รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Mongwin]

รฟท.ยืนยันการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ แก้ปัญหาอุบัติเหตุรถไฟกับรถยนต์ได้ คาดปี 64 เป็นรางคู่ทั่วประเทศ
แหล่งที่มา : สวท.อุดรธานี
วันที่ข่าว : 8 กรกฎาคม 2558

นายวรรณนพ ไพศาลพงศ์ รองวิศวกรรมใหญ่ด้านก่อสร้างพื้นฐานการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 ในโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ที่จังหวัดอุดรธานี ว่า ในการออกแบบระบบรถไฟทางคู่ จากสถานีสำราญ จังหวัดขอนแก่น ถึงสถานีหนองคาย มีจำนวน 15 สถานี มีที่หยุดรถไฟ 2 แห่ง เป็นการออกแบบก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มขึ้นใหม่ขนานกับรางเดิม เป็นคันทางระดับดินหรือยกระดับ โดยยกเลิกจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับทุกแห่ง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินรถไฟ จึงไม่มีปัญหาเรื่องเวนคืนที่เอกชน มีการออกแบบให้ได้มาตรฐานโค้งมีความปลอดภัยรองรับระบบทางคู่ ซึ่งอาจต้องมีการปรับแนวเส้นทางในบางช่วงด้วย คาดว่าไม่เกินปี 2564 ทางรถไฟทั่วประเทศจะเป็นรางคู่หมดสามารถแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้

“ต่อไปน่าจะใช้เวลาไม่เกินปี 64 ทางรถไฟทั่วประเทศจะเป็นรางคู่หมด สนองนโยบายรัฐบาลในการที่จะผลักดันให้ประชาชนมาใช้ระบบรางมากขึ้น ปัญหาเรื่องจุดตัดเสมอระดับทางรถยนต์จะไม่มี ตรงไหนที่มีพื้นที่ในการทำ Over Pass ก็จะก่อสร้างข้ามทางรถไฟ ตรงไหนลอดก็จะลอด หากทำอะไรไม่ได้ก็จะทำเป็นรูปเกือกม้า ปัญหาจุดตัดทางรถยนต์กับรถไฟอนาคตจะแก้ให้หมด”

กิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 1 ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นกิจกรรมหนึ่งในขอบเขตดำเนินงานของโครงการเพื่อแนะนำประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมกับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เป็นการนำเสนอข้อมูลโครงการเกี่ยวกับความจำเป็น วัตถุประสงค์ แนวคิด วิธีดำเนินงาน แผนการดำเนินงาน และการรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมการประชุม ซึ่งจะไปจัดกิจกรรมที่จังหวัดหนองคายต่อไป

[Mongwin]

เปิดเวทีแจงก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2558 17:58 น. 18:02 น.





หนองคาย - บริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ชี้แจงการออกแบบและรูปแบบเส้นทางให้ชาวหนองคายทราบ หวังพัฒนาระบบการบริการขนส่งให้ดีขึ้น

เมื่อเวลา 10.15 น. วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมอัศวรรณ อ.เมือง จ.หนองคาย นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 ปฐมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย โดยมีการแนะนำโครงการ, แนวคิดการกำหนดแนวเส้นทางรถไฟและรูปแบบการพัฒนาในเบื้องต้น, แนวทางและวิธีการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบสถานี รวมถึงแนวทางการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้าง โดยมอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท เทสโก้ จำกัด เป็นบริษัทหลัก ร่วมกับ บริษัทเอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด บริษัท เอ 21 คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท นิวแอสเซท แอดไวเซอร์รี่ จำกัด บริษัท ดีไซน์ คอนเซป จำกัด และบริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษา ระยะเวลา 12 เดือน สิ้นสุด 15 เมษายน 59

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 174 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นโครงการที่ประมาณ กม.454 เป็นจุดสิ้นสุดของโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่น ห่างจากสถานีรถไฟขอนแก่น 450 ประมาณ 4.2 กิโลเมตร และมีจุดสิ้นสุดโครงการที่สถานีหนองคาย โดยได้ออกแบบก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มขึ้น 1 ทาง เป็นคันทางระดับดินหรือยกระดับ โดยยกเลิกจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับทุกแห่ง จากสถานีสำราญถึงสถานีหนองคาย มี 15 สถานี และที่หยุดรถไฟ 2 แห่ง พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินรถไฟ ความเร็วเฉลี่ย 120-160 กม./ชั่วโมง

