Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264064
ทั้งหมด:13575347
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 91, 92, 93 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 28/01/2015 10:17 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ด ร.ฟ.ท.สั่งลุยทางคู่ 6 เส้นทางใหม่ ไฟเขียวจ่ายค่าจ้างแอร์พอร์ตลิงก์ปี 58 กว่า 341 ล้าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 ตุลาคม 2557 19:50 น.


บอร์ด ร.ฟ.ท.เห็นชอบจ้างที่ปรึกษาออกแบบรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางใหม่เชื่อมต่อเพื่อนบ้าน และอนุมัติค่าจ้างแอร์พอร์ตลิงก์ปี 58 กว่า 341 ล้านบาท พร้อมกำชับบริการต้องปลอดภัยไว้ก่อน “ออมสิน” ชี้ แอร์พอร์ตลิงก์อย่าพูดลอยๆ ล้มซื้อรถ 7 ขบวนแล้วจ้างเอกชนเดินรถแทน ชี้ยิ่งทำให้เสียเวลา

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (28 ต.ค.) ว่า ยังไม่มีการรายงานความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เข้ามาแต่อย่างใด คาดว่าอยู่ในขั้นตอนการสอบถามเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการประกวดราคาคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง ประกอบด้วย

1. ปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 69 กม.
2. ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 172 กม.
3. ชุมทางจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กม.
4. หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 89 กม.
5. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 166 กม.
6. สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 339 กม.

กรอบวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษาเฉลี่ยเส้นทางละประมาณ 200-300 ล้านบาท วงเงินรวมกว่า 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่าจะได้ตัวที่ปรึกษาเพื่อเริ่มการศึกษาได้ประมาณปลายปี 2557 และศึกษาออกแบบแล้วเสร็จภายในปี 2558 โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการ Short List และประเมินให้คะแนนด้านเทคนิคผู้ยื่นข้อเสนอ โดยโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางนี้ ตามแผนเดิมเป็นโครงการที่จะดำเนินการในระยะที่ 3 แต่เนื่องจากเป็นแนวเส้นทางที่มีความสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงปรับแผนดำเนินการเป็นระยะที่ 2 โดยได้รับงบประมาณปี 2558 ในการศึกษาออกแบบ

นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบค่าจ้างบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (ผู้เดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์) สำหรับปีงบประมาณ 2558 กรอบวงเงิน 341,258.602 บาท ซึ่งวงเงินดังกล่าวเป็นส่วนของงบทำการที่เป็นค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนพนักงาน และค่าบริหารจัดการทั่วไป ซึ่งจะต้องเบิกใช้ตามที่เกิดขึ้นจริง ไม่รวมภาระดอกเบี้ย ค่าลงทุนอื่นๆ ที่ ร.ฟ.ท.ยังเป็นผู้รับภาระในฐานะบริษัทแม่ รวมแล้วประมาณปีละกว่า 1,000 ล้านบาท

“ผมได้กำชับว่าต้องให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ซึ่งในส่วนของการให้บริการเดินรถปัจจุบันมีรถ 5 ขบวน วิ่งช่วงเร่งด่วนความถี่ที่ 15 นาที/ขบวน ช่วงกลางวัน 20 นาที/ขบวน ซึ่งกลางเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีความชัดเจนเรื่องการซ่อมบำรุงเร่งด่วนว่าอะไหล่จะพร้อมหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าไม่มีปัญหา ส่วนการซ่อมบำรุงใหญ่ (Over haul) รถทั้ง 9 ขบวนนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง” นายออมสินกล่าว

