RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311292
ทั่วไป:13271558
ทั้งหมด:13582850
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 236, 237, 238 ... 390, 391, 392  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 29/05/2019 8:45 pm    Post subject: Reply with quote

เท่าเทียม! รถไฟยกระดับทางคู่รุ่นใหม่ชานชาลาต้องสูง 1.10 เมตรจากสันราง
พร็อพเพอร์ตี้
วันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2562 เวลา 17:53 น.


การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ข้อสรุปการกำหนดระดับความสูงของชานชาลาในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 9 สัญญา ให้มีความสูงระดับ 1.10 เมตรจากระดับสันราง โดยยึดโยงประโยชน์ในการให้บริการแก่ผู้โดยสารทุกประเภท

ทั้งผู้โดยสารทั่วไป ผู้พิการ เด็ก คนชรา และผู้โดยสารที่มีสัมภาระติดตัวจํานวนมาก ให้ได้รับความสะดวกสบายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันดำเนินมาตรการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ในช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านปรับปรุงอย่างใกล้ชิด


นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตําแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงประเด็นข้อหารือในการกําหนดระดับความสูงของชานชาลาที่เหมาะสม ในการดําเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จํานวน 9 สัญญาว่า การรถไฟฯ ได้ประชุมหารือถึงผลดีผลเสียในประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ โดยได้ข้อสรุปและกำหนดเป็นนโยบายให้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 9 สัญญา จะต้องดําเนินการสร้างเป็นชานชาลาความสูง 1.10 เมตรจากระดับสันราง

รวมถึงให้มีการปรับปรุงส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชานชาลาให้มีความสูงสอดคล้องตามที่กําหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญาและงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนเป็นการสร้างความชัดเจนในการปฏิบัติงาน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการตรวจรับงานล่าช้า รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในภายหลัง

“ได้ประเมินผลกระทบและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในหลายมิติ คํานึงถึงสภาพปัจจุบัน และแผนงานในอนาคต ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเดินรถโดยสาร การเดินรถสินค้า การซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน และที่สำคัญคือด้านการให้บริการที่ยึดโยงผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง ซึ่งได้ข้อสรุปตรงกันว่าการกําหนดให้ก่อสร้างเป็นชานชาลาสูงความสูง 1.10 เมตรจากระดับสันรางมีความเหมาะสมสูงสุด“

แม้ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านอาจเกิดความไม่สะดวกในการให้บริการอยู่บ้าง แต่ในระยะยาวจะเป็นผลดีให้ความสะดวกต่อผู้โดยสารทุกประเภทที่จะมาใช้บริการ ทั้งผู้โดยสารทั่วไป ผู้พิการ เด็ก คนชรา และผู้โดยสารที่มีสัมภาระติดตัวจํานวนมาก อีกทั้งการรถไฟฯ ยังได้นำเสนอประเด็นต่อคณะกรรมการรถไฟฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการรถไฟฯ ได้มีมติรับทราบแนวทางดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การกำหนดการก่อสร้างชานชาลาระดับความสูง 1.10 เมตร ยังได้สอดคล้องกับนโยบายของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้จัดทำระบบขนส่งสาธารณะสามารถรองรับและให้บริการต่อผู้โดยสารทุกประเภท

ซึ่งได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกแบบระบบขนส่งสาธารณะในลักษณะอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ประกอบกับในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จํานวน 2 สัญญา ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้มาในก่อนหน้านี้ ยังได้ให้ดําเนินการก่อสร้างเป็นชานชาลาสูงความสูง 1.10 เมตร จากระดับสันรางรวมอยู่ในค่าก่อสร้างของโครงการแล้วด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระยะเปลี่ยนผ่านของการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้บริการของผู้โดยสารนั้น การรถไฟฯจึงได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร โดยให้นโยบายแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทาง และมาตรการรองรับการให้บริการให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้โดยสารมากที่สุดในช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านปรับปรุงก่อสร้าง

//-----------------------

ร.ฟ.ท.สรุประดับชานชาลา “ทางคู่” สูง 1.10 เมตร ยันเหมาะสมที่สุด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2562 เวลา 20:02
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม 2562 เวลา 13:54




บอร์ด ร.ฟ.ท.เห็นชอบชานชาลา ทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 9 สัญญา ที่ระดับ 1.10 เมตร จากระดับสันราง หลังพิจารณาข้อดีข้อเสีย พบผู้โดยสารใช้บริการได้สะดวกสบายอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งผู้โดยสารทั่วไป ผู้พิการ เด็ก คนชรา และผู้โดยสารที่มีสัมภาระติดตัว ขณะที่ให้มีมาตรการรองรับ ช่วงเปลี่ยนผ่านไม่ให้กระทบบริการ

