Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263961
ทั้งหมด:13575244
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 78, 79, 80 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/03/2014 6:42 pm    Post subject: Reply with quote

TOR โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ของสัญญาที่ 2 ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (10 มี.ค. 57)
งบประมาณ/ราคากลาง : 621,063,070.00 บาท
Arrow http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2557/57601630tor.pdf
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/03/2014 8:09 am    Post subject: Reply with quote

นานาทัศนะของหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ กรณีศาลรัฐธรรมนูญตีตกโครงการ 2 ล้านล้าน
มติชนออนไลน์ วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19:45:27 น.

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งในส่วนของเนื้อหาและกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.นั้น

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า อยากถามศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับคำตัดสินที่ชี้ว่าขั้นตอนของการตราและเนื้อหาของ พ.ร.บ. ดังกล่าวเป็นการกระทำที่เข้าข่ายแทรกแซงอำนาจของฝ่ายบริหารหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ดำเนินการตราและร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขึ้นมาตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักการ โดยได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องและรอบคอบ โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นกับรัฐบาลเป็นที่ยุติแล้วว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ และไม่ขัดต่อกฎหมายใดๆทั้งสิ้น

นายประภัสร์ กล่าวว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่ตกไปทำให้ ร.ฟ.ท.ไม่สามารถเดินหน้าโครงการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายทางคู่ทั่วประเทศ 28 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 1.2 ล้านล้านบาทได้ตามแผนงานที่กำหนด ซึ่งจะทำให้ระบบรางของไทยไม่สามารถแข่งขันกับชาติอื่นในอาเซียนได้ ทั้งด้านการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการภายในประเทศ แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว หากรัฐบาลเห็นว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ยังมีความสำคัญต้องทำต่อ ก็อาจเสนอใช้เงินส่วนอื่นเข้ามาดำเนินการ

ทั้งนี้สำหรับแผนงานพัฒนาข่ายทางคู่ที่มีแผนจะดำเนินการคือ การก่อสร้างรถไฟทางคู่สายลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท รถไฟทางคู่สายปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท รถไฟทางคู่สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท รถไฟทางคู่สายถนนจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาทและ รถไฟทางคู่สายขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะล่าช้าอย่างแน่นอน


ขณะที่นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า แผนการลงทุนในโครงการบูรณทางหลวงสายหลักระหว่างภาคจำนวน 56โครงการและโครงการก่อสร้างขยาย 4 ช่องจราจรเพื่อเพื่อประสิทธิภาพทางหลวงทั่วประเทศ วงเงินประมาณ 2.4 แสนล้านบาท คงต้องชะลอออกไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนทั่วประเทศ เนื่องจากปัจจุบันถนนทางหลวงหลายสายมีสภาพชำรุดมาก หากรัฐบาลไม่เร่งรัดบูรณะซ่อมแซมโดยเร็วจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลจะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักบนทางหลวง เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการโครงการขยายถนน4ช่องจราจรได้ตามเป้าหมาย แต่หากรัฐบาลเห็นว่าโครงการต่างๆ มีความจำเป็นต้องการเร่งรัด สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณปี 2558 เพื่อนำมาใช้ดำเนินการได้ หรืออาจจะพิจารณากู้เงินจากแหล่งอื่นแทนได้

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า หลังจากนี้ กรมทางหลวงชนบทคงต้องจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่มีความจำเป็นให้ไปบรรจุอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2558 แทน เช่น โครงการก่อสร้างสะพานและอุโมงค์ข้ามทางรถไฟ โครงข่ายทางหลวงชนบทเชื่อมต่อด้านการท่องเที่ยว โครงข่ายถนนทางหลวงชนบทเชื่อมต่อการค้า การลงทุน และการขนส่ง เป็นต้น โดยคาดว่าจะทำให้งบประมาณในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 71,000 ล้านบาท จากปี 2557 ที่ได้รับงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 38,000 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/03/2014 4:27 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท. ยัน เดินหน้ารถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง
Money Channel วันอังคาร, 18 มีนาคม 2557 15:52

ร.ฟ.ท. ยืนยัน เดินหน้ารถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ผลกระทบ EIA

