Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181737
ทั้งหมด:13492975
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 149, 150, 151 ... 388, 389, 390  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3291
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 12/01/2017 8:00 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รายชื่อสถานีในโครงการรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ
Arrow https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1641369232543802&set=a.213819491965457.68088.100000122231436

Click on the image for full size

ห้วยแก้ว กับ ไผ่ใหญ่ มีชะตาชีวิตสลับกัน
แค่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะไผ่ใหญ่มีผู้โดยสารใช้บริการคึกคักกว่าห้วยแก้วอย่างเห็นได้ชัด
คงเป็นเพราะว่าไผ่ใหญ่อยู่ใกล้ชุมชนมากกว่า ในขณะที่ห้วยแก้วตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทุ่ง
เวลานั่งขบวน 201 หรือ 209 ทีไร ก็เห็นมีผู้โดยสารขั้นลงที่ไผ่ใหญ่ทุกครั้ง ขณะที่ห้วยแก้วเงียบเหงาประจำ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 16/01/2017 7:15 pm    Post subject: Reply with quote

ตัดครหาล็อกสเปกรถไฟทางคู่ จับเอกชนเซ็นข้อตกลงคุณธรรม ปี 60 เทกระจาดประมูลอีก 9 เส้นทางเกือบ 4 แสนล้าน
โดย MGR Online
16 มกราคม 2560 16:56 น. (แก้ไขล่าสุด 16 มกราคม 2560 17:17 น.)


“ร.ฟ.ท.” จับเอกชนเซ็นข้อตกลงคุณธรรม ร่วมกับผู้สังเกตการณ์ ช่วยตรวจสอบประมูลรถไฟทางคู่นำร่อง 2 เส้นทาง มูลค่ากว่า 5.4 หมื่นล้าน เพื่อยืนยันความโปร่งใส ไร้ครหาล็อกสเปก “วุฒิชาติ” เผยไม่เซ็นหมดสิทธิ์ยื่นซอง เผยเปิดให้ยื่นซอง 5 เส้นทาง 3 ก.พ. เคาะราคา 1 มี.ค. ตั้งเป้าเซ็นสัญญา 26 มี.ค.ครบรอบวันสถาปนารถไฟ 120 ปี พร้อมเตรียมชงบอร์ด 20 ม.ค.นี้เคาะทางคู่อีก 9 โครงการใน Action Plan 60 วงเงินเกือบ 4 แสนล้าน ก่อนเดินหน้าชง ครม.เล็งเปิดประมูลใน ส.ค.นี้

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) 3 ฝ่าย ร่วมกับผู้สังเกตการณ์จากภาคประชาสังคม และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟทางคู่ 2 โครงการ ได้แก่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ และช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ว่าในช่วงปี 2559-2560 ร.ฟ.ท.จะมีการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่รวม 14 สาย มูลค่าประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยแต่ละโครงการมีมูลค่าสูงจึงเป็นที่จับจ้องในเรื่องความโปร่งใส การจัดทำเงื่อนไข TOR มีการล็อกสเปกเอื้อประโยชน์หรือไม่ ที่ผ่านมาได้มีการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ในแผนปฏิบัติการคมนาคม (Action Plan) ปี 59 ไปแล้ว 2 โครงการ ร.ฟ.ท.ต้องตอบคำถามสังคมค่อนข้างมาก ดังนั้น เพื่อสร้างมาตรฐานในการดำเนินงานให้มีความโปร่งใสมากที่สุดจึงได้ร่วมกับผู้สังเกตการณ์จากภาคประชาสังคมเข้ามาร่วมตรวจสอบและทำข้อตกลงคุณธรรมร่วมกับผู้ยื่นประมูล โดยหากไม่ร่วมลงนามจะไม่มีสิทธิ์ยื่นประมูล

ทั้งนี้ ได้คัดเลือกโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 โครงการ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ และช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ จาก 5 โครงการที่กำลังเปิดประมูล เข้ามาร่วมลงนาม 3 ฝ่ายในข้อตกลงคุณธรรม เนื่องจากมูลค่าของทั้ง 2 โครงการ รวมกันกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งค่อนข้างสูง และขั้นตอนก่อสร้างมีความสลับซับซ้อน ส่วนอีก 3 โครงการจะยึดหลักเกณฑ์มาตรฐาน TOR เดียวกัน ส่วนรถไฟทางคู่อีก 9 โครงการ มูลค่าเกือบ 4 แสนล้านบาท ซึ่งอยู่ใน Action Plan ปี 60 จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรมทั้งหมด เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอย่างโปร่งใส

ทั้งนี้ รถไฟทางคู่ 2 สายดังกล่าวมีผู้ซื้อเอกสารประมูลไปรวม 22 ราย ปรากฏว่า ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ผู้ซื้อซองที่ไม่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรม 3 ราย คือ บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด, บริษัท เคเทค อินฟราสตรัคเจอร์ จำกัด, China Railway Construction Bridge Engineering Bureau Group ส่วนช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มี 1 ราย คือ บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด ซึ่งผู้ไม่มาลงนามจะถูกตัดสิทธิ์ยื่นซอง เนื่องจากได้บอกกล่าวล่วงหน้าไปแล้ว

“รถไฟทางคู่มีวงเงินสูง สังคมจึงมีข้อสงสัยเรื่องโปร่งใส ล็อกสเปก จึงนำโครงการเข้าข้อตกลงคุณธรรมซึ่งมีคณะสังเกตการณ์จากภาคเอกชนมาช่วยตรวจสอบ เราก็สบายใจมากขึ้น ได้ประชุมร่วมกันมาตั้งแต่ทำTOR และจะร่วมตรวจสอบจนได้ตัวผู้รับจ้าง”

สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางที่ได้เปิดขายเอกสารประมูลแล้ว ได้แก่

ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,853.18 ล้านบาท,
ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,249.90 ล้านบาท
ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,036.53 ล้านบาท
ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,840.54 ล้านบาท และ
ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงิน 10,301.95 ล้านบาท

กำหนดให้ยื่นข้อเสนอซองทางเทคนิค 3 ก.พ. 2560 ตรวจสอบเอกสารช่วง 6-17 ก.พ. ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและมีสิทธิ์เสนอราคา วันที่ 20 ก.พ. โดยจะเคาะราคา E-Action ในวันที่ 1 มี.ค. แจ้งผลประมูลอย่างเป็นทางการทางเว็บไซต์การรถไฟฯ และกรมบัญชีกลางช่วง 20-24 มี.ค. และลงนามสัญญาได้ในวันที่ 26 มี.ค. 2560 ซึ่งตรงกับวันสถาปนาการรถไฟฯ ครบรอบ 120 ปีพอดี


ส่วนอีก 9 เส้นทาง Action Plan ปี 60 ขณะนี้ได้ออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเกือบเสร็จครบแล้ว โดยจะเสนอขออนุมัติโครงการต่อที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.วันที่ 20 ม.ค. จากนั้นจะเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป คาดว่าหาก ครม.อนุมัติโครงการได้ในช่วง พ.ค.-มิ.ย. ร.ฟ.ท.จะใช้เวลาในการจัดทำ TOR 90 วัน ปิดขายซองได้ไม่เกิน ส.ค. 60 ซึ่งตามแผนงานจะดำเนินการลงนามก่อสร้างทั้ง 9 เส้นทางให้เสร็จในปี 2560

ได้แก่

ชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 23,384.91 ล้านบาท,
สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา วงเงิน 51,823.83ล้านบาท,
หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 7,941.80 ล้านบาท,
ปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 56,066.25 ล้านบาท,
เด่นชัย-เชียงใหม่ วงเงิน 59,924.24 ล้านบาท,

ขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 26,065.75 ล้านบาท,
ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 35,839.74 ล้านบาท,

รถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 76,978.82 ล้านบาท,
บ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 60,351.91 ล้านบาท

นายธานี พุฒิพันธุ์พฤทธิ์ ผู้แทนจากคณะผู้สังเกตการณ์ กล่าวว่า คณะผู้สังเกตการณ์ได้รับการแต่งตั้งจาก คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคาร, สภาวิชาชีพ, สภาวิศวกร, สภาสถาปนิก, สภาวิชาชีพบัญชี ฯลฯ ซึ่งจะร่วมกันใช้ความรู้ ตรวจสอบโครงการ และเร็วๆ นี้จะมีร่างต้นแบบสัญญาคุณธรรม บรรจุใน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯสำหรับโครงการขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทขึ้นไปจะต้องมีผู้สังเกตการณ์อิสระร่วมด้วย

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ที่นำเข้าข้อตกลงคุณธรรม มีรายละเอียดการก่อสร้าง ดังนี้ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ มีระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 24,842 ล้านบาท ลักษณะโครงการเป็นโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ใหม่ เขตทาง 60 เมตร ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร และการพัฒนาทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม (เขตทางกว้าง 80 เมตร) ระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร รวมเป็น 148 กิโลเมตร แบ่งเป็นการก่อสร้าง 2 ช่วง

ช่วงที่ 1 แนวเลี่ยงเมืองลพบุรี ระยะทาง 32 กิโลเมตร จากสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี เส้นทางรถไฟมุ่งขึ้นทิศเหนือวิ่งไปตามแนวเส้นทางเดิม 4 กิโลเมตร จากนั้นแนวเส้นทางเลี้ยวซ้ายไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นทางยกระดับ โดยใช้เขตทางของทางหลวงหมายเลข 311 และข้ามทางแยกทางหลวงหมายเลข 311 จากนั้นแนวเส้นทางเลี้ยวขวาไปตามที่ราบทุ่งนา แล้วมุ่งขึ้นทิศเหนือไปบรรจบทางรถไฟเดิมก่อนถึงสถานีโคกกระเทียม

ช่วงที่ 2 จากสถานีท่าแค-สถานีปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีท่าแค เส้นทางมุ่งขึ้นทิศเหนือวิ่งไปตามแนวเส้นทางเดิม สิ้นสุดบริเวณสถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 29,853 ล้านบาท ลักษณะโครงการเป็นโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ใหม่แนวเส้นทางเส้นทางรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะบา-ชุมทางถนนจิระ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง

ช่วงที่ 1 มาบกะเบา-ปางอโศก ระยะทาง 32 กิโลเมตร เริ่มต้นบริเวณสถานีมาบกะเบา จังหวัดสระบุรี มีโครงสร้างทางรถไฟยกระดับช่วง กม.147+800 ถึง กม.152+650 รวมระยะทาง 4.8 กิโลเมตร และมีอุโมงค์รถไฟ 2 ช่วง ได้แก่ กม.136+250 ถึง กม.141+800 และ กม.144+850 ถึง กม.145+100 รวมระยะทาง 6 กิโลเมตร

ช่วงที่ 2 จากปางอโศก-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 101 กิโลเมตร เริ่มต้นที่สถานีปางอโศก กม.165+199.639