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ประชุมหารือถึงผลดีผลเสียในประเด็น ในการกำหนดระดับความสูงของชานชาลาที่เหมาะสม ในการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 9 สัญญา อย่างรอบคอบ โดยได้ข้อสรุปและกำหนดเป็นนโยบายให้ดำเนินการก่อสร้างเป็นชานชาลา ความสูง 1.10 เมตรจากระดับสันราง รวมถึงให้มีการปรับปรุงส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชานชาลาให้มีความสูงสอดคล้องตามที่กำหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญาและงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนเป็นการสร้างความชัดเจนในการปฏิบัติงาน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการตรวจรับงานล่าช้า รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในภายหลัง

โดยการรถไฟฯ ได้ประเมินผลกระทบและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในหลายมิติ โดยคำนึงถึงสภาพปัจจุบัน และแผนงานในอนาคต ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการเดินรถโดยสาร ด้านการเดินรถสินค้า ด้านการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน และที่สำคัญคือด้านการให้บริการที่ยึดโยงผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง ซึ่งได้ข้อสรุปตรงกันว่า การกำหนดให้ก่อสร้างเป็นชานชาลา ความสูง 1.10 เมตรจากระดับสันรางมีความเหมาะสมสูงสุด แม้ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านอาจเกิดความไม่สะดวกในการให้บริการอยู่บ้าง แต่ในระยะยาวจะเป็นผลดีให้ความสะดวกต่อผู้โดยสารทุกประเภทที่จะมาใช้บริการ ทั้งผู้โดยสารทั่วไป ผู้พิการ เด็ก คนชรา และผู้โดยสารที่มีสัมภาระติดตัวจำนวนมาก

“ข้อสรุปดังกล่าว ได้เสนอคณะกรรมการรถไฟฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการรถไฟฯ ได้มีมติรับทราบแนวทางดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย”

นอกจากนี้ การกำหนดการก่อสร้างชานชาลา ระดับความสูง 1.10 เมตร ยังได้สอดคล้องกับนโยบายของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้จัดทำระบบขนส่งสาธารณะสามารถรองรับและให้บริการต่อผู้โดยสารทุกประเภท ซึ่งได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกแบบระบบขนส่งสาธารณะในลักษณะอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ประกอบกับในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จำนวน 2 สัญญา ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้มาในก่อนหน้านี้ ยังได้ให้ดำเนินการก่อสร้างเป็นชานชาลาสูงความสูง 1.10 เมตร จากระดับสันรางรวมอยู่ในค่าก่อสร้างของโครงการแล้วด้วย



อย่างไรก็ตาม ในระยะเปลี่ยนผ่านของการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้บริการของผู้โดยสารนั้น การรถไฟฯ จึงได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร โดยให้นโยบายแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทาง และมาตรการรองรับการให้บริการให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้โดยสารมากที่สุดในช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านปรับปรุงก่อสร้าง
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2716354518379402
https://www.facebook.com/reporterjourney/photos/a.140887172750283/1161622264010097/?type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 03/06/2019 1:13 pm    Post subject: Reply with quote

ยักษ์รับเหมาชิงเดือดระบบอาณัติสัญญาณทางคู่หมื่นล.
ออนไลน์เมื่อ 1 มิถุนายน 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 12
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3474 ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2562

ยักษ์รับเหมา 7 ราย ยูนิค-อิตาเลียนไทย- ซีเมนส์,บอมบาร์ดิเอร์ แห่ซื้อซองชิงงานติดตั้งระบบอาณัติ สัญญาณรถไฟทางคู่เฟสแรก 3 สัญญากว่า 1 หมื่นล้านยื่นซอง 23 ก.ค.นี้

แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้ากรณีเปิดประมูลจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติ สัญญาณและโทรคมนาคมในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางโดยประกวดราคานานาชาติ รวมวงเงินกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ได้แก่ เส้นทางลพบุรี-ปากนํ้าโพ วงเงิน 2,782 ล้านบาท เส้นทางนครปฐม-ชุมพร วงเงิน 6,250 ล้านบาท และเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 2,460 ล้านบาท
สำหรับการเปิดขายซองของเฟสที่ 2 ซึ่งคาดว่ามีไม่ตํ่ากว่า 3 สัญญาเช่นกันนั้นยังต้องรอให้มีการประมูลก่อสร้างงานโยธาทั้ง 9 เส้นทางไปชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนจึงจะเริ่มประกวดราคาติดตั้งระบบอาณัติ สัญญาณเพื่อให้สามารถทันใช้งานได้อย่างสอดคล้องกัน ซึ่งรถไฟทางคู่เฟส 2 อีกจำนวน 9 โครงการรวมวงเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 2.5 แสนล้านบาท ปัจจุบันรฟท.อยู่ระหว่างดำเนินการกำหนดราคากลางและคาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคาได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

“หลายรายสนใจเข้ามาซื้อซองเอกสารประกวดราคาเพื่อนำไปเตรียมความพร้อมด้านเอกสาร คาดว่ายังจะมีอีกหลายรายเข้ามาซื้อและร่วมประมูลทั้ง 3 สัญญา ส่วนรายไหนจะร่วมกับใครบ้างนั้นจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นในช่วงใกล้ๆ ยื่นซองข้อเสนอ โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลาง และนิติบุคคลทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้าที่จดทะเบียนหรือไม่ก็ตาม ต้องปรากฏชื่อในบัญชีรายชื่อผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาของรฟท. โดยนิติบุคคลแต่ละรายต้องมีผลงานด้านระบบรถไฟ หรืองานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน หรืองานระบบโทรคมนาคมประเภทเดียวกับงานที่ประกวดราคาอย่างน้อย 1 โครงการ”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 04/06/2019 12:52 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการทางคู่ระยะที่2 โดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

1. ปากน้ำโพ - เด่นชัย 285 กม. 62859 ล้านบาท 42 สถานี มี Container Yard ที่ บางกระทุ่ม วังกะพี้ (น้ำตาลแน่ๆ) และ ศิลาอาศน์ (ขยายจากที่มีอยู่แล้ว) - 100 - 120 kph max FIRR ที่ ลบ 8.56 % แต่ EIRR เป็นบวก ถึง 12.30 % จึงคุ้มที่จะทำ น่าสนใจคือ ระหว่างสถานีบ้านด่าน (ตีนภู) ถึงเด่นชัยมีแค่สถานีปางต้นผึ้งและสถานีห้วยไร่ ส่อให้เห็นว่าตัดทางสายใหม่ เจาอะอุโมงค์ใหม่เพื่อลดความชันและทำขบวนได้เร็วกว่าเดิม

2. เด่นชัย - เชียงใหม่ 189 กม. 56837 ล้านบาท มี 17 สถานี โดยมี Container Yard ที่ห้างฉัตรและสารภีที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมลำพูน - 80 - 120 kph max FIRR ที่ ลบ 1.33 % แต่ EIRR เป็นบวก ถึง 12.15 % จึงคุ้มที่จะทำ มีตัดทางสายใหม่ เจาะอุโมงค์ใหม่ แก้โค้งทางเดิม เพื่อ ร่นระยะทาง ทำให้ ทางจากกรุงเทพถึงเชียงใหม่ ลดจาก 751 กิโลเมตรเหลือ ราวๆ 720 กิโลเมตร

3. ขอนแก่น - หนองคาย 167 กิโลเมตร มูลค่า 26385 ล้านบาท 15 สถานี - 100 - 120 kph max FIRR ที่ ลบ 3.19% แต่ EIRR เป็นบวก ถึง 19.28 % จึงคุ้มที่จะทำ มีทางลอยฟ้าที่ อุดรธานี มี Container yard ที่ โนนพยอม โนนสะอาด หนองตะไก้ และ นาทา

4. ถนนจิระ - อุบลราชธานี 308 กิโลเมตร มูลค่า 37523 ล้านบาท มี 35 สถานี - 100 - 120 kph max โดยมี Container Yard ที่ ที่หยุดรถบ้านตะโก บุฤาษี หนองแวง บุ่งหวาย FIRR ที่ บวก 7.77% และ EIRR เป็นบวก ถึง 17.06 % ส่อแววว่าอาจได้ทำก่อนเพื่อน

5. ชุมพร - สุราษฎร์ธานี 167 กิโลเมตร มูลค่า 24287 ล้านบาท มี 22 สถานี - 100 - 120 kph max โดยมี Container Yard ที่ ชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ โดยขยายจาก container yard ที่มีอยู่่ FIRR ที่ บวก 3.34% และ EIRR เป็นบวก ถึง 16.8 % ส่อแววว่าอาจได้ทำก่อนเพื่อน

6. สุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ - สงขลา 321 กม. 57375 ล้านบาท 49 สถานี มี Container Yard ที่ ทุ่งสง และ บางกล่ำ (ข้าว แน่ๆ) - 100 - 120 kph max FIRR ที่ ลบ 4.67 % แต่ EIRR เป็นบวก ถึง 13.18 % จึงคุ้มที่จะทำ แต่หลังจากทำทางคู่ จากชุมพรไปสุราษฎร์ธานี และ ทางจากหาดใหญ่ ไปปาดังเบซาร์

7. หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ 45 กิโลเมตร มูลค่า 8116 ล้านบาท มี 3 สถานี - 100 - 120 kph max โดยมี Container Yard ที่ ปาดังเบซาร์ (น่าจะเป็นที่ฝั่งไทยเพราะฝั่งมาเลเซียมีอยู่แล้ว และ ยกชั้นเป็น ICD ด้วย) FIRR ที่ บวก 0.34 % และ EIRR เป็นบวก ถึง 18.89 % น่าจะได้ทำ พร้อมกับทางจากชุมพรไปสุราษฏร์ธานี แต่ให้ คลองรำและบ้านท่าข่อย เป็นที่หยุดรถ สร้างแต่สถานีศาลาทุ่งลุงและ สถานีคลองแงะ ลอยฟ้าข้ามถนนเพชรเกษม

https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2726649460683241


Last edited by Wisarut on 12/06/2019 12:13 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/06/2019 5:21 pm    Post subject: Reply with quote

เสร็จอีกแห่ง! สะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ “บ้านท่าสำเภาใต้” จ.พัทลุง หนุนทางคู่แก้ไขจราจร
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 4 June 2019 - 13:20 น.

Click on the image for full size

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงชนบทสาย พท.4009 (แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4047 – บ้านท่าสำเภาใต้) อำเภอเมืองจังหวัดพัทลุง เสร็จสมบูรณ์

นายปฐม เฉลยวาเรศ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ทช.มีถนนในความรับผิดชอบที่มีจุดตัดผ่านทางรถไฟกระจายอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 153 แห่ง ซึ่งปัจจุบันปริมาณการจราจรบนถนนดังกล่าวมีจำนวนสูงขึ้นทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับยานพาหนะบ่อยครั้ง ประกอบกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
มีโครงการรถไฟทางคู่เพื่อพัฒนาการขนส่งระบบรางตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม

Click on the image for full size

กรมจึงดำเนินการแก้ไขปัญหาบริเวณจุดตัดผ่านทางรถไฟดังกล่าว ด้วยการก่อสร้างสะพานหรือทางลอด เพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุอย่างสมบูรณ์ และอำนวยความสะดวกรวดเร็วปลอดภัยในการสัญจร รวมทั้งเป็นการสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ของ รฟท. หนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็คือสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณจุดตัดผ่าน

ทางรถไฟกับทางหลวงชนบทสาย พท.4009 (แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4047 – บ้านท่าสำเภาใต้) อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง พร้อมถนนเชิงลาดทั้งสองฝั่ง ขนาด 2 ช่องจราจร ความยาวรวม 1.200 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 161.326 ล้านบาท ปัจจุบันสะพานดังกล่าวได้มีการเปิดใช้งานให้ประชาชนได้ใช้สัญจรแล้ว

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/06/2019 5:23 pm    Post subject: Reply with quote

การก่อสร้างรถไฟทางคู่ บันไดม้า-ปางอโศก มิย. 2562
สุรเสียง พลับพลาสวรรค์
Published on Jun 3, 2019


https://www.youtube.com/watch?v=27fu-IsCzg0


โครงการรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ปางอโศก-กลางดง
สุรเสียง พลับพลาสวรรค์
Published on Jun 3, 2019


https://www.youtube.com/watch?v=MZhT9x-dO2k
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/06/2019 9:35 pm    Post subject: Reply with quote

การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมวกเหล็ก-หินลับ
สุรเสียง พลับพลาสวรรค์
Published on Jun 4, 2019


https://www.youtube.com/watch?v=PIzlDJ4XPg8
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/06/2019 7:35 am    Post subject: Reply with quote

ยังไม่ถึงครึ่งทาง! รีวิวแผนรถไฟทางคู่สายใต้ “นครปฐม-ชุมพร “สร้างไม่ถึง 50% ติดระเบิดรื้อแบบวุ่นได้นั่งปี’65
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 9 June 2019 - 09:14 น.

