รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

Mongwin · Posted: 25/12/2013 1:16 pm Post subject:

ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ระบุโครงการ 2 ล้านล้านต้องรอรัฐบาลใหม่พิจารณา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2556 12:40 น.

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า หลังมีรัฐบาลชุดใหม่ การรถไฟฯ จะเสนอขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีปี 2540 ที่ห้ามรับพนักงานทดแทนที่เกษียณอายุ ทั้งวิศวกร และช่างฝีมือกว่า 1,000 ตำแหน่ง

ส่วนการชะลอการลงทุนโครงการ 2 ล้านล้านบาท เช่น โครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางใหม่ จะต้องรอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาต่อไป

ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ยังได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนารถไฟไทย แบ่งเป็น พัฒนารถไฟธรรมดา ซึ่งที่ผ่านมารถไฟไทยยังเป็นระบบขนส่งที่มีปัญหามาก ทั้งขาดแคลนบุคลากร สภาพหัวรถจักรเก่าและทรุดโทรม สภาพรางเก่า ซึ่งตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง พยายามแก้ไขซ่อมแซมเส้นทางในหลายพื้นที่ การผลักดันจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ และในอนาคตจะเดินหน้าพัฒนารถไฟทางคู่ เพื่อให้การขนส่งสินค้าทางรางได้มาตรฐาน และสามารถควบคุมเวลาขนส่งให้ตรงต่อเวลา

ส่วนการพัฒนาโครงการระบบรางใหม่ เช่น รถไฟความเร็วสูง หวังว่าในอนาคตจะเดินหน้าต่อได้ เพราะมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

----

รฟท.เตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่ขอรับพนักงานเพิ่ม
VoiceTV 25 ธันวาคม 2556 เวลา 11:09 น.

ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่ รับพนักงานแทนที่พนักงานเดิมที่เกษียณอายุราชการ หลังมติคณะรัฐมนตรีปี 2540 ไม่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับพนักงานใหม่

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยว่า หลังจากมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว รฟท.จะเสนอขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี ปี 2540 ที่ห้าม รฟท. รับพนักงานใหม่แทนพนักงานที่เกษียณอายุราชการ ทำให้ปัจจุบัน รฟท.ขาดพนักงานในระดับวิศวกรและช่างฝีมือ มากกว่า 1,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ การขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีปี 2540 ให้ รฟท.รับพนักงานเพิ่มในส่วนที่เกษียณราชการนั้น เพื่อรองรับภารกิจของ รฟท. และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมทั้งการปรับโครงสร้างของ รฟท.ในอนาคตด้วย

ส่วนการชะลอการลงทุนโครงการ 2 ล้านล้านบาท เช่น โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง หากมีการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แล้ว กระทรวงการคลังสามารถจัดหาแหล่งเงินกู้ได้ทันที ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง ต้องรอการพิจารณาของรัฐบาลชุดใหม่

ทั้งนี้ รฟท.ได้ลงนามร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อร่วมมือทางวิชาการ และพัฒนาความรู้ด้านงานระบบราง ซึ่งปัจจุบันเป็นเพียงวิชาเลือก เพื่อพัฒนาเป็นหลักสูตรและสาขาวิชาในอนาคต

Mongwin · Posted: 26/12/2013 6:30 am Post subject:

^^^
ขอบันทึกช่วยจำไว้ครับ
----
สำหรับโครงการที่รอ EIA และสามารถหาแหล่งเงินกู้ต่อไปได้เลยคือ
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 5 โครงการ วงเงินรวม 1.16 แสนล้านบาท ดังนี้

Mongwin · Posted: 27/12/2013 4:10 pm Post subject:

รถไฟเดินหน้าล้างท่อประมูลงานใหญ่ 5 หมื่นล. งัดแผนสำรองดึงทางคู่ 5 สายขอใช้งบฯปี ′58
27 ธ.ค. 2556 เวลา 13:00:13 น.