ซึ่งอาจจำเป็นต้องปรับแนวเส้นทางในบางช่วง รวมงานด้านการออกแบบพัฒนาและปรับปรุงสถานีรถไฟและย่านสถานี เป้าหมายสำคัญนับเป็นประโยชน์จากการพัฒนารถไฟทางคู่ สามารถเพิ่มความจุทางได้มากขึ้น ลดระยะเวลา และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงในการขนส่งของประเทศ ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งสาธารณะ ทั้งพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศ จูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการทางรางให้มากขึ้น โดยรัฐบาลได้เร่งรัดโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่กรุงเทพฯ-หนองคาย ให้แล้วเสร็จในปี 2562

[Wisarut]

สนข.เผยสรุปแนวเส้นทางรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม.


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
13 กรกฎาคม 2558 13:30 น. (แก้ไขล่าสุด 13 กรกฎาคม 2558 13:57 น.)




ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สนข.จัดประชุมกลุ่มย่อยผู้ได้รับผลกระทบตามแนวเส้นทางครั้งที่ 1 โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ชี้แจงรายละเอียดและนำเสนอแนวทางเลือกเส้นทางที่ทีมศึกษาพิจารณาเบื้องต้นแล้วพบเหมาะสมที่สุดและเตรียมพัฒนาต่อยอด เผยระยะทาง 189 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 120-160 กิโลเมตร/ชั่วโมง

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดการประชุมกลุ่มย่อยผู้ได้รับผลกระทบตามแนวเส้นทางครั้งที่ 1 โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ โดยมีตัวแทนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเข้าร่วมจำนวนหนึ่ง ซึ่งการจัดประชุมกลุ่มย่อยครั้งนี้เป็นครั้งแรกจากจำนวนทั้งหมด 2 ครั้ง ทั้งนี้ยังไม่นับรวมการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นอีก 3 ครั้ง ซึ่งจัดไปแล้วครั้งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 58

สำหรับการประชุมกลุ่มย่อยในครั้งนี้ ทางโครงการได้มีการนำเสนอผลการศึกษาเกี่ยวกับทางเลือกของแนวเส้นทางที่จะเป็นรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร ผ่านจังหวัดแพร่ ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 4 แนว ได้แก่

แนวทางเลือกที่ 1 สร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ประกบเข้ากับทางรถไฟเดิม ความเร็วสูงสุด 90 กิโลเมตร/ชั่วโมงในพื้นที่ราบและทางตรง ความเร็วสูงสุด 45-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในพื้นที่ทางโค้งและทางลาดชัน ระยะทางประมาณ 217 กิโลเมตร

แนวทางเลือกที่ 2 สร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง พร้อมปรับรัศมีทางโค้งของทางรถไฟเดิม ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 207 กิโลเมตร

แนวทางเลือกที่ 3 สร้างทางคู่โดยใช้แนวรถไฟเดิมบางส่วนให้มีแนวเส้นทางตรงมากที่สุด ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร และ

แนวทางเลือกที่ 4 ใช้แนวทางเลือกที่ 2 และที่ 3 รวมกัน แบ่งเป็นช่วงเด่นชัย-ลำปาง ระยะทาง 105 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และช่วงลำปาง-เชียงใหม่ ระยะทาง 84 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 189 กิโลเมตร

ทั้งนี้ การศึกษาที่ผ่านมาทางโครงการได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะใช้แนวทางเลือกที่ 4 เป็นทางเลือกในการพัฒนาและทำการออกแบบต่อไป เนื่องจากการวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่างๆ แล้วพบว่าน่าจะมีความเหมาะสมมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม จะมีการรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบและมีผลได้เสียจากโครงการนี้นำไปพิจารณาวิเคราะห์อย่างละเอียดและศึกษาความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเงิน และแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม รวมทั้งงานออกแบบรายละเอียด

สำหรับโครงการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่นั้นเป็นส่วนหนึ่งในแผนดำเนินการระยะที่ 2 (พ.ศ. 2559-2563) ของแผนการดำเนินงานโครงการการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง กระทรวงคมนาคม ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 57 รับทราบแผนการดำเนินงานดังกล่าว และเป็นผลให้ สนข.ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ. 2558 ให้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ดังกล่าว

โดย สนข.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดระบบรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายว่าระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งสินค้า การเดินทาง เพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศตามแหล่งสถานที่ที่สำคัญในเขตภาคเหนือ เพิ่มความจุทาง ลดระยะเวลา และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่งของประเทศ ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะทั้งพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการทางรางมากยิ่งขึ้น ลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ความสำคัญต่อการขนส่งผู้โดยสารและบริการขนส่งสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายการขนส่งทางรถไฟ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงระบบของประชาชน สนับสนุนการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ การกระจายความเจริญจากเมืองสูงเมือง สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการต่อไป

ข้อมูลทางเลือกที่ 4 ดูที่นี่ครับ
http://www.denchai-chiangmai-doubletrack.com/file/Brochure2.pdf

[Wisarut]

สามารถ ราชพลสิทธิ์′แนะเร่งกู้เงินสร้างรถไฟทางคู่ขนาด 1 เมตร
มติชน
วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11:25:28 น.

“สามารถ” หนุนกู้สร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร ดีกว่าสร้างชินคันเซ็น หรือรถเร็วปานกลาง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
15 กรกฎาคม 2558 16:35 น. (แก้ไขล่าสุด 15 กรกฎาคม 2558 17:44 น.)

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ วันที่ 15 กรกฎาคมว่า ผมได้ดูเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนาดความกว้างของราง 1 เมตร (สร้างทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีก 1 ทาง จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1 ทาง) พบว่ามีการตั้งงบประมาณไว้ 11 โครงการ ได้แก่

(1) รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ
(2) รถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร
(3) รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ
(4) รถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม – หัวหิน
(5) รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น
(6) รถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย
(7) รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี
(8) รถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี
(9) รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย
(10) รถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน –ประจวบคีรีขันธ์ และ
(11) รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี – ปาดังเบซาร์



โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนาดราง 1 เมตร ดังกล่าวข้างต้นทั้งหมด 11 โครงการ มีวงเงินทั้งสิ้น 260,850,998,100 บาท แบ่งเป็น เงินงบประมาณ 3,914,228,100 บาท และเงินนอกงบประมาณ (เงินกู้) 256,936,770,000 บาท หรือคิดเป็น 98.5% ของวงเงินทั้งสิ้นของโครงการ พูดได้ว่าเราจำเป็นต้องใช้เงินกู้เกือบทั้งหมด

ถึงแม้ว่าเราไม่มีเงินงบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร ทำให้จำเป็นต้องกู้เงินมาก่อสร้างก็ตาม แต่ผมเห็นด้วยว่าเราควรกู้เงิน เพราะถ้าเรามีรถไฟทางคู่ ขนาดราง 1 เมตร ครอบคลุมหลายพื้นที่ จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนหรือประเทศชาติโดยส่วนรวมได้เป็นอย่างดี

กล่าวคือ รถไฟทางคู่จะช่วยทำให้รถไฟวิ่งได้ด้วยความเร็วเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 100-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากเดิมที่วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 50-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการขนส่ง รวมทั้งช่วยประหยัดเวลาการเดินทางและการขนส่งได้อีกด้วย ที่สำคัญ รถไฟทางคู่ ขนาดราง 1 เมตร จะเก็บค่าบริการในอัตราที่ประชาชนส่วนใหญ่สามารถใช้บริการได้

หากเปรียบเทียบกับการที่รัฐบาลจะกู้เงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลางเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคายและเส้นทางแก่งคอย-มาบตาพุด ขนาดราง 1.435 เมตรโดยความร่วมมือกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน วงเงินประมาณ 4 แสนล้านบาท และการกู้เงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขนาดราง 1.435 เมตร โดยความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น วงเงินประมาณ 4 แสนบาท จะเห็นได้ว่ารถไฟทางคู่ ขนาดราง 1 เมตร ใช้เงินลงทุนถูกกว่ามาก และประชาชนส่วนใหญ่สามารถใช้บริการได้

