รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล

Wisarut · Posted: 06/02/2015 12:37 pm Post subject:

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง - ช่วยคนเมือง ลืมรถติด
Voice TV
by Chitnapa sommano
5 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 19:28 น.

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดตลอดทั้งวันบนถนนลาดพร้าว รามคำแหง , ศรีนครินทร์ จนถึงพัฒนาการ คาดว่าจะเร่งนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลและเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้

เคยมีการพูดกันว่าหากไม่จำเป็น จะไม่เดินทางไปเส้นรามคำแหง หรือลาดพร้าว เพราะต้องเผื่อเวลารถติดไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง สอดคล้องกับข้อมูลการร้องเรียนผ่านศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร ที่ว่า ถนนลาดพร้าว เป็นแชมป์รถติดประจำปี 2557

รถติดอมตะ เป็นเหตุผลให้ในปี 2550-2554 สนข. เริ่มศึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งผ่านการรับรองรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2555

และผ่านการรับฟังความเห็นประชาชนแล้ว 2 ครั้ง ก่อนที่บอร์ด รฟม.จะอนุมัติโครงการเมื่อ 20 มีนาคม 2557 คาดว่าจะเปิดประมูลในต้นปีนี้ (58) และเปิดให้บริการในปี 2562

ค่าโดยสารมี 2 แนวทาง คือ เก็บตามระยะทาง หรือ เก็บ 20 บาทตลอดสาย รองรับระบบ "ตั๋วไร้สัมผัส" ที่จำหน่ายผ่านเครื่องทอนเงินอัติโนมัติ ทั้งยังใช้ร่วมกับ BTS และ MRT ได้ โดยรถไฟสายนี้ มีระยะทาง 30 กิโลเมตร รวม 23 สถานี วงเงินก่อสร้าง 55,986 ล้านบาท

ตัวสถานีเริ่มต้นที่จุดตัดถนนลาดพร้าว-รัชดา หน้าอาคารจอดรถ รฟม. และรถไฟใต้ดินสถานีลาดพร้าว ผ่านจุดรถติดหนักสุดที่โชคชัย 4 , ลาดพร้าว 71 ข้ามแยกเลียบทางด่วนรามอินทรา ยาวถึงแยกลำสาลี เข้าศรีนครินทร์ที่รถติดสาหัสไม่แพ้เส้นลาดพร้าว ผ่านห้างซีคอนสแควร์ และเสรีเซ็นเตอร์เดิม ไปสิ้นสุดที่สถานีสำโรง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ใกล้จะแล้วเสร็จ

ความพิเศษของสายสีเหลือง คือ เป็นรางเดี่ยว หรือโมโนเรล โครงสร้างยกระดับทั้งสาย เพื่อลดผลกระทบในการก่อสร้าง เพราะตัวสถานีและรางมีขนาดเล็ก จึงใช้งบก่อสร้างและเวนคืนที่ดินน้อย แค่ 48,000 กว่าล้านบาท เมื่อเทียบกับรถไฟรางคู่ที่ใช้งบสูงกว่า 6 หมื่นล้านบาท

ตัวรถมีน้ำหนักเบา ไม่มีผลกระทบด้านเสียงและการสั่นสะเทือน ขนส่งผู้โดยสารได้ 10,000 - 40,000 คนด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็มีข้อเสียตรงที่เทคโนโลยีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะผู้ผลิต ทางวิ่งต้องสัมพันธ์กับตัวรถ อาจเกิดการผูกขาดการซ่อมบำรุงได้ ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ผลิตร่วมสร้างมาตรฐานทางวิ่ง เพื่อให้รถทุกยี่ห้อวิ่งบนทางเดียวกัน

ระยะต่อไป รัฐบาลมีแผนที่จะใช้ระบบรางเดี่ยวกับรถไฟฟ้าอีก 2 เส้นทาง คือ สายสีชมพู แคราย-สำโรง ของ รฟม. และสายสีเทา วัชรพล-สะพานพระราม 9 ของ กทม. เพื่อลดปัญหารถยนต์ล้นเมือง

Wisarut · Posted: 07/02/2015 9:33 pm Post subject:

รฟม.เดินหน้าศึกษาอีไอเอคาด 3-4 เดือนสำเร็จ
เดลินิวส์

วันเสาร์ 7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 17:00 น.

