View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 28/02/2008 4:44 pm Post subject: |
|
|
มุมมองด้านข้างสะพานทางขวา เอื้อมสุดแขนก็ได้แค่นี้ล่ะครับ
บริเวณกลางสะพานจะเห็นตัวอักษรที่เป็นสีสเปรย์สีขาวพ่นติดเอาไว้ เป็นการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการทำสีสะพานครั้งล่าสุด แต่ ณ วันที่ไปสำรวจสะพานแห่งนี้ ก็เลือนลางจนแทบจะอ่านไม่ออกแล้วครับ
สำหรับการทำสีสะพานแห่งนี้ครั้งล่าสุด ดำเนินการโดยหน่วยงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย และใช้สีไดโน แตกต่างจากหลาย ๆ สะพานที่ได้ไปสำรวจมาซึ่งได้ผู้รับเหมาเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ ( ส่วนใหญ่จะดำเนินการผ่านมาแล้วไม่กี่ปี ) และใช้สีซันโก ( Sunco ) ครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 28/02/2008 6:00 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: |
pak_nampho wrote: | พี่ตึ๋ง...ยังมีเอกลักษณ์ผ้าทอบ้านหมี่...ของชาวไทยอพยพครับ... |
ขอบคุณครับ ที่คุณนพ ช่วยเพิ่มเติมให้ มีญาติของเพื่อนบ้านยายผมที่พะเยา มาได้แฟนที่บ้านหมี่ คุยกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงด้วยภาษาเหนือรู้เรื่อง ทั้งๆ ที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่เคยอยู่ภาคเหนือเลย
ตอนนี้เด็กๆ ที่ อ.บ้านหมี่ พูดไทยกลางกันหมดแล้ว |
เรียนพี่ตึ๋งครับ
ถ้าผมจำไม่ผิด ชาวไทยอพยพที่อ.บ้านหมี่นี้คือ "ชาวไทยพวน" นะครับ เป็นชาวไทยพวนที่ถกกวาดต้อนมาสมัยรัชกาลที่ 3 มาจากหัวพันทั้งห้าทั้งหก (เมืองเหยิม เมืองซำเหนือ เมืองซำใต้ เมืองเชียงคอ เมืองโสย และเมืองซอน) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของประเทศลาวเมื่อประมาณ 130 ปีมาแล้ว จึงไม่แปลกว่าเหตุใดสำเนียงภาษาของชาวไทยพวนจึงคล้ายคลึงกับสำเนียงของทางล้านนา เนื่องด้วยภาษาและวัฒนธรรมของชาวไทยในแถบนี้จะคล้ายคลึงกันครับ
ถ้าพี่ตึ๋งได้มีโอกาสไปเยือนเมืองหลวงพระบาง พี่ตึ๋งจะรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในภาคเหนือของไทยเมื่อ 40-50 ปีก่อนมากเลยครับ เพราะสำเนียงของลาวตอนเหนือจะคล้ายภาษาคำเมืองอยู่แล้วครับ
ส่วนชื่ออำเภอบ้านหมี่ ได้มาจากที่ชาวไทยพวนนำเอาชื่อบ้านเดิมคือ “บ้านหมี่” มาใช้เป็นชื่อหมู่บ้านใหม่ที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งใหม่นี้ด้วยครับ
ป.ล. ผ้าทอมัดหมี่ของไทยพวนลายเขา็สวยดีนะครับ แม่ผมยังซื้อไปเก็บไว้ตั้งหลายผืน
Last edited by umic2000 on 29/02/2008 5:24 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 28/02/2008 6:34 pm Post subject: |
|
|
ทางรถไฟที่อยู่บนสะพานใช้หมอนไม้ครับ
อุปกรณ์ยึดเหนี่ยวรางเป็นคนละแบบกับทางรถไฟที่อยู่ด้านนอกสะพาน แต่เป็นแบบเดียวกับที่เห็นว่าใช้งานอยู่ตามสะพานอื่น ๆ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 28/02/2008 8:08 pm Post subject: |
|
|
ข้ามมาถึงอีกฝั่งหนึ่งของสะพานแห่งนี้แล้วครับ ก็ต้องขอเก็บภาพเอาไว้ตามธรรมเนียม ถึงแม้จะย้อนแสงเต็ม ๆ เลยก็ตาม
วัดที่เห็นอยู่ทางด้านขวาของรูปนั้น คงต้องรบกวนเจ้าถิ่นหรือผู้รู้มาแนะนำแล้วล่ะครับ ผมต้องรีบทำเวลา ไม่ได้เก็บรายละเอียดมาเลยครับ
มองตามทางรถไฟไปทางทิศเหนือที่เป็นทางไปสู่ สถานีห้วยแก้ว จะเห็นทางรถไฟตรงยาวไปจนสุดตา และมี " หลักเขตสับเปลี่ยน " อยู่ข้างทางประธาน บริเวณเสาโทรเลขที่ 162/5 ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 28/02/2008 8:18 pm Post subject: |
|
|
หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจสะพานแห่งนี้ ผมก็เดินเหงื่อโซกกลับมาจนถึง สถานีบ้านหมี่ ก่อนกำหนดเวลาที่ ขบวนรถเร็วที่ 106 ต้นทางสถานีศิลาอาสน์ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จะมาถึงเล็กน้อยครับ แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่สถานีบอกกับผมว่า ขบวนที่ 106 จะมาช้ากว่ากำหนดประมาณ 20 นาที ผมก็เลยมีเวลานั่งพักให้หายเหนื่อยเพิ่มอีกนิดหน่อย
ในวันนั้นขบวนที่ 106 เข้ามาถึง สถานีบ้านหมี่ 12.32 น. ครับ
ผมก็ถือตั๋วราคา 81 บาท ขึ้นไปบนขบวนรถที่เห็นอยู่นี้เพื่อที่จะไปลงที่ สถานีชุมทางบางซื่อ กลับบ้านเหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่นั่งรถไฟกลับเข้ากรุงเทพ แต่เหตุการณ์เกิดพลิกผัน ทำให้ผมได้แวะเดินเทียวต่อแถว ๆ สถานีลพบุรี แบบที่ไม่ได้ตั้งใจ... _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 29/02/2008 5:15 am Post subject: |
|
|
จากที่คิดว่าจะได้กลับบ้านไปพร้อม ๆ กับขบวนที่ 106 แต่เหตุการณ์บางอย่างทำให้ผมต้องเปลี่ยนใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องก้าวลงจากขบวนที่ 106 ที่ สถานีลพบุรี แทนครับ
สถานีลพบุรี ในเส้นทางสายเหนือ
เป็นสถานีระดับที่ 1 อักษรย่อ ลบ. รหัสสถานี 1050
ตั้งอยู่ใน ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 132.81 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลไฟฟ้าบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ และสัญญาณไฟสี ก.1ก *
* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี สามารถหาเพิ่มเติมได้จาก
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. สำนักงานจังหวัดลพบุรี
3. thaitambon.com
4. moohin.com
5. thai-tour.com
6. relaxzy.com
7. lakkai.com
8. hamanan.com
ภาพจาก Pointasia แสดงพื้นที่โดยรอบของ สถานีลพบุรี จากที่นี่ผมต้องเดินไปทางทิศเหนือประมาณ 1.15 กิโลเมตร ก็จะไปถึงสะพานแห่งแรกครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 29/02/2008 5:55 am Post subject: |
|
|
ที่ต้องเปลี่ยนแผนกระทันหันในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะความอยากเที่ยว หรือว่าหาเรื่องเที่ยว เหมือนกับหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาหรอกครับ เพราะในวันธรรมดา ( จันทร์ - ศุกร์ ในช่วงเปิดเทอม ) ถ้าผมต้องออกจากบ้านไปทำธุระที่ไหน ก็ต้องรีบกลับบ้านก่อน หรือให้ใกล้เคียงกับเวลาที่เจ้าตี๋และน้องพีกลับมาจากโรงเรียนให้มากที่สุดเช่นกัน แต่ในเมื่อเหตุการณ์มันกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็คงทำได้แค่โทรไปบอกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่รับ - ส่งเด็ก ๆ ประจำทุกวันให้พาทั้ง 2 คนไปส่งที่ร้านไม่ต้องเข้ามาที่บ้าน และบอกน้อง ๆ ที่ทำงานอยู่ที่ร้าน ว่าคงต้องขอฝากเด็ก ๆ เอาไว้ก่อน ส่วนผมคงจะกลับไปถึงที่ร้านช่วงเย็น ๆ ค่ำ ๆ ถึงแม้จะไม่ได้อยากเดินเที่ยวแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าถูกโชคชะตายัดเยียดให้เดินล่ะครับ มาถึงที่แล้วจะปล่อยไปได้ยังไง ผ่านไปผ่านมาก็หลายครั้ง ไม่คิดเลยว่าจะได้มาสัมผัสสะพานทางด้านทิศเหนือของ สถานีลพบุรี ทั้ง 2 แห่งแบบใกล้ชิดเข้าจนได้
ช่วงที่มาถึง สถานีลพบุรี นั้น มี ขบวนรถธรรมดาที่ 201 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีพิษณุโลก จอดอยู่ในรางที่ 3 ถ้าเล่นมาจอดในรางนี้ก็คงจะไม่ได้รอหลีกเพียงแค่ขบวนที่ 106 ขบวนเดียวแน่ ถ้าเป็นเวลาประมาณนี้ ก็คงต้องรอให้ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 3 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีสวรรคโลก แซงขึ้นหน้าไปอีก 1 ขบวน ผมก็เลยต้องมองหาที่ดักซุ่มยิง ( ภาพ ) ของรถด่วนพิเศษขบวนนี้ก่อนออกเดินไปสำรวจสะพานครับ
กซข.ป. 2509 เป็นคันท้ายสุดของขบวนที่ 3 ที่ในวันนั้นมาถึง สถานีลพบุรี เวลา 13.02 น. ครับ
จากนั้นผมก็เดินวนเวียนตามหาเจ้าถิ่นที่เคยได้ยินว่าผ่านมาแถวนี้บ่อย ๆ ว่าจะชวนไปกินมื้อกลางวันด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ไม่เจอตัว จะไปนั่งกินคนเดียวก็เหงาอีก ( ช่วงนี้โรคคนขี้เหงากำเริบบ่อย ๆ แทนโรคหายใจไม่ทั่วท้องเวลาอยู่บนที่สูงแล้ว ) ไม่กงไม่กินมันแล้วครับ รีบ ๆ เดินไปให้ถึงสะพานจะได้กลับบ้านซะทีดีกว่า...
