RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13261993
ทั้งหมด:13573273
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 209, 210, 211 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/07/2018 7:58 am    Post subject: Reply with quote

คค.เตรียมชง ครม.อนุมัติทางรถไฟคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของสิ้นเดือนนี้
เผยแพร่: 4 ก.ค. 2561 16:13 โดย: MGR Online

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ว่า ภายในปีนี้กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ทั้งหมด 9 เส้นทาง ประกอบด้วย ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์, เด่นชัย-เชียงใหม่, เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม โดยภายในเดือนนี้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และภายในสิ้นปีจะเสนอเส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/07/2018 10:08 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟได้ฤกษ์เปิดหวูดวิ่งทั่วไทย
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 6 ก.ค. 2561 08:36

รฟท.ทุ่มสุดตัว 4 แสนล้านสร้างทางคู่ 8 เส้นทาง

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ รฟท.จะเสนอให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 8 เส้นทาง วงเงินรวมกว่า 400,000 ล้านบาท หลังจากนั้นภายในเดือน ก.ย.จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ทั้งหมดภายในปี 61 นี้ อย่างช้าภายในต้นปี 62

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 8 เส้นทางนั้น ในส่วนของรถไฟทางคู่ส่วนต่อขยาย 7 เส้นทาง คือ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี และเด่นชัย-เชียงใหม่นั้น คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 66 ส่วนรถไฟทางคู่สายใหม่อีก 1 เส้นทาง คือ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม นั้น ภายหลังจากที่ผ่าน ครม. แล้ว คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการมาก เนื่องจากต้องมีการเวนคืนที่ดินจำนวนมากเพราะเป็นเส้นทางใหม่

นายวรุฒิ กล่าวต่อถึงรถไฟทางคู่เฟส 2 สายใหม่อีก 1 สายที่ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดรถไฟไปก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจาก ครม.คือ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของนั้น คาดว่าภายหลังจากที่ ครม.มีมติ อนุมัติ รฟท.จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือนจึงจะได้ตัวผู้ชนะการประมูลได้ เนื่องจากจะต้องมีการเวนคืนที่ดินตลอดแนวเส้นทาง เพราะเป็นเส้นทางใหม่ที่ของนอกเขตทางรถไฟ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดจ้างที่ปรึกษา จัดทำร่างเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และจัดทำทีโออาร์ คาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถเวนคืนที่ดินได้แล้วเสร็จทั้งหมด และเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี 64 แล้วเสร็จปี 67-68

"ต่อไปพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนจะเปลี่ยนแปลงไป และมีแนวโน้มเดินทางด้วยรถไฟเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการก่อสร้างรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงแล้วเสร็จ".
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/07/2018 10:53 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.ชงบอร์ดอนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ 8 เส้นทาง วงเงินลงทุนกว่า 4 แสนลบ.ในก.ค. คาดเปิดประมูลได้ปลายปี 61-ต้นปี 62
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม 2561 16:08:34 น.

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ รฟท.จะนำเสนอคณะกรรมการ รฟท.เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ที่เป็นเส้นทางต่อขยาย 7 เส้นทาง และเส้นทางใหม่ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม รวมวงเงินลงทุนราว 4 แสนล้านบาท และคาดว่าจะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ราวปลายเดือน ก.ย.นี้ จากนั้นจะออกประกาศเชิญชวนผู้สนใจร่วมประกวดราคาได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

สำหรับรถไฟทางคู่เฟส 2 มีจำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย
1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 62,883.55 ล้านบาท
2.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม.วงเงิน 56,887.78 ล้านบาท
3.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 308 กม.วงเงิน 37,527.10 ล้านบาท
4.ทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 169 กม.วงเงิน 26,663.26 ล้านบาท
5.ทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. วงเงิน 24,294.36 ล้านบาท
6.ทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา 324 กม.วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท และ
7.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม.วงเงิน 8,120.12 ล้านบาท
โดยคาดว่าทั้ง 7 เส้นทางนี้จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 66

ส่วนสายทางใหม่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าโครงการ 67,965.33 ล้านบาท และสายใหม่อีกเส้นทาง ช่วงเด่นชัย -เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กม. มูลค่าโครงการ 85,345.00 ล้านบาท หาก ครม.อนุมัติแล้วจะมีการจัดจ้างที่ปรึกษาและคณะกรรมการคัดเลือกซึ่งจะร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ขณะเดียวกันก็ดำเนินการออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน ซึ่งคาดว่าใช้เวลาราว 6 เดือน ซึ่งเป็นแนวเวนคืนใหม่คาดว่าจะใช้เวลาเวนคืนเสร็จราว 2ปี คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 64 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67-68 ส่วนเส้นทางช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ก็จะมีกระบวนการขั้นตอนเช่นเดียวกันด้วยเพราะเป็นเส้นทางใหม่ที่จะต้องมีการเวนคืนที่ดินใหม่ คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 67-68

นายวรวุฒิ คาดว่า หลังจาก รฟท.มีเส้นทางรถไฟทางคู่เพิ่มเติมเข้ามาจะทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นประมาณ 22 ล้านคนในปี 70 จ่ากปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 11 ล้านคน และยังมีการขนส่งสินต้าเพิ่มเติมเท่าตัวด้วย

ขณะเดียวกันเตรียมเพิ่มกำลังคนอีกราว 5 พันคน จากปัจจุบันมีพนักงานที่บรรจุเป็นพนักงาน รฟท.แล้ว 1.4 หมื่นคนที่จะเข้ามาเพิ่มรองรับการเดินรถไฟทางคู่ และระบบอาณัติสัญญาณาระบบใหม่ ซึ่งจะเป็นระบบควบคุมรวมศูนย์

นายวรวุฒิ คาดว่า ในปีนี้ รฟท.จะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อนอยู่ที่ 9 พันล้านบาท มาจากรายได้การเดินรถโดยสาร 4 พันล้านบาท ขนส่งสินค้า 2 พันล้านบาท และรายได้จากการบริหารทรัพย์สินอีก 3 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตามในปี 63 รฟท.จะเข้าบริหารรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงรังสิต-ดอนเมือง และในปีนี้จะจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารจัดการทรัพย์สิน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/07/2018 5:54 am    Post subject: Reply with quote

ดีลน้ำมันราคาพิเศษรับรถไฟทางคู่เฟส 2
กรุงเทพธุรกิจ 9 ก.ค. 61
นโยบายเศรษฐกิจ

“รฟท.” เร่งเจรจาปิดดีลร่วม ปตท.ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันราคาพิเศษ 10 ปี เสนอปรับลดอีก 30 สตางค์ต่อลิตร หวังลดภาระต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงเฉลี่ย 2.8 พันล้านต่อปี พร้อมรองรับโครงการพัฒนารถไฟทางคู่เฟส 2 จ่อชงบอร์ดไฟเขียว 31 ก.ค.นี้ </p>

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างหารือร่วมกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อเจรจาขอซื้อน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการให้บริการรถไฟ โดยจะขอทำสัญญาระยะยาว 10 ปี ปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลงอีกราว 30 สตางค์ต่อลิตร จากปัจจุบันที่ได้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันราคาพิเศษต่ำกว่าราคาตลาดราว 50 สตางค์ต่อลิตร หรือมีราคาซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 28 บาทต่อลิตร

“รฟท.เจรจากับ ปตท.มานานแล้ว ขณะนี้น่าจะใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งราคาที่เราขอให้ ปตท.ช่วย เพราะประเมินแล้วว่า รฟท.จะมีรถไฟทางคู่อีกหลายเส้นทางที่เตรียมจะเปิดให้บริการ และปัจจุบัน รฟท.ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยปีละ 100 ล้านลิตร มีค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงสูงถึง 2.8 พันล้านบาทต่อปี หากสามารถเจรจาอัตราราคาน้ำมันใหม่ได้ ก็จะช่วยลดต้นทุนของ รฟท.เพิ่ม”

สำหรับโครงการพัฒนาของ รฟท.ที่อยู่ในแผนปัจจุบัน จะมีการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ที่เป็นเส้นทางต่อขยาย 7 เส้นทาง และเส้นทางใหม่อีก 2 เส้นทาง คือ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยขณะนี้ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแล้ว

ขณะที่โครงการขยาย 7 เส้นทาง และโครงการก่อสร้างใหม่อีก 1 เส้นทาง รฟท.เตรียมเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) เห็นชอบในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ประเมินมูลค่าลงทุนราว 4 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี รฟท.ยังตั้งเป้าผลักดันโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ ทยอยออกประกาศเชิญชวนผู้สนใจร่วมประกวดราคาได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า พร้อมทยอยเปิดให้บริการในปี 2566 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าเมื่อมีเส้นทางรถไฟทางคู่เปิดให้บริการเพิ่มเติม จะทำให้ปริมาณผู้โดยสารของ รฟท.เพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือราว 22 ล้านคนในปี 2570 จากปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 4 พันล้านบาท&nbsp;รายได้จากการขนส่งสินค้า 2 พันล้านบาท และรายได้จากการบริหารสินทรัพย์อีกราว 3 พันล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย
1.ช่วงปากน้ำโพ - เด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 62,883.55 ล้านบาท
2.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม.วงเงิน 56,887.78 ล้านบาท
3.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม.วงเงิน 37,527.10 ล้านบาท
4.ทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 169 กม.วงเงิน 26,663.26 ล้านบาท
5.ทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี&nbsp;ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 24,294.36 ล้านบาท 6.ทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 324 กม.วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท และ
7.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม.วงเงิน 8,120.12 ล้านบาท
โดย รฟท. คาดว่าโครงการขยายรถไฟทางคู่ทั้ง 7 เส้นทางนี้จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566

ขณะที่การพัฒนารถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ 2 เส้นทาง ประกอบไปด้วย ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าโครงการ 67,965.33 ล้านบาท และสายใหม่อีกเส้นทาง ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กม. มูลค่าโครงการ 85,345.00 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้จะต้องเวนคืนที่ดินใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาราว 2 ปี เริ่มก่อสร้างได้ในปี 2564 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567-2568
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/07/2018 8:07 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น ต.ค.นี้เปิดได้ 5 สถานี
เดลินิวส์ จันทร์ที่ 9 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.54 น.

รถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น คืบหน้า 70% ยังช้ากว่าแผนที่วางไว้ เร่งปรับแบบ คาด ต.ค.นี้ เปิดบริการได้ 5 สถานี จากเดิมตั้งเป้า 9 สถานี

นายศรัณย์ สิรเมธี ผู้จัดการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง187กม.งบประมาณก่อสร้างวงเงิน 23,430 ล้านบาทว่า ขณะนี้มีความคืบหน้า ร้อยละ70% จากแผนงานที่ตั้งไว้ 80% ช้ากว่าแผน30% เนื่องจากมีการปรับแก้ไขแบบ บริเวณสถานีบ้านไผ่ ปรับแบบจากถมคันดินสูง เป็นทางยกระดับ ตามข้อเรียกร้องของชุมชน ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงแบบแล้วเมื่อวันที่13 มี.ค.ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการแก้ไข รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ซึ่งอาจจะต้องขยายระยะเวลาก่อสร้างไป 6 เดือน แต่จะไม่กระทบต่อภาพรวมการก่อสร้างทางรถไฟที่จะกำหนดภายในก.พ.62 นี้  นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขแบบก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณบ้านกุดกว้าง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ซึ่งจะต้องก่อสร้างในเขตพื้นที่กรมทางหลวง โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการในวันที่18 ก.พ.62 และเปิดเดินรถได้ในเดือนมี.ค.62 นี้ 

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)กล่าวต่อว่าสำหรับแผนการเปิดทางคู่ จิระ-ขอนแก่นเดิมทางการรถไฟฯวางแผน เปิด 9 สถานีแรก ในเดือนต.ค นั้นขณะนี้การรถไฟฯได้ลดสถานีในการเปิด เหลือ 5 สถานี เนื่องจากบ้างสถานียังมีการปรับแบบยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ทำให้เปิดได้เพียง 5 สถานีแรก ในเดือนต.ค.สถานีโนนสูง สถานีบ้านดงพลอง สถานีบ้านมะค่า สถานีพลสงคราม สถานีบ้านดอนใหญ่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบเดินรถ ก่อนให้บริการจริงในเดือนต.ค.นี้  อย่างไรก็ตามหากโครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้ลดระยะเวลาในการเดินทางจาก 3 ชั่วโมง เหลือแค่ 1 ชั่วโมง 20 นาทีและลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าจากเดิม 6 ชั่วโมงเหลือเพียง 2 ชั่วโมง 30 นาที  เพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าจาก 4 แสนตันต่อปีเป็น 4 ล้านตันต่อปีตลอดแนวเส้นทางและยังรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านคนต่อปีเป็น 10 ล้านคนต่อปี.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2018 10:49 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
คค.เตรียมชง ครม.อนุมัติทางรถไฟคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของสิ้นเดือนนี้
เผยแพร่: 4 ก.ค. 2561 16:13 โดย: MGR Online


รฟท. ชงรถไฟทางคู่ 8 เส้นวงเงิน 4 แสนล้าน เข้าบอร์ด 31 ก.ค. ลุยเปิดประมูลปีนี้

วันที่ 5 กรกฎาคม 2561 - 20:41 น.

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) เปิดเผยว่า วันที่ 31 ก.ค. นี้ รฟท. จะเสนอให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 8 เส้นทาง วงเงินกว่า 4 แสนล้านบาท จากนั้นภายในเดือนก.ย. จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ทั้งหมดภายในปีนี้ อย่างช้าภายในต้นปี 2562

สำหรับ 8 เส้นทางนั้น ในส่วนของทางคู่ต่อขยาย 7 เส้นทาง คือ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี และเด่นชัย-เชียงใหม่ นั้น คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด ปี 2566

ส่วนรถไฟ ส่วนทางคู่สายใหม่อีก 1 เส้นคือ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ภายหลังผ่านครม. แล้ว คาดว่าต้องใช้ระยะเวลามาก เนื่องจากต้องมีการเวนคืนที่ดินจำนวนมากเพราะเป็นเส้นทางใหม่

นายวรุฒิกล่าวต่อถึง รถไฟทางคู่เฟส 2 สายใหม่อีก 1 สาย ที่ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดรถไฟฯ ไปก่อนหน้านี้ โดยอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจาก ครม. คือ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ นั้น คาดว่าภายหหลังจากที่ ครม. มีมติอนุมัติ รฟท. จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน จึงจะได้ตัวผู้ชนะการประมูลได้ เนื่องจากจะต้องมีการเวนคืนที่ดินตลอดแนวเส้นทาง เพราะเป็นเส้นทางใหม่ที่ขอนอกเขตทางรถไฟ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดจ้างที่ปรึกษา จัดทำร่างเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และจัดทำทีโออาร์ คาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถเวนคืนที่ดินได้แล้วเสร็จทั้งหมด และเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี 2564 แล้วเสร็จปี 2567-68

ทั้งนี้ ยอมรับว่าภาวะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อต้นทุนการเดินรถ โดยเร็วๆ นี้ เตรียมหารือกับ ปตท. เพื่อทำข้อตกลงซื้อน้ำมันในระยะยาว 10 ปี เพื่อให้ได้รับส่วนลดราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ชี้รูปแบบทำสัญญาปีต่อปี คาดว่าเมื่อทำสัญญาระยะยาว ปตท. จะเพิ่มส่วนลดราคาน้ำมันให้เพิ่มขึ้นอีกลิตร 30 สตางค์ คือจากจาก ลิตรละ 50-55 สตางค์ เป็นลิตรละ 80-90 สตางค์ ซึ่งก็จะทำให้ รฟท. ประหยัดค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากรฟท. มีการใช้น้ำมันมากถึงปีละ 100 ล้านลิตร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2018 10:53 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ดีลน้ำมันราคาพิเศษรับรถไฟทางคู่เฟส 2
กรุงเทพธุรกิจ 9 ก.ค. 61
นโยบายเศรษฐกิจ


