View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42622
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42622
Location: NECTEC
|
Posted: 16/06/2022 10:30 am Post subject: |
|
|
คนอุบลฯ เคืองการรถไฟฯ สถานีใหม่ไร้อัตลักษณ์ เชย ไม่ร่วมสมัย เปรียบเหมือนวัด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 12:36 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 12:36 น.
เพจ UBON NOW กระบอกเสียงคนอุบลฯ ด่ายับการรถไฟแห่งประเทศไทยออกแบบสถานีรถไฟอุบลราชธานีใหม่ ไร้อัตลักษณ์ สุดเชย ไม่ร่วมสมัย เทียบกับบุรีรัมย์-ศรีสะเกษ ดูดี ดูสวย ถามกลับหรือเพราะเป็นปลายทางจึงไร้คนเหลียวแล
วันนี้ (15 มิ.ย.) โลกโซเชียลฯ ได้แชร์ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก "UBON NOW" แสดงความไม่พอใจที่การรถไฟแห่งประเทศไทยออกแบบสถานีรถไฟอุบลราชธานีใหม่ ในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระบุว่า "สถานีรถไฟอุบลฯ ใหม่ ไร้อัตลักษณ์ หรือเพราะเป็นปลายทาง จึงไร้คนเหลียวแล ออกแบบยังไงให้สุดเชย ไม่มีความร่วมสมัย นี่คืองานถนัดของ รฟท." โดยมีข้อความดังนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับประชาคมชาวอีสานใต้ สำหรับร่าง EIA รถไฟรางคู่ชุมทางจิระ-อุบลราชธานี ระยะทางทั้งสิ้น 307 กิโลเมตร พาดผ่าน 5 จังหวัด ได้แก่ โคราช บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีบ้านเฮาที่ผ่านความเห็นชอบเรียบร้อย นอกจากปฏิวัติระบบรางเดี่ยวที่ใช้มาอย่างเนิ่นนานกว่า 7 ทศวรรษแล้ว การรถไฟแห่งประเทศได้เปิดเผยแบบโครงการก่อสร้างสถานีรถไฟหลักตลอดระยะทางที่งูเหล็กวิ่งผ่านจำนวน 4 สถานี คือ สถานีบุรีรัมย์ สถานีสุรินทร์ สถานีศรีสะเกษ และปลายทางสถานีรถไฟอุบลราชธานี โดยแต่ละสถานีของเมืองท่านผ่านนั้นได้รับการออกแบบเป็นสถานีรถไฟยกระดับทั้งสิ้น ทั้ง บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ มาจบที่อุบลฯ เป็นสถานีระดับภาคพื้นแบบเก่าเช่นเดิม นี่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะบ้านเรานั้นคือสถานีปลายทางของทางรถไฟสายอีสานใต้นี้อยู่เดิมแล้ว
จุดพีกที่สุดของงานนำเสนอแบบอาคารผู้โดยสารสถานีรถไฟใหม่ทั้ง 4 สถานีหลักนั้นก็มาสะดุดที่ "สถานีรถไฟอุบลฯ อาคารใหม่ของเรา..ที่มันดูพื้นๆ ที่เหมือนจะไม่ได้รับความใส่ใจในงานออกแบบด้านสถาปัตยกรรม" ทั้งๆ ที่สถานีอุบลฯ คือสถานีรถไฟหลัก 1 ใน 10 ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดของประเทศไทย แต่เอ๋! ทำไมเหมือนถูกเมิน ไร้ความเหลียวแล ปราศจากความใส่ใจ ทั้งๆ ที่นี่คือบ้านหลังท้ายสุดของ รฟท.ฟากตะวันออกของประเทศ รูปแบบสถาปัตยกรรมของอุบลฯ ถูกออกแบบที่ฉีก และหลุดจากแบบพี่ๆ น้องๆ เมืองอื่นในเส้นทางเดียวกันเป็นอันมาก เอาง่ายๆ ใช้ตาเปล่าๆ ของประชาชนคนธรรมดานี่แหละดู ก็คงจะมองออกมาว่า "อะไร..? คือความใส่ใจ? ในการออกแบบ หรือความเอาหัวใจใส่ในเนื้องานทุกๆ ชิ้นด้วยความเสมอภาคกัน" อันนี้ง่ายๆ ใครๆ ก็รับรู้ได้
มาพูดคุยกันในแง่มุมงานออกแบบละกัน สถาปัตยกรรมตามภาพตัวอย่าง ย้ำนะครับแอดมินจะวิพากษ์จากภาพตัวอย่างที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ในส่วนของแบบสถานีรถไฟอุบลฯ อาคารใหม่ รูปแบบที่เห็นนอกจากจะไร้อัตลักษณ์ความเป็นอุบลฯ แล้ว งานออกแบบก็มักง่ายไม่มีความเข้าใจในงานสถาปัตย์อีสานแต่ประการใด ซุ้มอาคารใหญ่ที่ถูกออกแบบในภาพมันสะท้อนถึงงานสถาปัตย์แบบขอม (ซุ้มตัวปราสาทหิน) ซึ่งขัดกับอัตลักษณ์ของเมืองอุบลฯ ที่ต้องเป็นงานสถาปัตย์ล้านช้างจึงจะเชื่อมโยงความเป็นพื้นถิ่นได้ ลักษณะอาคารใหม่ เป็นอาคารโถงขนาดใหญ่ระดับพื้นดิน (ชั้นเดียว) มีการออกแบบสะพานข้ามชานชาลาไปยังชานชาลาที่ 1-8 ไว้ด้านใน แต่ลักษณะตัวอาคารก็ยังดูเชยๆ ตามสไตล์การรถไฟวรารามอยู่ดี ซึ่งดูทึบ ไม่โปร่ง อึดอัด ต่างกันอย่างมากกับสถานีบุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย หายใจคล่องได้เต็มปอด งานสถาปัตย์ภาพรวมที่พยายามสื่อถึงการเชื่อมโยงกับสถานีเดิม มองเผินเหมือนจะสมเหตุสมผล..แต่จริงๆ แล้วมันคือความไม่ใส่ใจ พิถีพิถัน ความเข้าใจในงานสถาปัตย์ที่ถึงแม้ผู้คนจะวิจารณ์ วิพากษ์ รฟท.ขนาดไหน...แต่เสียงนั้นก็แค่เสียงนกเสียงกาของผู้บริหารมาตลอดหลายยุคสมัย โคตรเหนื่อใจ!