โดยก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับแนวทางรถไฟเดิม สิ้นสุดที่สถานีชุมทางถนนจิระ จังหวัดนครราชสีมา บริเวณ กม.270+000 และจะมีอุโมงค์บริเวณหลังสถานีคลองขนานจิตร บริเวณ กม.198+400 ถึง กม.199+550



เซ็นสัญญาคุณธรรมรถไฟทางคู่ เอกชนแห่ชิงงบ 5.4 หมื่นล้านบาท
พิกัดเศรษฐกิจ
วันที่ 16 มกราคม 2560



การรถไฟฯ เดินหน้าประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง วงเงินกว่า 5 หมื่นล้าน โดยจะเริ่มเปิดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรม 3 ฝ่าย เปิดทางภาคประชาชนตรวจสอบทุกขั้นตอน เพื่อความโปร่งใส
วันนี้ (16 ม.ค.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย การรถไฟฯ ผู้ประกอบการเข้าร่วมเสนอราคาในการประมูล และผู้สังเกตการณ์อิสระ จากองค์กรต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับการเปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่ 2 โครงการ คือ รถไฟทางคู่ ช่วง ลพบุรี-ปากน้ำโพ และช่วง มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงินรวมกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้เอกชนยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติจะเริ่มในช่วงต้นเดือน ก.พ. และจะเปิดเสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในเดือนมีนาคมนี้
ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร เปิดเผยว่า นอกจากการลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรมรถไฟทางคู่ 2 โครงการดังกล่าวแล้ว ร.ฟ.ท. จะเปิดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรมในโครงการลงทุนรถไฟทางคู่ที่อยู่ในแผนปฏิบัติการลงทุนระยะเร่งด่วนปี 2560 จำนวน 9 โครงการที่จะเปิดประมูลภายในปีนี้ด้วย
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ช่วง มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีเอกชนสนใจยื่นซองเสนอราคา 22 ราย ส่วนช่วง ลพบุรี-ปากน้ำโพ มีเอกชนสนใจยื่นซองเสนอราคา 25 ราย โดยผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่เข้าร่วมประมูล เช่น บมจ.อิตาเลียนไทย ดิเวล็อปเมนต์ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง บมจ.ช.การช่าง เป็นต้น
นายธานี พุฒิพันธุ์พฤทธิ์ หัวหน้าผู้สังเกตการณ์อิสระ จากองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น บอกว่า การตรวจสอบในส่วนของผู้สังเกตการณ์ของโครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางนั้นจะแบ่งเป็น 2 ชุด โครงการละ 6 คน โดยเริ่มสังเกตการณ์ตั้งแต่การทำ TOR การลงสำรวจพื้นที่ ไปจนถึงการยื่นซองประมูล
https://www.youtube.com/watch?v=zj14w68W_-M
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/01/2017 3:06 pm    Post subject: Reply with quote

ศึกษาผุดรถไฟทางคู่-แนวเขาบรรทัด เชื่อมเขตศก.พิเศษ-เกาะกง
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560 ปีที่ 26 ฉบับที่ 9547 ข่าวสดรายวัน หน้า 6

ตราด - นายประธาน สุรกิจบวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ประชุมร่วมกระทรวงคมนาคม และสำนักงาน ก.พ.ร.ในการเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปี 2560 (เพิ่มเติม) ของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ที่สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)จัดขึ้นนั้น พิจารณาแผนพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ ของกระทรวงคมนาคม เรื่องการพัฒนาระบบขนส่งทางราง ที่เกี่ยวข้องต่อแผนพัฒนาโลจิสติกส์ใน 5 ปีแรก แผนที่จะใช้งบประมาณเหลือจ่ายของปีงบประมาณ 2560 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย นำมาให้จังหวัดที่มีแผนในการพัฒนาระบบขนส่งของแต่ละจังหวัด

ทางจ.ตราดเสนอโครงการศึกษาความเหมาะสม เส้นทางรถไฟทางคู่จากจังหวัดระยอง เชื่อมต่อมายังจังหวัดจันทบุรี และเชื่อมต่อมายังจังหวัดตราด จนถึงตำบลไม้รูด อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ที่เป็นที่ตั้งของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังกัมพูชา ด้านจังหวัดเกาะกง เพื่อรองรับความเติบโตในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ ผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในด้านนี้ด้วย และที่ประชุมเห็นด้วยและยังได้บรรจุไว้ในแผนการพัฒนา 5 ปี แล้ว

"คมนาคมยังมีแนวทางในการพัฒนาระบบโครงข่ายถนน ที่อยู่ในแผนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เชื่อมโยงมาจากจังหวัดสระแก้ว อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี อำเภอบ่อไร่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เส้นทางเลียบแนวเขาบรรทัด เป็นเส้นทางเพื่อความมั่นคงของประเทศในอนาคต คาดว่าจะดำเนินการในแนวเดียวกับเส้นทางรถไฟด้วย หากดำเนินการได้ใน 5 ปี จะรองรับการขนส่งสินค้าไปยังกัมพูชาอย่างสะดวก เชื่อมโยงกับถนน 4 เลนจากจ.ตราด ไปสู่ชายแดนบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราดที่มีจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กเชื่อมไปยังจ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาด้วย ยังมีเส้นทางเชื่อมโยงทางทะเล จากท่าเทียบเรือคลองใหญ่ไปยังท่าเรือจุกเสม็ด ที่สัตหีบ รวมทั้งเส้นทางเชื่อมโยงทางเรือจากคลองใหญ่ไปยังสีหนุวิลล์ของกัมพูชา และเกาะฟูก๊วก ของเวียดนาม ซึ่งจะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดตราดได้เป็นอย่างดี"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/01/2017 6:16 pm    Post subject: Reply with quote

ชงแผนพัฒนาชุมทางหาดใหญ่ หากเกิดยกระดับทางรถไฟ ผุดขุมทรัพย์ใจกลางเมือง
มติชนออนไลน์ วันที่: 17 ม.ค. 60 เวลา: 10:30 น.