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ศึกษาและออกแบบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทางเสร็จเรียบร้อบร้อยแล้ว คือ
1.สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร
2.สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร
3.สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร
4.สายนครราชสีมา-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร และ
5.สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร
โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) เมื่อผ่านการพิจารณาจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่อนุมัติเพื่อดำเนินการก่อสร้างทันที

ทั้งนี้ในส่วนของการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่จำนวน 20 คัน จะเริ่มรับมอบตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนครบทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ โดยหัวรถจักรดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่เพื่อนำไปใช้ในการขนส่งสินค้า จากนั้น ร.ฟ.ท.จะนำหัวรถจักรเก่าที่ใช้ขนส่งสินค้าในปัจจุบันมาใช้ขนส่งผลโดยสารแทน ซึ่งจะช่วยให้มีหัวรถจักรมาให้บริการผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้นด้วย

นายประภัสร์ กล่าวว่า สำหรับการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่อีก 57 คัน เพื่อนำมาให้บริการผู้โดยสารนั้น จะเริ่มขายเอกสารประกวดราคาในเดือนมีนาคมนี้ จากนั้นจะเปิดประกวดราคาได้ประมาณไตรมาส 3 เมื่อได้บริษัทชนะการประมูลแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะรับมอบหัวรถจักรใหม่มาให้บริการได้ ส่วนการซ่อมหัวรถจักรเก่าที่มีอยู่แล้วเพื่อให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีก 56 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะซื้อใหม่หรือซ่อม เพราะหากซื้อใหม่จะใช้เงินประมาณ 100 ล้านบาทต่อคัน ได้หัวรถจักรใหม่40 คัน แต่หากซ่อมจะใช้เงิน 50 ล้านบาทต่อคัน และได้หัวรถจักร 56 คันเท่าเดิม ซึ่งก็ต้องพิจารณาในรายละเอียดถึงความคุ้มค่าของการลงทุนอีกครั้ง

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตนั้น ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนที่ต้องปรับแบบเพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) เช่น สถานีกลางบางซื่อ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้องรอเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาวงเงินงบประมาณที่เพิ่มขึ้นหลังจากมีการปรับแบบการก่อสร้างใหม่ให้รองรับไฮสปีดเทรนก่อน หากก่อสร้างตามแบบเดิมซึ่งไม่รองรับไฮสปีดเทรนแล้ว ต้องรื้อใหม่เมื่อมีการก่อสร้างในอนาคตจะต้องใช้งบลงทุนเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/03/2014 4:41 pm    Post subject: Reply with quote

หอการค้าเหนือ-อีสานลุ้นรบ.ใหม่สร้างรถไฟรางคู่
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 20 มีนาคม 2557 15:15

หอการค้าเหนือ-อีสาน ลุ้นรัฐบาลใหม่เร่งลงทุนโครงการรถไฟรางคู่ หนุนเศรษฐกิจภูมิภาคคึกคัก

นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ ประธานกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการประชุมหอการค้าเมื่อเร็วๆนี้ ภาคเอกชนมีความเห็นร่วมกันว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินว่า ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาทไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยวิธีการกู้เงิน ตามพ.ร.บ.แต่ประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่อไป โดยการมีเงื่อนไขเรื่องข้อจำกัดของเงินลงทุทรัฐบาลต่อไปจึงต้องมีการจัดลำดับความสำคัญโครงการ โดยมองว่าโครงการที่จะต้องลงทุนเป็นลำดับแรกๆ คือ โครงการการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การก่อสร้างรถไฟทางคู่ จะช่วยปรับปรุงระบบขนส่งและโลจิสติกส์ของไทย จากระบบถนนไปสู่ระบบรางมากขึ้น เนื่องจากความเร็วของรถไฟจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันวิ่งได้ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะเพิ่มเป็น 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งทางราง และยังเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยสนับสนุนการเดินทางและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือให้มากขึ้นด้วย

