Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311289
ทั่วไป:13271093
ทั้งหมด:13582382
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 112, 113, 114 ... 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 13/05/2015 1:10 am    Post subject: Reply with quote

วิดิโอระบบตั๋วร่วม - ดูได้ที่นี่ครับ

https://www.vimeo.com/81973475

ดีเดย์ก.พ.59ใช้ระบบตั๋วร่วม รถไฟฟ้า
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 08 พฤษภาคม 2558 เวลา 09:41 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,051 วันที่ 10 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ดีเดย์ก.พ.59ใช้ระบบตั๋วร่วม รถไฟฟ้า-ใต้ดิน-BRTนำร่อง



ดันบีทีเอส- บีอาร์ที- MRT- แอร์พอร์ตลิงค์ นำร่องใช้ระบบตั๋วร่วมกุมภาพันธ์ปี 59 พร้อมความสะดวกในการจัดซื้อสินค้าร้านค้าที่ร่วมรายการ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วง –รถเมล์เอ็นจีวี- ทางด่วน-เรือโดยสารยังมีลุ้นใช้งานช่วงปลายปีหน้า เร่งนำเสนอคมนาคมชงครม.ตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมพ.ค.นี้พร้อมเตรียมเสนอประกวดโลโกบัตรตั๋วร่วมก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
นายเผด็จ ประดิษฐ์เพชร รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าขณะนี้ได้เร่งผลักดันให้มีการใช้งานระบบตั๋วร่วมเร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้เป็นช่วงการพัฒนาระยะละ 6 เดือน จำนวน 3 ระยะก็ร่นมาเหลือเพียง ระยะละประมาณ 4 เดือนโดยภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ก็จะสามารถใช้งานได้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส รถเมล์บีอาร์ที รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งทั้ง 4 โครงการปัจจุบันได้มีการใช้งานระบบตั๋วร่วมของแต่ละหน่วยงานไปบ้างแล้ว
นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2559 ยังเตรียมนำระบบตั๋วร่วมไปใช้งานกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่กำหนดเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2559 เช่นเดียวกับโครงการทางด่วนในช่องที่จ่ายเงินสดและรถโดยสารใช้ก๊าซเอ็นจีวีขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) จำนวน 3,183 คัน ตลอดจนเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบหากมีความพร้อมก็จะสามารถใช้งานได้ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ และรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆที่จะทยอยเสนอเปิดประมูลนั้นก็จะสามารถปรับเข้ามาอยู่ในระบบตั๋วร่วมได้อย่างต่อเนื่องกันไป
"ขณะนี้ส่วนงานไหนหากสามารถดำเนินการได้ก็ทำควบคู่กันไป เมื่อระบบเสร็จจึงใช้งานได้กับ 3-4 โครงการ ก่อนที่จะทยอยไปสู่ระบบอื่นๆต่อเนื่องกันไปซึ่งน่าจะเห็นผลชัดในปี 2559 นี้โดยระบบไหนมีความพร้อมก็สามารถนำระบบตั๋วร่วมที่สนข.จัดทำสำเร็จแล้วไปติดตั้งเพื่อใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังเตรียมเสนอประกวดโลโกบัตรตั๋วร่วมเพื่อประกาศใช้งานอย่างเป็นทางการอีกด้วย"
ทั้งนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน รวมทั้งจัดตั้งบริษัทบริการจัดการและบำรุงรักษาระบบ(Common Ticketing Company หรือ CTC) โดยคณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดนโยบายเรื่องโครงสร้างอัตราค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียมการใช้เพื่อนำนโยบายต่างๆไปเจรจากับผู้ประกอบการจัดทำเป็นโครงสร้างค่าโดยสารระบบตั๋วร่วมขนส่งมวลชนต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 14/05/2015 1:02 pm    Post subject: Reply with quote

เลาะแนวสายสีชมพู "แคราย-หลักสี่" (1) 13 สถานี คอนโดมิเนียมเปิดสนั่น 6 พันยูนิต
คอลัมน์ เล็งทำเล
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
13 พฤษภาคม 2558 เวลา 20:30:03 น.
ตีพิมพ์ใน ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ 14-17 พฤษภาคม 2558

หลังจากเดือนธันวาคมปี"55 บอร์ด "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" มีมติเห็นชอบลงทุนโครงการ "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" ช่วงแคราย-มีนบุรี ทำให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายค่ายต่างทยอยขึ้นคอนโดมิเนียมดักอนาคตกันอย่างคึกคักตลอดเส้นทาง



รถไฟฟ้าสายสีชมพูออกแบบเป็นรางเดี่ยวแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร มีจุดจอด 30 สถานี ถือเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างยาว การสำรวจจึงแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกตัดตอนจาก "แคราย-หลักสี่" รวม 13 สถานี (ไม่รวมสถานีศูนย์ราชการ จ.นนท์) ช่วงที่สองจาก "รามอินทรา-มีนบุรี"

สำหรับช่วงแรกแคราย-หลักสี่ ถือว่าเป็นย่านชุมชน มีศูนย์ราชการ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษา อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการ จ.นนทบุรี เพื่อนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ทำให้บริเวณนี้เป็นทำเลทองการพัฒนาโครงการ

"มิสเซอร์เวย์" สำรวจพบว่า ตั้งแต่ "แคราย-หลักสี่" มีผู้ประกอบการผุดคอนโดมิเนียมไม่ต่ำกว่า 12 โครงการ รวมกันกว่า 6,770 ยูนิต ราคาเริ่มยูนิตละ 1 ล้าน อาคารพาณิชย์อย่างน้อย 1 โครงการ ที่น่าสังเกตคือส่วนใหญ่มียอดขาย 70-90% ยกเว้นบางโครงการที่เพิ่งเปิดปลายปีที่ผ่านมามียอดขาย 20-30%

ในอนาคต หากรถไฟฟ้าสายสีชมพูก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าจะเป็นตัวผลักดันราคาคอนโดฯ เปิดใหม่พุ่งปรู๊ดปร๊าดทะลุเกิน 2 ล้านบาท

"ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม" รองเอ็มดี บมจ.ศุภาลัย เจ้าของแบรนด์ศุภาลัยในโซนนี้อย่างน้อย 4 โครงการ รวมกว่า 2 พันยูนิต ระบุว่า คอนโดฯ ทำเลติดถนนแจ้งวัฒนะนับจากช่วงห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ-บิ๊กซี ถือว่าตลาดตอบรับดี กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนทำงานในโซนหลักสี่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และบางส่วนซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่า

"ราคาที่ดินติดถนนแจ้งวัฒนะปัจจุบันเสนอขายตารางวาละ 1.5-2 แสนบาท ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้น 9-10% ถือว่าขยับขึ้นค่อนข้างเร็ว" คำกล่าวจากไตรเตชะ

