Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311276
ทั่วไป:13257857
ทั้งหมด:13569133
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 206, 207, 208 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2018 7:13 pm    Post subject: Reply with quote

ค้านก่อสร้างทางลอดรถไฟรางคู่ อ้างส่งผลกระทบการสัญจร
พฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม 2561 เวลา 17.19 น.
เครือข่ายประชาชนและสภาองค์กรชุมชน อ.พล จ.ขอนแก่น นำทีมชาวบ้านแต่งดำ คัดค้านการก่อสร้างทางลอดจุดตัดรถไฟรางคู่ อ้างเหตุส่งผลกระทบการสัญจร วอนหน่วยงานเร่งแก้ไขปรับปรุงด่วน



เมื่อวันที่ 24 พ.ค. บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพล ร.ต.ท.ประเสริฐ เชิญกลาง ประธานเครือข่ายประชาชนและสภาองค์กรชุมชน อ.พล จ.ขอนแก่น พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันแต่งกายชุดดำพร้อมถือป้ายข้อความคัดค้านการก่อสร้างทางลอดจุดตัดรถไฟรางคู่ โดยอ้างว่าการก่อสร้างดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ผู้เรียกร้องทั้งหมดขอยื่นหนังสือไปยังฝ่ายงานเกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการตามข้อร้องเรียนอันได้แก่ การปรับปรุงเรื่องความสูงของระดับรางรถไฟข้ามจุดตัด ถ.เมืองพล - อ.แวงน้อย จ.ชัยภูมิ มีการเว้นที่เผื่อถนน 6 ช่องจราจร รวมทั้งการขยายอุโมงค์ทางลอดจุดตัด ถ.เมืองพล – แวงใหญ่ เป็น 4 ช่องจราจร รวมทั้งรายละเอียดอื่น ๆ ภายหลัง นายศิริวัฒน์  พินิจพานิชย์ นายอำเภอพล เดินทางมารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมรับปากจะประสานและส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุดต่อไป....

แคบและเตี้ยเกินไป! ชาวเมืองพลบุกร้องนายอำเภอ จี้การรถไฟฯแก้แบบทางลอดใต้รางรถไฟ
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 21:45:
ปรับปรุง: 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 07:38:


ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ภาคประชาชนและชาวบ้านในอำเภอพล บุกที่ว่าการอำเภอ ยื่นหนังสือจี้ให้การรถไฟฯ แก้ไขอุโมงค์ทางลอดใต้รางรถไฟทางคู่ให้มีความสูงมากกว่า 6 เมตร จากแบบที่ก่อสร้างขณะนี้แคบและเตี้ยรถขน ถ่ายผลผลิตเกษตร รถบรรทุก ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และเป็นจุดทางโค้งที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (24 พ.ค.) ที่หน้าที่ว่าการอำเภอพล จ.ขอนแก่น นายวิชิตชนม์ ทองชน ผู้แทนภาคีเครือข่าย ประชาชน และสภาองค์กรชุมชนอำเภอพล พร้อมด้วย ตัวแทนผู้นำชุมชน นักเรียน และประชาชนเดินทางมาชุมนุมชูป้าย เรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ดำเนินการแก้ไขอุโมงค์ทางลอดใต้รางรถไฟรางคู่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

ต่อมา นายสิริวัฒนะ พินิจพาณิชย์ นายอำเภอพล ได้เดินทางมารับข้อร้องเรียนถึงความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว ก่อนรับปากว่าจะนำเสนอต่อให้กับทางจังหวัด และส่วนที่ร้อง คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เป็นต้นเรื่องหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านต่อไป





นายวิชิตชนม์ ทองชน ตัวแทนชาวบ้าน 12 ตำบล 124 หมู่บ้านของอำเภอพล เปิดเผยว่า ตามนโยบายการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทย โครงการ “ก่อสร้างรถไฟ ทางคู่ช่วงชุมทางจิระ - ขอนแก่นนั้น เป็นโครงการที่ดี ในการเพิ่มศักยภาพบริการขนส่งระบบราง รองรับการขยายตัวในทุกมิติ ระยะทาง 187 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การดำเนินงานโครงการนี้ได้ ก่อให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

เนื่องจากการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดใต้รางรถไฟในเขตอำเภอพล ไปในเขตอำเภอแวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.มัญจาคีรี อ.ชนบท และผ่านไปเขตจังหวัดชัยภูมิ มีขนาดความกว้างแค่ประมาณ 4 เมตร และสูงประมาณ 2 เมตร 80 เซนติเมตร ทำให้รถที่จะวิ่งสวนกันใต้ทางลอด สุ่มเสี่ยงจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งปากทางลอดอุโมงค์ ก็เป็นทางโค้งหักศอก พร้อมทั้งจุดก่อสร้างมีฝุ่น มีน้ำท่วมขัง มีโคลน ในแต่ละวันจะมีผู้เดินทางสัญจรผ่านไปมากว่า 5,000 คน



นอกจากนี้ บรรดารถบัสโดยสาร รถบรรทุก รวมทั้งรถขนถ่ายผลผลิตทางการเกษตร ก็ไม่สามารถใช้เส้นทางลอดดังกล่าวได้ เพราะมีขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ดังนั้น ทางเครือข่ายประชาชน และสภาองค์กรชุมชนอำเภอพล จึงอยากเรียกร้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งทบทวนแก้ไขปัญหาการก่อสร้างถนนทางลอดอุโมงค์ โครงการรถไฟรางคู่ที่กำลังก่อสร้างนี้ ให้มีความสูงมากกว่า 6 เมตร เว้นเผื่อสำหรับถนน 6 ช่องจราจร

พร้อมให้พิจารณาขยายอุโมงค์ทางลอดจุดตัดถนน เป็น 4 ช่องจราจร และมีทางเท้าตรงไปเชื่อมต่อทางหลวงชนบท แทนการก่อสร้างถนนหักศอกเรียบทางรถไฟ โดยไม่ต้องเป็นทางกลับรถแบบยูเทิร์น





ทั้งนี้ ทางนายอำเภอพล ก็ได้รับปากจะได้นำเรื่องความเดือดร้อนนี้เสนอไปทางจังหวัด และส่วนที่รับผิดชอบดำเนินการให้ต่อไป ทางภาคประชาชนและกลุ่มชาวบ้านจะรอดูความคืบหน้าการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2018 7:27 pm    Post subject: Reply with quote

ผุดไอซีดีใหม่ @ฉะเชิงเทรา จุดรวมสินค้าท่าเรืออีอีซี
พฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม 2561 เวลา 07.57 น.
สนข. ผุดศึกษาไอซีดี ฉะเชิงเทรา ดันเป็นศูนย์รวมและกระจายสินค้านำเข้า-ส่งออกไปยังท่าเรือ รองรับอีอีซี


นางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนข. อยู่ระหว่างศึกษาโครงการศึกษาพัฒนาสถานีคอนเทนเนอร์ (ไอซีดี) จ.ฉะเชิงเทรา รองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) งบศึกษา 38 ล้านบาท ใช้เวลาศึกษา 9 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค. 61-ม.ค. 62 โครงการดังกล่าวศึกษา เพื่อเป็นศูนย์รวมและกระจายสินค้านำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังท่าเรือในพื้นที่อีอีซีโดยเฉพาะท่าเรือแหลมบัง จ.ชลบุรี ลดปัญหาแออัดของท่าเรือแหลมบัง ที่ปัจจุบันยังมีปัญหาใช้ท่าเรือขนส่งสินค้าจำนวนมาก จนทำให้ไม่ปลอดภัย เกิดอุบัติเหตุและจราจรที่ใช้ท่าเรือฯ ตลอดจนส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางรางมากขึ้น เพราะขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอยระยะทาง 106 กม.

