RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179946
ทั้งหมด:13491178
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 187, 188, 189 ... 388, 389, 390  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/11/2017 9:31 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ครม.สัญจร รับข้อเสนอกรอ. เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานลงใต้เอาใจเอกชน
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 - 17:24 น.

คมนาคมโชว์แผน 4 ด้านโครงข่ายคมนาคมภาคใต้
ฐานเศรษฐกิจ 28 November 2017

วันนี้ (28 พ.ย.60) เวลา 09.00 น. ณ อาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2560 ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบ กรอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภาคใต้ ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ 4 ด้านหลักที่อยู่ระหว่างดำเนินการและที่จะดำเนินการในอนาคต ประกอบด้วย

Click on the image for full size

1.การพัฒนา/ปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐานทางถนน เพื่ออำนวยความสะดวก ในการเดินทางของประชาชน ให้เกิดความปลอดภัย มีประสิทธิภาพพร้อมรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โครงการสำคัญมี โครงการทางหลวงเชื่อมโยงประเทศมาเลเซีย (ช่วงจังหวัดสงขลา) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมถนนเพชรเกษมเชื่อมโยงจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง โครงการสะพานข้ามแม่น้ำโกลก 2 แห่ง ที่อำเภอตากใบและอำเภอสุไหงโกลก โครงการถนนสายเล็งใต้ - โกตาบารู (รวมสะพานข้ามแม่น้ำสายบุรี เป็นต้น

2. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคม เพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ โครงการสำคัญ อาทิ โครงการถนนเพื่อการท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตกในพื้นที่จังหวัดระนองและจังหวัดชุมพร โครงการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise) ที่จังหวัดกระบี่และเกาะสมุย โครงการปรับปรุงและพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่ ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตรัง และนครศรีธรรมราช และโครงการปรับปรุงและพัฒนาท่าอากาศยานนราธิวาส และเบตง

3. การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมขนส่งทางน้ำเพื่อเป็นประตูการค้า การลงทุน มีโครงการคือ โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกสงขลา แห่งที่ 2 โครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลอ่าวปัตตานี โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือชายฝั่งปัตตานี และศึกษาความเหมาะสมเพื่อปรับปรุงขยายท่าเทียบเรือปัตตานีให้รองรับได้ขนาดมากกว่า 5,000 ตันกรอส

4. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางรถไฟ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 6 เส้นทาง เช่น ช่วงชุมพร- สุราษฎร์ธานี ช่วงสุราษฎร์ธานี – หาดใหญ่ – สงขลา และช่วงสุราษฎร์ธานี –พังงา – ภูเก็ต โครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ เป็นต้น

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/11/2017 2:59 pm    Post subject: Reply with quote

'สมคิด'เร่งเบิกจ่ายงบปี61-ชงครม.ทางคู่5เส้น
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 13:53 น.

รองนายกฯสมคิด เร่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบปี 61 ตามเป้า เตรียมชงครม.รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางในปีนี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ว่า ในปีงบประมาณ 2561 ให้ทุกหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนที่ 506,162 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าหากทุกหน่วยงานปรับแผนงานจะทำให้รัฐวิสาหกิจไม่ต้องเร่งเบิกจ่ายในช่วงท้ายงบประมาณแบบที่ผ่านมา โดยในปีงบประมาณ 2561 นั้น มีโครงการขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก อย่างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง รวม 13 สัญญานั้น ที่ผ่านมาได้ปรับเปลี่ยนเนื้องาน และดำเนินงานใหม่ ซึ่งจะเร่งรัดให้เสนอเข้าคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ให้เร็วที่สุดในปีนี้

นอกจากนี้ ครม.รับทราบแนวทางการใช้จ่ายเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีสภาพคล่องอยู่ประมาณ 150,000 ล้านบาทนั้น จะต้องมีกรอบการใช้งบประมาณเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างชัดเจน ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ร่วมหารือกับ กระทรวงมหาดไทย ว่าจะเป็นในทิศทางใด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/11/2017 7:49 am    Post subject: Reply with quote

5 แสนล้านพัฒนาภาคใต้ ขอแค่รถไฟทางคู่ก่อนได้ไหม
ไทยรัฐออนไลน์ โดย ลม เปลี่ยนทิศ 30 พ.ย. 2560 05:01

