Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311287
ทั่วไป:13269833
ทั้งหมด:13581120
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 219, 220, 221 ... 390, 391, 392  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2018 12:49 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เว็บไซต์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ
Arrow http://www.doubletrack-lopburipaknampho.com


Lopburi - Nakhon Sawan double tracking including 28 km bypass track from Ban Klub to Khok Krathiam as bypass route -
Section 1: existing line from Tha Khae to Pak Nampho from km 136+341.106 (Southern yard of Tha Khae station) to km 252+225.000 (Northern end of Pak Nampho station - total 115.88 km with 21 stations and stops

1. Ban Klub at km 121 + 720
2. Ban Pa Wai (Southern suburb) at km 127 + 440
3. Lopburi at km 132 + 810
4. Tha Khae at km 137 + 551 - just renovated
5. Khok Krathiam at km 144 + 238 - just renovated
6. Nong Tao - at km 150 + 082 - just renovated - used to have a rail link to iron mine at Khao Thub Kwai
7. Nong Sai Khao at km 154 + 931 - building anew
8. Ban Mee - at km 161 + 226 - building anew - used to have a rail link to the old quarry site -
8A Huay Kaew station - at km 165 + 940 - downgraded to stop due to the lack of demands
9. Phai Yai at km 170 + 330 - building anew
10. Chansen at km 173 + 864 - building anew
11. Chong Khae - at km 185 + 315 the old quarry - building anew
12. Phone Thong - at km 188 + 650 used to have rail link to Jalaprathan cement - just renovated
13. Ban Takli - Major station at km 193 + 020 - building anew main dropping point to Chainart
14. Dong Mangku at km 198 + 850 - just renovated
15. Hua Wai at km 204 + 200 - just renovated
16. Nong Pho at km 211 + 676 - just renovated
17. Hua Ngiw at km 217 + 214 - building anew
18. Noen Makok at km 225 + 000 - just renovated
19. Khao Thong at km 235 +493 - just renovated
20. Nakhon Sawan at km 245 + 922 - dropping point for Fort Jiraprawat - building anew to replace the old building dated 1956
21. Pak Nampho at km 250 + 811 - the old dropping point for Nakhon Sawan - used to have ferry across Nan river to downtown Nakhon Sawan - just renovated - Locomotive depot with round house


Section 2 bypass track from Ban Klub to Khok Krathiam with total distance of 28 km - following Highway 366 for 13 km while passing Highway 3196 and Highsay 311 and land expropriation for 8 km - started at km 120+206.400 (Southern end of Ban Klub station to reach the Southern end of Khok Krathiam at km 141+000 with 22.60 km elevated track and at grade for 5.32 km with 2 new stations -
1. Lopburi 1 station near Lopburi river at10.06 km from Southern end of Ban Klub station [AKA km 130 + 266.4] (will be constructed later) and
2. Lopburi 2 station at Tha Wung at 21.546 km from Southern end of Ban Klub station [AKA km 141 + 752.4]
http://www.doubletrack-lopburipaknampho.com/Routes_and_stations.html
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2018 6:59 pm    Post subject: Reply with quote

ชาวเมืองพลเฮ! วิศวกรรมรถไฟฯ รับข้อเสนอแก้แบบจุดตัดรถไฟทางคู่เป็นยกระดับลอยฟ้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 26 ตุลาคม 2561 เวลา 16:20
ปรับปรุง: 26 ตุลาคม 2561 เวลา 18:46




ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชาวเมืองพลยิ้มออก คณะที่ปรึกษาทางวิศวกรรมรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่นยอมรับข้อเสนอแก้แบบสร้างจุดตัดทางรถไฟเขตเทศบาลเมืองพลให้ใหม่ตามที่เรียกร้องทั้ง 3 จุดเป็นการยกระดับลอยฟ้าแทน

เมื่อบ่ายวันที่ 25 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมแก่นคูณ 2 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ตัวแทนชาวอำเภอพลกลุ่มคัดค้านสร้างจุดตัด-ทางลอดรางรถไฟในโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่สายชุมชนจิระ (โคราช)-ขอนแก่น ช่วงเทศบาลเมืองพลได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมกับตัวแทนคณะที่ปรึกษาทางวิศวกรรมรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่น, ตัวแทนส่วนงานที่เกี่ยวข้องหา เพื่อหาข้อยุติร่วมกันในการปรับปรุงแบบก่อสร้างตามที่ชาวเมืองพลเคลื่อนไหวเรียกร้อง โดยมีนายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานในที่ประชุม

