและบริการขนส่งสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายการขนส่งทางรถไฟ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงระบบของประชาชน สนับสนุน การขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ การกระจายความเจริญจากเมืองสูงเมือง สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการต่อไป

โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ มีพื้นที่ครอบคลุม 4 จังหวัด 10 อำเภอ 29 ตำบล คือ จังหวัดแพร่ ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ รูปแบบรถไฟทางคู่ขนาดทาง 1 เมตร พร้อมปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัยมากขึ้น


โดยเส้นทางที่ได้รับคัดเลือกมีระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร ช่วงเด่นชัย-ลำปาง ระยะทาง 104 กิโลเมตร โดยเป็นการสร้างทางใหม่เพิ่ม 1 ทาง พร้อมปรับรัศมีโค้งของทางรถไฟเดิม ช่วงลำปาง-เชียงใหม่ ระยะทาง 84 กิโลเมตร ใช้ความเร็วสูงสุดได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นการสร้างทางคู่ในแนวเขตทางเดิมบางส่วน และตัดแนวทางรถไฟใหม่บางส่วนให้มีแนวเส้นทางที่ตรงมากที่สุด เป็นทางระดับพื้น 108 กิโลเมตร ทางยกระดับ 39 กิโลเมตร สะพานบก 22 กิโลเมตร อุโมงค์ 19 กิโลเมตร มีจำนวน 18 สถานี

โดยปีแรก ที่เปิดให้บริการตามผลการศึกษาจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 1.2 หมื่นคนต่อวัน ปีที่ 10 จะเพิ่มเป็น 1.8 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าจะมีพื้นที่โดนเวนคืนในเขตจังหวัดแพร่แบ่งเป็นพื้นที่ที่มีโฉนดประมาณ 23 แปลง พื้นที่รวมประมาณ 28 ไร่ ที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) จำนวน 28 แปลง พื้นที่รวม 103 ไร่ จังหวัดลำปาง ที่ดินมีโฉนด 255 แปลง พื้นที่รวม 172 ไร่ พื้นที่ส.ป.ก. 38 แปลง พื้นที่รวม 57 ไร่ จังหวัดลำพูน ที่ดินมีโฉนด 193 แปลง พื้นที่รวม 179 ไร่ ที่ดินส.ป.ก. 62 แปลง พื้นที่รวม 64 ไร่ และจังหวัดเชียงใหม่ ที่ดินมีโฉนด 31 แปลง พื้นที่รวม 46 ไร่ ส่วนที่ดินส.ป.ก.ไม่มี

ทั้งนี้ตามผลการศึกษาโครงการดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการขนส่งสินค้า ผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศ จากชายแดนหรือสินค้าผ่านชายแดนได้มากขึ้น ส่งผลต่อรายได้ของประเทศโดยรวม สามารถประหยัดพลังงานมากกว่าการขนส่งทางรถยนต์ ทำให้ลดต้นทุนการขนส่งการลงทุนในระบบทางคู่เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ก่อให้เกิดการจ้างงาน เกิดรายได้ของประชากร เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมในอาเซียนเมื่อเครือข่ายรถไฟเสร็จสมบูรณ์ มีการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคต่างๆ ของประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของอาเซียน ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ ที่เกิดจากการลดต้นทุนด้านการขนส่ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,176 วันที่ 21 – 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 24/07/2016 12:37 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่… สู่คุณภาพชีวิตของชาวล้านนา
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 23 July 2559


เอาเป็นว่าได้อุโมงค์แก่งหลวง, อุโมงบ้านปิน อุโมงค์ผาคัน 1 อุโมงค์ผาคัน 2 อุโมงค์ปางป๋วย อุโมงค์ขุนตานใหม่ อุฒงค์ศาลาแม่ทา และ อุโมงค์ดอยติหละสินะ
Back to top
View user's profile Send private message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 24/07/2016 6:44 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่… สู่คุณภาพชีวิตของชาวล้านนา
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 23 July 2559




