รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Mongwin]

รถไฟดึงผู้รับเหมา 32 ราย เซ็นสัญญาคุณธรรมทางคู่นครปฐม-หัวหิน คาดได้ตัวเอกชน ก.ค.นี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 28 มิ.ย. 2560 เวลา 16:38:26 น.

ร.ฟ.ท.ลงนามสัญญาลงนามสัญญาคุณธรรมทางคู่นครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 คาดได้ตัวเอกชน ก.ค.นี้ อาณัติสัญญาณออกประกวดราคา อีก 4 เดือน ประมูลอินเตอร์บิด ชงทางคู่เฟส 2 ส่งคมนาคม

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา รถไฟได้ลงนามสัญญาข้อตกลงคุณธรรม (Integrity pact) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 170 กิโลเมตร วงเงิน 19,269 ล้านบาท จะเริ่มในสัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กิโลเมตร วงเงิน 8,390.09 ล้านบาท เนื่องจากมีวงเงินลงทุนสูง

"การลงนามข้อตกลงคุณธรรมในครั้งนี้เป็นการร่วมมือจาก 3 ฝ่าย ได้แก่ ร.ฟ.ท., เอกชนจำนวน 32 ราย และผู้สังเกตการณ์อิสระ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีความโปร่งใส ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น สามารถตรวจสอบได้หากเอกชนที่ไม่มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ก็ไม่สามารถเสนอแบบการก่อสร้างสัญญานี้ให้กับการรถไฟได้" นายอานนท์กล่าวและว่า

ทั้งนี้ โครงการทางคู่ 5 เส้นทาง มี 10 สัญญา ขณะนี้ขายเอกสารประกวดราคาครบทุกสัญญาแล้ว คาดว่าจะได้ตัวเอกชน สัญญาที่ 1 ประมาณ ก.ค.2560 ส่วนสัญญาที่เหลือคาดว่าประมาณต้นเดือน ก.ย.2560 อย่างไรก็ตามสัญญาระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 3 สัญญา อยู่ในระหว่างการจ้างที่ปรึกษาดำเนินการเอกสารประกวดราคา คาดว่า 3-4 เดือน จะสามารถออกประกวดราคาได้

"คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม เป็นการประมูลแบบอินเตอร์บิด ต้องใช้เวลาอีกนิด เนื่องจากต้องร่างเอกสารประกวดราคาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่าไม่ส่งผลกระทบโครงการ ต้องให้งานโยธาเริ่มไปสัก 6-8 เดือน งานระบบอาณัติสัญญาณถึงจะเริ่มได้" นายอานนท์กล่าวและว่า

ทั้งนี้โครงการทางคู่ระยะทางที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่
ปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงิน 56,056.80 ล้านบาท,
จิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กม. วงเงิน 35,836 ล้านบาท,
ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 174 กม. วงเงิน 26,057 ล้านบาท,
ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 23,379.05 ล้านบาท,
สุราษฎร์ธานี-สงขลา ระยะทาง 339 กม.วงเงิน 51,818 ล้านบาท,
หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,940 ล้านบาท,
เด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 217 กม. วงเงิน 59,916.79 ล้านบาท และ
รถไฟสายใหม่เด่นชัย-เชียงของ ระยะทาง 217 กม. วงเงิน 76,980 ล้านบาท และ
บ้านไผ่-นครพนมระยะทาง 355 กม. วงเงิน 60,353 ล้านบาท

ขณะนี้ส่งไปยังกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้ว เหลือเส้นทาง เด่นชัย-เชียงใหม่ และหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ที่กำลังศึกษาความเหมาะสม หลังจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะขอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอ ครม.อนุมัติโครงการ จากนั้นถึงจะประกวดราคาใช้เวลา ประมาณ 3 เดือน ต่อไปแนวทางเอกสารประกวดราคายึดตามแบบทางคู่ 5 เส้นทาง

https://www.facebook.com/pr.railway/posts/1774299782584885

[Wisarut]

^^^
ร.ฟ.ท.ทยอยเสนอทางคู่เฟส 2 ชง ครม. คาดประกาศทีโออาร์ประมูลปลายปีนี้
โดย MGR Online
28 มิถุนายน 2560 16:56 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2560 18:03 น.)


