RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181642
ทั้งหมด:13492880
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - โผรายชื่อสถานีรถไฟสายปากน้ำ จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

โผรายชื่อสถานีรถไฟสายปากน้ำ จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 10, 11, 12, 13  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 23/07/2012 8:43 am    Post subject: Reply with quote

เรียกเสียสวยหรูว่า graffiti แต่ผมขอเรียกเป็นภาษาไทยดิบๆ ว่า "พวกมือบอน" ครับ

หากอนุสาวรีย์ช้างมันปีนขึ้นไปได้ มันคงขึ้นไปทำมือบอนตั้งนานแล้ว Sad
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/08/2012 10:49 am    Post subject: Reply with quote

จังหวัดสมุทรปราการ จัดงานแถลงข่าว สมุทรปราการต้นธารประวัติศาสตร์ รถไฟสายแรกของประเทศไทย
ข่าวท่องเที่ยว ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2555 10:12:50 น.

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.
จังหวัดสมุทรปราการ ขอเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าว สมุทรปราการต้นธารประวัติศาสตร์ รถไฟสายแรกของประเทศไทย

- เปิดวิสัยทัศน์ใหม่เมืองสมุทรปราการ ผลักดันสู่ เมืองท่องเที่ยวแหล่งประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์

- เปิดตัวอุทยานการเรียนรู้และหอชมเมือง พร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์หัวรถจักรแห่งรถไฟสายแรกของไทย

วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ
เวลา 14.00 น. ลงทะเบียนสื่อมวลชน
เวลา 14.30 น. ประธานแถลงข่าว
คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ. สมุทรปราการ
คุณธนภณ คารมปราชญ์ รองนายก อบจ. สมุทรปราการ
คุณสมชาย ชัยประดิษฐรักษ์ เจ้าของหนังสือ รถไฟสายปากน้ำ รถไฟสายแรกของไทย
ใบตอบรับสื่อมวลชนที่สนใจเข้าร่วมงาน
1. คุณ ตำแหน่ง โทรศัพท์มือถือ
2. คุณ ตำแหน่ง โทรศัพท์มือถือ
สื่อ อีเมล์
กรุณาตอบรับกลับภายในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ที่โทรสาร 02 575 2418
ติดต่อ:
ทีมประชาสัมพันธ์ ต้นธารประวัติศาสตร์ เมืองสมุทรปราการ
คุณปณิชา งามฐิติกุล โทรศัพท์ 086-788-9535
คุณสราวุธ บูรพาพัธ โทรศัพท์ 085 071 0071
โทรสาร 02 575 2418 Email : marcommsthai@gmail.com
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/08/2012 10:30 pm    Post subject: Reply with quote

อบจ.ปากน้ำ เปิดเสวนา การค้นพบหัวจักรรถไฟสายแรกของสยามสายปากน้ำ เตรียมบูรณะเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
เนชั่น 77 ช่อง 77 จังหวัด 9 ส.ค. 55 21:28 น.

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2555 นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายสมชาย ประดิษฐ์รักษ์ เจ้าของหนังสือรถไฟสายปากน้ำ รถไฟสายแรกของไทย ได้ร่วมกันเปิดเวทีเสวนาเรื่อง ตามรอยหัวจักรรถไฟสายปากน้ำ ต้นธารประวัติศาสตร์ รถไฟสายแรกของไทย ที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงทำพิธีเปิดการเดินรถไฟสายแรกของสยาม คือ รถไฟสายปากน้ำ จากกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้เล็งเห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ที่ควรถูกจารึกไว้ให้ลูกหลานชาวปากน้ำได้เรียนรู้ จึงได้ค้นหาจนพบหัวจักรรถไอน้ำซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของหัวรถจักร ที่เป็นหัวจักรรถไฟสายแรกของประเทศไทย ที่วิ่งระหว่าง กรุงเทพ –สมุทรปราการ ที่ถูกเก็บไว้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้ทำหนังสือขอหัวรถจักรดังกล่าวซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดสมุทรปราการ มาเก็บรักษาไว้จังหวัดสมุทรปราการ เตรียมบูรณะให้สมบูรณ์ ก่อนทำการเคลื่อนย้ายเข้าไปเก็บในพิพิธภัณฑ์อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของหัวรถจักรสายแรกของเมืองปากน้ำ

โดยนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการเปิดเผยว่า รถไฟสายแรกนั้นเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงทำพิธีเปิดการเดินรถไฟสายแรกของสยาม คือ รถไฟสายปากน้ำ จากกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้เล็งเห็นว่าประวัติศาสตร์เหล่านี้ ควรจะถูกจารึกไว้ให้ลูกหลานชาวปากน้ำได้ทราบ จึงได้ค้นหาจนพบหัวรถจักรไอน้ำ 1 ใน 4 หัวรถจักรที่ใช้งานในรถไฟสายปากน้ำ ที่ถูกเก็บเอาไว้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จึงทำหนังสือขอหัวรถจักรดังกล่าว เพื่อนำมาเก็บไว้ที่ที่ศูนย์เรียนรู้หอชมเมืองจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ในอดีต

ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการได้หัวจักรรถไอน้ำ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของหัวจักรรถไอน้ำรถไฟสายแรกของประเทศไทย มอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ให้ทำการเคลื่อนย้ายหัวรถจักรไอน้ำ พร้อมตู้โบกี้รถไฟ และ รถราง มาเก็บรักษาเอาไว้ที่จังหวัดสมุทรปราการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และเทศบาลนครสมุทรปราการ จะได้ร่วมกันบูรณะให้สมบูรณ์นำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมือง ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการและเทศบาลอยู่ระหว่างร่วมมือกันสร้างขึ้นที่บริเวณเรือนจำเก่า ที่คาดว่าน่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในอีก 3 ปี เพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของหัวรถจักรสายแรกของเมืองปากน้ำ

สำหรับประวัติของหัวรถจักรไอน้ำ รถไฟสายปากน้ำ นั้น บริษัทรถไฟปากน้ำ เป็นผู้นำเข้ามาจากประเทศเยอรมัน โดยทยอยนำเข้ามาเสริมไว้งานรวม 4 หัวจักร โดยหัวรถจักรทั้งหมดจะมีพนักงานคอยใช้ฟืนโยนเข้าไปในเตา เป็นเชื้อเพลิงในการต้มน้ำให้เกิดเป็นไอ ด้านบนที่เป็นถังบรรจุน้ำ มีท่อเปิดปิด เพื่อใช้เป็นที่เติมน้ำจากงวง ทั้งตั้งอยู่ข้างรถไฟสถานีต้นทาง ซึ่งจากข้อมูลที่สืบค้นได้พบว่าหัวรถจักรทั้งมีชื่อเรียกดังนี้ หัวรถจักรที่ 1 ชื่อ ปากน้ำ หัวรถจักรที่ 2 ไม่มีข้อมูล หัวรถจักรที่ 3 ชื่อ บางจาก ส่วนหัวจักรที่ 4 ชื่อ สำโรง
******************
สุธินันท์ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ 086-5006331

Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/08/2012 5:15 pm    Post subject: Reply with quote

สมุทรปราการ ชูหัวรถจักรโบราณ“รถไฟสายแรกของไทย” เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 สิงหาคม 2555 16:39 น.

จังหวัดสมุทรปราการเปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ นำเสนอป้อมปราการแหล่งโบราณคดีสำคัญ ชวนเที่ยวชมหัวรถจักรโบราณ จุดเริ่มต้นทางรถไฟสายแรกของไทย ที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ

สมุทรปราการ ถือเป็นเมืองหน้าด่านที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน นับแต่สมัยลพบุรี สมัยสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยธนบุรี จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน มีแหล่งโบราณคดีสำคัญ คือ ป้อมปราการสำคัญที่บันทึกเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ที่ยังคงความสมบูรณ์และหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่ง ที่เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่เมืองสมุทรปราการ รวมทั้ง ยังเป็นจุดเริ่มต้นการคมนาคมทางรถไฟแห่งแรกของไทย เส้นทางสายแรกคือ ปากน้ำ - หัวลำโพง

นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ในสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการพัฒนาระบบขนส่งและคมนาคมที่สำคัญเกิดขึ้น นั่นคือ การเดินทางด้วยรถไฟ โดยชาวต่างชาติได้ขออนุญาตสร้างทางรถไฟสายปากน้ำ-หัวลำโพง ในครั้งนั้น ไทยเล็งเห็นถึงประโยชน์หลายประการ ไม่ว่า การใช้เส้นทางในการขนส่ง คมนาคม ในยามปกติ หรือ การใช้ลำเลียงเสบียง อาวุธ หรือพาหนะในการส่งสาร ยามเกิดภาวะสงคราม สมุทรปราการ และเส้นทางรถไฟสายนี้ นับได้ว่าเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกในประเทศไทยที่ก่อตั้งขึ้นโดยเอกชน ในรูปแบบของบริษัท เรียกกันในสมัยนั้นว่า “กอมปานีรถไฟ“ หรือ “บริษัทรถไฟปากน้ำ”