ถ้าหากก่อสร้างทางคู่สายเด่นชัย - เชียงใหม่ เสร็จแล้ว และเปิดเดินรถในเส้นทางสายใหม่ แล้วเส้นทางสายเดิมในบางช่วงจะมีการเดินรถหรือไม่ครับ ดูจากภาพตั้งแต่สถานีห้างฉัตร ไปจนถึงสถานีศาลาแม่ทา เป็นเส้นทางที่สร้างใหม่ที่ไม่ได้สร้างบนทางเดิม เพราะเส้นทางเดิมจะมีสถานีที่สำคัญและมีประวัติศาสตร์ของทางรถไฟสายนี้ด้วย คือ อุโมงค์ขุนตาลเดิม สถานีขุนตาล สะพานทาชมภู สถานีทาชมภู หรืออาจจะปิดเส้นทางเดิมไปแล้วให้ขบวนรถไปวิ่งในเส้นทางสายใหม่แทนครับ
_________________
Laughing Laughing Laughing Laughing
--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 25/07/2016 5:51 pm    Post subject: Reply with quote

nutsiwat wrote:
ถ้าหากก่อสร้างทางคู่สายเด่นชัย - เชียงใหม่ เสร็จแล้ว และเปิดเดินรถในเส้นทางสายใหม่ แล้วเส้นทางสายเดิมในบางช่วงจะมีการเดินรถหรือไม่ครับ ดูจากภาพตั้งแต่สถานีห้างฉัตร ไปจนถึงสถานีศาลาแม่ทา เป็นเส้นทางที่สร้างใหม่ที่ไม่ได้สร้างบนทางเดิม เพราะเส้นทางเดิมจะมีสถานีที่สำคัญและมีประวัติศาสตร์ของทางรถไฟสายนี้ด้วย คือ อุโมงค์ขุนตาลเดิม สถานีขุนตาล สะพานทาชมภู สถานีทาชมภู หรืออาจจะปิดเส้นทางเดิมไปแล้วให้ขบวนรถไปวิ่งในเส้นทางสายใหม่แทนครับ


ออ คงต้องเดินฟื้นฟูการเดินรถ Shuttle ระหว่างลำปางกะเชียงใหม่ เพื่อการนี้แน่นอน
Back to top
View user's profile Send private message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 25/07/2016 8:19 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
nutsiwat wrote:
ถ้าหากก่อสร้างทางคู่สายเด่นชัย - เชียงใหม่ เสร็จแล้ว และเปิดเดินรถในเส้นทางสายใหม่ แล้วเส้นทางสายเดิมในบางช่วงจะมีการเดินรถหรือไม่ครับ ดูจากภาพตั้งแต่สถานีห้างฉัตร ไปจนถึงสถานีศาลาแม่ทา เป็นเส้นทางที่สร้างใหม่ที่ไม่ได้สร้างบนทางเดิม เพราะเส้นทางเดิมจะมีสถานีที่สำคัญและมีประวัติศาสตร์ของทางรถไฟสายนี้ด้วย คือ อุโมงค์ขุนตาลเดิม สถานีขุนตาล สะพานทาชมภู สถานีทาชมภู หรืออาจจะปิดเส้นทางเดิมไปแล้วให้ขบวนรถไปวิ่งในเส้นทางสายใหม่แทนครับ


ออ คงต้องเดินฟื้นฟูการเดินรถ Shuttle ระหว่างลำปางกะเชียงใหม่ เพื่อการนี้แน่นอน


เปิดเดินรถเพื่อการท่องเที่ยว อันนี้น่าสนใจครับ วิ่งระหว่างสถานีลำปางสุดปลายทางที่สถานีเชียงใหม่จ้าว ใช้เส้นทางเดิมเพื่อไม่ให้ถูกทอดทิ้ง หรือจะวิ่งรับส่งโดยสารระหว่างเชียงใหม่ - ลำปาง - เด่นชัย โดยใช้เส้นทางเดิมก็ได้นะครับ วิ่งให้บริการเส้นทางสั้น ๆ
_________________
Laughing Laughing Laughing Laughing
--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 25/07/2016 8:54 pm    Post subject: Reply with quote