การรถไฟฯเร่งประมูลงานค้างท่อกว่า 5 หมื่นล้าน ซื้อหัวรถจักร 50 คัน ตู้สินค้า 308 คัน รถโดยสารใหม่ 115 คัน ปรับปรุงสายใต้ "หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก" สร้างทางคู่สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เดินหน้าซื้อรถไฟฟ้าสายสีแดงกว่า 2.6 หมื่นล้าน ชง ครม.ใหม่อนุมัติเงินรื้อสถานีบางซื่อ 1 หมื่นล้าน พร้อมดึงบิ๊กโปรเจ็กต์ทางคู่ 5 สายกลับเข้าแผนปกติ มีสถานะ "พร้อมประมูลทันที" หาก 2 ล้านล้านวืด

Click on the image for full size

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.ยังเดินหน้าเซ็นสัญญาก่อสร้างและเปิดประมูลงานที่ค้างคาอยู่ปกติ เนื่องจากเป็นโครงการที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาแล้วเมื่อปี 2553 ส่วนใหญ่เป็นแผนภายใต้กรอบวงเงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 176,808 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้หาแหล่งเงินกู้ในประเทศให้ งานรอประมูลตรึม 5 หมื่นล้านตามแผนงานมีประมาณ 5 โครงการ กำลังรอประมูล มูลค่ารวม 25,859 ล้านบาท ได้แก่

Mongwin · Posted: 02/01/2014 6:00 pm Post subject:

TOR โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย
สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง
ราคากลาง 10,183,702,194.00 บาท
(2 ม.ค. 57)

http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2557/57581609tor.pdf

Mongwin · Posted: 23/01/2014 12:05 pm Post subject:

ทำใจเงินกู้ 2 ล้านล้านไม่ถึงฝั่ง รฟม.รับแผนไฮสปีดเทรนแท้ง
ไทยรัฐออนไลน์ 23 มกราคม 2557, 05:30 น.

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.จะดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆตามแผนงานที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานรวดเร็วตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด คือ 7 ปี จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ก็ตาม เพราะสามารถดำเนินโครงการภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ที่กำหนดให้รัฐบาลก่อหนี้ได้ไม่เกิน 20% ต่อปี หรือประมาณ 500,000 ล้านบาท ดังนั้น จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ก็สามารถใช้งบประมาณภายใต้ พ.ร.บ.ดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน เพราะแต่ละโครงการที่ดำเนินงานไม่ได้จ่ายเงินทีเดียวทั้งหมด แต่เป็นการทยอยจ่ายจนกว่าการดำเนินโครงการจะแล้วเสร็จ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้า 1 สาย จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 5 ปี ก็ทยอยจ่ายทุกปีจนครบวงเงินค่าก่อสร้าง ซึ่งอาจจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อโครงการ

นายยงสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับโครงการที่จะได้รับผลกระทบหากการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไม่สามารถเดินหน้าได้ คงจะเป็นการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ในทุกเส้นทางมากกว่า เพราะจะไม่มีวงเงินงบประมาณเหลือเพียงพอที่จะก่อสร้างได้ หากจะดำเนินการจริงอาจต้องเลือกมาเพียง 1 สาย และต้องทยอยทำไปเรื่อยๆไม่สามารถเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 7 ปีได้ เพื่อไม่ให้กรอบวงเงินการก่อหนี้ในแต่ละปีเกินกว่าที่กำหนดไว้

นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. กล่าวว่า หาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเดินหน้าไม่ได้ แต่ทุกรัฐบาลสนับสนุนให้ ร.ฟ.ท.เดินหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศตามแผนงานที่กำหนด จะสามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในระยะเวลา 4 ปีอย่างแน่นอน.

Wisarut · Posted: 23/01/2014 1:38 pm Post subject:

ดูรูปการณ์แล้วคงต้องทำสายที่ทำเงินมากที่สุดไว้ก่อนหละครับ

Wisarut · Posted: 26/01/2014 1:42 am Post subject:

ได้ข่าวล่าสุดจากฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 26-29 มกราคม 2557 ว่า กว่าจะประมูลทางคู่แก่งคอย - คลอง 19 - ฉะเชิงเทรา + ทาง Chord line ทั้ง 3 ก็ กรกฎาคม 2557 โน่นแน

ทางคู่'จ่อประมูลกลางปี รับเหมาแห่ชิงเค้ก/ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2014 เวลา 12:11 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,917 วันที่ 26 - 29 มกราคม พ.ศ. 2557

