Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263597
ทั้งหมด:13574880
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 220, 221, 222 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2018 11:08 am    Post subject: Reply with quote

ชาวตำบลคูบัว ฝากถึงผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.พิจารณาขอเพิ่มอุโมงค์ทางลอดรถไฟทางคู่สถานีบ้านคูบัว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 22 พฤศจิกายน 2561 19:44
ปรับปรุง: 22 พฤศจิกายน 2561 20:13


ราชบุรี - ชาวตำบลคูบัว ขอเสนอเพิ่มอุโมงค์ทางลอดรถไฟทางคู่ สถานีบ้านคูบัว หลังเจ้าหน้าที่วิศวกร บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างทางการรถไฟแห่งประเทศไทย มาจัดประชุมชี้แจงกรณีก่อสร้างรถไฟทางคู่พาดผ่าน มีข้อเสนอหลายเรื่องฝากถึงผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.พิจารณา

วันนี้ (22 พ.ย.) นายพจฐณศล ธนิกกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี กล่าวภายหลังที่เจ้าหน้าที่วิศวกร บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างทางการรถไฟแห่งประเทศไทย มาจัดประชุมชี้แจงกรณีก่อสร้างรถไฟทางคู่พาดผ่าน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล สัญญาที่ 1 ที่ศาลาอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตำบลคูบัว

โดยมี นายสมพล จุรียะพันธ์ วิศวกร บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.ร่วมนำเอกสารชี้แจงให้แก่ตัวแทนชาวบ้านหมู่ที่ 1-15 ต.คูบัว กว่า 500 คน เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ มีชาวบ้านหลายคนได้แสดงความคิดเห็นหลายเรื่อง โดยเฉพาะขณะนี้กำลังประสบปัญหารถบรรทุกที่กำลังนำดินมาถมก่อสร้างในโครงการรถไฟทางคู่ในพื้นที่ ต.คูบัว สร้างมลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากผิวถนนเลอะเทอะ เต็มไปด้วยคราบดินจากการตกหล่นของรถบรรทุกทำให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย

ส่งผลกระทบต่อชุมชน อีกทั้งการจราจรติดขัดบางจุดช่วงที่มีการก่อสร้าง ที่ใช้ถนนเดินทางผ่านเข้าตัวเมืองราชบุรี โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น จะต้องไปรับส่งลูกหลานไปกลับโรงเรียน และอยากให้ช่วยสร้างทางลอดอุโมงค์ให้มีขนาดกว้าง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

นายพจฐณศล ธนิกกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคูบัว เปิดเผยว่า ทาง อบต.คูบัว ได้ทำหนังสือไปถึงผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชุมชนของตำบลคูบัว เนื่องจากรถไฟทางคู่ได้พาดผ่านพื้นที่ตำบลคูบัว เป็นระยะทางประมาณ 5,700 เมตร ซึ่งระยะทางดังกล่าวจะมีเส้นทางถนนที่จะต้องพาดผ่านข้ามอยู่ประมาณ 4 เส้นทาง จึงต้องการอยากทราบรูปแบบเส้นทางดังกล่าวว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร และทาง ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการสร้างทางกลับรถ หรือทางลอดให้แก่ชุมชนอย่างไร เพื่อให้ชาวบ้านได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนถูกต้อง

โดยรูปแบบที่ทาง ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการทำให้บริเวณแยกบายพาสตำบลดอนตะโก ตำบลคูบัว ตำบลบ้านไร่ บริเวณจุดดังกล่าวจะเป็นรูปแบบลักษณะเกือกม้า แต่ทางชุมชนประสงค์ต้องการให้เพิ่มเติมอีกคือ ลักษณะเป็นช่องอุโมงค์ทางลอด เพื่อให้รถเล็ก เช่น มอเตอร์ไซค์ รถยนต์เก๋ง กระบะ สามล้อ สามารถวิ่งผ่านได้สะดวกยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการสร้างเกือกม้ายูเทิร์น และทางที่ 2 บริเวณระหว่างหมู่ที่ 2 ไปหมู่ที่ 3 ซึ่งเป็นสถานีรถไฟบ้านคูบัว เดิมทางการรถไฟฯ ไม่ได้ออกแบบสร้างทางลอดไว้ให้ ทั้งที่เส้นทางดังกล่าวจะมีชาวบ้านใช้เป็นทางเดินอยู่ประจำ จะให้ทำอุโมงค์ทางลอดเพิ่มความสะดวก