การประชุม ครม.สัญจรภาคใต้ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดสงขลา ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ สภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ สมาคมธนาคารไทย เมื่อวันอังคาร หอการค้าภาคใต้ ได้เสนอ โครงการพัฒนาภาคใต้ 14 โครงการ มูลค่า 5 แสนล้านบาท ให้ ครม.พิจารณา ถ้าสำเร็จจะทำให้เศรษฐกิจภาคใต้เติบโตได้ไม่ตํ่ากว่า 6% สภาพัฒน์ ก็เสนอ ร่างแผนพัฒนาภาคใต้อย่างอลังการทุกมิติ ตั้งแต่ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การเชื่อมการค้าโลก ให้ ครม.อนุมัติเหมือนกัน ล้วนเป็นแผนสวยหรูทั้งสิ้น

ขณะที่ผมเขียนคอลัมน์วันนี้ การประชุม ครม.ยังไม่เสร็จ จึงยังไม่รู้มติ

ภาคใต้เป็นขุมทรัพย์การท่องเที่ยวของไทย มานานแล้ว จากธรรมชาติทางทะเลและเกาะแก่งอันสวยงาม จนมีชื่อเสียงติดระดับโลก แต่กลับถูกรัฐบาลทอดทิ้งการพัฒนามานานกว่าสิบปี เพราะความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน ถนนลงภาคใต้คับแคบและทรุดโทรมหมดแล้ว รถไฟทางคู่ที่วาดฝันกันตั้งแต่ปีมะโว้ ผ่านมาเป็นสิบปีก็ยังไม่เกิด ถ้าการคมนาคมภาคใต้เจริญกว่านี้ ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจภาคใต้จะพลิกฟื้นทันที

ครม.สัญจรภาคใต้ครั้งนี้ หอการค้าภาคใต้ และสภาพัฒน์ต่างก็เสนอ ครม.ให้สร้าง "รถไฟทางคู่ 1 เมตร" ตั้งแต่ ชุมพร ไปถึงหาดใหญ่ และ ปาดังเบซาร์ เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่มาเลเซีย ที่เป็นโครงการบนแผ่นกระดาษมานานแล้ว และทางรถไฟสายใหม่เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน รวมทั้งมอเตอร์เวย์เชื่อมมาเลเซียเพื่อขนส่งสินค้า การขยายด่านปาดังเบซาร์ที่แออัด รถบรรทุกติดยาวเหยียดเป็นสิบกิโลฯทุกวัน

คุณทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการการรถไฟฯ ก็จะเสนอ ครม. สัญจรเหมือนกัน ให้พิจารณาอนุมัติ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ตั้งแต่ ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม. สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่ ระยะทาง 339 กม. และ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. เพื่อเชื่อมต่อรถไฟทางคู่มาเลเซีย หาก ครม. เห็นชอบ คาดว่าจะประกวดราคาได้ในต้นปีหน้า

เสนอกันถึง 3 หน่วยงาน ผมเชื่อว่า ครม.สัญจรคงอนุมัติเพื่อเอาใจคนภาคใต้ แต่จะได้สร้างเมื่อไหร่ไม่รู้ คงต้องไปลุ้นเอาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

เรื่อง รถไฟทางคู่ภาคใต้ เป็นเรื่องเก่าโคตรที่ ครม.อนุมัติมาตั้งแต่ปี 2553 แล้ว การประชุม ครม.สัญจรที่ภูเก็ต ปี 2555 ครม.ได้ตอกย้ำให้ รถไฟทางคู่ภาคใต้ ตั้งแต่ กรุงเทพฯ ไปถึง ชุมพร ลงไปแดนใต้สุดที่ สุไหงโก-ลก และ ปาดังเบซาร์ เป็น โครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน พ.ศ.2553-2557

