View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 13/07/2021 3:39 pm Post subject:
รฟท.พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะกรณีการก่อสร้างหลังคาชานชาลาผู้โดยสารพักคอยลาดเอียงที่ไม่เหมาะสม-สะพานลอยก็มีความสูงชันมากเกินไป เพื่อปรับปรุงสถานีรถไฟชุมทางจิระ-ขอนแก่น
13 ก.ค. 2564
ตามที่มีประชาชน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ร้องเรียนปัญหาการใช้บริการสถานีรถไฟ โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น เนื่องจากการก่อสร้างหลังคาชานชาลาผู้โดยสารพักคอยมีความสูงและความลาดเอียงที่ไม่เหมาะสม เมื่อฝนตกหนักหรือแดดส่องชาวบ้านไม่สามารถนั่งพักคอยได้ ขณะที่สะพานลอยก็มีความสูงชันมากเกินไป ผู้สูงอายุและผู้พิการไม่สามารถมาใช้บริการรถไฟได้นั้น
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงว่า โครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น ได้ก่อสร้างหลังคาชานชาลา สะพานลอยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในสถานี ตามที่ผู้ออกแบบได้ออกแบบไว้ โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ศึกษา ซึ่งโครงสร้างหลังคาคลุมชานชาลาที่ใช้ทั่วไปของการรถไฟฯ ต้องมีความสูงและมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถและเนื่องจากหัวรถจักรเป็นระบบดีเซลไฟฟ้าซึ่งมีการปล่อยเขม่าควัน การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงการระบายอากาศจากเขม่าและควันรถ
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสถานีเป็นชานชาลาสูงจึงจำเป็นต้องสร้างสะพานลอยคนข้ามเพื่อสะดวกในการข้ามระหว่างชานชาลาและการออกแบบความสูงของสะพานลอยจำเป็นต้องออกแบบให้สูงจากระดับสันรางเพียงพอเพื่อให้ได้ระยะปลอดภัยที่ต้องการ ซึ่งเป็นความสูงที่เป็นมาตรฐานเผื่อไว้สำหรับการปรับเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าที่จะต้องติดตั้งสายส่งไฟฟ้าเหนือตัวรถในอนาคต
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ส่วนการปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น ที่พักผู้โดยสารที่สามารถกันแดดกันฝนได้บริเวณชาลาตามที่ประชาชนร้องขอนั้น การรถไฟฯ สามารถดำเนินการได้ในภายหลังและเนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ในเส้นทางอื่นๆ ด้วย จึงควรพิจารณากำหนดรูปแบบสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
การรถไฟฯ จะรับข้อเสนอแนะดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการให้มีความเหมาะสมสอดคล้องตามความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : วีระเดช คชเสนีย์ / สนข.
ผู้เรียบเรียง : วีระเดช คชเสนีย์ / สนข.
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 13/07/2021 6:09 pm Post subject:
รฟท. ชี้แจงข้อร้องเรียน กรณีหลังคาชานชาลาและสะพานลอยคนข้าม สถานีรถไฟชุมทางจิระ-ขอนแก่น ไม่สะดวกในการใช้งาน
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันจันทร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10.54 น.
ตามที่มีประเด็นข้อร้องเรียน เนชั่นทีวี ผ่านเว็บไซต์ https://www.nationtv.tv/news/378828776 กรณีหลังคาชานชาลาและสะพานลอยคนข้าม สถานีรถไฟชุมทางจิระ-ขอนแก่น ไม่สะดวกในการใช้งาน วันที่ 11 กรกฎาคม 2564
สาระสำคัญ : ประชาชน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ร้องเรียนปัญหาการใช้บริการสถานีรถไฟ โครงการรถไฟรางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น เนื่องจากการก่อสร้างหลังคาชานชาลาผู้โดยสารพักคอยมีความสูงและความลาดเอียงที่ไม่เหมาะสม เมื่อฝนตกหนักหรือแดดส่องชาวบ้านไม่สามารถนั่งพักคอยได้ ขณะที่สะพานลอยก็มีความสูงชันมากเกินไป ผู้สูงอายุและผู้พิการไม่สามารถมาใช้บริการรถไฟได้
การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอเรียนชี้แจง ดังนี้
โครงการรถไฟทางคู่ ช่วง ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ได้ดำเนินการก่อสร้างหลังคาชานชาลา สะพานลอย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในสถานี ตามที่ผู้ออกแบบได้ออกแบบไว้ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการฯ โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ดำเนินการศึกษา ซึ่งโดยหลักการแล้วโครงสร้างหลังคาคลุมชานชาลาตามรูปแบบที่ใช้โดยทั่วไปของการรถไฟฯ จะต้องมีความสูงและมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอเพื่อที่ให้พ้นจากเขตโครงสร้างซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถ และเนื่องจากรถของการรถไฟฯ เป็นระบบรถดีเซลไฟฟ้าซึ่งมีการปลดปล่อยเขม่าควัน การออกแบบจึงจะต้องคำนึงถึงเรื่องการระบายอากาศจากเขม่าและควันรถด้วย