Click on the image for full size
หัวรถจักรโบราณ

เส้นทางรถไฟสายปากน้ำ-หัวลำโพง ตลอดระยะทางมี 10 สถานี จากสถานีหัวลำโพง รถจะหยุดรับส่งผู้โดยสารที่ศาลาแดง บ้านกล้วย พระโขนง บางนา สำโรง ศีรษะจระเข้ บางนางเกรง มหาวงษ์ แล้วก็ไปสิ้นสุดปลายทางเป็นโรงสังกะสีขนาดใหญ่ที่ปากน้ำ คิดค่าบริการสถานีละ 1 เฟื้อง หรือเท่ากับ 12.5 สตางค์ และมีหัวรถจักรใช้งานทั้งสิ้น 4 หัว ได้แก่ หัวแรก ไม่ปรากฏชื่อ หัวที่สองชื่อ ปากน้ำ หัวที่สามชื่อ บางจาก หัวที่สี่ชื่อ สำโรง

“เส้นทางรถไฟสายปากน้ำ-หัวลำโพง เปิดให้บริการเพียง 50 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2479 ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสายดังกล่าว ได้สูญสลายไปตามกาลเวลาและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ คงเหลือไว้แต่เพียงบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ แต่สิ่งหนึ่งที่ชาวไทยสามารถที่จะธำรงรักษามรดกแห่งประวัติศาสตร์ไทยให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้มีโอกาสเห็นหรือสัมผัสนั่นคือ หัวรถจักรโบราณเส้นทางรถไฟสายแรก เพื่อจุดประกายและกระตุ้นให้เกิดการค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลของหัวรถจักร อันนำไปสู่การค้นหาและรวบรวมหัวรถจักรต่อไปในอนาคต ก่อนที่จะสูญหายไปอย่างถาวร เพื่อนำมาจัดแสดงให้แก่อนุชนรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์”

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้ค้นพบหัวรถจักรและนำมาบูรณะจัดแสดงเป็นคันแรก คือ หัวรถจักรโบราณสายแรกของไทย ซึ่งไม่สามารถหาชมที่ไหนได้อีก อายุกว่า 100 ปี ซึ่งจะจัดแสดง ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ให้แก่บุคคลที่สนใจเข้าชม ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ก่อนที่จะย้ายไปจัดแสดงอย่างถาวร ณ อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

Click on the image for full size

หัวรถจักรโบราณจะนำไปจัดแสดงชั่วคราวที่ศาลากลางก่อนจะย้ายไปตั้งที่ อุทยานการเรียนรู้ฯ

สำหรับอุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ เป็นโครงการที่ทาง อบจ. สมุทรปราการ นำพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาเป็นแหล่งศึกษา เรียนรู้ ท่องเที่ยว พักผ่อน ให้แก่ชุมชน และประชาชนทั่วไป ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่

1) พิพิธภัณฑ์เด็ก เน้นรูปแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการ และการเรียนรู้แบบลงมือทำด้วยตนเองผ่านชุดนิทรรศการที่ทันสมัยเพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดจินตนาการและการสงสัยเพื่อเป็นพื้นฐานการพัฒนาทางความคิดและพัฒนาสังคมในอนาคต

2) พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ นำเสนอเรื่องราวประวัติความเป็นมาของจังหวัดสมุทรปราการ และมีอัตลักษณ์ของตนเองถึงชาติพันธุ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การพัฒนาเมือง

3) ห้องสมุด รวบรวมหนังสือ สื่อทันสมัย และสื่อการเรียนการสอน อาทิ วีซีดีและดีวีดี ไว้บริการแก่สถาบันศึกษาต่างๆ ภายในจังหวัดสมุทรปราการ

4) หอชมเมืองสมุทรปราการ ความสูง 139 เมตร จุดชมวิวของเมืองปากน้ำและความงามตามธรรมชาติ

อุทยานแห่งนี้ ก่อสร้างบนพื้นที่ 13 ไร่ บริเวณเรือนจำเก่าจังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 593 ล้านบาท และเทศบาลนครสมุทรปราการ จำนวน 54 ล้านบาท