ผมยังเดินไปไม่ถึงจุดตัดถนนเสมอระดับทางด้านทิศเหนือของ สถานีลพบุรี เลย เครื่องกั้นถนนก็ทำงาน ดูจากโคมประแจแล้ว ขบวนที่ 201 คงจะได้เวลาออกเดินทางต่อแล้วล่ะครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 29/02/2008 7:00 am Post subject: |
|
|
ขบวนที่ 201 ในวันนั้นได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4529 ทำขบวนครับ น่าเสียดายที่ทิศทางของแสงไม่เอื้ออำนวย ไม่อย่างนั้นผมคงได้รูป GEA. 4529 ที่ยังคงเรียกว่าดูใหม่และสวยงามดีอยู่ ไปฝากน้อง ๆ สาวก GEA. แล้วล่ะครับ ( อาจจะได้รูปไปแปะหน้าจอคอมพิวเตอร์เพิ่มมาอีก 1 รูปด้วย )
ป้ายข้างรถ " กรุงเทพ - พิษณุโลก " ยืนยันว่าเป็นขบวนที่ 201 จริง ๆ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 29/02/2008 8:00 am Post subject: |
|
|
ใกล้ ๆ กับจุดตัดถนนเสมอระดับทางด้านทิศเหนือของ สถานีลพบุรี เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ นั่นก็คือ " พระปรางค์สามยอด " ครับ
Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ " พระปรางค์สามยอด " ไว้ว่า
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย wrote: | พระปรางค์สามยอด
ตั้งอยู่บนเนินดินด้านตะวันตกของทางรถไฟ ใกล้กับศาลพระกาฬ มีลักษณะเป็นปรางค์เรียงต่อกัน 3 องค์ มีฉนวนทางเดินเชื่อมติดต่อกัน พระปรางค์สามยอดเป็นศิลปะเขมรแบบบายน ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 สร้างด้วยศิลาแลง และตกแต่งลวดลายปูนปั้นที่สวยงาม เสาประดับกรอบประตูแกะสลักเป็นรูปฤาษีนั่งชันเข่าในซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งเป็นแบบเฉพาะของเสาประดับกรอบประตูศิลปะเขมรแบบบายน ปรางค์องค์กลางมีฐาน แต่เดิมเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและมีเพดานไม้เขียนลวดลายเป็นดอกจันสีแดงด้านหน้าทางทิศตะวันออกมีวิหารสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาขนาดใหญ่ปางสมาธิที่สมบูรณ์ดี เป็นศิลปะแบบสมัยอยุธยาตอนต้น อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20 ปรางค์สามยอดนี้แต่เดิมคงเป็นเทวสถานของขอมในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ต่อมาได้ดัดแปลงเป็นเทวสถานโดยมีฐานศิวลึงค์ปรากฏอยู่ในองค์ปรางค์ทั้งสามปรางค์ จนกระทั่งถึงรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ จึงได้บูรณะปฏิสังขรณ์พระปรางค์สามยอดเป็นวัดในพุทธศาสนา แล้วสร้างพระวิหารก่อด้วยอิฐ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาผสมแบบยุโรปในส่วนของประตูและหน้าต่าง ภายในวิหารประดิษฐานพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยาตอนต้น ปัจจุบันยังคงประดิษฐานอยู่กลางแจ้งเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. เว้นวันจันทร์-อังคาร ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3641 2510, 0 3641 3779 |
ระหว่างทางที่ผมเดินจาก สถานีลพบุรี ไปข้ามถนนที่ด้านหน้า พระปรางค์สามยอด ก็ได้เดินผ่านลิงฝูงหนึ่ง ประเมินสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่พอคล้อยหลังเท่านั้นล่ะครับ มีลิงตัวใหญ่ตัวหนึ่งอ้อมเข้ามาจากทางด้านหลัง เอามือมาดึงขวดน้ำที่ผมถืออยู่ โชคยังดีอยู่ที่ผมจับขวดน้ำเอาไว้แน่น ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเสียน้ำให้ลิง... ก็เพิ่งรู้นี่ล่ะครับ ว่าลิงเองก็ลอบกัดจากข้างหลังเป็นเหมือนกัน คิดว่ามีแต่คน กับน้องหมา ที่ทำเป็นเท่านั้นซะอีก ลิงตัวนั้นต้องเป็น " ลิงตัวเมีย " แน่ ๆ เลย ประสบการณ์ใหม่นะครับเนี่ย...
จากบริเวณด้านหน้า พระปรางค์สามยอด หันมองไปทางขวา ข้ามทางรถไฟไปก็จะเป็นที่ตั้งของ " ศาลพระกาฬ " ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|