Laughing เห็นด้วยครับ เปิดเป็นการเดินรถเพื่อการท่องเที่ยว เหมือนกับ สายกาญจนบุรี-น้ำตก ก็โอเคนะ ครับ ร่วมกับการเดินรถท้องถิ่น

ส่วนทางใหม่ให้เป็นหน้าที่ของรถทางไกล
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/07/2016 10:46 am    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” เร่งผุดรถไฟทางคู่เชื่อมลงใต้ หนุนเขต ศก.พิเศษชายแดน
โดย MGR Online 26 กรกฎาคม 2559 19:29 น. (แก้ไขล่าสุด 26 กรกฎาคม 2559 22:59 น.)

นายกฯ สั่ง “อาคม” ทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลาและนราธิวาส เร่งรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และพัฒนาสนามบินภูมิภาค 28 แห่งใน Action Plan ปี 60

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 25 ก.ค. และมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งมีการเสนอหลายเรื่อง โดยที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมนั้นมีทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมสำหรับ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.สงขลา, จ.ยะลา, จ.สตูล, จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส โดยจะนำโครงการบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการคมนาคมปี 2560

ประกอบด้วย ขนส่งทางราง ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งจะเพิ่มเป็นระบบรถไฟฟ้าด้วย เพื่อต่อเชื่อมกับรถไฟมาเลเซียที่มีทางคู่รางขนาด 1 เมตร และรถไฟเป็นไฟฟ้า

ส่วนทางอากาศนั้น กรมท่าอากาศยาน (ทย.) อยู่ระหว่างปรับปรุงท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งได้มอบหมายให้ ทย.ทำแผนปรับปรุงและพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคทั้ง 28 แห่งเสนอมายังกระทรวงคมนาคม โดยบางท่าอากาศยานจะมีการปรับปรุง แก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แต่มีบางท่าอากาศยานที่มีความแออัด จะต้องมีแผนพัฒนาขยายขีดความสามารถ ทั้งขยายรันเวย์และอาคารผู้โดยสาร โดยจะนำแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคทั้ง 28 แห่งบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการคมนาคมปี 2560 เช่นกัน

ส่วนขนส่งทางน้ำ มีการพัฒนาท่าเรือปัตตานี ซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชนและจังหวัด ซึ่งเดิมเป็นท่าเรือประมง แต่มีพื้นที่ที่สามารถนำมาพัฒนาเพิ่มเพื่อรองรับเรือสินค้าชายฝั่ง ขนาด 500 ตันกรอส โดยกระทรวงจะเร่งศึกษาและเสนอการลงทุนและพัฒนาต่อไป และท่าเรือสงขลา 2 ซึ่งขณะนี้การศึกษาเสร็จแล้ว ออกแบบเป็น 2 ท่าเรือคู่ขนานกัน โดยท่าแรกจะมี 1 เทอร์มินัล และท่าที่ 2 มี 2 เทอร์มินัล ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังในการดำเนินการก่อสร้าง

“เป้าหมายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมนั้นเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งภาคใต้มีที่สงขลาและนราธิวาส เดิมการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่แล้ว โดยจะเร่งสรุปเพื่อนำเสนอรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ต่อไป”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/07/2016 2:57 pm    Post subject: Reply with quote

เขตเศรษฐกิจลาวแซงไทย จีนทุ่ม 1 ล้านล้านพัฒนาบ่อหาน-บ่อเต็น
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 27 July 2559