สรุปกันออกมาใกล้ชัดเจนแล้ว รถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท หลังการรถไฟฯเร่งสรุปร่างทีโออาร์เตรียมเปิดประมูล ตั้งราคากลาง 10,183 ล้านบาท เตรียมชงบิ๊กการรถไฟฯเห็นชอบสัปดาห์หน้า แยกเป็น 2 สัญญา 2 ช่วงให้เลือกแข่ง คาดไม่เกินกลางปีนี้ วงการรับเหมาคึกคัก เชื่อรายใหญ่แข่งเดือด

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตามที่ได้ประกาศร่างทีโออาร์ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ การก่อสร้างโครงการทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอยมูลค่าก่อสร้าง 1.1 หมื่นล้านบาท ให้ประชาชนทั่วไปได้แสดงความเห็นแล้วเพื่อนำประกาศเป็นเอกสารประกวดราคาที่สมบูรณ์ต่อไปพร้อมกับได้กำหนดราคากลางเริ่มต้นไว้ที่10,183 ล้านบาท โดยในครั้งแรกประกาศไปเมื่อวันที่ 10-13 กันยายน 2556 และล่าสุดวันที่ 2 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้นำเสนอให้แก้ไขบางประการ ขณะนี้ได้เตรียมเปิดรับฟังความเห็นร่างทีโออาร์ดังกล่าวเป็นครั้งล่าสุดภายใน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ คาดว่าผู้รับเหมาชั้นนำของไทยและต่างประเทศสนใจเข้าร่วมแข่งขันประมูลดุเดือดอีกเช่นเคย
สำหรับการประกาศร่างทีโออาร์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 สัญญาเพื่อให้ผู้สนใจได้เลือกเข้าแข่งขันประมูลได้อย่างเต็มที่ ประกอบด้วย

งานสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง เป็นทางใหม่เพิ่ม 1 ทางคู่ขนานเส้นทางรถไฟเดิม ระยะทาง 78 กิโลเมตร ส่วนช่วงบุใหญ่-แก่งคอย ระยะทาง 97 กิโลเมตร พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง(Chord Lines) 3 แห่ง ที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีชุมทางแก่งคอย และสถานีชุมทางบ้านภาชี งานก่อสร้างสะพานรถไฟคอนกรีตเสริมเหล็ก 57 แห่ง งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ คอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง ยาว 212 เมตร

ส่วนงานในสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ ระยะทาง 9 กิโลเมตร พร้อมอุโมงค์รถไฟทางเดี่ยวคู่ขนานกับอุโมงค์เดิมลอดผ่านใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร และงานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง ยาว 60 เมตร

ขณะเดียวกัน นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอสรุปจากคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์ประกวดราคาที่มีนายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการร.ฟ.ท.เป็นประธาน ซึ่งปัญหาความล่าช้าที่ผ่านมาพบว่ามีการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างทีโออาร์หลายครั้ง โดยหลังจากที่คณะกรรมการประกาศขายเอกสารแล้วต่อจากนั้นจึงเป็นส่วนฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างจะต้องเข้าไปทำหน้าที่รับช่วงต่อไป ในเบื้องต้นเส้นทางนี้จะเปิดประมูลก่อน 5 สายทางที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอรับรองผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)เพื่อให้พร้อมเปิดประมูลในลำดับต่อไป

ด้านนายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการร.ฟ.ท. กล่าวว่า จะเร่งสรุปความคิดเห็นต่างๆให้แล้วเสร็จเพื่อเปิดประมูลได้ไม่เกินกลางปีนี้ ส่วนเรื่องกรณีการแยกเป็น 2 สัญญานั้นชัดเจนแล้วโดยผ่านการเห็นชอบตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เรียบร้อยแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะผลการรับรองอีไอเอของการก่อสร้างอุโมงค์ช่วงเขาพระพุทธฉายและการแยกออกเป็น 2 สัญญา

"ร่างทีโออาร์เดิมมีผู้แย้งหลายประเด็นจึงแก้ไขใหม่ให้ถูกต้องแล้ว และเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาก็ได้ประชุมร่วมกับผู้วิจารณ์ไปแล้ว หลังจากนั้นจะได้นำเสนอผู้บริหารการรถไฟฯเห็นชอบให้ดำเนินการคาดว่าประมาณสัปดาห์หน้า ดังนั้นความล่าช้าเพราะการดำเนินงานให้โปร่งใส ตรวจสอบได้จริงหลังจากนั้นจึงจะเร่งเปิดประมูลโดยเร็วต่อไป"