ในขณะที่รถไฟความเร็วปานกลาง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ที่จะเชื่อมต่อไปสู่เมืองคุนหมิงของจีน โดยวิ่งผ่านประเทศลาวนั้น ยังมีความไม่แน่นอนว่าจีนกับลาวจะได้ข้อยุติด้านความร่วมมือในการก่อสร้าง อาจจะทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อไปสู่คุนหมิงได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น จะทำให้ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด

ส่วนรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หากรัฐบาลไทยต้องกู้เงินมาก่อสร้าง จะเป็นการสร้างภาระทางการเงินอย่างหนักให้กับรัฐบาล เพราะโครงการนี้ต้องใช้ทั้งเงินลงทุนและเงินในการบริหารจัดการเดินรถสูงมาก ในขณะที่จะมีรายได้น้อย ทำให้รัฐบาลต้องแบกภาระการขาดทุนตลอดไป

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมเห็นว่ารัฐบาลจะต้องเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนาดราง 1 เมตร ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

//------------------


คนพิจิตรแห่ร่วมเวทีหนุนรถไฟรางคู่ปากน้ำโพ-เด่นชัย


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
15 กรกฎาคม 2558 13:32 น. (แก้ไขล่าสุด 15 กรกฎาคม 2558 15:13 น.)


พิจิตร - ชาวเมืองชาละวันแห่ร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ผ่าน 5 จังหวัดจากปากน้ำโพ-เด่นชัย รองวิศวกรใหญ่ฯ ร.ฟ.ท.เชื่อถ้าไร้ปัญหาเดินหน้าสร้างได้ในปี 60 เสร็จปี 64

วันนี้ (15 ก.ค.) นายนพรัตน์ ตั้งกิตติถาวร รองผู้ว่าฯ พิจิตร ได้เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ที่ห้องประชุมของโรงแรมพิจิตรพลาซ่า โดยมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 500 คน

นายวรรณนพ ไพศาลพงศ์ รองวิศวกรใหญ่ด้านก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า โครงการพัฒนารถไฟรางคู่ปากน้ำโพ-เด่นชัย กำลังอยู่ในช่วงการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ และจะต้องนำข้อมูลไปประมวลผลต่อไป แต่ถ้าไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ น่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2560 จะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2564

เส้นทางรถไฟทางคู่สายนี้จะเริ่มต้นจากปากน้ำโพ ปลายทางสถานีเด่นชัย จ.แพร่ รวมระยะทาง 285 กม. ผ่าน 5 จังหวัด โดยใช้เส้นทางที่เป็นทางรถไฟสายเดิม จอดรับผู้โดยสารในสถานีหลัก เช่น นครสวรรค์ ชุมแสง บางมูลนาก ตะพานหิน พิจิตร บางกระทุ่ม พิษณุโลก พรหมพิราม พิชัย ตรอน เมืองอุตรดิตถ์ เด่นชัย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการขนส่งและการเดินทางได้เป็นอย่างมาก

ด้านนายนพรัตน์ ตั้งกิตติถาวร รองผู้ว่าฯ พิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวพิจิตรส่วนใหญ่ต่างยินดีและให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว เพราะจะเป็นประโยชน์ในอนาคตต้อนรับ AEC ซึ่งจะทำให้ จ.พิจิตรเจริญก้าวหน้า การคมนาคมสะดวก อันจะมีผลดีในทุกด้าน

[Wisarut]

ร.ฟ.ท. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น รถไฟทางคู่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย
มติชน
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12:01:00 น.



(16 ก.ค. 58) ที่โรงแรมท็อปแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดการประชุมเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ– เด่นชัย ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญต่อระบบการคมนาคมขนส่ง ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศชาติ จึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ โดยมีแผนพัฒนาขยายเส้นทางรถไฟเข้าสู่ภูมิภาคต่างๆ อย่างครอบคลุมและเข้าถึงทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ทั้งนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพเด่นชัย เป็นอีกโครงการหนึ่งที่มีแผนศึกษาความเหมาะสมและการออกแบบรายละเอียดเช่นเดียวกัน

