Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311286
ทั่วไป:13268294
ทั้งหมด:13579580
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 192, 193, 194 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/12/2017 11:30 am    Post subject: Reply with quote

เดินหน้าประเทศไทย มติคณะรัฐมนตรีฉบับประชาชน
MGR Online VDO Published on Dec 26, 2017
26/12/2017 เดินหน้าประเทศไทย มติคณะรัฐมนตรีฉบับประชาชน

นาทีที่ 6:10 พูดถึงรถไฟทางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ ปากน้ำโพ-เด่นชัย เด่นชัย-เชียงรายครับ
Arrow https://www.youtube.com/watch?v=4G-Z_IJABLc#t=6m10s


https://www.youtube.com/watch?v=4G-Z_IJABLc#t=6m10s
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/12/2017 11:58 am    Post subject: Reply with quote

รฟท. เตรียมลงนามสัญญาจ้างสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางพรุ่งนี้ เร่งสร้างไตรมาสแรกของปี 2561
ครอบครัวข่าว 3 วันที่ 27 ธันวาคม 2560

การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินหน้าลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน จำนวน 5 เส้นทาง วันพรุ่งนี้ พร้อมเร่งรัดเริ่มตอกเข็มสร้างภายในไตรมาสแรกของปี 61

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน (เฟสแรก) จำนวน 5 เส้นทางในวันพรุ่งนี้ จะเป็นการลงนามในเส้นทาง 1. ลพบุรี-ปากน้ำโพ , 2. มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ , 3. นครปฐม-หัวหิน , 4. หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ 5.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวมระยะทาง 668 กิโลเมตร

โดยรฟท. ได้มีการปรับจำนวนสัญญาจาก เดิม 5 สัญญาเป็น 13 สัญญา เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมประมูลได้มากขึ้นตามมติของ คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง และมีการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางดังกล่าวลงจากเดิม 101,748 ล้านบาท เป็น 98,984 ล้านบาท หรือปรับลดลง 2,764 ล้านบาท เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีการปรับลดราคากลางโครงการลง, ตัดค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ส่วนที่ไม่จำเป็นออก รวมทั้งมีการแบ่งสัญญาใหม่ให้เล็กลง

โดยหลังจากการลงนามในครั้งนี้แล้วคาดว่า ผู้รับเหมาจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 จากนั้น จะเดินหน้าประมูลรถไฟทางคู่เฟส 2 ต่ออีก 9 เส้นทาง ตั้งเป้าว่าในเดือน ก.พ.-มี.ค. 2561 กระทรวงคมนาคมจะสามารถทยอยเสนอทางคู่เฟส 2 ให้ครม.พิจารณาได้

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 กระทรวงคมนาคม มีแผนลงทุนขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ไว้ทั้งสิ้น 309,607 ล้านบาท แบ่งเป็นทางบก 152,162 ล้านบาท, ทางราง 96,203 ล้านบาท, ทางน้ำ 7,323 ล้านบาทและทางอากาศ 53,537 ล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนสำหรับโครงการใหม่จำนวน 1 แสนล้านบาท ยังไม่รวมโครงการที่ยกมาจากปีงบประมาณ 2560 เช่น โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทาง เป็นต้น

สำหรับประเด็นที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะปรับลดสเปคโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับญี่ปุ่น ให้เหลือเป็นรถไฟความเร็วปานกลาง นั้น นายอาคม กล่าวว่า จะดูความเหมาะสมและรายละเอียดผลการศึกษาของทางญี่ปุ่นว่า รถไฟในเส้นทางดังกล่าวควรจะใช้ความเร็วเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วถึง 300 กม./ ชม.ก็ได้ รวมถึงเมื่อเป็นรถไฟที่มีความเร็วสูงมาก ก็จะมีต้นทุนสูงมากด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าโครงสร้างพื้นฐานรางที่เป็นขนาดมาตรฐาน ความกว้าง 1.435 เมตร สามารถรองรับรถไฟความเร็วสูงได้อยู่แล้วซึ่งเรื่องนี้ต้องหารือกับทาง ญี่ปุ่น ก่อน โดยยืนยันว่า ขบวนรถไฟจะยังเป็นชินคังเซนเหมือนเดิม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2017 5:47 am    Post subject: Reply with quote

คสช.ปิดฉาก 3 มหากาพย์ “ทางคู่-ไฮสปีดจีน-เมล์ NGV” ฉลุย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 28 ธันวาคม 2560 - 10:00 น.

Click on the image for full size

“ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่รอมานาน “ประโยคสั้น ๆ ของเจ้ากระทรวงคมนาคม “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” พลันที่ผลักดันรถไฟทางคู่ระยะแรก 5 เส้นทาง ให้เซ็นสัญญาก่อสร้างได้แบบฉิวเฉียดก่อนสิ้นปี 2560

เซ็นรวดเดียวกว่า9 หมื่นล้าน

สำหรับรถไฟทางคู่มีการอนุมัติในภาพรวมทั้งประเทศเมื่อปี 2536 กว่า 2,700 กม. และได้รับการผลักดันกันมาอย่างยาวนาน โดยวันที่ 27 พ.ค. 2551 ครม.อนุมัติให้ “ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย”

เริ่มสร้าง 5 เส้นทางเร่งด่วน 702 กม. มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ประกอบด้วย

1.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 กม. 2.หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 90 กม. 3.มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กม.

4.ลพบุรี-ปากนํ้าโพ 148 กม. และ 5.นครปฐม-หัวหิน 165 กม.มาถึงรัฐบาลทหาร มีการเปิดประมูลแต่ต้องล้มกระดานใหม่ หลังมีข้อร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใส กีดกันรายย่อยปล่อยให้รายใหญ่ฮุบเค้ก


ทำให้ “ร.ฟ.ท.” ต้องกลับมาเขย่าสัญญาใหม่ซอยจากเดิม 5 สัญญา เป็น 13 สัญญา วงเงินรวม 98,984 ล้านบาท ลดจากเดิม 101,748 ล้านบาท ประมาณ 2,764 ล้านบาท ประกอบด้วย งานโยธา 9 สัญญา อุโมงค์ 1 สัญญา และงานระบบ 3 สัญญา เพื่อเปิดทางให้รับเหมาไทย-เทศเข้าร่วมประมูลได้มากขึ้น

ผลประมูล 10 สัญญา ได้แก่ สายนครปฐม-หัวหิน 2 สัญญา มีช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล “บจ. เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964)” ได้งาน 8,198 ล้านบาท และช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน “บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น” ชนะประมูล 7,520 ล้านบาท สายหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ “บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์” ชนะประมูล 5,807 ล้านบาท ส่วนสายลพบุรี-ปากน้ำโพ มี 2 สัญญา งานช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม

“กิจการร่วมค้า UN-SH” ประกอบด้วย บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชัน และ บจ. ซิโนไฮโดรฯ ได้งาน10,050 ล้านบาท เช่นเดียวกับช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ที่ บมจ.ยูนิคฯได้งานไปครอง 8,649 ล้านบาท สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร งานช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย “กิจการร่วมค้าเคเอส-ซี” ประกอบด้วย บจ. เค.เอส.ร่วมค้า และไชน่า เรลเวย์ฯ ได้งาน 6,465 ล้านบาท ส่วนช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร กิจการร่วมค้าเอสทีทีพี (บมจ.ซิโน-ไทยฯ-บจ.ไทยพีค่อนและอุตสาหกรรม) ได้งาน 5,992 ล้านบาท

สำหรับสายมาบกะเบา-จิระ งานช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร วงเงิน 7,560 ล้านบาท บมจ.อิตาเลียนไทยฯคว้างานแพ็กคู่กับงานอุโมงค์ 8 กม. ที่ผนึกกับ”บจ.ไรท์ทันเน็ลลิ่ง” ด้วยวงเงิน 9,290 ล้านบาท ทั้ง 5 สายจะตอกเข็มต้นแรกภายในไตรมาสแรกของปี 2561

แม้ว่าจะเคลียร์ฉลุยบางส่วนแล้วเสร็จ แต่ยังมีงานที่ตกค้างอยู่ที่ “อาคม” ต้องประมูลให้จบปีหน้า เป็นงานช่วง “สีคิ้ว-จิระ” มีปรับแบบให้เป็นทางยกระดับ 7 กม. วงเงิน 10,466 ล้านบาท หลังคนโคราชไม่ต้องการให้สร้างผ่ากลางเมือง ทำให้ ร.ฟ.ท.ต้องรื้อแบบช่วงนี้ใหม่

นอกจากนี้ ยังมีงานระบบอาณัติสัญญาณ 3 สัญญาต้องเร่งเครื่องไม่แพ้กัน แยกเป็นสายเหนือ ลพบุรี-ปากน้ำโพ 145 กม. วงเงิน 2,988 ล้านบาท

สายใต้ตลอดเส้นทางจากนครปฐม-ชุมพร 421 กม. จำนวน 1 สัญญา วงเงิน 7,384 ล้านบาท และสายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-จิระ 128 กม. วงเงิน 2,549 ล้านบาท จะทยอยประกวดราคาต่อไป โดยจะทยอยเปิดบริการเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2563 จนครบในปี 2564

คิกออฟไฮสปีดเทรนสายแรก

“รถไฟความเร็วสูง” เป็นอีกโครงการที่ใช้เวลาผลักดันมานานและหลายรัฐบาล จนมาได้เริ่มต้นในรัฐบาลปัจจุบัน ในเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. เงินลงทุน 179,412 ล้านบาท เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีน ที่มีการเซ็นบันทึกความเข้าใจร่วมกันเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2557 ใช้เวลาร่วม 3 ปีในการเจรจา ออกแบบรายละเอียด จนมาสำเร็จวันที่ 21 ธ.ค. 2560 เริ่มต้นงานคันดิน 3.5 กม.

จากกลางดง-ปางอโศก วงเงิน 425 ล้านบาท เป็นจุดเริ่มต้นโครงการรถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศไทย

งานนี้ “ร.ฟ.ท.” จ้าง “กรมทางหลวง” เป็นผู้เนรมิตโครงการให้เสร็จ กลางปี 2561 จากนั้นจะทยอยสร้างส่วนที่เหลือ จะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี แต่ด้วยเป็นรถไฟระบบใหม่ที่ประเทศไทยยังไม่เคยมีมาก่อนจึงต้องใช้เวลาทดสอบระบบ คาดว่าจะเปิดบริการได้ปี 2566

พร้อมกับขยายเส้นทางให้ไปถึงหนองคาย เชื่อมกับรถไฟลาว-จีนที่เวียงจันทน์ หากสำเร็จได้ดังหวัง จะเป็นรถไฟเชื่อมความสัมพันธ์การค้า และท่องเที่ยว 3 ประเทศ “ไทย-ลาว-จีน”

ล้างอาถรรพ์รถเมล์ NGV

“รถเมล์ NGV” นับเป็นโครงการค้างฟ้าบนบ่าของคมนาคมที่ใช้เวลาผลักดันกันมาร่วม 11 ปี ตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทยไหลมาเพื่อไทย จนมาถึง “รัฐบาล คสช.” ที่ชำแหละโครงการจาก 3,183 คัน วงเงิน 13,216 ล้านบาท ประเดิมจัดซื้อ 489 คันแรกเป็นการนำร่อง ถึงจะล้มประมูลอยู่หลายครั้ง แต่ก็มาหยุดสุดท้ายที่ครั้งที่ 8 หลังกิจการร่วมค้า SCN-CHO ประกอบด้วย บมจ.สแกนอินเตอร์ และ บมจ.ช ทวี ชนะประมูลได้ด้วยวงเงิน 4,260 ล้านบาท สูงกว่าราคาอยู่ 5-6% จนเซ็นสัญญากันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อ 27 ธ.ค. 2560

หากไม่มีคลื่นแทรกจนทำให้โปรเจ็กต์รวน จะส่งมอบรถ 100 คันแรกภายในเดือน มี.ค. 2561 ออกวิ่งบริการก่อนวันเปิดเทอม ส่วนที่เหลือจะทยอยตามมาจนครบทั้งหมด

หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยโครงการติดตั้งระบบ e-Ticket พ่วงเครื่องเก็บค่าโดยสารหยอดเหรียญ (cash box) บนรถเมล์ 2,600 คัน ที่ ขสมก.ลงทุนไปจ้าง “ช ทวี” 1,665 ล้านบาท เมื่อถึงกำหนดของมาไม่ครบ แถมยังไม่พร้อมใช้งาน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2017 10:12 am    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่จะลงนามในสัญญาวันนี้ (28 ธ.ค. 60)

ลพบุรี-ปากน้ำโพ
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม (ทางรถไฟยกระดับ)ระยะทาง 29 กม. กิจการร่วมค้า UN-SH 10,050,000,000.00 บาท
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 8,649,000,000.00 บาท

มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 7,560,000,000.00 บาท
สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร–ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 70 กม. >> รอปรับแบบ คาดแบบเสร็จต้นปี 61
สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 8 กม. กิจการร่วมค้า ITD-RT 9,290,000,000.00 บาท

นครปฐม-หัวหิน
สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กม. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด 8,198,000,000.00 บาท
สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กม. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 7,520,000,000.00 บาท

หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 5,807,000,000 บาท

ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กม. กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี 6,465,000,000.00 บาท
สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร กิจการร่วมค้า ระยะทาง 80 กม. กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี 5,992,000,000.00 บาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 28/12/2017 12:10 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ลงนามก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวไทย
พฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560 11:19:33