วันนี้จึงได้จัดประชุมตัวแทนชาวบ้านทั้ง 15 หมู่บ้าน มาเสนอความคิดเห็นร่วมกันขอให้สร้างเป็นอุโมงค์ทางลอดเพิ่มเติม ส่วนบริเวณหมู่ที่ 6 และหมู่ 8 ไม่ได้มีอยู่ในแบบ จึงให้ประชาชนในพื้นที่นี้มาเสนอความต้องการเพื่อจะให้ทาง ร.ฟ.ท.ช่วยสร้างทางลอดให้แก่ชาวบ้าน เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่วิศวกร บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างทางการรถไฟแห่งประเทศไทย นำเรื่องทั้งหมดที่ชาวบ้านร้องขอไปเสนอต่อผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทาง อบต.คูบัว จะมีการติดตามผลข้อมูลที่ประชาชนเสนอความคิดเห็นส่งไปยังผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาให้ทราบตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ และจะนำมาแจ้งให้ประชาชนทราบในวาระต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2018 7:15 pm    Post subject: Reply with quote

ความคืบหน้างานก่อสร้างทางคู่ ประจำเดือนตุลาคม 2561 สัญญาที่ 2 ช่วง หนองปลาไหล-หัวหิน
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
https://www.facebook.com/southtwintrain/posts/2201834356737975
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2018 10:36 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าเส้นทางขอนแก่น-แหลมฉบังพลิกโฉมการขนส่งสินค้าด้วยระบบราง

22 November 2018
ตีพิมพ์ใน หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับที่ 3,419 วันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมาคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ดร.ฟ.ท.) ก็ได้เห็นชอบผลศึกษาให้เอกชนร่วมลงทุนรถไฟใช้ระบบไฟฟ้าขนส่งสินค้า ขอนแก่น-แหลมฉบัง ระยะทางกว่า 516 กม. คาดใช้งบไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าขนสินค้าได้กว่า 3.8 ล้านตัน/ปี โดยหลังจากนี้จะเร่งส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์โครงการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการเดินรถตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เพื่อดำเนินการพ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯต่อไป

โครงการนี้วัตถุประสงค์เพื่อประหยัดการลงทุนของภาครัฐจึงต้องนำเสนอเข้าสู่พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 โดยได้มีการศึกษารองรับไว้หลายรูปแบบแต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) จะพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมต่อไป

รถไฟฟ้าเพื่อการขนส่งสินค้าเส้นทางขอนแก่นแหลมฉบัง ถือได้ว่าเป็นอีกโครงการที่เปิดให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยโดยพบว่ากลุ่มบริษัทบีทีเอสฯและกลุ่มบริษัท

ทีพีไอโพลีนฯแสดงความสนใจลงทุนโครงการดังกล่าว โดยถือว่าเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ประการสำคัญหากรัฐต้องลงทุนมหาศาลปัจจุบันนี้รัฐยังไม่มีความพร้อมโดยเฉพาะหลายโครงการที่เกิดขึ้นพร้อมกันก็จะเกิดไม่ได้เนื่องจากปัจจัยการลงทุนจำนวนมหาศาลนั่นเอง

เบื้องต้นบอร์ด ร.ฟ.ท. เห็นชอบให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐจะลงทุนในส่วนของการจัดสรรที่ดินแนวเส้นทางเพื่อก่อสร้างอู่จอดและซ่อมบำรุง พร้อมทั้งลงทุนระบบบริหารจัดการ ขณะที่ภาคเอกชนจะเป็นผู้รับผิดชอบการลงทุนในส่วนของงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล งานอู่จอดและซ่อมบำรุงงานก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และการจัดหาหัวรถจักรไฟฟ้า และรถสินค้า