โดยในปี 2558 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา หลายบริษัท เป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงานศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียด โดยได้เริ่มปฎิบัติงานตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2558 เป็นต้นมา ระยะเวลาในการปฎิบัติงาน 12 เดือน และได้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ครั้งที่ 1 ในระหว่างวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2558 โดยแบ่งเป็น 3 เวที ประกอบด้วย เวทีที่ 1 ที่จังหวัดพิจิตรเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 เวทีที่ 2 ที่จังหวัดพิษณุโลก วันที่ 16 กรกฎาคม 2558 และเวทีที่ 3 ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น และร่วมกันประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และนำความคิดเห็นที่ได้รับไปประกอบการปรับปรุงแนวทางเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย การก่อสร้างเป็นระยะทาง 285 กิโลเมตร ผ่าน 5 จังหวัดด้วยกันคือ จังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และจังหวัดแพร่ โดยความเร็วที่รถไฟฟ้าสามารถทำความเร็วได้ที่ 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นการก่อสร้างเส้นทางคู่ขนานกับเส้นทางรถไฟเดิม ซึ่งจะสามารถสร้างความสะดวกสบายในการเดินทาง สามารถขนส่งสินค้าต่างๆ เป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในภาคเหนือ-ภาคกลาง และช่วยลดปริมาณรถบรรทุกสินค้าบนท้องถนนได้อีกทางหนึ่งด้วย

[Mongwin]

'งาน' กับ 'เงิน'
Korn Chatikavanij 10 กรกฎาคม เวลา 16:38 น. ·

เมื่อวานนี้มีข่าวเล็กๆว่าสำนักบริหารหนี้ของกระทรวงการคลังได้ออกมาเร่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรีบดำเนินการโครงการ 'รถไฟทางคู่' ที่อนุมัติเงินไปแล้ว แต่งานไม่เดินเสียที

สองโครงการที่ว่ามีมูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท และควรมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 4 พันล้านบาทในครึ่งปีแรก (ซึ่งวันนี้ยังไม่ได้เบิกจ่ายเลยเพราะยังประมูลหาผู้รับเหมาไม่ได้)

นี่คือตัวอย่างของจริงที่เราพูดมาตลอดว่าการลงทุนในระบบรางนั้น 'เงินไม่ได้เป็นปัญหา' แต่ปัญหาคืิอการรถไฟฯขาดประสิทธิภาพในการใช้เงิน (ถ้าใช้ภาษาท่านนายกฯตู่คือ 'ใช้เงินไม่เป็น')

และนี่คือเหตุที่ผมเคยแสดงความคิดเห็นกับรัฐบาลที่แล้วว่าคุณไม่ต้องไปออกกฎหมายพิเศษกู้เงิน 2 ล้านล้านหรอก ลำพังเงินงบประมาณการรถไฟฯก็ใช้ไม่ทันอยู่แล้ว ดังนั้นปัญหาที่เราต้องแก้ไม่ใช่ว่า 'จะเอาเงินจากไหน' กระทรวงคลังเขาจัดให้ได้อยู่แล้ว ปัญหาคือการรถไฟฯ ทำงานไม่ได้ 'ใช้เงินไม่เป็น' และวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

และนี่คือแค่รถไฟทางคู่ แล้วการรถไฟฯจะลงทุนสร้างรถไฟความเร็วสูงกันอย่างไร?

ดังนั้นสิ่งที่ควรต้องวิเคราะห์กันวันนี้ไม่ใช่เพียงว่าเราควรลงทุนโครงการอะไรบ้าง (บางเรื่องพูดกันมาเป็น ๑๐ ปีก็ยังไม่ได้ทำ) แต่เราต้องทำความเข้าใจว่างานที่ไม่เดินนั้นเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะการทุจริตทำให้ผลประโยชน์ไม่ลงตัว หรือเป็นเพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบขาดความสามารถเฉพาะทาง ถ้าตีโจทย์นี้ไม่แตกประเทศพัฒนายากครับ

[Mongwin]

[Wisarut]