ทั้งนี้เงื่อนไขหลักของร่างประกาศทีโออาร์ในครั้งนี้ได้กำหนดคุณสมบัติหลัก ๆ ของผู้รับเหมาไว้ดังนี้คือต้องเป็นผู้รับเหมาที่มีผลงานการก่อสร้างทางรถไฟ เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียวที่มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทหรือนิติบุคคลหลายรายร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า(Joint Venture หรือ Consortium) ซึ่งบริษัทที่เป็นผู้นำของกิจการร่วมค้าต้องเป็นนิติบุคคลไทยถือครองสัดส่วนของงานในปริมาณที่มากกว่า 50% ของปริมาณงานทั้งหมดของสัญญา

ส่วนผู้เสนอราคาที่เป็นกิจการร่วมค้า โดยบริษัทไทยซึ่งเป็นบริษัทผู้นำจะต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท และสมาชิกของกิจการร่วมค้าจะต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท ที่สำคัญผู้ที่ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ และผลงานผู้รับจ้างช่วงของงานอาณัติสัญญาณซึ่งได้ทำสัญญาจ้างกับหน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชนที่ร.ฟ.ท.เชื่อถือทั้งในและต่างประเทศโดยต้องเป็นผลงานที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 3 พันล้านบาท ส่วนงานระบบอาณัติสัญญาณของผู้รับช่วงต้องมีมูลค่างานสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

Mongwin · Posted: 16/02/2014 11:45 pm Post subject:

รถไฟชงบอร์ด อนุมัติเดินหน้าทางคู่ 20 ก.พ.นี้
ไทยโพสต์ 17 ก.พ. 57

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า แก่งคอย มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เตรียมนำเสนอให้บอร์ดพิจารณาวันที่ 20 ก.พ.นี้ คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ปลายเดือน ก.พ. หรือต้นเดือน มี.ค.นี้ ส่วนร่างทีโออาร์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 สัญญาเพื่อให้ผู้สนใจได้เลือกเข้าแข่งขันประมูลได้อย่างเต็มที่

สำหรับงานสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง เป็นทางใหม่เพิ่ม 1 ทางคู่ขนานเส้นทางรถไฟเดิม ระยะทาง 78 กิโลเมตร (กม.) ส่วนช่วงบุใหญ่แก่งคอย ระยะทาง 97 กม. พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง ที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีชุมทางแก่งคอย และสถานีชุมทางบ้านภาชี งานก่อสร้างสะพานรถไฟคอนกรีต เสริมเหล็ก 57 แห่ง งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ คอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง ยาว 212 เมตร

ส่วนงาน ในสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดงบุใหญ่ ระยะทาง 9 กม. พร้อมอุโมงค์รถไฟทางเดี่ยวคู่ขนานกับอุโมงค์เดิมลอดผ่านใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทางประมาณ 1.2 กม. และงานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง ยาว 60 เมตร

สำหรับคุณสมบัติของผู้รับเหมาว่าต้องเป็นผู้รับเหมาที่มีผลงานการก่อสร้างทางรถไฟ โดยผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือนิติบุคคลหลายรายร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า ซึ่งบริษัทที่เป็นผู้นำของกิจการร่วมค้าต้องเป็นนิติบุคคลไทยถือครองสัดส่วนของงานในปริมาณที่มากกว่า 50% ของปริมาณงานทั้งหมดของสัญญา เป็นต้น.

Mongwin · Posted: 24/02/2014 7:21 am Post subject:

กระทรวงคมนาคม เตรียมศึกษาการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์เชื่อมต่อประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย 23 กุมภาพันธ์ 2557

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข.กล่าวว่า หลังจาก สนข.ศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ – พิษณุโลก แล้วเสร็จ และศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระยะที่ 2 พิษณุโลก – เชียงใหม่ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อความต่อเนื่องในการพัฒนารถไฟความเร็วสูง และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชนระยะ 2 กว่า 2 เดือน โดยให้นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วม สนข.จึงได้จัดกิจกรรมประกวดแนวคิดการออกแบบภายใน สถานีรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพมหานคร-เชียงใหม่ ระยะที่ 2 พิษณุโลก-เชียงใหม่ 3 สถานี ประกอบด้วยสถานีพิษณุโลก-ลำปางและเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนมีนาค - เดือนพฤษภาคมนี้ รวมมูลค่าเงินรางวัล 540,000 บาท สำหรับการก่อสร้างโครงสร้างสถานีผู้โดยสาร สนข.จะเป็นผู้ดำเนินการออกแบบ

ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวด้วยว่า อีก 2 เดือน สนข.จะเริ่มศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ ฯ – หนองคาย ระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย และเตรียมขออนุมัติงบประมาณปี 2558 ศึกษาออกแบบและก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 80 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อรถไฟประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นรูปแบบรถไฟฟ้าทางคู่ ทำความเร็วได้ 160 กิโลเตรต่อชั่วโมง

Mongwin · Posted: 24/02/2014 6:15 pm Post subject:

คมนาคม เดินหน้า 2 เส้นทางรถไฟทางคู่ สุราษฎร์-ภูเก็ต, หาดใหญ่-ประดังเบซาร์ รับการท่องเที่ยวอันดามัน อ่าวไทย พร้อมเชื่อมมาเล สิงคโปร์ รับการค้าเปิดเออีซี
เดลินิวส์ วันจันทร์ 24 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 16:30 น.

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กำลังศึกษาโครงการสร้างรถไฟทางคู่ลงสู่ภาคใต้ 2 เส้นทาง เพื่อรองรับการเติบโตการท่องเที่ยว การค้า และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยเส้นทางแรก เป็นเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวทางชายทะเลฝั่งอ่าวไทย และอันดามันเพิ่ม เบื้องต้นได้ศึกษามาแล้วประมาณ 4 เดือน และหลังจากนี้จะใช้งบประมาณปี 58 มาศึกษาออกแบบและดำเนินการโครงการก่อสร้างเพิ่มเติม

“ที่ศึกษาไว้ตอนนี้อาจวิ่งไปถึงสะพานสารสิน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นรถรางไฟฟ้าเข้าไปยังภูเก็ต โดยเส้นทางที่ผ่านเข้าตัวเมืองจะเป็นโครงสร้างใต้ดินเพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพ เบื้องต้นประชาชนในพื้นที่ให้ความเห็นชอบ เพราะมองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับแล้ว ส่วนรายละเอียดที่ชัดเจนคงต้องรอผลการศึกษาที่ชัดเจนก่อน”

นอกจากนี้ ในแผนงบประมาณปี 58 ยังเตรียมศึกษาออกแบบรถไฟทางคู่ จากหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทางประมาณ 80 กม.เพื่อรองรับการเชื่อมต่อการเดินทาง 3ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เนื่องจากปัจจุบันสิงคโปร์ และมาเลเซีย ได้หารือร่วมกันเพื่อสร้างรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน)มายังชายแดนไทยปาดังเบซาร์แล้ว หากไทยมีโครงข่ายที่พร้อมต่อการเดินทางก็จะช่วยให้การขนส่งสินค้า และการเดินทางท่องเที่ยวระหว่าง 3 ประเทศมีประสิทธิภาพและเติบโตเพิ่มมากขึ้น รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

“รถไฟทางคู่เชื่อมมาเลเซีย เพื่อให้การดำเนินงานรวดเร็วมากขึ้น เพราะหากเริ่มโครงการจากกรุงเทพฯออกไปเพียงอย่างเดียวจะล่าช้า เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยสร้างการเติบโตให้เมืองหาดใหญ่ได้อีกมาก โดยจะทยอยทำจากด่านชายแดนขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงสุราษฎร์ธานี”

นายจุฬา กล่าวว่า การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ยังเดินหน้าศึกษาต่อเนื่อง โดยเส้นทางที่ศึกษาออกแบบเสร็จแล้ว คือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ซึ่งเป็นระยะที่ 1ของเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยอยู่ระหว่างยื่นรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) หากผ่านแล้วก็นำเสนอรัฐบาลใหม่เพื่อเปิดประกวดราคาได้ ส่วนอีก 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-ระยอง คาดจะศึกษาออกแบบและผ่านอีไอเอก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาอย่างแน่นอน ดังนั้นหากไม่สามารถดำเนินการไปพร้อมกันทุกสายได้ จะเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ก่อสร้างเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งก่อน เบื้องต้นอาจเป็นเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หรือกรุงเทพฯ-หนองคาย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณา