RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179943
ทั้งหมด:13491175
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 211, 212, 213 ... 388, 389, 390  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/08/2018 3:14 pm    Post subject: Reply with quote

รองนรม. พล.อ.ประวิตรฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2561
ข่าวทั่วไป สำนักโฆษก -- พุธที่ 1 สิงหาคม 2561 14:11:31 น.

ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบในหลักการต่อรายงาน EIA โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ (ภายใต้โครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟฟ้าทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์)

วันนี้ (1 สิงหาคม 2561) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2561 ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบในหลักการต่อรายงาน EIA โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ (ภายใต้โครงการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟฟ้าทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์) ของ รฟท. โดยให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ดำเนินการตามมาตรการฯ ตามที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางบกและอากาศในการประชุมครั้งที่ 33/2560 เมื่อ 24 พ.ย. 60 แล้ว โดยให้ตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินมาตรการฯ ตามที่กำหนดไว้ พร้อมนำความเห็นของที่ประชุมฯ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาตาม มาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 ต่อไป

อนึ่ง ทางรถไฟช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายตะวันตก (West Coast) ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันถูกพัฒนาเป็นระบบรถไฟทางคู่แบบใช้ไฟฟ้าแล้ว ดังนั้น รฟท. จึงมีแนวคิดในการพัฒนาเส้นทางในฝั่งประเทศไทยให้เป็นระบบทางคู่แบบใช้ไฟฟ้า เพื่อให้การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียเป็นไปอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีโดยรวมต่อเศรษฐกิจและสังคมของประชาคมอาเซียน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 01/08/2018 3:29 pm    Post subject: Reply with quote

^^^


บอร์ดสิ่งแวดล้อมอนุมัติ EIA โครงการรถไฟทางคู่-ทางด่วน พร้อมเร่งรัดแก้ปัญหาขยะทุกประเภท
ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 สิงหาคม 2561 13:33:36 น.
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ และการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมและการขนส่งสู่การเป็นศูนย์กลางอาเซียนตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้ร่วมพิจารณาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการสำคัญ โดยให้ความเห็นชอบโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และโครงการโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุข และทางพิเศษศรีรัชวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร

ที่ประชุมยังได้พิจารณาประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2 ฉบับ ที่ให้ความสำคัญกับกิจการหรือการดำเนินการใดที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย หรือส่วนได้ส่วนเสียสำคัญของประชาชน ชุมชน หรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งประกาศดังกล่าวจะช่วยปิดช่องว่างไม่ให้เกิดกิจการผิดกฎหมายที่กระทบกับสิ่งแวดล้อม หรือหากมีต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น โรงงานกำจัดหรือกิจการคัดแยกขยะทุกชนิด

พร้อมทั้งพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อต้องการให้ชุมชนเมืองมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายพื้นที่สีเขียวสาธารณะในภาพรวมของประเทศไม่น้อยกว่า 15 ตร.ม./คน ในเขตเมืองและชุมชน และในเมืองใหญ่ ต้องมีพื้นที่สีเขียวต่อการใช้ประโยชน์ที่ดินร้อยละ 15, เมืองขนาดกลางร้อยละ 20 และเมืองขนาดเล็ก ร้อยละ 25 ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนเมืองและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ขอให้นำเรื่องที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอต่อที่ประชุม ครม.และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ กำกับติดตาม และแก้ปัญหาเร่งด่วนกับขยะอิเล็คทรอนิกส์ ขยะมูลฝอย และของเสียอันตรายที่ยังกำจัดไม่หมดและมีตกค้างในชุมชน เช่น กากของเสียอุตสาหกรรม ขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาล รวมทั้งขอให้เร่งรัดขับเคลื่อนการคัดแยกของเสียอันตรายจากชุมชนจากขยะทั่วไป โดยให้สร้างการตระหนักรู้ จิตสำนึกและหน้าที่ให้ทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันเรียนรู้และบริหารจัดการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืนร่วมกัน







บอร์ดสิ่งแวดล้อมรถไฟทางคู่พลังงานไฟฟ้า
คกก.สิ่งแวดล้อมเห็นชอบโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์, โครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุข

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายสำคัญและการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมและการขนส่ง สู่การเป็นศูนย์กลางอาเซียน ตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้ร่วมพิจารณาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA ) โครงการสำคัญและให้ความเห็นชอบ โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ และโครงการโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุขและทางพิเศษศรีรัชวงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ ได้ร่วมพิจารณาประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ออกตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2 ฉบับ ที่ให้ความสำคัญกับ กิจการหรือการดำเนินการใด ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย หรือส่วนได้ส่วนเสียสำคัญของประชาชน ชุมชน หรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA ) ซึ่งประกาศดังกล่าว จะช่วยปิดช่องว่างไม่ให้เกิดกิจการผิดกฎหมายที่กระทบกับสิ่งแวดล้อม หรือหากมีต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น โรงงานกำจัดหรือกิจการคัดแยกขยะทุกชนิด


.... อ่านต่อได้ที่ : https://www.posttoday.com/politic/news/559438
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/08/2018 4:36 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมยืนยันรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของยกระดับระบบขนส่ง คาดเปิดบริการได้ปี 66
เผยแพร่: 4 ส.ค. 2561 10:11 โดย: MGR Online

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ว่า เป็นโครงการที่มีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2503 และในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ที่ประชุมฯ ได้อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนของโครงการเพื่อสร้างทางรถไฟ รวมระยะทาง 323 กิโลเมตร วงเงิน 85,345 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอ โดยคาดว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเปิดประมูลด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ได้ภายในปีนี้ ตั้งเป้าเริ่มงานก่อสร้างในปี 2562 และเปิดให้บริการภายปี 2565-2566

สำหรับโครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 9 โครงการในแผนพัฒนารถไฟทางคู่ของประเทศ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าภายในประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางสู่ภาคเหนือ ให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งและเปลี่ยนถ่ายสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว และจีน การเพิ่มประสิทธิภาพและทางเลือกในการเดินทาง รวมถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยว ส่วนที่เหลืออีก 8 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างแผนขับเคลื่อนปี 2561 ได้แก่ เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา และหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/08/2018 3:39 am    Post subject: Reply with quote

รื้อแผนรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์
กรุงเทพธุรกิจ 6 ส.ค. 61

“คมนาคม” สั่งรื้อแผนรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ยกเลิกพัฒนาระบบพลังงานไฟฟ้า ปรับเป็นระบบดีเซลตามปกติ หลังยังไม่สามารถปิดดีลงบลงทุนร่วมมาเลเซียได้ คาดหลังเขย่าแผนจะประหยัดงบก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้าน

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2561 โดยระบุว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้หารือร่วมกับหน่วยงานในสังกัด พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมในการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กิโลเมตร วงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยที่ประชุมเห็นร่วมกันเพื่อปรับแผนพัฒนาใหม่ ยกเลิกการเดินรถด้วยระบบไฟฟ้า และเปลี่ยนมาใช้การเดินรถด้วยระบบดีเซลเหมือนโครงการรถไฟทางคู่

“รถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เดิมจะพัฒนาเป็นรถไฟไฟฟ้า ซึ่งไทยต้องลงทุนติดตั้งระบบไฟฟ้าที่รางฝั่งไทยเพื่อให้รถไฟไฟฟ้าของมาเลเซีย เส้นทางสายอิโปห์-ปาดังเบซาร์ สามารถวิ่งเชื่อมต่อเข้ามาได้ทันที แต่เนื่องจากการลงทุนในขณะนี้ยังไม่ได้หารือร่วมกับมาเลเซียถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งหากพัฒนาเป็นรถไฟไฟฟ้าก็อาจไม่คุ้มสำหรับไทย เพราะปัจจุบันไทยเองก็ยังไม่มีรถไฟไฟฟ้าที่จะนำมาวิ่งให้บริการ ดังนั้นหากเดินหน้าโครงการรัฐบาลจะตอบคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่ากับสังคมไม่ได้”

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบโครงการให้กลับไปปรับแผนใหม่ โดยให้ถอดระบบไฟฟ้าออกจากโครงการ และปรับรูปแบบการพัฒนา พร้อมประเมินวงเงินลงทุนภายใต้ระบบรถไฟดีเซล ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเมื่อปรับระบบรถไฟแล้วจะทำให้วงเงินพัฒนาโครงการลดลงจากเดิม 1,000 ล้านบาท หรือปรับลดจาก 8,000 ล้านบาท เหลือเพียงราว 7,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี พบว่าขณะนี้ ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการปรับแผนพัฒนาโครงการเสร็จแล้ว และได้นำเสนอโครงการมายังกระทรวงคมนาคมพิจารณาพร้อมกับรถไฟทางคู่เฟส 2 อีก 7 เส้นทางที่เหลือ ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงจะต้องขอความเห็นเพิ่มเติมไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะสรุปเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติพร้อมกันทั้ง 8 เส้นทาง โดยจะทยอยเสนอให้แล้วเสร็จภายในปีนี้

สำหรับโครงการรถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ปัจจุบันผ่านการพิจารณาอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้ว เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ถูกบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2561 ในส่วนของรถไฟทางคู่เฟส 2 ซึ่งเดิมกระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้เป็นรถไฟเส้นทางแรกของประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า

ทั้งนี้ ตามผลการศึกษารถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ตัวรถโดยสารจะมีขนาดความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนขบวนรถสินค้าใช้ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางรวม 48 กิโลเมตร แนวเส้นทางวิ่งผ่าน 3 สถานีหลัก ได้แก่ ชุมทางหาดใหญ่ สถานีคลองแงะ และที่หยุดรถฝั่งไทยเชื่อมต่อไปยังสถานีปาดังเบซาร์ โดยจะใช้เวลาประมาณ 26 นาที สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 3.5 ล้านคนต่อปี ขนสินค้าได้ 1.5 ล้านตันต่อปี

ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการพัฒนารถไฟทางคู่เฟส 2 ที่เหลืออีก 8 โครงการ คาดว่าภายในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้จะเสนอให้ ครม.พิจารณาเส้นที่มีความพร้อมมากที่สุด คือ ขอนแก่น-หนองคาย และหลังจากนั้นจะทยอยเสนอเพิ่มเติมเดือนละ 2 โครงการ อาทิ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา และหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ทำให้โครงการที่อยู่ในแผนดังกล่าวสามารถเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาของ ครม.ครบภายในปีนี้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/08/2018 11:10 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมปรับแผน รถไฟระบบไฟฟ้า ‘หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์’ ยันไม่คุ้ม เปลี่ยนเป็นระบบดีเซลรางเหมือนเดิม ประหยัดงบพันล้าน
วันที่ 6 สิงหาคม 2561 - 12:57 น.

กระทรวงคมนาคมสั่งรื้อโปรเจ็ครถไฟระบบไฟฟ้า “หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์” ผลศึกษาระบุไม่คุ้มค่า มีแต่รถไฟของมาเลย์ได้ประโยชน์แต่ไทยยังไม่มีใช้ สั่งรฟท.ปรับแผนสร้างเป็นระบบรถไฟดีเซลรางตามปกติ ประหยัดงบได้กว่าพันล้าน เหลืองบเพียง 7 พันล้าน

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้หารือร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ถึงแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งปี 2561 มีพิจารณาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กม. วงเงิน 8,000 ล้านบาท ซึ่งศึกษาและออกแบบโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) โดยที่ประชุมมีเห็นให้ปรับแผนใหม่ ยกเลิกการเดินรถด้วยระบบไฟฟ้า เปลี่ยนมาใช้การเดินรถด้วยระบบดีเซล เหมือนทางคู่ทั่วไปแทน

เนื่องจากการก่อสร้างเป็นรถไฟระบบไฟฟ้า ซึ่งไทยจะต้องลงทุนติดตั้งระบบไฟฟ้าที่รางฝั่งไทย เพื่อให้รถไฟระบบไฟฟ้าของมาเลเซีย เส้นทาง อิโปห์-ปาดังเบซาร์ วิ่งเข้ามาไทยนั้นไม่คุ้มค่า เพราะปัจจุบัน ไทยเองก็ยังไม่มีรถไฟระบบไฟฟ้าที่จะนำมาวิ่งให้บริการ รวมทั้งยังไม่ได้หารือกับมาเลเซียเรื่องค่าใช้จ่ายในการใช้ทางของฝ่ายไทยด้วย ซึ่งหากเดินหน้าโครงการรถไฟดังกล่าวต่อไป รัฐบาลจะตอบคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่ากับสังคมไม่ได้ จึงจำเป็นต้องปรับแผนใหม่
ข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กลับไปปรับแผนใหม่ ให้ถอดระบบไฟฟ้าออกจากโครงการ จะทำให้งบลงทุนปรับลดลงราว 1,000 ล้านบาท จาก 8,000 ล้านบาท เหลือ 7,000 ล้านบาทเท่านั้น ขณะนี้ รฟท.ได้ปรับแผนเสร็จแล้ว และเสนอโครงการให้คมนาคมพิจารณาแล้ว พร้อมรถไฟทางคู่เฟส 2 อีก 7 เส้นทางที่เหลือ
กระทรวงยังจะต้องขอความเห็นเพิ่มเติมจาก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติพร้อมกันทั้ง 8 เส้นทาง ภายในปีนี้ เส้นทาง หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ปัจจุบันผ่านการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้ว เมื่อ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถไฟระบบไฟฟ้าเส้นทางดังกล่าว ถูกบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งปี พ.ศ.2561 ในส่วนของรถไฟทางคู่เฟส 2 เดิมกระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้เป็น รถไฟเส้นทางแรกของประเทศ ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ตามผลการศึกษา รถโดยสารมีขนาดความ เร็ว 120 กม./ชม. ส่วนขบวนรถสินค้า ใช้ความเร็ว 90 กม./ชม. ระยะทางรวม 48 กิโลเมตร วิ่งผ่าน 3 สถานีหลัก ได้แก่ ชุมทางหาดใหญ่ สถานีคลองแงะ และที่หยุดรถฝั่งไทยเชื่อมต่อไปยัง สถานีปาดังเบซาร์ โดยจะใช้เวลาประมาณ 26 นาที สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3.5 ล้านคนต่อปี ขนสินค้าได้ 1.5 ล้านตันต่อปี


Last edited by Wisarut on 06/08/2018 7:02 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/08/2018 3:29 pm    Post subject: Reply with quote

//------------------------------

วิเคราะห์ดู น่าจะเป็นเพราะ แบ่งรายได้ไม่ลงตัว และ ยังมีกรณี เรื่อง เราออกเงินค่าใช้จ่ายในการติดระบบรถไฟฟ้า แต่มีเฉพาะ รถ EMU ของมาเลย์ที่เข้ามาเพราะ ไม่ได้วางแผนซื้อ EMU สำหรับเดินรถ สายหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ซึ่งคมนาคมไม่ยอมเด็ดขาด เรื่องถึงเป็นเช่นนี้


Last edited by Wisarut on 06/08/2018 7:01 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/08/2018 3:32 pm    Post subject: Reply with quote

“อาคม”ตรวจรถไฟทางคู่นครปฐม-ชุมพร
6 สิงหาคม 2561 - 12:21
รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจรถไฟทางคู่นครปฐม - ชุมพร ล่าสุดคืบหน้าเร็วกว่าแผน 0.78% สั่งทบทวนตั้งสถานีหัวหิน


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ณ สำนักงานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง บริเวณสถานีรถไฟชะอำ จังหวัดเพชรบุรี สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ระยะทาง 421 กม. แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 สัญญา มูลค่าโครงการรวม 33,982,000,000 บาท ปัจจุบันโครงการฯ มีความก้าวหน้ารวม เร็วกว่าแผน ร้อยละ 0.78


ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ รฟท. ดำเนินการ ออกแบบสถานีรถไฟหัวหินให้สวยงาม โดยอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม พิจารณาทบทวนที่ตั้งสถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีหัวหิน จากเดิมที่ได้ศึกษาออกแบบไว้อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหิน ประมาณ 7 กม. ให้อยู่ในตัวเมืองหัวหิน นำหัวรถจักรรถไฟที่จมอยู่ใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ จ. เพชรบุรี ซึ่งเป็นหัวรถจักรที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นจากน้ำ เพื่อจัดแสดงเป็นอนุสรณ์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ประสานงานกับทางจังหวัดเพชรบุรี และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อหาแนวทางในการปรับแบบการก่อสร้างที่มีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้การดำเนินโครงการฯ ล่าช้าเป็นต้น

“อาคม” ตรวจทางคู่ สายใต้ กำชับทบทวนที่ตั้งสถานีไฮสปีด “หัวหิน”
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 6 สิงหาคม 2561 - 17:41
ปรับปรุง: 6 สิงหาคม 2561 - 18:44




“อาคม” ตรวจก่อสร้างรถไฟทางคู่ “นครปฐม-ชุมพร” ค่าก่อสร้างกว่า 3.39 หมื่นล้าน คืบหน้าแล้ว 0.78% กำชับหารือ จ.เพชรบุรี ปรับแบบก่อสร้างลดผลกระทบ ปชช. และทบทวนจุดที่ตั้งสถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีให้อยู่ในตัวเมืองหัวหิน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร โดยมีพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ บรรยายสุปผลการดำเนินงาน ณ สำนักงานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง บริเวณสถานีรถไฟชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

โดยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. มูลค่าโครงการรวม 33,982,000,000 บาท ปัจจุบันมีความก้าวหน้ารวม เร็วกว่าแผน ร้อยละ 0.78 โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กม. เริ่มการก่อสร้างเมื่อ 1 ก.พ. 61 สิ้นสุดสัญญา 31 ม.ค. 64

สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กม. เริ่มการก่อสร้างเมื่อ 1 ก.พ. 61 สิ้นสุดสัญญา 31 ม.ค. 64

สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. เริ่มการก่อสร้างเมื่อ 1 ก.พ. 61 สิ้นสุดสัญญา 31 ม.ค. 63

สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 84 กม. เริ่มการก่อสร้างเมื่อ 1 ก.พ. 61 สิ้นสุดสัญญา 31 ต.ค. 63

สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 80 กม. เริ่มการก่อสร้างเมื่อ 1 ก.พ. 61 สิ้นสุดสัญญา 31 ม.ค. 64

นายอาคมกล่าวว่า ได้กำชับให้ ร.ฟ.ท. ดำเนินการ 1) ออกแบบสถานีรถไฟหัวหินให้สวยงาม โดยอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม ปรับภูมิทัศน์สถานีให้สวยงาม ทำถนนหน้าสถานีเป็นรูปแบบการปูหินที่มีความสวยงาม 2) พิจารณาทบทวนที่ตั้งสถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีหัวหิน จากเดิมที่ได้ศึกษาออกแบบไว้อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหิน ประมาณ 7 กม. ให้อยู่ในตัวเมืองหัวหิน 3) นำหัวรถจักรรถไฟที่จมอยู่ใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นหัวรถจักรที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นจากน้ำ เพื่อจัดแสดงเป็นอนุสรณ์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

4) ประสานงานกับทางจังหวัดเพชรบุรี และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อหาแนวทางในการปรับแบบการก่อสร้างที่มีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้การดำเนินโครงการฯ ล่าช้า 5) ออกแบบสถานีรถไฟที่มีขนาดใหญ่ ให้มีที่จอดรถสาธารณะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการให้ครบถ้วน มีห้องน้ำอยู่ภายในอาคารสถานี ให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ก่อสร้างถนนเชื่อมสถานีรถไฟทุกสถานี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/08/2018 11:27 am    Post subject: Reply with quote

สั่งออกแบบสถานีหัวหินอนุรักษ์สถาปัตยกรรมเดิม
จันทร์ที่ 6 สิงหาคม 2561 เวลา 15.57 น.
ลุยเต็มสูบรถไฟทางคู่
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
7 สิงหาคม 2561 เวลา 09:45

“อาคม” สั่ง รฟท. ออกแบบสถานีรถไฟหัวหิน เน้นสวยงาม อนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม กำชับ ทล. ทช. ต้องทำถนนเชื่อมต่อสถานีรถไฟทุกสถานี พร้อมจัดทำคลิป-ข่าวแจ้งให้ประชาชนทราบต่อเนื่อง



นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร(กม.) แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 สัญญา มูลค่าโครงการรวม 33,982 ล้านบาท ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม - หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กม. สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล - หัวหิน ระยะทาง 76 กม. สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - บางสะพานน้อย ระยะทาง 84 ก.ม. และสัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย - ชุมพร ระยะทาง 80 ก.ม. โดยโครงการทั้งหมดมีความคืบหน้าในการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และเร็วกว่าแผนประมาณ 0.78%

นายอาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ รฟท.ออกแบบสถานีรถไฟหัวหินให้สวยงาม อนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม ปรับภูมิทัศน์สถานีให้สวยงาม ทำถนนหน้าสถานีเป็นรูปแบบการปูหินที่สวยงาม นอกจากนี้ต้องพิจารณาทบทวนที่ตั้งสถานีรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)สถานีหัวหิน จากเดิมศึกษาออกแบบไว้อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหิน ประมาณ 7 กม. ให้อยู่ในตัวเมืองหัวหิน รวมถึงนำหัวรถจักรรถไฟที่จมอยู่ใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ จ. เพชรบุรี ซึ่งเป็นหัวรถจักรที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นจากน้ำ เพื่อจัดแสดงเป็นอนุสรณ์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ขณะเดียวกันได้ให้ประสานงานกับทางจังหวัดเพชรบุรี และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อหาแนวทางปรับแบบการก่อสร้างที่มีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้การดำเนินโครงการล่าช้า และให้ออกแบบสถานีรถไฟมีขนาดใหญ่ มีที่จอดรถ มีสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการให้ครบถ้วน มีห้องน้ำอยู่ภายในอาคารสถานี

นายอาคม กล่าวอีกว่า ได้มอบนโยบายให้กรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท(ทช.) ประสานกับ รฟท.เพื่อจัดทำถนนเชื่อมต่อสถานีรถไฟทุกสถานี ทั้งโครงการรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง ให้กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) จัดรถบริการสาธารณะเขื่อมต่อสถานีรถไฟ และสถานีรถไฟความเร็วสูงทุกสถานี ให้หน่วยงานของ ทล. และ ทช. จัดทำคลิปวีดีโอ ข่าวประชาสัมพันธ์โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ให้ประชาชนได้รับทราบ เช่น โครงการทำทางเท้าบริเวณตัวเมืองหัวหิน ที่สำนักงานทางหลวงที่ 15 ออกแบบได้อย่างสวยงาม โดยการนำเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ได้แก่ ภาพสับปะรด ทุเรียนป่าละอู ซึ่งเป็นผลไม้ท้องถิ่นของประจวบคีรีขันธ์ และภาพเรือใบ ที่แสดงถึงเมืองแห่งการท่องเที่ยวทางทะเล มาเป็นจุดเด่นในการออกแบบ เพื่อเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
 
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/08/2018 2:18 pm    Post subject: Reply with quote

รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ขับเคลื่อนรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สิ้นสุดการรอคอยกว่า 50 ปี
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 9 ส.ค. 2561

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่ขับเคลื่อนรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ขานรับมติ ครม. ผลักดันระบบรางเชื่อมเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว สิ้นสุดการรอคอยกว่า 50 ปี
วันนี้ (9 ส.ค.61) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานสัมมนาสร้างการรับรู้และความเข้าใจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยได้นำข้อมูล วัตถุประสงค์การก่อสร้าง ประโยชน์ของโครงการ และการเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนา โดยมี นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกรมธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ประชาชนและสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก โดยจัดขึ้นที่ห้องยูโทเปีย โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ได้กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ ”กระทรวงคมนาคมกับการขับเคลื่อนจังหวัดเชียงราย มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ” โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวนโยบายในการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งในภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะระบบรางที่จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ จากนั้น เป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองจากภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย หัวข้อ”ภาคเหนือเร่งเครื่อง เดินหน้า คว้าโอกาส รถไฟสายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” โดย นายวรวุฒิ มาลา ได้ให้ข้อมูลถึงประโยชน์ของประเทศไทย ที่สำคัญประโยชน์ที่จะเกิดกับคนเชียงราย บทบาทของการรถไฟฯ ในการเร่งรัดผลักดันให้โครงการนี้เดินหน้า นอกจากนี้ไปยังมีการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ โดยมี นายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และวิทยากรอีก 3 ท่าน คือ นายพรเทพ อินทะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย นายฉัตรชัย พัฒนานุภาพ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย และ นายกิตติ ทิศสกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ร่วมเสวนาถึงทิศทางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ตลอดจนเงื่อนไขการพัฒนาเพื่อสร้างให้จังหวัดเชียงรายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค

โครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นหนึ่งในแผนงานของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศไทย พ.ศ. 2558-2565 และล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจึงเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จในปี 2566 ด้วยมูลค่าโครงการ 85,345 ล้านบาท มีจุดเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ มุ่งไปทางทิศเหนือผ่านพื้นที่ 59 ตำบล 17 อำเภอ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ลำปาง พะเยา และสิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมระยะทาง 323.10 กม. มีสถานีทั้งสิ้น 26 สถานี ประกอบด้วยสถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี ขนาดเล็ก 9 สถานี และป้ายหยุดรถ 13 แห่ง โดยมีลานขนถ่ายสินค้า และย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า 1 แห่ง ที่สถานีเชียงของ บนพื้นที่ 150 ไร่ พร้อมแนวทางถนนเชื่อมต่อด่านชายแดนเชียงของ

โครงการนี้ มีจุดเด่นที่สำคัญคือเป็นโครงการที่ก่อสร้างโดยไม่มีจุดตัดทางแยกรถไฟเพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยมีการออกแบบรั้วกั้นเขตแนวสายทางของการรถไฟฯ และออกแบบสะพานรถไฟ สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ ทางรถยนต์ลอดรถไฟ ทางเชื่อมรวมและกระจายจราจร ตลอดจนสะพานลอย ทางเท้า และทางรถจักรยานยนต์ข้ามและลอดทางรถไฟ รวมประมาณ 254 จุด ตลอดแนวเส้นทาง และยังมีอุโมงค์คู่ตามแนวเส้นทางที่พาดผ่านพื้นที่ภูเขา รวมระยะทางประมาณ 13.9 กม. เพื่อให้สามารถเพิ่มระดับความเร็วในการเดินทางขนส่งได้อย่างปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ เมื่อโครงการนี้ ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2566 จะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 5,600 คน/วัน และรองรับได้ถึง 9,800 คน/วัน ในปี 2595 สร้างอัตราการเติบโตของผู้โดยสารได้ถึงร้อยละ 1.95 ต่อปี และอัตราการเติบโตของสินค้าประมาณร้อยละ 4.65 ต่อปี นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ถึง 413,417 ทีอียูต่อปี ในปี 2566 และเพิ่มเป็น 951,955 อีทียูต่อปี ในปี 2595 ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผ่านด่านเป็นร้อยละ 30-40 ต่อปี โครงการนี้จึงเป็นเส้นทางสำคัญเพื่อเชื่อมเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของ สปป.ลาว ที่จะมุ่งตรงสู่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และยังสามารถขนถ่ายสินค้าออกสู่ทะเลทางท่าเรือแหลมฉบังได้ รองรับนโยบายจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย (SEZ) เป็นการเติมเต็มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมของไทยให้สมบูรณ์ และเป็นการพลิกโฉมจังหวัดเชียงรายให้เป็น Logistics City ของภูมิภาคในอนาคตอีกด้วย

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/08/2018 2:43 pm    Post subject: Reply with quote

“อาคม” ชูรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ พลิกโฉมเชียงรายฮับภาคเหนือ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 9 August 2018 - 14:10 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2561 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานสัมมนาสร้างการรับรู้และความเข้าใจโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ เพื่อนำข้อมูลวัตถุประสงค์การก่อสร้างโครงการฯ ประโยชน์ของโครงการฯ และการเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการฯ พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนา

โดยนายอาคมกล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “กระทรวงคมนาคมกับการขับเคลื่อน จังหวัดเชียงราย มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ” โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวนโยบายในการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งในภาคเหนือของประเทศไทยทุกโหมดการเดินทาง