จ่ออัดประมูลทางคู่เฟส 2 ปลายปี 61 เกือบ 3 แสนล้าน-เจรจา ปตท.ทำสัญญาซื้อน้ำมันราคาพิเศษ

โดย: MGR Online
เผยแพร่: 5 กรกฎาคม 2561 เวลา 18:38
ปรับปรุง: 5 กรกฎาคม 2561 เวลา 19:10

รถไฟฯ อัดทางคู่เฟส 2 เกือบ 3 แสนล้าน ชง ครม.เปิดประมูลใน ธ.ค. เริ่มก่อสร้างต้นปี 62 เสร็จปี 66 เพิ่มการรองรับผู้โดยสารเพิ่มรายได้ ส่วน 2 สายใหม่ คาดใช้เวลา 2 ปี เวนคืนเล็งก่อสร้างปี 64 “วรวุฒิ” เผยปี 61 รายได้แตะ 9 พันล้าน โอดน้ำมันทำต้นทุนพุ่ง เจรจา ปตท.ทำสัญญาซื้อระยะยาว เพิ่มส่วนลดเป็น 90 สต./ลิตร

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง และทางคู่เส้นทางใหม่ 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,174 กม. มูลค่ารวม 427,012.03 ล้านบาท ว่าขณะนี้คู่เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงิน 72,921 ล้านบาท เตรียมเสนอ ครม.แล้ว ส่วนที่เหลือ 8 เส้นทาง จะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.พิจารณาในวันที่ 31 ก.ค. จากนั้นจะเสนอ ครม.ต่อไป ซึ่งทางคู่ระยะ 2 คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในเดือน ก.ย.-ธ.ค. 61 เริ่มก่อสร้างในปี 62 โดยตามแผนจะแล้วเสร็จในปี 66

ส่วนทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 355 วงเงิน 60,351.91 ล้านบาทนั้น หลัง ครม.อนุมัติจะต้องจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำร่างเงื่อนไข TOR ในการประมูล และจ้างที่ปรึกษาอีกกลุ่มในการร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืน เนื่องจากเป็นเส้นทางแนวใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาเวนคืนประมาณ 2 ปี จึงจะประมูลและเริ่มก่อสร้างในปี 64 แล้วเสร็จปี 68

สำหรับรถไฟทางคู่เฟสแรก 5 เส้นทางจะทยอยเสร็จตั้งแต่ปี 62 และเสร็จทั้งหมดในปี 66 จะเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งและจะช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้น ทั้งนี้จะมีการทยอยออกบริการใหม่ หลังรถไฟทางคู่แล้วเสร็จ ซึ่งจะปรับแผนการตลาดเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทาง เช่น สายยาว มีเครื่องบินต้นทุนต่ำเป็นคู่แข่ง ต้องปรับเป็นท่องเที่ยว ขายนักท่องเที่ยวเจาะกลุ่มผู้สูงอายุ ส่วนเส้นทางระยะ 300-400 กม. เดินทางใน 3 ชม. เช่น โคราช หัวหิน ชะอำ มีรถตู้โดยสารเป็นคู่แข่ง จะต้องทำผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม

ทั้งนี้ ปี 2561 คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็นจากการโดยสาร 4,000 ล้านบาท ขนส่งสินค้า 2,000 ล้านบาท บริหารทรัพย์สิน 3,000 ล้านบาท ขณะที่ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นกระทบต่อต้นทุน ซึ่งรถไฟไม่สามารถปรับขึ้นค่าโดยสารได้ รถไฟใช้น้ำมันเฉลี่ย 100 ล้านลิตร/ปี เป็นเงินประมาณ 2,800 ล้านบาท ซื้อกับ ปตท.ให้ส่วนลด 50-55 สต./ลิตร ซึ่งกำลังเจรจากับ ปตท.เพื่อทำสัญญาระยะยาว 10 ปีและให้ส่วนลดเพิ่มอีก 30 สต./ลิตร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 10/07/2018 7:05 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม”ฮึดเข็นลงทุน 1.2 ล้านล้าน ชงครม.สัญจรลุยทางคู่”เด่นชัย-เชียงของ” 8 หมื่นล.


วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 เวลา 11:16 น.

คมนาคมเข็นเมกะโปรเจ็กต์ 1.2 ล้านล้านคิกออฟปีนี้ จัดคิวลงทุนไฮสปีด 3 สายทางส.ค.เร่งประมูลรถไฟไทย-จีน ตอน 2 ปากช่อง-คลองขนานจิตร เตรียมชง ครม.อนุมัติ กทม.-พิษณุโลก รื้อเงินลงทุน กทม.-หัวหินใหม่ หลังเบี่ยงแนวกระทบค่าเวนคืนพุ่ง จ่อดึงเอกชนร่วมทุน PPP จับตา ครม.สัญจรนัด 23-24 ก.ค.นี้ อนุมัติทางคู่สายใหม่ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” มูลค่า 7.9 หมื่นล้าน

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางหลวง กล่าวว่า ได้ประชุมติดตามเร่งรัดการลงทุนขนาดใหญ่ตามแผนปฏิบัติการเร่งด่วน 2561 (Action Plan) มีหลายโครงการที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ภายในปีนี้กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าผลักดันโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เหลืออีก 2 เส้นทาง เงินลงทุนประมาณ 5-6 แสนล้านบาท โดยจะเร่งให้ทั้ง 2 โครงการเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบก่อนเปิดประมูลโครงการต่อไป