เร่งศึกษาอีไอเอหลังเปลี่ยนแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกไปตามถนนพระราม 9 คาดผลกระทบสิ่งแวดล้อมลดลงกว่าแนวทางเดิม

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เปิดเผยว่าภายหลังจากที่คณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด)รฟม.มีมติให้เปลี่ยนแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมจากแนวเดิมที่ตัดผ่านถนนประชาชนสงเคราะห์มาใช้แนวสายทางตามถนนพระราม9แทนซึ่งขณะนี้ได้มีการเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้วซึ่งภายหลังจากนี้ทางที่ปรึกษาโครงการจะเร่งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ3-4เดือนโดยจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ค.นี้และจะมีการยื่นต่อสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสั่งแวดล้อม(สผ.)เพื่อขออนุมัติต่อไปซึ่งจากการคาดว่าเมื่อย้ายแนวเส้นทางไปแล้วผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจะลดลงกว่าแนวเส้นทางเดิมนอกจากนี้รฟม.ยังได้ให้บริษัทที่ปรึกษาออกแบบเพิ่มเติมในส่วนของสถานีพระราม9ซึ่งจากแบบเดิมไม่ได้มีการออกแบบไว้เนื่องจากเส้นทางเดิมจะใช้สถานีร่วมกับสถานีศูนย์วัฒนธรรมอย่างไรก็ตามสำหรับการก่อสร้างรฟม.ได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอดำเนินการก่อสร้างในระยะแรกก่อนคือตั้งแต่สถานีพระราม9-มีนบุรีเพื่อความรวดเร็วเพราะระยะแยกไม่ได้มีการปรับแบบการก่อสร้างเพียงแต่เพิ่มสถานีพระราม9เข้าไปด้วยเท่านั้นทั้งนี้หากสามารถดำเนินการประกวดราคาได้ตามแผนการที่กำหนดคือภายในปี58จะสามารถดำเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการประชาชนในแถบชานเมืองได้ประมาณปี2563.

Wisarut · Posted: 08/02/2015 4:18 am Post subject:

ชงรถไฟฟ้าสายชมพู-เหลืองเข้าครม.

การเมือง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 17:00

"คมนาคม"กางแผนเร่งผลักดันรถไฟฟ้า เข้าพิจารณาครม.หวังให้เสร็จตามแผน ประเดิมสายสีชมพู-เหลือง

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ นั้นมีความคืบหน้าไปด้วยดี โดยปัจจุบันนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งเป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง รวมระยะทางให้บริการ 34.5 กิโลเมตร และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร ก่อนเสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณานำเสนอครม.อนุมัติเพื่อดำเนินโครงการ

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงแรกอยู่ระหว่างรอคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟม.) อนุมัติการปรับแบบแนวเส้นทางภายในเดือนก.พ. 2558 นี้

ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายบางซื่อ-หัวลำโพง และบางซื่อ-หัวหมาก และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์ ช่วงพญาไท- ดอนเมือง ระยะทาง 21.8 กิโลเมตร คาดว่าจะนำเสนอให้ รวม.คมนาคมพิจารณาได้ภายหลังกลับจากการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. นี้ หลังจากนั้นก็จะสามารถนำเสนอ ครม. ได้

ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทางรวม 19 กิโลเมตร อยู่ระหว่างต่อรองราคากับบริษัทผู้ชนะการประกวดราคา คาดว่าภายในเดือนก.พ. 2558 จะแล้วเสร็จ และสามารถลงนามในสัญญาเพื่อก่อสร้างได้

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทางรวม 23 กิโลเมตร มีความคืบหน้าแล้ว 98% จะแล้วเสร็จ 100% ในเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มรับมอบขบวนรถมาทดลองวิ่งให้บริการในเดือนก.ย. จากนั้นจะเปิดให้บริการประชาชนทั่วไปได้ประมาณต้นปี 2559

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 11.08 กิโลเมตร และหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 15.9 กิโลเมตร ซึ่งเบื้องต้นสามารถแก้ไขจุดตัดที่เป็นปัญหากับทางกรุงเทพมหานครเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถเดินหน้าก่อสร้างได้อย่างเต็มที่ ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สามารถก่อสร้างได้เร็วกว่ากำหนด ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถเปิดบริการแก่ประชาชนได้ภายในปี 2560 อย่างแน่นอน

นอกจากเรื่องของรถไฟฟ้าแล้วในที่ประชุมฯ ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ยังจะเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าหมายก่อสร้างเสร็จในปี 2562 และโครงการทางวิ่งสำรอง วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าหมายก่อสร้างเสร็จในปี 2560 โดยจะเสนอเข้ามาที่ประชุมกระทรวงคมนาคมภายในเดือน ก.พ. นี้ ส่วนการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คัน จะประกาศประกวดราคาอีกครั้งในวันที่ 9-13 ก.พ. 2558