วันที่ 17 มกราคม นพ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ประธานกลุ่มพัฒนาหาดใหญ เปิดเผยว่า กลุ่มพัฒนาหาดใหญ่ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านทาง พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และผู้อำนวยการศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ให้พิจารณาเพิ่มเติมในโครงการยกระดับรางรถไฟและสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่

นพ.เกรียงศักดิ์เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และออกแบบโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ซึ่งโครงการจะเริ่มก่อสร้างในปี 2561 จะแล้วเสร็จปี 2563 และจะเปิดดำเนินการในปี 2564

“ผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา ร.ฟ.ท. ช่วงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ สถานีเมืองสงขลา ระยะทาง 30 กม. มีการออกแบบรางรถไฟและสถานียกระดับจากผืนดิน 5 สถานี มีสถานีบ้านคลองแห บ้านเกาะหมี อ.หาดใญ่ สถานีน้ำน้อย เขารูปช้าง และสถานีเมืองสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มูลค่าการลงทุน 10,200 ล้านบาท” นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

นพ.เกรียงศักดิ์เปิดเผยว่า สถานีชุมทางรถไฟหาดใหญ่ เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยและเป็นย่านธุรกิจการค้า ศูนย์กลางใจเมืองนครหาดใหญ่ 2 ฝั่ง ยังไม่ยกเอามาทำการศึกษา ในโครงการยกระดับทางรถไฟรางคู่ ก่อนเข้าตัวเมืองและออกตัวเมืองหาดใหญ่ ตลอดจนยกระดับสถานีชุมทางรถไฟหาดใหญ่เหนือจากผิวดิน หากโครงการได้ทำการยกระดับ มีระยะทางยาวประมาณ 5 กม. กว้าง 80 ตร.ม. สามารถขยายความยาวอีกจำนวนหนึ่งทั้งทางขาเข้าและขาออก สามารถจะแก้ปัญหาได้มาก จะเป็นจุดเปลี่ยนของการพัฒนาเมืองหาดใหญ่แล้ว ประโยชน์จะรวมเมืองหาดใหญ่ 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน อำนวยความสะดวกในการสัญจร ธุรกิจการค้าขยายตัวไปฝั่งหาดใหญ่ใน ถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ แก้ไขปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สร้างพื้นที่ใต้รางรถไฟเพิ่มขึ้น 400,000 ตร.ม. มีสถานที่จอดรถใต้ทางรางรถไฟ 3,000 คัน เป็นการเพิ่มพื้นที่จราจรในตัวเมืองหาดใหญ่ที่กำลังแออัด และจะเป็นการพัฒนาพื้นที่เป็นสถานที่การค้า ค้าขาย ตลาดพืชผัก ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์เลี้ยง สินค้าพื้นเมือง ตลาดเสื้อผ้า ศูนย์อาหารไทย จีน อิสลาม เวทีแสดงดนตรี ตลาดไนท์บาซาร์ และศูนย์เช่าพระ เพิ่มพื้นที่สีเขียว สวนหย่อม สถานที่พักผ่อนใต้ทางยกระดับและส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว” นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

ส่วนปัญหาสลัมสองฝั่งทางรถไฟ นพ.เกรียงศักดิ์กล่าวว่า รถไฟสร้างแฟลตเพื่อที่อยู่อาศัย แปลงสภาพใหม่ให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมลึกและขังนานฝั่งหาดใหญ่ในได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสถานีรถลอยฟ้านานาชาติ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหาดใหญ่ และเป็นการสร้างความพร้อมเมืองหาดใหญ่ ที่จะพัฒนาเป็นมหานครแห่งหนึ่งของประชาคมอาเชียน (เออีซี) สร้างเมืองใหม่ เมืองเศรษฐกิจการค้าเพิ่มขึ้นอีก 1 เมืองกลางใจเมืองหาดใหญ่ ในเชิงพาณิชย์จะมีผลตอบแทนอย่างมหาศาล

นอกจากนี้ นพ.เกรียงศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลมี 2 ทางเลือกที่จะดำเนินการคือ รัฐบาลเลือกลงทุนเองหรือให้เอกชนลงทุน หากให้เอกชนลงทุน จะต้องมอบสัมปทานให้ผู้ลงทุนในระยะ 50 ปี ใช้เงินสัมปทานประมาณ 20,000 ล้านบาท ประมาณปีละ 200 ล้านบาท มีเอกชนลงทุนจำนวนมากเข้ามาแข่งขันในการประมูล

“โครงการยกระดับรางรถไฟ ในของพื้นที่อู่ซ่อมและคลังขนส่งสินค้า ย้ายไปสถานีรถไฟบางกล่ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับการนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ฉลุง อ.หาดใหญ่จะเป็นจุดอิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต เป็นแหล่งทำเลทองของเมืองหาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 15,000 ล้านบาท ได้ผลตอบแทนประมาณปีละ 6,000 ล้านบาท รัฐบาลสามารถเก็บภาษีได้ประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท” นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 26/01/2017 12:16 am    Post subject: Reply with quote

