รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

Wisarut · Posted: 30/09/2016 1:13 am Post subject:

"สมคิด" สั่ง ร.ฟ.ท. เร่งเปิดประมูลรถไฟทางคู่ในเดือน พ.ย.นี้
จากรายการ: Bright News
Bright TV
พฤหัสบดี 29 กันยายน 2559

นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้การรถไฟฯ เร่งเดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะแรก 7 เส้นทาง หลัง ครม. ได้อนุมัติให้ดำเนินการแล้ว 2 เส้นทางซึ่งประกอบด้วย เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางจิระ วงเงินลงทุน 2.98 หมื่นล้านบาท และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท ที่จะมีการเปิดประมูลโครงการในเดือนพฤศจิกายนนี้

นอกจากนี้ นาย สมคิด ยังได้เร่งรัดให้การรถไฟฯ เร่งจัดทำโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ซึ่งมี 7 เส้นทางเช่นกัน ระยะทางรวม 1,493 กิโลเมตร ให้สามารถเริ่มดำเนินโครงการให้ได้ในปี 2560 โดยให้ศึกษาเส้นทางให้ครอบคลุมทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ประกอบด้วย เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ วงเงิน 7.7 หมื่นล้านบาท เส้นทางบ้านไผ่-นครพนม วงเงินลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถนำเสนอ ครม. พิจารณาได้ในต้นปี 2560

“สมคิด” ปลดล็อกทีโออาร์ทางคู่เข็นประมูล พ.ย. สั่งทำแผนแม่บทรถไฟ 10 ปี
โดย MGR Online
29 กันยายน 2559 15:21 น.

“สมคิด” เคาะทีโออาร์รถไฟทางคู่หลังปรับปรุงใหม่ที่เปิดกว้างมากขึ้น รอชงบอร์ดไฟเขียวเร่งเปิดประมูลช่วงประจวบฯ-ชุมพร ใน พ.ย.นี้ เชื่อโปร่งใสขึ้น มั่นใจทางคู่ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทางเปิดประมูลในปีนี้ พร้อมเร่งเฟส 2 อีก 7 เส้นทาง เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายลอจิสติกส์ พร้อมสั่งทำแผนแม่บทระยะ 10 ปี วางผังการพัฒนารถไฟทุกมิติ ตั้งหน่วยบริหารทรัพย์สินแบบมืออาชีพ หารายได้เพิ่ม

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้คณะกรรมการ (บอร์ด) และผู้บริหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่า ได้ติดตามการดำเนินโครงการรถไฟในปัจจุบันและแผนงานในอนาคต ซึ่งในส่วนของโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 995 กม. ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 สาย ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว 2 สายที่เหลือรอเสนอ ครม.นั้น ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ยืนยันว่าจะดำเนินการประกวดราคาได้ในปลายปี 2559

ส่วนร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) นั้นได้ปรับปรุงเงื่อนไขเสร็จแล้ว ซึ่งจะเปิดกว้างให้เสนอราคาแข่งขันทั้งบริษัทในประเทศและต่างประเทศได้มากรายขึ้น และอยู่ในขั้นตอนเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.เห็นชอบในเดือน ต.ค. และจะเปิดประมูลช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ในเดือน พ.ย. ซึ่งได้เร่งรัดให้บอร์ดประชุมเร็วขึ้นเพื่อเร่งการประมูล และจะบรรจุในข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ซึ่งจะต้องมีบุคคลภายนอก เช่น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เข้าร่วมตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้เกิดความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่น และศรัทธาการทำงานของรถไฟ

นอกจากนี้ยังมีรถไฟทางคู่ระยะ 2 อีก 7 เส้นทาง ระยะทาง 1,493 กม. และรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง ระยะทาง 673 กม. สายเหนือ เด่นชัย-เชียงของ ระยะทาง 326 กม. และสายตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 347 กม. ที่มีแผนดำเนินโครงการในปี 2560 ซึ่งรถไฟทางคู่เป็นโครงข่ายที่สำคัญในการขนส่งสินค้า และการเชื่อมต่อระบบลอจิสติกส์ให้เกิดการเชื่อมโยง ดังนั้น ร.ฟ.ท.จะต้องให้ความสำคัญพยายามผลักดันให้คืบหน้า

สำหรับรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิตนั้น จะเปิดเดินรถได้ในปี 2563 ซึ่งได้ให้นโยบายในส่วนของสายสีแดงต่อขยาย ให้พิจารณาการลงทุนรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) เพื่อลดการลงทุนภาครัฐ นอกจากนี้ ให้เร่งรัดโครงการที่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ให้เร่งรัดส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-ระยอง และสายกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งจะเสนอ ครม.ได้ในปีนี้ โดยเฉพาะสายกรุงเทพฯ-ระยอง เป็นโครงการหนึ่งในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาเรื่องการพัฒนาสถานีให้เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาและการพัฒนา EEC พร้อมกันนี้ให้รถไฟจัดทำเส้นทางรถไฟทางคู่ ควบคู่ไปกับแนวรถไฟความเร็วสูงและถนนของกรมทางหลวง (ทล.) จะต้องเชื่อมโยงกับ EEC ด้วย เพื่อให้โครงข่ายมีความสมบูรณ์

นายสมคิดกล่าวว่า ร.ฟ.ท.ต้องมีแผนยุทธศาสตร์ หรือแผนแม่บทในระยะยาว ซึ่งให้ ร.ฟ.ท.ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในการทำแผนยุทธศาสตร์รถไฟ ระยะ 10 ปี เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาทั้งการเดินรถที่สามารถยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพทำให้รายได้เพิ่มขึ้น, การบริหารทรัพย์สินที่มีกว่า 6 แสนล้านบาท และที่ดินในย่านทำเลทอง แต่มีการใช้ประโยชน์น้อย จะต้องตั้งหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาช่วยสร้างรายได้เพิ่มจากที่ดิน ทั้งการปรับอัตราค่าเช่า หรือการให้เอกเชนร่วมทุน โดยไม่มีการขายทรัพย์สิน ส่วนพื้นที่ข้างทางรถไฟ ควรร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) พัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยได้

“การทำแผนแม่บท 10 ปี จะทำให้เห็นแนวทางการพัฒนาการเพิ่มรายได้ และจะเห็นงบการเงิน รายละเอียด รายได้ รายจ่ายจะชัดขึ้น ซึ่งงบการเงินของรถไฟจะแข็งแรงขึ้นกว่าที่ผ่านมา ซึ่งฐานะการเงินมีหนี้มาก การหารายได้ไม่ดี ทำให้ขาดทุนสะสมถึง 8 หมื่นล้าน แผน 10 ปี จะเห็นอนาคตรถไฟ การเพิ่มรายได้ และเห็นรถไฟ 4.0 มิติใหม่รถไฟต้องโปร่งใส”

ส่วนเรื่องการเบิกจ่ายในปี 2559 ทำได้ที่ 52% ต่ำกว่าเป้า ซึ่งในปี 2560 งบลงทุน ร.ฟ.ท.สูงมาก ดังนั้นบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้วางแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายตั้งแต่ไตรมาส 1/60 คาดว่าน่าจะดีขึ้น
//-----------------------------------------------

ทำบ้านคนจนให้เช่าริมรถไฟ ปีหน้าลุยสร้างทางคู่9สายรวด
เดลินิวส์
พฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2559 เวลา 21.11 น.

“สมคิด” จี้ รฟท.ทำยุทธศาสตร์ระยะยาวสร้างความแข็งแกร่งการเงิน ปิ๊งไอเดียจับมือกคช. สร้างบ้านคนจนให้เช่าริมทางรถไฟช่วยคนจน คาดปีนี้ประมูล 7 เส้นทาง ส่วนปี 60 ลงทุนกว่า 429,676 ล้าน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ว่า ได้ให้รฟท.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจไปจัดแผนยุทธศาตร์การดำเนินงานระยะ10-15 ปี ให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนเพื่อพัฒนาฐานะทางการเงินของรฟท.ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพราะมีสินทรัพย์ประมาณ600,000 ล้านบาทแต่หนี้สินขาดทุนสะสมถึง 80,000 ล้านบาท ดังนั้นต้องหารายได้ให้มากกว่ารายจ่ายและตั้งหน่วยงานขึ้นมาบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ และกำหนดอัตราค่าเช่า และวางรูปแบบการร่วมทุนที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างชัดเจน เพื่อต่อยอดรายได้ขององค์กรและห้ามขายทรัพย์สินโดยเด็ดขาด อนาคตรฟท.ต้องเข้าสู่รถไฟยุค4.0 หรือการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่เข้ามาพัฒนารถไฟและบุคคลากรให้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ส่วนแผนปรับปรุงตุรู้รถไฟใหม่ต้องแล้วเสร็จเดือนธ.ค.นี้