แยกแครายประชัน 4 โครงการ

จุดเริ่มต้นสำรวจ "แยกแคราย" พบว่า สี่แยกชื่อดังแห่งนี้มีคอนโดฯ เดอะพาร์คแลนด์ ของ บจ.นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ 635 ยูนิต สร้างเสร็จขายหมดแล้ว กับคอนโดฯศุภาลัย ปาร์ค แคราย-งามวงศ์วาน ตึกสูง 34 ชั้น 697 ยูนิต

จากนั้นมุ่งหน้าถนนติวานนท์ ไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู บริเวณแยกปากเกร็ดเห็นป้ายโฆษณา "เดอะไพรเวซี่ ติวานนท์" ของ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งลึกเข้าไปในซอยติวานนท์ 50 ห่างรถไฟฟ้า 300 เมตร ออกแบบ 2 อาคาร ก่อสร้างแล้วเสร็จแต่เปิดขายอาคารแรกก่อน เป็นตึก 7 ชั้น 156 ยูนิต ขายได้กว่า 90% แล้ว เริ่มต้นแบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 22-50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 1.3 ล้านบาท กำลังจัดโปรโมชั่นลดสูงสุด 2 แสนบาท

อีกโครงการ "ศุภาลัย วิสต้า ห้าแยกปากเกร็ด" ตึกสูง 30 ชั้น 404 ยูนิต กำหนดสร้างเสร็จกลางปี"60 ห้องชุดสตูดิโอเริ่มต้น 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.6-1.7 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 80-90%

แจ้งวัฒนะคอนโดฯทะลัก

จากห้าแยกปากเกร็ดมุ่งหน้า "ถนนแจ้งวัฒนะ" มีโครงการ "ฮอลล์มาร์ค" โดย บจ.ชีวาทัย ของครอบครัวพานิชชีวะร่วมกับกลุ่มทุนสิงคโปร์ เป็นตึก 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 427 ยูนิต ไซซ์ห้องชุดเริ่ม 24 ตร.ม.ราคาเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท มียอดขายแล้วกว่า 70% จะสร้างเสร็จภายในปีนี้

ใกล้กับตึกซอฟท์แวร์ปาร์ค มีคอนโดฯ "แอสโทร" ตึกสูง 37 ชั้น 484 ยูนิต ของ บจ.เอ-สตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ ของกลุ่มทุนไทย-สิงคโปร์ ตึกสร้างเสร็จ กวาดยอดขายมากกว่า 90%

จากจุดนี้มุ่งหน้าไป 2-3 กิโลเมตร ผ่านจุดขึ้นลงทางด่วนและทางเข้าเมืองทองธานี มีคอนโดฯ เกิดขึ้นติด ๆ กันถึง 6 โครงการ ได้แก่ เดอะซี้ด 210 ยูนิต ของค่ายพฤกษาฯ, เดอะเบส 2 อาคาร รวม 1,231 ยูนิต ของ บมจ.แสนสิริ

โครงการกรีเน่ 22 ชั้น 376 ยูนิต ของ บจ.ปรีดา โฮลดิ้ง ที่แตกไลน์จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มียอดขายกว่า 80%, ยี่ห้อเก๋ ๆ "เรียล" 31 ชั้น 837 ยูนิต ของ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ยอดขายกว่า 30%, ศุภาลัย ลอฟท์ 28 ชั้น 435 ยูนิต ขายกว่า 90% กับศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท แจ้งวัฒนะ 24 ชั้น 752 ยูนิต ที่อยู่ติดกัน ยอดขายกว่า 30%

รายกลางบุกศูนย์ราชการ

จากดงคอนโดฯ มุ่งหน้าผ่านแยกคลองประปาไปทางศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ผ่านศูนย์การค้าไอทีสแควร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร สิ้นสุดจุดสำรวจก่อนเข้าวงเวียนหลักสี่ สังเกตเห็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น "มิกซ์ทาวน์" ของ บจ.ร่มเกล้าเพลซ มี 38 ยูนิต

ใกล้ ๆ กันมีคอนโดฯ "เรสต้า แจ้งวัฒนะ" ในซอยแจ้งวัฒนะ 12 ของ บจ.ไรซ์ซิ่ง เอสเตท สูง 5 ชั้น 4 ตึก 80 ยูนิต เริ่มต้นแบบ 1 ห้องนอน 28.5 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.53 ล้านบาท อัพเดตข้อมูลปิดการขายเฟสแรก อยู่ระหว่างโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนเฟส 2 เป็นตึก 7 ชั้น 1 อาคาร 78 ยูนิต เหลือขายกว่า 10 ยูนิต

ช่วงก่อนถึงวงเวียนหลักสี่เป็นที่ตั้งของ "รีเจนท์ โฮม 15 แจ้งวัฒนะ-หลักสี่" ของ บจ.รีเจนท์ กรีน เพาเวอร์ ตึกสูง 14 ชั้น 2 อาคาร รวม 1,358 ยูนิต ห้องชุดแบบสตูดิโอ 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.99 แสนบาท แบบว่า...ขายหมดแล้ว

บทสรุปทำเลแนวรถไฟฟ้าสีชมพู "แคราย-หลักสี่" พบว่าดีเวลอปเปอร์หลายรายผุดโครงการดักอนาคตรถไฟฟ้าสายสีชมพู ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 1 ล้านบาท ส่วนใหญ่มียอดขาย 70-90% เพราะเปิดตัวมา 2-4 ปี ยกเว้นเรียลที่เปิดตัวปลายปี 2557 และศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท เปิดตัวปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทำเลทองซะขนาดนี้ เชื่อว่ารถไฟฟ้าเริ่มตอกเข็มเมื่อไหร่ โครงการที่อยู่อาศัยสารพัดรูปแบบคงลงทุนเปิดตัวใหม่คึกคักสนั่นไปทั้งสายแน่นอน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 16/05/2015 1:16 am    Post subject: Reply with quote

จ่อล้มด่วน 3 สายเหนือผุดโมโนเรลแทน ม.เกษตรฯ ค้านไม่เลิกขออีก 1 เดือนแจงผลกระทบ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2558 20:07 น. (แก้ไขล่าสุด 15 พฤษภาคม 2558 09:14 น.)