รร.รอยัลปริ๊สเซส 28 ธ.ค. - รฟท.ลงนามก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 9 สัญญา กว่า 69,000 ล้านบาท ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีประกาศขับเคลื่อนการลงทุนเส้นทางรถไฟสายรอง หนุนการท่องเที่ยวเห็นผลชัดเจน 4-5 ปีข้างหน้า

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)และเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้าง

นายสมคิด กล่าวว่า การลงนามวันนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจากก่อตั้ง รฟท.และมีการพัฒนาระบบราง ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาต่อยอดเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ ๆ หลังจากที่ผ่านมาประเทศไทยพัฒนาระบบคมนาคมทั้งทางถนนและทางอากาศจำนวนมาก หลังจากนี้การก่อสร้างระบบรางให้นโยบายกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดทั้ง รฟท. กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ศึกษาแผนร่วมกันว่านอกจากเส้นทางรถสายหลักที่เป็นโครงข่ายทั่วประเทศแล้วจะมีการพัฒนาทางรถไฟสายรองเชื่อมเป็นเส้นเลือดฝอยไปจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ขอให้ศึกษาและชัดเจนโดยเร็ว เนื่องจากในอนาคตหากทำได้ก็จะมีส่วนให้ระบบรางเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและถือเป็นการปฏิรูประบบรางไปสู่ยุคใหม่ โดยขอให้บุคลากรของ รฟท.ช่วยกันดำเนินการ และมั่นใจว่าจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทิศทางที่ดีภายใน 4-5 ปีข้างหน้า

ขณะที่นายอาคม กล่าวว่า นอกจากโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ที่ลงนามวันนี้ ปี 2561 จะมีโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทาง ที่กระทรวงคมนาคมจะทยอยนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี โดยภายในไม่เกินเดือนมีนาคมคาดว่าจะนำเสนอได้ประมาณ 2 เส้นทาง ส่วนการศึกษาเพื่อต่อเชื่อมเส้นทางรถไฟสายรองที่จะเป็นเส้นเลือดฝอยเชื่อมต่อจังหวัดท่องเที่ยวตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีนั้น กระทรวงคมนาคมจะสรุปแผนทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2561 และเดินหน้าพัฒนาเส้นทางเหล่านี้ทันที ระยะเริ่มต้นมีพื้นที่เป้าหมายไม่ว่าการเชื่อมโยงรถไฟสายรองระหว่างพื้นที่อีสานเหนือและอีสานใต้ โดยอีสานตอนกลางก็สามารถสร้างโครงข่ายรถไฟสายรองได้ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวบริเวณจังหวัดสุโขทัยก็จะทำให้การเดินทางเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวเกิดความสะดวกมากขึ้น

สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 9 สัญญา ที่ลงนามวันนี้ ประกอบด้วย

โครงการ
รถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กม.
รถไฟทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 168 กม.
รถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน 169 กม.
รถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ 145 กม. และ
รถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
มูลค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 69,531 ล้านบาท เมื่อรวมกับ 2 เส้นทางเดิมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รฟท.จะมีเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้น 995 กม.จากปัจจุบันมีประมาณ 4,000 กม. หรือคิดเป็นเส้นทางเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6.-สำนักข่าวไทย


//-----------------------------------------------


รฟท. ลงนามสัญญาจ้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง มูลค่า 6.9 หมื่นลบ. เริ่มก่อสร้าง Q1/61 แล้วเสร็จปี 65
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560 10:29:50 น.

โดยรายละเอียดแต่ละสัญญา ได้แก่ 1. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กม. แบ่งออกเป็น สัญยาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิต วงเงิน 7,560,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 9,290,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 42 เดือน โดยมีบมจ. อิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ (ITD) และ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง

2. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 168 กม. แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบ-บางสะพานน้อย วงเงิน 6,465,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 33 เดือน และ สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย--ชุมพร วงเงิน 5,992,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า เคเอส-ซี และกิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง

3.งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม. แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล วงเงิน 8,198,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือนและสัญญาที่ 2 ช่วงหน่องปลาไหล-หัวหิน วงเงิน 7,520,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีบริษัท เอ เอส แอสโซซิเอส เอนยิเนียริ่ง 1964 จำกัด และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง

4. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี- ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กม. แบ่งออกเป็นสัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม วงเงิน 10,050,000,000 บาทระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน และ สัญญาที่ 2 ท่าแค-ปากน้ำโพ วงเงิน 8,649,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอสเอช และ บมจ .ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เป็นผู้รับจ้าง

5. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 5,807,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน โดยมี ITD เป็นผู้รับจ้าง

ภายหลังจากการลงนามแล้ว รฟท. จะให้ผู้รับจ้างเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วง Q1/61 และให้แล้วเสร็จตามแผนภายในปี 2565

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระรทรวงคมนาคม รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า หากการดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทางแล้วเสร็จ รฟท.จะมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 995 กม. หรือเพิ่มขึ้น 24.6% ของเส้นทางรถไฟทั้งประเทศ ซึ่งสามารถพลิกโฉมการขนส่งทางรถไฟได้อย่างชัดเจน เพราะจะทำให้มีความจุของทางรถไฟเพิ่ม สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว ขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น และสามารถเพิ่มความรวดเร็วและตรงต่อเวลาในการเดินขบวนรถไฟได้อีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2017 12:54 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟท.ลงนามก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวไทย
พฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560 11:19:33


Click on the image for full size

Arrow รายการทั่วฟ้าคมนาคมไทย

เซ็นแล้ว!!! รฟท.ลงนามก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 9 สัญญา “สมคิด” ประกาศขับเคลื่อนการลงทุนเส้นทางรถไฟสายรอง หนุนการท่องเที่ยวจังหวัดเห็นผลชัดเจน 4-5 ปีข้างหน้า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)และเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้าง

นายสมคิด กล่าวว่า การลงนามวันนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจากก่อตั้ง รฟท.และมีการพัฒนาระบบราง ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาต่อยอดเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ ๆ หลังจากที่ผ่านมาประเทศไทยพัฒนาระบบคมนาคมทั้งทางถนนและทางอากาศจำนวนมาก หลังจากนี้การก่อสร้างระบบรางให้นโยบายกระทวรงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดทั้ง รฟท. กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ศึกษาแผนร่วมกันว่านอกจากเส้นทางรถสายหลักที่เป็นโครงข่ายทั่วประเทศแล้วจะมีการพัฒนาทางรถไฟสายรองเชื่อมเป็นเส้นเลือดฝอยไปจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งขอให้ศึกษาและชัดเจนโดยเร็ว เนื่องจากในอนาคตหากทำได้ก็จะมีส่วนให้ระบบรางเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและถือเป็นการปฏิรูประบบรางไปสู่ยุคใหม่ โดยขอให้บุคลากรของ รฟท.ช่วยกันดำเนินการ และมั่นใจว่าจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทิศทางที่ดีภายใน 4-5 ปีข้างหน้า