//----------------------

รอรับรถไฟฟ้าสารพัดสี
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐ
7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 05:15

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง ก่อนเสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติดำเนินโครงการต่อไป ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงแรกอยู่ระหว่างรอคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อนุมัติการปรับแบบแนวเส้นทางในเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้า ครม.เช่นเดียวกัน

ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายบางซื่อ-หัวลำโพง และบางซื่อ-หัวหมาก และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ช่วงพญาไท-ดอนเมือง คาดจะนำเสนอ ครม.ได้ภายหลัง พล.อ.อ.ประจิน กลับจากการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นวันที่ 8-10 ก.พ.นี้ ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต อยู่ระหว่างต่อรองราคากับบริษัทผู้ชนะการประกวดราคา คาดว่าภายในเดือน ก.พ.จะแล้วเสร็จ และลงนามในสัญญาเพื่อก่อสร้างได้

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ มีความคืบหน้าแล้ว 98% และจะเริ่มรับมอบขบวนรถมาทดลองวิ่งให้บริการในเดือน ก.ย.จากนั้นจะเปิดให้บริการประชาชนทั่วไปได้ประมาณต้นปี 59 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค สามารถแก้ไขจุดตัดที่เป็นปัญหากับทางกรุงเทพมหานครเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถเดินหน้าก่อสร้างได้อย่างเต็มที่ ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สามารถก่อสร้างได้เร็วกว่ากำหนด ดังนั้นจึงจะเปิดบริการได้ในปี 60 แน่นอน.

//--------------

คมนาคมจ่อชงครม. ′รถไฟฟ้าสารพัดสี′ ช่วงก.พ.นี้ คาดทุกเส้นทันตามแผน
มติชน
วันที่ 07 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 20:09:20 น.

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวง ว่า กำลังพิจารณารายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง ก่อนเสนอ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงแรกศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อนุมัติปรับแบบแนวเส้นทางใหม่เป็นช่วงพระราม 9-มีนบุรี ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก่อนเสนอกระทรวงเพื่อนำเข้า ครม.เช่นกัน

นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และบางซื่อ-หัวหมาก และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ช่วงพญาไท-ดอนเมือง คาดว่าจะเสนอ ครม.ภายหลัง พล.อ.อ.ประจินกลับจากการเดินทางเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต อยู่ระหว่างต่อรองราคากับบริษัทผู้ชนะการประกวดราคา คาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์จะแล้วเสร็จ และสามารถลงนามในสัญญาเพื่อก่อสร้างได้

นางสร้อยทิพย์กล่าวถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ว่ามีความคืบหน้าแล้ว 98% โดยจะเริ่มรับมอบขบวนรถมาทดลองวิ่งให้บริการในเดือนกันยายนนี้ และเปิดให้บริการเป็นการทั่วไปในต้นปี 2559 ด้านรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค สามารถแก้ไขจุดตัดที่เป็นปัญหากับทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้แล้ว สามารถเดินหน้าก่อสร้างได้อย่างเต็มที่ ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ก่อสร้างได้เร็วกว่ากำหนดและจะเปิดบริการได้ในปี 2560 แน่นอน

นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า นอกจากเรื่องรถไฟฟ้าแล้ว บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าก่อสร้างเสร็จปี 2562 และโครงการทางวิ่งสำรอง วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าก่อสร้างเสร็จในปี 2560 โดยจะเสนอกระทรวงคมนาคมภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้เพื่อเสนอ ครม.ต่อไป ส่วนการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะเปิดประกาศประกวดราคาใหม่อีกครั้งวันที่ 9-13 กุมภาพันธ์นี้ หลังยกเลิกไปก่อนหน้า เพราะบริษัทที่ยื่นประกวดไม่ผ่านคุณสมบัติและลงนามสัญญาเดือนมีนาคม มีระยะเวลารับมอบรถภายใน 90 วัน

Wisarut · Posted: 09/02/2015 11:53 am Post subject:

สัปดาห์นี้เซ็นวางระบบตั๋วร่วม
ไทยโพสต์
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558