ในที่ประชุมทางฝ่ายตัวแทนชาวเมืองพลได้เน้นย้ำว่าพวกตนไม่ได้คัดค้านโครงการรถไฟทางคู่ แต่ไม่เห็นด้วยเฉพาะการสร้างจุดตัดทางรถไฟผ่านเขตเทศบาลเมืองเมืองพล ว่าทำไมไม่สร้างให้เป็นทางยกระดับลอยเหนือพื้นดิน แต่กลับสร้างเป็นลักษณะอุโมงค์ทางลอดและทางยกระดับแบบเกือกม้าแทน จะทำให้มีปัญหาตามมามากมาย ทั้งปัญหารถติด อันตรายเกิดอุบัติเหตุ น้ำท่วม ที่สำคัญทางลอดทางรถไฟจุดที่ 3 ที่เชื่อมเส้นทางไปยัง อ.แวงใหญ่นั้นทั้งแคบทั้งเตี้ย แม้แต่รถหกล้อขนผัก รถดับเพลิงยังลอดไม่ได้ หน้าฝนน้ำก็จะท่วมหนัก

ทุกวันนี้มีการปิดถนนที่ประชาชนสัญจรผ่านไปมาในจุดดังกล่าวไปแล้ว 2 จุด เพื่อสร้างสะพานเกือกม้าแบบวิ่งสวนทางและทางลอดทางรถไฟ ทำให้ชาวบ้านประสบปัญหามาก ซึ่งตามแบบก่อสร้างนั้นต้องปิดถนนเดิมทั้ง 3 จุด โดยก่อสร้างเป็นสะพานแบบเกือกม้า 2 จุด และทางลอด 1 จุดแทน ไม่เป็นที่ต้องการของชาวเมืองพล ที่สำคัญก่อนก่อสร้างโครงการฯ ชาวเมืองพลส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมเวทีประชาพิจารณ์แม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่มีการประชาสัมพันธ์แจ้งข่าว





ทั้งนี้ การประชุมหารือใช้เวลานานหลายชั่วโมง แต่ละฝ่ายพยายามนำเสนอข้อมูลให้รอบด้าน โดยทางฝ่ายคณะที่ปรึกษาทางวิศวกรรมรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่นได้นำเสนอแผนการปรับปรุงแก้แบบให้ใหม่ โดยจะยกระดับจุดที่ตัดทางรถไฟเชื่อมการคมนาคมระหว่าง อ.พล-อ.แวงน้อย เป็น4 เมตร และช่วงจุดตัดเชื่อม อ.พล-แวงใหญ่ เป็น 4 เมตร เพิ่มช่องทางจราจรเป็น 4 ช่องทาง จากเดิมทำไว้แค่ 2 ช่องทางและจะขยายทางเท้าออกไปอีกด้านละ 2.5 เมตร

ตัวแทนคณะที่ปรึกษาทางวิศวกรรมฯยังได้อ้างอีกว่าหากจะให้มีการแก้ไขจุดตัดทางรถไฟทางคู่ตามที่ชาวเมืองพลเรียกร้องและยื่นเสนอต่อกระทรวงคมนาคมนั้นจะมีผลกระทบตามมาไม่น้อย ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) กันใหม่ ทำประชาพิจารณ์กันใหม่ ออกแบบใหม่ก่อนเสนอของบประมาณเพิ่ม ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่หมด นั่นเท่ากับว่าจากเดิมการเดินรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่นคาดว่าไม่น่าจะสามารถให้บริการได้ราวปลายปี 2562 ก็ต้องเลื่อนออกไป

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนชาวเมืองพลที่เข้าร่วมประชุมต่างไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแก้แบบก่อสร้างที่ทางตัวแทนคณะที่ปรึกษาทางวิศวกรรมเสนอ เพราะมองว่าไม่ต่างจากแบบก่อสร้างเดิมที่ชาวเมืองพลคัดค้านไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ชาวบ้านวิตก ขอยืนยันข้อเรียกร้องแก้แบบก่อสร้างตามเดิม หากโครงการฯจะเสร็จช้าไปหน่อยก็ไม่เป็นไร ขอให้แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนก็คุ้มค่าที่จะต้องรอ

ในที่สุดหลังจากฟังตัวแทนชาวเมืองพลอธิบายเหตุผลที่ต้องการยกระดับรางรถไฟแทนแบบก่อสร้างเดิม ทางคณะที่ปรึกษาทางวิศวกรรมรถไฟฯก็ยอมรับข้อเรียกร้องของชาวอำเภอพลทั้ง 3 ข้อเพื่อเสนอให้คณะผู้บริหารกระทวงคมนาคมพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป



สำหรับข้อเรียกร้องแก้แบบฯทั้ง 3 ข้อดังกล่าวประกอบด้วย 1. ให้ยกระดับทางรถไฟข้ามจุดตัด ถนนเมืองพล-แวงน้อย-จ.ชัยภูมิ เว้นพื้นที่เผื่อถนนกว้าง 6 ช่องจราจร ความสูงไม่น้อยกว่า 6 เมตรไปจดถนนมิตรภาพ 2. ให้ยกระดับทางรถไฟ ขยายอุโมงค์ทางลอดจุดตัด ถนนเมืองพล-แวงใหญ่ เป็น 4 ช่องจราจร พร้อมทางเท้าตรงไปเชื่อมต่อถนนทางหลวงโดยไม่ต้องเป็นทางกลับรถ(U-Turn) ความสูงไม่น้อยกว่า 6 เมตร 3. ให้ทำทางลอดระหว่างชุมชนศรีเมืองกับหมู่บ้านชัยประเสริฐ เป็น 2 ช่องจราจร พร้อมทางเท้า ความสูงไม่น้อยกว่า 3.50 เมตร

นายเริงชัย ศิริวิชัย ตัวแทนชาวเมืองพลที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ทางคณะที่ปรึกษาทางวิศวกรรมฯยอมรับในข้อเสนอของชาวเมืองพลและจะนำไปเสนอต่อคณะผู้บริหารกระทรวงและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาทบทวนแก้แบบใหม่ ซึ่งพี่น้องชาวเมืองพลก็ต้องลุ้นและติดตามผลความคืบหน้าของเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44615
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/10/2018 8:22 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่ช่วง “หัวหิน” อืด เหตุเคลียร์ค่ารื้อย้ายไม่ลงตัว ผู้บุกรุกไม่ยอมเปิดทางให้เข้าพื้นที่ก่อสร้าง “ผู้รับเหมา” หวั่นสร้างเสร็จไม่ทันตามกำหนด
https://www.thebangkokinsight.com/56218/
28 ต.ค. 61

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ผู้รับเหมายังไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ได้ทั้งหมด เนื่องจากบางพื้นที่มีประชาชนหรือผู้บุกรุกออกมาต่อต้าน โดยตามแนวเส้นทางมีผู้บุกรุกกว่า 2,000 ครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันก็ค่อยๆ เจรจาและทยอยเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้เรื่อยๆ

สำหรับบริเวณที่มีปัญหามาก คือ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร เพราะผู้บุกรุกบางส่วนยังไม่พอใจค่ารื้อถอน จึงขอให้การรถไฟฯ ทบทวนค่ารื้อถอนใหม่อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันผู้รับเหมาก็ทยอยเข้าพื้นที่ อ.หัวหิน ได้แล้วประมาณ 60% ส่วนที่เหลืออีก 30-40% อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะแก้ไขปัญหาได้ในเร็วๆ นี้ ไม่น่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญต่อการก่อสร้าง

แหล่งข่าว กล่าวถึงการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางจำนวน 3 สัญญาว่า ปัจจุบันการประมูลระบบอาณัติสัญญาณทั้ง 3 สัญญาเริ่มล่าช้ากว่าเป้าหมาย แต่การรถไฟฯ ยังคงเป้าหมายการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางตามเดิม คือภายในปี 2565 ดังนั้นเมื่อการรถไฟฯ ได้ตัวผู้ชนะการประมูลติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณแล้ว ก็คงต้องเร่งรัดขั้นตอนการติดตั้งให้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) ระบบอาณัติสัญญาณยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ อย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีการปรับแก้ไขรายละเอียดหลายอย่าง ส่งผลให้ทีโออาร์ไม่นิ่ง แต่ก็คาดว่าจะเปิดประมูลได้อย่างเร็วที่สุดในเดือนธันวาคมนี้

รายงานข่าวจากพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า โครงการรถไฟทางคู่บางส่วนยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยเฉพาะบริเวณ อ.หัวหิน ซึ่งเป็นรอยต่อของรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง คือ รถไฟทางคู่ เส้นทางนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ที่ยังเข้าพื้นที่ อ.หัวหินและบริเวณอื่นๆ ไม่ได้ประมาณ 10 กิโลเมตร จากทั้งหมด 76 กิโลเมตร และรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ เข้าพื้นที่อ.หัวหิน ไม่ได้ในช่วง 5 กิโลเมตรแรก จากระยะทางทั้งหมด 84 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวไม่ได้เป็นอุปสรรคมากนัก เนื่องจากการก่อสร้างในบริเวณอื่นๆ คืบหน้าไปมาก ส่งผลให้ภาพรวมการก่อสร้างยังเร็วกว่าแผนเล็กน้อย แต่ก็ต้องรอลุ้นว่าจะเข้าพื้นที่บริเวณที่มีปัญหาได้เมื่อใด

รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ผู้รับเหมาในพื้นที่เริ่มแสดงความเป็นห่วงการเปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ 3 สัญญา ที่ล่าช้ากว่าเป้าหมาย เนื่องจากผู้รับเหมาก่อสร้างมีงานบางอย่าง เช่น การรื้อย้ายสถานี ที่จะไม่สามารถดำเนินการได้ จนกว่าจะเริ่มติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ จึงมีความกังวลว่า ถ้าการรถไฟฯ ไม่สามารถติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณได้ก็จะทำให้งานก่อสร้างเสร็จล่าช้าตามไปด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 29/10/2018 10:46 am    Post subject: Reply with quote

จบไม่ลง!ทางคู่ผ่านเมืองโคราช
ออนไลน์เมื่อ 27 ตุลาคม 2561
ตีพิมพ์ใน หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,413 วันที่ 28-31 ตุลาคม 2561



จบไม่ลง!รถไฟทางคู่ช่วงผ่านเมืองโคราช ยังหาข้อยุติไม่ได้ ร.ฟ.ท.จัดเวทีถกนัดล่าสุด ชาวโคราชยังมีความคิดต่าง ด้านนายกเล็กฟันธงขอให้ทุบสะพานสีมาธานีอย่างเดียว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเมือง ขณะชาวบ้านอีกส่วนขอให้ยกทางรถไฟข้ามสะพาน โดยไม่ต้องทุบทิ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมรับฟังความคิดเห็น การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 3 (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) งานจ้างปรับแบบรายละเอียดบริเวณอำเภอสีคิ้วและตัวเมือง นครราชสีมา ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ โดยมีนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา ในฐานะผู้แทนชาวโคราช หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ผู้นำชุมชนและประชาชนกว่า 250 คน เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงข้อมูลผลการศึกษางานปรับแบบฯ และเสนอความเห็นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561 ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ช่วงเปิดรับฟังความคิดเห็น ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ทั้งที่ต้องการให้ทุบสะพานสีมาธานี แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ก็คุ้มค่าและจะทำให้ทางรถไฟช่วงผ่านตัวเมืองยกระดับตลอด 5.1 กิโลเมตรจนถึงสถานี แต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ต้องการให้ยกข้ามสะพานสีมาธานี โดยไม่ต้องทุบสะพาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจราจรในช่วงระหว่างการก่อสร้าง โดยที่ประชุมยังหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้

นายจุลพงษ์ จุลานนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ให้ก่อสร้างโครงการ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ โดยมีรูปแบบช่วงผ่านเขตอำเภอสีคิ้วและเมืองนครราชสีมา เป็นทางรถไฟยกระดับ ต่อมานายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและผู้แทนทุกภาคส่วน ได้เรียกร้องให้ปรับรูปแบบก่อสร้างพิจารณาทบทวนรูปแบบโครงการ ให้สร้างทางรถไฟยกระดับ โดยให้เหตุผลไม่ต้องการแบ่งแยกชุมชนเป็น 2 ฝั่งและข้อกังวลต่อการจราจรในอนาคต รวมทั้งการระบายนํ้าลงคลองสาธารณะ ภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21-22 สิงหาคม 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตอบรับความต้องการพร้อมนำเข้าสู่วาระพิจารณาเร่งด่วน โดยครม.เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมและร.ฟ.ท. แก้ไขรูปแบบการก่อสร้างบางช่วงให้เป็นทางรถไฟยกระดับและบางช่วงเป็นคันทางสูงให้รถยนต์ลอดข้าม ในวงเงินงบประมาณ 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้านกายภาพ การใช้ประโยชน์ของพื้นที่และต้นทุนค่าก่อสร้าง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของทุกภาคส่วน รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟ โดยเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมไปสู่ศูนย์กลางเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแก้ไขแบบและเริ่มก่อสร้างบางช่วง

ด้านนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา กล่าวว่า เทศบาลยังยืนยันที่จะให้ทุบสะพานสีมาธานีแม้ว่าจะต้องเพิ่มงบประมาณอีกกว่า 1,000 ล้านบาทก็ตามแต่ เชื่อว่า ร.ฟ.ท. ก็มีงบสามารถดำเนินการได้ เพราะจะทำให้เมืองมีการขยายตัวได้อีก โครงการต่างๆ ที่จะรองรับอนาคตก็สามารถดำเนินการได้เช่น การสร้างถนนเชื่อมเส้นทางอื่น เป็นต้น จึงขอฝากให้ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีอำนาจในการพิจารณา ให้ความสำคัญและรับฟังผลกระทบชีวิตความเป็นอยู่อย่างรอบด้าน การทุบสะพานอาจมีผลกระทบในการสัญจรและการใช้ชีวิตประจำวันบ้าง เชื่อว่าชาวโคราชรับได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 30/10/2018 9:00 pm    Post subject: Reply with quote


