รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Wisarut]

[Wisarut]

นัดถก TOR รถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบฯ 6 เม.ย.
กรุงเทพธุรกิจ
29 มีนาคม 2560

"บอร์ด รฟท." นัดหารือทีโออาร์รถไฟทางคู่หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ใหม่ 6 เม.ย. นี้ หวังขายซองก่อนสงกรานต์

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ รฟท.จะมีการประชุมในวันที่ 6 เม.ย.เพื่อยกเลิกเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการรถไฟทางคู่เดิมทั้ง 5 เส้นทางตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมกันนั้นจะเริ่มการพิจารณา TOR ใหม่ในเส้นทางแรก คือ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม.เป็นสัญญางานระบบรางและงานโยธาที่ได้ปรับลดราคางานเป็น 8,500 ล้านบาท จากเดิม 9,990 ล้านบาท เนื่องจากแยกงานระบบอาณัติสัญญาณออกมา หลังจากนั้นคาดว่าจะเปิดขายซองประมูลได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์

ส่วนอีก 4 เส้นทางจะทยอยประกาศออกมา โดยจะเร่งการประมูลโครงการทั้ง 5 เส้นทางให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หรือ ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ตามที่นายกรัมนตรีสั่งการมา

นายอานนท์ กล่าวว่า รฟท.จะร่นระยะเวลานำ TOR มาเปิดรับฟังความคิดเห็นให้เหลือ 2 รอบ รอบละ 3 วัน จากเดิมกำหนดระยะเวลาประมาณ 2 เดือน โดยคาดว่าการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหาและใช้เวลาไม่มาก เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการปรับเงื่อนไข TOR ไปมากแล้ว และเงื่อนไขใน TOR ใหม่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งประเด็นเรื่องผลงงาน ส่วนข้อกำหนดเกี่ยวกับประเด็นการร่วมทุนกับต่างชาติจะยังคงมีอยู่

"คงต้องเร่งทำงานให้เร็วที่สุด โดยจะเปิดประมูลทีละเส้น เพราะแยกสัญญาออกมาก็ต้องมาคำนวณราคากลางใหม่ แต่ราคาโครงการจะแตกต่างกันไม่มาก"นายอานนท์ กล่าว

ทั้งนี้ การประมูลงานโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ได้แบ่งสัญญาให้มีขนาดเล็กลง ทำให้สัญญาประมูลเพิ่มเป็น 13 สัญญา ใน 5 เส้นทาง แบ่งเป็นงานระบบอาณัติสัญญาณ 3 สัญญา และงานระบบรางและงานโยธา 10 สัญญา

(1) ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. มีงานโยธาและระบบราง 2 สัญญา งานระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

(2) ช่วงมาบกะเบา- ชุมทางจิระ ระยะทาง 132 กม. งานโยธาและระบบราง 2 สัญญา งานอุโมงค์ทางรถไฟและระบบราง 1 สัญญา งานระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

สำหรับ (3) ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม. (4) ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. (5) ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง167 กม. รวมทั้ง 3 เส้นทางมีงานโยธาและระบบราง 5 สัญญา และงานระบบอาณัติสัญญาณใช้ร่วมกัน 1 สัญญา

//------------------
ขีดเส้นรฟท.เร่งประมูล 'รถไฟทางคู่' ใน3เดือน
กรุงเทพธุรกิจ
29 มีนาคม 2560

"ครม." ขีดเส้นต้องประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางให้จบภายใน 3 เดือน ชี้ต้องเปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณแบบนานาชาติ
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (28 มี.ค.) ว่า กระทรวงคมนาคมได้รายงานความคืบโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางที่ต้องปรับแก้เงื่อนไขการประมูล (TOR) ตามมติคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) ให้ที่ประชุม ครม. รับทราบ

ครม. จึงสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ต้องเร่งเปิดประมูลและหาผู้รับจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หรือภายในเดือน มิ.ย. นี้ พร้อมสั่งการให้เปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณแบบนานาชาติ (International Competitive Bidding) ด้วย

นายพิชิต กล่าวว่า ร.ฟ.ท.เริ่มแบ่งโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางจาก 5 สัญญาเป็น 13 สัญญาตามคำสั่งซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ แล้ว ได้แก่สายเหนือเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

สายตะวันออกเฉียงเหนือเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา งานก่อสร้างอุโมงค์ 1 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

สายใต้ประกอบด้วย 3 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา 2.เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 9.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 1 สัญญา 3.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา โดยรถไฟสายใต้ทั้ง 3 เส้นทางจะเปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณร่วมกันเพียง 1 สัญญา

นายพิชิต กล่าวถึงคำสั่งปรับแก้ทีโออาร์ของซูเปอร์บอร์ดว่า เป็นผลมาจากข้อร้องเรียน 4 ประเด็น ประเด็นแรก คือ ทีโออาร์เดิมกำหนดสัดส่วนผลงานของผู้เข้าร่วมประมูลสูงเกินไป จนกีดกันไม่ให้ผู้รับเหมารายเล็กและรายกลางเข้าร่วมประมูล ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ จึงมีมติลดสัดส่วนผลงานของผู้เข้าร่วมประมูลลงจาก 15% เหลือ 10% ของมูลค่าโครงการ

ประเด็นที่ 2 กำหนดมูลค่าสัญญาแต่ละโครงการสูงเกินไป จนทำให้ผู้รับเหมารายเล็กไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ เช่น บางโครงการมีมูลค่าถึง 20,000 ล้านบาท ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ จึงให้ลดมูลค่าสัญญาเหลือ 5,000-10,000 ล้านบาทต่อสัญญา

ประเด็นที่ 3 กีดกันผู้รับเหมารายย่อยทางอ้อม โดยไม่ให้เจ้าของเทคโนโลยีระบบอาณัติสัญญาณร่วมมือกับผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งส่งผลให้รายย่อยไม่สามารถหาเทคโนโลยีระบบอาณัติสัญญาณเข้าร่วมประมูลตามเงื่อนไขในทีโออาร์ได้ ดังนั้นซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ จึงสั่งให้แยกสัญญาติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณออกจากสัญญางานโยธาและระบบราง

แยกระบบอาณัติสัญญาณทำล่าช้า9เดือน

นายพิชิต กล่าวว่า การแยกระบบอาณัติสัญญาณออกมาส่งผลให้ระยะเวลาการก่อสร้างของโครงการจะเพิ่มขึ้นประมาณ 9 เดือน เนื่องจากการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณจะเริ่มหลังงานโยธาและระบบรางแล้วเสร็จ แตกต่างจากทีโออาร์เดิมซึ่งผู้ก่อสร้างงานโยธาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเป็นรายเดียวกัน จึงสามารถเข้าพื้นที่ดำเนินงานได้พร้อมกัน

ประเด็นสุดท้าย กำหนดให้รวมเครื่องจักรเฉพาะที่ใช้ในการก่อสร้างไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นการไม่โปร่งใส เพราะเท่ากับเป็นการใช้การประมูลเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ ดังนั้นจึงให้นำเงื่อนไขนี้ออกจากทีโออาร์

บอร์ดร.ฟ.ท.เปลี่ยนทีโออาร์ 6 เม.ย.

นายอานนท์ เหลือบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 เม.ย. นี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. มีนัดประชุมเพื่อยกเลิก ทีโออาร์การประมูลรถไฟทางคู่เดิมและเห็นชอบร่างทีโออาร์ใหม่

ทั้งนี้ บอร์ดคงต้องทยอยเห็นชอบร่างทีโออาร์ใหม่และทยอยเปิดประมูล โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้ง 5 เส้นทาง เพื่อความรวดเร็ว จากนั้นจะต้องนำร่างทีโออาร์ไปรับฟังความเห็น 2 ครั้งตามขั้นตอน ถ้าหากไม่มีผู้คัดค้านในประเด็นสำคัญก็จะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนให้เข้าร่วมประมูลได้

เบื้องต้นคาดว่า จะเริ่มต้นจากรถไฟสายใต้เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตรก่อน เพราะมีมูลค่าต่ำที่สุด โดยเมื่อมีการแยกสัญญาระบบอาณัติสัญญาณออกไป ก็จะทำให้มูลค่าสัญญางานโยธาลดเหลือ 8,500 ล้านบาท จากนั้นจะเริ่มเปิดประมูลเส้นทางนครปฐม-หัวหิน และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรตามมา สำหรับเส้นทางสายเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะเห็นชอบทีโออาร์เป็นลำดับหลังสุดและเปิดประมูลได้พร้อมๆ กัน