เพจ UBON NOW ในฐานะกระบอกเสียงของชาวอุบลฯ ก็มีความยินดีปรีดาที่โครงการรถไฟรางคู่ จิระ-อุบลฯ ผ่าน EIA เมื่อกลางปีที่แล้ว แต่นะ..ใครๆ ก็มีสิทธิ์คิดและวิจารณ์ได้ ก็ในเมื่อ "งานออกแบบ มันเหมือน 2 มาตรฐาน" ที่อื่นดูดี ดูสวย โดยเฉพาะบ้านท่านผู้ใหญ่ในกระทรวงราชรถ แต่พอหลุดมาบ้านเรา..แอดฯ ได้แต่อุทานว่า เห้ย...!! ทีบ้านกูออกแบบ เฮีย..จังเลยวะ !! คือมันอดคิดไม่ได้จริง จึงอยากจะให้ประชาคมชาวอุบลฯ ของเรา รวมพลัง แสดงออกทางความเห็นซิว่า ชอบ หรือไม่ชอบ หรือว่าคิดยังไงกับอาคารสถานีใหม่เมืองอุบลฯ ในครั้งนี้
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ด้านชาวเน็ตต่างคอมเมนต์ดังนี้
- สถานีอุบลราชธานีวรมหาวิหาร
- สถานีการเปรียญ แห่เทียนเมืองอุบล
- คงทำไรไม่ได้มาก แบบมาจากส่วนกลาง เหมือนตอนศาลากลาง ช่วยกันออกแบบแค่ไหน เขาก็กางแบบส่วนกลาง
- คงงั้นแหละ เพราะสมองทุ่มใช้ไปแต่สถานีแรกๆ แล้ว ปลายทางเลยคิดไม่ออก น่าจะให้สถาปนิกท้องถิ่น เช่น ม.อุบลฯ ออกแบบให้ดีกว่านะ
- วัดหรือศาลาว่าการของจังหวัดครับ ยุคไหนแล้วเนี่ย
- ไม่สวยเลย ขอแบบบุรีรัมย์ครับ
- ทาง รฟท.ควรศึกษาอัตลักษณ์ของเมืองอุบลฯ ก่อนออกแบบสถานี หรือให้ปราชญ์ท้องถิ่นหรือภูมิปัญญาชาวอุบลฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบสถานีรถไฟของเมืองอุบลฯ นะคะ ไม่ใช่คิดเองเออเอง แต่ละจังหวัดในภาคอีสานมีเอกลักษณ์เฉพาะจังหวัดไม่เหมือนกัน อย่าเหมารวมค่ะ
X
พรูอีซี่ แคร์ เบี้ยเริ่ม 22 บ./วัน
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่าย สูงสุด 100,000บ./ครั้ง ผ่อนชำระเบี้ยประกันได้
สนใจคลิก
- ไม่มีการประชาพิจารณ์สานแนวคิดร่วมบริบทชุมชน...และสถาปนิกพื้นถิ่นที่เชี่ยวชาญ...ก็ตามใจ รฟท.เรื่อยมา
- กระทรวงคมนาคม 2 มาตรฐาน
- ใช้บริการแล้วได้อารมณ์เหมือนไปเลี้ยงเพลพระ
- ประชาชนเขาเหนื่อยใจกับผู้ว่าฯ การรถไฟ รมต.คมนาคม
เรื่องชวนบ่นจากสถานีปากช่องและ สถานีอุบลที่ยืนยันจะทำตามแบบเดิม
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/pfbid02T9nK137rTaqUYXGojwSxTa1RYxkGPWCVNC5f8DndLp9xtvSGGtKchsr8johudyhFl |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42622
Location: NECTEC
|
Posted: 16/06/2022 12:49 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
15 มิถุนายน 2565 14:57 น.