นอกจากนี้จะต้องพัฒนาพื้นที่ริมทางรถไฟทั่วประเทศด้วยการร่วมกับการเคหะแห่งชาติ(กคช.)และกรมธนารักษ์จัดทำที่อยู่อาศัยหรือบ้านสำหรับประชาชนที่มีฐานะยากจนให้เช่าราคาถูกเพื่อให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่วนแผนการลงทุนรถไฟทางคู่ถือเป็นเรื่องสำคัญในปีนี้เฟส(ระยะ)แรกมีโครงการเร่งด่วน7 เส้นทาง 995 กม.แล้ว วงเงินรวม 129,703 ล้านบาท ได้รับอนุมัติแล้ว 2 โครงการคือ

1. ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น 187 กม.วงเงิน 26,007 ล้านบาท ก่อสร้างคืบหน้า 8.6% และ
2. แก่งคอย-ฉะเชิงเทรา
2.1 สัญญา 1 วงเงิน 11,348 ล้านบาท ก่อสร้าง 12.08%และ
2.2 สัญญา 2 ก่อสร้าง 16.43%

ขณะที่โครงการมาบกระเบา-จิระ 132 กม. 29,853 ล้านบาท และ ประจวบฯ-ชุมพร 167 กม. 17,249 ล้านบาท ที่ผ่านการอนุมัติจากครม. คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือนพ.ย.นี้

ส่วนโครงการที่เหลืออีก 3 โครงการคือลพบุรี-ปากน้ำโพ 148 กม. 24,940 ล้านบาท หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 90 กม. 10,301.95 ล้านบาท และนครปฐม-หัวหิน 165 กม. 20,306ล้านบาทต้องเข้าครม.ทั้งหมดสิ้นปีนี้ เพราะมีความสำคัญและเชื่อมโยงต่อระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

ส่วนโครงการทางคู่ในปี 60 ตามแผน 7 เส้นทางเดิม 1,493 กม. วงเงิน 292,342.58 ล้านบาท และมีเพิ่มอีก 2 เส้นทางใหม่ 137,333.73ล้านบาท รวม 9 เส้นทาง 429,676.31ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องแต่ต้องเร่งเส้นทางเดิมให้แล้วเสร็จ ประกอบด้วย

เด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. 63,353 ล้านบาท
ขอนแก่น-หนองคาย 174 กม. 23,727ล้านบาท
ปากน้ำโพ-เด่นชัย 285 กม.57,094.74 ล้านบาท
จิระ-อุบลราชธานี 309กม. 36,015.35ล้านบาท
ชุมพร-สุราษฏร์ธานี167 กม. 23,402.70 ล้านบาท
หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. 13,271 ล้านบาท และ
สุราษฏร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 324 กม. 74,985.00 ล้านบาท

และมีเส้นทางเพิ่มเติมทางคู่สายใหม่อีก 2 เส้นทางในภาคเหนือคือ
เด่นชัย -เชียงราย –เชียงของ 326 กม. 76,980.32 ล้านบาท และ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครพนม – บ้านไผ่ 335 กม. 60,353.41 ล้านบาท

ขณะที่โครงการร่วมทุนที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) ช่วงกรุงเทพฯ – ระยองและกรุงเทพฯ – หัวหิน ตอนนี้ได้กำชับว่าจะต้องนำเสนอเข้าครม.ให้ได้ภายในปีนี้เพราะเป็นโครงการสำคัญที่จะสนับสนุนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)พิจารณาตัวสถานีเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเมืองด้วย

นายสมคิด กล่าวว่า ขณะเดียวกันรฟท.ต้องปรับเงื่อนไขประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการร่วมทุนต่างๆเพื่อให้เปิดกว้างการแข่งขันของภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นโดยจะต้องจัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูงานในส่วนนี้โดยตรงพร้อมทั้งเปิดให้องค์กรต้านคอร์รัปชั่นสามารถเข้ามาดูขั้นตอนการประมูลได้เพื่อสร้างความโปร่งใส