ความก้าวหน้าทางคู่จากถนนจิระไปขอนแก่น
https://www.youtube.com/watch?v=gMfzxKP_sj0
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44615
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/11/2018 2:22 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.โชว์ผลงาน 4 ปี ลงทุนรถไฟทางคู่ 7 โครงการ
กรุงเทพธุรกิจ 10 พฤศจิกายน 2561

รฟท.โชว์ผลงาน 4 ปี ลงทุนรถไฟทางคู่ 7 โครงการ วงเงิน 2.13 แสนลบ.

สืบเนื่องจากรัฐบาลภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเป็นนโยบายสำคัญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว พร้อมกับมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 8 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2558-2564 เพื่อวางรากฐานการลงทุนพัฒนาให้เกิดความต่อเนื่อง และเชื่อมโยงระบบขนส่งทางราง ถนน น้ำ และอากาศเข้าไว้ด้วยกัน

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ให้ความสำคัญสนองตอบต่อนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยนับตั้งแต่มีการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ปี 2558 จนถึงปัจจุบันปี 2561 ตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปี การรถไฟฯ สามารถขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ได้ตามแผนที่ยุทธศาสตร์กำหนดไว้ จำนวน 7 โครงการ คิดเป็นวงเงิน

ลงทุนรวมกว่า 213,100.41 ล้านบาท ประกอบด้วย


1. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 24,722.28 ล้านบาท ระยะทาง 148 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี

2. โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 85,345 ล้านบาท ระยะทาง 323 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี

3. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 26,007.20 ล้านบาท ระยะทาง 187 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี

4. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 29,449.31 ล้านบาท ระยะทาง 132 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี

5. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,290.63 ล้านบาท ระยะทาง 165 กิโลเมตรระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี

6. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 20,046.41 ล้านบาท ระยะทาง 169 กิโลเมตรระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี


7. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน10,239.98 ล้านบาท ระยะทาง 84 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี


โครงการรถไฟทางคู่ถือเป็นหัวใจของการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางของประเทศ โดยเมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จตามแผนจะช่วยเพิ่มความเร็วของขบวนรถขนส่งสินค้าจาก 35 – 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 70 กิโลเมตร และรถไฟขบวนขนส่งผู้โดยสาร เพิ่มความเร็วจาก 50 – 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 120 กิโลเมตร รวมถึงยังก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งทางถนนไปสู่การขนส่งทางรางที่มีต้นทุนต่อหน่วยถูกลง ตลอดจนยังช่วยลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง ซึ่งเป็นปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลดีต่อการลดต้นทุน โลจิสติกส์โดยรวมของประเทศ จากปัจจุบันที่มีต้นทุนโลจิสติกส์เฉลี่ย ร้อยละ 14 ของจีดีพี ให้ลดลงได้อีกร้อยละ 2 ภายในอนาคต นอกจากนี้ งบประมาณในการลงทุนยังก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้และเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นประโยชน์ต่อประเทศอีกมาก
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 12/11/2018 12:27 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.โชว์ผลงาน 4 ปี ลงทุนรถไฟทางคู่ 7 โครงการ
กรุงเทพธุรกิจ 10 พฤศจิกายน 2561

ร.ฟ.ท.โชว์ 4 ปี ลงทุนรถไฟทางคู่ 7 เส้นทาง กว่า 2.13 แสนล้าน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 10 พฤศจิกายน 2561 14:58
ปรับปรุง: 10 พฤศจิกายน 2561 17:34




การรถไฟ เผย 4 ปี ลงทุนรถไฟทางคู่ รวม 7 โครงการ วงเงิน 213,100 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายเพิ่มความเร็วการเดินรถเป็น 120 กม./ชม. ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และลดต้นทุนโลจิสติสก์ของประเทศลง 2%

สืบเนื่องจากรัฐบาลภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเป็นนโยบายสำคัญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว พร้อมกับมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 8 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2558-2564 เพื่อวางรากฐานการลงทุนพัฒนาให้เกิดความต่อเนื่อง และเชื่อมโยงระบบขนส่งทางราง ถนน น้ำ และอากาศเข้าไว้ด้วยกัน

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่ประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ให้ความสำคัญสนองตอบต่อนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