“คมนาคม” ให้เวลา ม.เกษตรฯ ศึกษาผลกระทบอีก 1 เดือนก่อนหาข้อยุติปัญหาทางด่วน 3 สายเหนือ แนวโน้มพับโครงการดันแผนสร้างรถไฟฟ้าสีน้ำตาลเป็นโมโนเรลแทน ด้าน สนข.ชงผลศึกษาผุดโมโนเรลใช้ประโยชน์ตอม่อ 281 ต้นได้คุ้มค่าและใช้เงินลงทุนต่ำกว่า

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาการก่อสร้างโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1 ที่มีผลกระทบต่อ ม.เกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้แทน ม.เกษตรฯ เพื่อรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน ซึ่งทาง ม.เกษตรฯ แจ้งว่าอยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยขอเวลาศึกษาอีก 1 เดือนจากนั้นจะสรุปข้อมูล ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะนำข้อมูลมาประมวลก่อนสรุปเสนอ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ที่ได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องศึกษาทางเลือกที่เหมาะสม

รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาผู้แทน ม.เกษตรฯ ได้เข้าพบ รมว.คมนาคมเพื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N1 ทาง รมว.คมนาคมจึงให้ ม.เกษตรฯ ไปศึกษาข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งทาง ม.เกษตรฯ แจ้งว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ของ ม.เกษตรฯ ยังศึกษาไม่เสร็จโดยขอเวลาอีก 1 เดือน จากนั้นให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ประมวลข้อมูลอีกครั้ง ดังนั้นในขณะนี้ต้องยุติโครงการไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้สมัยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็น รมว.คมนาคม ได้มีมติให้ยกเลิกโครงการตอน N1 และให้ สนข. ศึกษาวิเคราะห์ว่า ตอน N2, N3 ควรจะดำเนินการอย่างไร มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งมี 3 ทางเลือก คือ 1. ก่อสร้าง N2, N3 2. ยกเลิก N2, N3 และก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-มีนบุรี (ระบบโมโนเรล) แทน หรือ 3. ก่อสร้างทั้งทางด่วน N2, N3 และรถไฟฟ้า โดยผลวิเคราะห์พบว่า หากก่อสร้างเฉพาะตอน N2, N3 จะทำให้โครงข่ายทางด่วนที่จะเชื่อมแนวตะวันออก-ตะวันตก ไม่สมบูรณ์และเพิ่มปัญหาจราจรที่บริเวณอุโมงค์แยกเกษตร ในขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เสนอผลศึกษาว่า การลงทุนก่อสร้าง ตอน N2, N3 มีความคุ้มทุน เนื่องจากเป็นการใช้ฐานรากจำนวน 281 ฐาน ในแนวถนนเกษตรนวมินทร์ และ 4 ฐานบริเวณทางแยกต่างระดับทางด่วนฉลองรัฐ ที่ลงทุนไปแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่มีความเป็นไปได้และเหมาะสมมากที่สุด คือยกเลิกโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือทั้งหมด และปรับเป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลสีน้ำตาลแทน โดย สนข.ได้รายงานผลการศึกษามาที่กระทรวงคมนาคมแล้ว พร้อมยืนยันการศึกษาว่าสามารถใช้ประโยชน์ฐานรากโดยใช้เป็นโครงสร้างของรถไฟฟ้าแทน แต่จะต้องกำหนดโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลเพิ่มเติมเข้าไปในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระยะ 10 ปี ซึ่งจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะก่อสร้างได้ ซึ่งจะสอดคล้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ที่จะเปิดให้บริการก่อน เนื่องจากจะไม่แย่งผู้โดยสารกัน และรถไฟฟ้าโมโนเรลลงทุนต่ำกว่าทางด่วน อีกทั้งมีความคุ้มค่าในการลงทุนมากกว่า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2015 9:20 pm    Post subject: Reply with quote

ปรับแบบสายสีส้มไม่จบ รฟม.ส่อเอื้อนายทุน “คมนาคม” ชี้ทำผิดวัตถุประสงค์แผนแม่บท


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
18 พฤษภาคม 2558 08:22 น. (แก้ไขล่าสุด 18 พฤษภาคม 2558 09:00 น.)



คมนาคมไม่เห็นด้วย รฟม.ปรับแบบรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชี้ผิดวัตถุประสงค์แผนแม่บทในการเชื่อมต่ออุโมงค์ศูนย์วัฒนธรรมที่ออกแบบเป็นสถานีเชื่อมต่อไว้แล้ว แถมต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ยิ่งทำให้ล่าช้า เตรียมส่งคืน รฟม.ทบทวน เผยผลกระทบประชาสงเคราะห์ปรับวิธีก่อสร้างได้ วงในหวั่นใช้ข้ออ้างเวนคืนเพื่อเบี่ยงแนวไปเอื้อพื้นที่นายทุนอสังหาฯ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า กรณีที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เสนอเรื่องปรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ระยะทาง 35.4 กม. ใหม่จากเดิม โดยช่วงดินแดงจะเลี้ยวไปตามถนนวิภาวดีผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์เพื่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ แล้วจึงเบี่ยงเข้าแนวถนนพระราม 9 ที่หน้า รฟม. และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหงนั้น จะปรับเป็นใช้แนวถนนดินแดงจนถึงถนนพระราม 9 โดยใช้สถานีพระราม 9 เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลแทนสถานีศูนย์วัฒนธรรม ทำให้สายสีส้ม เฟส 1 จะเริ่มต้นจากพระราม 9-มีนบุรีนั้น เบื้องต้นกระทรวงไม่เห็นด้วยในเรื่องการปรับแนวเส้นทางดังกล่าว และต้องการให้ รฟม.กลับไปทบทวนใหม่

โดยเห็นว่า รฟม.ควรใช้แนวเส้นทางตามเดิมที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทรถไฟฟ้า เนื่องจากมีความเหมาะสมกว่า และเป็นไปตามแผนที่ได้มีการก่อสร้างอุโมงค์ใต้สถานีศูนย์วัฒนธรรมไว้เป็นจุดเชื่อมระหว่างสายเฉลิมรัชมงคลกับสายสีส้มไว้แล้ว นอกจากนี้ แนวเส้นทางที่ รฟม.ปรับใหม่จะไปขนานกับแนวโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ซึ่งไม่เหมาะสม อีกทั้งไม่ได้เป็นการเปิดพื้นที่ใหม่จึงให้ รฟม.กลับไปศึกษาใหม่อีกรอบ ซึ่งเรื่องนี้จะมีการเสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาข้อมูลและตัดสินใจต่อไป

ทั้งนี้ รฟม.ระบุเหตุผลที่มีการปรับเปลี่ยนว่า เพื่อลดปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนบริเวณชุมชนประชาสงเคราะห์ ซึ่งที่ผ่านมามีการประท้วงคัดค้านจากประชาชนในบริเวณดังกล่าว และการปรับแนวสายทางทำให้ค่าก่อสร้างและค่าเวนคืนลดลงรวมประมาณ 500 ล้านบาทนั้น ประเด็นค่าก่อสร้างลดลงไม่ใช่เหตุผลที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนได้เพราะการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะต้องดูที่วัตถุประสงค์ซึ่งกำหนดไว้ในแผนแม่บทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแนวเส้นทางเป็นการเปลี่ยนวัตถุประสงค์และต้องศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมใหม่อีกด้วย ทำให้งานยิ่งล่าช้า ส่วนการเวนคืนและผลกระทบต่อประชาชนนั้น รฟม.ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนและชดเชยเยียวยาให้เหมาะสม รวมถึงออกแบบวิธีก่อสร้างที่เวนคืนที่ดินให้น้อยที่สุด