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตรผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า โครงการรถไฟทางคู่ในระยะแรก 7 เส้นทางตามแผนปี 59 จะเปิดประมูลให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่2 เส้นทาง สายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ จะเร่งรัดนำเสนอ ครม.ให้ได้ภายในไตรมาสแรกของปี 60ก่อนจะสานต่อพัฒนาโครงการทางคู่ระยะที่สองอีก 7 เส้นทางในปี 60 เพื่อให้แนวทางรถไฟเชื่อมโยงกับการคมนาคมอื่นๆส่วนโครงการประจวบฯ – ชุมพร และช่วงมาบกะเบา – จิระปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะกรรมการ เห็นชอบเปิดประกวดราคาคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนเปิดขายซอง และเริ่มประมูลเดือนพ.ย.นี้.

Wisarut · Posted: 30/09/2016 9:56 am Post subject:

เพจทางคู่ หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ 90 กิโลเมตรดูที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/huahin.prachuaprailway/

RORONOA · 2nd Class Pass Joined: 06/12/2007 Posts: 705

casanotoey · 3rd Class Pass (Air) Joined: 03/07/2006 Posts: 412

ผมเห็น เจ้า NKF ในหน้าเพจ ทำให้นึกถึงเจ้า 1210 กับ 1213 ที่เคยประจำอยู่สายแม่กลองจังเลยครับ น่าจะหานายแบบที่หล่อกว่านี้สักหน่อย

Mongwin · Posted: 02/10/2016 10:53 am Post subject:

RORONOA · 2nd Class Pass Joined: 06/12/2007 Posts: 705

Wisarut · Posted: 04/10/2016 11:18 am Post subject:

ผลจากการสร้างทางคู่แก่งคอย - คลอง 19 - ฉะเชิงเทราทำให้ ต้องสร้างสถานีไผ่นาบุญ ที่ กม. 162 + 819 ระหว่างบุใหญ่ กับชุมทางแก่งคอย ห่างจากฝั่งแก่งคอยห้ากิโลเมตรกว่าๆ เพื่อควบคุมการเดินรถด้วย
https://www.facebook.com/teerayoot.khoonkhum/posts/1156590734388686

Wisarut · Posted: 05/10/2016 4:33 pm Post subject:

รฟท.จ่อเปิดประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้น 1.01 แสนลบ.
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 05 ตุลาคม 2559, 15:26

"รฟท." เตรียมเปิดประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้น มูลค่า 1.01 แสนลบ.ภายในปีนี้ ประเดิม 2 เส้นแรกประจวบฯ-ชุมพร และมาบกะเบา-จิระในเดือนนี้

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการโครงการรถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการประกวดราคาจำนวน 5 เส้นทาง มูลค่ารวม 101,878.23 ล้านบาท ได้แก่

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงินโครงการ 17,249.90 ลบ. และ
ช่วง มาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระระยะทาง 132 กม. วงเงินโครงการ 29,449.31 ลบ.

ขณะนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในร่างทีโออาร์ประกวดราคามาตรฐานแล้ว ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจะต้องนำเสนอร่างทีโออาร์เข้าพิจารณาในคณะกรรมการรฟท.ในวันที่ 18 ต.ค. และคาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้เลยในเดือนต.ค. นี้ และได้ตัวผู้รับเหมาภายในสิ้นปีนี้

ส่วนรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทางคือ
ช่วงนครปฐม – หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงินโครงการ 20,036.53ลบ.
ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม.วงเงินโครงการ 24,840.54ลบ.
ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงินโครงการ 10,301.95ลบ.

อยู่ระหว่างรอให้บอร์ด รฟท.อนุมัติทีโออาร์มาตรฐานและราคากลาง โดย2เส้นทางแรกได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอแล้ว ส่วนเส้นทางที่3 รฟท. อยู่ระหว่างการแก้ไขรายงานอีไอเอ คาดว่าจะส่งให้ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. ในวันที่7 ต.ค. คาดว่าจะนำเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการได้ในเดือนต.ค.และเปิดประกวดราคาได้ในเดือนพ.ย.59

Wisarut · Posted: 06/10/2016 4:48 pm Post subject:

วิดิโอ โครงการทางคู่แก่งคอย - คลอง 19 - ฉะเชิงเทรา
https://www.youtube.com/watch?v=DqyzfefYsjM

nutsiwat · Posted: 06/10/2016 8:27 pm Post subject: