View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44492
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/10/2020 6:07 pm Post subject: |
|
|
สว.ประดิษฐ์ประสานผู้รับเหมาโครงการรถไฟทางคู่แก้ถนนชำรุด
บ้านเมือง วันพุธ ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 17.32 น.
วันที่ 28 ตุลาคม นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย นายประเสริฐ แสนกล้า วิศวกรบริษัทซิโน-ไทยฯ ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เดินทางไปยังจุดก่อสร้างทางยกระดับข้ามทางรถไฟทางคู่ บริเวณรอยต่อหมู่ 1 และหมู่ 6 ต.หนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ถนนทางเบี่ยงที่กำลังก่อสร้างทางยกระดับรถไฟทางคู่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม เป็นหลุม เป็นบ่อใช้สัญจรลำบากมาก โดยมีนางเฟื่องฟ้า นาเมือง ประธาน อสม.หมู่ 1 ต.หนองศาลา พร้อมผู้นำชุมชนตลอดจนกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน รอต้อนรับและชี้แจงปัญหาความเดือดที่ได้รับผลกระทบการจากการสร้างรถไฟทางคู่และการใช้เส้นทางเบี่ยงในการข้ามฟากไป-มาบริเวณดังกล่าว
นายประดิษฐ์ กล่าวว่าหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าสภาพถนนเป็นอย่างที่ชาวบ้านพูดจริง จึงได้ประสานไปยังบริษัทซิโน-ไทยฯและได้ส่งผู้รับเหมาโครงการฯมาดูพื้นที่และเห็นถึงปัญหาที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนโดยทางผู้รับเหมารับปากว่าจะดำเนินการภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ให้เสร็จเรียบร้อย ทำให้ชาวบ้านพอใจมาก
นายประเสริฐ กล่าวว่าเส้นทางที่ชาวบ้านได้รับความเดือดนี้ เป็นเส้นทางเบี่ยงชั่วคราวที่ให้ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาระหว่างการก่อสร้างทางยกระดับข้ามทางรถไฟทางคู่ ก่อนหน้านี้ทางบริษัทเคยได้ปรับปรุงแก้ไขทางเบี่ยงเส้นนี้ไปแล้ว หลังจากที่ชาวบ้านและอำเภอชะอำได้มาร้องขอให้ช่วยปรับปรุงเส้นทาง แต่ก็บรรเทาความเดือดร้อนได้ระดับหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่เข้าช่วงมรสุมฝนตกหนักทางก็ชำรุดอีก กระทั่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอีก ดังนั้นในครั้งนี้ทางบริษัทจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมบำรุงรักษาทางเบี่ยงให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานต่อไปภายในสิ้นเดือนนี้. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 04/11/2020 12:13 pm Post subject: |
|
|
ความก้าวหน้างานก่อสร้าง ผลงานถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2563
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
30 ตุลาคม 2563 เวลา 08:38 น.
👉สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
แผนงานสะสม = 74.654 %
ผลงานสะสม = 72.774 %
ช้ากว่าแผน = -1.880 %
👉สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 74.177 %
ผลงานสะสม = 75.546 %
เร็วกว่าแผน = 1.369 %
👉สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 79.65 %
ผลงานสะสม = 76.83 %
ช้ากว่าแผน = 2.82 %
👉สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
แผนงานสะสม = 65.200 %
ผลงานสะสม = 68.396 %
เร็วกว่าแผน = 3.196 %
👉สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี
แผนงานสะสม = 84.784 %
ผลงานสะสม = 59.221 %
ช้ากว่าแผน = -25.563 %
https://www.facebook.com/southernlinetrackdoublingproject/posts/2770211906566881 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44492
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/11/2020 6:25 am Post subject: |
|
|
ทางคู่สายเหนือขยายสัญญา2ปีครึ่ง
Source - เดลินิวส์
Thursday, November 05, 2020 05:30
ท่าแค-ปากน้ำโพช้ามาก19.25% เหตุปรับแบบสถานี-จุดขนถ่าย
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางสายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กม. วงเงินก่อสร้าง 2.15 หมื่นล้านบาท ภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้า 52.61% เร็วกว่าแผน 17.28% โดยสัญญาที่ 1 ช่วง บ้านกลับ-โคกกระเทียม ระยะทาง 29 กม. มีกิจการ ร่วมค้ายูเอ็น-เอสเอช และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างมีความคืบหน้า 38.38% เร็วกว่าแผน 15.32%
ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ 116 กม. มีบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างคืบหน้า 62.92% ล่าช้ากว่าแผน 19.25%ขณะที่การจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม วงเงินก่อสร้าง 2.77 พันล้านบาท มีกิจการร่วมค้า บีที-ยูเอ็น ประกอบด้วย บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการ อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่เตรียมพร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า ขณะนี้การก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือพบปัญหาในส่วนของสัญญาที่ 2 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนงานค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องปรับแบบการก่อสร้างใหม่โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายสัญญาเพิ่มเติมให้กับผู้รับเหมาซึ่งเดิมจะหมดอายุสัญญาเดือน ม.ค. 64 คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ย. 63 และเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)รฟท. พิจารณาอนุมัติในเดือน ธ.ค.นี้ เบื้องต้นอาจต้องขยายเวลาเพิ่มออกไปอีกประมาณ 1.5 ปี ทั้งนี้ยังถือว่าอยู่ในกรอบเวลาที่จะเปิดบริการได้ตามกำหนดเดิมภายในปี 66
สำหรับการปรับแบบการก่อสร้างใหม่นั้นได้ปรับในส่วนของย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) เนื่องจาก เมื่อครั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ลงพื้นที่สัญจรที่ จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่ปี 61 รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง มองว่า CY ไม่ควรอยู่ในตัวเมืองนครสวรรค์ ที่สถานีนครสวรรค์จึงได้ปรับมาอยู่ที่บริเวณสถานีเขาทอง โดยเป็นสถานีก่อนหน้าสถานีนครสวรรค์ 1 สถานีแต่เมื่อ รฟท. มาดูพื้นที่ พบว่า ไม่เหมาะสม จึงต้องมาใช้พื้นที่ของทหารซึ่งก่อนหน้านี้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ทำเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่ และตอบกลับมาเร็ว ๆ นี้ว่าอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า นอกจากนี้ยังพบปัญหาบริเวณสถานีบ้านตาคลี จ.นครสวรรค์ ยังมีเสียงชาวบ้านคัดค้าน เนื่องจากปิดจุดตัดรถไฟทำให้ต้องไปกลับรถไกลจากจุดเดิมประมาณ 5 กม. จึงต้องปรับแบบใหม่ทำเป็นสะพานกึ่งยกระดับให้รถยนต์ลอดผ่านไปได้และยังต้องปรับแบบสถานี และแนวเส้นทางรถไฟด้วย ขณะที่สัญญาที่ 1 ซึ่งเป็นจุดที่มีการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับความยาว 23 กม. โดยยาวที่สุดในไทยนั้นยังไม่พบปัญหาใด ๆ ขณะนี้ทยอยขึ้นเสายกระดับ รวมทั้งหล่อเสาและชิ้นส่วนทางยกระดับอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในส่วนนี้จะแล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 65.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 6 พ.ย. 2563 (กรอบบ่าย) |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44492
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/11/2020 6:26 am Post subject: |
|
|
รถไฟทางคู่'ลพบุรี-ปากน้ำโพ'ไม่สดใส
Source - เดลินิวส์
Thursday, November 05, 2020 03:16
ต้องปรับแบบขยายสัญญา2ปีครึ่ง ยังชื่นใจสูงยาวที่สุดในไทยสร้างลิ่ว
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางสายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กม. วงเงินก่อสร้าง 2.15 หมื่นล้านบาท ภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้า 52.61% เร็วกว่าแผน 17.28% โดยสัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม ระยะทาง 29 กม. มีกิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอสเอช และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างมีความคืบหน้า 38.38% เร็วกว่าแผน 15.32%
ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ 116 กม. มีบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างคืบหน้า 62.92% ล่าช้ากว่าแผน 19.25% ขณะที่การจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม วงเงินก่อสร้าง 2.77 พันล้านบาท มีกิจการร่วมค้า บีที-ยูเอ็น ประกอบด้วย บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการ อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่เตรียมพร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า ขณะนี้การก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือพบปัญหาในส่วนของสัญญาที่ 2 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนงานค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องปรับแบบการก่อสร้างใหม่โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายสัญญาเพิ่มเติมให้กับผู้รับเหมาซึ่งเดิมจะหมดอายุสัญญาเดือน ม.ค. 64 คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ย. 63 และเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาอนุมัติในเดือน ธ.ค.นี้ เบื้องต้นอาจต้องขยายเวลาเพิ่มออกไปอีกประมาณ 1.5 ปี ทั้งนี้ยังถือว่าอยู่ในกรอบเวลาที่จะเปิดบริการได้ตามกำหนดเดิมภายในปี 66
สำหรับการปรับแบบการก่อสร้างใหม่นั้นได้ปรับใน ส่วนของย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) เนื่องจาก เมื่อครั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ลงพื้นที่สัญจรที่ จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่ปี 61 รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง มองว่า CY ไม่ควรอยู่ในตัวเมืองนครสวรรค์ ที่สถานีนครสวรรค์จึงได้ปรับมาอยู่ที่บริเวณสถานีเขาทอง โดยเป็นสถานีก่อนหน้าสถานีนครสวรรค์ 1 สถานีแต่เมื่อ รฟท. มาดูพื้นที่ พบว่า ไม่เหมาะสม จึงต้องมาใช้พื้นที่ของทหารซึ่งก่อนหน้านี้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ทำเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่ และตอบกลับมาเร็ว ๆ นี้ว่าอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า นอกจากนี้ยังพบปัญหาบริเวณสถานีบ้านตาคลี จ.นครสวรรค์ ยังมีเสียงชาวบ้านคัดค้าน เนื่องจากปิดจุดตัดรถไฟทำให้ต้องไปกลับรถไกลจากจุดเดิมประมาณ 5 กม. จึงต้องปรับแบบใหม่ ทำเป็นสะพานกึ่งยกระดับให้รถยนต์ลอดผ่านไปได้และยัง ต้องปรับแบบสถานี และแนวเส้นทางรถไฟด้วย ขณะที่สัญญาที่ 1 ซึ่งเป็นจุดที่มีการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับความยาว 23 กม. โดยยาวที่สุดในไทยนั้นยังไม่พบปัญหาใด ๆ ขณะนี้ทยอยขึ้นเสายกระดับ รวมทั้งหล่อเสาและชิ้นส่วนทางยกระดับอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในส่วนนี้จะแล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 65.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 พ.ย. 2563 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44492
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 11/11/2020 6:18 pm Post subject: |
|
|
RT ผู้นำเจาะอุโมงค์ ฉลุยงานสร้างทางยุคใหม่
https://www.thunhoon.com/article/231610
ทันหุ้น-บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ RT กำลังจะย่างก้าวครั้งสำคัญ แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และนำหุ้นเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET เพื่อที่จะนำเงินทุนจากตลาดทุนมาใช้ขยายธุรกิจให้มีการเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่ง RT ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธา และธรณีเทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีระดับสูง โดยเฉพาะงานก่อสร้างอุุโมงค์ ซึ่งถือเป็นผู้นำในธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันไม่มาก เพราะต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจยังสดใส
"ชวลิต ถนอมถิ่น" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเสมือนแม่ทัพใหญ่ในการนำพาธุรกิจ เปิดเผยว่า ตัวเขาและกลุ่มเพื่อนักธุรกิจวิทยาและวิศกร ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง ในปี 2543ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5 ล้านบาท โดยมีตัวเขาถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 20%ได้ใส่เงินลงทุนเข้าไปประมาณ 1 ล้านบาท โดยมีงานก่อสร้างโครงการแรกเป็นงานก่อสร้างอุโมงค์ขนาด 3.0 เมตร ในโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองท่าด้าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครนายก ซึ่งมีความยาวรวมทั้งสิ้น 1,910 เมตร ต่อมาบริษัทได้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโต โดยได้ดำเนินการก่อสร้างทั้งงานจากภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง
จากจุดเริ่มต้นทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ตอนนี้เติบโตขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 550 ล้านบาทแล้ว และหุ้นเตรียมที่จะเข้าซื้อขายใน SET ภายในวันที่ 12พฤศจิกายนนี้ 2563 ซึ่งได้มีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.92 บาท เมื่อวันที่ 3-5พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง กล่าวว่า การนำหุ้นเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นการรองรับการเติบโต โดยเฉพาะการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจให้รับงานได้มากขึ้น จากข้อมูลในแบบไฟลิ่ง ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำใช้เป็นเงินลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ ประมาณ 10 ล้านบาท, ใช้เป็นเงินทุนในเครื่องจักร ยานพาหนะ เครื่องมืออุปกรณ์ ประมาณ 54 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ 477.38 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีการให้บริการเกี่ยวกับการับเหมาก่อสร้างแยกตามประเภทการให้บริการได้ 5 ประเภท ประกอบด้วย งานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน, งานก่อสร้างเขื่อน, งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ, งานก่อสร้างท่อลอดใต้ดินวิธีดันท่อและและดึงท่อแนวนอน และสุดท้ายงานก่อสร้างด้านอื่นๆ เช่น งานป้องกันและเสริมเสถียรภาพทางลาด งานขุดดินและหิน ทั้งแบบใช้ระเบิดและไม่ใช้ระเบิด งานเจาะสำรวจธรณีวิทยา, งานถนน และงานวางรางรถไฟ
งานที่ได้รับในช่วงที่ผ่านมามีจำนวนหลายโครงการจากภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ เช่น โครงการอุโมงค์รถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ จังหวัดนครราชสีมา, โครงการอาคารประกอบอุโมงค์ส่งน้ำ-แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่,โครงการบ่อพักและท่อร้อยสายร่วมกับโครงการถไฟฟ้าสายสีเหลือง กรุงเทพมหานคร, โครงการงานขยายถนนจาก 2 เลนเป็น 4 เลน หนองหาน-พังโคน จังหวัดสกลนคร, โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก จังหวัดเลย และงานก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำและงานปรับปรุงฐานรากเขื่อน Duantriประเทศกัมพูชาเป็นต้น
**แนวโน้มธุรกิจสดใส-รายได้โต 15% ต่อปี
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้หลักของไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง ประมาณ 60% จะมาจากงานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ และเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันไม่มาก เนื่องจากต้องใช้ความชำนาญประสบการณ์ และเทคโนโลยีระดับสูง จึงทำให้เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นที่ดี ขณะที่แนวโน้มการขุดเจาะอุโมงค์ในประเทศไทยก็มีอีกมาก เพราะจะมาจากการลงทุน
ด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่นระบบขนส่ง ทั้งรถไฟทางคู่ที่มีแผนการขยายไปทั่วประเทศ จึงเป็นโอกาสที่จะเติบโตทางธุรกิจของบริษัท รวมถึงธุรกิจด้านท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินที่จะมาจำนวนมากเช่นกัน บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในแต่ละปีโตเฉลี่ยประมาณ 15% ต่อปี
การทำธุรกิจของบริษัท จะเป็นทั้งการเป็นผู้รับเหมาโดยตรง และผู้รับเหมาช่วง เป็นลักษณะของการดำเนินการับจ้างเหมาช่วงต่อจากผู้รับเหมาที่ได้รับงานโดยตรงจากเจ้าของโครงการ (Sub Contractor)โดยบริษัทเป็นพันธมิตรกับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศไทยหลายแห่ง
โดยการเป็นผู้รับเหมาโดยตรง จะมีมาร์จิ้นที่ดีกว่า ซึ่งทำให้ในช่วงหลังๆ บริษัทจะมีสัดส่วนการเป็นผู้รับเหมาโดยตรงที่มากกว่าการเป็นผู้รับเหมาช่วง
