รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล

Wisarut · Last edited by Wisarut on 19/04/2016 5:38 pm; edited 2 times in total

คมนาคมชง ครม.อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม
โดย MGR Online
19 เมษายน 2559 09:34 น. (แก้ไขล่าสุด 19 เมษายน 2559 09:35 น.)

การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (19 เม.ย.) มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีวาระที่น่าติดตาม อาทิ การรายงานสถานการณ์น้ำและคาดการณ์ปริมาณน้ำฤดูฝนที่จะมาถึง และการเกิดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วัน เพื่อหาแนวทางการป้องกันในอนาคต

ส่วนวาระพิจารณา คาดว่าจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ในรูปแบบการให้เช่าโครงการบ้านประชารัฐ ของกรมธนารักษ์ ความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะเสนอขออนุมัติโครงการ หลังจากรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ปรับลดค่าก่อสร้างงานโยธา

นอกจากนี้ จะมีการเสนอการดำเนินงานรองรับการถ่ายโอนภารกิจหลักด้านการบริหารจัดการลุ่มน้ำ จากคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงให้ประเทศสมาชิก

//-------------

ครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.29 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
อังคารที่ 19 เมษายน 2559 15:15:01 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.29 หมื่นล้านบาท โดยครม.ได้เร่งรัดให้ประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีส้มให้แล้วเสร็จในมิ.ย.นี้

ทั้งนี้ ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินก่อสร้าง, ค่าจ้างที่ปรึกษา รวมค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด จำนวน 82,907 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่ตั้งวงเงินไว้ 85,483 ล้านบาท และเมื่อรวมกับค่าจัดการกรรมสิทธ์ที่ดินอีก 9,625 ล้านบาท ที่ ครม.อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.58 รวมแล้วโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มีวงเงินลงทุนรวม 92,532 ล้านบาท โดยเป็นการปรับฐานราคาวัสดุให้เป็นปัจจุบัน (พ.ย.58) จากเดิมใช้ปี 56, ลดวงเงินสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง, ยกเลิกการใช้ฝ้า (ใต้หลังคาที่ชั้น Platform) ทั้งหมด และเปลี่ยนผนังภายในจากหินแกรนิตเป็นกระเบื้อง

//---------------

ครม.ไฟเขียว รฟม.ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม วงเงิน 8.29 หมื่นล้าน
โดย MGR Online
19 เมษายน 2559 16:31 น. (แก้ไขล่าสุด 19 เมษายน 2559 16:32 น.)

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.29 หมื่นล้านบาท โดยคณะรัฐมนตรีเร่งรัดให้ประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีส้มให้แล้วเสร็จในมิถุนายนนี้

Wisarut · Posted: 19/04/2016 3:47 pm Post subject:

ขีดเส้นผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภ เร่งย้ายออกจากพื้นที่/ รฟม.พร้อมสร้างสายสีส้ม

โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออลนไลน์เมื่อ 13 เมษายน 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 – 9 เมษายน พ.ศ. 2559

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เร่งเคลียร์ผู้เช่าโครงการตลาดเฉลิมลาภ ย่านประตูน้ำ หลังครบกำหนดเมื่อ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังมีผู้ค้าขายอยู่ในพื้นที่โซนด้านในอีกเพียบ เผยส่วนที่เหลือยังเป็นคดีฟ้องร้องต่อกัน รายไหนย้ายออกตามข้อตกลงเมื่อ 31 ธ.ค.57 จะทำการปิดหมาย “ทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ห้ามบุกรุก” ทันที ด้านรฟม.เร่งเคลียร์สายสีส้มกรณีชุมชนประชาสงเคราะห์ หวังก่อสร้างเส้นทางทันช่วงรื้อตลาดเฉลิมลาภให้สอดคล้องกัน

แหล่งข่าวระดับสูงของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตามที่ได้แจ้งยุติการเช่าผู้เช่าโครงการตลาดเฉลิมลาภไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมาและมีผู้เช่าหลายรายขนย้ายของออกจากพื้นที่ไปแล้วนั้นปรากฏว่ายังมีผู้ค้าบางส่วนที่ไม่ได้ย้ายออกไปเนื่องจากหลายรายร้องขอเพราะยังไม่มีความพร้อมในด้านต่างๆ หรือหลายรายยังเป็นคดีฟ้องร้องต่อกัน

“กรณีเดิมได้กำหนดให้ผู้เช่าที่ลงนามในสัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นศาลแล้วส่งสถานีที่เช่าคืนก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารทั้งหมดออกจากสถานที่เช่า ได้ยกเลิกการใช้ไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง ยกเลิกการใช้น้ำประปากับการประปานครหลวง ชำระเงินค่าใช้ประโยชน์ ค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน และค่าเบี้ยประกันภัยจนถึงเดือนที่ผู้เช่าใช้ประโยชน์(เดือนที่จะส่งคืน) และในวันที่ส่งคืนสถานที่เช่าให้ผู้เช่ามาพบเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯด้วยตนเองที่สถานที่เช่าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เช่าและบันทึกการส่งมอบต่อกัน ทั้งนี้สำนักงานทรัพย์สินฯดำเนินการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ ค่าขนย้าย และคูปองให้กับผู้เช่าและแจกให้เข้ามาขอรับเงินด้วยตนเองครบทั้งหมดแล้ว จึงจะเร่งรัดผู้ที่ยังอยู่ในพื้นที่ทำการขนย้ายออกจากพื้นที่โดยเร็วต่อไป”

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2559 ได้แจ้งว่าพื้นที่นี้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ห้ามบุคคลใดบุกรุก เข้าไปใช้ประโยชน์ส่วนใดส่วนหนึ่งในพื้นที่โดยเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินคดีอาญากับผู้บุกรุกตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งยังได้เร่งปิดหมายทั่วพื้นที่ว่าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จะจัดระเบียบพื้นที่ที่ได้รับคืนจากผู้เช่าแล้วเพื่อขอให้ย้ายทรัพย์สินและสิ่งของอื่นใดในความครอบครองออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 27 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมาเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยต่อไป

ด้านแหล่งข่าวผู้ประกอบการค้าที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรื้อย้ายตลาดเฉลิมลาภรายหนึ่ง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือยื่นไปยังสำนักงานทรัพย์สินฯแล้วว่ายังไม่พร้อมย้ายออกในขณะนี้เนื่องจากบ้านอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่มีสถานที่ค้าขายแห่งใหม่รองรับ หากการก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จจะย้ายออกจากพื้นที่ทันที

วเสร็จจะย้ายออกจากพื้นที่ทันที“มีอีกประมาณไม่ถึง 100 รายที่ยังไม่ย้ายออกไปเพราะได้รับความเดือดร้อนในหลายอย่าง แต่บางรายยังดื้อค้าขาย หนำซํ้าบางรายที่ได้เข้าไปค้าขายในห้างตามที่กทม.และสำนักงานทรัพย์สินฯ ประสานงานยังโดนจัดเก็บค่าเช่าในราคาที่เป็นภาระเพิ่มอีกเท่าตัว”

ด้านนายธีระพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตะวันตก) ช่วงผ่านประตูน้ำ ยังอยู่ระหว่างการเร่งทำความเข้าใจกับชาวบ้านชุมชนประชาสงเคราะห์-ห้วยขวาง ส่วนช่วงอื่นๆนั้นเคลียร์ปัญหาเกือบครบทั้งหมดแล้ว

“อยู่ระหว่างเร่งขออนุมัติโครงการ ยืนยันยังเดินหน้าโครงการดังกล่าวนี้ต่อไปพร้อมกับเร่งทำความเข้าใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบช่วงดินแดง-ห้วยขวาง ส่วนช่วงอื่นๆเรียบร้อยเกือบครบทั้งหมดแล้ว สถานีเดิมอยู่ช่วงประตูน้ำก็ได้ย้ายมาอยู่จุดราชปรารภตามที่ประชาชนต้องการ ดังนั้นหากมีการรื้อพื้นที่ช่วงตลาดเฉลิมลาภก็น่าจะสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างโครงการได้ทันกันพอดีเพื่อไม่ให้กระทบจากการก่อสร้างในภายหลัง”

Mongwin · Posted: 19/04/2016 4:26 pm Post subject:

ครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.29 หมื่นลบ.
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 เมษายน 2559 15:15:01 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.29 หมื่นล้านบาท โดยครม.ได้เร่งรัดให้ประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีส้มให้แล้วเสร็จในมิ.ย.นี้

Mongwin · Posted: 19/04/2016 7:56 pm Post subject:

รถไฟฟ้าสายสีส้มฉลุย - ช.การช่างแห้ว
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 19 เม.ย 2559 เวลา 17:42:59 น.

"บิ๊กตู่ "สั่งปักหมุดรถไฟฟ้าสายสีส้ม”ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี” 8.2 หมื่นล้านมิ.ย.นี้ ชักกะเย่อเดินรถ 1 สถานี "ช.การช่าง"หืดจับ

ครม.เคาะวงเงินลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม”ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี” 82,907 ล้าน ตีกลับแผนจ้าง BEM เดินรถ 1 สถานี “เตาปูน-บางซื่่อ” สั่งเจรจาใหม่ให้เดินรถยาวถึงปี’72 พร้อมหมดสัมปทานรถไฟฟ้าใต้ดิน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 19 เม.ย.2559 มีมติเห็นชอบการปรับกรอบวงเงินค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก(ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)จากเดิม 85,483 ล้านบาท เป็น 82,907 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 76,632 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษา 2,789 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 3,486 ล้านบาท ซึ่งลดลงไปประมาณ 2,576 ล้านบาท

โดยลดการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงด้านตะวันตกก่อนให้เหลือด้านตะวันออกที่เดียว ปรับราคาวัสดุจากเดิมที่ราคากำหนด เดือน เม.ย.25 58 เป็นราคาในเดือน พ.ค.2558 เพิ่มสัดส่วนใช้วัสดุภายในประเทศ 94 % และนำเข้าจากต่างประเทศ 4 % ( ลิฟท์ และบันไดเลื่อน) สวนค่าเวนคืนที่ดินก่อนหน้านี้ครม.เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2558 มีมติอนุมัติค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน วงเงิน 9,625 ล้านบาท โดยให้เร่งรัดเปิดประมูลภายในเดือน มิ.ย.นี้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) พิจารณาพื้นที่เพิ่มอาคารจอดและจรเพิ่มเติมอีกด้วย จากเดิมมีอาคารจอดและจร(Park and ride)จำนวน 1 แห่ง

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) มีระยะทาง 21.2 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างระดับใต้ดิน 12.2 กิโลเมตร ยกระดับ 9 กิโลเมตร มี 17 สถานี แบ่งเป็นสถานีใต้ดิน 10 สถานี และยกระดับ 7 สถานี

นายอาคม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางกระทรวงคมนาคม ยังเสนอเดินรถไฟฟ้า 1 สถานี จากสถานีเตาปูน-บางซื่อ ระยะทาง 1 กิโลเมตร ให้ ครม.พิจารณา ตามที่ รฟม. เสนอจ้าง บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM) เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่ง ครม.ไม่เห็นด้วยให้กลับไปใช้มติ ครม. เดิมวันที่ 28 ต.ค. 2557 ที่ให้จ้างเอกชนเดินรถจนถึงปี 2572 เท่ากับการหมดสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(หัวลำโพง-บางซื่อ)หรือรถไฟฟ้าใต้ดินปัจจุบัน พร้อมกับโอนสถานีดังกล่าวอยู่ในการเดินรถไฟฟ้าสายนี้ต่อไป ซี่งคณะกรรมการมาตรา 13 ของพระราชบัญญัติร่วมทุนฯปี 2535จะต้องนำความเห็นของ ครม.พิจารณาการจ้างเดินรถต่อไป และรฟม.นำมติดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ PPP จะประชุมปลายเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาถึงการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค)ด้วย

Wisarut · Posted: 20/04/2016 11:55 pm Post subject:

ลั่นประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม มิ.ย.นี้
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
20 เมษายน 2559 07:01

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี-สุวินทวงศ์ ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 82,907 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ค่าที่ปรึกษาและค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดจากก่อนหน้านี้ ครม.ได้อนุมัติค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินกว่า 9,625 ล้านบาทไปแล้ว โดย ครม.ได้ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดประกวดราคาก่อสร้างให้ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ และต้องก่อสร้างได้ภายในสิ้นปี 59 อย่างไรก็ตาม งบฯก่อสร้างที่ได้เสนอ ครม. ครั้งนี้ ได้ปรับลดงบฯลง 2,576 ล้านบาท จากเดิม 85,483 ล้านบาท โดยงบฯที่ปรับลงเป็นการปรับลดค่าก่อสร้าง โดยให้เน้นใช้วัสดุในประเทศมากขึ้นกว่า 94% ส่วนที่เหลือที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น บันไดเลื่อนหรือลิฟต์ นอกจากนั้น ครม.ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้หาแหล่งเงินกู้ที่ใช้ในโครงการและให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบฯประจำปีให้ รฟม.ดำเนินโครงการได้เพียงพอ โดย รฟม.ต้องไปพิจารณาว่าจะปรับปรุงแบบก่อสร้างเพื่อลดต้นทุนได้อีกหรือไม่

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีระยะทาง 21.2 กม. แบ่งเป็นโครงการใต้ดิน 12.2 กม. ทางยกระดับ 9 กม. มี 17 สถานี เป็นสถานีใต้ดิน 10 สถานี สถานียกระดับ 7 สถานี และอาคารจอดแล้วจร 1 แห่งนั้น นายกรัฐมนตรี เห็นว่าควรให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่สองข้างทางด้วย หากเห็นว่ามีพื้นที่ตรงไหนสามารถพัฒนาเป็นอาคารจอดแล้วจรได้อีกก็ก่อสร้างเพิ่มเติมได้ ส่วนการเชื่อมต่อส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ให้บริการในปัจจุบัน จากสถานีบางซื่อไปสถานีเตาปูน ระยะทาง 1 กม. เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่จะเปิดให้บริการ ส.ค.นี้นั้น ครม. ยังไม่เห็นด้วยที่เสนอให้จ้าง บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เดินรถ 2 ปี เพราะต้องการให้จ้างเดินรถเท่าอายุสัมปทานรถไฟฟ้าใต้ดินคือสิ้นสุดปี 72 จึงให้กลับไปพิจารณารายละเอียดมาใหม่.

Mongwin · Posted: 22/04/2016 3:06 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 25/04/2016 5:30 pm Post subject:

รายงานความก้าวหน้าโครงการรถไฟฟ้าของรัฐ
https://www.youtube.com/watch?v=2W_JNInGMg0&feature=youtu.be

Wisarut · Posted: 26/04/2016 2:36 am Post subject:

ความพร้อมในการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมในประเทศไทย
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ23 เมษายน 2559ฃ
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,150 วันที่ 21 – 23 เมษายน พ.ศ. 2559

ระบบตั๋วร่วม คือสิ่งจำเป็นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือระบบขนส่งมวลชนสามารถจ่ายเงินค่าโดยสารโดยใช้ตั๋วใบเดียว ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง รถไฟ และการคมนาคมขนส่งรูปแบบอื่น เช่น ทางพิเศษ รวมทั้งบริการอื่นๆ ของภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งระบบตั๋วร่วมนี้จะช่วยลดเวลา และความยุ่งยากในการใช้เงินสด หรือเหรียญเมื่อต้องใช้บริการเหล่านั้น ซึ่งระบบดังกล่าวได้นำมาใช้ในหลายประเทศทั่วโลก อาทิเช่น Octopus card ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง Suica card ในประเทศญี่ปุ่น Ez-link ในประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น

สำหรับประเทศไทยถือได้ว่าเป็นเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ และเป็นเรื่องของเทคนิคเฉพาะด้าน ที่ยังไม่เคยมีการใช้ ที่ผ่านมาได้มีการศึกษามามากและนานแล้ว จนเป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยว่า เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมีตั๋วร่วมใช้สักที ณ วันนี้ ได้ก้าวมาถึงจุดที่กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่งถ้าพูดถึงความพร้อมในการดำเนินงานระบบตั๋วร่วม อาจกล่าวได้ว่า ทางนโยบาย ทางเทคนิค เสร็จไปเกือบ 100% แล้ว ขาดแต่เรื่องของการบริหารจัดการที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ โดยมีเป้าหมายให้สามารถใช้ตั๋วร่วมได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2559 นี้

สรุปความพร้อมได้ดังนี้ปัจจุบันได้มีการกำหนดนโยบาย เพื่อให้การดำเนินงานระบบตั๋วร่วมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดในภาพรวม โดยให้สามารถใช้งานครอบคลุมระบบขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ สามารถต่อยอดใช้งานไปยังภาคส่วนอื่นนอกเหนือจากภาคขนส่ง สามารถมีผู้ออกบัตรและผู้ร่วมออกบัตรได้หลายราย ภายใต้มาตรฐานเดียว มีความสามารถในการขยายระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางเพื่อรองรับธุรกรรมในอนาคต และ สามารถทำรายการได้อย่างแม่นยำ น่าเชื่อถือและโปร่งใส ภายในเวลาที่กำหนด

โดยได้มีการกำหนดมาตรฐานต่างๆ ของระบบ และมีแบบรายละเอียดของระบบทั้งในส่วนของระบบจัดเก็บรายได้ ระบบจัดการรายได้ และแนวคิดในการเชื่อมต่อระบบ เช่น บัตรโดยสาร การเชื่อมต่อโครงข่าย และการบริหารจัดการข้อมูลในระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง รูปแบบและหน้าที่ของศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง กฎธุรกิจตั๋วร่วม โครงสร้างข้อมูลของตั๋วร่วม คุณสมบัติพื้นฐานของเครื่องอ่าน/เขียนบัตร สำหรับตั๋วร่วม รูปแบบข้อมูลเพื่อการเชื่อมต่อต่างๆ และการกำหนดค่าต่างๆ ที่จะต้องใช้ร่วมกันนอกจากนั้นยังมีการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House: CCH) ที่เป็นหัวใจสำคัญของระบบตั๋วร่วมแล้วเสร็จ ซึ่ง CCH จะทำหน้าที่ในการประมวลผลรายการการทำธุรกรรม บริหารหักบัญชี การจัดสรรรายได้ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานตั๋วร่วมในการชำระค่าเดินทางหรือใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในการใช้บริการจากผู้ให้บริการทั้งภาคขนส่งและนอกภาคขนส่ง และรวมถึงจัดทำรายงานต่างๆ แก่ธนาคารเพื่อให้ธนาคารดำเนินการบริการชำระดุลให้แก่ผู้ให้บริการ

ทั้งนี้ในการใช้ตั๋วร่วมการชำระค่าบริการต่างๆ ผู้ประสงค์ที่จะใช้ตั๋วร่วมในการชำระค่าเดินทางหรือค่าสินค้าและบริการสามารถออกบัตรได้จากผู้ออกบัตร (Issuer and Co-branded Issuer) และผู้ตัวแทนจำหน่ายบัตร (Sale Agents) และสามารถเติมเงินผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งการเติมเงินผ่านตัวแทนเติมเงิน การเติมเงินระบบออนไลน์ และการเติมเงินอัตโนมัติ (Auto-Top up) ซึ่งในส่วนของเติมเงินแบบออนไลน์ และการเติมเงินอัตโนมัติ จะสามารถชำระเงินได้หลายวิธีทั้งการชำระผ่านบัตร credit/debit โดยการหักบัญชีธนาคาร หรือการชำระเงินผ่านระบบการโอนเงินแบบ ANY ID ที่กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ในส่วนของการเติมเงินแบบ Auto Top-up นั้นยังสามารถรองรับการสนับสนุนการให้สวัสดิการจากภาครัฐได้

ประการหนึ่งนั้นยังได้มีการกำหนดตราสัญลักษณ์ และชื่อของตั๋วร่วม เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และเป็นเอกภาพแล้วว่า บัตรแมงมุม โดยปัจจุบันสิ่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ เช่น การทดลอง ทดสอบการใช้ระบบตั๋วร่วมกับระบบขนส่งรูปแบบต่างๆ รวมถึงการนำไปใช้กับนอกภาคขนส่ง การเจรจากับผู้ให้บริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น ระบบรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้า Airport Rail Link เพื่อทำการปรับปรุงระบบที่มีอยู่ให้สามารถรองรับการใช้ระบบตั๋วร่วมได้ ทั้งนี้ในส่วนของระบบใหม่ๆ ที่จะดำเนินการในอนาคต เช่น รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ระบบรถโดยสารประจำทาง ระบบเรือโดยสาร ระบบทางด่วน สามารถนำเอามาตรฐานของระบบตั๋วร่วมที่กำหนดไว้ไปใช้ดำเนินการเพื่อให้สามารถใช้กับระบบตั๋วร่วมได้เลย

โดยการจัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing Company: CTC) ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน (Public Private Partnerships: PPP) ซึ่งได้มีการบรรจุโครงการจัดหาผู้บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วมไว้ในแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2558 – 2562 แล้ว โดยเป็นกิจการที่รัฐส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt-in) ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 โดยดำเนินโครงการตั้งแต่ขั้นตอนการดำเนินโครงการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ)

สำหรับการนำเสนออัตราค่าโดยสารร่วม ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการใช้ระบบตั๋วร่วมนั้น ได้มีการพิจารณาออกกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการระบบตั๋วร่วม หากจำเป็นจะต้องมีกฎหมายเฉพาะมารองรับการดำเนินการในเรื่องนั้นๆ ในส่วนของประชาชน ก็ไม่ต้องมีการเตรียมอะไรมาก ก็แค่เตรียมตัวสำหรับการใช้ตั๋วร่วมเท่านั้นครับ ทั้งนี้รายละเอียดในการใช้งานสนข.จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบเป็นระยะต่อไป

Wisarut · Posted: 28/04/2016 5:54 pm Post subject:

เริ่มทดสอบตั๋วร่วมแมงมุม สิงหาคม 2559 แต่กว่าจะได้ใช้จริงก็ธันวาคม 2559
http://110.170.184.194/bmanews/viewDetail.aspx?ID=85931

Wisarut · Posted: 29/04/2016 12:34 pm Post subject:

อัพเดต!!! รถไฟฟ้า 10 สาย ได้ใช้เมื่อไหร่ ?
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 29 เมษายน 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,152 วันที่ 28 – 30 เมษายน พ.ศ. 2559

คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออก( ศูนย์วัฒนธรรม-สุวินทวงศ์) มูลค่าโครงการ 8.2 หมื่นล้านบาท เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ( 29 มีนาคม) ครม.ได้อนุมัติโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ ชมพู 5.18 หมื่นล้านบาท และ 5.32 หมื่นล้านบาท ตามลำดับไปแล้ว ทั้ง 3 โครงการ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้(เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) และ สายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-หัวหมาก) รวม 5 โครงการ อยู่ใน “แผนเร่งด่วน” และเปิดให้เอกชนเสนอ ร่วมทุนตามหลัก ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) โดยหวังว่าการเดินหน้า ลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ พ้นจากภาวะซบเซาที่เผชิญอยู่เวลานี้ได้

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง หากไม่มีอะไรคาดเคลื่อนอีก 5 ปีต่อจากนี้ (2559-2563) คนกรุงเทพฯ และจังหวัดข้างเคียง จะมีรถไฟฟ้า ใต้ดิน บนดิน และรถไฟชานเมือง เพิ่มขึ้นอีก 8 สาย เริ่มจาก ไฮไลต์ปีนี้คือ สายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ที่ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยัน สิงหาคม นี้เดินรถแน่ คิวถัดไป คือ สายสีน้ำเงิน ช่วง บางซื่อ-ท่าพระ กับ หัวลำโพง บางแค (ดูตารางประกอบ) ส่วน รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน – บางซื่อ) แม้สร้างเสร็จแล้ว(กำหนดเดิมเดินรถปี2559) แต่เนื่องจากใช้สถานเดียวกับ สายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) จึงต้องรอไปถึงปี 2563 โดยประมาณจึงจะเดินรถเต็มรูปแบบได้

ส่วนโครงการที่ครม.เพิ่งอนุมัติและกำลังเข้าสู่ขั้นตอนเปิดให้เอกชนเข้าร่วมประมูล เช่นโครงการรถไฟสายสีชมพู (ปากเกร็ด-หลักสี่-มีนบุรี-สุวินทวงศ์) เหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง ส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) หรือโครงการที่ อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รับฟังความคิดเห็น ออกแบบ อาทิ สาย เขียวเข้ม (สมุทรปราการ-บางปู) อย่างเร็วที่สุดที่คนกรุงฯจะได้ใช้บริการโครงการรถไฟฟ้าในกลุ่มนี้เชื่อมโยงกันเป็นโครงข่าย คือ ปี 2572 หรือ 13 ปีนับจากนี้ ไม่นานเลย