ร.ฟ.ท.เสนอรถไฟทางคู่เฟส 2 และสายใหม่เตรียมชง ครม.รวม 7 สาย คาดเปิดประมูลภายใน 3 เดือนหลัง ครม.อนุมัติ หรือภายในปลายปีนี้ พร้อมเร่งจ้างที่ปรึกษา ร่างทีโออาร์ประมูลระบบอาณัติสัญญาณ 3 สัญญาของ 5 เส้นทางเดิม

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ได้เสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะ 2 และรถไฟทางคู่สายใหม่รวม 7 สาย ไปยังกระทรวงคมนาคมแล้วเมื่อกลางเดือน มิ.ย.ซึ่งจะเข้าสู่ขั้นตอนการสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ คาดว่าจะออกทีโออาร์ประมูลได้หลัง จาก ครม.อนุมัติ ประมาณ 3 เดือน หรือภายในสิ้นปีนี้

โดย 7 สายที่คมนาคมเสนอแล้ว ได้แก่
รถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 23,384.91ล้านบาท,
ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา วงเงิน 51,823.83 ล้านบาท,
ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 56,066.25 ล้านบาท,
ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 76,978.82 ล้านบาท,
ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 26,065.75 ล้านบาท,
ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 35,839.74 ล้านบาท และ
ช่วงบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 60,351.91 ล้านบาท

ส่วนอีก 2 สาย คือ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ วงเงิน 59,924.24 ล้านบาท และช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 13,271.20 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอตามไปเร็วๆ นี้

โดยวันนี้ (28 มิ.ย.) ร.ฟ.ท.ได้ลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล โดยเป็นสัญญา 3 ฝ่ายระหว่าง ร.ฟ.ท.-ผู้ประกอบการที่จะเสนอราคา-ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยสัญญาที่ 1 มีเอกชนซื้อเอกสารประมูลไป 34 ราย แต่มาร่วมลงนาม 32 บริษัท ส่วนอีก 2 ราย คือ บริษัท EMRAIL SDN BHD และบริษัท ชิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด ไม่ประสงค์จะลงนาม ทำให้ไม่มีสิทธิ์ยื่นประมูล

ส่วนรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางซึ่งแบ่งงานโยธา ออกเป็น 10 สัญญา ขณะนี้ได้นำทีโออาร์ลงเว็บไซต์ครบแล้ว และคาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างครบในต้นเดือน ก.ย.ส่วนงานระบบอาณัติสัญญา แบ่งเป็น 3 สัญญา สายเหนือ, สายอีสาน, สายใต้ โดยจะประมูลแบบนานาชาติ (International Bidding) ซึ่งอยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษาทำทีโออาร์ แล้วเสร็จใน 3-4 เดือนนี้ โดยงานอาณัติสัญญาณจะเข้าพื้นที่หลังงานโยธาเริ่มwปแล้ว 6-8 เดือน

[Mongwin]

[Wisarut]

รักษาการผู้ว่า ร.ฟ.ท.ยันประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ไม่มีการล็อกสเปก
โดย MGR Online

1 กรกฎาคม 2560 15:44 น.
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวงในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ล่าสุด ร.ฟ.ท.ขายเอกสารประกวดราคาแล้ว 10 สัญญา ซึ่งจากการติดตามพบว่า มีเอกชนให้ความสนใจหลายราย ดังนั้นจึงคาดว่าจะได้ตัวผู้รับเหมาภายในเดือน ก.ย.นี้ และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ต.ค.60

นายอานนท์ ยืนยันว่า การประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ไม่มีการล็อกสเปกตามที่มีกระแสข่าวเผยแพร่ออกมาอย่างแน่นอน ทุกขั้นตอนปฏิบัติตามข้อแนะนำของคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ ซุปเปอร์บอร์ด อีกทั้งยังมีผู้สังเกตุการณ์จากหน่วยงานอิสระเข้ามาร่วมสังเกตุการณ์

[Wisarut]

ปี 64 ไทยมีรถไฟทางคู่ครบทั่วประเทศ
จิรศักดิ์ ชื่นณรงค์ ถ่ายภาพ
ณปภัช จันทร์อุดม TNN ช่อง 16 รายงาน
2 กรกฎาคม 2560 , 19.16 น.