เสนอประมูล9เส้นทางกลางปี

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า กรอบวงเงินโครงการทั้งหมดยังอยู่ที่ระดับ 9.58 หมื่นล้านบาทเท่าเดิม แต่การประเมินราคากลางอาจสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะตอนนี้ราคาน้ำมันดีเซลและราคาเหล็กมีทิศทางเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อวงเงินในภาพรวม

นอกจากนี้ บอร์ด ร.ฟ.ท. ยังต้องพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทางระยะทาง 2,217 กิโลเมตร มูลค่ารวม 3.9 แสนล้านบาทซึ่งบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ปี 2560 อีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ

“จะเสนอรถไฟทางคู่ทั้ง 9 เส้นทางให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบได้ภายในกลางปีตามกรอบเดิมเพราะมีแนวทางของรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางอยู่แล้วจึงสามารถปรับเส้นทางอื่นๆ ตามได้อย่างรวดเร็ว”

[Wisarut]

ทางคู่ 4 ทางจะเสร็จในปี 2564
รฟท.มั่นใจประมูลรถไฟทางคู่เสร็จทันภายใน 3 เดือน แย้มเปิด TOR เส้นทางแรก ประจวบ-หัวหิน ก่อนสงกรานต์
สปริงนิวส์
29 มีนาคม 2560 10:54:01

นายอานนท์ เหลือบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริง นิวส์ และสถานีวิทยุสปริง เรดิโอ เอฟเอ็ม 98.5 เมกกะเฮิร์ท ถึง ความคืบโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางที่ต้องปรับแก้เงื่อนไขการประมูล (TOR) ตามมติคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) ว่า ร.ฟ.ท.เริ่มแบ่งโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางจาก 5 สัญญาเป็น 13 สัญญาตามคำสั่งซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ แล้ว ได้แก่ สายเหนือเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

สายตะวันออกเฉียงเหนือเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา งานก่อสร้างอุโมงค์ 1 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

สายใต้ประกอบด้วย 3 เส้นทาง คือ
1.เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา
2.เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 9.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 1 สัญญา
3.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา โดยรถไฟสายใต้ทั้ง 3 เส้นทางจะเปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณร่วมกันเพียง 1 สัญญา

นายอานนท์ กล่าวว่า การแยกสัญญาต่างๆ ดังกล่าว จะทำให้แต่ละสัญญามีวงเงินที่น้อยลง ซึ่งต่างจากของเดิม แต่งบประมาณโดยรวมเท่าเดิม โดยจะผู้รับเหมารายเล็กและรายกลางเข้าร่วมประมูลอีกด้วย

เมื่อถามว่าครม.กำหนดให้ต้องหาผู้รับจ้างครบทั้ง 5 เส้นทางภายใน 3 เดือน จะสามารถดำเนินการได้ทันหรือไม่ นายอานนท์ กล่าวว่า รฟท. จะต้องดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยจะมีบางสัญญาที่มีมูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคงไม่สามารถซอยย่อยได้อีก จะเร่งดำเนินการก่อน คาดว่าก่อนสงกรานต์จะทยอยออก TOR ได้

ส่วนเงื่อนไขในการเปิดรับฟังความคิดเห็น TOR ตอนนี้กำหนดไว้ 2 ครั้ง ครังละ 3 วัน ถ้าหากไม่มีผู้คัดค้านในประเด็นสำคัญก็จะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนให้เข้าร่วมประมูลได้

เมื่อถามว่าจะสามารถเปิดประมูลเส้นทางแรกได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ นายอานนท์ กล่าวว่า คาดว่าช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ โดยจะเริ่มต้นจากรถไฟสายใต้เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตรก่อน เพราะมีมูลค่าต่ำที่สุด จากนั้นจะทยอยเปิดเส้นทางอื่นๆ ต่อไป

https://www.youtube.com/watch?v=bSjjNOzqD4I

[Wisarut]

เปิดเค้กใหม่ทางคู่แสนล้าน ปล่อยผี "รับเหมาจีน-ต่างชาติ" แข่งบิ๊กโฟร์
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
4 เมษายน 2560 เวลา 07:45:12 น.