ในส่วนงบประมาณการลงทุนอ้างอิงตามผลการศึกษา พบว่ามีมูลค่ารวม 19,193 ล้านบาท แบ่งออกเป็น งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล 17,250 ล้านบาท งานก่อสร้างอู่จอดและซ่อมบำรุง 1,200 ล้านบาท งานจัดซื้อขบวนรถ 735 ล้านบาท และงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม 8 ล้านบาท มีอายุสัมปทานอยู่ที่ 30 ปี พร้อมเงื่อนไขในการต่ออายุสัมปทานได้อีก 30 ปี โดย ร.ฟ.ท. จะได้รับผลตอบแทนสุทธิตลอดอายุสัญญาคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท

คงต้องมีลุ้นกันว่าท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลคสช.จะให้ความสำคัญต่อการยกระดับการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟฟ้าหรือไม่ ใครจะเป็นผู้สนใจลงทุนกันแน่ และเอกชนต่างประเทศจะให้ความสนใจมากน้อยแค่ไหนเพราะหากเปิดให้บริการได้เชื่อว่าจะมีส่วนกระตุ้นวงการโลจิสติกส์ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมาก

__________________
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/11/2018 1:21 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่เฟส1สะดุด สั่งรื้อแบบก่อสร้างทั่วประเทศ
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 26 พ.ย. 2561 เวลา 07:36 น.

รถไฟทางคู่เฟส 1 สะดุด ปรับแบบก่อสร้างทั่วประเทศ รฟท.-รัฐบาลเสียงแตกสร้างสถานียกสูง หวั่นขนส่งสินค้ายาก เสี่ยงโครงการล่าช้า

แหล่งข่าวกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 รวม 5 เส้นทางนั้นต้องเจอกับปัญหาการปรับแบบที่ยังไร้ข้อสรุปของฝ่ายนโยบายจนอาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้างานก่อสร้างและการดำเนินงานภาพรวมของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เนื่องจากขณะนี้มีข้อถกเถียงกันเรื่องของแบบก่อสร้างรถไฟทางคู่ซึ่งฝ่ายนโยบายกำหนดให้ทำสถานียกสูง(High Platform) และลดปริมาณรางสับหลีกตามสถานี เช่นเดียวกับรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่นที่กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จ

ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ใช้รูปแบบสถานียกสูงในเส้นทางสายใต้ทั้ง 5 สัญญาด้วยเช่นกัน ทว่าทางรฟท.เห็นว่าการใช้สถานียกสูงจะทำให้รถขนส่งสินค้า รถไฟล้ำพิกัดและรถไฟด้านความมั่นคงของทหารไม่สามารถเข้าจอดที่สถานีใดได้เลย ประกอบกับไม่มีทางสับหลีกทำให้รถไฟขนส่งสินค้าจะมีปัญหาอย่างมากในอนาคต เช่นเดียวกับคุณภาพงานบริการของประชาชนเพราะรถไฟบรรทุกผู้โดยสารในปัจจุบันเป็นแบบต่ำ ดังนั้นในอนาคตรถไฟทางคู่ทุกสายอาจต้องใช้แผ่นรองเดินขึ้นชานชาลาเนื่องจากสถานีอยู่สูงกว่าตัวรถ แต่ในวันนี้ต้องรีบตัดสินใจเพราะหากจะยกระดับสถานีทางคู่ รฟท.จะต้องสั่งซื้อรถไฟใหม่ที่เป็นรองรับชานชาลาสูงมาด้วย

"ในวันนี้ต้องรีบหันหน้าคุยกันเพื่อไม่ทำให้โครงการล่าช้า ฝ่ายนโยบายควรทำหน้าที่วางกรอบยุทธศาสตร์พัฒนาเส้นทางรถไฟ แต่เรื่องแบบก่อสร้างเป็นงานเทคนิคที่ควรให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างรฟท.เป็นคนตัดสินใจ" แหล่งข่าวกล่าว