สนข.เผยสัปดาห์นี้พร้อมเซ็นสัญญา “ระบบตั๋วร่วม” เผยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดโครงสร้างราคาแรกเข้า ยัน ก.ค.59 พร้อมใช้กับบีทีเอส เอ็มอาร์ที และแอร์พอร์ตลิงค์
แหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางระบบตั๋วร่วม ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขภาคผนวกบางประเด็นตามที่อัยการสูงสุดติงมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญากับกลุ่มบีเอสวี ประกอบด้วย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กับกลุ่มบริษัท สมาร์ททราฟฟิค จำกัด และบริษัท วิกซ์ โมบิลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลการวางระบบตั๋วรวม วงเงิน 339 ล้านบาทได้ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ภายหลังจากลงนามเซ็นสัญญาได้จะใช้เวลาดำเนินงานอีก 18 เดือน โดยช่วง 6 เดือนแรก จะเป็นช่วงที่บริษัทที่ปรึกษาออกแบบระบบตั๋วร่วม หลังจากนั้นจะใช้ระยะเวลาอีก 6 เดือนในการติดตั้งระบบ ทดสอบระบบ และเชื่อมต่อระบบ ขณะเดียวกันก็จะพิจารณารายละเอียดโครงสร้างราคาของระบบตั๋วร่วมไปพร้อม ทั้ง 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมในระบบขนส่งสาธารณะ 3 ประเภท คือ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส, บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือบีเอ็มซีแอล และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ จากนั้นคาดว่าจะเปิดให้บิการและซื้อตั๋วได้ที่ร้านสะดวกซื้อในเดือน ก.ค.59
“หลังจากดำเนินการระยะแรกแล้วเสร็จ ต่อไปจะพัฒนาระบบเพื่อให้มอเตอร์เวย์และทางด่วนใช้งานร่วมกันได้ และสุดท้ายจะพัฒนาใช้ร่วมกับระบบรถเมล์ ซึ่งจะสอดคล้องที่รถเมล์ เอ็นจีวี ซึ่งมีระบบอี-ทิกเก็ต เข้ามาให้บริการ โดยมั่นใจว่าพร้อมให้บริการได้กับบริการขนส่งสาธารณะทุกระบบภายในสิ้นปี 2559” แหล่งข่าวกล่าว.

Wisarut · Posted: 10/02/2015 9:39 am Post subject:

ขานชื่อ 4 เสือรับเหมาพร้อมสุดขีด "ITD-ช.การช่าง-ซิโนไทย-ยูนิค"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 08:58:05 น.

เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558 ดูเหมือนกระดานประมูลโครงการขนาดใหญ่ไม่คึกคักอย่างที่หวัง เพราะยังไม่มีการเปิดประมูลแต่อย่างใด

"เปรมชัย กรรณสูต" ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หากรัฐบาลเปิดประมูลงานออกมามาก ๆ ในปีนี้อย่างที่พูดไว้ คาดว่าจะเป็นปีทองของผู้รับเหมาทั้งรายใหญ่และรายเล็ก เพราะงานมีหลากหลายทั้งรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ถนน สนามบิน รวมถึงรถไฟไทย-จีน เพราะผู้รับเหมารายใหญ่คงไม่สามารถดำเนินการได้คนเดียว

"เราเตรียมพร้อมยื่นประมูลทุกโครงการ ประเมินว่าจะได้ส่วนแบ่งงานประมูลประมาณ 30% ถ้าหากสำเร็จจะทำให้งานในมือเพิ่มขึ้นเกือบ 2 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ 2.3 แสนล้านบาท รวมแล้วคาดว่าแตะที่ 4 แสนล้านบาท รับรู้รายได้ 3-4 ปี"

ขณะที่ "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง กล่าวว่า เตรียมพร้อมแข่งขันประมูลงานใหญ่ทุกโครงการ มั่นใจว่าจะได้งานประมาณ 25% โดยคาดว่าจะมีงานในมือเพิ่มกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมมีอยู่ 104,928 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 4 ปี เฉลี่ยปีละกว่า 3.3-3.4 หมื่นล้านบาท

"ตอนนี้งานอั้นมานาน อยากให้รัฐเร่งประมูลโดยเร็ว เพราะเวลานี้ทุกคนก็อยากได้งาน"

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งงานประมูลในประเทศและการเปิด"เออีซี-ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" ปลายปีนี้ จึงเป็นที่มาของการควบรวม 2 บริษัทลูกในเครือ คือ "บีเอ็มซีแอล-บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ" ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินและสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) กับ "บีอีซีแอล-บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ" ผู้รับสัมปทานทางด่วน

"วิน-วินทั้งคู่เป็นการเปลี่ยนมิติให้ธุรกิจครบวงจรมากขึ้น เพราะรับงานได้ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า และเข้าประมูลงานใหญ่ได้มากขึ้นเพราะมีทุนร่วม 15,285 ล้านบาท ขณะที่ ช.การช่างจะได้งานก่อสร้างจากบริษัทที่ชนะประมูล" คำกล่าวของเสี่ยปลิว