ไม่เหนือความคาดหมาย "ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง" สั่ง "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ให้ยกเลิกผลประมูลรถไฟทางคู่ 5 สาย มูลค่าร่วม 1 แสนล้านบาทแล้วเปิดประมูลภายใต้ทีโออาร์เวอร์ชั่นใหม่

โดยชำแหละเนื้องานโครงการยกแผง แยกงานโยธาและราง ออกจากงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม พร้อมปรับขนาดและค่างานให้เล็กลง จาก 5 สัญญา เป็น 13 สัญญา เพื่อให้ผู้รับเหมาและซัพพลายเออร์ระบบเข้าประมูลแข่งขันได้มากขึ้น

ปฏิบัติการของ "ซูเปอร์บอร์ด" ไม่เพียงทำให้สนามประมูลแข่งขันอย่างเสรี แต่เท่ากับเป็นการปฏิวัติการประมูลงาน ร.ฟ.ท.รูปแบบใหม่ จากเดิมจะรวบงานโยธา ราง และระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมไว้ในสัญญาเดียวกัน

"อานนท์ เหลืองบริบูรณ์" รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างให้แบ่งงานประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง เป็น 3 ส่วน รวม 13 สัญญา ค่างานตั้งแต่ 5,000-10,000 ล้านบาทต่อสัญญา ได้แก่ งานโยธาและราง 9 สัญญา ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 3 สัญญา และอุโมงค์ 1 สัญญา ช่วงหมวกเหล็กของสายมาบกะเบา-จิระ

"หลักเกณฑ์คือทางคู่ 1 โครงการ มูลค่าเกิน 2 หมื่นล้านบาท จะแบ่งงาน 2-3 สัญญา และแยกระบบอาณัติสัญญาณออกมา จะมี 3 สัญญา เพราะสายใต้เป็นงานต่อเนื่องกันทางซูเปอร์บอร์ดเลยให้รวบเป็นสัญญาเดียวกัน จากนครปฐม-หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร เพื่อให้งานต่อเนื่องกัน"

นอกจากนี้ ยังปรับข้อกำหนดทีโออาร์ใหม่หลังมูลค่างานต่อสัญญาเล็กลง เช่น ผลงานจากเดิม 15% ของมูลค่างานจะเหลือ 10% ดังนั้น ผู้รับเหมามีผลงานโยธาและรางมูลค่า 500-1,000 ล้านบาท ก็สามารถเข้าร่วมประมูลได้ ส่วนราคากลางคาดว่าจะใกล้เคียงกับของเดิมที่ประมูลไป และจะไม่เกินจากกรอบงบประมาณได้รับอนุมัติ 100,138.72 ล้านบาท

ประกอบด้วย ลพบุรี-ปากน้ำโพ ราคากลางอยู่ที่ 23,920 ล้านบาท มาบกะเบา-จิระ 28,104.31 ล้านบาท นครปฐม-หัวหิน 19,269.89 ล้านบาท หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 9,853 ล้านบาท และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 16,234.64 ล้านบาท รวม 97,382.72 ล้านบาท

"ซูเปอร์บอร์ดให้แนวทางมาแล้วและรายงานคณะรัฐมนตรีแล้ว รอบอร์ดรถไฟประชุมวันที่ 6 เม.ย.จะประกาศประมูลใหม่เม.ย.-มิ.ย.นี้เริ่มสายหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ก่อนเพราะวงเงินไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าอีก 7-8 เดือนจะได้ผู้รับเหมา"

ทั้งนี้ จากผลสรุป "ซูเปอร์บอร์ด" ที่ออกมา เริ่มมีเสียงสะท้อนจากคนในรถไฟว่าเป็นวิธีการมีผลเสียมากกว่าผลดี

"สิ่งที่กังวลคือแยกงานระบบอาณัติมาประมูลต่างหากที่ผ่านมาเคยมีบทเรียนมาแล้วช่วงรังสิต-ภาชี และหัวหมาก-ฉะเชิงเทรา งานโยธาเสร็จแล้วกว่าจะติดระบบอาณัติสัญญาณได้ใช้เวลาอีกปีกว่า" แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวและว่า