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน รฟท.กล่าวว่าขณะนี้รฟท.และฝ่ายนโยบายอยู่ระหว่างหารือกันถึงปัญหาดังกล่าวว่าจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะขณะนี้งานก่อสร้างในแต่ละสัญญาได้เริ่มต้นไปแล้วในช่วงแรก ดังนั้นการออกแบบสถานีจึงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งรัดทำต่อไป ในมุมมองของรฟท.แล้วสามารถออกแบบสถานีให้เป็นแบบสูงได้ แต่ต้องก่อสร้างทางสับหลีกไว้ในสถานีด้วย เพื่อให้รถไฟที่เข้าไม่ได้ไปจอดในจุดดังกล่าว ทว่าวันนี้ฝ่ายนโยบายมองว่าการทำรถไฟทางคู่วิ่งสวนกันได้แล้วจึงไม่จำเป็นต้องมีทางสับหลีก ถือว่าเป็นข้อเสนอทางเทคนิคที่ยังดูไม่เหมาะสมเนื่องจากความเป็นจริงแล้วมีโอกาสที่รถไฟหลายประเภทจะมาถึงยังสถานีไล่เลี่ยกันและมีระยะเวลาการจอดที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นหากทุกคันต้องวิ่งเข้าชานชาลาโดยไม่มีทางหลีกอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องระยะเวลาเดินทางต่อเที่ยวหรือดีเลย์ได้

สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เฟส 1 รวม 5 เส้นทางนั้นมีความก้าวหน้าดังนี้
1.รถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม - หัวหิน
สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม - หนองปลาไหล คืบหน้า 8.21%
สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล - หัวหิน คืบหน้า 11.9%
2.รถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ คืบหน้า 16.4%
3.รถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร
สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - บางสะพานน้อย คืบหน้า7.7% และ
สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย - ชุมพร คืบหน้า 9.4%
4.รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระและ
5.รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ มีความคืบหน้าการก่อสร้างเฉลี่ย 8-10%
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 27/11/2018 12:22 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟทางคู่เฟส1สะดุด สั่งรื้อแบบก่อสร้างทั่วประเทศ
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 07:36 น.



หวั่นทางคู่เฟส1สะดุดหลังรัฐสั่งทำสถานียกสูง

26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 09:13 น.

ทางคู่เฟส 1 สะดุด หลังรัฐบาลสั่งใช้รูปแบบสถานียกสูงในเส้นทางสายใต้ทั้ง 5 สัญญา ห่วงก่อสร้างล่าช้า เล็งนัดถกแก้ปัญหา กังวลประชาชนเดือดร้อน รถไฟดีเลย์

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 รวม 5 เส้นทางนั้นต้องเจอกับปัญหาการปรับแบบที่ยังไร้ข้อสรุปของฝ่ายนโยบายจนอาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้างานก่อสร้างและการดำเนินงานภาพรวมของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เนื่องจากขณะนี้มีข้อถกเถียงกันเรื่องของแบบก่อสร้างรถไฟทางคู่ซึ่งรัฐบาลต้องการกำหนดให้ทำสถานียกสูง (High Platform) และไม่ต้องมีรางสับหลีก เช่นเดียวกับรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่น

อย่างไรก็ตามดังนั้นจึงได้สั่งการให้ใช้รูปแบบสถานียกสูงในเส้นทางสายใต้ทั้ง 5 สัญญาด้วยเช่นกัน โดยทางรฟท.เห็นว่าการใช้สถานียกสูงจะทำให้รถขนส่งสินค้า รถไฟล้ำพิกัดและรถไฟด้านความมั่นคงของทหารไม่สามารถเข้าจอดที่สถานีใดได้เลย ประกอบกับไม่มีทางสับหลีกทำให้รถไฟขนส่งสินค้าจะมีปัญหาอย่างมากในอนาคต เช่นเดียวกับคุณภาพงานบริการของประชาชนเพราะรถไฟบรรทุกผู้โดยสารในปัจจุบันเป็นแบบต่ำ ดังนั้นในอนาคตรถไฟทางคู่ทุกสายอาจต้องใช้แผ่นรองเดินขึ้นชานชาลาเนื่องจากสถานีอยู่สูงกว่าตัวรถ แต่ในวันนี้ต้องรีบตัดสินใจเพราะหากจะยกระดับสถานีทางคู่ รฟท.จะต้องสั่งซื้อรถไฟใหม่ที่เป็นรองรับชานชาลาสูงมาด้วย