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม แบ่งเป็นเฟส 1 ( ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ส่วนเฟส 2 (ตะวันตก) จะเป็นช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ต่อมา รฟม.ได้ปรับแนวเป็นพระราม 9-มีนบุรี และตลิ่งชัน-พระราม 9 ซึ่งมีกระแสข่าวว่า การปรับแนวเบี่ยงมาใช้ถนนพระราม 9 แทนประชาสงเคราะห์เพื่อเลี่ยงการเวนคืนและลดผลกระทบประชาชนเป็นเหตุผลหนึ่งที่แฝงประเด็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีสายสัมพันธ์กับทางนักการเมืองหรือไม่ เพราะมีการเบี่ยงเส้นทางไปอยู่ในแนวโครงการใหญ่ ขณะที่เส้นทางเดิมผ่านพื้นที่อาศัย กทม.2 อีกทั้งสถานีศูนย์วัฒนธรรมได้ออกแบบเพื่อรองรับการเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารไว้ ส่วนสถานีพระราม 9 ไม่มีการออกแบบไว้เป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายที่จะมีผู้โดยสารจำนวนมาก

โดยส่วนตะวันตกจะเป็นเส้นทางใต้ดินทั้งหมด เริ่มต้นจากที่สถานีบางขุนนนท์ ผ่านสถานีรถไฟธนบุรี โรงพยาบาลศิริราช ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสู่แนวถนนราชดำเนินกลาง สนามหลวง สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนหลานหลวง ถนนเพชรบุรี แยกอุรุพงษ์ แยกเพชรพระราม เลี้ยวซ้ายที่แยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภ วิภาวดีผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์เพื่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ และเข้าสู่พื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยที่ใช้ร่วมกับสายเฉลิมรัชมงคล (สำหรับแนวใหม่ จากราชปรารถเบี่ยงขวาที่แยกสามเหลี่ยมดินแดงเข้าสู่ถนนดินแดง และตรงเข้าถนนอโศก-ดินแดง ออกสู่ถนนพระราม 9)

ส่วนตะวันออก จากศูนย์วัฒนธรรม-ประดิษฐ์มนูธรรม ถนนรามคำแหง ราชมังคลากีฬาสถาน ไปสิ้นสุดเส้นทางที่แยกลำสาลี ผ่านจุดตัดถนนศรีบูรพา จากนั้นจึงเริ่มยกระดับตามแนวเกาะกลางถนนเข้าสู่สถานีบ้านม้า ผ่านหมู่บ้านสัมมากร ยกข้ามทางแยกต่างระดับรามคำแหงจุดตัดถนนกาญจนภิเษก ผ่านแยกลาดบัวขาวจุดตัดถนนมีนพัฒนา ผ่านเคหะรามคำแหง ไปสิ้นสุดเส้นทางที่สถานีมีนบุรีบริเวณก่อนถึงแยกรามคำแหง-ร่มเกล้าซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และเป็นที่ตั้งของศูนย์ซ่อมบำรุงสำหรับเส้นทางส่วนนี้ร่วมกับสายสีชมพู
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2015 10:28 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เลาะแนวสายสีชมพู "แคราย-หลักสี่" (1) 13 สถานี คอนโดมิเนียมเปิดสนั่น 6 พันยูนิต
คอลัมน์ เล็งทำเล
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
13 พฤษภาคม 2558 เวลา 20:30:03 น.
ตีพิมพ์ใน ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ 14-17 พฤษภาคม 2558


เลาะแนว สายสีชมพู (จบ) 14 สถานี "รามอินทรา-มีนบุรี" บ้านหรู-คอนโดฯ 1-2 ล้านพรึ่บ!
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
18 พฤษภาคม พ.ค. 2558 เวลา 22:00:41 น.


คอลัมน์ เล็งทำเล โดย มิสเซอร์เวย์

หลังจากลงพื้นที่สำรวจแนวเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ตัดตอนช่วงแรกจากแคราย-หลักสี่มาแล้ว ถึงคิวช่วงสุดท้ายจาก "หลักสี่-มีนบุรี" อีก 14 สถานี สังเกตว่าเป็นโซนที่กำลังเปลี่ยนจากที่อยู่อาศัย "แนวราบ" มาเป็นคอนโดมิเนียม "แนวสูง" เนื่องจากราคาที่ดินขยับขึ้นต่อเนื่อง



บิ๊กแบรนด์ขอแจม

ความเคลื่อนไหวโครงการอสังหาริมทรัพย์โซนนี้ เริ่มต้นจาก "ถนนรามอินทรา" ช่วงวงเวียนหลักสี่ใกล้ห้างเซ็นทรัล ติดกับห้างมีบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง มาปักหมุดขึ้นคอนโดฯ 3 แบรนด์ ลุมพินีเพลส ลุมพินีวิลล์ และลุมพินีคอนโดทาวน์ รวมทั้งหมดกว่า 2 พันยูนิต ทำเลประชิดห้างเซ็นทรัล รามอินทรา และซอยรามอินทรา 3 ตั้งแต่ 3-4 ปีก่อน

มุ่งหน้าตามถนนรามอินทรา ผ่านสนามมวยลุมพินีแห่งใหม่ ฟู้ดแลนด์ ซอยมัยลาภ ถัดจากซอยมัยลาภไปสักพักมีโครงการ "ดีคอนโด" ของค่ายแสนสิริ ทำเลติดริมถนนใหญ่ มี 4 ตึก 825 ยูนิต ปรากฏว่าปิดการขายแล้ว

แยกวัชรพลโซนจัดสรร

แล่นรถผ่านแยกวัชรพล เลี้ยวรถเข้าไปในซอยรามอินทรา 65 ที่เชื่อมต่อกับถนนวัชรพลได้ จะเจอกับดงหมู่บ้านจัดสรรระดับกลางอยู่ติด ๆ กัน เริ่มตั้งแต่ต้นซอยมีโครงการ "เดอะเทอเรส" ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์นของค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มาดักกำลังซื้อ ทั้งโครงการมีเกือบ 300 ยูนิต บนที่ดิน 22-24 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 132-172 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท

แล่นรถเข้าไปตามถนนผ่าน 5 แยกวัชรพล เลี้ยวเข้าถนนร่วมมิตรพัฒนาจะเจอกับบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม 5 โครงการ เริ่มจาก 1) โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์มัณฑนา ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 2) โครงการเฟิร์สโฮม ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3) โครงการเพล็กซ์ ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 91 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 22 ตร.ว. ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.4 ล้านบาท จาก บจ.เรียล แอสเสท ดีเวลอปเม้นท์ 4) โครงการพราวด์เพลส ของ บจ.บีพลัส กรุ๊ป เป็นบ้านเดี่ยว 61 ยูนิต เปิดตัวเมื่อปี"55 ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 4 ล้าน และ 5) โครงการเดอะริกโค่ บจ.พูนผลทรัพย์ จำนวน 245 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 20.6 ตร.ว. ราคา 3.99 ล้านบาท ของ "บุศรี หวั่งหลี" บุตรสาว "ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ" เจ้าของสีทีโอเอ