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ซึ่งเดิมตามแผนระยะแรกจะสร้างถึงพิษณุโลก ต้องเลื่อนออกไปก่อนคาดว่าจะมีผลกระทบเฉพาะธุรกิจที่ดินและบ้านจัดสรรเท่านั้น แต่การพัฒนาด้านอื่นๆในพื้นที่ภาคเหนือยังเดินหน้าต่อไปโดยมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการค้าและการลงทุน กับ ลาว พม่า จีนตอนใต้ และเวียดนามซึ่งในขณะนี้ระบบถนนค่อนข้างมีความสมบูรณ์แล้ว ในพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับเส้นทางของประเทศเพื่อนบ้านในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West corridor) และแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ - ตะวันตก (North-West corridor ) แม้ว่าในบางพื้นที่ยังเป็นถนน 2 เลนส์ก็ตามคาดว่าจะมีการขยายถนนที่ไปเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอีกในอนาคต

ด้านนายประพันธ์ เตชะสกลกิจกูร ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันนออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย กล่าวว่าภาคเอกชนในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือต้องการให้มีการลงทุนในโครงการรถไฟรางคู่ก่อนก่อนโครงการอื่นๆ ส่วนโครงการถนนก็พิจารณาตามลำดับความสำคัญแต่ก็ควรมีการเร่งรัดโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา ให้เป็นโครงการในลำดับแรกๆที่จะมีการลงทุนด้วย เพราะในปัจจุบันการจราจรในบางช่วงมีปัญหาคอขวดของการขนส่งของภาคกลางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือการก่อสร้างถนนในเส้นทางดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้โดยเฉพาะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดใน จ.นครราชสีมา

ส่วนการชะลอโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-นครราชสีมา-หนองคาย มีผลกระทบเฉพาะธุรกิจที่ดินและบ้านจัดสรรเท่านั้นแต่การลงทุนด้านอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉี่ยงเหนือยังมีความน่าสนใจและได้รับการตอบรับจากภาคเอกชนเป็นอย่างดี เนื่องจากภาคเอกชนเห็นโอกาสในการผลิตสินค้าเพื่อส่งต่อไปยัง กัมพูชา ลาว และเวียดนาม โดยเมื่อเร็วๆนี้ประเทศจีนได้เข้ามาตั้งสถานกงศุลในจังหวัดขอนแก่น เพื่อประสานงานให้กับภาคเอกชนของจีนในการเข้ามาทำธุรกิจและลงทุน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีความสำคัญมากขึ้นของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉี่ยงเหนือของไทนย

"โอกาสในการลงทุน และการขยายตัวของการค้าในภาคอีสานยังมีโอกาสอีกมาก และการเติบโตที่ค่อนข้างสูงของการค้าชายแดน โดยเฉพาะในจังหวัดหลัก คือ นครราชสีมา อุบลราชธานี ขอนแก่น และอุดรธานี การพิจารณาโครงการต่างๆรัฐบาลควรพิจารณาจากความต้องการด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ มิใช่เหตุผลทางการเมืองเพราะงบประมาณมีจำกัดและมีความจำเป็นต้องให้เกิดประโยชน์ในการลงทุนสูงที่สุด”

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ มีโครงการเร่งด่วน 5 โครงการที่ถูกบรรจุอยู่ในโครงการ 2 ล้านล้านบาท มีมูลค่าการลงทุน 118,034 ล้านบาท ระยะทางรวม 797 กิโลเมตร ประกอบด้วย
1.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 1.62 หมื่นล้านบาท
2.โครงการนครปฐม-หัวหิน มูลค่า 2.83 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 165 กิโลเมตร
3.โครงการมาบกะเบา-นครราชสีมามูลค่า 2.119 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 132 กิโลเมตร
4.โครงการนครราชสีมา-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร มูลค่า 2.922 หมื่นล้านบาท และ
5.โครงการประจาบคีรีขันธ์-ชุมพร ลงทุน 1.768 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 167 กิโลเมตร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 22/03/2014 1:13 am    Post subject: Reply with quote

กิตติรัตน์ ลั่นไม่ถอดโครงการรถไฟทางคู่
ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22:00 น.




นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กถึงโครงการ 2 ล้านล้านบาทว่าจริงหรือไม่ที่รัฐบาลยกเลิกโครงการรถไฟทางคู่ของรัฐบาลชุดที่แล้วเพื่อรอ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งมีข้อกล่าวหาว่าถ้ารัฐบาลดำเนินการในระบบปกติหลายโครงการคงสำเร็จลุล่วงไปมากกว่านี้ อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ที่มีแผนแม่บทออกมาในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณ 176,000 ล้านบาท แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลก็มีมติให้ยุติการใช้เงินงบประมาณเพื่อรอใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ทำให้เสียเวลาไปกว่า 2 ปี

สำหรับข้อเท็จจริงเรื่องนี้ 176,000 ล้านบาท เป็นยอดรวมในแผนแม่บทรถไฟทางคู่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยมีระยะทางเพียง 767 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งๆ ที่ควรต้องสร้างทั้งสิ้น 4,000 กิโลเมตร นอกจากนั้น การจัดสรรงบประมาณแต่ละปีเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องพิจารณาในแต่ละปี ซึ่งในปีงบประมาณ 2554 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีการจัดสรรทั้งงบประมาณและเงินกู้มียอดรวมกัน 5,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ ยืนยันไม่เคยมีการพิจารณาของครม. ปัจจุบัน ที่ไปปฏิเสธหรือไปทำให้งบประมาณที่เคยถูกจัดสรรไว้เลิกไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 27/03/2014 8:06 pm    Post subject: Reply with quote

ดันรถไฟทางคู่เชื่อมมาเลเซีย
โดย ไฟเหลือง failuang@dailynews.co.th
คอลัมน์เดินหน้าเลี้ยวซ้าย
เดลินิวส์
วันอังคาร 4 มีนาคม 2557 เวลา 08:38 น.

แม้ปัญหาการเมืองยังติดขัด ไม่รู้จะออกทางไหน แต่ฟากผู้ปฏิบัติงานประจำก็พยายามหาทางผลักดันโครงการในความรับผิดชอบกันต่อไป ล่าสุดมีรายงานความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟทางคู่

แม้ปัญหาการเมืองยังติดขัด ไม่รู้จะออกทางไหน แต่ฟากผู้ปฏิบัติงานประจำก็พยายามหาทางผลักดันโครงการในความรับผิดชอบกันต่อไป ล่าสุดมีรายงานความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟทางคู่

กระทรวงคมนาคม เตรียมศึกษาการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์เชื่อมต่อมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งเรื่องนี้คุณจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ระบุว่า หลังจาก สนข.ศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ–เชียงใหม่ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ–พิษณุโลก แล้วเสร็จ และศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ–เชียงใหม่ ระยะที่ 2 พิษณุโลก–เชียงใหม่ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อความต่อเนื่องในการพัฒนารถไฟความเร็วสูง

ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ระยะ 2 กว่า 2 เดือน โดยให้นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วม สนข.จึงได้จัดกิจกรรมประกวดแนวคิดการออกแบบภายในสถานีรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 2 พิษณุโลก-เชียงใหม่ 3 สถานี ประกอบด้วยสถานีพิษณุโลก-ลำปางและเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคมนี้ รวมมูลค่าเงินรางวัล 540,000 บาท สำหรับการก่อสร้างโครงสร้างสถานีผู้โดยสาร สนข.จะเป็นผู้ออกแบบผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวด้วยว่า อีก 2 เดือน สนข.จะเริ่มศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ–หนองคาย ระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย และเตรียมขออนุมัติงบประมาณปี 2558 ศึกษาออกแบบและก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 80 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อรถไฟประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นรูปแบบรถไฟฟ้าทางคู่ ทำความเร็วได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เสียดายมากที่สุด จากปัญหาความยุ่งเหยิงทางการเมือง ก็คือ โครงการรถไฟความเร็วสูงนี่แหละ ผมเห็นด้วยควรต้องมี เป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาเมืองในแนวสายทางที่รถผ่านได้ระดับหนึ่ง ยังเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของประชาชนตามหัวเมืองใหญ่ ที่รายล้อมรอบกรุงเทพฯ ช่วยลดขนาดกรุงเทพฯ ไม่ให้บวมโตจนเละเทะมากไปกว่านี้

