รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล

[Wisarut]

"ตั๋วร่วม" รถไฟฟ้าเริ่มใช้ปีนี้ ทดสอบ "บัตรแมงมุม" เสร็จ ส.ค. วางเป้าเชื่อม "เมล์-เรือ-ไฮสปีด"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14:00:58 น.


สนข.ยันระบบตั๋วร่วม "บัตรแมงมุม" เสร็จแล้ว ส.ค.นี้ทดสอบสมบูรณ์ พร้อมส่งให้รถไฟฟ้า 4 สายติดตั้งได้ก่อน ทยอยให้บริการปีนี้ เปิดทาง "ไฮสปีดเทรน-รถไฟทางคู่" ใช้ด้วย รอชง ครม.อนุมัติตั้งบริษัทบริหารจัดการ ให้ส่วนลดผู้ถือบัตรเริ่มต้นระยะ 2

นายเผด็จ ประดิษฐเพชร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า การติดตั้งระบบบริหารจัดการรายได้กลาง (เซ็นเตอร์ เคลียริ่งเฮาส์) ระบบตั๋วร่วมหรือบัตรใบเดียวสามารถใช้ได้ทุกระบบ ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ และระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ภายใต้ชื่อ "บัตรแมงมุม" เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างทดสอบระบบคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคมนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้า ทั้งบีทีเอส, เอ็มอาร์ที, แอร์พอร์ตลิงก์ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะเปิดวิ่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ติดตั้งระบบอ่านบัตรหรือรีดเดอร์ ใช้เวลาอีกประมาณ 6-7 เดือน จึงจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ครบทั้งหมด

"ตอนนี้อยู่ระหว่างทดสอบระบบเซ็นเตอร์ เคลียริ่งเฮาส์ จากนั้นจะนำระบบดังกล่าวให้ผู้ประกอบการรถไฟฟ้าทั้ง 4 สาย ไปติดตั้งที่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อให้เครื่องสามารถอ่านบัตรแมงมุมได้ ซึ่งการเปิดให้บริการจะเป็นลักษณะทยอยเปิดตามความพร้อมของรถไฟฟ้าแต่ละสาย แต่รวมระยะเวลาทั้งหมดไม่เกิน 6-7 เดือน ทั้งนี้ รถไฟฟ้าบางสายจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้แน่นอน" นายเผด็จกล่าว และว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายใหม่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและที่จะสร้างในอนาคตจะติดตั้งระบบเพื่อรองรับบัตรแมงมุมด้วย รวมถึงรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) รถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หากติดตั้งเครื่องอ่านบัตรอัตโนมัติตามสถานีต่างๆ ก็สามารถนำระบบตั๋วร่วมไปใช้บริการได้เช่นเดียวกัน รถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) เรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถใช้ได้เช่นกันหากติดตั้งเครื่องอ่านบัตรแล้ว

นายเผด็จกล่าวถึงการจัดตั้งบริษัทบริหารจัดการตั๋วร่วมว่า จะเป็นบริษัทจำกัด โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ เปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน (พีพีพี) เบื้องต้นกำหนดให้รัฐถือหุ้นไม่เกิน 50% เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ เมื่อ ครม.อนุมัติแล้ว จะใช้เวลาดำเนินการตามขั้นตอนพีพีพีประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปี โดยภาครัฐจะเป็นผู้บริหารก่อนจนกว่าจะจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จ

รายงานข่าวแจ้งว่า อัตราค่าโดยสารระบบตั๋วร่วมจะเป็นการให้ส่วนลดในการเข้าใช้บริการระบบที่ 2 เช่น จากรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที จะได้ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ เริ่มตั้งแต่ 20% 30% 40% และ 50% โดยรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนส่วนลดให้ซึ่งขึ้นกับงบประมาณ ส่วนร้านค้าจะเปิดฟรีให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมระบบตั๋วร่วมในการชำระสินค้า

[Wisarut]

บิ๊กรับเหมาลุ้นงานสร้างสายสีส้ม รฟม.เร่ง6สัญญารวม9.2หมื่นล้าน
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,158 วันที่ 19 – 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บิ๊กรับเหมาลุ้นงานสร้างสายสีส้ม รฟม.เร่ง6สัญญารวม9.2หมื่นล้าน