สำหรับในประเด็นของสะพานลอยคนข้ามนั้น เนื่องจากสถานีเป็นชานชาลาสูงจึงมีความจำเป็นต้องก่อสร้างสะพานลอยคนข้ามเพื่ออำนวยความสะดวกในการข้ามระหว่างชานชาลา และในการออกแบบความสูงของสะพานลอยคนข้ามในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จำเป็นต้องออกแบบให้สูงจากระดับสันรางเพียงพอเพื่อให้ได้ระยะปลอดภัยที่ต้องการ ซึ่งเป็นความสูงที่เป็นมาตรฐานเผื่อไว้สำหรับการปรับเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าที่จะต้องมีการติดตั้งสายส่งไฟฟ้าเหนือตัวรถในอนาคต
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วง ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นลงแล้วในการปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น ที่พักผู้โดยสารที่สามารถกันแดดกันฝนได้บริเวณชาลา ตามที่ประชาชนร้องขอนั้น การรถไฟฯ สามารถพิจารณาดำเนินการได้ในภายหลัง และเนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ ๑ ในเส้นทางอื่นๆ อีกด้วย จึงควรจะต้องพิจารณากำหนดรูปแบบสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
การรถไฟฯ จะรับข้อเสนอแนะดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการให้มีความเหมาะสมสอดคล้องตามความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป
https://www.youtube.com/watch?v=S11UGUpaQqk
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 21/07/2021 7:58 pm Post subject:
กรมทางหลวงชนบท เปิดใช้สะพานข้ามทางรถไฟ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพิ่มความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟ พร้อมสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ของกระทรวงคมนาคม
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดใช้สะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 บ้านปากน้ำปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟอย่างสมบูรณ์ เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน รวมถึง สนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ สอดรับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ทช.มีถนนในความรับผิดชอบที่มีจุดตัดผ่านทางรถไฟกระจายอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 153 แห่ง ซึ่งปัจจุบันปริมาณการจราจรบนถนนดังกล่าว
มีจำนวนสูงขึ้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับยานพาหนะบ่อยครั้ง ประกอบกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีโครงการพัฒนาการขนส่งระบบราง (โครงการรถไฟทางคู่) ของกระทรวงคมนาคม ทช.จึงมีแผนปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟดังกล่าวให้สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัยของ รฟท. ที่ได้กำหนดให้บริเวณจุดตัดผ่านทางรถไฟที่มีปริมาณการจราจรเป็นจำนวนมากจะต้องก่อสร้างเป็นทางต่างระดับในรูปแบบของสะพานหรืออุโมงค์
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนทางหลวงชนบทสาย
ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 บ้านปากน้ำปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์และได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรเรียบร้อยแล้ว โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการ กม.ที่ 0+000 บริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 มีจุดสิ้นสุดโครงการบนถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 กม.ที่ 1+150 ตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความยาว 280 เมตร ความกว้าง 10 เมตร พร้อมก่อสร้างถนนต่อเชื่อมความยาวรวม 870 เมตร มีทางกลับรถบริเวณจุดสิ้นสุดโครงการ 1 แห่ง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานลอย
คนเดินข้ามทางรถไฟ 1 แห่ง โดยมีทางลาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการอีกด้วย
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4255848757795370
ปิดจุดเสี่ยงไปอีกหนึ่ง! รถไฟตัดถนนปากน้ำปราณ
*ทช.สร้างเสร็จทางต่างระดับ 113 ล้านวิ่งฉิว
*ภายในปี65เคลียร์หมด153แห่งทั่วประเทศ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2957307454490753
เปิดใช้แล้ว! สะพานข้ามทางรถไฟ บ้านปากน้ำปราณบุรี แก้ปัญหาอุบัติเหตุ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14.10 น.
ปรับปรุง: วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14.10 น.
เปิดใช้สะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัด บ้านปากน้ำปราณ รองรับสร้างรถไฟทางคู่
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:12 น.