https://www.facebook.com/southernlinetrackdoublingproject/posts/3221128741475193
ความก้าวหน้างานก่อสร้าง
😊👉สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
ผลงานถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2565
แผนงานสะสม = 97.319%
ผลงานสะสม = 96.506 %
ช้ากว่าแผน = -0.813 %
😊👉สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ผลงานถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2565
แผนงานสะสม = 96.534 %
ผลงานสะสม = 94.903 %
ช้ากว่าแผน = 1.631 %
😊👉สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
ผลงานถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2565
แผนงานสะสม = 100.00%
ผลงานสะสม = 99.98 %
ช้ากว่าแผน = -0.02 %
😊👉สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
ผลงานถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2565
แผนงานสะสม = 87.941 %
ผลงานสะสม = 86.339 %
ช้ากว่าแผน = -1.602 %
😊👉สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี
ผลงานถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2565
แผนงานสะสม = 100.00 %
ผลงานสะสม = 88.819 %
ช้ากว่าแผน = -11.181 % |
ขร. ลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายใต้
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันที่ 14 มิถุนายน 2565 เวลา 19:28 น.
เมื่อวันที่ 13 -14 มิถุนายน 2565 เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร โดยมีนายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกรโครงการฯ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานและบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างให้การต้อนรับ
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร แบ่งเป็น 3 ช่วง 6 สัญญา ได้แก่
ช่วงที่ 1 ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างระดับพื้นทั้งหมด โดยมีสถานีสร้างใหม่ 15 สถานี สถานีอนุรักษ์ 2 สถานี และที่หยุดรถ 2 แห่ง รวมทั้งแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ โดยสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) 7 สะพาน สะพานกลับรถรูปตัวยู (U-Bridge) 23 สะพาน ทางลอดใต้ทางรถไฟอีก 2 แห่ง มีความคืบหน้าร้อยละ 96.487
Highlight ของสัญญานี้ คือ สะพานขึงรถไฟ (Extradosed Bridge) แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งมีความยาว 160 เมตร และความสูง 16 เมตร โดยจะประกอบชิ้นส่วนสะพาน End segment 4 เมตรสุดท้าย ในวันที่ 24 มิ.ย. 2565 ซึ่งจะกลายเป็น Landmark ใหม่ของจังหวัดราชบุรี
สัญญา 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กม. มีสถานีสร้างใหม่ 7 สถานี ปรับปรุงสถานีเดิม 2 สถานี และก่อสร้างสถานียกระดับ 1 สถานี คือ สถานีหัวหิน มีความคืบหน้าร้อยละ 94.898
Highlight ของสัญญานี้ คือ สถานีรถไฟยกระดับหัวหิน ซึ่งเป็นสถานีสไตล์วิกตอเรียแห่งเดียวในประเทศไทย ปัจจุบันได้มีการวางรางเข้าสู่ตัวสถานีแล้ว
ช่วงที่ 2 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร (สัญญาที่ 3) ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มทะยอยเปิดให้บริการเดินรถในเส้นทางดังกล่าวแล้ว
ช่วงที่ 3 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร ได้แก่
สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 87 กิโลเมตร มีสถานีสร้างใหม่ 5 สถานี สถานีอนุรักษ์ 5 สถานี และที่หยุดรถ 5 แห่ง รวมทั้งมีย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) 1 แห่ง บริเวณสถานีนาผักขวง มีความคืบหน้าร้อยละ 86.339
สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 80 กิโลเมตร มีสถานีสร้างใหม่ 10 สถานี และที่หยุดรถ 3 แห่ง รวมทั้งมีย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) 1 แห่ง บริเวณสถานีสะพลี มีความคืบหน้าร้อยละ 88.485
สำหรับสัญญาที่ 6 งานระบบอาณัติสัญญาณฯ มีความคืบหน้าร้อยละ 29.15
ทั้งนี้ ขร. ขอขอบคุณการรถไฟแห่งประเทศไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการลงพื้นที่ อีกทั้งได้เร่งรัดผู้รับจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนภายในปี 2565 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/324701203187682 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/06/2022 5:19 pm Post subject: |
|
|
อัปเดทรถไฟทางคู่"มาบกะเบา-จิระ"เตรียมเปิดใช้ช่วง"สถานี ซับม่วง -คลองขนานจิตร"
เผยแพร่: 18 มิ.ย. 2565 14:45
ปรับปรุง: 18 มิ.ย. 2565 14:45
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
"กรมราง"ลงพื้นที่อัปเดทรถไฟทางคู่สายอีสาน "มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ"สัญญา1 คืบกว่า 94% ส่วน สัญญา 3 อุโมงคืบกว่า 91% เผยรฟท.เตรียมเปิดใช้ 3 สะถานีแรก จากซับม่วง -จันทึก -คลองขนานจิตร
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กม.โดยมีนายกฤษดา มัชฌิมาภิโร วิศวกรกำกับการก่อสร้าง เขต 2 ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานและบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกในการลงพื้นที่
โดย รฟท. อยู่ระหว่างเตรียมเปิดการเดินรถทางคู่ในช่วงแรกตั้งแต่สถานีซับม่วง สถานีจันทึก และสถานีคลองขนานจิตร และจะทยอยเปิดเดินรถในช่วงอื่นๆ ตามความพร้อม
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ แบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ( กม.134+250-กม.198+200) ระยะทาง 58 กม.(เป็นโครงสร้างระดับพื้นดิน 30 กิโลเมตร และทางรถไฟยกระดับ ประมาณ 5 กิโลเมตร) มีความคืบหน้า 94.63%
โดยมี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้ก่อสร้างวงเงิน 7,560 ล้านบาท สัญญาเดิมเริ่มงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 2565 ขยายไปสิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. 2565
โดยงานก่อสร้างบางส่วน เช่น สถานีมวกเหล็กใหม่ สถานีปางอโศก และทางยกระดับบริเวณอำเภอมวกเหล็ก ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับสถานีมวกเหล็กใหม่ เป็นสถานีขนาดกลาง ระดับดิน มีการออกแบบตามมาตรฐาน universal design รองรับผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม โดยออกแบบให้มีชานชาลายกระดับประมาณ 10 เมตรจากระดับพื้น มีความยาว 400 เมตร มีบันไดทางขึ้นลง และลิฟต์เพื่อบริการระหว่างชานชาลา up track และ down track ระบบการจำหน่ายบัตรโดยสารมี 2 ระบบ คือ ระบบจำหน่ายบัตรโดยสารปกติ และระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสถานีเป็นระบบปิด (มีระบบเครื่องกั้นเข้าออกในตัวสถานีคล้ายๆ กับรถไฟฟ้า) โดยสถานีมวกเหล็กเดิมจะปรับเป็นที่หยุดรถ
สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ (กม.199+600-กม.268+136) ระยะทาง 69 กม.รฟท. อยู่ระหว่างการปรับแบบร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา
สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ จำนวน 3 อุโมงค์ ระยะทาง 5 กม. ค่าก่อสร้าง 9,290 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้าไอทีดี-อาร์ที เป็นผู้รับจ้าง มีความคืบหน้า 91.057 % โดยมีการขยายสัญญาก่อสร้าง จากเดิมสัญญาสิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ออกไปสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. 2565
โดยอุโมงค์ที่ 1 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบา สถานีผาเสด็จ และสถานีหินลับ จังหวัดสระบุรี มีลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ ทางเดี่ยว มีความกว้างประมาณ 7.50 เมตร สูงประมาณ 8.50 เมตร และยาวประมาณ 5.20 กิโลเมตร ถือเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันมีความคืบหน้า 80 %
อุโมงค์ที่ 2 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีหินลับ และสถานีมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี มีความยาว 250 เมตร ปัจจุบันมีความคืบหน้า 98 %
และอุโมงค์ที่ 3 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีคลองขนานจิตร อำเภอปากช่อง และสถานีคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีความยาวประมาณ 1.17 กิโลเมตร มีความคืบหน้า 81%
สัญญาที่ 4 ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ทั้งโครงการวงเงิน 2,445 ล้านบาท มีกลุ่มกิจการร่วมค้าอิตาเลียนไทยฯ-LSIS เป็นก่อสร้าง มีความคืบหน้า 12.671% |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42622
Location: NECTEC
|
Posted: 18/06/2022 10:28 pm Post subject: |
|
|
ดูที่นี่ก็ได้ครับ
รฟท. เตรียมเปิดเดินรถไฟทางคู่ช่วงแรกสถานีซับม่วง-สถานีจันทึก-สถานีคลองขนานจิตร
https://news.ch7.com/detail/577076
รถไฟทางคู่ สายอีสานจะพร้อมเปิดให้บริการในปีนี้กี่สถานี?
วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 14:23 น.
คืบหน้าสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 12:56 น.
อัพเดท 4สัญญา รถไฟทางคู่ สายอีสาน มาบกะเบา-จิระ คืบ ทะลุ90%ใกล้ได้ใช้ทาง
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 16:35 น.
อัพเดท 4สัญญา ทางคู่ สายอีสาน มาบกะเบา-จิระ คืบกว่า 90%ใกล้เปิดใช้เส้นทาง ขร. ลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายอีสาน อย่างใกล้ชิด เตรียมเปิดใช้เส้นทางโดยเร็ว
กรมราง ลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท ทั้ง 4 สัญญา ขณะที่สัญญา 2 ติดปรับแบบร่วมโครงสร้างไฮสปีดไทย-จีน
กรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ล่าสุดสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร คืบหน้าแล้วกว่า 94%
วันนี้ (18 มิ.ย.65) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ รวม 4 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร (เป็นโครงสร้างระดับพื้นดิน 30 กิโลเมตร และทางรถไฟยกระดับ ประมาณ 5 กิโลเมตร) มีความคืบหน้าร้อยละ 94.63 โดยงานก่อสร้างบางส่วน เช่น สถานีมวกเหล็กใหม่ สถานีปางอโศก และทางยกระดับบริเวณอำเภอมวกเหล็ก ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยสถานีมวกเหล็กใหม่ เป็นสถานีขนาดกลาง ระดับดิน มีการออกแบบตามมาตรฐาน universal design รองรับผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม โดยออกแบบให้มีชานชาลายกระดับประมาณ 10 เมตรจากระดับพื้น มีความยาว 400 เมตร มีบันไดทางขึ้นลง และลิฟต์เพื่อบริการระหว่างชานชาลา up track และ down track ระบบการจำหน่ายบัตรโดยสารมี 2 ระบบ คือ ระบบจำหน่ายบัตรโดยสารปกติ และระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสถานีเป็นระบบปิด (มีระบบเครื่องกั้นเข้าออกในตัวสถานีคล้ายๆ กับรถไฟฟ้า) โดยสถานีมวกเหล็กเดิมจะปรับเป็นที่หยุดรถ
สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ รฟท. อยู่ระหว่างการปรับแบบร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา
เช็กมติครม.! เวนคืนที่ดิน 5 จว.สร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
อัปเดตความคืบหน้ารถไฟทางคู่สายใต้ก่อสร้างเสร็จเกือบ 100% เตรียมเปิดเดินรถบางช่วง
รู้หรือไม่? เทคโนโลยีรถไฟที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกมีชื่อว่าอะไร?
สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ จำนวน 3 อุโมงค์ มีความคืบหน้าร้อยละ 91.057 โดยอุโมงค์ที่ 1 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบา สถานีผาเสด็จ และสถานีหินลับ จังหวัดสระบุรี มีลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ ทางเดี่ยว มีความกว้างประมาณ 7.50 เมตร สูงประมาณ 8.50 เมตร และยาวประมาณ 5.20 กิโลเมตร ถือเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันมีความคืบหน้าร้อยละ 80
ส่วนอุโมงค์ที่ 2 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีหินลับ และสถานีมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี มีความยาว 250 เมตร ปัจจุบันมีความคืบหน้าร้อยละ 98
และอุโมงค์ที่ 3 ตั้งอยู่ระหว่างสถานีคลองขนานจิตร อำเภอปากช่อง และสถานีคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีความยาวประมาณ 1.17 กิโลเมตร มีความคืบหน้าร้อยละ 81
สัญญาที่ 4 ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม มีความคืบหน้าร้อยละ 12.671 โดย รฟท. เตรียมเปิดการเดินรถทางคู่ในช่วงแรกตั้งแต่สถานีซับม่วง สถานีจันทึก และสถานีคลองขนานจิตร และจะทยอยเปิดเดินรถในช่วงอื่นๆ ตามความพร้อม
อย่างไรก็ตาม รฟท. คาดว่าในเบื้องต้นจะสามารถเปิดให้บริการเดินรถทางคู่ช่วงแรก ตั้งแต่สถานีซับม่วง สถานีจันทึก และสถานีคลองขนานจิตร ได้ภายในปี 65 จากนั้นจะทยอยเปิดให้บริการเดินรถสถานีอื่นๆ ในช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ได้ภายในปี 66 ส่วนช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ จะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 68 เปิดให้บริการปี 69
ภาพจาก : พีอาร์ กรมการขนส่งทางราง
ข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางราง
ภาพจาก : พีอาร์ กรมการขนส่งทางราง
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/117018/
https://www.facebook.com/100069434130040/posts/327291902928612/?d=n