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ประธานบอร์ดแอร์พอร์ตลิงก์ มีแนวคิดที่จะจ้างเอกชนเดินรถ โดยให้เอกชนลงทุนจัดหาขบวนรถไฟฟ้ามาด้วย และจะนำเงินลงทุนซื้อรถไฟฟ้าใหม่ 7 ขบวน วงเงิน 4,855 ล้านบาทไปก่อสร้างส่วนต่อขยายแทนนั้น นายออมสินกล่าวว่า ไม่มีการรายงานใดๆ มาที่บอร์ด ร.ฟ.ท. ซึ่งหากผู้บริหารแอร์พอร์ตลิงก์เห็นว่าเป็นแนวทางที่ดีก็สามารถเสนอมาได้ แต่ต้องมีข้อมูลรายละเอียด ตัวเลขที่ชัดเจนอธิบายได้ว่ามีข้อดีอย่างไร อย่าพูดลอยๆ อย่างไรก็ตาม โครงการจัดซื้อรถ 7ขบวนนั้น ครม. และบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้เห็นชอบไปแล้วและอยู่ในขั้นตอนการประกวดราคา หากจะไม่ทำเท่ากับต้องเริ่มต้นใหม่ จะเสียเวลาและคุ้มค่าหรือไม่ แอร์พอร์ตลิงก์ต้องชี้แจงมาด้วย

//----------------------

ปลัด คค.คาดรถไฟทางคู่ หัวหิน-ประจวบ/ประจวบ-ชุมพร แล้วเสร็จปี 2560
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
28 มกราคม 2558 08:44 น.
ปลัด ก.คมนาคม คาด การก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน – ประจวบฯ และ ประจวบฯ – ชุมพร จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2560
แหล่งที่มา : สวท.ประจวบคีรีขันธ์
วันที่ข่าว : 28 มกราคม 2558

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ว่า ขณะนี้ได้ผ่านขั้นตอนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว รอเพียงการขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตามลำดับ จากนั้นจึงจะสามารถเปิดประกวดราคาได้ โดยคาดว่าหากได้ผู้รับเหมาช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ช่วงกลางปี 2558
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางเชื่อมต่อหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กิโลเมตร ว่า ปัจจุบันกำลังยังอยู่ในระหว่างการออกแบบรายละเอียด แต่คาดว่าขั้นตอนต่างๆ จะไม่ล่าช้าเพราะเป็นเส้นทางระยะสั้น มั่นใจว่าภายในปี 2560 การก่อสร้างทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 10/02/2015 10:55 pm    Post subject: Reply with quote

จ่อปรับราคาทางคู่ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย คาดลดลงตามต้นทุนราคาน้ำมัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
10 กุมภาพันธ์ 2558 14:37 น. (แก้ไขล่าสุด 10 กุมภาพันธ์ 2558 16:22 น.)

ร.ฟ.ท.จ่อปรับราคากลางประมูลรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-แก่งคอย หลัง ครม.มีมติให้ทบทวนใหม่ตามราคาน้ำมันที่ลดลง คาดวงเงินลดจาก 1.13 หมื่นล้านแน่นอน ด้าน “ออมสิน” ให้นโยบาย “วุฒิชาติ” เร่งคัดสรรระดับผู้บริหาร รองรับใน 3 ปีทยอยเกษียณอายุ

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.เตรียมปรับปรุงราคากลางการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง วงเงิน 11,348.35 ล้านบาทใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2557 ให้ทุกหน่วยงานที่มีโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการประกวดราคาและยังไม่ลงนามในสัญญาจ้าง พิจารณาปรับราคากลางใหม่ให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ซึ่งคาดว่าราคาน่าจะปรับลดลงจากเดิม

ในขณะเดียวกัน ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกี่ยวกับร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ซึ่ง สตง.ยังไม่ตอบกลับมา โดยหาก สตง.ไม่มีข้อท้วงติงใดๆ ร.ฟ.ท.จะเร่งปรับราคากลางและเปิดแข่งขันราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ซึ่งการปรับราคากลางไม่มีผลให้ต้องปรับ TOR ใหม่

“ราคากลางจะปรับตามราคาน้ำมันซึ่งปัจจุบันปรับตัวลดลงมามาก และพิจารณาต้นทุนเฉพาะรายการที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน ส่วนรายการไหนไม่เกี่ยวก็จะไม่ปรับ คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาปรับราคาไม่นาน เชื่อว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะได้เปิดเคาะราคาอี-ออกชันได้ และมั่นใจว่าผู้รับเหมาที่มีสิทธิ์ยื่นเสนอราคาจะยังพร้อมที่จะแข่งขันกันต่อ” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับผู้รับเหมาที่มีสิทธิ์เสนอราคาอี-ออกชันมีทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย
1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD
2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด
3. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ
5. บริษัท ทิพากร จำกัดร่วมกับ บริษัท ไชน่าฮาร์เบอร์ จากประเทศจีน และ
6. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด

ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้เรียกประชุมผู้บริหาร ร.ฟ.ท.เพื่อมอบนโยบายให้แก่นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.คนใหม่ โดยเห็นว่า ร.ฟ.ท.ควรมุ่งเน้นในเรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร เนื่องจากในช่วง 3 ปีหลังจากนี้ผู้บริหารระดับรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.จะทยอยเกษียณอายุทั้งหมด ดังนั้นเป็นหน้าที่ของนายวุฒิชาติจะต้องเร่งสรรหาบุคลากรที่เหมาะสมเพื่อเตรียมพร้อมกับตำแหน่งงานที่จะว่างลง เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับงานที่ ร.ฟ.ท.จะต้องรับผิดชอบมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44528
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/02/2015 12:35 pm    Post subject: Reply with quote

บิ๊กตู่สั่งเดินหน้าศึกษา"รถไฟเร็วสูง" ร่วมมือกับเอกชนจากกรุงเทพฯไประยอง-หัวหิน
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8858 ข่าวสดรายวัน

"บิ๊กตู่"ย้ำชัดต้องการให้ไทยเป็นฮับขนส่งทางรางของอาเซียน เผยทางคู่ 1 เมตรเร่งสร้าง 6 เส้นทางแรก 903 ก.ม. พร้อมสั่งเดินหน้าศึกษา"รถไฟเร็วสูง" ทั้งกทม.-ระยอง และกทม.-หัวหิน โดยจะทำร่วมกับเอกชน ไม่ต้องกังวลว่าแพงเกินไป มีวิธีบริหาร จัดการได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เกี่ยวกับการพัฒนาระบบรางว่า มีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยจะพัฒนาคู่ขนานเพื่อเชื่อมโยงไทยกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ให้ไทยเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง โดยระบบรางในส่วนของทางคู่ 1 เมตรนั้นจะแยกเป็น 2 ส่วน

ส่วนแรกจะเป็นโครงการเร่งด่วน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 903 กิโลเมตร ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ ได้แก่ เส้นทางที่มีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อเวนคืนที่ดินแล้ว 3 เส้นทาง ได้แก่ ฉะเชิงเทรา-คลอง 19-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร, ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 กิโลเมตร

เส้นทางที่อยู่ระหว่างการทำรายงานผลกระทบ สิ่งแวดล้อมมีอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 48 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร

ในส่วนที่ 2 จะเป็นโครงการระยะต่อไป 8 เส้นทาง ได้แก่ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์, ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และ เด่นชัย-เชียงใหม่

สำหรับทางขนาด 1.435 เมตรนั้น จะร่วมมือกับรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่สนใจ อันได้แก่ จีน ญี่ปุ่น หรืออื่นๆ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดในเรื่องของรูปแบบการลงทุน รวมถึงเรื่องการบริหาร

ส่วนแนวคิดเส้นทางความเร็วสูงนั้น มีข้อเสนอของเอกชนไทย ที่อยากจะให้ประเทศมีความทันสมัย ก็ให้พิจารณาหาข้อมูลว่าจะดำเนินการกันได้อย่างไร ทั้งเส้นทางระยะสั้น และเส้นทางที่มีประชาชนเดินทางคมนาคมจำนวนมาก เช่น กรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง-อู่ตะเภา หรือ กรุงเทพฯ-หัวหิน

สำหรับทางรถไฟความเร็วสูงนั้นหลายคนก็มีความกังวลว่าราคามันแพงเกินไปไหม ดูตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงแรกอาจจะราคาสูง คนยังใช้บริการไม่เต็มที่ เขาใช้รายได้ที่ได้มาจากการค้าขายหรือสัมปทานในตลอด 2 เส้นทาง ในการที่จะจัดทำศูนย์การค้า ทำตลาด

หน้า 8
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 09/03/2015 9:29 am    Post subject: Reply with quote

"ประจิน" โชว์ภาพระบบรางไทย สร้างทางคู่เพิ่ม 2.5 พันกม. หนุนโลจิสติกส์
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
7 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13:40:15 น.