"งานก่อสร้างรถไฟทางคู่กับรถไฟฟ้าไม่เหมือนกัน ทางคู่ต้องสร้างขนานไปกับทางเดิมที่มีรถไฟวิ่งอยู่ เพราะฉะนั้น สถานีอยู่ในเส้นทางจะได้รับผลกระทบ ซึ่งทุกสถานีตามรายทางจะเป็นจุดติดระบบอาณัติสัญญาณ ประแจสับเปลี่ยนราง ทางเทคนิคต้องดำเนินการไปพร้อมกันภายใต้สัญญาเดียวกัน จะได้บริหารจัดการได้ ถ้าแยกสัญญาต้องรอให้งานโยธาเสร็จถึงจะเข้าไปติดระบบได้ ซึ่งใช้เวลา 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง ดูแล้วกระทบต่อการเปิดบริการปี"62-63"

ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการรับเหมากล่าวว่า งานโยธาและราง 10 สัญญา ผู้รับเหมารายกลางและรายใหญ่ คาดว่าจะมีการแข่งขันกันสูง แต่สุดท้ายจะได้งานกันไปถ้วนหน้า ซึ่งรายใหญ่ที่คาดว่าจะได้งาน อาทิ ช.การช่าง อิตาเลียนไทย ซิโน-ไทยฯ ยูนิคฯ ส่วนรายกลางส่วนใหญ่เป็นรับเหมางานถนนจากกรมทางหลวง อาจจะรวมตัวกันเองและรวมกับรับเหมาจีน

"น่าจับตาคืองานระบบอาณัติสัญญาณทั้ง 5 เส้นทาง ซึ่งมีมูลค่างานถึง 1 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยสัญญาละ 2 พันล้านบาท แต่สายใต้จะมากสุดเพราะรวม 3 โครงการเป็น 1 สัญญา มูลค่าร่วม 6 พันล้านบาท มีแนวโน้มจะมีแต่ต่างชาติที่ได้งาน เจ้าตลาดตอนนี้มีกลุ่มยุโรป เช่น บอมบาดิเอร์ ซีเมนส์ แอลจีจากเกาหลี อาจจะมีจีนเข้ามาแจมด้วย ส่วนงานอุโมงค์คาดว่าวงเงินอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท จะมี 3-4 เจ้าที่มีประสบการณ์ คือ อิตาเลียนไทย ช.การช่าง และไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง"

ด้าน "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การแยกสัญญาทางคู่เป็น 13 สัญญา เปิดโอกาสให้มีผู้แข่งขันมากขึ้น ทำให้ผู้รับเหมารายกลางและต่างชาติมีสิทธิ์เข้ามาเสนอราคาได้

"ส่วนราคากลางต้องมาถอดกันใหม่ แบ่งส่วนงานกันใหม่ แยกเป็นส่วน ๆ การแบ่งก่อสร้างหลายสัญญา ทำให้งานเร็วขึ้น แต่ ร.ฟ.ท.ควรทำแผนประมูลและงานก่อสร้างที่ชัดเจน ให้สอดรับกับงานระบบอาณัติสัญญาณ เพื่อไม่ให้ล่าช้า"

พร้อมกับยืนยันว่า การทบทวนทางคู่ 5 เส้นทางไม่มีผลกระทบชิ่งรถไฟทางคู่เฟส 2 อีก 9 โครงการ วงเงินกว่า 398,376 ล้านบาท อยู่ในแผนปฏิบัติการเร่งด่วนปี 2560 ปัจจุบันกำลังนำโครงการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ และเปิดประมูลตามโมเดลที่ซูเปอร์บอร์ดกำหนด

ถึงโครงการจะสะดุดระหว่างทาง แต่ "บิ๊กคมนาคม" เชื่อว่า ภายในปีนี้ได้เห็นตอกเข็มต้นแรกทางคู่ 5 เส้นทาง

เพราะเป็นสิ่งที่ "รัฐบาล คสช." รอคอยและคาดหวัง หลังประเทศไทยขาดการลงทุนมานานหลายทศวรรษ

[Mongwin]

บอร์ดรถไฟจ่อเคาะทีโออาร์ทางคู่ หัวหิน-ประจวบฯ เป็นเส้นแรก
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 เม.ย. 2560 19:46

บอร์ดรถไฟจ่อเคาะทีโออาร์ทางคู่ บอร์ดรถไฟเตรียมเคาะทีโออาร์รถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบฯ เป็นเส้นทางแรก คาดเปิดประมูลได้ช่วงปลายเดือน เม.ย.