กระทรวงคมนาคม เดินหน้าพัฒนาขนส่งทางราง โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งคนและสินค้า โดยเพิ่มสัดส่วนจากร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 5 เนื่องจากระบบขนส่งรางถือเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุด โดยวันนี้ทีมข่าว TNN ช่อง 16 จะพาติดตามความคืบหน้าของโครงการ

ระบบการขนส่งทางรางในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 2 และตัวเลขหยุดนิ่งไม่ขยับมานาน เนื่องจากรางเป็นรางเดี่ยว ใช้ทั้งการขนส่งคนและสินค้า ความล่าช้า ไม่ตรงต่อเวลาจึงเป็นปัญหาที่ไม่อาจแก้ได้ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. จึงได้เดินหน้ารถไฟทางคู่ ขนานกับเส้นเดิม 2 เฟส 14 เส้นทาง และทำ เส้นใหม่ 2 เส้นทาง

สำหรับเฟส 1 มี 7 เส้นทาง เริ่มมีการก่อสร้างแล้ว 2 เส้นทาง คือ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ส่วนที่เหลือ 5 เส้นทาง มีการแยกสัญญา เป็นงานโยธา 10 สัญญา และงานระบบอาณัติสัญญาณ 3 สัญญา แต่ละสัญญาวงเงินไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าร่วมประมูลได้ ตามคำสั่งของซุปเปอร์บอร์ด โดยเบื้องต้นงานโยธา 8 สัญญาได้เริ่มขายซองประกวดราคาแล้ว โดยมีผู้สนใจกว่า 30 ราย ส่วนสัญญาอื่นๆ กำลังทยอยขายซองประมูล และยื่นซองประกวดราคาในเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาได้ในต้นเดือนกันยายน-ตุลาคม ปีนี้

สำหรับ เฟส 2 มีด้วยกัน 7 เส้นทาง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ มีระยะทางรวม 1,483 กิโลเมตร วงเงินลงทุนกว่า 276,000 ล้านบาท ซึ่งรฟท.ได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว เพื่อส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการ รวมถึงซุปเปอร์บอร์ดเพื่อขอความเห็นรูปแบบประมูล คาดว่าจะประมูลได้ในปลายปีนี้ ซึ่งทั้ง 2 เฟส จะทำให้รถไฟเป็นทางคู่ครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วประเทศ โดยจะแล้วเสร็จทั้งหมดปี 2564 และจะทำให้สัดส่วนการขนส่งทางรางเพิ่มเป็นร้อยละ 5 ของรูปแบบการขนส่งทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ สายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม โดย 2 เส้นทางมีความสำคัญในการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

ซึ่งการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนรูปแบบการเดินรถ จากเดิมที่ใช้คนควบคุม มาเป็นระบบอาณัติสัญญาณที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้การเดินรถได้ตรงเวลา และมีความปลอดภัย ขณะที่จุดตัดทางรถไฟจะมีการก่อสร้างเป็นรางยกระดับ รวมทั้งมีการสร้างรั้วตลอดแนวเส้นทาง พร้อมกันนี้มีแผนการจัดซื้อหัวรถจักร 50 หัว และขบวนรถ 186 ชุด เพื่อรองการขนส่งคนและสินค้าเพิ่มขึ้น

[Mongwin]

^^^
ปี 64 ไทยมีรถไฟทางคู่ครบทั่วประเทศ
TNN 24 Published on Jul 2, 2017

กระทรวงคมนาคม เดินหน้าพัฒนาขนส่งทางราง โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งคนและสินค้า โดยเพิ่มสัดส่วนจากร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 5 เนื่องจากระบบขนส่งรางถือเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุด


https://www.youtube.com/watch?v=3hSb-T1lyP8

----

ต้านรถไฟ ผ่าเมืองโคราช จี้แก้แบบทำทางยกระดับ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 03 ก.ค. 2560 เวลา 22:30:40 น.