ก็ไม่รู้เร่งด่วนแบบไหน วันนี้ 30 พฤศจิกายน 2560 ผ่านระยะเร่งด่วน 4 ปี มา 7 ปีแล้ว อีกหนึ่งเดือนจะสิ้นปี 2560 แล้ว โครงการรถไฟทางคู่ภาคใต้ยังอยู่บนแผ่นกระดาษ ไม่มีทางรถไฟเกิดขึ้นแม้แต่นิ้วเดียว การประชุม ครม.สัญจรภาคใต้ครั้งนี้ การรถไฟ หอการค้าภาคใต้ และ สภาพัฒน์ นำมาเสนออีกครั้ง ผมก็หวังว่า ครม.สัญจรครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำให้ความฝันของชาวใต้เป็นจริงเสียที เห็นรัฐบาลกำลังสนใจ รถไฟความเร็วสูงจีน ที่จะสร้างจาก หนองคาย ผ่าน โคราช กรุงเทพฯ ลงใต้ไปเชื่อมรถไฟความเร็วสูง มาเลเซีย สิงคโปร์ ตามเส้นทาง One Belt One Road

ผมเคยเขียนย้ำในคอลัมน์นี้มาหลายปีว่า รถไฟทางคู่ราง 1 เมตร คือ เส้นเลือดใหญ่และเส้นเลือดฝอยของคนไทย โดยเฉพาะ คนในชนบทที่ยากจน ไม่มีปัญญานั่งรถไฟความเร็วสูงราคาแพง ยิ่งให้ขนสินค้าเกษตรด้วยรถไฟความเร็วสูง ยิ่งเป็นเรื่องเพ้อฝัน มีแต่เครือข่ายรถไฟทางคู่ราง 1 เมตร ที่เข้าถึงทุกอำเภอ ทุกจังหวัด จึงจะช่วยให้คนไทยพ้นจากความยากจนได้ แต่ก็ไม่มีรัฐบาลทำ อยากจะได้แต่รถไฟความเร็วสูงราคาแพง

หากครั้งนี้ ครม.อนุมัติรถไฟทางคู่ภาคใต้ และ บังคับให้มีการลงทุนจริง ผมเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจของ 14 จังหวัดภาคใต้ เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือทันที นี่คือ “ความยั่งยืนอย่างแท้จริง” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงตลอดเวลา.

"ลม เปลี่ยนทิศ"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/12/2017 10:03 am    Post subject: Reply with quote

นายกฯร่วมหารือพอช. เยียวยาชุมชนริมทางรถไฟและตั้งศูนย์คนไร้บ้านขก.
เทศบาลนครขอนแก่น 1 ธ.ค. 60

นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมหารือสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ช่วยเหลือเยียวยาชุมชนริมทางรถไฟ และจัดตั้งศูนย์คนไร้บ้านขอนแก่น

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.30 น. ณ ห้องทำงานนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมหารือ นายปฏิภาณ จุมผา ผู้อำนวยการสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เข้าพบเพื่อแนะนำตัว พร้อมนำคณะประกอบด้วย นายวิชัย นะสุวรรณโน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นางสนอง รวยสูงเนิน ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นางณัฐนิชา อรรคฮาดจันทร์ อนุกรรมการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายสุทิน เอี่ยมอินทร์ นายกสมาคมคนไร้บ้าน และกลุ่มเพื่อนคนไร้ที่พึ่ง เข้าพบนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นเพื่อปรึกษาหารือประเด็นการช่วยเหลือเยียวยาชุมชนริมทางรถไฟที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟรางคู่ และการจัดตั้งศูนย์คนไร้บ้านจังหวัดขอนแก่น

เทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกับ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และเครือข่ายชุมชนริมทางรถไฟ ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงโดยการร่วมจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เพื่อกู้เงินจาก พอช.ซื้อที่ดินและสร้างบ้าน ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในชุมชนริมทางรถไฟที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟรางคู่ โดยให้กลุ่มประชาชนในชุมชนที่มีความสามารถในการผ่อนซื้อได้เข้าร่วมโครงการ แต่ยังมีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่ยากจนจริงๆ ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จึงได้มีการหารือร่วมกับกับพอช.ว่าจะจัดหาที่ดินเพื่อสร้างบ้านเป็นลักษณะอาคารสูงเพื่อให้ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง สามารถเช่าซื้อได้ในราคาถูก ซึ่งทางพอช.ก็ตอบรับในหลักการ ซึ่งทางเทศบาลจะประชุมร่วมกับพี่น้องชุมชนทางรถไฟต่อไป