“ในวันนี้ต้องรีบหันหน้าคุยกับหน่อยว่นที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ทำให้โครงการล่าช้า ฝ่ายนโยบายควรทำหน้าที่วางกรอบยุทธศาสตร์พัฒนาเส้นทางรถไฟ แต่เรื่องแบบก่อสร้างเป็นงานเทคนิคที่ควรให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างรฟท.เป็นคนตัดสินใจ”แหล่งข่าวกล่าว

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน รฟท.กล่าวว่าขณะนี้รฟท.และฝ่ายนโยบายอยู่ระหว่างหารือกันถึงปัญหาดังกล่าวว่าจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะขณะนี้งานก่อสร้างในแต่ละสัญญาได้เริ่มต้นไปแล้วในช่วงแรก

ดังนั้นการออกแบบสถานีจึงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งรัดทำต่อไป ในมุมมองของรฟท.แล้วสามารถออกแบบสถานีให้เป็นแบบสูงได้ แต่ต้องก่อสร้างทางสับหลีกไว้ในสถานีด้วย เพื่อให้รถไฟที่เข้าไม่ได้ไปจอดในจุดดังกล่าว

ซึ่งวันนี้ฝ่ายนโยบายมองว่าการทำรถไฟทางคู่วิ่งสวนกันได้แล้วจึงไม่จำเป็นต้องมีทางสับหลีก ถือว่าเป็นข้อเสนอทางเทคนิคที่ยังดูไม่เหมาะสมเนื่องจากความเป็นจริงแล้วมีโอกาสที่รถไฟหลายประเภทจะมาถึงยังสถานีไล่เลี่ยกันและมีระยะเวลาการจอดที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นหากทุกคันต้องวิ่งเข้าชานชาลาโดยไม่มีทางหลีกอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องระยะเวลาเดินทางต่อเที่ยวหรือดีเลย์ได้

สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เฟส 1 รวม 5 เส้นทางนั้นมีความก้าวหน้าดังนี้

1.รถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม - หัวหิน สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล คืบหน้า 8.21% สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล – หัวหิน คืบหน้า 11.9%

2.รถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ คืบหน้า 16.4%

3.รถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – บางสะพานน้อย คืบหน้า 7.7% และสัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย – ชุมพร คืบหน้า 9.4%

4.รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระและ

5.รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ มีความคืบหน้าการก่อสร้างเฉลี่ย 8-10%


รฟท.ยืนยันการปรับความสูงของชานชาลาไม่ทำให้การก่อสร้างรถไฟทางคู่ล่าช้า
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา18:34 น
https://www.facebook.com/ThaiRailNews/posts/1959546057460710


Last edited by Wisarut on 27/11/2018 12:24 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/11/2018 9:48 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟท.ยืนยันการปรับความสูงของชานชาลาไม่ทำให้การก่อสร้างรถไฟทางคู่ล่าช้า
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา18:34 น


การรถไฟฯ ยืนยันการปรับแบบของชานชาลารถไฟทางคู่อยู่ระหว่างศึกษาคาด 3 เดือนสรุปได้ ยืนยันไม่ทำให้การก่อสร้างล่าช้า

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงหลังจากมีข่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่มีปัญหาเรื่องการปรับแบบความสูงของชานชาลาจนอาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้าของงานก่อสร้าง โดยระบุว่า ในปัจจุบันชานชาลาที่มีใช้งานอยู่ทั่วประเทศของการรถไฟฯ เป็นรูปแบบชานชาลาต่ำ ซึ่งการปรับระดับความสูงของชานชาลาให้เป็นชานชาลาสูงนั้น จะต้องพิจารณาดำเนินการให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการให้น้อยที่สุด กล่าวคือ ชานชาลาแบบสูงนั้นเป็นที่ทราบดีว่าจะทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าออกขบวนรถไฟได้โดยสะดวก