กลายเป็นเรื่องร้อนแรงในขณะนี้สำหรับการลุกขึ้นมาคัดค้านการก่อสร้าง "รถไฟทางคู่" เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางจิระ นครราชสีมา ในช่วงผ่านตัวเมืองเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ระยะทาง 15 กิโลเมตร มีจุดตัดมากกว่า 15 จุด โดยหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการเมือง และภาคประชาชน ต่างออกมาเรียกร้องให้แก้ไขแบบการก่อสร้างใหม่เป็น "ทางยกระดับขึ้นข้างบน" แทนรางบนดิน

เนื่องจากการที่มีจุดตัดจำนวนมาก และการก่อสร้างกำแพงสูง 2 เมตร ปิดกั้นตลอดแนวเส้นทางรถไฟ จะส่งผลให้การจราจรติดขัดหนักขึ้นอีก และโคราชจะเป็น "เมืองอกแตก" รวมทั้งเกิดปัญหาน้ำท่วม

"สุรวุฒิ เชิดชัย" นายเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากล่าสุด สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ออกแบบทางรถไฟทางคู่เป็นแบบวิ่งภาคพื้นดิน และต้องสร้างกำแพงสูง 2 เมตร ปิดกั้นทางรถไฟทั้ง 2 ฝั่งตลอดช่วงทาง ทำให้เกิดการแบ่งเมืองโคราชเป็น 2 ฝั่ง คือเมืองฝั่งทางเหนือกับทางใต้ ทำให้โคราชเป็นเมืองอกแตก การสัญจรผ่านไปมาทั้งสองฝั่งลำบาก เพราะต้องสร้างสะพานข้ามหรือทำอุโมงค์ลอดทางรถไฟ

ทั้งนี้ ผลกระทบที่เห็นชัดเจน ได้แก่ 1.ความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชน เนื่องจากแบบการก่อสร้างรางรถไฟบนดินจะมีจุดก่อสร้างทางเกือกม้าตลอดแนวเส้นทางมากกว่า 10 จุด การเดินทางข้ามไป-มาจะเกิดความยากลำบาก 2.การก่อสร้างกำแพงสูง 2 เมตรกั้นขวางตลอดระยะเส้นทางตามแนวรางรถไฟทางคู่นั้นไม่สามารถระบายน้ำได้ดี จะเกิดปัญหาน้ำท่วมตามมา 3.ตัวเมืองโคราชจะถูกแบ่งเป็นสองฝั่งชัดเจน และ 4.ปัญหาการข้ามไปข้ามมาต้องใช้ระบบรถยนต์ ซึ่งจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยใช่เหตุในการวิ่งอ้อมเส้นทาง

"เรื่องนี้ต้องเรียนว่าทั้งเทศบาลหอการค้าสภาอุตสาหกรรม และประชาชนชาวโคราชก็เพิ่งทราบข้อมูลชัดเจนว่า มีแนวรั้วกำแพงกั้น 2 ฝั่ง อยากฝาก ร.ฟ.ท.ว่า พวกเราเป็นคนอยู่ในพื้นที่ต้องรับผลกระทบโดยตรงในระยะยาว ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมได้เข้าร่วมประชุมหารือ แต่ไม่ทราบในรายละเอียดตรงนี้เลย ประชาชน 2 ฝั่งทางรถไฟก็บอกตรงกันว่าไม่ทราบเหมือนกัน"