ขณะที่นายอาคม กล่าวว่า นอกจากโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ที่ลงนามวันนี้ ปี 2561 จะมีโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทาง ที่กระทรวงคมนาคมจะทยอยนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี โดยภายในไม่เกินเดือนมีนาคมคาดว่าจะนำเสนอได้ประมาณ 2 เส้นทาง ส่วนการศึกษาเพื่อต่อเชื่อมเส้นทางรถไฟสายรองที่จะเป็นเส้นเลือดฝอยเชื่อมต่อจังหวัดท่องเที่ยวตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีนั้น กระทรวงคมนาคมจะสรุปแผนทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2561 และเดินหน้าเพื่อพัฒนาเส้นทางเหล่านี้ทันที ระยะเริ่มต้นมีพื้นที่เป้าหมายไม่ว่าการเชื่อมโยงรถไฟสายรองระหว่างพื้นที่อีสานเหนือและอีสานใต้ โดยอีสานตอนกลางก็สามารถสร้างโครงข่ายรถไฟสายรองได้ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวบริเวณจังหวัดสุโขทัยก็จะทำให้การเดินทางเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวเกิดความสะดวกมากขึ้น

สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 9 สัญญา ที่ลงนามวันนี้ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กม. การก่อสร้างรถไฟทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 168 กม. ทางคู่นครปฐม-หัวหิน 169 กม. ลพบุรี-ปากน้ำโพ 145 กม. และรถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีมูลค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 69,531 ล้านบาท เมื่อรวมกับ 2 เส้นทางเดิมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รฟท.จะมีเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้น 995 กม.จากปัจจุบันมีประมาณ 4,000 กม. หรือคิดเป็นเส้นทางเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6

----

สมคิดประกาศขับเคลื่อนลงทุนรถไฟสายรองหนุนท่องเที่ยว(คลิป)
เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560 เวลา 13.27 น.

“สมคิด” ไฟเขียวรฟท.ขยายการลงทุนเส้นทางรถไฟไปยังภูมิภาค โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟสายรอง หวังส่งเสริมการท่องเที่ยวคาดเห็นผลชัดเจนใน 4-5 ปีข้างหน้า  มอบหมายรฟท. ผนึกหน่วยงานศึกษาแผนให้เสร็จในปี 61 คาดทางคู่ 2 เส้นเข้าครม.ไม่เกินมี.ค.นี้  

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการเป็นสักขีพยานการลงนามจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)และเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างว่าว่า การลงนามวันนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจากก่อตั้ง รฟท.และมีการพัฒนาระบบราง ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาต่อยอดเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ ๆ    หลังจากนี้การก่อสร้างระบบรางให้นโยบายกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดทั้ง รฟท. กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ศึกษาแผนร่วมกันว่านอกจากเส้นทางรถสายหลักที่เป็นโครงข่ายทั่วประเทศแล้วจะมีการพัฒนาทางรถไฟสายรองเชื่อมเป็นเส้นเลือดฝอยไปจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ   โดยให้ศึกษาและชัดเจนโดยเร็ว เนื่องจากในอนาคตหากทำได้ก็จะมีส่วนให้ระบบรางเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและถือเป็นการปฏิรูประบบรางไปสู่ยุคใหม่   และมั่นใจว่าจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทิศทางที่ดีภายใน 4-5 ปีข้างหน้า 


https://www.youtube.com/watch?v=3YB6fgihlpE

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รมว.คมนาคม  กล่าวว่า  ในปี 61 จะมีโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทาง ที่กระทรวงคมนาคมจะทยอยนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี  คาดว่าไม่เกินเดือนมี.ค.นี้จะนำเสนอได้ประมาณ 2 เส้นทาง ส่วนการศึกษาเพื่อต่อเชื่อมเส้นทางรถไฟสายรองที่จะเป็นเส้นเลือดฝอยเชื่อมต่อจังหวัดท่องเที่ยวตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีนั้น กระทรวงคมนาคมจะสรุปแผนทั้งหมดให้ได้ภายในปีหน้า และเดินหน้าเพื่อพัฒนาเส้นทางเหล่านี้ทันที ระยะเริ่มต้นมีพื้นที่เป้าหมายไม่ว่าการเชื่อมโยงรถไฟสายรองระหว่างพื้นที่ในภาคเหนือ  เช่น ปากน้ำโพ- เด่นชัย  หรือเด่นชัย-เชียราย  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น บ้านไผ่-มุกดาหาร และภาคใต้ เช่น ชุมพร-สุราษฏร์ธานี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวระดับจังหวัดกับจังหวัด และจังหวัดสู่อำเภอ เช่น  จ.สุโขทัยก็จะทำให้การเดินทางเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวเกิดความสะดวกมากขึ้น

สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง  9 สัญญา ที่ลงนามวันนี้ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กม. การก่อสร้างรถไฟทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 168 กม. ทางคู่นครปฐม-หัวหิน 169 กม. ลพบุรี-ปากน้ำโพ 145 กม. และรถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีมูลค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 69,531 ล้านบาท เมื่อรวมกับ 2 เส้นทางเดิมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รฟท.จะมีเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้น 995 กม.จากปัจจุบันมีประมาณ 4,000 กม. หรือคิดเป็นเส้นทางเพิ่มขึ้น 24.6%.

----

รัฐบาลเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง
ครอบครัวข่าว 3 วันที่ 28 ธ.ค. 60 เวลา 11:30:32 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย ลงนามสัญญาก่อสร้าง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง มูลค่าการก่อสร้างรวมกว่า 69,531 ล้านบาท ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี ย้ำเน้นพัฒนาเส้นทางรถไฟสายรองเชื่อมสายหลัก เพื่อกระจายเศรษฐกิจสู่ท้องถิ่น

พิธีลงนามสัญญาก่อสร้าง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟฯ ร่วมลงนามในสัญญา กับ บริษัทผู้รับจ้างที่ผ่านการคัดเลือกด้านราคาทั้ง 9 สัญญา โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในครั้งนี้

วันนี้เป็นการลงนามในการก่อสร้าง 5 เส้นทาง จำนวน 9 สัญญา ประกอบด้วย ช่วงลพบุรี-ปากน้าโพ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวมระยะทาง 702 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างรวมกว่า 69,531 ล้านบาท

โดยมีรายละเอียดแต่ละสัญญา ดังนี้ 1. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา – คลองขนานจิต วงเงิน 7,560 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 9,290 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 42 เดือน โดยมีบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จากัด (มหาชน) และ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง

2.งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 168 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบ-บางสะพานน้อย วงเงิน 6,465 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 33 เดือน และ สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร 5,992 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า เคเอส-ซี และ กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง

3. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล วงเงิน 8,198 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน วงเงิน 7,520 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีบริษัท เอ เอส แอสโซซิเอส เอนจิเนียริ่ง 1964 จำกัด และ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จากัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง

4.งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้าโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม วงเงิน 10,050 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน และสัญญาที่ 2 ท่าแค – ปากน้าโพ วงเงิน 8,649 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอสเอช และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จากัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง

5.งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 5,807 ล้านหบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน โดยมีบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จากัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างสัญญา งานก่อสร้าง

ทั้งนี้ภายหลังจากการลงนามแล้ว ผู้รับจ้างเริ่มการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 ให้แล้วเสร็จตามแผนภายในปลายปี 2565 และเมื่อการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทางแล้วเสร็จ (รวมเส้นทาง ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) จะทำให้รถไฟมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 995 กิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 ของเส้นทางรถไฟทั้งประเทศ ช่วยลดเวลาการเดินทางได้ 30% รถไฟมีความตรงต่อเวลา ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และประหยัดค่าเชื้อเพลิงการขนส่งในภาพรวมของประเทศ และจะเป็นการพลิกโฉมการขนส่งทางรถไฟอย่างชัดเจน

----

ข่าวเที่ยง (ในประเทศ) ช่วงที่ 3 วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560
สํานักข่าวไทย TNAMCOT Published on Dec 27, 2017

ยอดใช้จ่ายปีใหม่ประชาชนฐานราก 57,000 ล้านบาท
เร่งเดินหน้ารถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง
คลังมั่นใจหลายปัจจัยหนุนจีดีพีปีนี้โต 3.8% ตามเป้า
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม พ.ย.ขยายตัวสูงสุดรอบ 8 เดือน
กฟผ.ร่วมกับหลายหน่วยงานพัฒนาเยาวชนด้านพลังงาน
ปตท.ตั้งเป้าขยายฐานการค้าทั่วโลก
ตัวเลข-ทิศทางเศรษฐกิจ

นาทีที่ 1:40
Arrow https://www.youtube.com/watch?v=oAX3YF4TLb4#t=100s




----

ลงนามแล้ว! รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ดันตอกเสาเข็มต้นปี 61
PPTV HD36 11:53น. 28 ธ.ค. 2560

การรถไฟฯ ลงนามจ้างก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง มูลค่าโครงการเกือบ 70,000 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในต้นปี 2561

Click on the image for full size

วันนี้ (28 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ระบุว่า การลงนามครั้งนี้นับเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล และของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้มีการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้มากขึ้น เพราะหลังจากการลงนาม ผู้รับเหมาจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า คาดว่าจะเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2563-2564 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม และ สนข. ศึกษาขยายเส้นทางรถไฟสายใหม่ หรือ เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟไปยังเมืองรองมากขึ้นด้วย

Click on the image for full size

สำหรับการลงนามสัญญาครั้งนี้ มีทั้งหมด 9 สัญญา จากทั้งหมด 13 สัญญา ใน 5 เส้นทาง รวมระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร คือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ,ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ,ช่วงนครปฐม-หัวหิน ,ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวมวงเงินกว่า 69,531 ล้านบาท ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในปีหน้า การรถไฟฯยังมีแผนดำเนินการโครงการไฟทางคู่ในเฟสที่ 2 อีก 9 เส้นทาง โดยตั้งเป้าว่าไม่เกินกลางปี 2561 จะเปิดประมูลได้ไม่น้อยกว่า 2 เส้นทาง ส่วนเส้นทางสายใหม่ หรือ การเชื่อมต่อไปยังเมืองรองนั้น จะเร่งดำเนินการศึกษาโดยเร็ว ซึ่งจะเน้นที่เมืองท่องเที่ยวก่อน เช่น พื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดกำแพงเพชร คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีหน้า

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2017 3:08 pm    Post subject: Reply with quote

Live สด พิธีลงนามในสัญญาการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง โดย ITD ครับ
Arrow https://www.facebook.com/csditd/videos/1327475594024631/?hc_ref=ARQ58GnMybJmdU9CHaV168GcLNa0g4t-cdqbeu1fgg5eb7FWz62vzDnd58sNZYK4Rk4
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2017 5:48 pm    Post subject: Reply with quote

กดปุ่มสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางไตรมาสแรกปี 61
TNN 24 Published on Dec 28, 2017

การรถไฟแห่งประเทศไทยลงนามสัญญาจ้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง มูลค่ากว่า 6 หมื่น 9 พันล้านบาท เริ่มก่อสร้างไตรมาสแรกปี 2561 ด้านกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีก่อสร้างเพิ่มอีก 9 เส้นทาง พร้อมขยายสู่เมืองรอง เพื่อดึงการท่องเที่ยว และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก


https://www.youtube.com/watch?v=fs2PHsxR9Vg


STEC คว้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 สาย มูลค่ากว่าหมื่นล.
ฐานเศรษฐกิจ 28 December 2017

STEC คว้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 2 และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 2 มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท

บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC แจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2560 บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม - หัวหิน สัญญาที่ 2 (ช่วงหนองปลาไหล - หัวหิน) โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้ว่าจ้าง มูลค่าโครงการ 7,520 ล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 36 เดือน

นอกจากนี้ลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร สัญญาที่ 2 (ช่วงบางสะพานน้อย - ชุมพร) โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ว่าจ้าง มูลค่าโครงการ 5,992 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยโครงการดังกล่าวเป็นของกิจการร่วมค้า ซึ่งสัดส่วนของ บมจ.ซิโน-ไทยฯ 51% และบริษัท ไทยพีค่อนและอุตสาหกรรม จำกัด สัดส่วน 49%

----

กระทรวงคมนาคม เดินหน้าก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ปี 2561 อีก 9 เส้นทาง ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 28 ธ.ค. 2560

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ประกอบด้วยช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ /ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ /ช่วงนครปฐม-หัวหิน / ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวมระยะทาง 702 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 69,531 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กับบริษัทผู้รับจ้างที่ผ่านการคัดเลือกด้านราคาทั้ง 9 สัญญา ว่า โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 – 2565 แผนงานที่ 1 การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง หรือการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ถือเป็นการเปลี่ยนโหมดคมนาคมขนส่งครั้งใหญ่จากจากบกเป็นทางราง

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การขนส่งสินค้าทางถนนมีต้นทุนสูงกว่าทางรางและทางน้ำ แต่ปัจจุบันผู้ประกอบการนิยมขนส่งสินค้าทางถนนจึงส่งผลต่อราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ภาครัฐจึงมีนโยบายในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนมาสู่การขนส่งที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่า (Modal Shift & Multimodal) โดยทำการปรับปรุง พัฒนาโครงข่ายทางรถไฟที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถไฟทางเดี่ยวให้เป็นรถไฟทางคู่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง โดยในปี 2561 จะมีการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีก 9 เส้นทาง ซึ่งจะครอบคลุมทุกภาคของประเทศ และรวมรถไฟชานเมืองสายสีแดงอีก 2 ช่วงประกอบด้วย ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และธรรมศาสตร์-รังสิต รวม 11 เส้นทางถือเป็นการปฏิรูประบบขนส่งทางรางครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการรถไฟฯ อยู่ระหว่างดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วนระยะแรก 2 เส้นทางประกอบด้วย ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น และเมื่อดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วนครบทั้ง 7 เส้นทาง ส่งผลให้การรถไฟฯมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 995 กิโลเมตร หรือเพิ้มขึ้นร้อยละ 24.6 ของเส้นทางรถไฟทั้งประเทศ สามารถรองรับจบวนรถไฟเพิ้มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัวสามารถเขื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมพื้นฐานอื่นๆ

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : นภสร แก้วคำ(2) / สวท.
ผู้เรียบเรียง : อรจินดา บุรสมบูรณ์
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

----

เซ็นแล้วสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 6.95 หมื่นล้าน
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 28 ธันวาคม 2560 - 17:41 น.

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ได้จัดพิธีลงนามสัญญาก่อสร้างกับบริษัทผู้รับจ้างที่ชนะการประมูลจำนวน 9 ราย ใน โครางการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่1 จำนวน 5เส้นทาง 1.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 3.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 4.ช่วงนครปฐม-หัวหิน และ 5.ช่วงหัวหิน-ประจวบฯ รวมระยะทาง 702 ก.ม. มูลลงทุนรวม 69,500 ล้านบาท โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาพร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม

นายสมคิด กล่าวว่า การก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นจะปรับรูปแบบการเดินทางจากระบบถนนไปสู่ระบบราง ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้หารือร่วมกันว่าจากนี้ไปจะต้องเน้นพัฒนาการขนส่งทางรางต้องก่อสร้างเส้นทางหลักให้ครบ และต้องเร่งทำเส้นทางย่อยเพื่อเชื่อมทางหลักเข้าสู่หมู่บ้านและตำบล โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งหากมีการขนส่งเชื่อมเข้าไปในพื้นที่ชนบทได้จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตและสามารถลดความเหลื่อมล้ำ แก้ไขปัญหาความยากจนในแต่ละจังหวัดได้ โดยได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม กลับไปทบทวนแผนการดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทางที่จะดำเนินการในปี2561 ใหม่ทั้งหมด โดยให้ เพิ่ม เส้นทาง รถไฟสายย่อยจากเมืองใหญ่เข้าไปยังเมืองรองหรือเข้าไปยังตำบลหรือหมู่บ้าน

“กระทรวงคมนาคม ต้องกลับไปจัดลำดับความสำคัญการก่อสร้างรถไฟทางเฟส2ใหม่ โดยจะต้องนำเรื่องการท่องเที่ยวเป็นตัวตั้ง เน้นสร้างทางย่อยต่อเชื่อมเข้าไปในท้องถิ่นด้วย และการก่อสร้างทางคู่จะต้องสร้างให้เชื่อมโยงกับระบบขนส่งแบบอื่นด้วยทั้ง ทางถนน และอากาศ เพื่อให้การเดินทางสามารถเชื่อมต่อให้ครบ ซึ่งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานด้านการบินของกระทรวงคมนาคมต้องไปหารือร่วมกันด้วย ว่าจะทำเส้นทางไหนก่อนและหลัง เส้นทางไหนที่เอกชนสารถก่อสร้างได้เองก็เปิดให้เอกชน อยากให้เอกชนกล้าลงทุน เพราะประเทศไทยกำลังจะเท็คออฟแล้วหากท่านไม่กล้าลงทุนคนอื่นจะเข้ามาลงทุนแทน ส่วนโครงการที่เอกชนไม่สนใจนั้น รัฐบาลจะรับภาระเป็นคนลงทุนเอง” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวและว่ากำชับให้ รฟท. กลับไปบริหารจัดการทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากมีทรัพยสินจำนวนมาก เพื่อทำให้องค์กรเข้มแข็งสามารถพัฒนาต่อยอดระบบขนส่งทางรถไฟได้ในอนาคต
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 28/12/2017 10:45 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟเซ็นทางคู่ 9 สัญญารวดสร้างเสร็จปี 65 “สมคิด” สั่งศึกษาเชื่อมเมืองรองบูมท่องเที่ยว
โดย: MGR Online

เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560 14:55:00
ปรับปรุง: พฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2560 16:52:00




“สมคิด” สั่งรถไฟปฏิรูปองค์กร ผลักดันลงทุนรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ สั่งศึกษาเชื่อมรถไฟไปยังเมืองรอง หนุนท่องเที่ยว บูมเศรษฐกิจ ตั้งเป้า 4-5 ปีพลิกโฉมชิปโหมดคมนาคมขนส่งจากถนนสู่ราง “อาคม” เร่งศึกษารถไฟเชื่อมเมืองรอง พร้อมดันทางคู่ 9 สาย และรถไฟสีแดงกว่า 4 แสนล้าน ชง ครม.ในปี 61



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง จำนวน 9 สัญญาระยะทาง 702 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างทั้งสิ้น รวม 69,531,000,000 บาท ว่า จะเป็นการพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ครั้งใหญ่ และจะทำให้เกิดการชิปโหมดการขนส่งและเดินทางจากถนนและเครื่องบินเป็นระบบราง ทั้งนี้ ที่ผ่านมารถไฟอ่อนแอ เพราะรัฐบาลสนับสนุนการลงทุนน้อยกว่าถนนและทางอากาศ แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ เพราะเห็นว่าระบบรถไฟมีต้นทุนที่ต่ำสามารถลดความเหลื่อมล้ำประชาชน ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างชาติได้

ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นว่าการเปลี่ยนขนส่งจากถนนสู่รางเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นจะต้องก่อสร้างเส้นทางสายหลักเป็นระบบทางคู่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากนั้นจะต้องเชื่อมต่อสายหลักกับไปยังเมืองรอง และระหว่างเมืองรองกับเมืองรอง ซึ่งจะยกระดับทั้งการเดินทาง ขนส่ง และท่องเที่ยว ที่จะสามารถเชื่อมโยงกันระหว่างถนน รถไฟ เครื่องบิน และเรือ ได้อย่างสะดวก

นายสมคิดกล่าวว่า ในปี 2561 ร.ฟ.ท. กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ท่าเรือ สนามบิน หารือร่วมกันเพื่อทบทวนแผนการขยายและต่อเชื่อมโครงข่าย โดยหลักการ หากโครงการใดเอกชนสามารถลงทุนได้ ให้เปิดให้เอกชนลงทุน ส่วนที่เอกชนไม่สนใจเพราะอาจจะไม่มีกำไร รัฐค่อยเข้าไปดำเนินการเอง ซึ่งรถไฟนั้นมีสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล หากบริหารจัดการดี จะมีรายได้มหาศาล ดังนั้นรถไฟควรเร่งปฏิรูปองค์กร เชื่อว่าอีก 4-5 ปีจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนเอกชนควรกล้าที่จะลงทุน ถ้าไม่กล้าคนอื่นจะเข้ามาลงทุนแทนแน่นอน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รถไฟทางคู่ ระยะแรก อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้ว 2 เส้นทาง คือ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น วันนี้ลงนามสัญญาเพื่อเริ่มก่อสร้าง อีก 5 เส้นทาง ระยะทาง 702 กม. และในปี 2561 จะเสนอรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง และรถไฟสายสีแดง จำนวน 2 เส้นทาง วงเงินกว่า 4 แสนล้านบาท ขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะต่อขยายจาก

1. เส้นทางสายใต้ 3 เส้นทาง ได้แก่
1.1 ชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 24,293.54 ล้านบาท,
1.2 สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่ วงเงิน 51,823.28 ล้านบาท และ
1.3 หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 57,374.70 ล้านบาท

2. สายเหนือ 3 เส้นทาง ได้แก่
2.1 ปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 62,624.17 ล้านบาท,
2.2 เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่งเป็นเส้นทางสายใหม่ และ
2.3 เด่นชัย-เขียงใหม่ วงเงิน 59,924.24 ล้านบาท

3. ส่วนสายตะวันออกเฉียงเหนือ อีก 3 เส้นทาง คือ
3.1 ขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน26,662.40 ล้านบาท,
3.2 ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 37,431.22 ล้านบาท และ
3.3 ช่วงบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 65,738.91 ล้านบาทซึ่งเป็นเส้นทางสายใหม่

นอกจากนี้ จะเสนอ ครม.อนุมัติ รถไฟสายสีแดงเข้ม รังสิต-มธ.รังสิต วงเงิน 7,596.94 ล้านบาท สายสีแดงอ่อน ศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 17,671.61 ล้านบาท

นายอาคมกล่าวว่า เส้นทางรถไฟ ปัจจุบันมีประมาณ 4,000 กม. จะดำเนินการก่อสร้างเพิ่มอีกกว่า 1,000 กม. จะเป็นการเติมเส้นทางคู่เข้าไป ทำให้เกิดความสะดวก ย่นระยะเวลาเดินทาง มีความปลอดภัย ทั้งการขนส่งสินค้า เพื่อชิปโหมดการขนส่งจากรถยนต์ไปสู่รถไฟ และผู้โดยสาร ซึ่งตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟจากสายหลักกับสายรอง ซึ่งกระทรวงคมนาคมกำลังวางแผนเพื่อต่อเชื่อมเส้นทางรถไฟท้องถิ่นกับทางรถไฟสายหลัก

โดยเห็นว่าการต่อเชื่อมควรเป็นเส้นทางที่มีกายภาพเหมาะสม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวร่วมด้วย เช่น จากกรุงเทพฯ-ลพบุรี-ปากน้ำโพ-พิษณุโลก-ลำปาง-เชียงใหม่นั้น ด้านซ้าย หากสามารถต่อไปยังกำแพงเพชร จะเชื่อมกับแหล่งท่องเที่ยว อุทยานมรดกโลก ศรีสัชนาลัยได้ หรือทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนครราชสีมาเป็นชุมทางปัจจุบัน มีเส้นทางอีสานเหนือ คือ หนองคาย, อีสานใต้ ไปยังอุบลราชธานี อีสานกลาง คือ บ้านไผ่-นครพนม จะเติมเต็มช่วงอุดรธานี-ร้อยเอ็ด-สุรินทร์-ศรีสะเกษ เป็นโครงข่ายย่อย โดยจะศึกษาเรียบร้อยภายในปี 2561

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ภายหลังจากการลงนามแล้ว จะให้ผู้รับจ้างเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 ให้แล้วเสร็จตามแผนภายในปลายปี 2565 รถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทางแล้วเสร็จ จะมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 995 กิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้น 24.6% ของเส้นทางรถไฟทั้งประเทศ ซึ่งสามารถพลิกโฉมการขนส่งทางรถไฟได้อย่างชัดเจน เพราะจะทำให้มีความจุของทางรถไฟเพิ่ม สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว มีความปลอดภัยในการขนส่งผู้โดยสาร และสินค้าเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มความรวดเร็วและความตรงต่อเวลา ในการเดินขบวนรถไฟได้อีกด้วย

สำหรับการลงนามสัญญาก่อสร้าง 5 เส้นทาง จำนวน 9 สัญญา ประกอบด้วย
1. รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กิโลเมตร
1.1 สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร วงเงิน 7,560,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน

และ
1.2 สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 9,290,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 42 เดือน โดยมีบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที เป็นผู้รับจ้าง

2. รถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร ระยะทาง 168 กิโลเมตร
1. สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย วงเงิน 6,465,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 33 เดือน และ
2. สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร 5,992,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า เคเอส-ซี และ กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้าง

3. รถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร
3.1 สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล วงเงิน 8,198,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน และ
3.2 สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน วงเงิน 7,520,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีบริษัท เอ เอส แอสโซซิเอส เอนยิเนียริ่ง 1964 จำกัด และ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง

4. รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร
4.1 สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม วงเงิน 10,050,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน และ
4.2 สัญญาที่ 2 ท่าแค-ปากน้ำโพ วงเงิน 8,649,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอสเอชและ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง

5. รถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 5,807,000,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน โดยมีบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างสัญญา
https://www.youtube.com/watch?v=637poRx0Bhs[/url]
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/12/2017 7:39 am    Post subject: Reply with quote

เซ็นรถไฟทางคู่5เส้นทาง 7หมื่นล้านใช้บริการปี65
ไทยโพสต์ Friday, December 29, 2017 - 00:00

รฟท.เซ็นสัญญารถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 9 สัญญา วงเงิน 7 หมื่นล้าน พร้อมเปิดให้บริการปี 65 ด้าน "สมคิด" สั่งหน่วยงานคมนาคมจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อนหลัง ศึกษาเส้นทางรถไฟเข้าแหล่งชุมชนสรุปภายในปีหน้า

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับบริษัทผู้รับจ้างที่ผ่านการคัดเลือกด้านราคาทั้ง 9 สัญญาว่า การก่อสร้างรถไฟทางคู่นั้น นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในด้านการขนส่งของไทยในการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนสู่ระบบราง และเพื่อให้เข้าถึงได้ทุกพื้นที่ เชื่อมต่ออย่างครอบคลุมคล้ายกับการดำเนินการของประเทศญี่ปุ่น โดยการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือการก่อสร้างโครงการต่างๆ