โดยนับตั้งแต่มีการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ปี 2558 จนถึงปัจจุบันปี 2561 ตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปีการรถไฟฯ สามารถขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ได้ตามแผนที่ยุทธศาสตร์กำหนดไว้ จำนวน 7 โครงการ คิดเป็นวงเงินลงทุนรวมกว่า 213,100.41 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 24,722.28 ล้านบาท ระยะทาง 148 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี

2. โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 85,345 ล้านบาท ระยะทาง 323 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี

3. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 26,007.20 ล้านบาท ระยะทาง 187 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี

4. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 29,449.31 ล้านบาท ระยะทาง 132 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี

5. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,290.63 ล้านบาท ระยะทาง 165 กิโลเมตรระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี

6. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 20,046.41 ล้านบาท ระยะทาง 169 กิโลเมตรระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี

7. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 10,239.98 ล้านบาท ระยะทาง 84 กิโลเมตร ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี

“โครงการรถไฟทางคู่ถือเป็นหัวใจของการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางของประเทศ โดยเมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จตามแผนจะช่วยเพิ่มความเร็วของขบวนรถขนส่งสินค้าจาก 35 - 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 70 กิโลเมตร และรถไฟขบวนขนส่งผู้โดยสารเพิ่มความเร็วจาก 50 - 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 120 กิโลเมตร รวมถึงยังก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งทางถนนไปสู่การขนส่งทางรางที่มีต้นทุนต่อหน่วยถูกลง”

ตลอดจนยังช่วยลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงซึ่งเป็นปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลดีต่อการลดต้นทุน โลจิสติกส์โดยรวมของประเทศ จากปัจจุบันที่มีต้นทุนโลจิสติกส์เฉลี่ย 14 % ของจีดีพี ให้ลดลงได้อีก 2 %ภายในอนาคต นอกจากนี้ งบประมาณในการลงทุนยังก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้และเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นประโยชน์ต่อประเทศอีกมาก
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 13/11/2018 10:36 am    Post subject: Reply with quote

เริ่มการขุดอุโมงค์ที่ลำตะคอง กม.198.2 - 199.6 แล้ว รอการขุดอุโมงค์ที่ผาเสด็จ (กม.136 - 141.85) และ อุโมงค์ที่หินลับ (กม.144.4 - 145.05) ครับ
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/2694671790546869

อุโมงค์รถไฟ แห่งที่ 1 ในโครงการก่อสร้างทางคู่ ช่วงมาบกระเบา - ชุมทางถนนจิระ อยู่ที่ กม.136+000 ถึง 141+850 ระหว่างสถานีผาเสด็จ กับ สถานีหินลับ เป็นอุโมงค์คู่ สำหรับขบวนรถวิ่งขึ้น-ล่อง ความยาว 5.85 กม.- อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/2699459736734741
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44615
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/11/2018 5:00 pm    Post subject: Reply with quote

ชาวเมืองพลฟ้องศาลปกครองรถไฟทางคู่ละเมิดสิทธิ์ ขอคุ้มครองจนกว่าแก้แบบใหม่
เผยแพร่: 15 พ.ย. 2561 12:16 ปรับปรุง: 15 พ.ย. 2561 12:24 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชาวเมืองพลยื่นฟ้องศาลปกครองสิ้นเดือน พ.ย.นี้ รถไฟทางคู่สายจิระ-ขอนแก่นสร้างจุดตัดละเมิดสิทธิพื้นฐานในการเดินทาง-กระทบวิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่น ทั้งเสี่ยงตาย-น้ำท่วมเมือง ย้ำไม่ได้ค้านโครงการแค่ขอแก้แบบให้ได้มาตรฐาน

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา ที่อาคารรัฐสภา 2 คณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เชิญตัวแทนเครือข่ายชุมชนเมืองพลจำนวน 5 ท่านเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณาข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับรูปแบบการก่อสร้างโครงการทางรถไฟทางคู่ในเขตพื้นที่อำเภอพลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ตามที่ได้ร้องเรียนถึงประธานคณะกรรมาธิการฯ เมื่อกว่า 5 เดือนก่อน เนื่องจากโครงการก่อสร้างทางรถไฟและพัฒนารถไฟทางคู่สายจิระ-ขอนแก่น ก่อให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างทั้งเรื่องความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนน ปัญหาการสัญจร และปัญหาน้ำท่วมเมือง