เร่งประมูลไฮสปีด 3 สาย

ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. เงินลงทุน 179,412 ล้านบาท กระทรวงกำชับให้ทุกภาคส่วนเร่งดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 21 เมื่อ 1 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา


ส่วนสัญญาที่ 2.3 งานระบบรถไฟความเร็วสูงและการฝึกอบรม รวมทั้งการจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร เงินลงทุน 5.4 หมื่นล้านบาทนั้น คาดว่าได้ข้อสรุปในเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่ความคืบหน้าการก่อสร้างตอนที่ 2 ปากช่อง-คลองขนานจิตร 11 กม. คาดว่าในเดือน ส.ค.นี้จะเปิดประมูลได้ วงเงินก่อสร้างประมาณ 5,000 ล้านบาทและนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ในเดือน ก.ย.นี้ต่อไป

ด้านโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 650 กม.เงินลงทุน 450,427 ล้านบาท จะเริ่มเฟสแรกจากกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง380 กม. วงเงิน 276,200 ล้านบาท ยังไม่ได้นำส่งเข้าที่ประชุม ครม. อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม เนื่องจากนี้ ยังต้องหารือถึงรายละเอียดด้านเทคนิคที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น การจัดหาตัวรถ รูปแบบการเดินรถ รวมถึงเทคโนโลยีที่จะใช้ในการเดินรถ คาดว่าสามารถเสนอ ครม.ได้ภายในไตรมาสที่ 3หรือภายในเดือน ก.ย. 2561 นี้ เพื่อถอดแบบราคากลาง เปิดประมูลและก่อสร้างต่อไป

รื้อเงินลงทุน กทม.-หัวหินใหม่

ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. หลังจากที่ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา เพื่อเสนอคณะกรรมการ PPP อนุมัติรูปแบบการลงทุนแล้วนั้น ล่าสุด สคร.ได้ส่งกลับมาให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สรุปกรอบวงเงินลงทุนใหม่

หลังพบว่าจำเป็นต้องเพิ่มเงินลงทุนโครงการ หลังจากปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางรถไฟ โดยเฉพาะค่าเวนคืนที่มีราคาค่อนข้างแพงตามแนวเส้นทางดังกล่าว รวมถึงวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้นจากการขยายแนวเส้นทางออกไป คาดว่าบอร์ด ร.ฟ.ท.จะให้ความเห็นชอบในรายละเอียดและกรอบวงเงินลงทุนใหม่ภายในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งโครงการนี้เปิดให้เอกชนลงทุน PPP ระยะเวลา 50 ปี

9 สายทางคู่ผ่านบอร์ดวินัยการเงิน

นายพีระพลกล่าวต่อว่า ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง รวมมูลค่าลงทุน 427,012 ล้านบาท ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว จากนี้จะส่งไปให้บอร์ด ร.ฟ.ท. และกระทรวงคมนาคมพิจารณาในเดือน ก.ค.นี้ คาดว่าใช้เวลาพิจารณา 2 เดือน และสามารถส่งเข้าที่ประชุม ครม.ได้ปลายเดือน ส.ค.นี้ ส่วนเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.10 กม. เงินลงทุน 76,978 ล้านบาท กระทรวงเสนอให้ ครม.พิจารณาแล้ว กำลังรอบรรจุในวาระประชุมอยู่

ความคืบหน้ามอเตอร์เวย์สายใหม่ ในส่วนของสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. เงินลงทุน 60,000 ล้านบาทยังติดปัญหาการเวนคืนที่ดิน กรมทางหลวงต้องขอขยายกรอบวงเงินเพิ่ม 14,317 ล้านบาท โดยสำนักเลขานุการสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม มีข้อท้วงถาม 2 ประเด็น คือ สาเหตุของการเพิ่มค่าเวนคืน และความผิดพลาดในการคำนวณค่าเวนคืน

เนื่องจากกรมทางหลวงจะเสนอขอเพิ่มวงเงินค่าเวนคืนที่ดินในโครงการดังกล่าว หลังจากดำเนินการประเมินราคาที่ดินใหม่ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน โดยล่าสุดได้ยืนยันว่าไม่เปลี่ยนแนวเส้นทางในการก่อสร้าง โดยใช้แนวทางการลดค่าเวนคืนและค่าก่อสร้างในบริเวณช่วงจุดเริ่มต้นของโครงการบริเวณบางใหญ่แทน ดังนั้นหลังจากนี้จะเร่งสรุปข้อมูลเพื่อเดินหน้าแผนก่อสร้างโครงการต่อไป

สำหรับการให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างงานระบบ พร้อมดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทั้งสายบางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี ได้รับความเห็นชอบรูปแบบการลงทุนในรูปแบบ PPP Gross Cost วงเงินงบประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาท ตามมติเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2560 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจะเปิดประมูล

ชง ครม.สัญจรเด่นชัย-เชียงของ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุม ครม.สัญจรจังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ คาดว่าจะมีการพิจารณาอนุมัติรถไฟทางคู่สายใหม่ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.10 กม. วงเงิน 76,978 ล้านบาทรวมถึงจัดเตรียมรายงานความก้าวหน้าของโครงการทางคู่เฟส 2 ด้วย ได้แก่ เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย, จิระ-อุบลราชธานี, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์, เด่นชัย-เชียงใหม่ และบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/07/2018 9:35 pm    Post subject: Reply with quote