นอกจากนี้ยังได้หารือประเด็นกลุ่มคนไร้บ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้กระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ได้อนุมัติงบประมาณใน การจัดตั้งศูนย์คนไร้บ้าน ในประเทศไทย 3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในขณะนี้สามารถจัดซื้อที่ดินได้แล้ว จะเริ่มลงมือและก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2561 พอช.จึงเข้าพบนายกเพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินการในส่วนต่างๆ โดยจะชักชวนคนไร้บ้านที่เร่ร่อนที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่นเข้ามาอยู่อาศัย ใช้เป็นสถานที่ตั้งหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งหน่วยงานภาคีเครือข่ายจะต้องมีการหารือร่วมกันเพื่อสร้างกระบวนการในการสนับสนุนด้านอาชีพเพื่อให้กลุ่มคนไร้บ้านมีอาชีพที่เหมาะสมมีรายได้ที่มั่นคง ขณะเดียวกันก็จะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มคนไร้บ้านได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านให้ดีขึ้นและยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เตรียมความพร้อมในการที่จะมีชีวิตและที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นพร้อมร่วมมืออย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาเชิงสังคม ซึ่งคาดว่าจะต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อเตรียมแนวทางในการดำเนินโครงการต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/12/2017 8:20 am    Post subject: Reply with quote

ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 1 ธันวาคม 2560
ทำเนียบ รัฐบาล Published on Dec 1, 2017


https://www.youtube.com/watch?v=HBkKNltlTao

พี่น้องประชาชนชาวไทย ที่รักครับ
การลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งที่ผ่านมานี้ ผมต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งข้าราชการ ภาคเอกชน หอการค้า อุตสาหกรรม ผู้นำท้องถิ่น อปท. พี่น้องประชาชน และเกษตรกรที่ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง ในส่วนของที่ยังมีปัญหาอยู่ รัฐบาลก็รับจะไปดูแล แก้ปัญหาให้ ไม่ว่าจะเรื่องของประมง เรื่องของยาง หรือผลิตผลการเกษตรอื่น รัฐบาลก็พยายามจะทำอย่างเต็มที่ บางอย่างต้องใช้เวลาบ้าง บางอย่างก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พันธสัญญาต่าง ๆ อีกมากมาย ทุกคนต้องช่วยกัน อาจจะต้องมีการเสียสละกันบ้างในบางส่วน สำหรับภาคใต้ของเรานั้น ทุกคนทราบดีว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งเกษตร ปศุสัตว์ ประมง บริการ การท่องเที่ยว ทั้งทางบกและทางทะเล ชายฝั่ง ชายแดน รวมถึงวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์มาอย่างยาวนาน และยังมีพืชเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งยาง ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ และไม้ยืนต้น ที่ทำรายได้ให้กับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนในภาคใต้ ยังต้องเผชิญปัญหากับปัญหาความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้ มีช่องว่างอยู่มาก การเข้าถึงบริการภาครัฐ อันนี้ถือว่าเป็นข้อจำกัดที่สำคัญในการพัฒนาพื้น ไม่สามารถใช้สู่ศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ รัฐบาลก็ต้องเร่งพัฒนาภาคใต้ให้มีความเจริญที่เท่าเทียม กับภาคอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงการประกอบอาชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเข้าถึงโอกาสรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งการพัฒนาในเรื่องของดิจิตอล เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อจะเพิ่มการเรียนรู้ ในเรื่องที่เป็นสาระแล้วในเรื่องที่จะทำให้ทุกคนได้มีช่องทางในการพัฒนาตนเอง รวมความไปถึงเรื่องการค้าขายต่าง ๆ ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเราก็จะเชื่อมต่อกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ดิจิตอลจะมาช่วยได้มากขึ้น ก็ขอให้เตรียมการของตัวเองไว้ด้วย ให้พร้อม ใครที่รู้มากกว่าคนอื่นสอน แนะนำคนอื่นด้วย ไม่งั้นก็ไปไม่ทั่ว รัฐบาลบางครั้งก็ทำได้ลำบาก เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนช่วยกัน พี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อน คนแข็งแรงกว่าก็ต้องช่วยเหลือผู้อ่อนแอกว่า