นางวิไลรัตน์ กล่าวต่อว่า และอนาคตโครงการพัฒนาระบบรถไฟขนส่งสินค้าเชื่อมท่าเรือพื้นที่อีอีซี สำหรับการศึกษาประกอบด้วย ศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ ปริมาณการขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (ไออีอี) ความเหมาะสม การออกแบบรายละเอียดและคัดเลือกพื้นที่ รูปแบบการลงทุน ผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งอาจจะเป็น รฟท., การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ท้องถิ่นหรือเอกชนก็ได้ รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ประกอบการ และประชาชน รวมถึงกฎระเบียบ รูปแบบดำเนินการในอนาคตที่ไม่ต้องนำตู้สินค้าไปกองไว้ที่ท่าเรือแหลมบังแล้วค่อยยกสินค้าขึ้นเรือ แต่สามารถมาใช้บริการที่ศูนย์ไอซีดีนี้ เพื่อส่งออกไปยังท่าเรือทั้ง 3 แห่ง แล้วนำสินค้าขนขึ้นเรือได้ทันที

นางวิไลรัตน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การเลือกศึกษาไอซีดีที่ฉะเชิงเทรา เนื่องจากฉะเชิงเทราอยู่ในพื้นที่อีอีซี และเป็นเส้นทางโครงข่ายรถไฟทางคู่ของประเทศที่เชื่อมทุกภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกและตะวันออกดังนั้นเหมาะที่จะเป็นจุดศูนย์กลางที่สะดวกในการขนส่งสินค้าที่ไปประเทศเพื่อนบ้านทั้งฝั่งชายแดนภาคตะวันออกที่จ.สระแก้ว  เพื่อออกไปยังประเทศกัมพูชา และ กระจายสินค้าไปยังประเทศลาว ทางฝั่งชายแดนภาคอีสานจ.หนองคาย, นครพนม และ มุกดาหารได้ อย่างไรก็ตามการศึกษาโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขีดความสามารถ ลดต้นทุนในการขนส่งทางรถบรรทุก และไม่แออัดที่ท่าเรือแหลมบังแห่งเดียว ขนส่งสินค้าลงท่าเรือได้สะดวกรวดเร็ว ตรงตามเวลา เพราะต้องปิดตู้คอนเทนเนอร์และผ่านพิธีการทางศุลกากรที่ไอซีดีฉะเชิงเทราได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอขนส่งขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกในการกระจายสินค้านำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ และเกิดการจ้างงานในท้องถิ่นมากขึ้น ตลอดจนเป็นกลไกพัฒนาพื้นที่จังหวัดด้านขนส่งทางโลจิสติกส์และช่วยเสนอสร้างศักยภาพพัฒนาพื้นที่อีอีซี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 01/06/2018 1:06 am    Post subject: Reply with quote

ชาวชะอำร้องการรถไฟฯปิดถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
โดย: MGR Online
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม 2561 เวลา 15:24:
ปรับปรุง: พฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม 2561 เวลา 20:25:


เพชรบุรี - ชาวบ้านชะอำร้องการรถไฟฯปิดถนนทางเข้าหมู่บ้าน บริเวณ จุดตัดทางรถไฟ ถนนชมนิเวศน์ บ้านห้วยทรายเหนือ เขตเทศบาลเมืองชะอำ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหนัก กว่า 400 หลังคาเรือน

วันนี้ (31 พ.ค.) ได้มีชาวบ้านชุมชนห้วยทรายเหนือ และชุมชนบ้านหนองเสือ เขตเทศบาลเมืองชะอำ จ.เพชรบุรี รวมตัวกันร้องการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ปิดถนนทางเข้าหมู่บ้าน บริเวณ จุดตัดทางรถไฟ ถนนชมนิเวศน์ บ้านห้วยทรายเหนือ เขตเทศบาลเมืองชะอำ จ.เพชรบุรี ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหนัก กว่า 400 หลังคาเรือน

นายสมใจ น้อยสะอาด อายุ 79 ปีตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนหนักในการสัญจรไปมา หลังทางการรถไฟเข้ามาดำเนินการซ้อมแซมรางรถไฟ จากนั้นได้ทำการปิดจุดตัดทางรถไฟ ถนนชมนิเวศน์ ซึ่งเป็นทางเข้าออกหมู่บ้าน โดยไม่ได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบก่อน ซึ่งดำเนินการมาแล้วประมาณ 2เดือน