“สมคิด” สั่งรัวประมูลบิ๊กโปรเจกต์คมนาคม โค้งสุดท้าย 7 เดือนก่อนเลือกตั้ง
เผยแพร่: 11 ก.ค. 2561 17:53 โดย: MGR Online

“สมคิด” เข็นประมูลโปรเจกต์คมนาคม ช่วง 7 เดือน โค้งสุดท้ายรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง พร้อมเพิ่มโครงข่ายเชื่อมพื้นที่ภาคใต้ หนุน “ไทยแลนด์ริเวียร่า” ด้าน “อาคม” จัดแถวชง ครม.รถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง 4 แสนล้าน รถไฟสีแดง-รถไฟฟ้า และเร่งแผนขยายสนามบินของ ทอท.

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามงานของกระทรวงคมนาคม ว่า ภาพรวมการดำเนินโครงการภายใต้ความรับผิดชองกระทรวงคมนาคมเป็นไปด้วยดี ซึ่งช่วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ดี ทั้งนี้ ช่วง 7-8 เดือนก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดโครงการต่างๆ เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ให้ล่าช้า

โดยที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลปัจจุบัน ได้อนุมัติไปแล้วจำนวน 21 โครงการ วงเงินรวม 1,099,677 ล้านบาท ได้แก่ ทางบก จำนวน 5 โครงการ วงเงิน 177,003 ล้านบาท ทางราง จำนวน 13 โครงการ วงเงิน 916,779 ล้านบาท และการพัฒนาพื้นที่เชิงพานิชย์ (แปลง A) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทางน้ำ จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 3,895 ล้านบาท ทางอากาศ จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 2,000 ล้านบาท

ซึ่ง พบว่าโครงการของกรมทางหลวงดำเนินการได้ตามสัญญา โดยเฉพาะโครงการในพื้นที่ EEC ส่วนมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ยังล่าช้านั้น เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการเวนคืนจะต้องเร่งเคลียร์เพื่อประมูลโดยเร็ว

ส่วนกรมทางหลวงชนบท (ทช.) นั้น โครงการเป็นไปตามแผน โดยให้เพิ่มโครงการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก "ไทยแลนด์ริเวียร่า" ตามแนวเส้นทางคู่ขนานถนนเพชรเกษม โดยให้ปรับใช้งบประมาณในการพัฒนาให้เริ่มตั้งแต่ปี 2562

สำหรับโครงการรถไฟ โครงข่ายลงสู่ภาคใต้นั้น ให้เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในไม่ช้า โดยให้ศึกษาต่อขยายเส้นทางจากหัวหิน-สุราษฎร์ธานี ส่วนรถไฟทางคู่ จะให้เพิ่มโครงข่ายรองเพื่อไปยังระนอง เพื่อเข้าสู่ทะเลฝั่งอันดามันได้สะดวก โดยโครงข่ายรถไฟจะต้องเข้าสู่พื้นที่ทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ และเป็นศูนย์กลางของ CLMV ขณะที่ โครงข่ายหลักรถไฟทางคู่เชื่อมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นั้น จะต้องเพิ่มเติมเส้นทางสายรองไปยังเมืองรองด้วย สำหรับรถไฟทางคู่ระยะ 2 จะต้องเร่งนำเสนอครม.และเริ่มประมูลภายในปลายปี้นี้

ด้านการขนส่งทางบก ซึ่งมีแผนพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า และทรัคเทอร์มินอล นั้น หากโครงการใดเป็นโครงการใหญ่ สามารถพิจารณาให้เอกชนเข้ามาพัฒนาได้

การขนส่งทางอากาศนั้น จะเร่งการพัฒนาสนามบิน ซึ่งสรุปให้บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. รับโอนสนามบินในความดูแลของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) 4 แห่ง ได้แก่ สนามบินอุดรธานี สนามบินสกลนคร สนามบินชุมพร และสนามบินตาก ไปบริหาร ให้เรียบร้อยภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีสนามบินภูมิภาคใดที่มีเอกชนอื่นสนใจเข้ามาบริหารจะเปิดโอกาสพิจารณาได้เพื่อให้สนามบินของไทยมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น

ด้านการขนส่งทางน้ำ ได้มอบหมายให้นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม ช่วยพิจารณาการเพิ่มเส้นทางเดินเรือในอ่าวไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น เส้นทางสัตหีบ-หัวหิน ,อ่าวไทยตอนบน-ภาคใต้ , สุราษฎร์ธานี -สมุย

“ที่ผ่านมา เศรษฐกิจโตได้ เพราะโครงการคมนาคมดังนั้นอะไรที่ทำได้ให้เร่งเลย ไม่อยากให้ช้า และหากสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายได้ ไทยจะเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคได้ ดังนั้น 7-8 เดือนไม่ให้นั่งเฉยๆ อะไรที่อยากให้เร่งรัดเสนอเข้ามาได้เพื่อให้คุ้มค่าที่สุด ”นายสมคิดกล่าว

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนส.ค.- ปลายปี กระทรวงคมนาคมจะทยอยเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ ครม. ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องผ่านบอร์ด สศช.เห็นชอบก่อน โดยรถไฟทางคู่ระยะ 2 และสายใหม่ รวม 9 โครงการ วงเงินรวม 393,354 ล้านบาท ประกอบด้วย รถไฟสายใหม่ ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ รถไฟสายใหม่ ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม รถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงปากน้ำโพ - เด่นชัย จิระ - อุบลราชธานี ขอนแก่น - หนองคาย ชุมพร - สุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ - สงขลา หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ และเด่นชัย – เชียงใหม่ จะเสนอครม.ในปีนี้ทั้งหมด

โดยเส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 323 กม. วงเงิน 72,921 ล้านบาทคาดว่าจะเสนอครม.ได้ในเดือนก.ค. ส่วนอีก 8 โครงการการรถไฟฯอยู่ระหว่างดำเนินการตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯเพิ่มเติม

สำหรับรถไฟความเร็วสูง” กรุงเทพ-หัวหิน” อยู่ระหว่างทำข้อมูลเพิ่มเติมเสนอคณะกรรมการ PPP โดยมีนโยบายให้ศึกษา ต่อขยายไปถึงสุราษฏร์ธานี รวมถึงการศึกษาโครงข่าย แนวรถไฟสายย่อยเชื่อมโครงข่ายหลักกับเมืองท่องเที่ยว เช่น ชุมพร-ระนอง, สุราษฏร์ธานี-กระบี่ ,เชียงใหม่-เชียงราย เป็นต้น

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้(เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) 23.6 กม. วงเงิน 101,112 ล้านบาท จะเปิดประมูลในเดือนต.ค. สายสีส้ม(ตะวันตก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ วงเงินลงทุน 109,342 ล้านบาท และการลงทุนPPP เดินรถ ตลอดสาย จะเสนอครม.ไม่เกินพ.ย. สำหรับสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 สาย วงเงินกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท คาดเสนอครม.ในต.ค.-พ.ย. ส่วนการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และเส้นทางช่วงบางซื่อ-รังสิตเป็นไปตามแผน โดยจะมีการเร่งรัดการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ และรถไฟฟ้า นอกจากนี้จะเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ภูเก็ต ขออนุมัติและประมูลในปีนี้เช่นกัน

สำหรับท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 จะเปิดประมูลปลายปีนี้ นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดการประมูล ไอซีดีลาดกระบัง และ การบริหารโครงการก่อสร้างศูนย์กลางขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (SRTO)ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีการเพิ่มความถี่เดินรถไฟขนส่งสินค้าไปยังแหลมฉบัง เพื่อสนับสนุนพื้นที่ EEC

ส่วนการพัฒนาสนามบินของทอท. นั้น ได้แก่โครงการก่อสร้างความยาวทางวิ่งเส้นที่ 3 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) วงเงิน 24,651 ล้านบาท - โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของ สุวรรณภูมิ วงเงิน 41,261 ล้านบาท และการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร และแก้ไขปัญหาความแออัด (Regional Hub Airport) โครงการท่าอากาศยานเชียงใหม่ แห่งที่ 2 และโครงการท่าอากาศยานภูเก็ต แห่งที่ 2

อย่างไรก็ตาม ได้เร่งรัดให้แก้ปัญหาสนามบินภูเก็ต ซึ่งเปิดอาคารผู้โดยสารภายในประเทศแต่ยังมีปัญหาด้านระบบแอร์ และขยายพื้นที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สนามบินดอนเมืองมีแผนพัฒนาปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเก่า มีระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ ( APM) ช่วยแก้ปัญหาจราจรภายใน และบริหารจัดการพื้นที่ แก้ปัญหาความแออัดของสนามบินเชียงราย เนื่องจากมีร้านค้ามากเกินไป จนไม่มีพื้นที่ให้ผู้โดยสาร ทั้งนี้กรณีที่ทอท.จะรับโอนสนามบินภูมิภาคไปบริหาร จะต้องให้ความสำคัญในการใช้พื้นที่ด้วย เกณฑ์การให้บริการ ราคาต้องเป็นประโยชน์กับผู้บริโภค ไม่ใช่มองเรื่องกำไรมากเกินไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/07/2018 6:37 am    Post subject: Reply with quote

‘สมคิด’เร่งประมูลระบบราง 13โครงการ‘7.5แสนล้าน’
กรุงเทพธุรกิจ 12 ก.ค. 61
นโยบายเศรษฐกิจ

Click on the image for full size
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

สมคิด ขีดเส้นคมนาคมเข็นเมกะโปรเจคระบบรางเปิดประมูลปีนี้ 7.5 แสนล้าน อัดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ หวัง รฟท.เป็นพระเอกของการลงทุนปีนี้ สั่งการบ้านเร่งคลอดรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ - หัวหิน

พร้อมศึกษาพัฒนาต่อถึงสุราษฎร์ธานีหนุนการท่องเที่ยว ขณะที่ทางคู่ 9 โครงการทยอยเปิดประมูล ต.ค.61

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม โดยต้องการให้ทุกหน่วยงานเร่งเปิดประมูล เพื่อให้การลงทุนภาครัฐมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้

นายสมคิด กล่าวว่า สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เร่งผลักดันโครงการเข้าสู่ขั้นตอนการประมูลทั้งรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเป็นพระเอกของการลงทุนในปีนี้ เพราะมีหลายโครงการที่จะประมูล และไม่ต้องการให้แต่ละโครงการล่าช้าจึงสั่งการให้ รฟท.เร่งผลักดันรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน โดยทีโออาร์จะออกในไม่ช้าและให้ รฟท.ศึกษาขยายเส้นทางถึงสุราษฎร์ธานี เพื่อเสริมศักยภาพไทยเป็นฮับกลุ่ม CLMVT จากการเชื่อมโยงชายฝั่ง โดยรถไฟความเร็วสูงส่วนต่อขยายสุราษฎร์ฯ ให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปีนี้ และประมูลปี 2562

นอกจากนี้ สั่งการให้ รฟท.เร่งเปิดประมูลรถไฟทางคู่รวม 9 เส้นทาง และศึกษาความเหมาะสมการพัฒนารถไฟทางคู่ไปสุราษฎร์ฯ เพื่อเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งให้เร่งศึกษาเส้นทางรถไฟในภูมิภาคเพื่อเชื่อมเมืองรอง โดยบรรจุแผนพัฒนาในแผนลงทุน 2562 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แก้ปัญหาการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว รวมทั้งกระจายเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองรอง

นายสมคิด ยังกล่าวอีกว่า ต้องการให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงคมนาคม พัฒนาโครงการเสริมโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ไม่ว่าจะเป็นกรมเจ้าท่า ให้พิจารณาเพิ่มความถี่ของการเดินเรือในเส้นทางหัวหิน เส้นทางสมุย ให้เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันทางบก ขอให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เร่งศึกษาเส้นทางสายสุขุมวิท พัฒนาถนนเลียบชายฝั่ง สนับสนุนการเดินทาง

เร่งทยอยเปิดประมูลไตรมาส 3

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รับนโยบายของนายสมคิด โดยในเดือน ส.ค.–ก.ย.นี้ มีหลายโครงการของคมนาคมเสนอ ครม.พิจารณา โดยโครงการที่ชัดเจนมากที่สุด คือ รถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง ซึ่งเส้นทางช่วงเด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ จะเสนอ ครม.ในเดือน ก.ค.นี้ ส่วนอีก 8 เส้นทางกำลังปรับข้อมูลและจะเสนอ ครม.ในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้

ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการรถไฟฟ้าที่จะทยอยเปิดประมูล เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – วงแหวนกาญจนาฯ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรม จะเสนอ ครม.ในเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ รวมถึงโครงการรถไฟรางเบา จังหวัดภูเก็ตจะเปิดประมูลได้ในปีนี้

ส่วนท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง และสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบังที่เตรียมเปิดประมูล

รถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ - หัวหิน เสนอคณะกรรมการพีพีพีพิจารณาแล้ว และได้ส่งกลับให้ รฟท.เพิ่มข้อมูล โดยเส้นทางนี้มีระยะทางใกล้เคียงกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แต่มีแม่เหล็กสำคัญ คือ การท่องเที่ยว และถ้าจะให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็ต้องศึกษาเส้นทางให้ลึกลงไปในแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้เพิ่มเติม

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่า รฟท.กล่าวว่า รฟท.ศึกษารถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ–หัวหินเสร็จแล้ว ระยะทาง 230 – 240 กิโลเมตร (กม.) หากจะพัฒนาไปถึงสุราษฎร์ฯ คาดว่าจะมีเส้นทางยาวกว่า 600 กม.ซึ่งยังไม่เริ่มศึกษา แต่จะเดินนำร่องประมูลเส้นทางกรุงเทพฯ–หัวหิน ภายในปีนี้ก่อน ส่วนรถไฟทางคู่ประเมินว่าช่วงขอนแก่น-หนองคาย จะเป็นโครงการต่อไปที่เสนอ ครม. ส่วนภาพรวมโครงการรถไฟทางคู่ทั้งหมดจะเริ่มเปิดประมูลในเดือน ต.ค.นี้

เร่ง 13 โครงการลงทุน 7.5แสนล้าน

รายงานข่าว ระบุว่า โครงการที่นายสมคิด สั่งการให้คมนาคมเร่งเปิดประมูลภายในปีนี้ รวม 13 โครงการ เม็ดเงินลงทุน 7.5 แสนล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง แบ่งเป็นการพัฒนาเส้นทางเดิม 7 เส้นทาง คือ
1.ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงินลงทุน 59,399 ล้านบาท
2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 36,683 ล้านบาท
3.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 169 กม. วงเงิน 25,842 ล้านบาท
4.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. วงเงิน 23,080 ล้านบาท
5.ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา ระยะทาง 324 กม. วงเงิน 59,399 ล้านบาท
6.ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,864 ล้านบาท
7.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. วงเงิน 57,992 ล้านบาท

รวมทั้งมีรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง คือ
1.ช่วงเด่นชัย - เชียงราย – เชียงของ 326 กม. วงเงิน 71,696 ล้านบาท
2. ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร – นครพนม 355 กม. วงเงิน 54,684 ล้านบาท และ
รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ–หัวหิน วงเงิน 94,673 ล้านบาท

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้ามี 2 เส้นทางที่ต้องเร่งประมูล คือ
สายสีส้มตะวันตก ช่วงตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรม วงเงิน 85,200 ล้านบาท
รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – วงแหวนกาญจนาฯ วงเงิน 131,172 ล้านบาท และ
มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่–กาญจนบุรี 96 กม.วงเงิน 49,120 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 209, 210, 211 ... 389, 390, 391  Next
Page 210 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©