แต่การที่จะปรับเปลี่ยนชานชาลาทั้งหมดทั่วประเทศ จากชานชาลาต่ำเป็นชานชาลาสูงนั้น ยังต้องคำนึงถึงผลกระทบในหลายๆ ด้าน เช่น จะต้องทำการปรับระดับความสูงของชานชาลาและความสูงอาคารสถานีรถไฟทั่วประเทศ จะต้องปรับปรุงขบวนรถไฟทั้งหมดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน จะต้องพิจารณากรณี ผู้โดยสารพลัดตกจากชานชาลา จะต้องพิจารณาความสะดวกของผู้โดยสารที่จะเดินข้ามระหว่างชานชาลาโดยใช้สะพานลอย จะต้องพิจารณากรณีการขนส่งยุทโธปกรณ์ทางทหาร เป็นต้น

ดังนั้น การรถไฟฯ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาระดับความสูงของชานชาลาที่เหมาะสม มาเพื่อพิจารณาระดับความสูงของชานชาลาที่เหมาะสม ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงศึกษาแนวทางการดำเนินการและมาตรการรองรับในช่วงที่การรถไฟฯ ต้องทำการปรับระดับความสูงของชานชาลา อาคารสถานี และขบวนรถไฟ ตามกล่าวข้างต้น

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้บริการมากที่สุด โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาศึกษาประมาณ 3 เดือน

ส่วนกรณีที่อาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้าของการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 5 เส้นทาง นั้น การรถไฟฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ได้สั่งการให้ผู้รับเหมาทำการก่อสร้างเป็นรูปแบบชานชาลาต่ำไว้ก่อน โดยกำหนดให้โครงสร้างสามารถรองรับการปรับปรุงให้เป็นชานชาลาสูงได้โดยไม่ยุ่งยากและไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ดังนั้น ผู้รับเหมาจึงสามารถดำเนินงานก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ส่งผลกระทบให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างแต่อย่างใด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 27/11/2018 10:04 am    Post subject: Reply with quote

สถานีทางคู่จิระ-ขอนแก่นลิ่วสนข.เคลียร์ปัญหา เมืองพล
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
http://www.otp.go.th/uploads/tiny_uploads/Newspaper/2561/NOVEMBER/25611126/3.pdf
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 28/11/2018 12:20 pm    Post subject: Reply with quote

ได้ฤกษ์สำรวจระเบิดสงครามโลก ใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ 28 พ.ย.-4 ธ.ค.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19:54
ปรับปรุง: 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 20:37


ราชบุรี - เจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปักธง และวางทุ่นลอยน้ำสร้างแนวเขตในรัศมีบริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ ในแม่น้ำแม่กลอง จ.ราชบุรี โดยเตรียมสำรวจระเบิดสมัยสงครามโลก 28 พ.ย.-4 ธ.ค.นี้ เพื่อเปิดเส้นทางก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่

วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นั่งเรือยนต์ สำรวจบริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์ ในแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี เพื่อวางแผนสำรวจวางทุ่นสร้างแนวเขตในการเตรียมลงสำรวจใต้น้ำอีกครั้ง เพื่อสำรวจวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จมอยู่ใต้แม่น้ำแม่กลอง ตามขั้นตอนที่จังหวัดได้มีแนวทางร่วมกับคณะทำงานเก็บกู้ เคลื่อนย้าย และทำลายวัตถุระเบิดที่ได้ประชุมหารือร่วมกันหลายฝ่ายเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่กองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ กองทำลายวัตถุระเบิด จากกรมสรรพาวุธทหารอากาศ ได้ปักธงพร้อมใช้ทุ่นสีส้ม สร้างแนวเขตรัศมีบริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์ เพื่อเตรียมดำเนินการสำรวจลูกระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่คาดว่าหลงเหลือจมอยู่ใต้น้ำบริเวณสะพานที่ขนาบอยู่คู่กันแนวเขตทางรถไฟ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติการสำรวจระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-4 ธ.ค.