"ประจิน" ยันเดินหน้ารถไฟทางคู่เพิ่ม 2.5 พัน กม. ยกระดับโลจิสติกส์ประเทศ พร้อมก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลาง 180 กม./ชม. 3 พัน กม. เชื่อมปากบารา-สงขลา ไฮสปีดเทรน ชี้อีก 6 ปีต้องการบุคลากรเฉพาะทางเพิ่ม 2.5 หมื่นคน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยในงานสัมมนาทางวิชาการงานวิจัยระบบรางมุ่งเป้าเพื่อการพัฒนาระบบรางของประเทศ ในหัวข้อนโยบายในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเพื่อผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ระบบราง เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตรเพิ่มเติมอีกประมาณ 2,500 กิโลเมตร (กม.) จากปัจจุบันมีระยะทางประมาณ 4,000 กม. หากรวมระยะทางรถไฟที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในอนาคตจะมีระยะทางรวมทั่วประเทศประมาณ 6,500 กม. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและบริการให้สะดวกยิ่งขึ้น

"ตอนนี้รถไฟโดยสารสามารถวิ่งให้บริการได้ด้วยความเร็วเฉลี่ย 50 กม./ชม. เมื่อก่อสร้างรถไฟทางคู่แล้วเสร็จจะเพิ่มความเร็วได้ถึง 80 กม./ชม. หรือวิ่งได้สูงสุดถึง 100 กม./ชม. ส่วนรถไฟขนส่งสินค้าปัจจุบันวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 38 กม./ชม. ในอนาคตจะวิ่งได้เร็วขึ้นเช่นกันและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านโลจิสติกส์ของประเทศ" พล.อ.อ.ประจินกล่าว

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า กระทรวงมีแผนจะก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร วิ่งความเร็วปานกลาง 180 กม./ชม. ระยะทาง 3,000 กม. นำร่องโครงการแรกคือ เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 867 กม. ที่ร่วมลงทุนกับจีน 2.เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 700-800 กม. 3.เส้นทางกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 970 กม. 4.เส้นทางตาก-พิษณุโลก-มุกดาหาร ระยะทาง 900 กม. เป็นเส้นทางแนวตะวันออก-ตะวันตก เชื่อมพม่าและลาว 5.เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศ และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรางกับประเทศเพื่อนบ้านในเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้จากตะวันออกไปตะวันตก

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ส่วนเส้นทางที่ 6 คือ ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล-ท่าเรือสงขลา ระยะทาง 150 กม. เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าและบริการระหว่างทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ศึกษาความเป็นไปได้ และส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากประชาชน ผู้ประกอบการท้องถิ่น ตั้งเป้าปลายปีนี้ศึกษาเสร็จ หากผลการศึกษาระบุว่าเหมาะสมและคุ้มค่าต่อการดำเนินงานก็จะบรรจุโครงการไว้ในแผนดำเนินการปี 2559 ทันที คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 5-6 ปี นอกจากนี้ ยังศึกษารถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ใน 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา

นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า อีก 6-7 ปีเมื่อการลงทุนระบบรางทั้งหมดแล้วเสร็จ ทั้งรถไฟขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร รถไฟขนาดราง 1 เมตร และรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล ประเทศไทยจะมีความต้องการบุคลากรเฉพาะทางเข้ามารองรับงานรวมประมาณ 2.5 หมื่นคน แบ่งเป็นวิศวกร 4,500 คน ช่างเทคนิค 9,100 คน และอื่นๆ อีกประมาณ 1.1 หมื่นคน โดยขณะนี้มีมหาวิทยาลัยจำนวน 9 แห่งที่เร่งพัฒนาหลักสูตรเพื่อรองรับการผลิตบุคลากรเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 12/03/2015 5:44 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคม คาดรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่นเข้าครม.มี.ค. เปิดประมูลก.ค.นี้
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558 16:38:39 น.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งว่า กระทรวงคมนาคมคาดว่าคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน 26,007 ล้านบาทของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในมี.ค.นี้ และคาดว่าจะเปิดประมูลได้ประมาณเดือน ก.ค.58 นี้ โดยขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)แล้ว และขณะนี้รอเสนอคณะกรรมการนโยบายกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงินโครงการ 56,691 ล้านบาท , รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงินโครงการ 54,644 ล้านบาท , ส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิ้งค์ ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 21.4 กม. วงเงิน 31,103 ล้านบาท