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/575592580684647
Last edited by Wisarut on 27/06/2022 10:45 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42622
Location: NECTEC
|
Posted: 19/06/2022 7:41 am Post subject: |
|
|
การรถไฟฯ แจงออกแบบสถานีรถไฟ อุบลฯ อาคารใหม่ หวังให้สอดคล้องสถานีเดิม ชี้ ปชช.มีส่วนร่วมก่อนสรุปแบบตั้งแต่ เม.ย. 59
Last updated 18 มิถุนายน 2565
การรถไฟฯ แจงออกแบบสถานีรถไฟ อุบลฯ ในโครงการทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-อุบลฯ ชี้ ปชช. มีส่วนร่วมก่อนเคาะสรุปออกแบบตั้งแต่ เม.ย. 59 เผยแบบสถานีใหม่ให้สอดคล้องสถานีเดิม ยันเพื่อให้ภาพรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันใน พร้อมใช้สัญลักษณ์ ดอกบัว มาประยุกต์ใช้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่โลกโซเชียล ได้มีการแชร์ภาพการออกแบบสถานีรถไฟใหม่ ในโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 307 กิโลเมตร (กม.) โดยมีการเปรียบเทียบการออกแบบสถานีหลักของโครงการฯ คือ สถานีอุบลราชธานี, สถานีบุรีรัมย์ และสถานีศรีสะเกษว่า สถานีอุบลราชธานีมีการออกแบบที่แตกต่างไปจากสถานีอื่นๆ ไม่มีความใส่ใจในการออกแบบ และมีรูปแบบเชย ล้าสมัยนั้น (ข้อมูลประกอบจากเพจ UBON NOW : https://www.facebook.com/1512837285641732/posts/3170037476588363/)
สถานีอุบลราชธานี
ล่าสุด รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ออกมาระบุว่า สถานีอุบลราชธานี เป็นสถานีขนาดใหญ่ ที่ถูกกำหนดให้อยู่ที่ระดับดินเนื่องจากเป็นสถานีปลายทางและเป็นย่านสำหรับการจัดขบวนรถและซ่อมบำรุง ในขั้นตอนการออกแบบ พิจารณาใช้อาคารสถานีเดิม เนื่องจาก อาคารสถานีเดิมมีสภาพที่ดีและมีรูปแบบที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ แต่อาคารสถานีเดิมมีพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอต่อการรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น
โดยจากการก่อสร้างเป็นทางคู่ได้ จึงกำหนดแนวคิดของการออกแบบสถานีอุบลราชธานีเป็นการปรับปรุงอาคารสถานีเดิม และจัดพื้นที่ใช้สอยภายในใหม่ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ร่วมกันกับการก่อสร้างอาคารสถานีใหม่
ภายในสถานีอุบลราชธานี
ทั้งนี้ อาคารสถานีเดิมกำหนดใช้เป็นพื้นที่สำหรับส่วนงานของ รฟท. ส่วนอาคารใหม่ถูกออกแบบให้อยู่ด้านข้างอาคารสถานีเดิม ออกแบบเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีลิฟต์และบันไดเลื่อน เน้นฟังก์ชั่น เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสาร แบ่งเป็น
ชั้น 1 เป็นพื้นที่ขายตั๋ว ห้องน้ำ ร้านค้า ห้องประชุม ห้องปฐมพยาบาล พื้นที่พักคอย
ชั้น 2 เป็นพื้นที่พักคอย ห้องน้ำ ห้องพักคอยสำหรับ VIP
ชั้น 3 เป็นทางเดินเชื่อมออกไปยังสะพานลอย เชื่อมชานชาลา
การออกแบบอาคารส่วนเพิ่มเติมนี้ กำหนดให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับอาคารสถานีเดิม เพื่อให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในภาพรวม โดยการนำดอกบัว ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบทางเข้าอาคารด้วย
สถานีอุบลราชธานี
รายงานข่าวจากการรถไฟฯ ระบุอีกว่า ภาพมุมมองสามมิติ (Perspective) ของอาคารสถานีรถไฟอุบลราชธานีใหม่ที่สื่อออนไลน์ได้นำไปเผยแพร่นั้น อยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ได้จัดทำขึ้นในช่วงของการจัดทำร่างแบบในช่วงประมาณ ก.พ. 2559 ซึ่งเป็นภาพในช่วงของการศึกษารูปแบบด้านสถาปัตยกรรมของอาคารสถานีใหม่
ขณะเดียวกัน ต่อมาเมื่อมีการปรับแก้ไขตามกระบวนการที่เปิดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและมีการพัฒนาเป็นแบบรายละเอียดฉบับสุดท้ายแล้วเสร็จ โครงการฯ ได้พัฒนาเป็นรูปแบบที่สมบูรณ์ ปรากฎดังภาพมุมมองสามมิติ (Perspective) ของอาคารสถานีรถไฟอุบลราชธานีใหม่ในช่วง เม.ย. 2559 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 20/06/2022 11:57 am Post subject: |
|
|
กรมราง เร่งสปีดสร้าง 7 รถไฟทางคู่เฟส1-เฟส2
หน้าแรก เศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล | 19 มิ.ย. 2565 เวลา 14:59 น.