เช่นเดียวกับ "ชัชวาล วงศ์จร" ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ทำจดหมายถึงแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ขอให้แก้ไขการออกแบบก่อสร้างรถไฟทางคู่ หากไม่แก้ไขตั้งแต่ตอนนี้จะเป็นปัญหาระยะยาว

"เราไม่รู้เลยว่าจะต้องมีกำแพงกั้นสูง 2 เมตร ถ้ารู้แต่แรกเราคัดค้านแน่นอน พอมารู้ตอนนี้ก็เห็นผลกระทบอย่างหนักที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"

สำหรับข้อเสนอไปยัง ร.ฟ.ท.คือ การยกระดับรางรถไฟทางคู่เป็นทางออกทางเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ส่วนการลอดใต้ดินจะสิ้นเปลืองและใช้งบประมาณสูงมาก ฉะนั้นต้องยกระดับขึ้นข้างบน ซึ่งขอนแก่น อุดรธานีก็ทำการยกระดับ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาเฉพาะใน จ.นครราชสีมาอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาที่ผูกพันไปถึงจังหวัดใกล้เคียง และเส้นทางที่จะใช้คมนาคมเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั้งภาคอีสานตอนบนและอีสานตอนล่าง

ด้าน "อานนท์ เหลืองบริบูรณ์" รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงกรณีนี้ผ่านทางสถานีวิทยุ สวท.เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 60 ว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงที่ผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ถูกออกแบบให้เป็นทางรถไฟระดับดิน เนื่องจากสถานีรถไฟนครราชสีมาเป็นย่านใหญ่ และอยู่ห่างจากชุมทางถนนจิระเพียง 3 กิโลเมตร หากจะปรับรูปแบบให้เป็นทางยกระดับในช่วงดังกล่าว จะต้องยกระดับบริเวณสถานีจิระด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ค่าก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น

รวมทั้งหากปรับรูปแบบช่วงสถานีรถไฟนครราชสีมาให้เป็นทางยกระดับจะไม่มีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในอนาคต และจะไม่สามารถนำรถเข้าโรงรถจักรเพื่อซ่อมบำรุงได้ ที่สำคัญคือจุดตัดทางรถไฟในจังหวัดนครราชสีมานั้น มีระยะห่างกันค่อนข้างมาก ร.ฟ.ท.จึงออกแบบให้มีสะพานข้ามทางรถไฟ หรือถนนลอดใต้ทางรถไฟ หรือสร้างถนนคู่ขนานทางรถไฟ แล้วสร้างสะพานกลับรถรูปเกือกม้าทดแทนจุดตัดทางรถไฟ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน

สำหรับสถานะโครงการล่าสุด "ปฐตพงษ์ บุญแก้ว" ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า ได้ทำการออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผ่านขั้นตอนการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ผ่านคณะรัฐมนตรี ได้ทำการออกกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินแล้ว และได้ประกาศขายแบบวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2560 จะประกวดราคาและจัดทำสัญญาจ้างในเดือน ก.ค.นี้

คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างและลงนามในสัญญาในเดือนสิงหาคม จะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 29,667 ล้านบาท

การคัดค้านจะสำเร็จหรือไม่ยังต้องเกาะติดกันต่อไป แต่นับเป็นบทเรียนในการดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ไม่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรับรู้อย่างชัดเจนจนนำมาสู่การต่อต้านในช่วงที่จะลงมือก่อสร้างแล้ว

[Wisarut]

มทภ.2 ยันรถไฟทางคู่ผ่าเมืองโคราช วุ่นแน่ เตรียมส่งให้ รฟท.-สนข.ทบทวน
โดย ไทยรัฐออนไลน์
4 กรกฎาคม 2560 , 10:25

[Mongwin]

^^^
มทภ.2 ยันแบบรถไฟทางคู่ผ่าเมืองโคราช ต้องแก้ไขเป็นยกระดับ เตรียมเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในจังหวัด หารือร่วมกันก่อนเสนอให้ รฟท. และ สนข.พิจารณา
ทบทวน...