ที่จริงผมเชียร์สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพราะเชียงใหม่โตมากจนต้องเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้มากกว่านี้ แต่เท่าที่ทราบผลตอบแทนการลงทุน และอื่น ๆ สายไปทางภาคอีสาน ก็ใช้ได้ทีเดียว แล้วทางสายใต้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารน่าจะมากที่สุด เพราะคนใต้คุ้นเคยเดินทางด้วยรถไฟ แต่คงต้องเลือกล่ะครับ ไม่เห็นด้วยที่ต้องกู้เงินล้านล้านมาสร้างให้ครอบคลุมขนาดนั้น เริ่ม 1 สายก่อน ที่เหลือปรับเป็นรถไฟรางคู่

อนาคตค่อย ๆ ปรับเพิ่มยังได้.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 21/04/2014 5:15 pm    Post subject: Reply with quote

6 พี่บิ๊กรับเหมาไทยมาครบทีม
ออนไลน์เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2014 เวลา 09:28 น.
ฐานเศรษฐกิจออนไลน์
ตีพิมพ์ใน จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,940 วันที่ 17 - 19 เมษายน พ.ศ. 2557

ยักษ์รับเหมา 6 กลุ่มแห่ยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างรถไฟทางคู่คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 ค่ากว่า 1 หมื่นล้าน ครบทีมทั้งอิตาเลียนไทย-ซิโน-ไทย-ยูนิค-กิจการร่วมค้าทีซีซี-เอ.เอส.แอสโซซิเอท ส่วน ช.การช่างผนึก กลุ่ม ช.ทวีก่อสร้าง "จเร" เผยเร่งพิจารณาและต่อรองราคาให้แล้วเสร็จเพื่อนำเสนอครม.ในรัฐบาลชุดใหม่ให้พร้อมลงนามสัญญาได้ในส.ค.-ก.ย.นี้

นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตามที่ได้มีการกำหนดให้บริษัทผู้รับเหมาต่างๆที่ซื้อซองเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Line) 3 แห่ง วงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท (ราคากลางคิดเป็นเงิน 1.01 หมื่นล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว) ยื่นซองในวันที่ 10 เมษายน 2557 ปรากฏว่ามีผู้สนใจจำนวนทั้งสิ้น 6 กลุ่มบริษัทซึ่งล้วนเป็นบริษัทรับเหมาชั้นนำในประเทศไทยทั้งสิ้น

สำหรับทั้ง 6 บริษัท ประกอบไปด้วย
1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัทกิจการร่วมค้า ทีซีซี จำกัด
3.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
4.กิจการร่วมค้า ซีเคซีเอช (บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด)
5.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) และ
6. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง(1964) จำกัด

นายจเรกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ร.ฟ.ท.จะต้องตรวจสอบเอกสารและประเมินคุณสมบัติทั่วไปและด้านเทคนิค ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน คาดว่าภายใน 15 พฤษภาคมนี้น่าจะทราบผลการพิจารณาผู้มีสิทธิ์เสนอราคาเพื่อเข้าสู่กระบวนการอีออกชันต่อไป ประมาณ 2-3 สัปดาห์จึงจะเคาะราคาแล้วเสร็จ ซึ่งช่วงต้นมิถุนายน 2557 คงจะสามารถแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบก่อนที่จะดำเนินการต่อรองราคาให้ได้ตามวงเงินที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กำหนดไว้

"หลังจากนั้นจึงจะนำเสนอคณะกรรมการการรถไฟฯอนุมัติจ้างในรายที่เสนอราคาต่ำสุด คาดว่าประมาณสิงหาคม-กันยายน 2557 จะลงนามสัญญาจ้างกับผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลในครั้งนี้ สำหรับการนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลชุดใหม่รับทราบนั้นเนื่องจากเป็นการใช้เงินกู้ภายในประเทศ มีการอนุมัติประกวดราคาจึงต้องนำเสนอครม.รับทราบก่อน ส่วนการดำเนินงานโครงการขณะนี้ยังเป็นไปตามแผนที่กำหนด สำหรับการประกวดราคาสัญญาที่ 2 นั้นไม่รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด โดยจะเร่งดำเนินการประมูลให้ต่อเนื่องกันไป"