กรมราง ติดตามคืบหน้าสร้างรถไฟทางคู่เฟส 1 ขณะที่แผนสร้างรถไฟทางคู่เฟส2 ช่วงขอนแก่น หนองคาย เล็งชงครม.ไฟเขียว สั่งรฟท.เร่งชงคมนาคมเคาะสร้างทางคู่เพิ่ม 2 เส้นทาง ภายในปีนี้
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการรถไฟระหว่างเมือง ครั้งที่ 1/2565 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ Zoom ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมการขนส่งทางราง ในฐานะฝ่ายเลขานุการ
สำหรับการประชุมในครั้งนี้มีความคืบหน้าของสถานะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่
1.ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร มีความคืบหน้า 94.50% สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ อยู่ระหว่างปรับแบบและจัดทำรายงานแนวทางการก่อสร้าง และผลกระทบ และสัญญาที่ 3 อุโมงค์รถไฟ มีความคืบหน้า 90.918%
2.ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม มีความคืบหน้า 73.11% และสัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ มีความคืบหน้า 72.81%
3.ช่วงนครปฐม - หัวหิน สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล มีความคืบหน้า 96.485% และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน มีความคืบหน้า 94.896% ทั้งนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จนั้น ส่งผลให้โครงข่ายรถไฟทางคู่เพิ่มขึ้นจากเดิม 543 กิโลเมตร เป็น 627 กิโลเมตร คิดเป็น 15.50%
4.ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร สัญญาที่ 1 ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย มีความคืบหน้า 86.124% และสัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร มีความคืบหน้า 88.210%
ส่วนของโครงการก่อสร้างรถไฟทางสายใหม่ ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ ได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้าง เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นฯ เห็นชอบหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 แล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการจ้างผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้าง คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างภายในเดือนมิถุนายน 2565
ขณะที่ช่วงบ้านไผ่ มุกดาหาร นครพนม ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้าง เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 อยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นฯ และสำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเวนคืน คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างภายในเดือนมิถุนายน 2565
นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ส่วนการเสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ปัจจุบันได้รับความเห็นจากทั้ง 3 หน่วยงานแล้ว (กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) โดยในขั้นตอนต่อไป กระทรวงคมนาคมจะประมวลนำเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงชุมทางถนนจิระ อุบลราชธานี และช่วงปากน้ำโพ เด่นชัย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งนำเสนอขออนุมัติโครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำข้อมูลและจะนำเสนอตามขั้นตอน คาดว่าจะเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อขออนุมัติโครงการได้ภายในปี 2565
มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งรัดดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าทางรถไฟ พ.ศ. 2563 - 2565 เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางและนำความเห็นที่ประชุมไปบูรณาการให้เป็นไปตามแผนงานต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42622
Location: NECTEC
|
Posted: 21/06/2022 3:56 pm Post subject: |
|
|
การรถไฟฯ ชี้แจงภาพของแบบอาคารสถานีรถไฟอุบลราชธานีที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์นั้นเป็นภาพเก่า ปัจจุบันได้มีการออกแบบใหม่แล้ว โดยยึดหลักมีอัตลักษณ์สวยงาม ทันสมัย และอำนวยความสะดวกให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันอังคาร ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 15:37 น.
กรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอรูปภาพสถานีรถไฟอุบลราชธานี ในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี โดยระบุว่าเป็นการออกแบบที่ไม่ทันสมัยนั้น ศูนย์ประชาสัมพันธ์
การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงว่า ภาพสถานีอุบลราชธานี ในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ที่สื่อออนไลน์ได้นำไปเผยแพร่นั้น เป็นภาพเก่า ซึ่งการรถไฟฯ ได้จัดทำขึ้นในช่วงของการจัดทำร่างแบบเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยขณะนั้นยังเป็นภาพมุมมองสามมิติ (Perspective) ไม่ได้มีการลงรายละเอียด ด้านสถาปัตยกรรมของอาคารสถานีแต่อย่างใด
โดยต่อมาการถไฟฯ ได้ดำเนินการออกแบบสถาปัตยกรรมอาคารสถานีขึ้นใหม่โดยเปิดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น ซึ่งเมื่อมีการปรับแบบแล้ว ทำให้แบบการก่อสร้าง และปรับปรุงอาคารสถานีอุบลราชธานี มีความทันสมัยและคงอัตลักษณ์ประจำจังหวัดที่สวยงาม ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า โดยได้จัดทำแบบเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในรายละเอียดของการจัดทำแบบสถานีอุบลราชธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี การรถไฟฯ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นสถานีขนาดใหญ่ ที่ถูกกำหนดให้อยู่ที่ระดับดินเนื่องจากเป็นสถานีปลายทางและเป็นย่านสำหรับการจัดขบวนรถและซ่อมบำรุง ในขั้นตอนการออกแบบจึงดำเนินการด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยมีการดำเนินการเป็น 2 ส่วน คือการปรับปรุงอาคารสถานีเดิม และการก่อสร้างอาคารสถานีใหม่
- อาคารสถานีเดิม ที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ไม่เพียงพอรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นจากการก่อสร้างเป็นทางคู่ในอนาคต แต่ด้วยสภาพอาคารสถานีที่ยังมีความสมบูรณ์แข็งแรง และมีรูปแบบที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ การรถไฟฯ จึงกำหนดแนวคิดของการออกแบบ ให้มีการปรับปรุง และจัดพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารสถานีใหม่ ให้มีความเหมาะสม เพื่อใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ส่วนงานของการรถไฟฯ
- อาคารแห่งใหม่ ได้ออกแบบก่อสร้างให้อยู่ด้านข้างอาคารสถานีเดิม โดยสร้างเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีลิฟต์และบันไดเลื่อน เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการและอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วย
ชั้น 1 เป็นพื้นที่ขายตั๋ว ห้องน้ำ ร้านค้า ห้องประชุม ห้องปฐมพยาบาล พื้นที่พักคอย
ชั้น 2 เป็นพื้นที่พักคอย ห้องน้ำ ห้องพักคอยสำหรับ VIP
ชั้น 3 เป็นทางเดินเชื่อมออกไปยังสะพานลอย เชื่อมชานชาลา
สำหรับการออกแบบอาคารส่วนเพิ่มเติมนี้ ยังกำหนดให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับอาคารสถานีเดิมเพื่อให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในภาพรวม โดยการนำดอกบัวซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบทางเข้าอาคารด้วย
การรถไฟฯ ขอย้ำว่า พร้อมรับฟังความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงโครงการลงทุนและการให้บริการในมิติต่างๆ อย่างรอบด้าน และครอบคลุมครบถ้วน โดยคำนึงถึงความทันสมัย คงอัตลักษณ์ประจำจังหวัดที่สวยงาม ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของการให้บริการต่อประชาชนเป็นสำคัญ
รฟท.เคลียร์ดราม่าแผนออกแบบรถไฟทางคู่-สถานีรถไฟอุบลฯ
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 19:55 น.