ภายหลังจากที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และตัวแทนภาคเอกชน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเรียกร้องขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ได้พิจารณาทบทวนแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น จุดผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งรูปแบบเดิมจะผ่านจุดตัดถนนจำนวน 15 จุด โดยมีกำแพงสูง 2 เมตรกั้นทั้งสองข้างทางรถไฟตลอดแนว และมีการแก้ปัญหาด้วยการก่อสร้างทางเกือกม้าและถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ 6 จุดแทน ซึ่งหลายหน่วยงาน อาทิ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ไม่เห็นด้วยกับรูปแบบนี้ เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาการจราจร กระทบวิถีชีวิตชาวโคราช และการพัฒนาเมืองในอนาคตทำได้ยากนั้น


ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค. 60) พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ในประเด็นที่มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งเทศบาลนครนครราชสีมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้ยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ทบทวนแบบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมานั้น ตนเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเท่าที่ดูแบบเดิมที่ สนข.ได้ออกแบบไว้ จะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เขตตัวเมืองนครราชสีมามาก ทั้งในเรื่องของปัญหาการจราจร การบริหารจัดการผังเมือง และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของเมืองโคราชมาก ดังนั้นหลายฝ่ายจึงเห็นควรที่จะให้แก้ไขเป็นทางยกระดับแทน แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็จะต้องมีการออกสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะช่วงนี้ก็ยังพอมีเวลาอยู่ เนื่องจากยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างอย่างเป็นทางการใดๆ ทั้งนี้สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นนี้ ถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาประเทศ ซึ่งมีประโยชน์มากกับประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา โดยหลังจากนี้ก็คงจะต้องมีการประชุมหารือกับทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันก่อนที่จะเสนอไปให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และ สนข.พิจารณาแก้ไขแบบก่อสร้างต่อไป.


[Mongwin]

กำหนดวันเสนอราคาโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 1
หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 27 ก.ค. 60
นครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม - หนองปลาไหล 10 ส.ค. 60
นครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน 10 ส.ค. 60
ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ ๑ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – บางสะพานน้อย 31 ส.ค. 60
ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ ๒ ช่วงบางสะพานน้อย – ชุมพร 31 ส.ค. 60
มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ ๑ ช่วงมาบกะเบา–คลองขนานจิตร 1 ก.ย. 60
มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร–ชุมทางถนนจิระ 1 ก.ย. 60
มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ 7 ก.ย. 60
ลพบุรี - ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ- โคกกะเทียม (ทางรถไฟยกระดับ) 7 ก.ย. 60
ลพบุรี - ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค - ปากน้ำโพ 4 ก.ย. 60

[Mongwin]

รูปแบบรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางหาดใหญ่-สงขลา จะสร้างตามแนวทางรถไฟเดิมที่ยกเลิกการเดินรถไป 40 ปีแล้ว

โดยจะเริ่มลงมือก่อสร้างปีหน้า (2561) ช่วงที่ผ่านเขตเมือง ทางรถไฟและอาคารสถานีจะเป็นแบบยกระดับ ส่วนที่เหลือจะเป็นทางรถไฟระดับดิน ใช้เขตทางด้านละ 10-15 เมตรนับจากแนวกึ่งกลางทางรถไฟเดิม (รวม 20-30 เมตร)

รอเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการปลายปีนี้ครับ เมื่อ ครม.อนุมัติโครงการแล้ว จึงจะเริ่มดำเนินการในส่วนของการประกวดราคา การโยกย้ายบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างในเขตก่อสร้างทางรถไฟต่อไป
สำหรับสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย จากการประชุมเมื่อเดือน มิ.ย. 59 อ่านได้ที่นี่ครับ ไฟล์ใหญ่ แต่เนื้อหาน่าสนใจ คลายข้อสงสัยได้เยอะครับ https://goo.gl/6ccEWP

ที่มา: https://www.facebook.com/songkhlastation/videos/1112236845543160


https://www.youtube.com/watch?v=570s_ElpOps