จากข้อมูลในแบบไฟลิ่งสัดส่วนการเป็นผู้รับเหมาโดยตรง และการเป็นผู้รับเหมาช่วง ในปี 2560-2562 จะอยู่ที่ 46% ต่อ 54%, 82% ต่อ 18% และ 71% ต่อ 29% ตามลำดับ ขณะที่ใน 6 เดือนแรกของปี 2563 จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 72% ต่อ 28% ทั้งนี้จนถึงสิ้นไตรมาส 2/2563 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 4,258 ล้านบาท
โดยจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ไปอีก 2 ปีข้างหน้า หรือถึงปี 2565 และยังมีโอกาสที่ในงานในมือจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะจากการที่บริษัทเข้าไประมูลงานต่างๆ รวมถึงการเป็น Sub Contractor ประกอบกับแนวโน้มงานก่อสร้างที่ยังมีอีกจำนวนมาก โดยบริษัทได้ทำสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มในส่วนของงานโยธาใต้ดิน และเริ่มงานแล้วในเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา
**ขยายงานไปต่างประเทศ
นายชวลิต เล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในสปป.ลาว ซึ่งมีโครงการที่เข้าไปก่อสร้างหลายแห่ง ได้แก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี โดยร่วมกับบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือ CK หรือและงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของประเทศเมียนมาร์บริษัทก็มีการจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้น เพื่อดำเนินการรับงานต่างๆ และบริษัทก็ยังเตรียมที่จะขยายเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นอีกประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ และจะมีการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาการเข้าไปลงทุนต่างประเทศ ส่วนหนึ่งก็ได้รับแนะนำจากพันธมิตรทางธุรกิจจากเกาหลีใต้
"บริษัทมีการเติบโตมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา และซึ่งเราก็ยึดรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่าง ช.การช่าง เป็นแม่แบบ ซึ่งทาง ช.การช่างมีการเติบโตด้านธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศ รวมถึงมีการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ในอนาคตเราก็ต้องการเติบโตในลักษณะแบบเดียวกัน"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง กล่าวทิ้งท้าย
รายงาน : ธิดารัตน์ เห็นพร้อม
ผู้สื่อข่าวอาวุโส : ธิดารัตน์ เห็นพร้อม |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 12/11/2020 9:07 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | ทางคู่สายเหนือขยายสัญญา2ปีครึ่ง
Source - เดลินิวส์
Thursday, November 05, 2020 05:30
|
ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปจ.ลพบุรี จึงขอแวะเข้าไปถ่ายภาพความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางสายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
Thailand Transportation
12 พฤศจิกายน 2563 เวลา 20:20 น.
ในส่วนของสัญญาที่1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม (ทางรถไฟยกระดับ) มีกิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอสเอชและบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
มีความก้าวหน้าของโครงการ เดือนตุลาคม 2563 ดังนี้
-ความก้าวหน้าสะสม = 38.139 %
-แผนงานสะสม = 23.060%
-เร็วกว่าแผน = +15.079%
สำหรับการก่อสร้างในสัญญาที่ 1 ช่วงจากสถานีบ้านกลับ-สถานีโคกกระเทียม ระยะทาง29 กม. ถือเป็นจุดที่มีไฮไลต์โดดเด่นของโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ โดยเป็นจุดที่มีการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับมีความยาวถึง 23 กม.ซึ่งขณะนี้ได้ก่อสร้างฐานรากและขึ้นเสาเพื่อวางคานทางยกระดับไปจำนวนมากแล้วโดยทางยกระดับจะมีความสูงจากระดับพื้นดินถึงสันรางรถไฟประมาณ 10-20 เมตร
หากก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นการทำลายสถิติทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในไทยแทนทีทางรถไฟยกระดับที่สูงที่สุดและยาวที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ(สายอีสาน) ช่วงมาบกระเบา-กลางดง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ระยะทางยาว 5 กม.แต่จุดสูงสดอยู่ที่ประมาณ 50 เมตร