บัญชีรายชื่อ สถานี ในการทำทางคู่จากปากน้ำโพไปเด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร
0 สถานีปากน้ำโพ
จุดเริ่มต้น 252+000
1. บึงบอระเพ็ด
2. ทับกฤช
3. คลองปลากด
4. ชุมแสง
5. วังกร่าง
6. บางมูลนาก
7. หอไกร
8. ดงตะขบ
9.ตะพานหิน - dropping point for Phetchabun
10. ห้วยเกตุ
11. หัวดง
12. วังกรด
13. พิจิตร
14. ท่าฬ่อ
15. บางกระทุ่ม
16. แม่เทียบ
17. บ้านใหม่
18. บึงพระ
19. พิษณุโลก
20. บ้านเต็งหนาม
21. บ้านตูม
22. แควน้อย
23. พรหมพิราม
24. หนองตม
25. บ้านบุ่ง
26. บ้านโคน
27. พิชัย
28. ไร่อ้อย
29. ชุมทางบ้านดารา
30. ท่าสัก
31. ตรอน
32. วังกระพี้
33. อุตรดิตถ์
34. ศิลาอาศน์
35. ท่าเสา - revived as station once more.
36. บ้านด่าน
37. ปางต้นผึ้ง
38. เขาพลึง - revived as station once more.
39. ห้วยไร่
40. แม่พวก - revived as station once more.
41. เด่นชัย
EOL ที่กม. 536 + 000

สถานีจะเอาตามแบบสถานีศิลาอาศน์
http://paknampho-denchairailway.com/images/content_document/20150708083452_0.pdf
http://paknampho-denchairailway.com/images/content_document/20150708085627_0.pdf




งานเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กิโลเมตร มีแนวเส้นทางโครงการฯ
จุดเริ่มต้นโครงการที่ กม.217+005.328 (เป็นจุดสิ้นสุดของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม – หัวหิน) ห่างจากสถานีรถไฟหัวหิน (กม.213+110.400) ประมาณ 4 กิโลเมตร
จุดสิ้นสุดโครงการฯ ที่กม.301+100.000 (เป็นจุดเริ่มต้นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร) ก่อนถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์ (กม.302+339.000) ประมาณ 1 กิโลเมตร

ระยะทางตลอดแนวเส้นทางโครงการประมาณ 90 กิโลเมตร ครอบคลุมเขตพื้นที่ จังหวัดประจวบคุรีขันธ์ 5 อำเภอ 15 ตำบล ได้แก่
อำเภอหัวหิน 2 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลหัวหิน และตำบลหนองแก (สถานีหัวหิน - สถานีหนองแก ป้ายหยุดรถสวนสนประดิพัทธ์ สถานีเขาเต่า)
อำเภอปราณบุรี 2 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลวังก์พง และ ตำบลปราณบุรี (สถานีวังก์พง - สถานีปราณบุรี)
อำเภอสามร้อยยอด 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลศิลาลอย ตำบลศาลาลัย ตำบลไร่เก่า และ ตำบลไร่ใหม่ (ที่หยดุรถห้วยขวาง - สถานีหนองคาง - สถานีสามร้อยยอด)
อำเภอกุยบุรี 3 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลสามกระทาย ตำบลกุยเหนือ และตำบลกุยบุรี (สถานีสามกระทาย- สถานีกุยบุรี ) และ
อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลบ่อนอก ตำบลอ่าวน้อย ตำบลเกาะหลัก และตำบลประจวบคีรีขันธ์ (สถานีบ่อนอก - สถานีทุ่งมะเม่า สถานีคั่นกระได - สถานีประจวบคีรีขันธ์ )

http://thainews.prd.go.th/centerweb/news/NewsDetail?NT01_NewsID=WNIOC5807010020002
http://www.huahin-prachuabrailway.com/aboutus.php?WP=qUEcqKuipTWgLKqCGWOghJstqTIcM3uupUOgWap1GR9gxTr5qBOcMUuc
https://www.youtube.com/watch?v=a8X3mjZQcgs

[Mongwin]

ข่าวกรมประชาสัมพันธ์ พิษณุโลก โครงการรถไฟทางคู่ปากน้ำโพ-เด่นชัย

[Wisarut]

ประชาพิจารณ์ ทางคู่ขอนแก่น - หนองคายที่อุดรธานี
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=WM7kIuKm62s

วิดีโอแนะนำทางคู่ขอนแก่น - หนองคาย
https://www.facebook.com/railkhonkaen.nongkhai/posts/763722120403724