รวมทั้งรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และ สายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กม. วงเงินโครงการ 38,954 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้อยู่ในขั้นตอนก่อนเข้าครม.อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สศช. และการพิจารณาอนุมัติจาก คนร. ก่อนนำเสนอต่อครม.

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายตะวันออก ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้เปลี่ยนแนวเส้นทางใหม่ จากเดิมช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี เป็น พระราม 9-มีนบุรี จึงอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ใหม่

อนึ่ง การดำเนินการพัฒนาขนส่งทางราง ได้ล่าช้ากว่าแผนเดิมที่วางไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว ที่คาดว่าครม.จะอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู และสายสีเหลือง ในเดือนม.ค.58 ส่วนรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่นก็ตั้งเป้าจะให้ครม.อนุมัติในเดือน ม.ค.นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44528
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/03/2015 7:45 am    Post subject: Reply with quote

สภาพัฒน์ อนุมัติแล้ว สร้างรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 มี.ค. 2558 21:35

สภาพัฒน์ ไฟเขียวรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น คมนาคมจ่อชงซุปเปอร์บอร์ด ก่อนเข้าครม. พร้อมเร่งศึกษาข้อมูลรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นกรุงเทพฯ-พัทยา และกรุงเทพฯ-หัวหิน คาดสรุปใน 2 สัปดาห์…

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ว่า ล่าสุดคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้อนุมัติรถไฟทางคู่เส้นทางชุมทางจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007 ล้านบาทแล้ว โดยหลังจากนี้จะเตรียมเสนอคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และครม.ต่อไป

ส่วนรถไฟทางคู่เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,293 ล้านบาท เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,038 ล้านบาท เส้นทางมาบกะเบา-โคราช ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,855 ล้านบาท เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,842 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนขออนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยทั้งหมดมีเป้าหมายเปิดประกวดราคาภายในปีนี้

พร้อมกันนี้ ได้เร่งรัดให้รวบรวมข้อมูลผลการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮ สปีดเทรน) 2 เส้นทางที่รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่าจะลงทุน คือ กรุงเทพฯ-พัทยา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ทำการศึกษาเบื้องต้นแล้วและอยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และการออกแบบรวมถึงศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) ซึ่งทั้ง ร.ฟ.ท.และ สนข.จะสรุปข้อมูลเบื้องต้นรายงานกระทรวงคมนาคมภายใน 2 สัปดาห์.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 25/03/2015 1:00 am    Post subject: Reply with quote

ส่วนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 106 กม. นั้น อยู่ระหว่างแก้ไขวิธีคิดต้นทุนบางรายการที่ซ้ำซ้อน หลังจากได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเชื่อว่าจะเปิดประมูลและทำสัญญาได้ในปี 58
http://www.thairath.co.th/content/488680
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 25/03/2015 5:03 pm    Post subject: Reply with quote

สนข.เปิดเวทีศึกษารถไฟฟ้ารางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ลุ้นเชื่อมโยงถึงสงขลา


ศูนย์ข่าวบ้านเรา.-สนข.เปิดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ครั้งที่ 1 รองผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ ฝากเน้นย้ำศึกษาเพิ่มเติมการฟื้นเส้นทางเชื่อมหาดใหญ่-สงขลา