นายสมคิดกล่าวว่า ในอนาคต รัฐบาลจึงพิจารณาแนวทางการกระจายความเจริญสู่ชานเมือง เนื่องจากที่ผ่านมาหลายโครงการมักจะดำเนินโครงการในเขตเมือง จะเน้นความสะดวกของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก แต่อาจจะเกิดปัญหาความแออัดและเกิดปัญหาเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของชุมชนในเขตเมืองและชานเมืองตาม ทั้งนี้ หากภาครัฐมุ่งเน้นหรือส่งเสริมให้สามารถดำเนินโครงการต่างๆ ในเขตชานเมืองได้มากยิ่งขึ้น ก็จะสามารถลดปัญหาลงได้ โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมให้ได้ข้อสรุปภายในปีหน้า

“เมื่อเส้นทางครบ จะสามารถเชื่อมโยงทั้งคนและสินค้า รวมถึงด้านการท่องเที่ยว โดยบทบาทของการรถไฟ จะมีส่วนสำคัญมากในอนาคต ที่ผ่านมาการรถไฟไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่รัฐบาลนี้ได้ให้ความสำคัญมาก ขณะเดียวกันอะไรที่เอกชนทำได้ ก็ให้เอกชนเข้ามาทำ อันไหนที่เอกชนทำไม่ได้ ก็ถือเป็นภาระของรัฐบาลที่เข้ามาเร่งดำเนินการ ขอให้เอกชนกล้าลงทุน เพราะถ้าคุณไม่กล้า เดี๋ยวมีคนอื่นเข้ามาลงทุนแทนแน่นอน" นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวต่ออีกว่า เน้นให้หน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ทั้งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟฯ รวมถึงโครงการพัฒนาท่าเรือและเครื่องบิน ที่จะต้องจัดลำดับความสำคัญของโครงการ ว่าจะดำเนินการโครงการใดก่อนหลัง พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้การรถไฟฯ วางแผนการปฏิรูปองค์กร โดยเชื่อว่า 4-5 ปีหลังจากนี้จะเห็นสิ่งใหม่ๆ ในวงการคมนาคมอย่างแน่นอน

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทางนั้น เป็นการต่อยอดความเชื่อมโยง รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟ และบริเวณย่านสถานีรถไฟ ทำให้เกิดเศรษฐกิจใหม่และกระตุ้นให้เกิดการกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น การเดินทางมีความรวดเร็วปลอดภัย ส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น โดยในปี 2561 กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทางด้วย

“ส่วนระยะเริ่มต้นมีพื้นที่เป้าหมาย ไม่ว่าการเชื่อมโยงรถไฟสายรองระหว่างพื้นที่อีสานเหนือและอีสานใต้ โดยอีสานตอนกลางก็สามารถสร้างโครงข่ายรถไฟสายรองได้ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวบริเวณจังหวัดสุโขทัยก็จะทำให้การเดินทางเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวเกิดความสะดวกมากขึ้น” นายอาคม กล่าว

สำหรับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศไทย ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันการขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่นิยมใช้การขนส่งทางถนนเป็นหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีถนนหลายเส้นทางที่สามารถเข้าถึงได้ทุกเขตพื้นที่และสามารถเชื่อมโยงได้ทั่วทุกภูมิภาค แต่การขนส่งทางถนนนั้นจะมีต้นทุนการขนส่งที่สูงมากเมื่อเทียบกับการขนส่งทางน้ำและทางราง โดยค่าใช้จ่ายหลักจะมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่ง ส่งผลต่อระดับราคาสินค้าเมื่อถึงมือผู้บริโภค

ทั้งนี้ ภาครัฐมีแนวนโยบายในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนมาสู่การขนส่งที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่า (Modal Shift & Multimodal) โดยทำการปรับปรุง พัฒนาโครงข่ายทางรถไฟที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถไฟทางเดี่ยวให้เป็นรถไฟทางคู่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง เป็นการเตรียมความพร้อมสาหรับการรองรับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ให้สามารถลดระยะเวลาในการเดินทางและลดต้นทุน สามารถเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านและในระดับภูมิภาคต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยมีความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟโดยใช้แนวทางการยกระดับหรือเป็นทางลอดกับแนวระดับพื้นถนน จะช่วยเพิ่มความเร็วและความปลอดภัยในการเดินทางด้วยรถไฟ สามารถแก้ไขปัญหาจราจรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และที่สำคัญจะเป็นการลดอุบัติเหตุจากการข้ามทางรถไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า การลงนามสัญญาก่อสร้างโครงการในครั้งนี้ เป็นโครงการในระยะเร่งด่วน (ระยะที่ 1) โดยเป็นการลงนามก่อสร้าง 5 เส้นทาง จำนวน 9 สัญญา ประกอบไปด้วย 1.เส้นทางช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 3.ช่วงนครปฐม-หัวหิน 4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ 5 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวมระยะทาง 702 กิโลเมตร มีมูลค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 69,531 ล้านบาท

“หากดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 7 เส้นทางแล้วเสร็จ รฟท.จะมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 995 กิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้น 24.6% ของเส้นทางรถไฟทั้งประเทศ จะทำให้มีความจุของทางรถไฟเพิ่ม จึงสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้อีกไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว ซึ่งภายหลังการลงนามแล้ว จะให้ผู้รับเหมาเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2561 ให้แล้วเสร็จตามแผนภายในปี 2565” นายอานนท์กล่าว

สำหรับรายละเอียดทั้ง 9 สัญญา ประกอบด้วย 1.งานก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร วงเงิน 7,560 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 งานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 9,290 ล้านบาท โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้าไอทีดี-อาร์ที เป็นผู้รับจ้าง

2.เส้นทางช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 168 กิโลเมตร แบ่งเป็นสัญญาที่ 1 ช่วงประจวบฯ-บางสะพานน้อย วงเงิน 6,465 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร วงเงิน 5,992 ล้านบาท โดยกิจการร่วมค้าเคเอส-ซี และกิจการร่วมค้าเอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้าง 3.เส้นทางช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล วงเงิน 8,198 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน วงเงิน 7,520 ล้านบาท โดยบริษัท เอ เอส แอสโซซิเอส เอนยิเนียริ่ง 1964 จำกัด และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง

4.เส้นทางช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม วงเงิน 10,050 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ วงเงิน 8,649 ล้านบาท โดยกิจการร่วมค้า ยูเอ็น- เอสเอช และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง และ 5.เส้นทางช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 5,807 ล้านบาท โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง.


Last edited by Mongwin on 29/12/2017 8:37 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 192, 193, 194 ... 389, 390, 391  Next
Page 193 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©