เมื่อย้อนกลับมาตั้งต้นบนถนนรามอินทราใหม่ ช่วง กม.8 จะเห็นคอนโดฯลุมพินี รามอินทรา-นวมินทร์ 4 ตึก รวมกว่า 2,500 ยูนิต จุดเด่นคือเข้าออกได้จากฝั่งถนนรามอินทราและถนนนวมินทร์ ปัจจุบันปิดการขายแล้วเหลือแต่ห้องรีเซล

เลยไปไม่ไกล ปี"57 มีบริษัทมหาชน 2 ราย "เสนาดีเวลอปเม้นท์" เปิดโครงการเสนา พาร์คแกรนด์ บ้านเดี่ยวระดับกลาง-บนเมื่อไตรมาส 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมด 174 ยูนิต ราคาเริ่มต้นหลังละ 6.5 ล้านบาท มียอดขาย 30% และครึ่งปีหลังเตรียมนำที่ดินอีกแปลงทำเลใกล้กัน พัฒนาเป็นบ้านแฝด 200 ยูนิต ราคาประมาณ 4 ล้านบาท ส่วน "เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น" ปักธงโครงการแบรนด์แกรนด์ บางกอกบูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา 2 เป็นบ้านหรูสไตล์ทัสคานี ราคาเริ่มต้น 25-35 ล้านบาท

ราคาที่ดินแตะวาละ 1.5 แสน

"ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ" ผู้ถือหุ้นใหญ่จากไซมิส แอสเสท ระบุว่า มีที่ดินบนตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ประมาณ 100 ไร่ ในจำนวนนี้ได้แบ่ง 10 ไร่ มาพัฒนาคอนโดฯ เฟสแรก 2 ไร่ พัฒนาโครงการบลอสซั่มคอนโด@แฟชั่น 326 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นประมาณ 326 ยูนิต มียอดลูกค้าจองสิทธิ์ไว้ 200 ยูนิต จะเปิดขายเป็นทางการเดือนมิถุนายนนี้

ขณะที่ราคาที่ดินริมถนนรามอินทราและถนนรามอินทรา-รัชดา มีตั้งแต่ ตร.ว.ละ 1-1.5 แสนบาท ขึ้นกับ FAR-Floor Area Ratio หรืออัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อเนื้อที่ดิน ที่มีตั้งแต่ 3-10 เท่า

"ถ้ารถไฟฟ้าสายสีชมพูเริ่มต้นมองว่าราคาที่ดินมีโอกาสขึ้นไปแตะตารางวาละ 1.5-2 แสนบาท และถ้ารถไฟฟ้าเปิดใช้น่าจะขยับขึ้นไปเป็น 3 แสนบาท" นายขจรศิษฐ์ระบุ

ส่วนถนนรามอินทรานับจากช่วงแยกสวนสยามไปชนถนนร่มเกล้า ส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรรระดับกลางบน อาทิ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ดรามอินทรา และไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ดของ บมจ.เอสซี แอสเสทฯ, โครงการกรีนิซของกลุ่มรับเหมาไทยโพลีคอนส์ ฯลฯ ส่วนคอนโดฯสังเกตเห็นโครงการเอวาคัส การ์เด้นท์ ของ บจ.สยาม อมาโก้ โฮลดิ้งส์ เป็นตึก 8 ชั้น 50 ยูนิต ราคาเริ่มต้นกว่า 2 ล้านบาท

แต่เมื่อถึงวันที่รถไฟฟ้าเริ่มตอกเข็ม คาดกันว่าจะเริ่มเห็นคอนโดฯเปิดตัวคึกคักกันมากกว่านี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2015 10:45 pm    Post subject: Reply with quote

สนข.นัดถก"ขสมก.-เรือด่วน"ทำระบบตั๋วร่วม
By: admin
Thai Post
18 พฤษภาคม 2558 - 00:00

สนข.นัด ขสมก.-เรือด่วน ถกทำระบบตั๋วร่วม เก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ ใช้บัตรใบเดียวขึ้นได้ทั้งรถทั้งเรือ เตรียมนำร่องรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน

นายเผด็จ ประดิษฐเพชร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ สนข.จะเชิญผู้บริหารตัวแทนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเอกชนผู้ให้บริการเดินเรือ ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบ มาหารือถึงแนวทางการจัดทำระบบตั๋วร่วมของระบบขนส่งทั้ง 2 รูปแบบเข้าด้วยกัน

โดยเฉพาะในส่วนของ ขสมก.ที่อยู่ระหว่างจัดซื้อรถเมล์ที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน ซึ่งจะนำร่องติดตั้งระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (อี-ทิกเก็ต) ก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทาง

ทั้งนี้ โครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน อยู่ระหว่างเจรจาเรื่องค่าซ่อมบำรุงกับเอกชนผู้ชนะการประมูล โดยในส่วนของรถเมล์ 489 คันนั้น ได้มีการเตรียมพื้นที่ของรถแต่ละคันที่จะสามารถติดตั้งระบบอี-ทิกเก็ต และระบบติดตามการเดินรถด้วยจีพีเอสไว้ ซึ่งหลังจากการประมูลรถเมล์เอ็นจีวีเสร็จสิ้น สนข.จะสอบถาม ขสมก.ถึงความพร้อมที่จะเดินหน้าติดตั้งระบบตั๋วร่วม

โดยอี-ทิกเก็ต ที่ ขสมก.นำมาใช้ จะเป็นมาตรฐานระบบเดียวกันกับที่ สนข.วางไว้ และหลังจากนี้ได้เตรียมเชื่อมโยงระบบตั๋วร่วมเข้ากับระบบขนส่งอื่นๆ ทั้งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน

นางปราณี ศุกระศร กรรมการบริหารกิจการองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขสมก.ได้รับหนังสือเชิญจาก สนข.แล้ว และพร้อมจะร่วมหารือในการประชุมทำตั๋วร่วม โดยในส่วนของรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ขสมก.พร้อมที่จะนำระบบมาตรฐานเดียวกับที่ สนข.ออกแบบไว้มาติดตั้ง หลังจากที่มีการจัดซื้อรถเป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้รถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 489 คัน ให้บริการเชื่อมโยงกับระบบตั๋วร่วมได้โดยสมบูรณ์ โดยมั่นใจว่าการดำเนินการเรื่องระบบตั๋วร่วมของรถเมล์ทั้ง 489 คัน จะแล้วเสร็จภายในปี 2559

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ได้วางเป้าหมายว่า ในช่วงเริ่มต้นจะนำร่องติดตั้งระบบตั๋วร่วมในระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ MRT, รถไฟฟ้าบีทีเอส ทางด่วน อย่างน้อย 1 เส้นทาง และรถเมล์ของ ขสมก. เพื่อให้ระบบขนส่งสามารถใช้งานด้วยบัตรโดยสารใบเดียวเชื่อมโยงได้ทุกระบบขนส่ง ภายในปี 2560-2561.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 19/05/2015 10:29 am    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” ชง คจร.ตัดสินเปลี่ยนแนวสายสีส้ม พร้อมปรับแผนเร่งเปิดเดินรถสีม่วง 5 ธ.ค. 58
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
18 พฤษภาคม 2558 17:37 น. (แก้ไขล่าสุด 18 พฤษภาคม 2558 17:49 น.)