รฟม.เร่ง 6 สัญญาสายสีส้ม ตะวันออก รวมค่ากว่า 9.2 หมื่นล้านทั้งงานเส้นทางใต้ดินและยกระดับให้บิ๊กรับเหมาลุ้นรับงานอีกเพียบ แต่ยังแทงกั๊กงานจัดหารถและบริหารจัดการเดินรถที่เตรียมเสนอครม.ตามพ.ร.บ.ร่วมทุนปี 56 ส่วนสายสีเขียวเหนือ-ใต้ชาวบ้านมีเฮ จับตาสิ้นปีนี้เดินรถเชื่อมสำโรง 1 สถานีของสายสีเขียวใต้(แบริ่ง-สมุทรปราการ) ส่วนสายสีเขียวเหนือ(หมอชิต-คูคต) ยังมีลุ้นเปิดเชื่อม 1 สถานีถึงเซ็นทรัลลาดพร้าวปลายปี 60 หากงานก่อสร้างคืบตามแผน

นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าอยู่ระหว่างการคิดราคากลางแต่ละสัญญาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ซึ่งมีทั้งสัญญาของเส้นทางใต้ดินและสัญญาของเส้นทางยกระดับ ตลอดจนก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง(เดโป้) จำนวนทั้งสิ้น 6 สัญญา ในส่วนสัญญาจัดหารถและบริหารจัดการเดินรถนั้นยังมีระยะเวลาดำเนินการในการนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาตามพ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 จึงยังไม่เร่งดำเนินการในตอนนี้

โดยโครงการนี้มีมูลค่าโครงการรวมจำนวน 92,532 ล้านบาท(รวมค่างานโยธา ค่ากรรมสิทธิ์ และค่าสำรวจที่ดิน) คาดว่าการคิดราคากลางจะแล้วเสร็จสิ้นเดือนพฤษภาคมและจะเร่งประกาศประกวดราคาได้ในเดือนมิถุนายนนี้ โดยสัญญาการก่อสร้างยังดำเนินการจัดประกวดราคาตามปกติ ส่วนการเดินรถจะต้องนำเสนอเข้าสู่พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 ต่อไป

“จำนวน 6 สัญญา/ตอน โดยแบ่งเป็นสัญญาก่อสร้างช่วงเส้นทางใต้ดินจำนวน 3 สัญญา และช่วงยกระดับจำนวน 1 สัญญา สัญญาศูนย์ซ่อมบำรุง(เดโป้) จำนวน 1 สัญญา และงานวางรางอีก 1 สัญญา โดยช่วงแรกนี้จะแบ่งเฉพาะงานโยธาออกเป็น 6 สัญญาก่อน ส่วนงานระบบและจัดหารถต้องรอ ครม.อนุมัติร่วมทุน PPP ก่อนซึ่งยังต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน เลยยังไม่ดำเนินการในช่วงนี้ โครงการนี้ไม่ต้องกังวลผลกระทบจากช่วงตะวันตก(ตลิ่งชัน –ศูนย์วัฒนธรรมฯ)ที่บางจุดยังเคลียร์ปัญหากับประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่แล้วเสร็จ เพราะช่วงตะวันออกนั้นครม.อนุมัติให้ดำเนินการได้แล้วจึงเร่งเดินหน้างานก่อสร้างให้เกิดขึ้นโดยเร็วต่อไป”


ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของรฟม.กล่าวว่า จากกรณีที่อยู่ระหว่างการเร่งรัดก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ นั้นขณะนี้ผลการก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 84.73% กำหนดเปิดให้บริการปี 2563 ดังนั้นภายในเดือนธันวาคมนี้คาดว่าน่าจะสามารถเปิดให้บริการเดินรถเชื่อมโยงไปถึงสถานีสำโรงอีก 1 สถานีเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ซึ่งสถานีสำโรงจัดเป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดแยกของประชาชนที่เดินทางมาจากเส้นทางถนนเทพารักษ์และถนนรถไฟสายเก่ามาสู่จุดแยกนี้จะทำให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น และมีกำหนดเปิดให้บริการครบทุกสถานีในปี 2563

“สำหรับเส้นทางสายสีเขียวเหนือ ส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเริ่มต้นก่อสร้าง มีความคืบหน้าแล้วกว่า 6.36% หากช่วง 5 แยกลาดพร้าวสามารถเร่งดำเนินการได้เร็วกว่าแผน รฟม.ก็มีแผนเปิดให้บริการเดินรถเชื่อม 1 สถานีถึงสถานีหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวในปลายปี 2560 อีกด้วย”