-----------------

"ปากน้ำ"โชว์หัวรถจักร-รถไฟสายแรก ผุดอุทยานเรียนรู้-พิพิธภัณฑ์-หอชมเมืองสูง 139 ม.
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7933 ข่าวสดรายวัน หน้า 5

นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีเส้นทางรถไฟสายปากน้ำ-หัวลำโพง เปิดให้บริการมา 50 ปี แต่เลิกไปเมื่อปี พ.ศ.2479 ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสายนี้สูญสลายตามกาลเวลา และความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เหลือเพียงบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ โดยล่าสุด อบจ.สมุทรปราการ ค้นพบหัวรถจักร และนำมาบูรณะจัดแสดงเป็นคันแรก คือหัวรถจักรโบราณสายแรกของไทย อายุกว่า 100 ปี จัดแสดงที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ให้แก่บุคคลที่สนใจเข้าชมฟรี ก่อนย้ายไปจัดแสดงอย่างถาวรที่อุทยานการเรียนรู้ และหอชมเมืองสมุทรปราการ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถือเป็นโครงการสำคัญที่นำพื้นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาเป็นแหล่งศึกษา เรียนรู้ ท่องเที่ยว และพักผ่อน ให้แก่ประชาชน

Click on the image for full size

นายก อบจ.สมุทรปราการ กล่าวต่อว่า อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ
1.พิพิธภัณฑ์เด็ก เน้นรูปแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการ และการเรียนรู้แบบลงมือ ผ่านชุดนิทรรศการทันสมัย เพื่อกระตุ้นจินตนาการและความสงสัย เพื่อเป็นพื้นฐานการพัฒนาทางความคิด และพัฒนาสังคมในอนาคต
2.พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ นำเสนอเรื่องราวประวัติความเป็นมาของ จ.สมุทรปราการ และมีอัตลักษณ์ของตนเองถึงชาติพันธุ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การพัฒนาเมือง
3.ห้องสมุด รวบรวมหนังสือ สื่อทันสมัย และสื่อการเรียนการสอน ไว้บริการแก่สถาบันศึกษาต่างๆ ภายในจังหวัด
4.หอชมเมืองสมุทรปราการสูง 139 เมตร จุดชมวิวของเมืองปากน้ำ และความงามตามธรรมชาติ
โดยอุทยานแห่งนี้ก่อสร้างบนพื้นที่ 13 ไร่ บริเวณเรือนจำเก่า ที่ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.สมุทรปราการ 593 ล้านบาท และเทศบาลนครสมุทรปราการ 54 ล้านบาท

"ทั้งหมดนี้ เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินงานอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาหัวรถจักรโบราณเก่าแก่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงโบราณคดี ป้อมปราการ และค่ายปืน หรือการก่อสร้างอุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทร ปราการ ด้วยหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ โบราณคดี การธำรงรักษาสิ่งอันเป็นมรดกล้ำค่าทางด้านประวัติศาสตร์ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมด้านแหล่งท่องเที่ยวใน จ.สมุทรปราการ สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอันเป็นผลจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ.2558 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และจ.สมุทรปราการ ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการท่องเที่ยว" นายชนม์สวัสดิ์กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 19/08/2012 8:57 am    Post subject: Reply with quote

สมุทรปราการ เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์
คอลัมน์สาระน่ารู้
ไทยโพสต์
19 สิงหาคม 2555 - 00:00

ต้องบอกว่าเป็นความรู้ใหม่เพิ่มเติม เมื่อจังหวัดสมุทรปราการจัดทริปสื่อมวลชนขึ้นรถไฟจากหัวลำโพงไปสมุทรปราการ และเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เมื่อวันก่อน หากจะกล่าวถึงเส้นทางการคมนาคมที่เก่าแก่ การเดินทางที่คนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย เคยใช้ในการไปมาข้ามจังหวัด รถไฟถือเป็นพาหนะยุคแรกที่ช่วยอำนวยความสะดวกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ทราบหรือไม่ว่าเส้นทางรถไฟสายแรกในประเทศไทยเกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการนี่เอง

ในอดีตจังหวัดสมุทรปราการเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญตั้งแต่สมัยลพบุรี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้มีการพัฒนาระบบขนส่งและคมนาคมที่สำคัญ นั่นคือการเดินทางด้วยรถไฟ โดยชาวต่างชาติได้ขออนุญาตสร้างทางรถไฟสายปากน้ำ-หัวลำโพง เส้นทางรถไฟสายนี้นับได้ว่าเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกในประเทศไทยที่ก่อตั้งขึ้นโดยเอกชนในรูปแบบของบริษัท เรียกกันในสมัยนั้นว่า “กอมปานีรถไฟ“ หรือ “บริษัท รถไฟปากน้ำ”
เส้นทางรถไฟสายปากน้ำ-หัวลำโพง ระยะทางกว่า 21 กิโลเมตร มี 10 สถานี เปิดให้บริการเพียง 50 ปี จนถึงปี พ.ศ.2479 และมีหัวรถจักรใช้งานทั้งสิ้น 4 หัว ได้แก่ หัวแรก ชื่อกรุงเทพฯ หัวที่สองชื่อ ปากน้ำ หัวที่สามชื่อ บางจาก หัวที่สี่ชื่อ สำโรง ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวได้สูญสลายไปตามกาลเวลาและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ คงเหลือแต่หัวรถจักรโบราณอายุกว่า 100 ปี ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการได้ค้นพบและนำมาจัดแสดงให้แก่นักท่องเที่ยวและบุคคลที่สนใจได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่จะย้ายไปจัดแสดงอย่างถาวร ณ อุทยานการเรียนรู้และหอ

ชมเมืองสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า “เป็นความตั้งใจในการดำเนินงานอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาหัวรถจักรโบราณเก่าแก่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงโบราณคดี ป้อมปราการและค่ายปืน หรือการก่อสร้างอุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ ด้วยหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ โบราณคดี การธำรงรักษาสิ่งอันเป็นมรดกล้ำค่าทางด้านประวัติศาสตร์

รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมด้านแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรปราการสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น อันเป็นผลจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ.2558 ซึ่งเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และจังหวัดสมุทรปราการก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการท่องเที่ยวที่จะมีบทบาทสำคัญต่อไปในอนาคต”

ส่วนอุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นจะประกอบไปด้วย 4 ส่วน นั่นคือ

1.พิพิธภัณฑ์เด็ก เน้นรูปแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการและการเรียนรู้แบบลงมือทำด้วยตนเองผ่านชุดนิทรรศการที่ทันสมัย
2.พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ นำเสนอเรื่องราวประวัติความเป็นมาของจังหวัดสมุทรปราการ
3.ห้องสมุด รวบรวมหนังสือ สื่อทันสมัย และสื่อการเรียนการสอน
4.หอชมเมืองสมุทรปราการ ความสูง 139 เมตร

โดยอุทยานแห่งนี้ก่อสร้างบนพื้นที่ 13 ไร่ บริเวณเรือนจำเก่าจังหวัดสมุทรปราการ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนกันยายน พ.ศ.2555 และคาดว่าจะเสร็จในปี พ.ศ.2558 เมื่อแล้วเสร็จ สมุทรปราการจะเป็นเมืองท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว

นอกจากตามรอยเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์แล้ว สมุทรปราการยังมีสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์น่าสนใจอีกหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ “ป้อมพระจุลจอมเกล้า” หรือที่คนส่วนใหญ่เรียก “ป้อมพระจุลฯ”

จากประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 2436 และพระราชทานนามป้อมแห่งนี้ว่าป้อมพระจุลจอมเกล้า หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ไทยก็เกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสส่งเรือรบร่องเข้ามาในปากแม่น้ำเจ้าพระยา ทหารที่รักษาป้อมพระจุลฯ และป้อมผีเสื้อสมุทรจึงได้ยิงเรือฝรั่งเศสที่ล่วงล้ำเข้ามา เรือรบไทยกับฝรั่งเศสยิงต่อสู้กัน ในที่สุดเรือรบฝรั่งเศสก็สามารถฝ่าด่านป้องกันเข้ามาได้สำเร็จ เหตุการณ์นี้ทำให้ไทยเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ป้อมพระจุลฯ ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย

บริเวณป้อมพระจุลฯ มีพื้นที่กว้างขวาง ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวไทย มีสภาพแวดล้อมร่มรื่นด้วยต้นไม้ ปัจจุบันกองทัพเรือได้ปรับปรุงบริเวณป้อมพระจุลฯ ให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ มีอาคารสถานที่น่าสนใจหลายแหล่งที่ควรชมมากมาย เริ่มจากศาลพระนเรศ-พระนารายณ์ ที่สร้างมาพร้อมกับป้อมพระจุลฯ ภายในประดิษฐานองค์พระนารายณ์สองพระองค์
ถัดจากศาลก็คือพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ที่สร้างจากปลอกกระสุนปืนน้ำหนักกว่าสามตัน ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ เป็นห้องนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของป้อมพระจุลจอมเกล้า และเหตุการณ์ในสมัย ร.ศ.112

ใกล้กับอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 เป็นที่ตั้งปืนเสือหมอบ จำนวน 7 กระบอก ตั้งเรียงรายอยู่ในหลุมหลบภัยซึ่งเป็นคอนกรีตมั่นคงแข็งแรง ปากปืนหันออกไปทางปากทะเล สามารถเดินเข้าไปชมบริเวณที่ตั้งปืนเสือหมอบได้อย่างใกล้ชิด เพราะแต่ละหลุมมีทางเดินเชื่อมถึงกันตลอด

ใกล้กับบริเวณปืนเสือหมอบ ด้านประชิดริมน้ำเป็นที่ตั้งของเรือรบขนาดใหญ่ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เรือรบหลวงแม่กลอง ซึ่งมีอายุเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของโลก ในเรือมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้เหมือนเมื่อครั้งเรือรบลำนี้ยังใช้ประจำการอยู่ เช่น มีการจัดห้องสะพานเดินเรือ ห้องควบคุมการทำงานของเรือ ห้องครัว นอกจากนี้มีอาวุธชนิดต่างๆ และเครื่องบินทะเลที่อยู่บริเวณด้านนอกลำเรือให้เดินชมอีกด้วย

ป้อมพระจุลฯ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00-18.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม ผู้เข้าชมต้องขออนุญาตจากกองรักษาการณ์บริเวณหน้าประตูป้อมฯ และแลกบัตรประจำตัวไว้ หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะและต้องการวิทยากรนำชมสถานที่ ต้องทำหนังสือถึงพิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลองอย่างน้อย 15 วันทำการ - ใครอยากไปก็สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2475-6109, 0-2475-6259, 0-2475-8845 และ 0-2475-6357.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/09/2012 8:12 am    Post subject: Reply with quote

เที่ยวปากน้ำ ดูรถไฟสายแรก
วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7947 ข่าวสดรายวัน หน้า 5

ประวัติศาสตร์ "เมืองปากน้ำ" จ.สมุทร ปราการ นอกจากบันทึกไว้ว่า เป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลที่สำคัญแล้ว "รถไฟสายปากน้ำ" ยังได้ชื่อว่าเป็นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย มีความสำคัญในแง่การส่งกำลังพล และยุทธปัจจัย เพื่อต่อต้านการรุกรานจากภายนอก

Click on the image for full size

สมัยรัชกาล ที่ 5 มีชาวต่างประเทศเข้ามาขอพระบรมราชานุญาตสร้างทางรถไฟสายปากน้ำ โดยต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง และจะหยุดรับส่งผู้โดยสารที่ศาลาแดง คลองเตย บ้านกล้วย พระโขนง บางจาก บางนา สำโรง ศีรษะจรเข้ (หัวตะเข้) บางนางเกรง มหาวงษ์ ก่อนไปสิ้นสุดที่ปากน้ำ สมุทรปราการ รวมระยะทาง 21 กิโลเมตร

วันที่ 11 เม.ย.2436 พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งมหาจักรี จากเกาะสีชัง มาทอดเรือเพื่อทรงสักการะองค์พระสมุทรเจดีย์ แล้วเสด็จฯ ทางเรือกรรเชียง เพื่อทรงประกอบพิธีเปิดบริการรถไฟสายปากน้ำด้วยพระองค์เอง ก่อนจะเสด็จฯ ประทับขบวนรถไฟพระที่นั่ง พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการจากสถานีปากน้ำไปยังสถานีหัวลำโพง

บริษัทรถไฟปากน้ำ ได้รับสัมปทานรถไฟสายดังกล่าวเป็นเวลา 50 ปี และสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการในปี พ.ศ.2479

ด้วยตระหนักในความสำคัญของ "รถไฟสายแรกของประเทศไทย" เมื่อเร็วๆ นี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จึงนำหัวรถจักรรถไฟสายปากน้ำมาจัดแสดงให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาความเป็นมาและความสำคัญในอดีต

นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแล้ว ยังเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งของปากน้ำ

รถไฟสายปากน้ำ มีหัวจักรไอน้ำทั้งหมด 4 หัวจักร ทั้งหมดสร้างโดย บริษัทเคลาส์ แอนด์ โค มิวนิก ของเยอรมัน มีพนักงานคอยโยนฟืนเข้าไปในเตา เป็นเชื้อเพลิงต้มน้ำให้เกิดเป็นไอ ด้านบนเป็นถังบรรจุน้ำมีท่อเปิดปิด เพื่อใช้เป็นที่เติมน้ำจากงวงที่ตั้งอยู่ข้างทางรถไฟสถานีต้นทาง

หัวจักรที่นำมาจัดแสดงนี้ เป็นรุ่นเดียวกับ หัวจักรรถไฟปากน้ำหัวที่ 3 ที่มีชื่อว่า "บางจาก" เดิมตั้งทิ้งไว้อยู่ด้านหลังท้องฟ้าจำลอง

เทศบาลนครสมุทรปราการจึงติดต่อขอซื้อไว้ ทราบในภายหลังว่าไม่ใช่หัวจักรรถไฟสายปากน้ำ แต่เป็นรุ่นเดียวกัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จึงบูรณะให้สวยงามเหมือนเดิม และนำมาจัดแสดงไว้ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ โดยเปิดให้บุคคลที่สนใจเข้าชมฟรี ก่อนจะย้ายไปจัดแสดงอย่างถาวรที่อุทยานการเรียนรู้ และหอชมเมืองสมุทรปราการ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต่อไป

สำหรับโครงการ "อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ" นั้น เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า เมืองปากน้ำเป็นเมืองที่กล่าวถึงในประวัติศาสตร์ ทั้งในฐานะเมืองหน้าด่าน และเมืองปากอ่าว จึงควรมีสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และเป็นศูนย์รวบรวมความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์

อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทร ปราการ มีกำหนดก่อสร้างขึ้นบนพื้นที่ 13 ไร่ ใจกลางเมืองสมุทรปราการ บริเวณเรือนจำเก่า

จุดที่น่าสนใจคือ "หอชมเมืองสมุทรปราการ" ก่อสร้างเป็นหอคอยสูง 139 เมตร จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองปากน้ำได้โดยรอบ

นอกจากนี้ บริเวณเดียวกันยังมี "พิพิธภัณฑ์เด็ก" ก่อสร้างเป็น "สวนสนุกแห่งการเรียนรู้" บนพื้นที่ 1,926 ตารางเมตร มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการ และเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-learning center) ผ่านชุดสื่อผสมผสานที่ทันสมัย กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนเกิดจินตนาการและรู้จักตั้งคำถาม ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทางความคิด นำไปสู่การพัฒนาสังคมในอนาคต

และ "พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ" รวบรวมเรื่องราวของสถานที่สำคัญ และข้อมูลบุคคลสำคัญ เพื่อถ่ายทอดความรู้ เรื่องราวในอดีต ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ตระหนักรู้และภูมิใจ รักความเป็นชาวปากน้ำ

รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ความเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของสมุทรปราการ ควบคู่กับความเจริญก้าวหน้าของการพัฒนาในปัจจุบัน โดยมีแผนก่อสร้างบนพื้นที่ขนาด 800 ตารางเมตร

รวมถึง "ห้องสมุด" บนพื้นที่ขนาด 487 ตารางเมตร เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือ สื่อสมัยใหม่ และสื่อการเรียนการสอน อาทิ วีซีดี และดีวีดี ไว้ให้บริการแก่สถาบันศึกษาต่างๆ

อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทร ปราการ มีแผนเริ่มต้นก่อสร้างเดือนกันยายน พ.ศ.2555 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 415 ล้านบาท และเทศบาลนครสมุทรปราการจำนวน 24.3 ล้านบาท

คาดว่าเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะกลายเป็นแลนมาร์กสำคัญ ที่ถ่ายทอดให้เห็นทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเมืองปากน้ำได้อย่างดียิ่ง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/11/2013 6:15 am    Post subject: Reply with quote

ต่อไปถนนแคบ ๆ ที่เคยเป็นทางรถไฟเก่าสายปากน้ำคงกว้างขึ้นอีก ไม่เหลือร่องรอยอะไรให้เห็นนะครับ
----

ขยายถนนรถไฟเก่า 4 เลน
ไทยรัฐออนไลน์ 7 พฤศจิกายน 2556, 05:05 น.