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดใช้สะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4-บ้านปากน้ำปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟอย่างสมบูรณ์ เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน รวมถึง สนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ สอดรับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
กรมทางหลวงชนบทเปิดใช้สะพานข้ามทางรถไฟ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงจุดตัดถนนสาย ปข.1019 บ้านปากน้ำปราณบุรี ช่วยลดอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟ
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทช.ได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4-บ้านปากน้ำปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรเรียบร้อยแล้ว ช่วยเพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ประชาชน รวมถึงสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ สอดรับนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนทางหลวงชนบทสาย
ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4-บ้านปากน้ำปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีจุดเริ่มต้นโครงการ กม.ที่ 0+000 บริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 มีจุดสิ้นสุดโครงการบนถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 กม.ที่ 1+150 ตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความยาว 280 เมตร ความกว้าง 10 เมตร พร้อมก่อสร้างถนนต่อเชื่อมความยาวรวม 870 เมตร มีทางกลับรถบริเวณจุดสิ้นสุดโครงการ 1 แห่ง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้ามทางรถไฟ 1 แห่ง โดยมีทางลาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการอีกด้วย ใช้งบประมาณก่อสร้าง 113.019 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทช.มีถนนในความรับผิดชอบที่มีจุดตัดผ่านทางรถไฟกระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวน 153 แห่ง ซึ่งปัจจุบันปริมาณการจราจรบนถนนดังกล่าวมีจำนวนสูงขึ้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับยานพาหนะบ่อยครั้ง ประกอบกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีโครงการพัฒนาการขนส่งระบบราง (โครงการรถไฟทางคู่) ของกระทรวงคมนาคม
ทช.จึงมีแผนปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟดังกล่าวให้สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัยของ รฟท.ที่ได้กำหนดให้บริเวณจุดตัดผ่านทางรถไฟที่มีปริมาณการจราจรเป็นจำนวนมากจะต้องก่อสร้างเป็นทางต่างระดับในรูปแบบของสะพานหรืออุโมงค์ โดยเป็นการก่อสร้างทางข้ามต่างระดับจำนวน 42 แห่ง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 33 แห่ง ในส่วนของทางข้ามหรือจุดตัดระดับดินจำนวน 111 แห่ง ขณะนี้ ทช.ติดตั้งเครื่องกั้นพร้อมสัญญาณไฟวาบอัตโนมัติทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 22/07/2021 10:12 pm Post subject:
สภาพัฒน์ รื้อแผนยกเลิกติดตั้งระบบไฟฟ้าเชื่อมต่อมาเลย์ ทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เอื้อมาเลย์??? อิหยังวะ???
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.37 น.
แทนที่จะรองรับการขยายรถไฟฟ้า ETS มาเลย์ สนับสนุนการท่องเที่ยว!!!!
วันนี้เอาข่าวที่ไม่ค่อยถูกใจมาเล่นให้ฟังกันหน่อย จากที่ได้ยินประเด็นการที่สภาพัฒน์ยกเลิกการติดระบบจ่ายไฟฟ้า (OCS) ของโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มาซักพักแล้ว
ตอนนี้พึ่งได้มีข่าวจริงๆจังๆ ออกมาจากทางเพจ ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์ ซึ่งทางการรถไฟให้สัมภาษณ์ว่า
สภาพัฒน์ ไม่เห็นด้วยกับการติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า ของโครงการทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เพราะเป็นการเอื้อให้กับมาเลย์
ลิ้งค์ข่าว
https://www.facebook.com/1860889064132603/posts/2950033235218175/?d=n
ซึ่งผมขอมาขยี้ประเด็นนี้ให้หนักๆหน่อย
เพราะผมเห็นด้วยกับการติดตั้งสายจ่ายไฟฟ้า(OCS) เพื่อรองรับการขยายเส้นทางของ ขบวนรถไฟฟ้า ETS ของมาเลเซียเข้ามาให้ถึงหาดใหญ่
เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวในหาดใหญ่
มาดูรายละเอียดโครงการกันก่อน
มาตรฐานการออกแบบทางรถไฟเส้นทาง ของเส้นนี้
- เป็นทางรถไฟทางคู่ ขนาดราง 1 เมตร เหมือนรถไฟไทยทั่วไป
- การรับน้ำหนักของเส้นทาง
16 ตัน/เพลา สำหรับรถโดยสาร
20 ตัน/เพลา สำหรับรถสินค้า
- ขนาดรางมาตรฐาน UIC 54
- ความเร็วสูงสุด ที่ออกแบบ 160 กม/ชม
- ความเร็วสูงสุดที่ให้บริการ 120 กม/ชม
- อาณัติสัญญาณรถไฟในโครงการ เป็น ETCS Level 1 เทียบเท่าทางคู่สายอื่นๆ เพื่อให้เดินรถร่วมกันได้ถี่ และปลอดภัยกับการเดินทาง มากขึ้น ซึ่งทางฝั่งมาเลเซียก็ใช้ระบบนี้เหมือนกัน และจะต่ออาณัติสัญญาณเข้าหากันเพื่อเดินรถร่วมกันได้
- เส้นทางเป็นระบบปิดไม่มีจุดตัดเสมอระดับตลอดเส้นทางเหมือนทางคู่เส้นอื่นๆ
- ระบบ สายส่งไฟฟ้า (OCS) 25KV 50Hz เหมือนกับ Airport Link
-
มาดูเรื่องการเดินรถบ้าง
ในเส้นทางนี้จะมีการเดินรถที่ให้บริการอยู่ทั้งหมด 5 รูปแบบ คือ
1.รถไฟฟ้าด่วนระหว่างประเทศ (ETS) (หาดใหญ่-KL)
ซึ่งจะเป็นการขยายสายรถไฟของมาเลย์ สาย KL-ปาดังเบซาร์ เข้ามาให้ถึงหาดใหญ่ เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และการเชื่อมต่อระหว่างประเทศระหว่าง ไทย-มาเลเซีย
2.รถไฟด่วนพิเศษดีเซล (กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์)
3.รถไฟด่วนพิเศษดีเซล (หาดใหญ่-KL)
อันนี้เหมือนจะยกเลิกไปแล้ว
4.รถไฟท้องถิ่น (สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์)
5.รถไฟสินค้า (กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์)
-
สถานีในโครงการ
มีสถานี ทั้งหมด 3 สถานี
1.สถานีรถไฟ ศาลาทุ่งลุง
เป็นสถานีรถไฟระดับดิน มีทางรถไฟ 4 ทาง
2.สถานีรถไฟคลองแงะ
เป็นสถานีรถไฟยกระดับ 2 ทาง สำหรับรถไฟโดยสาร และระดับดิน 2 ทาง สำหรับรถไฟสินค้า
3.สถานีรถไฟปาดังเบซาร์
เป็นสถานีรถไฟยกระดับ 2 ทาง สำหรับรถไฟโดยสาร และระดับดิน 2 ทาง สำหรับรถไฟสินค้า
3 ป้ายหยุดรถไฟ
1.บ้านพรุ
2.คลองรำ
3.บ้านท่าข่อย
มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด 13,000 ล้านบาท
แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 7,700 ล้านบาท
ค่าติดตั้งตัวรถไฟฟ้า 5,200 ล้านบาท (ไม่จำเป็นในตอนแรก)
การวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ
กรณีที่ 1 ทำรถไฟทางคู่ติดไฟฟ้า
EIRR 18.70%
NPV 3,400 ล้านบาท
B/C 1.7
กรณีที่ 1 ทำรถไฟทางคู่ไม่ติดไฟฟ้า
EIRR 18.24%
NPV 2,500 ล้านบาท
B/C 1.6
ทั้ง 2 แบบมีความคุ้มค่าในการลงทุน
ซึ่งผมเคยโพสต์ไปก่อนหน้านี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/739771503127998/?d=n
ใครอยากอ่านรายละเอียดเต็มๆ จากลิ้งค์นี้เลยครับ
http://www.otp.go.th/index.php/edureport/view?id=116
ซึ่งจากที่เห็นในการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
ในการติดไฟฟ้า มีการลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยที่ไม่ต้องซื้อรถไฟฟ้าเอง และซ่อมบำรุงเอง ให้มาเลเซียวิ่งเข้ามาเชื่อมได้ถึงหาดใหญ่ มีความคุ้มค่าขอโครงการมากกว่า
นี่ยังไม่รวมโอกาสที่จะเกิดแก่หาดใหญ่และเมืองใกล้เคียงในการพานักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเข้ามาได้มากขึ้นอีกมาก!!!!
อยากจะฝากไปถึง #สภาพัฒน์ และ #การรถไฟแห่งประเทศไทย ช่วยพิจารณาเรื่องนี้อีกซักที อย่ามองแค่ใครได้ประโยชน์โดยตรง แต่ผลประโยชน์ทวีคูณทางอ้อมอีกเท่าไหร่!!!!
ตอนนี้การเดินทางระหว่างประเทศยังปิดอยู่ เป็นโอกาสในการพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวยุคหลังโควิดครับ!!!
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 05/08/2021 9:05 pm Post subject:
📢 ประกาศ ประชาสัมพันธ์
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.27 น.