Click on the image for full size

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ความก้าวหน้างานก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ 1 ใน 7 โครงการรถไฟทางคู่เฟส 1 คือ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ระยะทาง 421 กม. เงินลงทุน 33,982 ล้านบาท แบ่งได้ 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงนครปฐม – หัวหิน, ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ และช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร

แบ่งก่อสร้างเป็น 5 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กม. เงินลงทุน 8,198 ล้านบาท, สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล – หัวหิน ระยะทาง 76 กม. เงินลงทุน 7,520 ล้านบาท, สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. เงินลงทุน 5,807 ล้านบาท สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กม. เงินลงทุน 6,465 ล้านบาท และสัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย – ชุมพร ระยะทาง 79 กม. เงินลงทุน 5,992 ล้านบาท ซึ่งทุกสัญญาเริ่มสร้างพร้อมกันเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2561

Click on the image for full size


ความคืบหน้าของแต่ละสัญญา ณ วันที่ 25 พ.ค. 2462 สัญญาที่ 1 อยู่ที่ 29.299% เร็วกว่าแผน 0.251% มีอุปสรรคการก่อสร้างสำคัญอยู่ที่บริเวณ จ.ราชบุรี มีงานสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลองยาว 160 เมตร ซึ่งพบว่าใต้แม่น้ำมีระเบิดจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวน 7 ลูก และมีความอ่อนไหวมาก เพราะสามารถจุดชนวนได้ด้วยการถูกกระทบเพียงนิดเดียว โดยบนระเบิดแต่ละลูกมีสารเคมีชนิดพิเศษที่ช่วยให้เกิดการจุดชนวนง่ายขึ้นป้ายติดอยู่ และยังไม่หมดอายุ หากเกิดระเบิดขึ้นจะมีอานุภาพทำลายล้างในรัศมี 2 กม. จึงต้องเก็บกู้ระเบิดทั้ง 7 ลูก คาดว่าวันที่ 14 มิ.ย.นี้จะสรุปวิธีการเก็บกู้ระเบิดทั้ง 7 ลูกได้

“ร.ฟ.ท.ได้ปรับแบบก่อสร้างสะพานนี้ใหม่ จากเดิมจะปักตอม่อลงไปในน้ำ เปลี่ยนเป็นสร้างสะพานแบบสะพานขึงแทน ใช้เงินก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มจากเดิมที่สะพานแบบคอนกรีตประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะปักตอม่ออยู่บนฝั่งแทน แล้วใช้สลึงขึงรับน้ำหนักแทน แต่ ร.ฟ.ท.ไม่จำเป็นต้องหยุดก่อสร้างแต่อย่างใด สามารถสร้างได้ตามปกติ เพราะโครงสร้างเปลี่ยนไปใช้พื้นที่บนฝั่งแทน และไม่ต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติม แต่ต้องสำรวจระเบิดที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินด้วย เพราะพื้นที่นี้พบว่าการฝังระเบิดเป็นจำนวนมาก”

Click on the image for full size
โครงการทางระบายน้ำจังหวัดประจวบอยู่ใกล้คันทางรถไฟ

อีก 4 สัญญาที่เหลือยังเดิมหน้าตามแผนไม่มีปัญหา โดยสัญญาที่ 2 คืบหน้า 41.814% เร็วกว่าแผน 0.116% สัญญาที่ 3 คืบหน้า 29.482% เร็วกว่าแผน 3.6% สัญญาที่ 4 คืบหน้า 22.459% ช้ากว่าแผน 6.884% เนื่องจากบริเวณนี้เส้นรถไฟไปทับซ้อนกับทางระบายน้ำของจังหวัด จึงต้องเคลียร์กันและเปลี่ยนแบบเล็กน้อย ส่วนสัญญาที่ 5 คืบหน้า 18.766% ช้ากว่าแผน 13.871% ต้องปรับแบบและขนาดสถานีชุมพรใหม่ เนื่องจากไปคร่อมคลองของชาวบ้าน

“โดยรวมถือว่าโครงการช้ากว่าแผนไปบ้าง คาดว่างานโยธาทั้งหมดจะเสร็จในปี 2564 จากนั้นช่วงกลางปีจะวางระบบอาณัติสัญญาณ จะใช้เวลาอีก 6 เดือน จะไปเสร็จพร้อมใช้บริการในปี 2565” นายวรวุฒิกล่าว

ส่วนช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168.2 กม. เงินลงทุน 33,513 ล้านบาท เป็นโครงการอยู่ในแผนระยะที่ 2 อยู่ระหว่างเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ

Click on the image for full size
งานก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง จ.ราชบุรี

Click on the image for full size
การปรับรูปแบบสถานีชุมพร

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/06/2019 7:51 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่สายใต้หนุนเที่ยวไทย กรุงเทพ-ชุมพร วิ่งแค่ 5 ชม. พร้อมเปิดใช้ปี'65
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 09 มิ.ย. 2562 เวลา 12:05 น.

รฟท.แจงความคืบหน้ารถไฟสายกรุงเทพ-ชุมพร รองรับต่างชาติเที่ยวไทย เผยฝรั่งติดใจใช้บริการนั่งรถไฟกว่า 90% เ พร้อมเดินหน้าประมูลทางคู่สายใหม่ ลงทุน6 หมื่นล้านเสนอรัฐบาลใหม่

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้การว่ารถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ นั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าการก่อสร้างเฉลี่ย 28% แบ่งเป็น ช่วงนครปฐม-หัวหิน คืบหน้า 33% ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ คืบหน้า 30% และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร คืบหน้า 19%

เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากสถานีกลางบางซื่อถึงสถานีชุมพร จะใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง ดังนั้นถือว่าโครงการรถไฟทางคู่เป็นเส้นทางที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางถึง 90% ของผู้โดยสารทั้งหมด โดยเฉพาะการย่นระยะเดินทางจากกรุงเทพ-หัวหิน จะใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 4-5 ชั่วโมง โดยรถไฟจะวิ่งความเร็วอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเส้นทางรถไฟทางคู่สายใต้จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 จากนั้นใช้เวลาติดตั้งงานระบบอีก 1 ปี ก่อนเปิดใช้ในปี 2565

อย่างไรก็ตามรฟท.มีแผนลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้เฟส 2 ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา วงเงิน 5.7 หมื่นล้านบาท และรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กม. วงเงิน 8 พันล้านบาท

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้ารถไฟทางคู่สายอีสานนั้นในปีนี้จะเร่งออกแบบและผลักดันโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติ คือรถไฟทางคู่ช่วง บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 6.79 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกที่เข้าสู่อีสานตอนกลาง ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีรถไฟเข้าถึงมาก่อน

ด้านโครงการรถไฟทางคู่อีกเส้นทางที่ครม.อนุมัติไปแล้ว คือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกพระราชกฤษฎีกา(พรฎ.) เวนคืนพื้นที่ก่อสร้างคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2567 โดยมีแนวเวนคืน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย โดยแนวเส้นทางจะเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จ.แพร่ มุ่งไปทางทิศเหนือ ผ่าน จ.ลำปาง พะเยา และเชียงราย สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งพื้นที่เวนคืนจะมีเขตทางกว้าง 50 เมตร มีทั้งหมด 7,292 แปลง และที่ดิน 9,661 ไร่

ส่วนการร่างขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์) นั้นจะทำควบคู่กันไปเพื่อเปิดประมูล ทั้งนี้แบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กม. วงเงิน 2.67 หมื่นล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กม. วงเงิน 2.87 หมื่นล้านบาท และสัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 1.74 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตามเส้นทางรถไฟทางคู่ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ คือ แก่งคอย-คลอง19-ฉะเชิงเทรา จะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ และเส้นทางจิระ-ขอนแก่น ที่จะเปิดใช้เต็มเส้นทางในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ ส่วนโครงการทางคู่ที่ส่งให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)พิจารณแล้วหากผ่านความเห็นชอบจะเสนอเข้าสู่ครม.ในรัฐบาลใหม่นั้นได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 3.7 หมื่นล้านบาท และรถไฟทางช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/06/2019 10:56 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เล็งปรับแบบทางคู่เฟส2 ชุมพร-สงขลาพบระเบิดสงครามโลกหลายจุด
ไทยโพสต์ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 10:06 น.

9 มิ.ย. 2562 นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้การว่ารถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม-ชุมพรนั้นมีการสำรวจพบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุมากกว่า 70 ปีหลายจุด และรฟท.เชื่อมั่นว่าจะค้นพบอีกหลายจุดในการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 2 ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-สงขลา โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแม่น้ำสำคัญหลายแห่ง ซึ่งเป็นการทิ้งระเบิดตอนที่กองทัพญี่ปุ่นล่าถอยในยุคสงครามโลก ที่ผ่านมาการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 รฟท.ได้สำรวจพบระเบิดอยู่ 2 จุดคือ ใต้แม่น้ำกลางตัวเมืองราชบุรี จำนวน 7 ลูก และใต้ดิน บริเวณ สถานีเขาเต่า-วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 ลูก

“ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหินนั้นต้องมีการปรับแบบช่วงที่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำในตัวเมืองราชบุรี โดยจะปรับแบบเป็นสะพานแขวนที่ไม่มีเสาตอม่อในลำน้ำ ถือว่าเป็นสะพานแขวนทางรถไฟแห่งแรกที่จะเกิดขึ้นในประเทศ และจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของเมืองราชบุรี คล้ายกับโมเดลของสะพานแขวนพระราม 9 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานคร”นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่าสำหรับความคืบหน้าในการเก็บกู้ระเบิดทั้ง 7 ลูก ที่ จ.ราชบุรีนั้น จะต้องทำไปพร้อมกันทีเดียว ดังนั้นจึงต้องออกประกาศตามกฎหมายการปกครอง ด้วยคำสั่งปิดพื้นที่กลางใจเมืองราชรี เป็นพื้นที่อันตรายควบคุมความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่รัศมีแรงระเบิด หลังจากประชุมร่วมกันแล้วจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและเตรียมตัวต่อไป เนื่องจาก รัศมีระเบิดดังกล่าวค่อนข้างรุนแรงอยู่ที่ประมาณ 2 กม. ซึ่งถือว่าจุดดังกล่าวอยู่ในเขตชุมชนที่มีทั้งค่ายทหาร ตลาดกลางเมือง วัด สถานอนุบาล โรงเรียน บ้านพักข้าราชการและผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนที่อยู่อาศัยของประชาชน

นายวรวุฒิกล่าวอีกว่าสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมสรุปแนวทางในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ จึงเป็นครั้งแรกในประเทศที่หน่วยเก็บกู้ระเบิด (EOD) ของสามเหล่าทัพไทยคือ กองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ เข้ามาร่วมกันศึกษาแนวทางเก็บกู้ระเบิดดังกล่าว นอกจากนี้ ประเทศไทยจะเชิญนักเก็บกู้ระเบิดที่เก่งสุดในโลกจากประเทศเยอรมัน มาเข้าร่วมทีมเก็บกู้ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นระเบิดที่ต้องใช้เทคนิคสูงในการกู้เพราะอยู่ใต้น้ำด้วย

นายวรวุฒิกล่าวอีกว่าแนวทางการกู้ตอนนี้มี 8 วิธี สำหรับเทคนิคที่เหมาะสมในตอนนี้คือการทำลายสภาพระเบิดใต้ลำน้ำเลย โดยไม่มีการนำขึ้นมาบนบก คาดว่าจะเป็นรูปแบบ water jet ใช้แรงดันน้ำความแรงและความเร็วสูง ตัดตัวระเบิดจากใต้น้ำแยกส่วนหัวและส่วนท้ายที่มีสารเคมีออกจากกัน อย่างไรก็ตามระเบิดเป็นโมเดลที่จุดด้วยเคมี กล่าวคือระเบิดจะทำปฏิกริยาเมื่อสารเคมีภายในไหลมารวมกันได้ โดยสารเคมีดังกล่าวจะคงสภาพตลอดไปอยู่ในระเบิด นับว่าเป็นการออกแบบระเบิดเทคนิคขั้นสูง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากในการเก็บกู้ เนื่องจากหากตัวระเบิดได้มีการขยับหรือเคลื่อนที่แล้วสารเคมีภายในทำปฏิกริยาก็จะระเบิดทันที และจะเป็นการระเบิดทั้ง 7 ลูก

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดจีพีบอมบ์ หรือระเบิดAN-M65 ขนาดน้ำหนัก 1,000 ปอนด์ หรือ กว่า400กก.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/06/2019 11:40 am    Post subject: Reply with quote

‘รฟท.’ดันต่อรถไฟทางคู่ ลุ้นรัฐบาลใหม่ไฟเขียว
กรุงเทพธุรกิจ 10 มิ.ย. 62

“ร.ฟ.ท.” ชงรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ 2.4 หมื่นล้านให้ สศช.พิจารณาแล้ว คาดหนุนการเดินทาง 2.85 ล้านคนต่อปี ระบุสินค้า 1.8 ล้านตันต่อปี หลังเสนอครบทุกโปรเจครวม 7 โครงการ หวังรัฐบาลหน้าสานต่อ