ในหนังสือร้องเรียนนั้น ชาวเมืองพลต้องการให้ทางโครงการฯ แก้ไขแบบการก่อสร้างใน 3 ประเด็น คือ
1. ให้ยกระดับทางรถไฟข้ามจุดตัด ถนนเมืองพล-แวงน้อย-จ.ชัยภูมิ เว้นพื้นที่เผื่อถนนกว้าง 6 ช่องจราจร ความสูงไม่น้อยกว่า 6 เมตรไปจดถนนมิตรภาพ,

2. ให้ยกระดับทางรถไฟ ขยายอุโมงค์ทางลอดจุดตัดถนนเมืองพล-แวงใหญ่ เป็น 4 ช่องจราจร พร้อมทางเท้าตรงไปเชื่อมต่อถนนทางหลวงโดยไม่ต้องเป็นทางกลับรถ (U-Turn) ความสูงไม่น้อยกว่า 6 เมตร

3. ให้ทำทางลอดระหว่างชุมชนศรีเมืองกับหมู่บ้านชัยประเสริฐ เป็น 2 ช่องจราจร พร้อมทางเท้าความสูงไม่น้อยกว่า 3.50 เมตร

รายงานระบุว่า ในประเด็นข้อเรียกร้องของชาวเมืองพลที่ต้องการให้ปรับแก้แบบก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟทางคู่ทั้ง 3 จุดดังกล่าวในที่ประชุมไม่สามารถหาทางออกร่วมกันได้ เพราะทางฝ่ายคณะกรรมาธิการฯ ได้ยืนยันผลสรุปจากการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะแก้ไขแบบก่อสร้างใหม่ด้วยการยกระดับรางรถไฟให้มีช่องลอดสูง 5.0 เมตร

Click on the image for full size

บรรยากาศที่ประชุมคณะกรรมาธิการคมนาคม สนช. ณ อาคารรัฐสภา 2 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.61

Click on the image for full size

ตัวแทนชาวเมืองพลผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการฯเข้าร่วมประชุมในวาระจร กรณีปัญหาที่ร้องเรียน

ประเด็นแก้แบบด้วยการยกรางรถไฟให้สูงขึ้น 5 เมตรดังกล่าวทางฝ่ายตัวแทนชาวเมืองพลพยายามซักถามถึงรายละเอียดว่ายกระดับรางขึ้นสูง 5 เมตรนั้นวัดจากจุดไหน วัดจากสันรางหรือว่าต้องไปกดระดับรางลงไปแล้วเริ่มวัด ถ้ากดระดับรางลงไปก็จะยิ่งมีปัญหาน้ำท่วมขัง หน้าฝนน้ำก็ท่วมหนักยิ่งกว่าเดิม ข้อกังขาเหล่านี้ไม่ได้รับการชี้แจงใดๆ อ้างแต่ว่าระดับ 5 เมตรเป็นช่องลอดมาตรฐานทั่วไปที่เขาทำกัน

Click on the image for full size

นายเริงชัย ศิริวิชัย ตัวแทนชาวเมืองพลที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เปิดเผยว่า การยกระดับรางสูง 5 เมตรที่เสนอมานั้น ทางคณะกรรมาธิการไม่ยอมอธิบายรายละเอียดตามคำถามของชาวบ้านอย่างพวกเราได้ อ้างแต่ว่าเป็นเรื่องทางด้านเทคนิคเอาไว้คุยกันทีหลัง เรามองว่าเป็นการถ่วงเวลา ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา พวกเรากลัวว่าช่องลอด 5 เมตรจากการยกระดับรางที่เสนอมานั้นจะไปกดพื้นถนนให้ต่ำลง นอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมแล้วยังเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดอุบัติเหตุ พวกเราไม่สามารถยอมรับได้

การยกระดับรางขึ้นเพื่อให้ช่องลอดสูง 6 เมตรที่ทางเราเสนอไปนั้นมีที่มาที่ไป เพราะเป็นไปตามมาตรฐานการสร้างสะพานลอยของกรมทางหลวงที่มีความสูงราว 5.50 เมตร และทางเราต้องการกันไว้อีก 50 เซนติเมตรเผื่อซ่อมผิวจราจรหรืปรับผิวดิน หลักพื้นฐานทางวิศวกรรมการทางการรางพวกนี้เราศึกษาหาข้อมูลกันพอสมควร ไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาลอยๆ” นายเริงชัยกล่าว และว่า

Click on the image for full size

เมื่อไม่สามารถให้ความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ ล่าสุดพวกเราได้ตัดสินใจร่วมกันแล้วว่าเมื่อไม่สามารถพึ่งอำนาจฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติได้ ก็เหลืออำนาจสุดท้ายคือฝ่ายตุลาการที่เราจะต้องพึ่งขอความเป็นธรรม โดยจะนำประเด็นปัญหาดังกล่าวยื่นร้องต่อศาลปกครองภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2561 นี้