(25 มี.ค.58) ณ โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า หาดใหญ่ จ.สงขลา กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ โดยมีนายชัยวัฒน์ ศิรินุพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พร้อมคณะทำงานบริษัทที่ปรึกษาโครงการ ส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น และประชาชนร่วมเวทีรับฟังความเห็นโครงการ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและเป็นศูนย์กลางทางการขนส่งของภาคใต้ การพัฒนารถไฟรางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ถือว่ามีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันประเทศมาเลเซีย ได้มีการสร้างรถไฟรางคู่เชื่อมโยงมาถึงปาดังเบซาร์ ประเทศไทยแล้ว การสร้างรถไฟรางคู่จะเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา และอยากฝากเรียนถึง สนข.ให้มีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของการฟื้นรถไฟเส้นทางหาดใหญ่-สงขลา เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไปยังท่าเรือน้ำลึกสงขลา และฟื้นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ที่ชาวสงขลาส่วนใหญ่อยากให้กลับมาวิ่งอีกครั้ง

ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รอง ผอ.สนข. กล่าวว่าการพัฒนาเศรษฐกิจรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญคือการพัฒนาระบบขนส่งซึ่งการขนส่งทางราง เป็นระบบขนส่วนที่ปลอดภัย ประหยัดเวลา และมีต้นทุนตำที่สุด สนข.ได้มีการอนุมัติงบประมาณ 38 ล้านบาทในการการศึกษาและรับฟังความเห็นโครงการ โดยเริ่มตั้งแต่เอนมีนาคมถึงกันยายน และจะสามารถสรุปโครงการเสนอรัฐบาลได้ภายในเดือนธันวาคมนี้

สำหรับโครงการพัฒนารถไฟรางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แตกต่างจากรถไฟที่วิ่งอยู่ในปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยดีเซล ซึ่งจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานและทันสมัยเทียบเท่าสากลเป็นโครงการที่มีขนาดรางกว้าง 1 เมตร เช่นเดียวกับฝั่งมาเลเซียที่ทำมาถึงเขตประเทศไทยแล้ว โดยใช้แนวเส้นทางเดิมระยะทาง 48 กิโลเมตร โดยจะมีการสร้างทางข้าม ทางลอด ในทุกจุดที่มีการตัดผ่านถนน โดยรถไฟสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการเดินรถจริงจะให้ความเร็วเฉลี่ยที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เป้าหมายโครงการในครั้งนี้เพื่อเชื่อมโยงโครงการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าให้มีความสะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ และทาง สนข.ยังได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงเส้นทางสู่ท่าเรือน้ำลึกสงขลา โดยการฟื้นเส้นทางสายหาดใหญ่-สงขลา ซึ่งเป็นโครงการที่ทางจังหวัดสงขลามีการผลักดันให้เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งความเป็นไปได้ของโครงการก็มีอยู่และอยู่ในแผนงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย และกระทรวงคมนาคมด้วย

ติดตามความคืบหน้าโครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ได้ทาง http://www.hatyai-padangdoubletrack.com/ และทางแฟนเพจเฟจบุ๊ค/ทางคู่หาดใหญ่-ปาดังฯ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 31/03/2015 10:58 am    Post subject: Reply with quote

ล้มประมูลทางคู่ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย 1.1 หมื่นล้าน คิดราคากลางใหม่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
31 มีนาคม 2558 06:39 น. (แก้ไขล่าสุด 31 มีนาคม 2558 09:53 น.)



ร.ฟ.ท.ตัดสินใจล้มประมูลรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 1.13 หมื่นล้าน หลัง สตง.ติงคำนวณราคากลางผิด เร่งปรับราคากลางและเปิดขาย TOR ใหม่ใน เม.ย.นี้ เล็งดำเนินการเคาะราคาใน 3 เดือน มั่นใจ 6 ผู้รับเหมาเดิมไม่ฟ้อง

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้ ร.ฟ.ท.เปิดประกวดราคาใหม่ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง วงเงิน 11,348.35 ล้านบาทใหม่ หลังจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบแล้วพบว่า ร.ฟ.ท.คำนวณราคากลางผิดไป 4 รายการ ซึ่งบอร์ด ร.ฟ.ท.เห็นว่าการปรับราคากลางใหม่จะส่งผลให้ร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนั้นจึงควรเปิดประกวดราคาใหม่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส

ทั้งนี้ การคำนวณราคากลางใหม่จะต่ำกว่าราคากลางเดิม โดย ร.ฟ.ท.จะปรับปรุง TOR พร้อมประกาศ TOR ใหม่ได้ประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ โดยจะพยายามเร่งรัดการประกวดราคาให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน และเชื่อว่าเอกชนที่เตรียมเสนอแข่งราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ในครั้งแรกนั้นจะไม่ฟ้องร้องใดๆ

สำหรับผู้รับเหมาที่เตรียมแข่งเสนอราคาอี-ออกชันมีทั้งหมด 6 ราย ประกอบ ด้วย
1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD
2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด
3. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ
5. บริษัท ทิพากร จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไชน่าฮาร์เบอร์ จากประเทศจีน และ
6. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 02/04/2015 2:35 pm    Post subject: Reply with quote

สตง.โผล่คว่ำประมูลทางคู่ "แปดริ้ว+แก่งคอย"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2558 เวลา 14:00:24 น.


นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการด้านโครงสร้างพื้นฐาน 1 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ร.ฟ.ท.ตัดสินใจจะยกเลิกการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร วงเงิน 11,348 ล้านบาท หลังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ท้วงติงเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ประเด็นที่การรถไฟฯกำหนดราคากลางคลาดเคลื่อน ไม่สอดคล้องกับระเบียบพัสดุการจัดซื้อจัดจ้าง โดยให้การรถไฟฯคิดราคากลางใหม่

ทั้งนี้ เท่ากับจะต้องเริ่มกระบวนการประมูลใหม่ คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะประกาศเปิดประกวดราคาได้ โดยราคากลางใหม่น่าจะลดลงจากกรอบเดิม เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปรับลดลง ทำให้ต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างราคาลดลงด้วย

สำหรับผู้รับเหมาที่ยื่นประกวดราคาก่อนหน้านี้มีทั้งสิ้น6ราย จะให้สิทธิ์ยื่นประมูล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายซื้อเอกสารประกวดราคาใหม่ ประกอบด้วย
1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD
2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด
3. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ
5. บริษัท ทิพากร จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไชน่าฮาร์เบอร์ จากประเทศจีน และ
6. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าจากการรถไฟฯแล้ว และเร่งรัดให้เดินหน้าเปิดประมูลใหม่โดยเร็ว เนื่องจากล่าช้ามานาน เมื่อสร้างเสร็จจะช่วยเสริมระบบโลจิสติกส์ทาวน์ภาคอีสานและตะวันออก ที่จะขนส่งสินค้าไปท่าเรือแหลมฉบังได้มากขึ้น

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลอง 19-แก่งคอย การรถไฟฯเปิดซื้อแบบประมูลต้นปี 2557 แต่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่จึงเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนดหลังจากคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.)ตรวจสอบและ สตง.มีข้อท้วงติงเรื่องการกำหนดราคา

โดยการประมูลแยกเป็น 2 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่งที่ชุมทางฉะเชิงเทรา ชุมทางบ้านภาชี และชุมทางแก่งคอย วงเงินกว่า 10,183 ล้านบาท โดยจะเวนคืนที่ดิน 119 ไร่ นอกย่านสถานีเพื่อก่อสร้างทางคู่ช่วงดังกล่าวด้วย และสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางคู่ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์ทางลอด วงเงินกว่า 621 ล้านบาท

แนวเส้นทางจะสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทางคู่ขนานกับทางเดิม จากสถานีฉะเชิงเทรา ไปตามทางรถไฟสายตะวันออกเดิม (สายอรัญประเทศ) ผ่านสถานีบางน้ำเปรี้ยวถึงสถานีคลองสิบเก้า แยกขนานไปกับทางรถไฟสายคลองสิบเก้า-แก่งคอย ผ่านสถานีองครักษ์ วิหารแดง บุใหญ่ และสุดที่สถานีแก่งคอย ซึ่งผ่าน อ.เมือง และ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ อ.องครักษ์ และ อ.บ้านนา จ.นครนายก และ อ.วิหารแดง อ.เมือง และ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 91, 92, 93 ... 389, 390, 391  Next
Page 92 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©