ขอเรียนเชิญ เพื่อนๆที่เล่นรถไฟจำลอง มาให้ข้อมูลกันหน่อยครับ

[OutRun]

[pak_nampho]

[CENTENNIAL]

ขอเสนอความคิดเห็นอีกซักเล็กน้อย และผมมานึกได้ว่า ในกระทู้นี้ผมควรจะกล่าวถึงยี่ห้อสินค้าให้น้อยที่สุดน่าจะดีกว่าครับ เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นกระทู้โฆษณาชวนเชื่อขายสินค้าไปอีก ทั้งที่เราเองก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสินค้ายี่ห้อใดทั้งนั้น หากต้องการคุยลงลึกรายละเอียดตามประสบการณ์ของผมนั้นไว้เจอหน้ากันค่อยคุยกันจะดีกว่าครับ

จริงๆ แล้ว ต้องบอกว่าผมเป็นคนนึงครับ ที่ไม่ได้เริ่มต้นเล่นรถไฟเล็กจากชุด Start Set
แต่ผมเริ่มต้นจากการซื้อตัวคอนโทรลดิจิตอล และรถจักรระบบ DCC อีก 1 คัน ก่อนเลย จึงทำให้หัวรถจักรของผมส่วนมากเป็นระบบดิจิตอล

แต่จะให้ผมแนะนำสมาชิกชาวรถไฟไทยที่คิดว่าจะเริ่มเล่นรถไฟเล็กอันเนื่องมากจากความชอบรถไฟจริงเหมือนผมหรือหลายๆ ท่านในเว็ปเรานะครับ
ผมอยากจะแนะนำว่า ถ้ามีงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดนิดนึง ผมอยากให้เล่นรถไฟระบบ DC อนาล็อค ไปก่อนนะครับ และอยากให้เริ่มต้นแบบนี้นะครับ คือ

1.ซื้อตัวคอนโทรล
เพื่อใช้ควบคุมรถไฟที่ใช้ระบบอนาล็อคก่อน โดยตัวคอนโทรลนี้ made in thailand ครับ ราคาประมาณ 1,000 บาท (+500 บาท)

2.ซื้อรางรถไฟ
สำหรับ รางรถไฟขนาด HO นี้ ก็มีอยู่หลายยี่ห้อมากมาย ทั้งยังแบ่งตามขนาดความสูง ความใหญ่ของรางได้อีก เท่าที่ผมทราบมี Code 100 / Code 83 โดย Code 100 จะใหญ่กว่า Code 83 ในส่วนนี้ ผมเห็นว่าข้อดีข้อเสียไม่ค่อยต่างกันซักเท่าไหร่ ทั้งนี้ก็แล้วแต่ว่าเราจะเลือกใช้แบบใด แต่การใช้ราง Code ต่างกันมาต่อกันนั้น ไม่ค่อยดีเลย เพราะรางมันต่างระดับกัน ทำให้รถสะดุด และอาจตกรางได้

แนะนำว่าให้ซื้อรางให้ครบวง 1 วงครับ อาจเป็นลักษณะตามภาพนี้ ที่อยู่ในแผ่นไม้อัดขนาด กว้าง 4 ฟุต ยาว 8 ฟุต ได้พอดี

คือมีรางโค้งครบวง 1 ชุด และรางตรงอีกจำนวนนึง และรางแยกซ้ายและขวา อีกอย่างละ 1 อัน เบื้องต้นการสับรางใช้ระบบอัตโนมือไปก่อนก็ได้ครับ ประหยัดเงินดี
และถ้าจะให้สะดวกแก่การเล่นหน่อย ก็ไม่ควรจะวางกับพื้นนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องยากมากที่จะวางใบบังล้อรถให้ตรงรางได้
ควรจะวางรางบนโต๊ะ หรือไม่ก็บนแผ่นไม้อัด 1 แผ่น ราคาไม่เกิน 400 บาท นะครับ แล้วนำมาวางบนโต๊ะใหญ่ๆ 1 หรือ 2 ตัวแทน เท่านี้ก็ได้พื้นที่เล่นรถไฟแบบไม่ปวดหลังกันแล้ว