ทั้งนี้รฟม.ยังแจ้งความก้าวหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้า ณ วันที่ 30 เมษายน 2559 พบว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่(เฉพาะงานระบบรถไฟฟ้า คืบหน้าแล้วกว่า 94.15% กำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 6 สิงหาคม 2559 นี้ และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค/บางซื่อ-ท่าพระ กำหนดเปิดให้บริการในปี 2562 ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว 75.93%

[Wisarut]

'บีทีเอส' ลั่น พร้อมเข้าประมูลรถไฟฟ้าทุกเส้น
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 24 พฤษภาคม 2559, 05:30

"บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์" ประกาศพร้อมเข้าประมูลรถไฟฟ้าทุกเส้น ยืนยันฐานะการเงินแกร่งสามารถระดมทุนได้ถึง 2 แสนลบ.


นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวว่า บริษัทมีแผนเข้าประมูลรถไฟฟ้าทุกเส้นที่รัฐบาลจะเปิดประมูล โดยบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งสามารถระดมทุนได้ถึง 2 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินสดเกือบ 2 หมื่นล้านบาท และสามารถกู้สถาบันการเงินได้โดยที่บริษัทไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้ บริษัทจะลงนามในสัญญาบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือและสายสีเขียวใต้ กับทางกรุงเทพธนาคม ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าระยะเวลาการบริหารจะกี่ปีเพราะอยู่ระหว่างการเจรจา

สำหรับการเข้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง คาดว่าจะร่วมกับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ปัจจุบันบริษัทมีการคุยกับ STEC เพียงที่เดียว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอร่าง TOR ของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายออกมา

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน BTS กล่าวว่า บริษัทคาดว่า รายได้งวดปี 60 (เม.ย.59-มี.ค.60) โต 20% จากงวดปีก่อน เนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้โดยสารโต 5-6% โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ย 6 แสนคนต่อวัน ค่าโดยสารเพิ่ม 1.2% และการรับจ้างเดินรถโต 5-6% ขณะที่ธุรกิจมีเดียคาดว่าจะเติบโตมากขึ้น พร้อมคาดจำนวนบัตรแรบบิทจะเพิ่มเป็น 6.3 ล้านใบ จากปัจจุบันที่ 5.1 ล้านใบ สำหรับสัดส่วนรายได้งวดปี 59/60 จะมาจากระบบขนส่ง 40% ธุรกิจสื่อ 40% ธุรกิจบริการ 12% อสังหาฯ 8%

[Wisarut]

เตรียมการใช้บัตรแมงมุม
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=j9DARBnCyGs

[Wisarut]

เปิดตัว"บัตรแมงมุม"ระบบตั๋วร่วมขนส่งมวลชน
ครอบครัวข่าว 3
วันที่ 26 พฤษภาคม 59 เวลา16:01:48น.

ตั๋วร่วม หรือ บัตรแมงมุม ที่ผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้า จะใช้เดินทางเชื่อมต่อในระบบรถไฟฟ้า ภายในปลายปีนี้ ก่อนขยายระบบไปยังรถเมล์และทางด่วน

โดยขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบระบบการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้ให้บริการที่จะใช้ตั๋วร่วม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ก่อนที่จะเปิดให้บริการจริงในปลายปีนี้ นำร่องในระบบรถไฟฟ้า 4 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีแดง หรือ แอร์พอร์ตลิ้งค์, รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT บางซื่อ-หัวลำโพง, สายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้า บีทีเอส

โดยนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรว่า เบื้องต้นได้เตรียมบัตรแมงมุม จำนวน 200,000 ใบ สำหรับแจกให้ประชาชนที่มาลงทะเบียนทดสอบใช้ระบบ เพื่อฟังความคิดเห็นของผู้ใช้บริการจริง โดยจะให้สิทธิ์ผู้ที่เดินทางโดยรถไฟฟ้าเป็นประจำก่อน และในอนาคตจะทยอยเชื่อมต่อการใช้บัตรแมงมุมกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ เช่น รถไฟฟ้าสายใหม่ รถเมล์ เรือโดยสาร ทางด่วน และ ร้านค้า ซึ่งการใช้งานบัตรแมงมุม จะสามารถรองรับการใช้งานผ่านระบบ ANY ID เพื่อเติมเงินในบัตร สำหรับชำระค่าบริการต่าง ๆ รวมทั้งสวัสดิการจากรัฐได้ด้วย

[Wisarut]

คลังพิจารณาแหล่งเงินกู้สร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม
ข่าวเศรษฐกิจ
INN News
วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2559 14:59 น.