สำนักการโยธาจัดชี้แจงโครงการ-รับฟังความคิดเห็น ขยายถนนรถไฟเก่า4เลน แก้ปัญหาจราจร...

รายงานจากสำนักการโยธา (สนย.) กรุงเทพมหานคร แจ้งว่า ตามที่ สนย. ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างกลุ่มบริษัท ที่ปรึกษาประกอบด้วย บริษัท เอพซิลอน จำกัด และบริษัท ไฟนอล ดีไซน์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ตามสัญญาเลขที่ สนย. 24/2556 ลงวันที่ 30 ก.ค.2556 เพื่อศึกษา สำรวจ ออกแบบ แก้ไขปัญหา จราจรถนนเลียบทางรถไฟสายเก่า ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมของโครงการฯ จะต้อง จัดให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ชั้นเริ่มต้นโครงการ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนและหน่วยงานต่างๆ ประกอบการศึกษา ในการนี้ สนย.จึงได้ จัดประชุมสัมมนา เพื่อชี้แจงความเป็นมา วัตถุประสงค์ ขอบเขตการศึกษา พื้นที่การศึกษา แนวทางเลือก และรูปแบบ ถนนโครงการเบื้องต้น รวมทั้ง รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาโครงการ จึงขอเชิญผู้เกี่ยวข้องกับโครงการ หรือผู้ที่สนใจเข้าร่วมประชุมสัมมนาครั้งที่ 1 วันที่ 8 พ.ย.2556 เวลา 09.00- 12.00 น. ณ ห้องประชุมเบธเลเอ็ม ชั้น 2 โรงแรมเอวาน่ากรุงเทพ ถนนบางนา-ตราด กม. 2

สำหรับโครงการแก้ไขปัญหาจราจรถนนเลียบทางรถไฟสายเก่า เป็น ถนนสายสำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจากท่าเรือคลองเตย จึงมีรถบรรทุกวิ่งเป็นจำนวนมาก และเป็นส่วนหนึ่งในแนวโครงการแก้ไขปัญหาจราจร ตามแนวพระราชดำริ เส้นทางต่อเนื่องกับโครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และได้มีการขยายถนนเลียบทางรถไฟสายเก่าบางช่วง เพิ่มเป็น 4 ช่องจราจรตลอดแนว ต่อมา ได้กลายเป็นปัญหาคอขวดบริเวณพื้นที่รอยต่อสมุทรปราการกับกรุงเทพมหานคร จำเป็นต้องเร่งดำเนินการขยายถนนเลียบทางรถไฟสายเก่าช่วงที่เหลือ ระยะทาง ประมาณ 10 กม. เป็นขนาด 4 ช่องจราจรเท่ากัน เพื่อแก้ปัญหาคอขวดและลดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนสายดังกล่าว.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/06/2015 8:26 pm    Post subject: Reply with quote

ย้อนตำนานเมืองสมุทรปราการ รถไฟสายปากน้ำ ตอนที่๒


https://www.youtube.com/watch?v=-MkOWArMmuc
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/10/2015 9:46 am    Post subject: Reply with quote

สารคดี ประวัติพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plessis de Richelieu) ผู้ก่อตั้งทางรถไฟสายปากน้ำ
ออกอากาศทาง ThaiPBS 23 ต.ค. 58

Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 08/04/2016 1:28 pm    Post subject: Reply with quote

ล่าสุด เท่าที่ผมคุยกับพวกพี่ๆ เจ้าหน้าที่ รพช.ซึ่งพำนักอยู่แถว อ.ตรอน ได้ความว่า ถึงแม้โรงงานน้ำตาลวังกะพี้จะย้ายไปสร้างใหม่ที่ ต.น้ำขุม อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย และเปิดหีบอ้อยแล้วก็ตาม แต่โรงงานเดิมและรถจักรไอน้ำยังตั้งเป็นอนุสรณ์อยู่เหมือนเดิมครับ

เล่าให้ฟังไว้เป็นชั้นต้นก่อน หากมีเวลาผมจะไปดูให้แน่ใจอีกหนหนึ่ง
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 10, 11, 12, 13  Next
Page 11 of 13

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©