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีการหารือกับภาครัฐและเอกชน รวมความไปถึงในส่วนของท้องถิ่นด้วย เพื่อจะเร่งดำเนินการมาตรการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ให้ได้ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งผมถือว่าเป็นหลักการในการที่จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงเพิ่มมูลค่าต่าง ๆ ทั้งกายภาพ และมิติอื่นด้วย เพราะว่าในอนาคตข้างหน้านั้น เราคำนึงถึงความเชื่อมโยงกับภาคอื่น ๆ และสองฝั่งทะเลระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน มีหลายวิธีการ

เพราะฉะนั้นต้องเดินไปเป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุน การขนส่ง และการท่องเที่ยวรวมไปถึงการพัฒนาโครงข่ายทั้งระบบการขนส่งของภาคใต้ให้สมบูรณ์ เพื่อให้สามารถเดินหน้า การพัฒนาต่าง ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยจะมีการพิจารณาลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วน ในการดำเนินงานโครงการหลัก ๆ ไม่ใช่บอกว่าจะลงทุน ห้าแสนล้านบาท เราไม่มีเงินขนาดนั้น ต้องวางแผนงานให้ทุกกระทรวง ทบวงกรม อะไรทำก่อน อะไรทำหลัง ใช้งบประมาณอย่างไร อันนั้นคือหลักการรัฐบาลก็เห็นชอบในหลักการว่าจะทำอะไรบ้างที่เขาต้องการมา แต่ต้องทยอยดำเนินการไป หลายอย่างก็อยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว ในการดำเนินงานโครงการหลัก ๆ อันได้แก่

1. การพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงโครงข่ายระบบราง เช่น รถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี–หาดใหญ่ และช่วงหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ การก่อสร้างรถไฟสายใหม่ เชื่อมรถไฟสายใต้เส้นทางสุราษฏร์ธานี–พังงา และ สุราษฎร์ธานี-ดอนสัก ก็จะต้องเร่งดำเนินการ ทำให้ได้โดยเร็ว

2. การพัฒนาท่าเรือเชื่อมโยงโครงข่ายทางทะเล เช่น การพัฒนาท่าเรือครุยส์ สำหรับการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เรือขนาดใหญ่ การสร้างท่าเรือน้ำลึกในการขนส่งสินค้า ซึ่งจะต้องมีการขุดขยายร่องน้ำ ให้เป็นท่าเรือน้ำลึก เพิ่มเติมขึ้น ก็ขอความร่วมมือด้วย ไม่อย่างนั้นก็ขัดแย้งไปทั้งหมด ทำไม่ได้สักอย่าง

3. การพัฒนาและปรับปรุงสนามบินเพื่อให้เชื่อมโยงโครงข่ายทางบกและทางราง ให้สะดวกสามารถรองรับนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกวันนี้ รวมถึงการพิจารณาสร้างสนามบินแห่งใหม่ตามความจำเป็น เพราะฉะนั้นทุกคน ถ้าเราไม่เพิ่มอะไรเลยก็เท่าเดิม มูลค่าต่าง ๆ ก็ไม่เกิดขึ้น ถ้าเราจะสร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ ต้องทำเรื่องพวกนี้

4. การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายทางถนน ก็มีหลายถนน หลายเส้นทางที่ภาคใต้มีความต้องการ บางอย่างอยู่ในแผนแล้ว บางอย่าก็เร่งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อให้โครงการเดินต่อได้โดยเร็ว ทุกโครงการ ติด EIA เพราะฉะนั้นก็ต้องไปหาทางออก ทำให้ได้ มีทั้งคนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยในกรณีปัญหายางพารา ก่อนอื่นก็อยากให้ทุกคนได้เข้าใจทั้งระบบ ผมพูดมาหลายครั้งแล้ว ก็คือการผลิตหรือการปลูก การแปรรูป และการใช้ประโยชน์ เพื่อจะให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ดีกว่าจะไปแก้ปลายทางทุกครั้ง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/12/2017 12:53 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ชงครม.อนุมัติทางคู่5เส้น19ธค.ดันเฟส2อีก9เส้น
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2560 8:30 น.

รฟท. เสนอที่ประชุม ครม. อนุมัติรถไฟทางคู่ 5 เส้น 18 ธ.ค.นี้ พร้อมเร่งรัดดันเฟส 2 เพิ่ม 9 เส้น มูลค่า 3.98 แสนล้านบาท ประมูลกลาง ปี 61

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่าในวันที่ 19 ธันวาคม 2560 รฟท. ได้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรก 5 เส้นทาง 9 สัญญา ประกอบด้วย ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ นครปฐม-หัวหิน ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ใน ปี 2561 จะผลักดันโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทาง ระยะทาง 2,217 กิโลเมตร มูลค่ารวม 3.98 แสนล้านบาท โดยจะทยอยเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ จากนั้นจะทยอยเปิดประมูลได้ช่วงกลางปี 2561
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/12/2017 6:30 pm    Post subject: Reply with quote

“อาคม” แบ่งงาน “ไพรินทร์” ให้คุมฟื้นฟูการบินไทย-ร.ฟ.ท.-ขสมก. ลุยซื้อเมล์NGV เข็นไฮสปีด2สายเชื่อมอีอีซี-หัวหิน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 4 ธันวาคม 2560 - 18:16 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้แบ่งหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมให้นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ กำกับดูแลพร้อมกับเร่งรัดโครงการในส่วนของทางบก ทางราง และทางน้ำ ประกอบด้วย 1.กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เรื่อง ปฏิรูปเส้นทางรถเมล์และปรับบทบาทกรมการขนส่งทางบกให้เป็นเรกูเลเตอร์

2.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งรัดเรื่องการระดมทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) วงเงิน 44,819 ล้านบาท สร้างทางด่วน 2 สาย คือ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก กับทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ช่วง N2-N3

3.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.เร่งจัดซื้อรถเมล์ NGV ล็อตแรก 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายปี 2561

4.บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)

5.กรมเจ้าท่า (จท.) เร่งรัดการพัฒนาเรือคุรยส์ที่ จ.กระบี่และภูเก็ต รวมถึงพัฒนาเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่เชื่อมทะเลอ่าวไทยสำหรับรองรับรถยนต์ จากปัจจุบันรองรับได้เฉพาะผู้โดยสาร และให้เร่งสะสางปัญหา IUU

6.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ให้เร่งลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 วงเงินกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

7.การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟท.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด โดยเร่งรัดการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา และรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน อีกทั้งให้เร่งรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทางให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเซ็นสัญญาเฟสแรก 5 เส้นทางให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้

อีกทั้งให้ช่วยดูเรื่องแผนฟื้นฟู 3 หน่วยงาน ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟฯและ ขสมก. ให้เป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

“โดยรวมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยังดูแลอยู่ แต่รัฐมนตรีช่วยจะมาช่วยแบ่งเบาภารกิจในการขับเคลื่อนงาน”

นายไพรินทร์กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนทำตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเน้นย้ำให้ทำงานโดยคำนึ่งถึงความสุขและความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญสุด ขอให้รัฐมนตรีใหม่ใช้ปัญญาาและความอดทนเป็นแนวทางในการทำงาน

“เวลาของรัฐบาลเหลืออีก 1 ปีนับจากนี้ ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมทำงานไปได้มากแล้ว เรามาถึงเตรียมเตะลูกโทษ ไม่ต้องเตะแล้ว ให้ชู้ตลูกเข้าโกไปเลย ให้ประชาชนได้ใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ให้ประเทศก้าวหน้าไปอีกขั้น ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญมากของกระทรวงคมนาคม ใน 3 เดือนนี้โครงการต่างๆ จะมีความก้าวหน้ามากขึ้นไปอีก ตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยเราอยู่ในช่วงฟื้นตัวขาขึ้น ทั้งจีดีพีก็ดี ในการแข่งขันของประเทศก็ดี ช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะสมมากจะออกแรงผลักดันโครงสร้างพื้นฐานออกไปให้ลุล่วงตามแผนที่วางไว้”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/12/2017 7:56 am    Post subject: Reply with quote

'อาคม'มอบงานรมช.คมนาคมปลดหนี้รสก.
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2560 18:55 น.

"อาคม" มอบงาน รมช.คมนาคมคนใหม่ ดูแลรัฐวิสาหกิจปลดหนี้กว่า 2 สองแสนล้าน เล็งชงครม.เห็นชอบ รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-หัวหินปี61

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ดูแลแผนฟื้นฟูองค์กรรัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคมซึ่งมีหนี้สินรวมกันมากกว่า 200,000 ล้านบาท อาทิ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหเร่งรัดให้จัดหารถเมล์ NGV489 คันให้ได้ภายใน 2561 ขณะที่ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือ รฟท.ต้องจัดตั้งบริษัทลูก 2 แห่งให้ได้ประกอบด้วยบริษัทบริหารทรัพย์สินและบริษัทเดินรถ เพื่อเข้าสู่แนวทางการเพิ่มรายได้ให้กับองค์กรและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อล้างหนี้สินควบคู่ไปกับเร่งผลักดันโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสามสนามบิน วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท และโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-หัวหิน ระยะทาง วงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในปี 2561

ส่วน ความคืบหน้าโครงการโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 13 สัญญานั้น คาดว่าจะสามารถเสนอครม.และลงนามสัญญาได้เลยภายในเดือนธ.ค.นี้ เช่นเดียวกับการเสนอครม.พิจารณาเห็นชอบให้กรมทางหลวงเข้าพื้นที่ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะแรก 3.5 กิโลเมตร ด้านโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง ระยะทาง 2,217 กิโลเมตร มูลค่ารวม 3.98 แสนล้านบาท จะทยอยเสนอผลการศึกษาโครงการในช่วงต้นปี 2561 นอกจากนี้สำหรับโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของ ปี 2561 โครงการใหม่8 โครงการอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/12/2017 8:35 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เปิดประตูศก.สู่แดนใต้เชื่อมมาเลเซีย
คอลัมน์เกาะติดเมกะโปรเจ็กต์ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 3-พุธ 6 ธันวาคม 2560 หน้า 12 (ล่างซ้าย)

นอกจากรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย โดยกรมทางหลวงแล้ว หลายคนคงจะได้เคยเห็นภาพรถไฟของมาเลเซียที่ใช้ระบบไฟฟ้าจอดเทียบกับรถไฟระบบดีเซลของไทยไปเมื่อไม่นานมานี้จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์กันบนโลกออนไลน์ถึงความทันสมัยด้านการพัฒนาระบบรางของประเทศมาเลเซียกับความล่าช้าของการพัฒนาระบบรางของไทย

แม้ว่าสถานการณ์การค้าชายแดนของพื้นที่ชายแดนใต้อย่างปาดังเบซาร์จะมีความหนาแน่นด้านรถบรรทุก แต่ปรากฏว่ามาเลเซียจะมีการพัฒนาระบบรางมาเชื่อมถึงชายแดนได้เร็วกว่าไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะระบบรางคู่และใช้ระบบไฟฟ้า ดังนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)จึงเร่งศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะได้รับการผลักดันที่ล่าช้า ทั้ง ๆ ที่การค้าชายแดนในพื้นที่ดังกล่าวมีตัวเลขรายได้นำเข้า-ส่งออกที่สูงมาก ดังจะเห็นได้จากขบวนรถบรรทุกติดยาวนับสิบกิโลเมตร จึงน่าจะดึงดูดใจให้รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ระบบรถไฟทางคู่เส้นทางนี้ถือได้ว่าเป็นเส้นทางเปิดประตูเศรษฐกิจแดนใต้เชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลเซียได้อย่างลงตัว ออกแบบรถโดยสารมีขนาดความเร็ว 120 กม./ชม. ส่วนขบวนรถสินค้า ใช้ความเร็ว 90 กม./ชม. (เมื่อใช้งานจริง) ระยะทาง 48 กิโลเมตร ผ่าน 3 สถานีหลัก ได้แก่ ชุมทางหาดใหญ่ สถานีคลองแงะ และที่หยุดรถฝั่งไทยเชื่อมต่อไปยังสถานีปาดังเบซาร์ ใช้เวลาประมาณ 26 นาที โดยรถไฟทางคู่เส้นทางนี้สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสายปาดังเบซาร์-อิโปห์ ของมาเลเซียได้อีกด้วย ตามผลศึกษารองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 3.5 ล้านคนต่อปี ขนสินค้าได้ 1.5 ล้านตันต่อปี