อัพเดท"ทางรถไฟทางคู่ กับประแจตัวแรกของทางคู่ กับ ทีมงานบริษัท เทวี เอเวอเรสต์ จำกัด ที่ สถานีรถไฟพลสงคราม ต.พลสงคราม อ.โนนสูง จ. นครราชสีมา
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1009764342457614&id=100002721725299
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/01/2017 7:28 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟได้ฤกษ์ล้างท่อทางคู่ ขยายเพิ่ม 9 เส้นทาง 4 แสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 25 ม.ค. 2560 เวลา 20:30:48 น.
คอลัมน์ ดาต้าเบส

ขณะนี้ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" กำลังเร่งประมูลรถไฟทางคู่เฟสแรก 5 เส้นทางที่ตกค้าง 97,783 ล้านบาท ประกอบด้วย ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, นครปฐม-หัวหิน, ลพบุรี-ปากน้ำโพ, มาบกะเบา-จิระ และ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ แต่เพื่อสยบข้อกังขาว่าอาจจะไม่โปร่งใส ก่อนถึงวันยื่นซอง 3 ก.พ. และเคาะราคา 1 มี.ค.นี้

ล่าสุด "วุฒิชาติ กัลยาณมิตร" ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ได้เซ็นบันทึกข้อตกลงคุณธรรมกับผู้ประกอบการที่ร่วมประมูลและผู้สังเกตการณ์ จากภาคประชาสังคม ใน 2 เส้นทาง คือ ลพบุรี-ปากน้ำโพ และมาบกะเบา-จิระ เพราะใช้เงินลงทุนสูง 5.4 หมื่นล้านบาท หากเอกชนรายไหนไม่เข้าร่วมก็ไม่มีสิทธิประมูล

Click on the image for full size

อีกทั้งยังเตรียมโครงการเฟส 2 อีก 9 โครงการ เข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรม และเสนอ "บอร์ด-คณะกรรมการ" ของ ร.ฟ.ท.พิจารณาอนุมัติเปิดประมูล คาดว่าขายเอกสาร ส.ค.นี้และลงนามสัญญาได้ในปีนี้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 26/01/2017 10:17 am    Post subject: Reply with quote

โครงการแก้น้ำท่วมเมืองประจวบฯ 144 ล้าน ส่อแห้ว รฟท.ไม่ให้ใช้พื้นที่เพราะมีรถไฟรางคู่
มติชน
วันที่: 25 มกราคม 2560 เวลา: 13:50 น.

วันที่ 25 มกราคม 2560 นายพิชิต สันติเมธากุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนสอบถามการใช้งบประมาณ 144.7 ล้านบาท ของสำนักงานสนับสนุน และพัฒนาตามผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 สิ้นสุดวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 แต่ขณะนี้ผู้รับเหมายังไม่สามารถทำโครงการได้ตามกำหนด เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท.) ยังไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่เนื่องจากจะต้องใช้พื้นที่บางส่วนทำโครงการรถไฟรางคู่ และส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการทำโครงการดังกล่าว เนื่องจากเดิมมีการกำหนดในการวางแนวทางระบายน้ำบริเวณฝั่งถนนเพชรเกษมด้านทิศตะวันตกเพื่อระบายน้ำลงทะเลตามลำรางธรรมชาติ แต่โครงการนี้ได้วางท่อเพื่อกำหนดเส้นทางระบายเข้ามาในเขตชุมขนเมือง

นายประกิตติ อาจพันธ์ อดีตสมาชิกสภาจังหวัด ( ส.อบจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ก่อนการใช้งบดังกล่าวควรสอบถามความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว และกรณีที่ รฟท.ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ แต่กรมโยธาฯได้ขยายงวดงานให้กับผู้รับเหมา ขณะที่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน

ด้านนายศิลา โพธิ์ระย้า หัวหน้ากลุ่มไลน์แอฟพลิเคชั่น “ ทีมเมืองประจวบฯ”ที่มีสมาชิกกว่า 400 คน กล่าวว่า การทำโครงการดังกล่าวมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากมีการเปิดรับฟังความเห็น นอกากนั้นโครงการนี้เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 แต่ผู้รับจ้างเพิ่งนำป้ายมาติดตั้งให้ประชาชนรับทราบบริเวณริมถนนมหาราช 1 ด้านหน้าสำนักงานการประปาส่าวนภูมิภาค ที่สำคัญมีการกำหนดแนวทางการปรับปรุงร่องประดู่ในสัญญาจ้าง คลาดเคลื่อนจากพื้นที่จริง เนื่องจากจุดที่มีการก่อสร้างเป็นร่องทศกัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีการออกเอกสารสิทธิ์ทับลำรางธรรมชาติเทศบาลเมืองฯไม่สามารถใช้งบขุดลอกได้

ขณะที่ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช อดีต สส.เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับกรมชลประทานจะมีการสำรวจเพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ที่ ต.ร่อนทอง และ ต.ทองมงคล เพื่อการป้องกันน้ำท่วมและแก้ไขภัยแล้งในระยะยาว ขณะที่เมื่อหลายปีก่อนประชาชน ต.ทองมงคล เสนอให้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำไทรทองใช้งบ 850 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ยินยอมให้กรมชลประทานใช้พื้นที่ป่าไม้

ทั้งที่มีการใช้งบประมาณทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ อีไอเอ เสร็จสิ้นแล้วนานหลายปี ล่าสุดได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบว่า หากดำเนินการล่าช้าประชาชน หมู่ 6 ต.ทองมงคลจะไม่ยินยอมให้มีการเวนคืนที่ดิน เนื่องจากขณะมีการปลูกสวนยางพาราเต็มพื้นที่ นอกจากนั้นหากทำโครงการล่าช้ากรมชลประทานจะต้องใช้ทำ อีไอเอ. ฉบับใหม่ ขณะที่ปัญหาน้ำท่วม อ.บางสะพาน รุนแรงสุดในรอบ 50 ปี มีมูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 26/01/2017 10:58 pm    Post subject: Reply with quote

สามารถ ถามจี้ รมว.คมนาคม จะปล่อยประมูลรถไฟทางคู่ ส่งล็อกสเปกอีกหรือ
โดย ไทยรัฐออนไลน์
26 มกราคม 2560 เวลา: 14:57

ซี 7 ยื่นนายกฯ เอาผิด รมว.คมนาคม-ปลัดฯ นิ่งเฉย ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่
เขียนโดยisranews
เขียนวันที่ วันพุธ ที่ 25 มกราคม 2560 เวลา 10:30 น.