รฟท.แจงแผนออกแบบอาคารสถานีรถไฟอุบลราชธานี 1 ในโปรเจ็กต์รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ยันเป็นแบบเก่า เร่งปรับแบบสร้างอาคารใหม่ ยึดอัตลักษณ์สวยงาม-ทันสมัย หวังอำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า กรณีมีกระแสถึงรูปภาพสถานีรถไฟอุบลราชธานี ในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี เป็นการออกแบบที่ไม่ทันสมัยนั้น ทางรฟท.ยืนยันเป็นภาพเก่า ซึ่งได้จัดทำขึ้นในช่วงของการจัดทำร่างแบบเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยขณะนั้นยังเป็นภาพมุมมองสามมิติ (Perspective) ไม่ได้มีการลงรายละเอียด ด้านสถาปัตยกรรมของอาคารสถานีแต่อย่างใด
ที่ผ่านมารฟท.ได้ดำเนินการออกแบบสถาปัตยกรรมอาคารสถานีขึ้นใหม่โดยเปิดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น ซึ่งเมื่อมีการปรับแบบแล้ว ทำให้แบบการก่อสร้าง และปรับปรุงอาคารสถานีอุบลราชธานี มีความทันสมัยและคงอัตลักษณ์ประจำจังหวัดที่สวยงาม ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า โดยได้จัดทำแบบเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา
สำหรับรายละเอียดของการจัดทำแบบสถานีอุบลราชธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี การรถไฟฯ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นสถานีขนาดใหญ่ ที่ถูกกำหนดให้อยู่ที่ระดับดินเนื่องจากเป็นสถานีปลายทางและเป็นย่านสำหรับการจัดขบวนรถและซ่อมบำรุง ในขั้นตอนการออกแบบจึงดำเนินการด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยมีการดำเนินการเป็น 2 ส่วน คือการปรับปรุงอาคารสถานีเดิม และการก่อสร้างอาคารสถานีใหม่
1.อาคารสถานีเดิม ที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ไม่เพียงพอรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นจากการก่อสร้างเป็นทางคู่ในอนาคต แต่ด้วยสภาพอาคารสถานีที่ยังมีความสมบูรณ์แข็งแรง และมีรูปแบบที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ การรถไฟฯ จึงกำหนดแนวคิดของการออกแบบ ให้มีการปรับปรุง และจัดพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารสถานีใหม่ ให้มีความเหมาะสม เพื่อใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ส่วนงานของการรถไฟฯ
2. อาคารแห่งใหม่ ได้ออกแบบก่อสร้างให้อยู่ด้านข้างอาคารสถานีเดิม โดยสร้างเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีลิฟต์และบันไดเลื่อน เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการและอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วย ชั้น 1 เป็นพื้นที่ขายตั๋ว ห้องน้ำ ร้านค้า ห้องประชุม ห้องปฐมพยาบาล พื้นที่พักคอย ชั้น 2 เป็นพื้นที่พักคอย ห้องน้ำ ห้องพักคอยสำหรับ VIP ชั้น 3 เป็นทางเดินเชื่อมออกไปยังสะพานลอย เชื่อมชานชาลา
นอกจากนี้การออกแบบอาคารส่วนเพิ่มเติม ยังกำหนดให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับอาคารสถานีเดิมเพื่อให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในภาพรวม โดยการนำดอกบัวซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบทางเข้าอาคารด้วย
รฟท. พร้อมรับฟังความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงโครงการลงทุนและการให้บริการในมิติต่างๆ อย่างรอบด้าน และครอบคลุมครบถ้วน โดยคำนึงถึงความทันสมัย คงอัตลักษณ์ประจำจังหวัดที่สวยงาม ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของการให้บริการต่อประชาชนเป็นสำคัญ
Last edited by Wisarut on 23/06/2022 5:42 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|