ทั้งนี้ในเบื้องต้นแม้กระทรวงคมนาคมจะมีแผนพัฒนาโครงการมอเตอร์เวย์เพื่อรองรับรถบรรทุก แต่โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางนี้ยังได้รับการบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการ (แอกชันแพลน) ระยะที่ 2 แม้จะลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท แต่คงต้องลุ้นว่ารัฐบาล คสช.และกระทรวงคมนาคมจะสนใจเร่งผลักดันโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ในเร็ว ๆ นี้หรือไม่ ?? ก่อนที่งบประมาณจะบานปลายเพิ่มสูงกว่านี้อีกหลายเท่าตัวหากยังล่าช้าเช่นที่ผ่านมา


Last edited by Mongwin on 07/12/2017 5:17 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/12/2017 1:03 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเข็นรถไฟทางคู่-สีแดงต่อขยาย ชง ครม.ต้นปี 61 ลุยประมูล 5.2 แสนล้าน
เผยแพร่: 6 ธ.ค. 2560 07:53:00 ปรับปรุง: 6 ธ.ค. 2560 09:53:00 โดย: MGR Online

คมนาคมคาดชงรถไฟทางคู่ ระยะ 2 และรถไฟสายสีแดงต่อขยาย วงเงินกว่า 5.2 แสนล้านเข้า ครม.อนุมัติได้ในต้นปี 61 ขณะที่ ร.ฟ.ท.พร้อมเดินหน้าประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างทันที ส่วนรถไฟฟ้าสีส้ม ตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-ตลิ่งชัน และสีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 เร่ง รฟม.ศึกษา PPP ร่วมทุนการเดินรถ

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง (Action Plan) ปี 2560 จำนวน 36 โครงการ วงเงินลงทุน 895,757.55 ล้านบาท ว่า ในส่วนของระบบรางในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จำนวน 12 โครงการ วงเงิน 524,635.36 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) 3 โครงการ คือ รถไฟสายสีแดงเข้ม รังสิต-มธ.รังสิต วงเงิน 7,596.94 ล้านบาท สายสีแดงอ่อน ศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 17,671.61 ล้านบาท รถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย-เชียงของ วงเงิน 85,345 ล้านบาท

ส่วนรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 57,374.70 ล้านบาท ร.ฟ.ท.ทำข้อมูลครบแล้ว กำลังเตรียมสอบถามความเห็นหน่วยงาน ส่วนที่เหลือ ร.ฟ.ท.เตรียมทยอยทำข้อมูลเพิ่มเติมเสนอมายังกระทรวงคมนาคม ได้แก่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 24,293.54 ล้านบาท ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา วงเงิน 51,823.28 ล้านบาท ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 57,374.70 ล้านบาท ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 62,624.17 ล้านบาท ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 37,431.22 ล้านบาท ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 26,662.40 ล้านบาท ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ วงเงิน 59,924.24 ล้านบาท และทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 65,738.91 ล้านบาท

คาดว่าจะสามารถทยอยนำเสนอ ครม.ขออนุมัติได้หมดภายในต้นปี 2561 หาก ครม.เห็นชอบจะสามารถเปิดประมูลได้ทันที ซึ่งภายในเดือน ธ.ค.นี้ กระทรวงคมนาคมจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาเดินรถ รูปแบบการลงทุน PPP โดยรถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้านตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 16.4 กม. วงเงินลงทุน 109,342 ล้านบาทนั้น รฟม.ศึกษา PPP การเดินรถตลอดสาย ทั้งด้านตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งอาจจะรวมการลงทุนโยธาในส่วนของสายสีส้มด้านตะวันตกไปด้วยหรือไม่ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 วงเงิน 21,197 ล้านบาทนั้น รฟม.อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุนและการเดินรถเช่นกัน

รายงานข่าวแจ้งว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ รฟม.ศึกษาความเหมาะสมของรูปแบบการลงทุนรถไฟฟ้าให้รอบคอบและลดภาระการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งในส่วนของสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 นั้นมีระยะทางประมาณ 8 กม. การหาผู้เดินรถรายใหม่อาจจะไม่จูงใจในการลงทุน อาจต้องศึกษาความเป็นไปได้กรณีให้ผู้เดินรถสายสีน้ำเงิน คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รับดำเนินการก่อสร้างและเดินรถต่อเนื่องอีกทางเลือกหนึ่งด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 187, 188, 189 ... 388, 389, 390  Next
Page 188 of 390

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©