“คมนาคม” ชง คจร.ตัดสินปรับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม “ประจิน” เผยแนวเดิมตามแผนแม่บทเหมาะสมส่วนรวมได้ประโยชน์สูงสุด ผ่านสิ่งแวดล้อมแล้วพร้อมดำเนินการทันที ขณะที่ปรับแผนเดินรถสีม่วง ทดสอบระบบ 5 ธ.ค. 58 เปิดเป็นทางการปลาย มี.ค. 59 ด้าน กกร.เร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคม รับเปิด AEC

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เสนอปรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ช่วงจากศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เป็น พระราม 9-มีนบุรีว่า เบื้องต้นเห็นว่าการปรับแนวเส้นทางดังกล่าวเป็นการปรับเปลี่ยนสาระสำคัญในแผนแม่บทรถไฟฟ้า ดังนั้นจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายกฯ เป็นประธาน พิจารณาว่าจะเห็นชอบตามที่ รฟม.เสนอหรือไม่ ซึ่งกรณีที่ปรับเส้นทางใหม่นั้นยอมรับว่ามีความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งหลักการของแผนแม่บทรถไฟฟ้านั้นได้ศึกษาตามความเหมาะสมและประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยมีการลงทุนก่อสร้างอุโมงค์ใต้สถานีศูนย์วัฒนธรรมของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินไว้สำหรับเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มแล้ว รวมถึงการใช้ศูนย์ซ่อมบำรุงห้วยขวางร่วมกัน อีกทั้งแนวเส้นทางเดิมตัดผ่านชุมชนและผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นแนวเส้นทางที่เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนประเด็นค่าก่อสร้างแนวเส้นทางใหม่ถูกกว่าแนวเดิมตามแผนแม่บทนั้น เป็นไปตามหลักเมื่อระยะทางสั้นลงค่าก่อสร้างต้องถูกลง ซึ่งหาก คจร.ไม่เห็นด้วยกับการปรับแนวเส้นทาง รฟม.จะต้องใช้แนวเดิมซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะมีแบบและผ่านสิ่งแวดล้อมแล้ว

ขณะนี้ได้มีการปรับแผนการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กม.ใหม่แล้ว หลังจากได้หารือกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง และผู้ผลิตรถไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่น ยืนยันว่าจะสามารถส่งมอบขบวนรถได้ครบทั้งหมดก่อนเดือน ธ.ค. 2558 โดยแผนใหม่จะมีพิธีเปิดเดินรถอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 5 ธ.ค. 2558 โดยจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการโดยไม่เก็บค่าโดยสาร และมีการเร่งรัดแผนการทดสอบระบบ(Test Run) จาก 6 เดือนเป็น 4 เดือน โดยจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือน มี.ค. 2559 ซึ่งจะมีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ

ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบาหรือโมโนเรลนั้น คาดว่าจะสรุปรายละเอียดหลังจากที่ได้มีการปรับรูปแบบการลงทุนเป็น PPP ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการได้ในเดือน มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าโครงการรถไฟฟ้าได้มีการปรับแผนงานจากเดิมที่จะเสนอ ครม.ขออนุมัติในเดือน ม.ค. เป็นเดือน มี.ค. โดยล่าสุดปรับจากเดือน มี.ค.เป็นเดือน มิ.ย.เนื่องจากมีการทบทวนในบางเรื่องเพื่อความรอบคอบ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 21/05/2015 10:20 pm    Post subject: Reply with quote

ผังเมืองกรุงเทพฯระดมสมอง วางกรอบพัฒนา‘มหานครระบบราง’
ฐานเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ที่ 18 พฤษภาคม, 2558



ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นกรอบการพัฒนาเมือง ว่าจะเดินไปในทิศทางใดนั้น จนถึงขณะนี้ประกาศใช้ครบ 2 ปี ถือว่าผ่านมาครึ่งทางแล้ว ได้เวลาที่สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ต้องทำการประเมินผลจุดอ่อน จุดเสียที่เกิดขึ้น โดยการจัดประชุมร่วมกับกลุ่มต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผังเมืองรวม เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการจัดทำผังเมืองรวมฉบับใหม่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์

ผังเมืองรวมฯปี 2556 รองรับมหานครระบบราง

ปัจจุบันกรุงเทพมหานครกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งมวลชนระบบรางหรือโครงการรถไฟฟ้าหลายเส้นทางด้วยกัน จากแผนงานที่รัฐบาลกำหนดไว้จะมี 10-12 เส้น
ทางครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล จึงก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเมือง

ผศ.ดร.นพนันท์ ตาปนานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านผังเมือง กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ว่า ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2556 เป็นการมองมหานครแห่งนี้ในอีก 20 ปี โดยปี 2575 จะเป็นปีที่กรุงเทพมหานครกำลังเข้าสู่ศตวรรษที่ 3 พร้อมกับกำลังจะปรับไปเป็นมหานครระบบราง เปลี่ยนจาก 100 ปีแรกเป็นเมืองนํ้า มีนํ้าคูคลอง มาศตวรรษที่ 2 เป็นเมืองรถยนต์ มีการพัฒนาโครงข่ายถนน เพราะฉะนั้นความหนาแน่น พฤติกรรม ชีวิต ก็จะเปลี่ยน เราจะอยู่ในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นมากขึ้น และใช้ระบบขนส่งมวลชนทางรางมากขึ้น นี่คือภาพอนาคต

แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือกรุงเทพฯยังมีย่านพาณิชยกรรมหรือ ซีบีดี อยู่บริเวณสีลม สาทร สุขุมวิท พหลโยธิน เช่นเดิม และขณะนี้กำลังขยายไปสู่พระราม 9 ต่อเนื่องถึงพื้นที่ย่านวงแหวนรัชดาฯ เพราะบริเวณนี้มีการพัฒนาระบบรถไฟฟ้า รวมถึงจะมีรถไฟฟ้าจากชานเมืองเข้ามาในบริเวณนี้ ฉะนั้นการพัฒนาที่พยายามให้คนเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่มีการพัฒนารถไฟฟ้าก็เป็นเป้าหมายของการวางแผน