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันที่ 6 เม.ย.นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. จะมีการพิจารณายกเลิกเงื่อนไขการประมูลหรือ ทีโออาร์ (TOR) รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 11/2560 และจะพิจารณา TOR ใหม่ให้สอดคล้องกับมติของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) ที่มี นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้จะเสนอทีโออาร์ใหม่ของรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร ให้บอร์ดเห็นชอบเป็นโครงการแรก เนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าต่ำที่สุดและไม่ต้องแบ่งสัญญางานโยธาเหมือนโครงการอื่น โดยเมื่อแยกสัญญาระบบอาณัติสัญญาณออกไปแล้ว เส้นทางช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์จะเหลือสัญญางานโยธาและระบบราง 1 สัญญาเท่าเดิม แต่มูลค่าสัญญางานโยธาจะลดลงจาก 9,800 ล้านบาท เหลือประมาณ 8,500 ล้านบาท ทั้งนี้ ทีโออาร์ เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ จะเป็นต้นแบบของอีก 4 โครงการที่เหลือ

ดังนั้น ถ้าบอร์ด รฟท. เห็นชอบทีโออาร์เส้นทางแรกแล้ว ก็จะทำให้โครงการอื่นๆ จัดทำทีโออาร์ใหม่ได้ง่าย ขณะเดียวกัน ถ้าเห็นว่าทีโออาร์โครงการอื่นไม่แตกต่างจากเส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ก็จะขอให้บอร์ด รฟท. เห็นชอบหลักการ TOR ใหม่ในคราวเดียวกัน เพื่อความรวดเร็ว โดยส่วนตัวตั้งเป้าว่าจะผลักดัน ทีโออาร์ รถไฟทางคู่ใหม่สัปดาห์ละ 1 เส้นทาง

"ถ้าบอร์ดเห็นชอบ ทีโออาร์เส้นทางรถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบฯ ก็เปิดรับฟังความคิดเห็นก่อนช่วงสงกรานต์ หากทุกอย่างราบรื่นก็จะประกาศเชิญชวนเอกชนให้ร่วมประมูลได้ช่วงปลายเดือน เม.ย. และคาดว่าจะได้ตัวในเดือน มิ.ย. ตามเป้าหมายของรัฐบาล ส่วนโครงการอื่นๆ จะทยอยตามมาไล่เลี่ยกัน"

นอกจากนี้ ต้องเสนอให้บอร์ด รฟท. ทบทวนโครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง ระยะทาง 2,217 กิโลเมตร มูลค่ารวม 390,000 ล้านบาท ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ปี 2560 เพื่อให้โครงการรถไฟทางคู่ทั้งหมดสอดคล้องกับความเห็นของซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง.

[Wisarut]

[Wisarut]

รฟท.คาดเปิดขายซองประมูลรถไฟทางคู่ หัวหิน-ประจวบฯ ปลายเม.ย.,อีก 4 เส้นทยอยเปิดพ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 เมษายน 2560 11:08:10 น.

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการ รฟท.วานนี้อนุมัติร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. ซึ่งเป็นงานโยธา มูลค่าประมาณ กว่า 8 พันล้านบาท

ทั้งนี้ รฟท.จะนำ TOR ดังกล่าวเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซด์เพื่อเปิดให้แสดงความคิดเห็นในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ใช้เวลาประมาณ 4 วันทำการ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็น 2 ครั้ง จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการ รฟท.อนุมัติร่าง TOR ก่อนเปิดขายเอกสารประกวดราคาที่คาดว่าดำเนินการได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ พร้อมการกำหนดราคากลาง โดยรอบนี้จะให้เวลาเอกชนเตรียมเอกสาร 1 เดือนเพื่อกลับมา ยื่นข้อเสนอให้พิจารณา และคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาประมาณปลาย มิ.ย.60

ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ, ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ, ช่วงนครปฐม-หัวหิน, ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรนั้น นายอานนท์ กล่าวว่า คณะกรรมการ รฟท.จะทยอยพิจารณาร่าง TOR สัปดาห์ละ 1 เส้นทาง คาดว่าจะพิจารณาได้ครบทุกเส้นทางราวต้นเดือน พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ที่ปรึกษาโครงการได้ปรับราคากลางใหม่ทั้งหมด

ขณะที่ระบบอาณัติสัญญาณ 3 สัญญาน้น รฟท.เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบประมูล คาดว่าต้องรอให้งานโยธาก่อสร้างไป 6 เดือนก่อนเป็นอย่างน้อยจึงจะเปิดประมูล

"ภายใน 4 สัปดาห์ จะทยอยดู TOR โดยดูสัปดาห์ละ 1 เส้น...TOR ถ้าเนื้อหาหลักไม่เปลี่ยนไม่ต้องเข้าบอร์ด เพียงแต่เปลี่ยนราคากลาง โดยจะเข้าบอร์ดเพื่อขออนุมัติการเปิดขายซองประมูล" รักษาการ ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

อนึ่ง การทบทวน TOR โครงการก่อสร้างโครงการถไฟทางคู่ 5 เส้นทางเป็นไปตามมติคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง ให้แบ่งสัญญามูลค่าลดลงให้เหลือมูลค่าโครงการประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท และให้แยกการประมูลระบบอาณัติสัญญาณออกมาจากงานโยธาและระบบราง

โดย 5 เส้นทางเป็น สัญญางานโยธาและระบบรางมี 9 สัญญา งานก่อสร้างอุโมงค์ 1 สัญญา และงานระบบอาณัติสัญญาฯ 3 สัญญา รวม 13 สัญญา โดยแบ่งเป็น

(1) ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. มีงานโยธาและระบบราง 2 สัญญา งานระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

(2) ช่วงมาบกะเบา- ชุมทางจิระ ระยะทาง 132 กม. งานโยธาและระบบราง 2 สัญญา งานอุโมงค์ทางรถไฟและระบบราง 1 สัญญา งานระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

(3) ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม.
(4) ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม.
(5) ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. มีงานโยธาและระบบราง 5 สัญญา ส่วนงานระบบอาณัติสัญญาณจะรวมกันเป็น 1 สัญญา

[Wisarut]

ได้ฤกษ์เคาะทีโออาร์ทางคู่
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
8 เมษายน 2560 06:01

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟท. มีมติเห็นชอบร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) งานโยธาและระบบราง รถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 8,500 ล้านบาท คาดว่าจะประกาศเชิญชวนเอกชนให้เข้าร่วมการประมูลปลายเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งจะรู้ผลผู้ชนะการประมูลสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะลงนามในสัญญาก่อสร้าง ก.ค.และเริ่มก่อสร้างช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตามในขั้นตอนจากนี้ รฟท.เสนอร่าง TOR ให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) พิจารณาก่อนนำขึ้นเปิดรับฟังความเห็นบนเว็บไซต์ รฟท. ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ จากนั้นจะนำความเห็นมาประมวลเพื่อปรับปรุงร่าง TOR และเปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 2 ใช้เวลาอีก 4 วันทำการ

ทั้งนี้การรับฟังความเห็นร่าง TOR เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ หากไม่มีการแปลงในสาระสำคัญ บอร์ด รฟท.จะนำร่าง TOR สัญญาโยธาและระบบรางของรถไฟทางคู่ อีก 4 โครงการรวม 9 สัญญา ขึ้นรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์ เพราะ TOR สัญญางานโยธาทุกฉบับใกล้เคียงกัน แต่ รฟท.ต้องเสนอร่าง TOR ทั้งหมดให้บอร์ดเห็นชอบก่อนนำไปประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมประมูล หากเป็นไปตามขั้นตอนปกติ บอร์ด รฟท.ต้องเห็นชอบร่าง TOR ฉบับละ 3 ครั้งถึงเปิดประมูลได้ “ตั้งเป้าว่าจะจัดทำร่าง TOR งานโยธาเสร็จสัปดาห์ละ 1 โครงการ หรือแล้วเสร็จทั้งหมด 10 สัญญา 5 โครงการภายในต้นเดือน พ.ค.นี้ ส่วน TOR ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณอีก 3 สัญญาจะพิจารณาอีก 1-2 เดือนหลังจากนั้นต้องรอให้งานโยธาคืบหน้าไปแล้ว 6 เดือน จึงเข้าพื้นที่ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ”

สำหรับรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง ระยะทาง 2,217 กิโลเมตร วงเงิน 390,000 ล้านบาท ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ปี 2560 ที่ต้องเสนอให้บอร์ด รฟท.ทบทวนด้วยนั้น จะยังไม่สามารถเสนอให้ทบทวนรถไฟทางคู่ทั้ง 9 เส้นทางในครั้งนี้อาจจะเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดครั้งต่อไป.