ทั้งนี้คาดว่าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ยกระดับ ช่วงสถานีบ้านกลับ-สถานีโคกกระเทียม จะแล้วเสร็จประมาณปี 2565 ส่วนตลอดเส้นทางก่อสร้างสายเหนือตั้งแต่สถานีลพบุรี-สถานีปากน้ำโพ จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ประมาณปี2566 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 13/11/2020 3:56 pm Post subject: |
|
|
ข่าวช่องวัน
ชาวโคราชระทม! อุโมงค์ลอดข้ามรถไฟทางคู่ ระหว่าง อ.โนนสูง กับ อ.ขามสะแกแสง ถูกน้ำท่วมขังเป็นเดือน การรถไฟฯ เจ้าของพื้นที่ยังเมินเฉย ต้องไปใช้สะพานกลับรถที่อยู่ห่างออกไปเกือบกิโลฯ ล่าสุดเลยเอาเตียงอาบแดด ชวนลูกหลาน มานั่งพักผ่อน นั่งเล่นน้ำ ระหว่างรอน้ำลดไปเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/onenews31/posts/3729299807158467 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 15/11/2020 11:43 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | ข่าวช่องวัน
ชาวโคราชระทม! อุโมงค์ลอดข้ามรถไฟทางคู่ ระหว่าง อ.โนนสูง กับ อ.ขามสะแกแสง ถูกน้ำท่วมขังเป็นเดือน การรถไฟฯ เจ้าของพื้นที่ยังเมินเฉย ต้องไปใช้สะพานกลับรถที่อยู่ห่างออกไปเกือบกิโลฯ ล่าสุดเลยเอาเตียงอาบแดด ชวนลูกหลาน มานั่งพักผ่อน นั่งเล่นน้ำ ระหว่างรอน้ำลดไปเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/onenews31/posts/3729299807158467 |
การรถไฟฯ เปิดใช้งานอุโมงค์ทางลอดรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น ได้ตามปกติแล้ว
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 - 16:43 น.
การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังอุโมงค์ทางลอดรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น บริเวณ ต.โนนสูง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา แล้วเสร็จ
ตามที่ได้มีน้ำท่วมขังอันเกิดจากดินเข้าไปอุดตันท่อจากเหตุน้ำท่วมหนักในจังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งขณะนี้สามารถเปิดใช้บริการเส้นทางการสัญจรได้ตามปกติแล้ว
ทั้งนี้ สามารถสอบถาม หรือแจ้งข้อมูลการใช้บริการเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
หรือเฟชบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
การรถไฟ เร่งสูบน้ำ ทางลอดอุโมงค์โคราช หลังชาวบ้านลงเล่นน้ำประชด
ทุกทิศทั่วไทย
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 - 12:48 น.
การรถไฟ เร่งสูบน้ำ ทางลอดอุโมงค์โคราช หลังชาวบ้านลงเล่นน้ำประชด
กรณี ชายหนุ่มนำครอบครัวไปพักผ่อนเล่นน้ำเป็นการประชดประชัน ปัญหาน้ำท่วมขังในอุโมงค์ททางลอดใต้รางรถไฟในโครงการรถทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น บริเวณชุมชนบัว 3 ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา จนชาวบ้านไม่สามารถใช้การได้
มีถนนแต่ใช้ไม่ได้! เซ็งน้ำท่วมทางลอดใต้รางรถไฟนับเดือน ไร้คนสนใจแก้ทุกข์ร้อนชาวบ้าน
ความคืบหน้าวันที่ 15 พ.ย.2563 การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับบริษัท ช.การช่าง ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโครงการรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำ พร้อมดำเนินการสูบน้ำที่ท่วมขังออกจนใกล้จะแห้งเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้จะประสานรถน้ำของเทศบาลตำบลโนนสูง เข้ามาดำเนินการล้างคราบสกปรกที่ติดอยู่ในช่วงน้ำท่วมขังออก และจะสามารถเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางสัญจรผ่านได้ภายในวันนี้
ด้าน นายจิติวัฒน์ นาคจำศิลป์ ผู้โพสต์ภาพดังกล่าว เปิดเผยว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่การทางรถไฟฯ ที่รีบเข้ามาดำเนินการหลังจากปรากฏข่าวออกไป ทำให้ประชาชนจะได้สามารถสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวได้โดยสะดวก ซึ่งตนเองก็ได้เดินทางไปติดตามการซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำด้วยตัวเองพร้อมพูดคุยกับทีมเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ซึ่งทางการรถไฟฯ ก็ได้รับปากว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกพร้อมให้หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน การรถไฟฯ จะได้จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการได้ทันท่วงที
Last edited by Wisarut on 16/11/2020 6:36 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|