10 เขตเศรษฐกิจพิเศษไทยอืด จีนทุ่ม 1 ล้านล้านเร่งบ่อหาน-บ่อเต็นชิงได้เปรียบ พร้อมผุดศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าค่า 8 พันล้าน ประเคนสิทธิประโยชน์ปลอดภาษีดึงนักลงทุน-นักช็อป แล้วเสร็จปลายปีนี้ สปท.ผวาเพิ่มโอกาสสินค้าจีนทะลักสู่ประเทศไทยครั้งใหญ่ จี้ผนึกลาวปั้นเขต ศก.พิเศษร่วมเชียงของ-ห้วยทรายสู้ ชูเป็นชุมทางขนส่งทางบก เรือ อากาศ พร้อมใช้สกัดสินค้าจีน

สืบเนื่องจากที่ผู้นำจีน และสปป.ลาว ได้เซ็นสัญญาความตกลงในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมบ่อเต็น-บ่อหาน(จีน-ลาว) พื้นที่ 24 ตารางกิโลเมตร (หรือราว 15,000 ไร่) โดยที่ทางฝ่ายจีนจะถอยเขตด่านศุลกากร และด่านตรวจคนเข้าเมืองจากเส้นชายแดนบ่อหาน(โมฮั่น)ลึกเข้าไปทางฝั่งจีน 6 กิโมเมตร และฝ่ายลาวจะถอยเขตด่านศุลกากร และด่านตรวจคนเข้าเมือง จากเส้นชายแดนเข้ามายังฝั่งบ่อเต็นของลาว 5 กิโลเมตร ทั้งนี้ในส่วนของจีนจะใช้เงินลงทุนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเชื่อมโยงมายังเขตเศรษฐกิจร่วมบ่อหาน-บ่อเต็นในครั้งนี้ประมาณ 2 แสนล้านหยวน หรือราว 1 ล้านล้านบาท

Click on the image for full size
แผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจ

ทุ่ม8พันล.ผุดศูนย์กระจายสินค้า

นายสายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์ คณะทำงานปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ ในคณะอนุกรรมาธิการอุตสาหกรรม และบริการ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงความคืบหน้าล่าสุดว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนได้ลงทุนสร้างทางรถไฟ และพัฒนาถนน เส้นทางจากจิ่งหงมาบ่อหานจาก 4 เลน เป็น 8 เลน และยังสร้างสนามบินห่างจากบ่อหานประมาณ 30 กิโลเมตรเพื่อขนนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ รวมถึงใช้ขนสินค้าเกษตรที่เน่าเสียง่าย เช่นผลไม้ และผักต่างๆ ของจีนทางตอนใต้มาไว้ที่บ่อหานเพื่อส่งเข้าลาว และไทยในโอกาสต่อไป

ขณะเดียวกันเพื่อให้สอดรับกับระบบสาธารณูปโภคที่รัฐบาลจีนอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการมายังเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ รัฐบาลจีนยังเปิดประมูลให้เอกชนของจีนเพื่อดำเนินจัดตั้งศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้า(Distribution Center : DC) ในเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมบ่อหาน-บ่อเต็น(อยู่ในฝั่งบ่อหานของจีน ห่างจาก อ.เชียงของของไทย 243 กม.) บนพื้นที่ 4.83 ตารางกิโลเมตร ในศูนย์นี้จะมีทั้งคลังสินค้า(ที่เป็นห้องเย็นและไม่ใช่ห้องเย็น) สถานีและศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถยนต์ ลานจอดรถ มีร้านค้าทั่วไป และร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี)ร้านอาหารและภัตตาคาร มีโรงแรมระดับ 4 ดาวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยศูนย์นี้จะใช้เงินลงทุน 8,000 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในปลายปี 2559