นางผาสุก ปัญหา ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนชาวเมืองพล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทางเครือข่ายฯ จะเร่งรวบรวมรายมือชื่อและสำเนาบัตรประชาชนของชาวเมืองพลผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ ประกอบกับสำนวนฟ้องและเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นต่อศาลปกครองให้เร็วที่สุด ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการเดินทาง วิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่นถูกละเมิดจากโครงการของรัฐที่ไม่ได้มาตรฐาน พวกเรายืนยันมาตลอดว่าไม่ได้คัดค้านโครงการฯ เพียงแค่ต้องการให้แก้ไขแบบก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยต่อการดำรงชีวิตของคนในพื้นที่เท่านั้น

โครงการนี้มีความไม่ชอบด้วยระเบียบทางราชการตั้งแต่ขั้นตอนแรกการจัดทำประชาพิจารณ์แล้ว ชาวเมืองพลผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการฯ เกือบจะ 100% ไม่มีส่วนร่วม ไม่ได้รับแจ้งรับเชิญเข้าร่วม มาทราบภายหลังว่าการจัดประชาพิจารณ์ในราวปี 2554-2555 มีคนเข้าร่วมแค่ราว 40 คน ทั้งที่ประชากรในเขตเทศบาลเมืองพลมีมากกว่าแสนคน

Click on the image for full size

นางผาสุกบอกอีกว่า การยื่นร้องต่อศาลปกครองครั้งนี้ ชาวเมืองพลต้องการได้รับการคุ้มครองชั่วคราวคือการรถไฟฯ ต้องยุติการก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟทางคู่ทั้งสะพานเกือกม้าและทางลอดอุโมงค์ทั้ง 3 จุดในเขตเทศบาลเมืองพลไว้ก่อน จนกว่ากระบวนการแก้ไขแบบการก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟทางคู่ดังกล่าวได้ข้อสรุปและเป็นที่ยอมรับร่วมกันทั้งหน่วยงานรัฐเจ้าของโครงการ และประชาชนชาวพล

Click on the image for full size

โดยเฉพาะสะพานเกือกม้า จุดตัดทางรถไฟ ถ.เมืองพล-อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เชื่อมไปยัง จ.ชัยภูมิ ต้องหยุดสร้างทันที สะพานเกือกม้าจุดนี้เมื่อสร้างเสร็จเชื่อว่าการรถไฟฯ หรือฝ่ายบริหารจะยกเป็นข้ออ้างว่าสร้างเสร็จแล้วไม่สามารถยกระดับทางรถไฟทางคู่ให้สูงขึ้นในระดับได้มาตรฐานช่องลอดทางรถยนต์ได้ เพราะตลอดกว่าครึ่งปีที่ผ่านมาขณะที่เราตระเวนร้องทุกข์ร้องเรียนไปทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องให้ยกระดับรางรถไฟแทนเกือกม้าและอุโมงค์ลอดราง การรถไฟฯ ยังเดินหน้าสร้างต่อ แสดงถึงการเมินเฉยต่อทุกข์ของประชาชนอย่างชัดเจน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 15/11/2018 5:15 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เริ่มการขุดอุโมงค์ที่ลำตะคอง กม.198.2 - 199.6 แล้ว รอการขุดอุโมงค์ที่ผาเสด็จ (กม.136 - 141.85) และ อุโมงค์ที่หินลับ (กม.144.4 - 145.05) ครับ
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/2694671790546869

อุโมงค์รถไฟ แห่งที่ 1 ในโครงการก่อสร้างทางคู่ ช่วงมาบกระเบา - ชุมทางถนนจิระ อยู่ที่ กม.136+000 ถึง 141+850 ระหว่างสถานีผาเสด็จ กับ สถานีหินลับ เป็นอุโมงค์คู่ สำหรับขบวนรถวิ่งขึ้น-ล่อง ความยาว 5.85 กม.- อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/2699459736734741

อุโมงค์รถไฟ แห่งที่ 3 ในโครงการก่อสร้างทางคู่ ช่วงมาบกระเบา - ชุมทางถนนจิระ อยู่ที่ กม.198+200 ถึง 199+600 ระหว่างสถานีคลองไผ่ กับ สถานีคลองขนานจิตร เป็นอุโมงค์คู่ สำหรับขบวนรถวิ่งขึ้น-ล่อง ความยาว 1.40 กม.ในภาพเป็นอุโมงค์ทางล่องที่เริ่มขุดเจาะแล้ว
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/2699610250053023
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 219, 220, 221 ... 390, 391, 392  Next
Page 220 of 392

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©