ในส่วนของรางตามวงที่ผมวาดแบบได้นะครับ ผมลองคำนวณคร่าวๆ ราคาจะอยู่ประมาณที่ 3,500 - 5,000 บาท (+500 บาท) แล้วแต่ยี่ห้อ ชนิด ประเภท และคุณภาพนะครับ ถ้ารางเปลื่อยไม่มีแผ่นรองก็จะถูกกว่ารางที่มีแผ่นรอง

คำแนะนำอีกประการคือ การจะเลือกใช้รางยี่ห้อใด ให้ศึกษาหรือสอบถามความเห็นจากประสบการณ์ผู้ที่เคยใช้รางยี่ห้อต่างๆ นั้นให้ดีๆ ครับ ก่อนจะเลือกซื้อรางครั้งแรก เพราะรางต่างยี่ห้อ นำมาต่อกันก็ไม่ค่อยจะดีเลย ยกเว้นว่ามีรางเยอะมากๆ ต่อได้หลายวงก็ไม่ว่ากัน

ส่วนรางที่ผมใช้อยู่ เป็น Code 83 ทั้งหมด ยี่ห้อนี้ผมว่าคุณภาพค่อนข้างใช้ได้เลย แต่ราคาก็สูงนิดนึง ตัวประแจผมว่าเขาทำได้ดีมากๆ ผมลองใช้รถ AC6000 CSX ของผมหมุนคอนโทรลสูงสุดเข้าประแจทางหลีก แต่รถก็ไม่ได้ตกรางแต่อย่างใด ยังคงแล่นไปตามปกติ ปัจจุบันรางที่ผมใช้อยู่ค่อนข้างหายาก

3.ซื้อรถพ่วง (รถสินค้า รถโดยสาร)

มีมากมายหลากหลายยี่ห้อจริงๆ ครับ และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย เช่น ขอพ่วงแบบไหน แบบอเมริกา หรือแบบยุโรป ถ้าแบบยุโรปแล้ว บางยี่ห้อก็ไม่เหมือนกันอีก อันนี้แล้วแต่จะเลือกเลยครับ แต่ยังไงดูก่อนนะครับว่าขอพ่วงเหมือนกันหรือไม่

ราคาตั้งแต่ 500 - 2,000 บาท ต่อคัน แล้วแต่ยี่ห้อ รายละเอียดของรถ ความสวยงาม

คำแนะนำ แรกเริ่มเดิมทีมีงบไม่มาก หากจะซื้อรถสินค้า ควรซื้อแค่ 3 คัน ก็พอครับ
เว้นแต่ว่าจะมีงบประมาณพอจะเล่นรถที่มีรายละเอียดดี รายละเอียดสวยได้จะซื้อกี่คันก็ตามสะดวก
ส่วนตัวผมเองมาเริ่มลึกซึ้งว่า ขนาดรถสินค้าบางคันต่างยี่ห้อกัน บางคันไม่เคยตกรางเวลาผ่านประแจ ขอพ่วงไม่เคยหลุดตอนทางโค้ง แต่บางคันประจำเลย

ส่วนรถโดยสารนั้น ก็แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหนครับ เหมือนกับรถสินค้า
ราคา 1,000 - 2,500 บาท ต่อคัน แล้วแต่ยี่ห้อ รายละเอียดของรถ ความสวยงาม

และเมื่อได้ตัวคอนโทรล ได้ราง และได้รถพ่วงแล้ว คราวนี้มาดูตัวรถไฟที่จะใช้ขับเคลื่อนกันครับ