“จากที่ได้ไปดูงานมา ขณะนี้มีนักธุรกิจจีนเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงนักธุรกิจจากลาวและไทยได้เตรียมเข้าไปดำเนินธุรกิจในศูนย์นี้กันอย่างคึกคัก ทั้งการเช่าคลังสินค้า การเช่าพื้นที่ขายสินค้า เช่าที่เพื่อทำโรงแรมและที่พัก ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า ทำร้านอาหาร ซึ่งรัฐบาลจีนให้เอกชนของจีนเป็นผู้บริหารจัดการศูนย์แห่งนี้ให้มีกำไร ซึ่งใครก็ตามที่ไปเปิดดำเนินธุรกิจหรือตั้งบริษัทในเขตนี้ รัฐบาลจีนจะให้สิทธิประโยชน์ไม่เสียภาษีการค้า ไม่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล คนงานก็ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนั้นจะจูงใจนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวอย่างมาก”

จับตาสินค้าจีนยิ่งทะลักหนัก

นายสายัณห์ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวของจีน ห่วงจะกระทบกับไทย และจีนจะยิ่งได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันจีนถือเป็นผู้ควบคุมระบบโลจิสติกส์ และได้ประโยชน์มากจากเส้นทาง R3A เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าจากทางภาคใต้ของจีนเข้ามาตลาดไทของไทยอยู่แล้ว อนาคตหากศูนย์แห่งนี้ของจีนแล้วเสร็จสินค้าจากจีนจะถูกส่งมาพัก หรือรีแพ็กเก็จ หรือบรรจุหีบห่อใหม่ในที่แห่งนี้ ก่อนส่งเข้าลาว และไทยเพิ่มมากขึ้น ในระยะยาวผลประโยชน์ทางการค้าและการลงทุนจะอยู่ในมือจีนเกือบทั้งหมด ขณะที่ไทยก็จะได้ประโยชน์จากศูนย์นี้ในการส่งออกสินค้าไปจีน แต่เทียบแล้วเราจะได้รับประโยชน์น้อยกว่า

จี้เร่งเขตศก.พิเศษเชียงของ

ในเรื่องนี้เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์คานจีนทางคณะทำงานปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานฯ สปท. ขอเสนอให้รัฐบาลไทยเจรจากับรัฐบาล สปป.ลาวเพื่อให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมเชียงของ-ห้วยทราย(ไทย-ลาว) ในบริเวณสองฝั่งรอบสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 ของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เร่งด่วน หากทางลาวไม่เอาด้วย ไทยทำฝ่ายเดียวก็ได้ โดยขอให้รัฐบาลมีการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อพัฒนาเชียงของ ให้เป็นชุมทางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Air-Sea-Land Intersection) ทั้งทางบกโดยทางรถยนต์ และทางรถไฟโดยเชื่อมทางรถไฟจากเชียงใหม่มายังเชียงรายและเชียงของ เพื่อขนส่งสินค้าในภาคเหนือออกไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี(แหลมฉบัง)) และระยองที่รัฐบาลอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ รวมถึงเชื่อมโยงไปยังจังหวัดตราดเพื่อออกไปยังประเทศกัมพูชาได้ ส่วนทางเรือสามารถออกไปทางเชียงแสนเชื่อมผ่านเมียนมาไปยังจีนได้ ขณะที่ทางอากาศมีสนามบินแม่ฟ้าหลวงซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ต้องปรับปรุงให้สามารถใช้ขนส่งสินค้า และผู้โดยสารเข้ากรุงเทพฯ รวมทั้งเชื่อมโยงไปยังจังหวัดอื่นๆ ได้มากขึ้น

“ถ้าไทยสามารถทำตรงนี้ดักไว้ได้ และเชื่อมโยงการคมนาคมทุกรูปแบบจากเส้นทาง R3Aได้ ต้นทุนการขนส่ง หรือต้นทุนโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการก็จะถูกลง นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติก็จะเห็นโอกาสในการลงทุนทั้งด้านอุตสาหกรรม และบริการ ไทยก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น และในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ขอเสนอให้ตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกด้านการขนส่งหรือขนถ่ายสินค้า โดยเปิดให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ และรัฐให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ”