พร้อมทั้งได้นำเครื่องจักรกลประมาณ 4 ตัว มาดำเนินการซ่อมรางรถไฟในบริเวณจุดดังกล่าว ชาวบ้านก็เข้าใจว่าการรถไฟฯได้เข้ามาปรับปรุงพื้นผิวถนน เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้กัน แต่ก็ไม่ใช่อย่างที่ชาวบ้านคิด ทางการรถไฟหลังจากทำการซ่อมแซมทางดังกล่าวเสร็จ ก็ทำการปิดจุดตัดทางรถไฟดังกล่าวเลย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนสัญจรไปมาลำบาก จึงอยากให้ทางการรถไฟฯ เปิดเส้นทางดังกล่าวให้ชาวบ้านได้ใช้ เหมือนเดิม จนกว่าโครงการรถไฟรางคู่ จะดำเนินการมาถึงมาถึงจุดตัดทางรถไฟดังกล่าว

ด้านนายอภิชาต อภิพันธ์ ผู้ช่วยสารวัตรการเดินรถธนบุรี กล่าวว่า ทางการรถไฟฯรับทราบเรื่องแล้ว และไม่อนุญาตให้ชาวบ้านใช้เส้นทางดังกล่าว เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเพียงแค่จุดลักผ่านทางรถไฟ อีกทั้งห่างจากจุดตัดทางรถไฟไปประมาณ 300 เมตร ก็มีสถานีย่อยจุดตัดทางรถไฟและเครื่องกั้นถูกต้องและปลอดภัย ชาวบ้านควรจะไปใช้เส้นทางตรงนั้นจะปลอดภัยกว่า

แต่ถ้าชาวบ้านยืนยันว่าจะใช้เส้นทางดังกล่าว ทางการรถไฟฯก็จะไม่ขอรับผิดชอบใดหากเกิดเหตุ อีกทั้งถ้าเกิดเหตุหรือทางการรถไฟฯได้รับความเสียหาย ทางการรถไฟฯก็จะเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำความผิดอีกด้วย

พร้อมฝากถึงชาวบ้านให้ไปข้ามจุดตัดทางรถไฟที่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตรจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน ซึ่งในอนาคต โครงการรถไฟรางคู่จะเข้ามาดำเนินการผ่านเส้นทางดังกล่าว จุดตัดทางรถไฟดังกล่าว ก็จะถูกปิดลงในอนาคต

เบื้องต้นวันนี้ทางการรถไฟฯให้ชาวบ้านใช้เส้นทางดังกล่าวไปก่อน แต่จะนำป้ายห้ามผ่านมาติดตั่ง และไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นหากเกิดเหตุ สร้างความพึงพอใจให้แก่ชาวบ้าน จนแยกย้ายกันกลับ
Confused


Last edited by Wisarut on 04/06/2018 3:54 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44454
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/06/2018 9:39 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาระบบรางคู่โดยใช้ระบบไฟฟ้า เสนอกระทรวงคมนาคม คาดตุลาคมนี้ นำเข้า ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการ พร้อมพัฒนางานบริการควบคู่ ตามโครงการศูนย์ราชการสะดวก
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 3 มิ.ย. 2561

นายบรรหาญ โกบยาหยัง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเดินรถภาค 4 กล่าวว่า ปัจจุบัน สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการขนส่ง Container Yard : CY โดยมีย่านขนส่งระบบคอนเทนเนอร์เชื่อมโยงไปที่ท่าเรือปีนัง ประเทศมาเลเซีย และในอนาคตทางรัฐบาลได้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ศึกษาออกแบบรายละเอียดการพัฒนาระบบรางคู่โดยใช้ระบบไฟฟ้า จากสถานีชุมทางหาดใหญ่ ไปจนถึงสถานีปาดังเบซาร์ "ปัจจุบันนี้การรถไฟมาเลเซียได้เดินรถด้วยระบบไฟฟ้าทางคู่แล้ว และมาติดอยู่ที่ประดังเบซาร์ ทำอย่างไรให้เชื่อมต่อมาถึงเมืองไทย ถึงหาดใหญ่ได้ โดยตอนนี้ทางการรถไฟฯ ได้ออกแบบรายละเอียดและเสนอกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในเดือนตุลาคมนี้ จะเข้า ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการนี้ วงเงินงบประมาณ ประมาณ 5 พันล้านบาท"

ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเดินรถภาค 4 กล่าวเพิ่มเติมว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีการส่งตัวแทนสถานีเข้ารับการประเมินศูนย์ราชการสะดวก ประจำปี 2561 ในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการเดินรถภาค 4 ซึ่งมีพื้นที่ตั้งแต่สถานีธนบุรีถึงสถานีสุไหงโกลก ได้ส่งเข้ารับการประเมิน 2 สถานี คือ สถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้งสองสถานีได้เน้นการบริการเพื่อความประทับใจของผู้โดยสารมาโดยตลอด "ปีนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้รับการประเมินจากสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกท่าน เจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมที่จะให้บริการกับประชาชน โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาลปัจจุบัน ก็ได้เน้นระบบการขนส่งทางราง ซึ่งมีการพัฒนาในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ซึ่งสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสงเรา ก็เป็นสถานีชุมทางของการโดยสาร เป็นสถานีชุมทางของการขนส่งสินค้า ในอนาคตนี้ก็อยู่ในโครงการ 2 ที่จะพัฒนาเป็นระบบทางคู่ ตอนนี้กำลังศึกษาออกแบบรายละเอียดอยู่ ซึ่งจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง"

ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเดินรถภาค 4 กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอฝากถึงประชาชนผู้ใช้บริการถ้าต้องการที่จะโดยสาร ต้องการขนส่งสินค้าด้วยความสะดวกปลอดภัย ประหยัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝากเชิญชวนให้มาใช้บริการรถไฟได้
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ชาลินี ศรีอ่ำอ่วม
ผู้เรียบเรียง : ธนิกา เนาวรัชต์
แหล่งที่มา : สวท.อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 10/06/2018 8:34 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.สัญจร พิจิตร-นครสวรรค์ นายกฯ เตรียมตรวจโครงการรถไฟรางคู่-พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
โดย: MGR Online

เผยแพร่: 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561 15:14:
ทีมโฆษกรัฐ เผย ครม.สัญจร “พิจิตร-นครสวรรค์” 11-12 มิ.ย. “บิ๊กตู่” เตรียมจ้อปชช.-พบผู้นำท้องถิ่น พร้อมนั่งรถไฟขบวนพิเศษ ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ลพบุรี - ปากน้ำโพ ลุยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มจว.ภาคเหนือตอนล่าง 2

วันนี้ (8มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ จ.พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ ว่า นายกฯพร้อมคณะรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2561 ระหว่างวันที่ 11 - 12 มิ.ย. โดยนายกฯจะตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (จ.นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร และอุทัยธานี) และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2561 ที่ จ.นครสวรรค์

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจราชการของนายกฯในครั้งนี้ ให้ความสำคัญในการฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค และการรักษาระบบนิเวศน์ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาปัจจัยการผลิตเพื่อลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร การพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการอนุรักษ์และพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาวัฒนธรรม โดยวันที่ 11 มิ.ย. นายกฯพร้อมคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ จากนั้น นายกฯนมัสการองค์หลวงพ่อเพชร ณ วัดท่าหลวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร และเดินทางพบประชาชนชาวพิจิตร ณ บึงสีไฟ พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมการพัฒนาพิจิตรจังหวัดคุณธรรม และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวบึงสีไฟ

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นนายกฯตรวจเยี่ยมโครงการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร เพื่อการระบายน้ำและกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ที่ประตูระบายน้ำดงเศรษฐี แม่น้ำพิจิตร ขณะที่ช่วงบ่ายจะออกเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีรถไฟชุมแสง ไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์ เพื่อตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ) และตรวจสภาพการพัฒนาบึงบอระเพ็ด ก่อนพบปะชาวนครสวรรค์และผู้นำท้องถิ่นของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 และเยี่ยมชมนิทรรศการ บึงบอระเพ็ด ที่หอประชุมอาคารอเนกประสงค์สัมมนา
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44454
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/06/2018 6:58 pm    Post subject: Reply with quote

‘บิ๊กตู่’ดูความคืบหน้ารถไฟรางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ
TNN24 16:11 11 มิถุนายน 2561

นายกฯขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟรางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ ประชาชนแห่ต้อนรับ