ทั้งนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอยคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 อนุมัติให้ ร.ฟ.ท. ดำเนินโครงการเพื่อให้เชื่อมโยงกับช่วงศรีราชาแหลมฉบังที่เปิดให้บริการได้แล้วในปัจจุบันนี้เป็นการก่อสร้างทางรถไฟคู่ขนานเส้นทางเดิม มีการก่อสร้างช่วงอุโมงค์บริเวณเขาพระพุทธฉายจากสถานีฉะเชิงเทราถึงสถานีวิหารแดง ระยะทาง 78 กิโลเมตร และจากสถานีบุใหญ่ถึงสถานีแก่งคอย ระยะทาง 19 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 97 กิโลเมตร รวมทั้งงานก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมืองอีก 3 แห่งคือที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา แก่งคอย และบ้านภาชี รวมระยะทางประมาณ 7.1 กิโลเมตร พร้อมงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทาง งานก่อสร้างสะพานรถไฟคอนกรีตเสริมเหล็ก 57 แห่ง รวมความยาว 4,763 เมตร งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 212 เมตร งานก่อสร้างท่อและการระบายน้ำ และงานก่อสร้างอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามแบบคิดเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 1.1 หมื่นล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/05/2014 5:47 pm    Post subject: Reply with quote

ลุ้นผ่านอีไอเอ "ทางคู่"5เส้น 1.76แสนล้าน
ไทยโพสต์ Thursday, 8 May, 2014 - 00:00

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ศึกษาและออกแบบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทางเสร็จแล้ว โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เมื่อผ่านการพิจารณา จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่อนุมัติ เพื่อดำเนินการก่อสร้างทันที

สำหรับเส้นทางรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง คือ
1.สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร
2.สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร
3.สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร
4.สายนครราชสีมา-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร และ
5.สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร

ทั้งนี้ งบประมาณคาดว่าจะใช้วงเงินกู้ 1.76 แสนล้านบาท ที่ ครม.เคยอนุมัติให้ ร.ฟ.ท.ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการ แทนการใช้เงินกู้จาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท

ด้านนายจเร รุ่งฐานีย์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ร.ฟ.ท. กล่าวถึงเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ที่แยกออกเป็น 2 สัญญา รวมมูลค่าก่อสร้าง 1.1 หมื่นล้านบาท โดยสัญญาแรก เปิดประมูลและอยู่ระหว่างพิจารณาคุณสมบัติผู้รับจ้าง ส่วนสัญญาที่ 2 คาดว่าเร็วๆ นี้จะสามารถเปิดประมูลได้.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/05/2014 7:41 pm    Post subject: Reply with quote

ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ ๒ งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.2/ปก./2557
http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=20766

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยขอบเขตและรายละเอียดสังเขปของงานสัญญาที่ ๒ งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ ที่ต้องการจ้างมี ดังนี้

• งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม เริ่มจากหลังสถานีวิหารแดงไปสิ้นสุดที่ก่อนเข้าสถานีบุใหญ่ ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร
• งานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟทางเดี่ยวคู่ขนานกับอุโมงค์ทางเดี่ยวเดิมลอดผ่านใต้เขาพระพุทธฉาย รวมระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร
• งานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 60 เมตร


ราคากลาง 621,063,070.00 บาท

.
.
.
10. กำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ วันที่ 6 สิงหาคม 2557


ประกาศ ณ วันที่ 8 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2557

( ลงนาม ) ประภัสร์ จงสงวน
( นายประภัสร์ จงสงวน )
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 16/05/2014 3:22 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
เปิดประมูลทางคู่ 621 ล้าน ช่วงคลองสิบเก้า-แก่งคอย/พ่วงอุโมงค์รถไฟ
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2014 เวลา 12:49 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,948 วันที่ 15 - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ร.ฟ.ท.เปิดประกวดราคาสัญญาที่ 2 ก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออกเส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่พร้อมอุโมงค์รถไฟ วงเงินกว่า 621 ล้าน ขายซอง 15-21 พ.ค.นี้ เผยผู้ประสงค์เสนอราคาต้องมีผลงานก่อสร้างงานอุโมงค์ทางรถไฟ-รถไฟฟ้าหรือถนนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 5 เมตรด้วยวิธี NATM, TBM ที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 180 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จไม่เกิน 25 เดือน

นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าร.ฟ.ท.โดยฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างเปิดประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ

"ขอบเขตของงานสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ ที่ต้องการจ้างมีดังนี้คือ งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม เริ่มจากหลังสถานีวิหารแดงไปสิ้นสุดที่ก่อนเข้าสถานีบุใหญ่ ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร งานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟทางเดี่ยวคู่ขนานกับอุโมงค์ทางเดี่ยวเดิมลอดผ่านใต้เขาพระพุทธฉาย รวมระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร และงานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 60 เมตร ส่วนราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 621,063,070 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว"

ทั้งนี้ผู้มีสิทธิเสนอราคาจะต้องมีผลงานก่อสร้างงานอุโมงค์สำหรับทางรถไฟหรือรถไฟฟ้าหรือถนน หรืองานอุโมงค์อื่นๆ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 5 เมตร ก่อสร้างด้วยวิธี New Austrian Tunneling Method (NATM) หรือด้วย Tunneling Boring Machine (TBM) โดยผลงานก่อสร้างงานอุโมงค์ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 180 ล้านบาทถ้วน(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) และต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท. เชื่อถือ

สำหรับการพิจารณาผลงานนั้น ร.ฟ.ท.ยึดถือหลักเกณฑ์ว่าหากผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานที่ส่งมอบงานโดยสมบูรณ์แล้ว ผลงานดังกล่าวต้องแล้วเสร็จเป็นเวลาไม่เกิน 15 ปีนับถึงวันที่ยื่นซอง โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและหนังสือรับรองผลงานพร้อมแสดงมูลค่าของงาน แต่หากผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานของโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ต้องเป็นผลงานในส่วนที่ส่งมอบงานและผู้ว่าจ้างออกหนังสือรับมอบงานในส่วนนั้นแล้วเท่านั้น ซึ่งต้องมีมูลค่าที่ส่งมอบแล้วไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและรับรองสำเนาถูกต้อง และต้องมีหนังสือรับรองผลงานอย่างเป็นทางการพร้อมแสดงวงเงินของงานส่วนที่ได้ส่งมอบงานแล้วมายื่นต่อ ร.ฟ.ท.

นายจเรกล่าวอีกว่า ในกรณีที่ผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นผู้รับจ้างในลักษณะเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture หรือ Consortium) สำหรับผลงานในอดีตที่อ้างถึง จะต้องมีสัดส่วนความรับผิดชอบของผลงานในอดีตที่คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยต้องมีหนังสือรับรองผลงานที่แสดงมูลค่าของงานที่รับผิดชอบซึ่งออกโดยผู้ว่าจ้าง และสำเนาข้อตกลงร่วมค้ารับรองสำเนาถูกต้อง แสดงการเข้าร่วมเป็นกิจการร่วมค้า ที่แสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผู้ประสงค์จะเสนอราคา และสำเนาสัญญาจ้างรับรองสำเนาถูกต้องมายื่นต่อ ร.ฟ.ท. ด้วย

"ร.ฟ.ท.กำหนดว่าต้องปฏิบัติงานที่รับจ้างตามสัญญาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาไม่เกิน 25 เดือน นับจากวันที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้เริ่มงานของ ร.ฟ.ท. และรับประกันผลงาน 24 เดือน นับจากวันที่งานแล้วเสร็จสมบูรณ์ ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นเอกสารการประกวดราคาในวันที่ 19 มิถุนายน 2557 โดยร.ฟ.ท. สงวนสิทธิ์ที่จะทำสัญญาจ้างกับผู้ชนะการประกวดราคาเมื่อได้รับงบประมาณจากรัฐบาล"

ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ตึกพัสดุการรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ได้ตั้งแต่วันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2557 ในราคาชุดละ 2 แสนบาทถ้วน(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยให้ชำระเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย "การรถไฟแห่งประเทศไทย" ที่กองการเงิน ฝ่ายการเงินและการบัญชี โดยร.ฟ.ท.กำหนดแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคาในวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 และกำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 6 สิงหาคม 2557
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 78, 79, 80 ... 389, 390, 391  Next
Page 79 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©