โดยเฉพาะระบบรางที่จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ จากนั้นจึงเป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองจากภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย หัวข้อ “ภาคเหนือเร่งเครื่อง เดินหน้า คว้าโอกาส…รถไฟสายใหม่ เด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ” โดย นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการถไฟแห่งประเทศไทย ที่จะมาพูดถึงข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ ประโยชน์ของประเทศไทย และที่สำคัญประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับคนเชียงราย บทบาทของ รฟท. ในการเร่งรัด ผลักดันให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น นายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่มาพูดถึงรถไฟสายประวัติศาสตร์ที่ชาวเชียงรายรอคอยมากว่า 50 ปี ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของจังหวัดเชียงราย หากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากหลากหลายช่องทาง และวิทยากรอีก 3 ท่าน คือ นายพรเทพ อินทะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย นายฉัตรชัย พัฒนานุภาพ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย และ นายกิตติ ทิศสกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ที่จะมาพูดถึงทิศทางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย และความต้องการ ตลอดจนเงื่อนไขการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างให้จังหวัดเชียงรายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นหนึ่งในแผนงานของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 และล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จได้ในปี 2566 ด้วยมูลค่าโครงการ 85,345 ล้านบาท

โดยโครงการฯ มีจุดเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ มุ่งไปทางทิศเหนือผ่านพื้นที่ 59 ตำบล 17 อำเภอ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ลำปาง พะเยา และสิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมระยะทาง 323.10 กม. มีสถานีทั้งสิ้น 26 สถานี ประกอบด้วย สถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี สถานีขนาดเล็ก 9 สถานี และป้ายหยุดรถ 13 แห่ง โดยมีลานขนถ่ายสินค้าจำนวน 4 แห่ง และย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า 1 แห่ง ที่สถานีเชียงของ บนพื้นที่ 150 ไร่ พร้อมแนวถนนเชื่อมต่อด่านชายแดนเชียงของ

โครงการนี้ มีจุดเด่นที่สำคัญคือเป็นโครงการที่ก่อสร้างโดยไม่มีจุดตัดทางแยกรถไฟเพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยมีการออกแบบรั้วกั้นเขตแนวสายทางของการรถไฟฯ และออกแบบสะพานรถไฟ สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ ทางรถยนต์ลอดรถไฟ ทางเชื่อมรวมและกระจายจราจร ตลอดจนสะพานลอย ทางเท้า และทางรถจักรยานยนต์ข้ามและลอดทางรถไฟ รวมประมาณ 254 จุด ตลอดแนวเส้นทาง และยังมีอุโมงค์คู่ตามแนวเส้นทางที่พาดผ่านพื้นที่ภูเขา รวมระยะทางประมาณ 13.9 กม. เพื่อให้สามารถเพิ่มระดับความเร็วในการเดินทางขนส่งได้อย่างปลอดภัยด้วย

เมื่อโครงการนี้ ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2566 จะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 5,600 คน/วัน และรองรับได้ถึง 9,800 คน/วัน ในปี 2595 สร้างอัตราการเติบโตของผู้โดยสารได้ถึงร้อยละ 1.95 ต่อปี และอัตราการเติบโตของสินค้าประมาณร้อยละ 4.65 ต่อปี นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ถึง 413,417 ทีอียูต่อปี ในปี 2566 และเพิ่มเป็น 951,955 อีทียูต่อปี ในปี 2595 ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผ่านด่านเป็นร้อยละ 30-40 ต่อปี โครงการนี้จึงเป็นเส้นทางสำคัญเพื่อเชื่อมเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของ สปป.ลาว ที่จะมุ่งตรงสู่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และยังสามารถขนถ่ายสินค้าออกสู่ทะเลทางท่าเรือแหลมฉบังได้ด้วย รองรับนโยบายจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย (SEZ) เป็นการเติมเต็มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมของไทยให้สมบูรณ์ และเป็นการพลิกโฉมจังหวัดเชียงรายให้เป็น Logistics City ของภูมิภาคในอนาคตอีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 211, 212, 213 ... 388, 389, 390  Next
Page 212 of 390

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©