ที่สำคัญขอให้ใช้ศูนย์นี้ในการจัดระเบียบสินค้าที่มาจากจีน โดยบังคับต้องสำแดงว่ารถขนสินค้าอะไรเข้ามา และมีปลายทางที่ใด คนขับชื่ออะไร เป็นต้น จากที่ผ่านมาแค่สุ่มตรวจที่ด่านศุลกากร ทั้งนี้เพื่อเหตุผลทางด้านความมั่นคง และสามารถใช้โมเดลนี้เป็นต้นแบบเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นๆ ของไทยได้ด้วย นี่คือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น จากปัจจุบันรัฐบาลให้สิทธิประโยชน์การลงทุนผ่านบีโอไออย่างเดียวไม่เวิร์ก ทำให้เขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยเกิดขึ้นได้ช้า

หอการค้าเชียงรายชี้จีนชิงได้เปรียบ

สอดคล้องกับนายเกษม เตชไตรรัตน์ เลขาธิการ หอการค้าจังหวัดเชียงราย ที่กล่าวว่า เมื่อจีนมีการลงทุนและที่จะนำสินค้ามายังจุดพักสินค้าที่บ่อหาน มองว่า ไทยเราน่าจะต้องลงมือตั้งจุดห้องเย็นหรือจุดพักสินค้าบ้าง คิดอย่างเดียวแต่ไม่ลงมือไม่เกิดประโยชน์ และอาจเสียโอกาส โดยเฉพาะต้องเร่งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงของ แต่ในมุมกลับมองว่าจีนก็ต้องการสินค้าไทยเป็นจำนวนมากเช่นกันโดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภค ขณะที่สินค้าที่ไทยนำเข้าจากจีนส่วนใหญ่ เป็นผลไม้ อาทิ แอปเปิล สาลี่ เป็นต้นแต่โดยภาพรวมแล้ว จีนจะได้เปรียบไทยเพราะได้ลงทุนไปแล้ว และได้เปรียบที่เขามีจุดพักสินค้า

ปั่นศูนย์ขนถ่ายเชื่อมจีน

ด้าน ดร. พีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างเร่งลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานลงพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชื่อมเพื่อนบ้าน โดยกรมขนส่งทางบก(ขบ.)อยู่ระหว่างเวนคืนที่ดิน 280 ไร่เพื่อก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายรถบรรทุกสินค้า ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดเปลี่ยนรถบรรทุกแล้วบริเวณตรงกลางศูนย์นี้จะก่อสร้างระบบรางรถไฟ เพื่อรองรับสินค้าจากประเทศจีนที่จะข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว และเชื่อมเข้ากับระบบรางต่อไปยังพื้นที่อื่นของประเทศไทย

โดยล่าสุดได้ตั้งงบเพื่อเวนคืนโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของในปีงบประมาณ 2560 ที่ใช้ระระเวลาดำเนินโครงการ 4 ปีทั้งนี้มองว่า จะได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งไทยที่อยู่ระหว่างพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงของที่จะเชื่อมกับห้วยทรายของสปป.ลาว กับเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็น-บ่อหานที่จีนลงทุน

กระทุ้งพาณิชย์ขยายส่งออกไปจีน

นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า เอกชนในพื้นที่ได้เสนอเรื่อง จีนลงทุนพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่บ่อเต็น-บ่อหานต่อภาครัฐผ่านช่องทางของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์จะได้หาทางขยายโอกาสให้กับสินค้าไทยกระจายไปยังเขตเศรษฐพิเศษบ่อเต็น-บ่อหาน เพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