วันนี้ (11มิ.ย.61) บรรยากาศที่สถานีชุมแสง จ.นครสวรรค์ มีประชาชนมาให้การต้อนรับ เต็มสถานีรถไฟ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้รับฟังรายงานการก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงลพบุรี –ปากน้ำโพ นายวรวุฒิ มาลา ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้ แบ่งสัญญาการก่อสร้างออก เป็น 2 ช่วง โดยช่วงที่สองดำเนินการไปแล้ว ทั้งการจัดสรรที่ดิน การเวณคืนที่ดิน ส่วนสัญญาที่ 1 จะเริ่มดำเนินการในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ เมื่อลงจากรถไฟ ขบวนพิเศษ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจสภาพการพัฒนาบึงบอระเพ็ด และพบปะชาวนครสวรรค์และผู้นำท้องถิ่นของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 และเยี่ยมชมนิทรรศการ บึงบอระเพ็ด พร้อมเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกิน และเป็นพยานมอบเงินกู้ตามโครงการยุ้งฉางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมตลาดประชารัฐ และตลาดวัฒนธรรมเมืองสี่แคว ที่ตลาดต้นแม่น้ำเจ้าพระยา

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44454
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/06/2018 7:27 pm    Post subject: Reply with quote

นายกฯ ตรวจความคืบหน้ารถไฟรางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
กรุงเ้ทพธุรกิจ 11 มิถุนายน 2561

นายกฯ ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ) หนึ่งในการพัฒนาระบบคมนาคมทางราง เชื่อมต่อการเดินทาง เดินหน้ารถไฟทางคู่สายเหนือ ยกระดับบริการโลจิสติกส์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 เวลา 14.50 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีรถไฟชุมแสง ตำบลชุมแสง อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์ ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ) โดยมี นายวรวุฒิ มาลา ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ) ว่าเป็นโครงการรถไฟทางคู่ในเส้นทางสายเหนือ มีระยะทาง 145 กิโลเมตร จำนวน 20 สถานี วงเงินลงทุน 21,688 ล้านบาท เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาระบบรางภายใต้แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 – 2565 ที่รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการเพื่อเพิมประสิทธิภาพการเดินทางและขนส่ง ช่วยเสริมสร้างโครงข่ายคมนาคมของไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การเดินทางสู่ภาคเหนือรวดเร็วขึ้น สามารถขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมได้อย่างสะดวก กำหนดเวลาได้ จูงใจให้ประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น การค้าขายคึกคัก และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ช่วง ตามความเหมาะสมของพื้นที่ที่แนวเส้นทางพาดผ่าน ได้แก่ ช่วงที่ 1 บ้านกลับ – โคกกะเทียม ระยะทางรวมประมาณ 29 กิโลเมตร และช่วงที่ 2 ท่าแค – ปากน้ำโพ ระยะทางรวม 116 กิโลเมตร มีการก่อสร้าง ปรับปรุงสะพานและทางลอดปลอดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟ 78 จุด ปรับปรุงสถานีรถไฟเดิม 10 สถานี ก่อสร้างสถานีใหม่ 10 สถานี โดยก่อสร้างเป็นทางรถไฟยกระดับ 23 กิโลเมตร และก่อสร้างระดับดิน 122 กิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่จังหวัดลพบุรีและนครสวรรค์

โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ) สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค – ปากน้ำโพ กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยเริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 – 31 มกราคม 2564 งบประมาณ 8,649,000,000 บาท (แปดพันหกร้อยสี่สิบเก้าล้านบาทถ้วน) ประกอบด้วย (1) งานก่อสร้างรางวิ่งรถไฟ ประมาณ 116 กิโลเมตร (2) งานก่อสร้างสถานีใหม่ 8 สถานี (3) งานปรับปรุงสถานีเดิม 10 สถานี (4) งานก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า 1 แห่ง (CY) (5) งานก่อสร้างโยธาและอื่น ๆ (6) งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ , ทางกลับรถยกระดับรูปตัวยู , ถนนลอดใต้สะพานข้ามทางรถไฟ และถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟโดยใช้ท่อเหลี่ยม และ(7) งานก่อสร้างอาคารศูนย์ควบคุมการเดินรถ 1 แห่ง (CTC) ซึ่งมีความมั่นใจว่าโครงการนี้จะสามารถพลิกโฉมการขนส่งทางรถไฟได้อย่างชัดเจน เพราะจะทำให้มีความจุของทางรถไฟเพิ่ม สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว การขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางได้ถึง 30% เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถ มีความตรงต่อเวลาของขบวนรถ ช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งทางรถไฟ ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่งของประเทศ และลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เชื่อมโยงโครงข่ายการบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้า บริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบขนส่งทางราง ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางและขนส่ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ทั้งธุรกิจ การค้า การลงทุน เป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจการค้าและโลจิสติกส์ เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในภูมิภาค ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาได้อย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การพัฒนารถไฟไทยสู่โครงข่ายหลักของประเทศมีความสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งด้านการเดินทางและขนส่งที่มีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย ประหยัด กำหนดเวลาได้ และเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร้รอยต่อด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายขึ้น สัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มมากขึ้น ต้นทุนโลจิสติกส์ลดลง เป็นส่วนสำคัญของการหนุนนำเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข นำประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ทั้งนี้ รถไฟทางคู่เส้นทางช่วงลพบุรี-ปากนํ้าโพ เป็นโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ใหม่ รูปแบบการพัฒนาทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม เพื่อเร่งยกระดับให้บริการโลจิสติกส์สู่พื้นที่ภาคเหนือ ในส่วนของการออกแบบก่อสร้างสถานียังคงเอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นหลัก มีการนำสถาปัตยกรรมท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ เพื่อให้เกิดความสวยงามและกลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศ ผสมผสานกับความทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ทั้งสถานีขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เน้นความปลอดภัย ง่ายต่อการขนส่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเพื่อสนับสนุนการเดินทางของประชาชน และการคมนาคมขนส่งของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจ และมีการอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟเดิมทุกสถานี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44454
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/06/2018 11:12 am    Post subject: Reply with quote

จังหวัดราชบุรีเตรียมผลักดันสร้าง ‘คอนเทนเนอร์ยาด' รับรถไฟรางคู่
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 12 มิ.ย. 2561

วานนี้ (11 มิ.ย 61) นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมนายอำเภอบ้านโป่ง เจ้าหน้าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พร้อมประชุมหารือเรื่องความเป็นไปได้ในการสร้างสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้า หรือ ‘คอนเทนเนอร์ยาด' ที่สถานีแห่งนี้ เพราะตอนนี้กำลังมีการก่อสร้างรถไฟรางคู่สายนครปฐม-หัวหิน หากมีสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าเกิดขึ้น จะทำให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์

โดยนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่าการสร้าง‘คอนเทนเนอร์ยาด' เป็นข้อเสนอจากภาคเอกชนในพื้นที่และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ต้องการให้จังหวัดราชบุรีเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้า เพราะมีศักยภาพ เช่นมีนิคมอุตสาหกรรม ที่สำคัญจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม อยู่ใกล้เคียง รวมทั้งอนาคตจะมีท่าเรือของเอกชนที่จังหวัดสมุทรสงคราม ฉะนั้นจังหวัดราชบุรีน่าจะมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ที่จะมีปริมาณตู้สินค้าที่ขนส่งเพื่อการส่งออกไปยังท่าเรือหรือสถานีขนถ่ายสินค้าอื่นๆ

อย่างไรก็ดี จะมีการรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการทั้งในพื้นที่และกลุ่มจังหวัดฯ แล้วประสานความร่วมมือกับ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างต่อไป
สำหรับสถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุกในปัจจุบัน เป็นสถานีที่เป็นทางแยกของรถไฟสองสาย คือ สายไปกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศ กับสายใต้ และเนื่องจากหนองปลาดุกไม่ใช่สถานีใหญ่ ขบวนรถไฟที่จอดรับส่งผู้โดยสารสถานีนี้ จึงจอดด้วยเวลาที่ไม่นาน
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดราชบุรี
ผู้เรียบเรียง : กนกพร ประสงค์
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี


https://www.youtube.com/watch?v=IHBMdK6MQeU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2018 10:26 pm    Post subject: Reply with quote