ฝั่ง "ภาคภูมิ ศรีชำนิ" กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าประมูลงานใหม่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท รายได้คาดว่าจะอยู่ที่กว่า 2 หมื่นล้านบาท ส่วนงานรอรับรู้รายได้อยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท

"รัฐบาลควรจะเร่งงานออกมามาก ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากโครงการใหญ่มีแต่รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) สายเดียวที่ประมูลตั้งแต่ปีที่แล้ว"

ส่วน บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ที่ช่วงหลังรับงานใหญ่หลายโครงการทั้งสายสีแดง สีน้ำเงินและสีเขียว จนโกยรายได้สปีดขึ้นมาเป็นเบอร์ 4 ของวงการ หลังรายได้ปีที่แล้วแตะกว่า 8,000 ล้านบาท

"ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย" หัวเรือใหญ่บอกว่า รัฐบาลควรเร่งรัดให้มีการประมูลโดยเร็ว โดยเฉพาะทางคู่ 6 เส้นทางที่เป็นราง 1 เมตร รถไฟฟ้าสีส้ม ชมพู เหลือง แดง ส่วนที่เหลือค่อยทยอยดำเนินการก็ได้

"เราพร้อมประมูลงานใหญ่เพราะเพิ่มทุนเรียบร้อยแล้ว 3 หมื่นล้านบาทจาก 21 กองทุน ปีนี้นอกจากจะรับรู้รายได้รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) แล้ว หากมีงานใหม่เข้ามาเติมแบ็กล็อกที่มีอยู่ 3 หมื่นล้านบาท จะทำให้รายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้ส่วนแบ่งงานประมูลงานรัฐบาล 25-30% แต่ถ้าไม่มีงานใหม่เลยคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ 1.2 หมื่นล้าน"

Wisarut · Posted: 10/02/2015 6:54 pm Post subject:

“คมนาคม” จ่อชง ครม.ลงทุนชุดใหญ่กว่า 3.67 แสนล้าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
9 กุมภาพันธ์ 2558 07:40 น. (แก้ไขล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2558 10:13 น.)

“คมนาคม” เตรียมชง ครม.ใน ก.พ.นี้ ขออนุมัติลงทุนวงเงินรวมกว่า 3.67 แสนล้าน ทั้งมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง บางปะอิน-นครราชสีมา และบางใหญ่-กาญจนบุรี รถไฟฟ้าสายสีชมพู, เหลือง, แดงช่วง Missing Link, แอร์พอร์ตลิงก์ ส่วนต่อขยาย และรันเวย์สำรอง อาคารหลังใหม่สุวรรณภูมิเฟส 2

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี วงเงินรวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท เพื่อพิจารณาและสรุปรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม เนื่องจากทั้งสองเส้นทางนี้มีความพร้อมในการก่อสร้างแล้ว และคาดว่าจะสามารถเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์

โดยมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา มีระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงิน 84,600 ล้านบาท เป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 6,000 ล้านบาท สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร วงเงิน 55,620 ล้านบาท เป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้เตรียมเสนอ ครม.เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการระบบราง ประกอบด้วย 1. รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วงเงิน 56,000 ล้านบาท 2. สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) วงเงิน 54,000 ล้านบาท 3. ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ดอนเมือง-พญาไท) ระยะทาง 21.8 กิโลเมตร วงเงิน 31,103.55 ล้านบาท และ 4. รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (Missing Link) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กม. วงเงิน 38,954.85 ล้านบาท

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์-พระราม 9) ยังต้องรอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พิจารณาปรับวงเงินใหม่ เนื่องจากมีการเบี่ยงแนวเส้นทางจากเดิม โดยได้รับรายงานมาว่าบอร์ด รฟม.จะพิจารณาภายในเดือนนี้

ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 นั้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะเสนอแผนงาน 2 โครงการที่ได้รับการอนุมัติจากบอร์ดแล้ว มายังกระทรวงคมนาคมภายในเดือนนี้เพื่อเตรียมเสนอ ครม. ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) สำรองความยาว 2,900 เมตร วงเงิน 20,243.106 ล้านบาท และ 2. โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ด้านทิศเหนือ (Multi-Function Terminal) วงเงิน 27,684.392 ล้านบาท โดยใช้เงินรายได้ของ ทอท.ลงทุน

Wisarut · Posted: 17/02/2015 1:50 pm Post subject:

บีทีเอสเซ็นแล้วงานระบบตั๋วร่วมรับเงิน338ล้าน
ข่าวหุ้น ฉบับวันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 08:21

สนข.ดอดเซ็นสัญญาจ้าง BTS รับงานวางระบบตั๋วร่วมวงเงิน 338 ล้านบาทแล้ว เตรียมเปิดตัวรูปแบบบัตรตั๋วร่วมมี.ค.นี้ ประสานเอกชนเร่งงานเร็วขึ้น 6 เดือน คาดต้นปี 2559 เริ่มนำร่องบริการ BTS กับทางด่วนได้
แหล่งข่าวจากวงการคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ลงนามในสัญญาจ้างงานกับกลุ่มบีเอสวี (BSV) ประกอบด้วย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กับกลุ่มบริษัท สมาร์ททราฟฟิค จำกัด และบริษัท วิกซ์ โมบิลิตี้ จำกัด) ผู้รับงานโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ระบบตั๋วร่วม วงเงิน 338 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ตามสัญญาจ้างระบุให้กลุ่ม BSV เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 แต่กลุ่ม BSV ขอเริ่มงานทันทีหลังจากลงนามในสัญญา โดยมีระยะเวลาการทำงานทั้งหมด 30 เดือน ขณะที่ สนข.จะเจรจากับกลุ่ม BSV เพื่อขอเร่งรัดการทำงานให้เร็วขึ้น ใช้เวลารวม 24 เดือน
โดยแบ่งเป็นช่วง 18 เดือนแรก คือ ดำเนินการออกแบบรายละเอียด ติดตั้งระบบ พร้อมทำการทดสอบ และจะสามารถเริ่มให้บริการนำร่องตั๋วร่วมระหว่างรถไฟฟ้า BTS กับทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ช่วงต้นปี 2559 หลังจากนั้นอีก 6 เดือน จะสามารถให้บริการเพิ่มอีก 2 ระบบ คือ รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ขณะเดียวกันในเดือนมีนาคมนี้ สนข.จะเปิดตัวรูปแบบบัตรตั๋วร่วมที่จะนำมาให้บริการตามโครงการดังกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า มั่นใจว่ากลุ่ม BSV จะสามารถเร่งรัดงานได้ตามที่สนข.ตั้งเป้าไว้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบัน BTS ให้บริการตั๋วร่วมระหว่างรถไฟฟ้า BTS กับรถเมล์ด่วนพิเศษ (BRT) อยู่แล้ว อีกทั้งเป็นผู้ศึกษาระบบการทำงานของรถไฟฟ้าใต้ดินที่บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL รับผิดชอบ ส่วนบริษัท สมาร์ททราฟฟิค ก็มีส่วนร่วมในการวางระบบบัตรโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ขณะที่บริษัท วิกซ์ จากประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ทำระบบบัตรแรบบิท การ์ด ของ BTS ซึ่งจะสามารถต่อยอดมาเป็นตั๋วร่วมตามสเป็กที่สนข.กำหนดได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับโครงการนี้จะใช้แหล่งเงินกู้ในประเทศ โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนรูปแบบการจ่ายเงินค่าจ้างงานนั้น เบื้องต้นกลุ่ม BSV ต้องสำรองจ่ายก่อน 15% ของมูลค่างาน 338 ล้านบาท จากนั้น สนข.จะทยอยเบิกจ่ายให้ รวมแล้ว 6-7 งวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจ้างเอกชนมารับงานวางระบบตั๋วร่วมแล้ว ลำดับต่อไปกระทรวงคมนาคมจะทำการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน โดยดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556) เพื่อเป็นองค์กรที่เข้ามาดูแลรับผิดชอบการให้บริการตั๋วร่วมระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมด คาดว่าจะมีทุนจดทะเบียนประมาณ 700-800 ล้านบาท โดยภาครัฐถือหุ้น 40% (ใช้ระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง หรือ CCH เป็นทุนส่วนนี้) เอกชน 40% (เปิดประกวดราคา) และผู้ประกอบการที่ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เช่น BTS, BMCL อีก 20% โดยคาดว่าจะใช้เวลาจัดตั้งประมาณ 1 ปี
ส่วนการกำหนดร่างเงื่อนไขคัดเลือก (TOR) เอกชนในสัดส่วน 40% นั้น จะกำหนดยื่นเอกสาร 3 ซอง คือ ด้านคุณสมบัติ ด้านเทคนิค และด้านราคา โดยราคาจะแข่งขันที่ข้อเสนอค่าดำเนินงานเชื่อมระบบ (Transaction) ซึ่งระบบขนส่งโดยทั่วไป ค่า Transaction จะไม่เกิน 1% ส่วนร้านค้าที่ร่วมในบัตรตั๋วร่วมนั้น ค่า Transaction จะไม่เกิน 1.5% และใน TOR จะกำหนดด้วยว่า หากจำนวน Transaction เพิ่มขึ้นในระดับหนึ่งจะต้องลดค่า Transaction ลงด้วย

Wisarut · Posted: 23/02/2015 11:06 am Post subject:

′อิมแพค′เล็งลงทุนเองเชื่อมต่อ รถไฟสีชมพูหลังรฟม.ยังเงียบ
มติชน
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 18:28:41 น.

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี กล่าวถึงความคืบหน้าการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูไปยังอิมแพค เมืองทองธานีว่า ยังไม่มีความคืบหน้าจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีข้อมูลเพียงว่ารัฐจะเร่งรัดดำเนินการและเปิดประมูลเร็วๆ นี้

"มีการหารือกับคณะกรรมการของ รฟม.ครั้งล่าสุด เมื่อ 6 เดือนก่อน ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเลือกทำเลไหนในอิมแพคทำสถานีจากที่เสนอไว้ 3 แห่ง คืออาคารอิมแพค บริเวณทะเลสาบ และย่านคอนโดมิเนียม และปัจจุบันคณะกรรมการมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการด้วย" นายพอลล์กล่าว และว่า หากรัฐไม่ลงทุนเชื่อมต่อสถานีในอิมแพค ทางอิมแพคจะลงทุนรถไฟฟ้าโมโนเรลเพื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูเอง มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท

นายพอลล์กล่าวถึงทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท (อิมแพ็คโกรทรีท) ว่า ตามแผนธุรกิจ ปี 2558/2559 (เมษายน 2558-มีนาคม 2559) ตั้งเป้ารายได้ 2.1 พันล้านบาท โต 11% จากปีก่อน เพราะมองแนวโน้มการจัดอีเวนต์จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) งานอีเวนต์และการประชุมจะยิ่งมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะลงทุนมูลค่า 4 พันล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรมแบรนด์ไอบิส ขนาด 600 ห้อง เริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ แล้วเสร็จต้นปี 2561 พื้นที่จอดรถ 4 พันคัน ช้อปปิ้งมอลล์และร้านอาหาร พร้อมทั้งขยายฮอลล์เพิ่มเติม และอยู่ระหว่างการศึกษานำสินทรัพย์เข้ากองรีทส์เพิ่มเติมคาดว่าจะชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนรายได้ปี 2556/2557 (เมษายน 2556-มีนาคม 2557) คาดว่าอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท โดยได้รายได้จากอีเวนต์และประชุมเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเช่าลดลง ผลจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา

Wisarut · Posted: 24/02/2015 4:03 pm Post subject:

ชาวบ้านแถบมีนบุรี ร้องนายกฯ ขอเพิ่มเส้นทางรถไฟฟ้าสายชมพูไปให้ถึง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
24 กุมภาพันธ์ 2558 12:49 น. (แก้ไขล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2558 14:40 น.)

ชาวบ้านแถบมีนบุรี ร้องนายกฯ ขอเพิ่มเส้นทางรถไฟฟ้าสายชมพูไปให้ถึง

ชาวบ้านฝั่งตะวันออก กทม.ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอให้ทบทวนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีที่ 29 เข้าตลามีนบุรี ระบุชุมชนหมู่บ้านโรงงานใหม่เกิดเพียบแต่รถไฟไปไม่ถึง

วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ศูนย์บริการประชาชนชั่วคราว สำนักงาน ก.พ. กลุ่มประชาชน ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า "ประชาชนที่อยู่อาศัยในแถบฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร" จำนวนประมาณ 80 คน นำโดย นายปองเดช ภิรมย์ ได้มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กรณีขอให้พิจารณาทบทวนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีที่ 29 เข้าตลาดมีนบุรี โดยมีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายปองเดช ระบุว่า พวกตนเป็นกลุ่มประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพิ้นที่ตะวันออก ของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย เขตคันนายาว คลองสามวา หนองจอก ลาดกระบัง และพื้นที่ใกล้เคียง มีความเห็นว่าตามที่รัฐบาลกำหนดเส้นทางเดินรถ โดยใช้เวลาศึกษามา 7 - 8 ปี แต่ในขณะนี้มีการขยายเมืองออกมาทาง ถ.สุวินทวงศ์ และมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหมู่บ้าน ชุมชนที่พักอาศัยของการเคหะเเห่งชาติ โรงงาน สถานประกอบการและใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ มีถนนสายต่างๆ อาทิ ถ.หทัยราษฎ์ สามวา นิมิตใหม่ประชาร่วมใจ ราษฎร์อุทิศ คุ้มเกล้า ฉลองกรุง