ผุดมอเตอร์เวย์ร่นทางเชื่อมไทย

ส่วนในมุมมองดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ระบุ เขตเศรษฐกิจพิเศษ บ่อเต็น-บ่อหานจะเป็นจุดรับสินค้า โดยเฉพาะ จีนต้องการจีนค้าไทยมากที่สุดมากที่สุด และมองว่าไทย นำเข้าสินค้าจีนน้อยกว่าที่จีนจะนำเข้าสินค้าไทย อย่างไรก็ดี บ่อเต็นเป็นเมืองหน้าด่านของจีน ซึ่งได้พัฒนาเป็นศูนย์โลจิสติกส์ ที่สำคัญซึ่งขณะนี้จีนเตรียมก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บนถนนR3A เนื่องจากมองว่าคดเคียวและเป็นภูเขาตัดเป็นเส้นทางตรง จาก 280กิโลเมตรเหลือเพียง 200 กิโลเมตรเศษๆ เพื่อขนส่งสินค้าจากจุดพักมายังไทยซึ่งจะใช้ระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นจากปัจจุบันต้องใช้เวลานาน และหากฝั่งไทยสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายรถบรรทุก ซึ่งจะมีการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่จะรับกับเส้นทางรถไฟของจีนที่ทำที่ห้วยทรายผ่านสิบสองปันนา และทะลุเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน-บ่อเต็น เสริมการขนส่งสินค้าซึ่งไทยเรา ต้องเร่งดำเนินโครงการเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงของด้วยเช่นกัน

10 เขตศก.ไทยยังไม่ขยับ

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด ประกอบด้วย ระยะแรก จังหวัดตาก สระแก้ว มุกดาหาร ตราด และหนองคาย ระยะที่ 2 เชียงราย กาญจนบุรี พนครพนม และ นราธิวาส อย่างไรก็ดีมองว่า ยังไม่ขยับอะไรมากนัก ทั้งนี้สำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จังหวัดตาก อยู่ระหว่างเจรจากับผู้บุกรุกพื้นที้ คาดจบภายในเดือนสิงหาคมนี้
ขณะที่ ด้านอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ยังไม่มีข้อยุติกับผู้บุกรุกกรมธนารักษ์ อยู่ระหว่างเจรจาคาดว่าปลายปีนี้น่าจะได้ข้อยุติ เป็นต้น ส่วนด้านมุกดาหาร ตราด และหนองคาย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเอกชนที่ยื่นประมูลว่าใครจะได้พื้นที่ไปพัฒนา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 – 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 29/07/2016 1:04 pm    Post subject: Reply with quote

จ่าออนซอน รายงานเรื่องทางคู่ถนนจิระไปขอนแก่น
จ่าออนซอน wrote:
โครงการรถไฟทางคู่จากชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น (ในภาพคือช่วงชุมทางบัวใหญ่ขึ้นไป) เริ่มดำเนินการไปเยอะแล้วโดยทำการขยายสร้างเส้นทางฝั่งตะวันออกของทางหลักสายอีสานเหนือ แปลว่าจะมีสถานีในฝั่งเดียวกับสถานีขอนแก่น บ้านไผ่ ประมาณ ๑๐ สถานี ถูกรื้อถอนเพื่อวางรางและสร้างอาคารขึ้นใหม่ในอนาคต...เมื่อสร้างเสร็จจและวางราง 100 ปอนด์ตลอดเส้นทาง จะทำให้ขบวนรถไฟตรงเวลาและเร็วขึ้นเพราะไม่ต้องรอหลีด ที่สำคัญขบวนรถสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ จะสามารถทำขบวนยาว 40 ตู้ต่อขบวนได้ ไม่ต้องรอหลีก (ทางหลีกส่วนใหญ่จอดได้แค่ไม่เกิน 20 ตู้) ซึ่งจะมำให้การขนส่งสินค้าอีสานเหนือทำได้เร็วขึ้นลดการใช้รถบรรทุก ถนนก็จะว่างลงซ่อมบำรุงในแต่ละปีน้อยลง ตามมาด้วยการลดลงของการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง...