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี โดยระบุว่าโครงการดังกล่าว ร.ฟ.ท.ได้เสนอไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ก่อนเสนอกลับมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณลงทุนรวม 24,287 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนพัฒนารถไฟทางคู่ระยะที่ 2 โดยมีระยะทาง 168 กิโลเมตร รูปแบบโครงสร้างระดับพื้นดิน มีความเร็วในการให้บริการ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จำนวน 22 สถานี มีศูนย์ขนถ่ายตู้สินค้า 1 แห่ง บริเวณสถานีชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ โดยผลการศึกษาพบว่ามีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ 16.8% เมื่อเปิดให้บริการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารจะสูงอยู่ที่ 2.854 ล้านคนต่อปี ในปี 2594 และมีปริมาณขนส่งสินค้า 1.845 ล้านตันต่อปี

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.เผยว่า เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ สศช.ประกอบการพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สศช.ได้ทำหนังสือเพื่อสอบถามถึงแผนการตลาด แผนจัดหาหัวรถจักร หากอนุมัติให้ ร.ฟ.ท.ลงทุนพัฒนารถไฟทางคู่เพิ่มเติม ขณะนี้คาดว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณารายละเอียด และอาจจะมีการเสนออนุมัติลงทุนรถไฟทางคู่ที่เหลือตามแผนไม่ทันรัฐบาลชุดนี้

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ที่ ร.ฟ.ท.ได้เสนอให้ สศช.พิจารณาอยู่นั้น ประกอบไปด้วย 1.รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงินลงทุน 26,385 ล้านบาท
2.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 37,523 ล้านบาท
3.รถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 62,859 ล้านบาท
4.รถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ วงเงิน 56,867 ล้านบาท
5.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 24,287 ล้านบาท
6.รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา วงเงิน 57,375 ล้านบาท และ
7.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 8,116 ล้านบาท

"ตอนนี้คาดว่าโครงการรถไฟทางคู่ที่ สศช.อาจจะอนุมัติและเสนอ ครม.เส้นต่อไป คือช่วงชุมทางขอนแก่น-หนองคาย เพราะว่าเป็นเส้นที่จะไปเชื่อมต่อโลจิสติกส์ให้สมบูรณ์ จากปัจจุบันที่มีทางคู่สิ้นสุดอยู่ในช่วงจิระ-ขอนแก่น ส่วนโครงการต่อไปก็น่าจะเป็นช่วงชุมทางจิระ-อุบลราชธานี หลังจากนั้นก็น่าจะเป็นรถไฟโซนภาคเหนือ คือ ปากน้ำโพ-เด่นชัย และถึงจะเป็นโซนภาคใต้ เพราะโซนนี้จะต้องอนุมัติครบทั้งเส้นทางจึงจะเชื่อมต่อการเดินทาง และโลจิสติกส์ได้ดี"

ขณะที่โครงการเส้นทางรถไฟสายใหม่ช่วงชุมพร-ระนอง ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เป็นระบบขนส่งเชื่อมกับท่าเรือระนอง สนับสนุนการขนส่งสินค้าทางรางและเรือนั้น ร.ฟ.ท.ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อทำการศึกษาความเหมาะสมใหม่แล้ว เนื่องจากโครงการดังกล่าวจากการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ระบุไว้ว่ายังไม่เหมาะต่อการพัฒนาในเร็วๆ นี้ อีกทั้งอาจจะต้องรอให้ท่าเรือระนองพัฒนาเป็นท่าเรือน้ำลึกก่อน จึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่าตอนนี้โครงการลงทุนรถไฟทางคู่ของ ร.ฟ.ท.ได้เสนอไปยัง สศช.ทั้งหมดแล้ว แม้ว่าอาจจะอนุมัติไม่ทัน ครม.ชุดปัจจุบัน แต่เชื่อว่าแผนการลงทุนดังกล่าวจะไม่ได้รับผลกระทบ และรัฐบาลชุดหน้าจะต้องมาเดินหน้าผลักดันการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะต้องประเมินความเหมาะสม ความสำคัญในการลงทุน พร้อมกับงบประมาณที่รัฐบาลจะจัดสรรในการพัฒนา นอกจากนี้ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะมีรถไฟทางคู่จากแหล่งอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ที่เชื่อมสู่ท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุด และสัตหีบ สำหรับการขนส่งสินค้าระบบรางที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 236, 237, 238 ... 390, 391, 392  Next
Page 237 of 392

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©