ซี 7 สนข. ยื่นร้อง บิ๊กตู่ สอบ รมว.-ปลัดฯ คมนาคม กรณีไม่ชี้แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่ หลังสำนักนายกฯ ระบุเป็นอำนาจรัฐมนตรี ยันไม่เคยมีหนังสือตอบกลับแม้แต่ฉบับเดียว

สืบเนื่องจาก กรณีการจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ที่ ดร.อรุณ อังศุยานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง ได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงคมนาคม ขอทราบคำชี้แจงกรณีขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้บริหาร สนข. หลังจากเวลาล่วงเลยไปกว่า 200 วัน นับจากวันที่มีหนังสือแจ้งข่าวให้ทราบอย่างเป็นทางการ เมื่อ 30 พ.ค. 2559 ทว่า ปลัดฯ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหามีมูลความผิดจริงหรือไม่ อย่างไร ได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว ในแต่ละขั้นตอนดำเนินการอย่างไร มีกำหนดเวลาดำเนินการแล้วเสร็จกี่วัน และเพราะเหตุใดถึงไม่ยอมตอบกลับหนังสือ ตลอดจน หากผู้มีอำนาจหน้าที่ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งแล้ว จะมีโทษตามกฎหมายหรือระเบียบใด เป็นประการใด และมากน้อยเพียงใด (อ่านประกอบ : 200 วันยังไม่คืบ!ซี 7 สนข.โวย ปลัด'คมนาคม' ไม่แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่)

ล่าสุด ดร.อรุณ อังศุยานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2559 ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกฯ ขอพิจารณาดำเนินการสอบสวนเพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 157 ต่อปลัดกระทรวงคมนาคม และรมว.คมนาคม ที่ไม่ดำเนินการใดๆในเรื่องดังกล่าว

“เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา ผมได้มีหนังสือแจ้งไปยังนายกฯ และปลัดสำนักนายกฯ แล้วว่าเนื่องจาก รมว.คมนาคม ก็นิ่งเฉย ไม่ยอมดำเนินการอะไรด้วย (ดูตารางประมวลการปฏิบัติงาน) ผมจึงขอให้นายกฯ และปลัดสำนักนายกฯ พิจารณาเอาโทษทางอาญา รมว.คมนาคม และปลัดกระทรวงฯ ต่อไปด้วยแล้ว" นายอรุณ กล่าว

โดยหนังสือฉบับดังกล่าวระบุด้วยว่า รมว.คมนาคม มิเคยตอบกลับหนังสือเลยแม้แต่ฉบับเดียวนับตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวตรวจสอบการทุจริตฯ เมื่อ 30 พ.ค. 2559 จนถึงปัจจุบัน

หนังสือของ ดร.อรุณระบุว่า เพื่อให้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นของกระทรวงคมนาคมได้รับการแก้ไขให้เกิดผลในเชิงรูปธรรม เห็นสมควรขอให้พิจารณานำเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อทราบการปฏิบัติงานของปลัดกระทรวงคมนาคม และ รมว.คมนาคม ต่อข่าวการทุจริตโครงการข้างต้น รวมทั้ง เพื่อพิจารณาดำเนินการเอาโทษทางอาญากับปลัดกระทรวงคมนาคมและ รมว.คมนาคม ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย


โดยวันเดียวกันนี้ นายอรุณได้มีหนังสือขอแจ้งผลการพิจารณาของสำนักนายกฯ ถึง รมว.คมนาคม และปลัดฯ ด้วย ระบุสาระสำคัญว่า เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการจึงใคร่ขอถือโอกาสนี้แจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการถึงผลการพิจารณาของปลัดสำนักนายกฯ ข้างต้นในอีกวาระหนึ่ง และประมวลการปฏิบัติงานของปลัดฯ คมนาคม พร้อมพยานเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ประมวลการปฏิบัติงานของปลัดฯ คมนาคมดังกล่าวนี้ สามารถใช้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ได้ว่า ปลัดฯ คมนาคม มีพฤติการณ์เพิกเฉยต่อการประพฤติของ ผู้บริหาร สนข. และข้าราชการที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่องถึง 140 วัน เป็นที่น่าสังเกตว่า ปลัดฯ คมนาคม มิเคยให้มีการแสวงหาข้อเท็จจริงจากตนเลย มีแต่การแสวงหาข้อเท็จจริงจาก สนข. เพียงด้านเดียว และยังไม่มีการชี้มูลความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้เลยแม้แต่รายเดียวอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรารายงานแล้วว่า เมื่อ 14 ธ.ค. 2559 นายไพโรจน์ งามจรัส ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มีหนังสือถึง ดร.อรุณ ระบุกรณีร้องเรียนดังกล่าว กองการเจ้าหน้าที่ได้รับมอบหมายจากปลัดฯ คมนาคม ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการดำเนินการทางวินัย เพื่อตรวจสอบข้ออ้างหรือข้อกล่าวหา ก่อนจะพิจารณาเสนอว่าสมควรที่จะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไปหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเป็นกระบวนการที่ถูกต้องเป็นไปตามแนวทางของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 หมวด 7 การดำเนินการทางวินัยและเป็นไปตามกฎ ก.พ. ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น หากผลพิจารณาแล้วเสร็จเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดย สำนักนายกฯ ได้มีหนังสือแจ้งกระทรวงฯ ให้เป็นผู้แจ้งผลการพิจารณาไปยังสำนักนายกฯ ดังนั้น หากผลพิจารณาแล้วเสร็จเป็นประการใด กระทรวงฯ จะดำเนินการแจ้งไปยังสำนักนายกฯ ตามหน้าที่ต่อไป