โดยเจ้าหน้าที่กองประดาน้ำฯ จะเป็นหน่วยที่จะดำเนินการสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลสภาพการณ์และตำแหน่งวัตถุต่างๆ ใต้น้ำอย่างละเอียด เพื่อใช้ประกอบการวางแผนการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้ จังหวัดได้มีการจัดตั้งคณะทำงานอพยพ และสวัสดิภาพประชาชน โดยมีนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งจะมีการสำรวจ และจัดทำบัญชีจำนวนผู้อพยพ กำหนดพื้นที่รวมพลและพื้นที่รองรับ กำหนดเส้นทางการอพยพ ดำเนินการอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย พร้อมทั้งดูแลด้านการแพทย์และสาธารสุขให้แก่เจ้าหน้าที่ และผู้อพยพ

ส่วนการงานด้านประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร มีนางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานคณะทำงาน พร้อมด้วยผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ระหว่างส่วนราชการ สื่อมวลชน ประสานข้อมูลเหตุการณ์กับส่วนต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ รวมทั้งกำหนดมาตรการป้องกัน ตอบโต้ข่าวลือ ข่าวอันเป็นเท็จ เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลเป็นเอกภาพ ซึ่งหากมีปัญหาอุปสรรคให้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

//------------------

เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ใต้สะพานรถไฟ'จุฬาลงกรณ์'
ข่าว Like สาระ
วันอังคาร ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 16.10 น.

ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เริ่มเตรียมการเก็บกู้ระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ใต้สะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์แล้ว หลังพ่อเมืองราชบุรีประกาศจะนำขึ้นมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ชาวราชบุรี พร้อมแจ้งเตือนสื่อและชาวโซเชียลงดเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนอันอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ สาธารณชนขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น

27 พ.ย.61 ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การเก็บกู้ เคลื่อนย้าย และทำลายวัตถุระเบิด ได้เริ่มปฏิบัติการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการชุดแรก นำเรือบรรทุกทุ่นลอยน้ำเพื่อกำหนดจุดที่จะมีการลงสำรวจใต้น้ำในการสำรวจหาตำแหน่งของระเบิดที่จมอยู่บริเวณใต้สะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์ ข้ามแม่น้ำแม่กลอง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี





ภายหลังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ รบ. 0021/28956 ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องจะดำเนินการเก็บกู้ เคลื่อนย้ายและทำลายวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อยู่ใต้แม่น้ำแม่กลองบริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นจุดบริเวณที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัย

โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การเก็บกู้ เคลื่อนย้าย และทำลายวัตถุระเบิดในแม่น้ำแม่กลอง โดยมีนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดราชบุรี ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 16 ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฝ่ายทหาร และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นรองประธาน





นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนกรมสรรพวุธทหารอากาศ ผู้แทนกรมสรรพวุธทหารเรือ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ซึ่งจะมีหน้าที่ดำเนินการวางแผน ควบคุม และอำนวยการปฏิบัติเก็บกู้ เคลื่อนย้าย และทำลายวัตถุระเบิดเพื่อให้มีประสิทธิภาพเกิดความปลอดภัย อีกทั้งจะประสานการปฏิบัติในทุกขั้นตอนตามแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ เครื่องใช้อุปกรณ์ ยานพาหนะ และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ประสานงานเกี่ยวข้อง สนับสนุนให้ความช่วยเหลือแก่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ และดำเนินการอื่นๆตามความจำเป็น

ล่าสุด กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี ประชาสัมพันธ์การปฏิบัติงานการเก็บกู้วัตถุระเบิดในแม่น้ำแม่กลองด้านใต้สะพานธนะรัชต์ โดยหน่วยประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้นำเรือลงไปสำรวจและกำหนดพื้นที่บริเวณสะพาน และจุดใกล้เคียงตามแนวที่คาดว่าระเบิดจมอยู่ โดยการปฏิบัติการในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่หน่วยประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ เป็นการกำหนดลงสำรวจพื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานธนะรัชต์และสะพานจุฬาลงกรณ์ เพื่อเก็บข้อมูลสภาพการณ์และตำแหน่งวัตถุต่างๆ ใต้น้ำอย่างละเอียด เพื่อใช้ประกอบการวางแผนเก็บกู้วัตถุระเบิด ซึ่งจะปฏิบัติการในวันนี้ 28 พ.ย.-4 ธ.ค.61