โดยทางกลุ่มจึงขอให้พิจารณาทบทวนเส้นทางของรถไฟฟ้าสายชมพู เนื่องจากเส้นทางของรถไฟฟ้าไม่ได้มีเส้นทางผ่านบริเวณดังกล่าว จึงเห็นว่าหากรัฐบาลจะทบทวนเส้นทางรถไฟฟ้าสถานีที่ 29 ให้ผ่านบริเวณดังกล่าวจะมีประโยชน์มากกว่าที่จะใช้เส้นทางเดิม โดยเฉพาะในด้านความคุ้มค่าของงบประมาณ

Mongwin · Posted: 26/02/2015 4:54 pm Post subject:

ยัน "สายสีชมพู"เข้าตลาดมีนฯไม่เปลี่ยนแนว
เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 12.57 น.

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนยรานฝั่งตะวันออกเข้ายื่นหนังสือต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อขอให้พิจารณาปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรีระยะทาง 34.5 กิโลเมตรงบประมาณก่อสร้าง 58,303ล้านบาท

โดยประชาชนได้เรียกร้องให้ปรับแนวเส้นทางเบี่ยงไปตามถนนสุวินทวงศ์แทนแนวเดิมที่ไปตามถนนสีหบุราณุกิจถึงหน้าตลาดมีนบุรีว่าประชาชนฝั่งตะวันออกได้เข้ามายื่นหนังสือหลายครั้งแล้วซึ่งรฟม.ได้ศึกษาและพิจารณาแล้วว่าแนวทางที่ประชาชนเสนอนั้นไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากหากมีการเปลี่ยนแนวเส้นทางไปตามถนนสุวินทวงศ์นั้นจะทำให้ระยะทางเพิ่มขึ้นอีก5 กิโลเมตรส่งผลให้งบประมาณในการดำเนินการเพิ่มขึ้นอีกถึง5,000 ล้านบาทรวมทั้งจะต้องมีการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงขึ้นมาเพิ่มเติมซึ่งจะส่งผลให้รุกเข้าไปในพื้นที่สีเขียวลายที่ผังเมืองกำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่อยู่บริเวณสุดถนนสุวินทวงศ์ดังนั้นรฟม.จึงไม่อยากที่จะเข้าไปดำเนินการซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้รฟม.เห็นว่าแนวเส้นทางเดิมมีความเหมาะสมแล้วเพราะบริเวณตลาดมีนบุรีถือว่าจุดที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนชนิดอื่นๆได้อย่างสะดวกทั้งนี้รฟม.ได้มีการวิเคราะห์แนวเส้นทางร่วมกับสำนักนโยบายและแผนขนส่งและจราจร(สนข.)กระทรวงคมนาคมโดยมีความเห็นว่าแนวทางเดิมนั้นมีความเหมาะสมมากที่สุดสำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการขณะนี้สายสีชมพูอยู่ระหว่างการพิจารณาเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

รายงานข่าวแจ้งต่อว่าอย่างไรก็ตามหากประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่านถนนสุวินทวงศ์หากมีการดำเนินการก่อสร้างเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความสะดวกนั้นรฟม.มีเเนวคิดที่จะก่อสร้างทางเดินเชื่อมจากถนนสุวินทวงศ์เข้ามาสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญบริเวณแยกมีนบุรีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนสำหรับแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีแนวสายทางไปตามถนนแจ้งวัฒนะจากห้าแยกปากเกร็ดผ่านทางเข้าเมืองทองธานีถนนประชาชื่นผ่านแยกหลักสี่มุ่งหน้าวงเวียนอนุสาวรีย์บางเขน เข้าสู่ถนนรามอินทรา ผ่านถนนลาดปลาเค้า ซอยมัยลาภถนนวัชรพล ถนนนวมินทร์ผ่านคู้บอน คันนายาว สวนสยามโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีถนนพระยาสุเรนทร์ จนถึงสี่แยกเมืองมีนตัดถนนเสรีไทยมุ่งหน้าสู่ถนนสุวินทวงศ์เขตมีนบุรีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้มมีทั้งหมด 30สถานี