อ่านข่าวต่อได้ที่:
http://www.ryt9.com/s/nnd/2629583

[Wisarut]

10 เม.ย. รถไฟประกาศทีโออาร์ประมูลทางคู่ เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งเป้าเริ่มก่อสร้าง ส.ค. นี้
ข่าวสด
วันที่ 7 เมษายน 2560 - 20:30 น.

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า บอร์ดมติเห็นชอบร่างเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) งานโยธาและระบบราง โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ รฟท. จะเสนอร่างทีโออาร์ ให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) พิจารณารายละเอียดและนำขึ้นรับฟังความเห็นในเว็บไซต์ของ รฟท. เป็นครั้งแรกในวันที่ 10 เม.ย. นี้ เป็นเวลา 4 วันทำการ จากนั้นจะนำความเห็นมาประมวลเพื่อปรับปรุงร่างทีโออาร์ และจะรับฟังความเห็นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายเป็นเวลาอีก 4 วันทำการ

“คาดว่าจะขายซองเชิญชวนเอกชนให้เข้าร่วมการประมูลช่วงปลายเดือนเม.ย. ทราบผลผู้ชนะการประมูลประมาณสิ้นเดือนมิ.ย. และลงนามเซ็นสัญญาก่อสร้างในเดือนก.ค. โดยตั้งเป้าที่จะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายเดือนส.ค. นี้”

ทั้งนี้ หากการเปิดรับฟังความเห็นร่างทีโออาร์ ไม่มีการแปลงแปลงสาระสำคัญ บอร์ดรฟท. ก็ให้นำร่างทีโออาร์ สัญญาโยธาและระบบรางของรถไฟทางคู่อีก 4 โครงการรวม 9 สัญญา ขึ้นรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์ได้เลย เพราะทีโออาร์ สัญญางานโยธาทุกฉบับใกล้เคียงกัน แต่ รฟท. ต้องเสนอร่างทีโออาร์ ทั้งหมดให้บอร์ดเห็นชอบก่อนนำไปประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมประมูล ซึ่งถ้าทำตามขั้นตอนปกติ บอร์ดรฟท. ต้องเห็นชอบร่างทีโออาร์ ฉบับละ 3 ครั้งถึงเปิดประมูลได้


“ตั้งเป้าว่าจะจัดทำร่างทีโออาร์ งานโยธาเสร็จสัปดาห์ละ 1 โครงการ หรือแล้วเสร็จทั้งหมด 10 สัญญา 5 โครงการภายในต้นเดือนพ.ค.นี้ ส่วนทีโออาร์ ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณอีก 3 สัญญาจะพิจารณาอีก 1-2 เดือนหลังจากนั้น เพราะต้องรอให้งานโยธาคืบหน้าไปแล้ว 6 เดือน จึงเข้าพื้นที่ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณได้” นายอานนท์กล่าว

นายอานนท์กล่าวถึงโครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง ระยะทาง 2,217 กิโลเมตร มูลค่ารวม 3.9 แสนล้านบาท ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ปี 2560 ที่ต้องเสนอให้บอร์ดรฟท. ทบทวนด้วย ว่า ไม่สามารถเสนอให้บอร์ดทบทวนรถไฟทางคู่ทั้ง 9 เส้นทางได้ในครั้งนี้ เพราะมีปัญหาในการเตรียมเอกสาร จึงก็จะเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดครั้งต่อไปพิจารณาแทน

ขณะเดียวกัน บอร์ดรฟท. เห็นชอบหลักการจัดตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สิน แต่ต้องแก้ไขผลการศึกษาให้เป็นไปตามความเห็นของบอร์ดก่อน โดยคาดว่าที่ปรึกษาโครงการน่าจะใช้เวลาแก้ไขไม่เกิน 1 เดือนก็จะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้

[Mongwin]