ส่วนทางด้านนางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร ได้ออกประกาศของกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี แจ้งให้ทราบว่าการลงพื้นที่สำรวจดังกล่าว เพื่อค้นหาจุดที่ตั้งตำแหน่ง จำนวน ชนิด ประเภทของวัตถุระเบิด เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนเก็บกู้เท่านั้น ยังไม่มีการเก็บกู้และเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดแต่อย่างใด ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง

ทั้งนี้ หากมีกำหนดการเก็บกู้วัตถุระเบิดจะมีประกาศแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้าขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น กรุณางดเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนอันอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่สาธารณชน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 28/11/2018 12:37 pm    Post subject: Reply with quote

ศักรินทร์ แสงอรุณ
28 พย.2561

สถานีรถไฟขอนแก่นร่วมกับป้องกันภัยจังหวัดขอนแก่น/บริษัท ช.การช่าง/ตรฟ.ขอนแก่น เตรียมสถานที่จุดพลุและดอกไม้ไฟ 400 ชุด ณ บริเวณทางยกระดับรถไฟทางคู่ตัดกับถนนศรีจันทร์ เพื่อร่วมงานฉลองงานเทศกาลไหมนานาชาติ ซึ่งจะมีพิธีรำบวงสรวงชุด รำดอกคูณเสียงแคน ในวันที่ 28 พย.2561 เวลา 17.00 - 20.00 น.

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2015979075153201&id=100002233844840
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 28/11/2018 4:41 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ได้ฤกษ์สำรวจระเบิดสงครามโลก ใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ 28 พ.ย.-4 ธ.ค.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19:54
ปรับปรุง: 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 20:37



//------------------

เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ใต้สะพานรถไฟ'จุฬาลงกรณ์'
ข่าว Like สาระ
วันอังคาร ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 16.10 น.

วางทุ่นน้ำแม่กลองเตรียมสำรวจกู้ระเบิดสงครามโลก
สำนักข่าวไทย
วันอังคาร ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 115:10:25


ราชบุรี 27 พ.ย.- จนท.ปักธง-วางทุ่นลอยน้ำสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง จ.ราชบุรี แนวก่อสร้างรถไฟทางคู่ เตรียมลงสำรวจหาวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกเริ่ม 28 พ.ย.นี้

การเตรียมพร้อมเก็บกู้วัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แม่น้ำแม่กลองบริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี หลังจากวานนี้ (26 พ.ย.) หลายหน่วยงานได้ประชุมหารือในแนวทางดำเนินงานไปแล้วนั้น

ล่าสุด (27 พ.ย.) เจ้าหน้าที่จากกองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพวุธทหารเรือ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องนั่งเรือยนต์สำรวจบริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ และสะพานธนะรัชต์ เพื่อวางทุ่นสร้างแนวเขตก่อนลงสำรวจใต้น้ำกำหนดจุด ก่อนเก็บกู้ เคลื่อนย้าย และทำลายตามขั้นตอนที่มีการหารือไว้ โดยจะเริ่มสำรวจวันที่ 28 พ.ย. - 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งหน่วยประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์เป็นหน่วยดำเนินการสำรวจ เพื่อเก็บข้อมูลกายภาพและตำแหน่งวัตถุใต้น้ำ พร้อมตั้งคณะทำงานอพยพและสวัสดิภาพประชาชน โดยมีนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งจะมีการสำรวจ และจัดทำบัญชีจำนวนผู้อพยพ กำหนดพื้นที่รวมพลและพื้นที่รองรับ กำหนดเส้นทางการอพยพ ดำเนินการอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย รวมถึงดูแลด้านสาธารณสุขแก่เจ้าหน้าที่และผู้อพยพ

ทั้งนี้ ประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาบริษัทรับเหมาโครงการสร้างรถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน ได้เข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เนื่องจากช่วงหนึ่งของรางรถไฟจะต้องวางตอม่อข้ามแม่น้ำแม่กลองบริเวณดังกล่าว แต่มีข้อมูลว่าใต้น้ำอาจมีวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลงเหลืออยู่ จึงขอให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เกิดความชัดเจนและปลอดภัย.-
https://www.youtube.com/watch?v=HYFtmpdaQAg
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 220, 221, 222 ... 389, 390, 391  Next
Page 221 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©