https://www.facebook.com/rach2511/posts/10210175118792557
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 01/08/2016 1:08 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งคัดที่ปรึกษาคุมก่อสร้าง 4 รถไฟทางคู่
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,179
วันที่ 31 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บอร์ดร.ฟ.ท.ไฟเขียวคัดเลือกที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง 4 รถไฟทางคู่ให้เหลือน้อยรายจากที่แสดงความสนใจเส้นทางละ 32 ราย รวมราคากลางกว่า1,900 ล้านบาท อีกทั้งยังไฟเขียวกรณีปรับแบบก่อสร้างทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นยกระดับข้ามชุมชนเพิ่มงบอีกกว่า 1,200 ล้านบาท ล่าสุดปิดรับฟังความเห็นเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ส่วนอีก 3 เส้นทางยังมีลุ้น คนร.ไฟเขียวก่อนเสนอครม.อนุมัติ

นายสราวุธ เบญจกุล ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามติการประชุมบอร์ดครั้งที่ 12/2559 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาได้ให้ความเห็นชอบกรณีร.ฟ.ท.ขอความเห็นชอบผลการคัดเลือกที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง รวมวงเงินราคากลาง 1,967 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 1.เส้นทางนครปฐม-หัวหิน วงเงินราคากลาง 450 ล้านบาท 2.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ราคากลาง 450 ล้านบาท 3.เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ราคากลาง 456 ล้านบาท และ 4.เส้นทางมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ ราคากลาง 611 ล้านบาท

โดยเส้นทางนครปฐม-หัวหิน มีกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานยื่นแสดงความสนใจจำนวน 32 ราย คัดเหลือ 3 ราย เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ยื่นแสดงความสนใจจำนวน 32 ราย คัดเหลือ 5 ราย เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ยื่นแสดงความสนใจ 32 ราย คัดเหลือ 4 ราย และเส้นทางมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ ยื่นแสดงความสนใจจำนวน 32 ราย คัดเหลือ 3 ราย

นอกจากนั้นมติที่ประชุมบอร์ดร.ฟ.ท.ยังได้อนุมัติกรณีการแก้ไขแบบรายละเอียดงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เนื่องจากช่วงสถานีบ้านไผ่การก่อสร้างจะเป็นคันดินใจกลางเมืองจึงแบ่งย่านชุมชนออกเป็น 2 ส่วนประชาชนในพื้นที่จึงเสนอให้ก่อสร้างเป็นเส้นทางยกระดับระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรในช่วงผ่านพื้นที่ชุมชนเช่นเดียวกับกรณีที่ผ่านในตัวเมืองขอนแก่น

“กรณีดังกล่าวนี้มีทั้งงบเพิ่มจำนวน 1,200 ล้านบาท และยังมีงบค่าที่ปรึกษาอีกจำนวน 27 ล้านบาท รวมเป็นงบเพิ่มทั้งสิ้น 1,227 ล้านบาท ซึ่งร.ฟ.ท.จะเร่งนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อนำรายงานคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความเห็นชอบเนื่องจากเป็นการปรับแก้ไขแบบรายละเอียดโครงการดังกล่าวนี้”

แหล่งข่าวระดับสูงของร.ฟ.ท.กล่าวว่า จากกรณีที่ได้เปิดรับฟังความเห็นร่างเอกสารประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรล่าสุดได้ปิดรับฟังความเห็นพร้อมเร่งตรวจสอบความเห็นก่อนนำไปบรรจุในเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาโดยคาดว่าจะประกาศขายเอกสารประกวดราคาในเดือนสิงหาคมนี้

สำหรับเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) รอคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.)นำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในเดือนสิงหาคมนี้คาดว่าจะประกาศขายเอกสารประกวดราคาเดือนกันยายน-ตุลาคม 2559ส่วนเส้นทางลพบุรี-ปากนํ้าโพ และนครปฐม-หัวหินหากผ่านการพิจารณาของสศช.ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ รอเพียงศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)เท่านั้น คาดว่าปลายปีนี้สามารถเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้อีกเช่นกัน

ล่าสุดเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม(คชก.)ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.)เรียบร้อย คาดว่าจะได้รับการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของกก.วล.ช่วง 1-2 เดือนนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 138, 139, 140 ... 389, 390, 391  Next
Page 139 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©