เมื่อรัฐมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ก็ตามมาด้วยการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของภาคเอกชนด้วยซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเมืองในที่สุดฉะนั้นผังเมืองรวมต้องสอดรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงว่ารถไฟฟ้าสายไหนจะพัฒนาและใช้ประโยชน์ได้ก่อน ก็ต้องไปสนับสนุนแนวสายทางนั้นก่อน จัดการเติบโตให้ทันกับระบบทางราง ซึ่งแสดงว่ากรุงเทพมหานครจะเพิ่มความหนาแน่นมากกว่าเพิ่มพื้นที่ และมีการควบคุมความหนาแน่นด้วยการกำหนดอัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน (FAR) เช่น ที่ดิน 1,600 ตร.ม. FAR 2.5 และอัตราส่วนพื้นที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม (OSR) 12.5 เป็นต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เปิดโล่ง

กทม.ต้องเป็นเมืองหนาแน่นทางสูง

ศาสตราภิชาน รศ.มานพ พงศทัต ผู้ทรงคุณวุฒิด้านผังเมือง กล่าวว่า อนาคตอีก 10 ปีกรุงเทพมหานครจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากเมืองรถยนต์ไปเป็นรถไฟฟ้า และจะมีประชากรหนาแน่นประมาณ 15 ล้านคน ฉะนั้น ผังเมืองในอนาคตต้องวางแผนให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครทันสมัย เป็นที่กล่าวขวัญทั่วทั้งเอเชีย และเมื่อเมืองเติบโตมากขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยก็เพิ่มมากขึ้นด้วย จึงไม่แปลกที่คอนโดมิเนียมจะขายดี เพราะในเมืองไม่มีสามารถสร้างบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ เพราะที่ดินราคาแพง ฉะนั้น กรุงเทพฯสมัยใหม่ต้องเป็นเมืองที่มีตึกสูงและอยู่กันอย่างหนาแน่น แต่ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย โดยใช้ผังเมืองรวมช่วย ซึ่งจุดนี้ก็อยากจะเสนอให้เพิ่มโบนัส FAR จาก 10 เท่า เป็น 25 เท่าของแปลงที่ดิน และ OSR เพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันที่ไม่ถึง 7%

นอกจากนี้ในอนาคตการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบเดี่ยวๆไม่มีจะต้องทำเป็นคอมเพล็กซ์ประกอบด้วยศูนย์การค้าอาคารสำนักงานโรงแรมสร้างเมืองเล็กๆในเมืองใหญ่ที่ดินของเอกชนจะแปลงเล็กลงส่วนที่ดินแปลงใหญ่จะเป็นของราชการทั้งสิ้นไม่ว่าราชพัสดุการรถไฟฯสำนักงานทรัพย์สินจุฬาฯการท่าเรือฯลฯซึ่งจะสามารถนำมาพัฒนาเป็นเมืองได้โดยเฉพาะเมืองรอบๆสถานีรถไฟฟ้าหรือ TOD เช่น บางซื่อ มักกะสัน สถานีท่านํ้า จะเป็น TOD ใหม่ของกรุงเทพฯ

ดังนั้นในการจัดทำผังเมืองรวมฯฉบับใหม่ต้องรวม 6 จังหวัดในปริมณฑลด้วย เพราะปัจจุบันคนกรุงเทพฯมีบ้านมากกว่า 2 หลัง ในเมืองและชานเมือง และต้องจัดที่อยู่อาศัยให้คนชั้นกลางและผู้มีรายได้น้อยเช่าบนที่ดินของรัฐ โดยต้องให้เมืองกระจุกทางสูง ขณะเดียวกันก็กระจายเมืองใหม่ๆ และสุดท้ายต้องมีผังพื้นที่เฉพาะ เพื่อให้มีการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอFAR8เท่า เหมือนกันทั่วประเทศ

นายประทีปตั้งมติธรรมประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหารบมจ.ศุภาลัย กล่าวว่า ผังเมืองรวมฯเข้าใจยาก และซับซ้อน เช่นกรณีกำหนดอัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อที่ดิน ซึ่งปัจจุบันให้ 10 เท่า ส่วนตัวคิดว่า ในกรุงเทพฯควรกำหนดให้ 8 เท่า เท่ากันก็น่าจะเพียงพอ เช่น ถนนสุรวงศ์ ซึ่งเป็นถนนเล็กๆ แต่ให้ FAR 10 เท่าซึ่งไม่จำเป็น ขณะที่ในถนนกว้าง 40 เมตร แต่ให้แค่ 4 เท่าฉะนั้นควรเพิ่มให้ในจุดหลังมากกว่า

นอกจากนี้ควรเลิกระบุขนาดอาคารเช่น 10,000 ตร.ม. 30,000 ตร.ม. เพราะมี FAR กำกับอยู่แล้ว เช่น ศุภาลัยพัฒนาโครงการที่ถนนเทียมร่วมมิตร 2 โครงการ โดยโครงการที่ 1 สูง 20 ชั้น สร้างเสร็จแล้วมีคนเข้าอยู่เรียบร้อย ส่วนอาคารที่ 2 สูง 14 ชั้น กำลังก่อสร้าง ถ้ากฎหมายไม่กำหนดขนาดอาคาร บริษัทก็สามารถเพิ่มพื้นที่สวนได้มากขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 22/05/2015 12:12 pm    Post subject: ศึกสายสีส้ม Reply with quote

สายสีส้มผ่านพระราม9ยังไม่นิ่งรอคจร.สรุปแนว
เดลินิวส์
วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2558 เวลา 9:49 น.

สายสีส้มผ่านพระราม9ยังไม่นิ่งรอคจร.สรุปแนว รฟม.รอ คจร.ตัดสินปรับแนวเส้นทางสายสีส้มตะวันตกใช้แนวชุมชนประชาสงเคราะห์ พร้อมทำตามมติหากพบว่าเส้นใดเหมาะสม

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุลผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เปิดเผยว่ากระทรวงคมนาคมนำเสนอการปรับแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงตลิ่งชัน-พระราม9ซึ่งมีการปรับแนวเส้นทางจากเดินที่จะต้องผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์เป็นตามแนวเส้นทางถนนพระราม9 เพื่อลดผลกระทบและความขัดกับประชาชนให้คระกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.)เพื่อพิจารณาเห็นชอบตามที่รฟม.เสนอแนวเส้นทางไปเนื่องจากการปรับแนวเส้นทางนั้นได้ถูกปรับเปลี่ยนจากแผนแม่บทซึ่งแผนแม่บทได้มีการศึกษาความเหมาะสมและประโยชน์ต่อส่วนรวมรวมทั้งมีการลงทุนก่อสร้างอุโมงค์ใต้สถานีศูนย์วัฒนธรรมสายสีน้ำเงินสำหรับเชื่อมต่อไว้แล้วจึงจำเป็นที่จะต้องให้คจร.พิจารณาถึงความเหมาะสมก่อนที่จะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่ออนุมัติการก่อสร้างอีกครั้ง