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ครม. สั่งการให้กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal) ที่สถานีรถไฟเขาทอง ต.เขาทอง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โครงการขยายการใช้พื้นที่โครงการพัฒนาสถานีรับมอบและส่งตู้บรรทุกสินค้า (Container Yard) ที่สถานีรถไฟเขาทอง ต.เขาทอง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ และโครงการสร้างศูนย์บริการจุดพักรถบรรทุก (Truck Rest Area) ขาขึ้นจากทิศใต้ที่ ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์

12 มิถุนายน 2561 https://www.khaosod.co.th/economics/news_1207465
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44454
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/06/2018 8:30 am    Post subject: Reply with quote

ทางคู่เฟส 2 กว่า 2 พันกม.นายกฯห่วงเวนคืน
เดลินิวส์ พุธที่ 13 มิถุนายน 2561 เวลา 08.00 น.

คืบโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9เส้นทาง2174 กม. วงเงินลงทุนรวม 4.27 แสนล้าน  จะทยอยเสนอที่ประชุมครม.ได้ทั้งหมดภายในปีนี้เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนประกวดราคาต่อไป

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน  การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และรักษาการผู้ว่าการรถไฟฯ เปิดเผยว่า  การลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีสัญจร(ครม.)สัญจรในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างที่จ. พิจิตรและนครสวรรค์  เมื่อวันที่ 11-12 มิ.ย.ที่ผ่านมา  รฟท.ได้เสนอความคืบหน้าโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ให้พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับทราบ  โดยในส่วนของการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะ(เฟส)ที่ 1 จะเปิดเดินรถได้2เส้นทางในปี62 ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นและรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย  ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่อีก 5เส้นทางระยะทาง 702 กม. วงเงิน 7 หมื่นล้านบาทนั้น ขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างหมดแล้ว จะเริ่มทยอยแล้วเสร็จในปี 64เริ่มจากรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน และ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์  ส่วนที่เหลือจะทยอยเปิดใช้ในปี 65-66  

ด้านความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9เส้นทาง2174 กม. วงเงินลงทุนรวม 4.27 แสนล้าน  นั้นจะทยอยนำเสนอที่ประชุมครม.ได้ทั้งหมดภายในปีนี้เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนประกวดราคาต่อไป ในจำนวนนี้มีโครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางใหม่ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 323.10กม. วงเงิน 7.69 หมื่นล้านบาท และช่วงบ้านไผ่-นครพนม  355 กม. วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท จะเร่งเสนอที่ประชุมครม.ภายในเดือนนี้หากได้รับความเห็นชอบจะถอดแบบและร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์)ก่อนเปิดประมูลต่อไป เนื่องจากเป็นเส้นทางใหม่รัฐบาลต้องทยอยเวนคืนพื้นที่ควบคู่กับการประกวดราคาแต่ภาพรวมถือว่ามีความพร้อมประกวดราคาภายในปีนี้ เนื่องจากรายงานมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ของเส้นทางช่วงเด่นชัย-เชียงของ ได้รับการอนุมัติแล้วขณะที่ช่วงบ้านไผ่-นครพนมกำลังจะได้รับอนุมัติ  รฟท.คาดได้ตัวเอกชนผู้ชนะโครงการภายในต้นปี62 และก่อสร้างต่อไป

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า  นายกรัฐมนตรีมีข้อแนะนำให้รฟท.ไปดำเนินการผู้บุกรุกพื้นที่2ข้างทางรถไฟโดยให้เจรจาอย่างประนีประนอม  อีกทั้งการพัฒนารถไฟทางคู่ต้องเวนคืนพื้นที่จากประชาชนจำนวนมากต้องมีแนวทางการเยียวยาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเป็นธรรมขณะที่มาตรฐานงานบริการรถไฟโดยรวมนั้นเป็นที่น่าพอใจเพียงแต่ให้ข้อสังเกตุว่าควรจะดูแลเรื่องความสะอาดตามแนวเส้นทางรถไฟและบริเวณสถานีรถไฟเพื่อต้อนรับประชาชนที่จะใช้บริการรถไฟไทยได้อย่างน่าประทับใจ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 206, 207, 208 ... 389, 390, 391  Next
Page 207 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©