//----------

200 วันยังไม่คืบ!ซี 7 สนข.โวย ปลัด'คมนาคม' ไม่แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่
เขียนโดยisranews
เขียนวันที่ วันอาทิตย์ ที่ 25 ธันวาคม 2559 เวลา 17:39 น.


ขรก. ซี 7 สนข. โวยปลัดฯ คมนาคม ไม่แจงผลสอบปมจ้างที่ปรึกษาโครงการรถไฟรางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่ หลังล่วงเลยเวลากว่า 200 วัน ไร้คืบหน้า ล่าสุด ร้องขอความเป็นธรรมนายกฯ อาจเข้าข่ายละเว้น

สืบเนื่องจาก ดร.อรุณ อังศุยานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สังกัดกลุ่มมาตรฐานระบบราง สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านสำนักเลขาธิการนายกฯ กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกผู้อำนวยการ สนข. มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ฝ่ายพัฒนาระบบการจราจรทางบก กองจัดระบบการจราจรทางบก เมื่อ 30 มิ.ย. 2559 หลังจากเรื่องอื้อฉาวกรณีจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สนข. ซึ่งมีข้าราชการ 53 รายเกี่ยวข้อง แต่ผู้บังคับบัญชากลับไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริง (อ่านประกอบ : ซี 7 ยื่นร้องนายกฯโดน ย้ายไม่เป็นธรรม ปมปูดจ้างที่ปรึกษารถไฟฯ 117.6 ล.)

ล่าสุด นายอรุณ อังศุยานนท์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อวันที่ 20 และ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึง ปลัดกระทรวงคมนาคม โดยขอทราบคำชี้แจงในประเด็นข่าวการทุจริตการจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ เนื่องด้วยเป็นวิศวกรโยธาโดยอาชีพ จึงไม่มีพื้นความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ได้อย่างกระจ่างแจ้ง โดยความเข้าใจของตน นั้น การดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการที่ประพฤติทุจริตต่อหน้าที่ต้องผ่าน 5 ขั้นตอนหลัก (แจ้งข้อ กล่าวหา-แสวงหา สืบสวนข้อเท็จจริง ชี้มูลความผิด-สอบสวนทางวินัย-ลงโทษทางวินัย) จึงขอให้พิจารณาชี้แจงให้เข้าใจด้วยว่า

ในแต่ขั้นตอนประกอบด้วยขั้นตอนย่อยใดบ้าง มีกำหนดเวลาดำเนินการแล้วเสร็จกี่วัน ตลอดจน หากผู้มีอำนาจหน้าที่ละเว้น ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งแล้ว จะมีโทษตามกฎหมายหรือระเบียบใด เป็นประการใด และมากน้อยเพียงใด และได้แนบตารางประมวลผลการปฏิบัติงานปลัดกระทรวงคมนาคมต่อกรณีไปด้วย 1 ชุด โดยให้ชี้แจงให้เข้าใจด้วย (ดูเอกสารประกอบ)

“หลังจากเวลาได้ล่วงเลยไปกว่า 200 วันแล้ว นับจากวันที่ผมมีหนังสือแจ้งข่าวให้ทราบอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 30 พ.ค. 2559 เหตุใดปลัดฯ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหามีมูลความผิดจริงหรือไม่ อย่างไร แล้วระยะเวลายังไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินการอีกหรือ ยังต้องการเวลาอีกมากน้อยแค่ไหน เพราะเหตุใด และได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ใช้เวลาเกินกรอบที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้ในข้อ 1 หรือไม่ เหตุที่ไม่ยอมตอบหนังสือเลย แสดงว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นในการประพฤติทุจริตของ ผู้บริหาร สนข. มาตั้งแต่ต้นใช่หรือไม่ หรือเห็นด้วยกับคำชี้แจงของ ผู้บริหาร สนข. แต่เพียงฝ่ายเดียว” นายอรุณ กล่าว


อย่างไรก็ตาม นายอรุณ ทิ้งท้ายว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 13 ธ.ค. 2559 ได้ทำหนังสือถึงนายกฯและปลัดสำนักนายก แจ้งผลการติดตามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผู้บริหารของ สนข. และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ระบุสาระสำคัญว่า ปลัดฯ คมนาคมไม่ให้ความสนใจ แม้แต่จะแจ้งผลการพิจารณาฯ ใดให้รับทราบ ทั้งนี้ การที่ปลัดฯ ได้ทราบความทั้งหมดมาแต่เริ่มแรกแล้ว แต่นิ่งเฉย เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โยมิชอบ ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือไม่ จึงใคร่ขอให้พิจารณา ดังนี้

1.กราบเรียนหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี เพื่อทราบผลการปฏิบัติงานของปลัดกระทรวงคมนาคม ต่อกรณีข่าวทุจริตโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่