4.ซื้อหัวรถจักรดีเซล หัวรถจักรไฟฟ้า หัวรถจักรไอน้ำ หรือรถดีเซลราง
คราวนี้ล่ะครับ เราจะได้เติมฝันของเราซะที เนื่องจากรถไฟจำลองหรือรถไฟเล็กเหล่านี้ เลียนแบบรถไฟจริง ดังนั้นแล้ว รถไฟที่แล่นได้จากการหมุนคอนโทรลบังคับของเรา ก็จะเป็นรถไฟที่ผมกล่าวมาข้างต้นล่ะครับ เพราะรถพวกนี้มีมอเตอร์ในตัว พอล้อรถไฟรับไฟจากรางแล้ว ไฟก็จะเข้าไปในมอเตอร์ทำให้มอเตอร์หมุน มอเตอร์ก็จะไปหมุนระบบฟันเฟือง และจะส่งกำลังไปที่ล้อรถ ล้อรถก็จะหมุน ทำให้รถเคลื่อนที่เดินหน้าถอยหลังไปได้

เลือกเอาเลยครับว่าชอบแบบไหน ตัดสินใจซื้อแบบนั้นไปเลย ราคามีตั้งแต่ 1,500 - 100,000 บาท แล้วแต่ยี่ห้อ คุณภาพการเก็บรายละเอียด ความสวยงาม ความนิยม ถ้าเป็นตัวรถยุโรปจะมีราคาเริ่มต้นสูงกว่านิดนึง

ส่วนรถไอน้ำนั้น พวกนี้ยิ่งรายละเอียดสวย ยิ่งราคาสูง โดยราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท ครับ

คำแนะนำคือ ถ้ายังมีเงินเริ่มแรกไม่สูงนัก ไม่ควรซื้อรถจักรหลายคันนะครับ ซื้อคันเดียวก่อนก็พอ แล้วเล่นไปเรื่อยๆ ก่อนครับ
แต่ถ้ามีงบมากพอก็ขอให้เลือกเฟ้นรถที่มีรายละเอียดสวยๆ นะครับ เพราะพวกนี้เราจะเบื่อยากกว่ารถที่มีรายละเอียดน้อยกว่า จริงๆ นะครับ

เหตุที่ผมไม่ได้แนะนำให้เล่น Start Set นั้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมจริงๆ ครับ เพราะว่า เอาเข้าจริงๆ แล้ว ถ้าเรามีความชอบรถไฟเป็นทุนเดิมแล้ว เราก็จะขยายกิจการรถไฟเล็กของเราไปเรื่อย ต่อยอดไปเรื่อย อุปกรณ์ที่ผมแนะนำมานั้น ก็สามารถใช้ได้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แน่ครับ
ชุด Start Set จึงไม่มีความจำเป็นนัก อีกทั้งบางชุดนั้น ผมว่ารายละเอียดไม่ค่อยสวยซักเท่าไหร่ครับ
หรือถ้าสวยก็ดันแพงหูฉี่เสียอีก

[HID4506]

ดีใจจริงๆที่มีกระทู้นี้ ผมมีอยู่ครับ เป็นรถญี่ปุ่น Nสเกล ตอนนี้มีตู้บลูเทรนอยู่3ตู้กับหัวรถจักรEF65-1000อยู่หัวนึงครับเพิ่งเริ่มเล่นเมื่อต้นปีนี่เอง(ที่จริงอยากเล่นนานแล้ว เก็บเงินอยู่เพิ่งครบตอนปีใหม่ ) เดี๋ยวเอารูปมาลงให้ดูครับ

[HID4506]

ดูรูปกันเลยนะครับ


รูปริ้วขบวนรถทั้งหมดกำลังเข้าโค้งครับ



หัวรถจักรไฟฟ้าEF65-1000ครับ



ขบวนรถทั้งหมดครับ



ตัวรถเมื่อเทียบเหรียญ5บาทครับ



ดูกันชัดๆหน้ารถเมือเทียบกับเหรียญ5บาทครับ

รถทั้งหมดเป็นของ KATO เป็นชุดstart setมาเลยครับราคา7600 มีครบทุกอย่าง
แต่ต้องซื้อหม้อแปลงไฟด้วยนะครับ เพราะตัวควบคุมของญี่ปุ่นใช้ไฟ110Vครับ
โดยส่วนตัวผมคิดว่าคุ้มมากกับราคาที่เสียไปครับ เพราะขนาดตัวแคร่ยังที่แท่งห้ามล้อมาด้วยเลยครับ
ปล.ยินดีแนะนำเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจครับ

[nOo-Neung]

คุณ HID4506 ครับ

ผมว่าจะไปสอยมาซักชุด

[OutRun]

เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ ขออภัยที่รอนานไปหน่อย มีปัญหาเกี่ยวกับการ์ดกล้องผมนิดหน่อยครับ Format การ์ดไปเรียบร้อย รูปหายเกลี้ยง
สำหรับรางรถไฟนั้นจะมี 2 ระบบ รางที่อยู่ทางซ้ายจะเป็นระบบ AC โดยรางรถไฟทั้งสองข้างจะจ่ายไฟกระแสลบครับ
และไฟกระแส + จะจ่ายอยู่ตรงที่เป็นปุ่ม ๆ บนหมอนกลางรางนั่นแหละครับ เสมือนเป็นรางที่ 3 โดยที่ใต้ท้องตัวรถจักร
จะต้องมีตัวสกี ยื่นออกมาจากใต้ท้องรถเพื่อมารับไฟกระแส + จากรางที่ 3 นี่ด้วย
ส่วนรางทางด้านขวาจะเป็นระบบ DC ครับ จะไม่มีรางที่ 3 ไว้จ่ายไฟกระแส + แต่รางฝั่งหนึ่งจะเป็นกระแส +
และรางอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นกระแสลบครับ


_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[OutRun]

ยังมีข้อแตกต่างระหว่างขนาดของรางเหมือนรางรถไฟของจริงด้วยครับ โดยรางที่อยู่ทางซ้ายจะเป็น Code 83
และรางที่อยู่ทางด้านขวาจะเป็น Code 100 จะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนว่าราง Code 83 นั้น จะมีขนาดเล็กกว่า Code 100
แต่ที่ไม่เหมือนรางรถไฟของจริงอยู่อย่างหนึ่งคือ ถ้าเป็นรางรถไฟของจริง จุดต่อระหว่างรางต่างขนาดกัน
เขาจะเชื่อมรางโดยให้บริเวณสันรางด้านบนมีระดับเท่ากัน แต่ถ้าเป็นรถไฟจำลองแล้ว เราไม่ได้เชื่อมรางครับ
เราใช้ต่อเข้าไปเฉย ๆ นี่แหละ ผลก็คือ บริเวณสันรางด้านบนจะมีระดับต่างกันครับ ซึ่งเวลาต่อรางต่างขนาดกันลักษณะนี้
จะต้องพยายามต่อให้อยู่ในบริเวณที่เป็นทางตรงเท่านั้น เพราะถ้าต่อรางที่มีลักษณะสันรางไม่เท่ากันแบบนี้
ในช่วงทางโค้ง บังใบล้อจะมีโอกาสปีนช่วงข้อต่อรางสูงครับ

_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[OutRun]

และมาเพิ่มเติมสำหรับรูปรถไฟแบบยุโรป หน้าตาจะเป็นประมาณนี้ครับ ท่านใดคิดจะเล่นก็ดูสไตล์การเล่นของตัวเอง
ก่อนนะครับ ว่าชอบรถสไตล์ไหน ยุโรป, อเมริกา, เอเชีย, รถยุคเก่าอย่างรถจักรไอน้ำ , ยุคดีเซล , หรือยุคไฟฟ้า
ตัดสินใจก่อนซื้อว่าตัวเองชอบสไตล์ไหน แล้วจะทำให้เราเล่นได้ถูกทิศทางตามที่เราอยากจะเล่นครับ





_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[CENTENNIAL]

เจ้าลายโฆษณา AGFA นี่ เพิ่งไปถอยมาใหม่จากร้านคุณสุเมธ หรือเปล่าครับ

เมื่ออาทิตย์ สองอาทิตย์ก่อน ผมยังเห็นที่ร้านอยู่เลยครับ