ปิดทางข้ามทางรถไฟเสมอระดับ กม.190+578 ทางข้ามถนนบ้านไร่ปลายนา เป็นระยะเวลา 45 วัน
ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม เป็นต้นไป
เพื่อทำการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ (Railway Bridge)
โดยโครงการฯได้ทำการเปิดใช้ทางข้ามทางรถไฟเสมอระดับชั่วคราว บริเวณ กม.191-749 บริเวณสี่กั๊ก
ให้ประชาชนใช้ทดแทนทางข้ามทางรถไฟถนนบ้านไร่ปลายนา (ห่างจากจุดเดิมประมาณ 1 กิโลเมตร)
ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ ครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 10/08/2021 12:49 am Post subject:
รถไฟระบบทางคู่ดีอย่างไร เดินทางกลับบ้านเร็วขึ้นจริงไหม
หน้าไลฟ์สไตล์
8 สิงหาคม 2564 - 15:20 น.
โครงการพัฒนารถไฟทางเร็วคู่ไม่ใช่โครงการใหม่ แต่เป็นการต่อยอดจากที่มีอยู่เดิมให้มามากขึ้น เพื่ออะไร แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเสร็จสมบูรณ์ สามารถมาอ่านในบทความนี้ได้เลย
รถไฟระบบทางคู่คืออะไร ?
รถไฟระบบทางคู่เป็นการโครงการพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางไกล จากทางระบบทางเดี่ยว ให้เป็นระบบทางคู่ มากขึ้น ในปี 2561 รถไฟทางคู่อยู่ที่ 6% จากทั้งประเทศ รฟท.เลยได้ตั้งเป้าหมายให้มีรถไฟทางคู่ 65% ภายในปี 2567
รถไฟระบบทางคู่ดีอย่างไร เดินทางกลับบ้านเร็วขึ้นจริงไหม
โครงการพัฒนานี้ต้องการที่จะให้คนไทยทุกคนได้เดินทางอย่างรอบประเทศได้สะดวกสบายมากขึ้น และเพื่อให้ขนส่งสินค้าได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เป็น ไทยแลนด์ 4.0 ได้ในเร็ววัน
รถไฟระบบทางคู่ดีอย่างไร เดินทางกลับบ้านเร็วขึ้นจริงไหม
รถไฟระบบทางคู่ดีกว่าระบบทางเดี่ยวอย่างไร
1. รถไฟทางคู่จะมีความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางกว่ารถไฟทางเดี่ยว เพราะการวางทางขนานกันไปจะสามารถทำให้เดินรถได้ทั้งสองทาง สามารถวิ่งสวนกันแซงกันได้โดยไม่ต้องรอ แต่รถไฟทางเดี่ยว ใช้เดินรถสวนกันได้เพียงตามจุดที่กำหนดไว้
2. รถไฟทางคู่จะเป็นส่วนสำคัญในการกระจายการเจริญเติบไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่นต่าง ๆ ได้เร็วมากขึ้นผ่านการเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างเมือง
ADVERTISEMENT
3. สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานมีความพร้อมมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มสถานที่เก็บตู้สินค้า (Container Yard: CY) ซึ่งจะเอื้อให้การรวบรวมสินค้าเกษตร ก่อนเคลื่อนย้ายต่อไปยังท่าเรือ ทำได้สะดวกขึ้น
หน้าใสไร้สิว จ่ายแค่วันละหลักสิบ! วิธีญี่ปุ่น ได้ผลเป็นหมื่นคน!
Sakana
4. รถไฟทางคู่จะทำให้ผู้ประกอบการประหยัดต้นทุนจากการขนส่ง ปัจจุบันการส่งสินค้าจากขอนแก่นไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ถ้าวันนี้ใช้รถไฟทางเดี่ยวจะใช้เวลาประมาณ 12-14 ชั่วโมง แต่ถ้าหากใช้เป็นรถไฟทางคู่จะลดลงเหลือเพียง 9-10 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนถูกกว่ารถบรรทุกถึง 2 เท่า และถ้ารวมสินค้าเกษตรสำคัญของอีสานทั้ง 4 ชนิด คือ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา ซึ่งมีผลผลิตรวมประมาณ 80 ล้านตันต่อปี เปลี่ยนไปใช้การขนส่งทางเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ธปท.คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 1 พันล้านบาทต่อปี
รถไฟระบบทางคู่ดีอย่างไร เดินทางกลับบ้านเร็วขึ้นจริงไหม
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก:
https://www.bot.or.th
https://www.pmdu.go.th
https://www.railway.co.th/Home/Index
Back to top