2.การดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อกล่าวโทษทางอาญากับปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานความผิดมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และ

3.มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อขอทราบผลการพิจารณาดำเนินการแล้ว ขอให้ท่านแจ้งผลการพิจารณาฯ ดังกล่าว ให้กระผลทราบโดยด่วนด้วย (ดูเอกสารประกอบ)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ดำรงตำแหน่งเป็น ปลัดกระทรวงคมนาคม
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 30/01/2017 6:49 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เคาะราคาประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางใน 1 มี.ค. คาดเซ็นสัญญา 26 มี.ค.นี้
โดย คคฦ/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
จันทร์ที่ 30 มกราคม 2560 14:52:32 น.
เปิดยื่นซอง‘ทางคู่’5เส้นทาง การรถไฟฯยันประมูลเสร็จ พร้อมลงนามจ้าง26 มีค.นี้
แนวหน้า
วันอังคาร ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้างานโครงการรถไฟทางคู่ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกวดราคา รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเปิดให้เอกชนยื่นซองประมูล ในวันที่ 3 ก.พ.นี้ จากนั้นพิจารณาคุณสมบัติ และเปิดเคาะราคาในวันที่ 1 มี.ค. 60 ซึ่งตามแผนจะลงนามสัญญาในวันที่ 26 มี.ค.60 พร้อมกันทั้ง 5 เส้นทาง

อนึ่ง โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางดังกล่าว ได้แก่
ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,853.18 ล้านบาท,
ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,249.90 ล้านบาท
ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,036.53 ล้านบาท
ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,840.54 ล้านบาท และ
ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงิน 10,301.95 ล้านบาท

ส่วนอีก 9 เส้นทาง ได้แก่
ชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 23,384.91 ล้านบาท,
สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา วงเงิน 51,823.83ล้านบาท,
หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 7,941.80 ล้านบาท,
ปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 56,066.25 ล้านบาท,
เด่นชัย-เชียงใหม่ วงเงิน 59,924.24 ล้านบาท ,
ขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 26,065.75 ล้านบาท,
ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 35,839.74 ล้านบาท,
รถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 76,978.82 ล้านบาท,
บ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 60,351.91 ล้านบาท

บอร์ดร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ได้เห็นชอบแล้ว และเตรียมเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติต่อไป

--อินโฟเควสท์

อ่านต่อได้ที่ :


Last edited by Wisarut on 03/02/2017 12:31 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 02/02/2017 11:42 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดชื่อ 5 ตัวเต็งกลุ่มรับเหมาฯ จ่อยื่นซองประมูลรถไฟทางคู่วันนี้!
2 กุมภาพันธ์ 2560 16:09:00
ผู้เข้าชม : 188 ครั้ง

5 ตัวเต็งกลุ่มรับเหมาฯ CK-ITD-STEC-UNIQ-NWR จ่อยื่นซองประมูลรถไฟทางคู่วันนี้! หลังรฟท. เปิดยื่นซองประมูลสถานีรถไฟ 5 เส้นทาง ประกาศผลผู้ชนะวันที่ 20-24 มี.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดให้เอกชนยื่นซองประมูลก่อสร้างสถานีรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ในวันนี้ (3 ก.พ.) โดยช่วงเช้า เวลา 10.00- 12.00 น.จะเปิดให้ยื่นประมูลเส้นทาง

ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,853.18 ล้านบาท,
ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,249.90 ล้านบาท
ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,036.53 ล้านบาท
ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,840.54 ล้านบาท และ
ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงิน 10,301.95 ล้านบาท

ทั้งนี้จะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและผ่านข้อเสนอด้านเทคนิค เป็นผู้มีสิทธิเสนอราคาในวันที่ 20 ก.พ. 60 จากนั้นจะเปิดเคาะราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในวันที่ 1 มี.ค.60 ประกาศผลผู้ชนะประกวดราคาผ่านทางเว็บไซต์ ร.ฟ.ท.และกรมบัญชีกลาง ระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2560 ลงนามในสัญญาพร้อมกัน 26 มีนาคม 2560

โดยก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการ รฟท. เปิดเผยว่า เอกชนผู้รับเหมา 36 รายเข้าซื้อซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง โดยมีผู้รับเหมารายใหญ่ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เข้าซื้อซองประมูลครบคู่ทั้ง 5 เส้นทาง 21 ราย ได้แก่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ,บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาช
น) หรือ ITD ,บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ,บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ,บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR

ส่วน บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT ซื้อเพียง 2 เส้นทาง คือ เส้นทางช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ และ ช่วงนครปฐม-หัวหิน , บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE ซื้อซองประมูล 4 เส้นทาง คือ ช่วงนครปฐม-หัวหิน, ช่วงหัวหิน-ประจวบ, ช่วงประจวบ-ชุมพร และ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ

อนึ่ง โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางดังกล่ว ได้แก่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,449 ล้านบาท มีจำนวนผู้เข้าซื้อซองประมูล 23 ราย ด้านโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. วงเงิน 24,722 ล้านบาท มีจำนวนผู้เข้าซื้อซองประมูล 28 ราย

อีกทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม. วงเงิน 19,271 ล้านบาท มีจำนวนผู้เข้าซื้อซองประมูล 31 ราย ,โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 9,990 ล้านบาท มีจำนวนผู้เข้าซื้อซองประมูล 31 ราย และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงประจวบคีรีขันธ์- ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 16,500 ล้านบาท มีจำนวนผู้เข้าซื้อซองประมูล 31 ราย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 149, 150, 151 ... 388, 389, 390  Next
Page 150 of 390

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©