ดังนั้นจึงส่งผลให้สายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีจำเป็นต้องรอให้สายสีส้มตะวันตกสรุปให้เรียบร้อยเสียก่อนเพราะทั้ง 2เส้นทางเป็นแนวเส้นทาวที่ต่อเนื่องดังนั้นหากมีการพิจารณาเร็วขึ้นสายสีส้มตะวันออกก็จะสามารถประกวดราคาหาผู้รับเหมาได้ทันภายในปลายปี2558 นี้หากการดำเนินการล้าช้าการประกวดราคาก็จำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไป นายพีระยุทธ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวคิดการปรับแนวเส้นทางสายสีส้มตะวันตกนั้นรฟม.ต้องการที่จะลดผลกระทบและการต่อต้านของประชาชนเพราะรฟม.เกรงว่าหากประชาชนต่อต้านโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ซึ่งจะส่งผลให้การเดินรถไม่ต่อเนื่องประชาชนไม่ได้รับความสะดวก

แต่หากรัฐบาลเห็นว่าแนวเส้นทางเดิมมีเหมาะสมรัฐบาลจะต้องมีแนวทางที่จะเยียวยาประชาชนได้เพียงพอและประชาชนมีความยอมรับได้ แต่หากให้ใช้เส้นทางเดิมรฟม.ก็พร้อมที่ดำเนินการเพราะรฟม.มีผลการศึกษาทั้งแนวเส้นทางถนนพระราม9และชุมชนประชาสงเคราะห์ไว้เรียบร้อยแล้ว.“

//-----------------------------------------------------------

จีแลนด์"หนุนรฟม.ปรับ "สายสีส้ม"ผ่านพระราม9
By: newsadmin
ไทยโพสต์
วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2558 เวลา 00:06

"จีแลนด์" ยื่น "บิ๊กตู่" หนุน รฟม.ปรับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม ผ่านแนวถนนดินแดง-พระราม 9 ชี้ข้อดีอื้อ กระทบชุมชนน้อย ใช้เงินเวรคืนไม่มาก ลดงบก่อสร้างได้กว่า 3.5 พันล้านบาท

นายโยธิน บุญดีเจริญ ประธานกรรมการ บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำหนังสือเสนอความเห็นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาสนับสนุนมติของคณะกรรมการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เห็นชอบให้ปรับแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงสถานีรางน้ำถึงสถานี รฟม. เป็นแนวถนนดินแดง และถนนพระราม 9 และ รฟม.ได้เสนอต่อกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาแล้ว

อย่างไรก็ดี มีกระแสข่าวออกมาว่า รฟม.กำลังจะมีการทบทวนเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงสถานีรางน้ำถึงสถานี รฟม. กลับไปตามแผนเดิม

นายโยธินกล่าวว่า เนื่องจากแนวรถไฟฟ้าที่ผ่านถนนดินแดงและถนนพระราม 9 จะผ่านโครงการ Super Tower ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท เห็นว่าจะมีประโยชน์ในด้านต่างๆ โดย 1.ด้านสังคม หากเปลี่ยนใช้แนวเลียบถนนดินแดงและพระราม 9 การก่อสร้างจะไม่กระทบแหล่งที่อยู่อาศัยหรือชุมชนมากนัก 2.ด้านรายได้และการลดงบประมาณของ รฟม. จะผ่านชุมชนขนาดใหญ่ เป็นอาคารชุดพักอาศัยไม่น้อยกว่า 20 อาคารชุด เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสู่ใจกลางศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งต่อเชื่อมกับศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่บนถนนพระราม 9 สามารถให้บริการผู้โดยสารได้จำนวนมาก และมีรายได้ต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็ว และช่วยประหยัดงบประมาณได้กว่า 3,500 ล้านบาท และ 3.มีประโยชน์ต่อด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง

ปัจจุบันโครงการการแกรนด์ พระราม 9 มี 12 อาคารเปิดดำเนินการแล้ว บนพื้นที่รวม 720,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) หากก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ จะมีจำนวน 17 อาคาร รวมถึง Super Tower ซึ่งเป็นพื้นที่รวมกันกว่า 1,200,000 ตร.ม. ซึ่งปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัย ผู้ใช้บริการ และผู้มาติดต่อกว่า 100,000 คนต่อวัน ยังไม่นับรวมอาคารสำนักงานใกล้เคียงอีกไม่น้อยกว่า 20 อาคาร

สำหรับ Super Tower ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์ประชุม พื้นที่ค้าปลีก เป็นอาคารสูง 125 ชั้น ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดของอาเซียน และสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 23/05/2015 11:54 pm    Post subject: Reply with quote

ชาวดินแดงยื่นหนังสือนายกฯ หลังคมนาคมไม่เห็นด้วย-เปลี่ยนสายสีส้มไปใช้พระราม 9
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
23 พฤษภาคม 2558 เวลา 05:15


ชาวบ้านดินแดงเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ชี้แจงสาเหตุ รฟม.ปรับแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม จากประชาสังเคราะห์มาเป็นพระราม 9 หลัง รมว.คมนาคมมีท่าทีไม่เห็นด้วย นายประทีป นิลวรรณ ประธานชุมชนซอยแม่เนี้ยว แยก 3 เขตดินแดง ซึ่งได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี เปิดเผยว่า จากที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ไม่เห็นด้วยกับที่บอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสนอปรับแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี จากเดิมผ่านถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดงมาเป็นแนวถนนพระราม 9 โดยให้เหตุผลว่า ไม่ตรงกับผลการศึกษาเดิมของแผนแม่บทรถไฟฟ้า ซึ่งผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาแล้ว จึงต้องเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาเห็นชอบอีกครั้งก่อนนั้น ทำให้กลุ่มประชาชนถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง เกิดความไม่สบายใจ เพราะก่อนหน้านี้บอร์ด รฟม.มีมติเห็นชอบให้ปรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มจากถนนประชาสงเคราะห์มาใช้ถนนพระราม 9 ไปแล้ว เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน รวมถึงประหยัดค่าเวนคืนและค่าก่อสร้างกว่าพันล้านบาท

นายประทีปกล่าวว่า จากการประชุมของกลุ่มชุมชนถึงแนวทางแก้ไขปัญหานี้ สรุปว่า ในวันที่ 26 พ.ค.2558 ชาวบ้านจะรวมตัวเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อเท็จจริง ผลกระทบ และข้อดี ข้อเสีย จากการปรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงดังกล่าว ซึ่งข้อมูลที่จะนำเสนอนั้นจะมีความละเอียด ชัดเจน ไล่ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่การศึกษา การประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ซึ่งไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้นจนท้ายที่สุดบอร์ด รฟม.ได้มีมติให้ปรับแนวเส้นทางจากถนนประชาสงเคราะห์ มาใช้ถนนพระราม 9.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 112, 113, 114 ... 278, 279, 280  Next
Page 113 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©