รฟม. เผย คลังอยู่ระหว่างพิจารณาหาแหล่งเงินกู้รถไฟฟ้าสายสีส้ม หากข้อสรุปกู้ในประเทศ เล็งชงบอร์ด ก่อนขายซอง มิ.ย.

นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการหาแหล่งเงินกู้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี ระยะทาง 21 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 110,116 ล้านบาท ล่าสุด กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณาทั้งแหล่งเงินกู้ภายในและต่างประเทศ หากได้ข้อสรุปใช้แหล่งเงินกู้ภายในประเทศ ทาง รฟม. จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธานพิจารณาอนุมัติ จากนั้นสามารถเปิดขายซองประกวดราคาภายในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่ความคืบหน้าการพิจารณาของคณะกรรมการตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 เพื่อพิจารณารูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 56,690 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ระยะทาง 29.2 กิโลเมตร วงเงิน 54,644 ล้านบาท นั้น ใกล้เสร็จแล้ว โดยอัยการได้ตรวจสอบร่างสัญญาหลัก ซึ่งต้องแนบไปกับร่างเงื่อนไขการประกาดราคา (ทีโออาร์) หากแล้วเสร็จจะเปิดขายซองได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน โดยเอกชนที่ซื้อซองสามารถยื่นข้อเสนอกลับมา ภายในเดือนกันยายน - ตุลาคมนี้ พร้อมคาดว่าสิ้นปีนี้จะได้เอกชนเข้ามาดำเนินการทั้งสองโครงการ

//-----------------------

รฟม.เปิดขายซองรถไฟฟ้า3สาย โวสิ้น59ได้ตัวผู้รับเหมา ลุยพัฒนาแอร์พอร์ตลิงก์
ไทยโพสต์
6 มิถุนายน พ.ศ.2559 - 00:00

รฟม.เปิดขายซองประกวดราคารถไฟฟ้า 3 สี ชมพู-เหลือง-ส้ม เดือนมิ.ย.นี้ มูลค่ากว่า 2 แสนล้าน มั่นใจสิ้นปีได้ตัวผู้รับเหมา เผยขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแหล่งเงินกู้ ด้าน แอร์พอร์ตลิงก์เดินหน้าปรับปรุงบริการ โละทิ้งรถ เอ็กซ์เพรสไลน์ หันใช้รถธรรมดาแทน หวังรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น

นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ(กลยุทธ์และแผน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ภายในเดือน มิ.ย.59 นี้ จะเปิดขายซองประมูลโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทางมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท ประกอบด้วยสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21 กม. จำนวน 17 สถานี วงเงิน 110,116 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. จำนวน 30 สถานี อยู่ที่ 56,691 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มีระยะทาง 30.4 กม. สถานีรวม 23 แห่ง มูลค่าโครงการ 54,768 ล้านบาท.

"ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแหล่งเงินกู้ว่าจะใช้แหล่งเงินกู้ภายในหรือเงินกู้จากต่างประเทศ หากสรุปได้ว่าเป็นแหล่งเงินกู้ภายในประเทศ ทาง รฟม.จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ รฟม.ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานบอร์ด รฟม.พิจราณาอนุมัติ และจะเปิดขายซองประกวดราคาโครงการดังกล่าว" อนายธีรพันธ์กล่าว

นายธีรพันธ์กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการพิจารณารูปแบบการลงทุน ของคณะกรรมการ ม.35 พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 ใกล้แล้วเสร็จแล้ว รวมถึงขณะนี้ทางอัยการได้ตรวจสอบร่างสัญญาหลัก ซึ่งจะต้องแนบไปกับร่างทีโออาร์ประกวดราคา หากเปิดขายซองภายในเดือน มิ.ย. และเปิดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอกลับมาภายในเดือน ก.ย.- ต.ค.2559 และคาดว่าภายในสิ้นปี 59 นี้ จะสามารถได้เอกชนผู้รับจ้างเข้ามาดำเนินการทั้งสองโครงการ

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ รฟฟท.กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการเดินรถไฟฟ้า และการให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยปรับขบวนรถ ระบบรถไฟฟ้าด่วนพิเศษ หรือ Express line ให้เป็นระบบธรรมดาหรือ City Line เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสาร ที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะแล้วเสร้จในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน มิ.ย.59 นี้

"ขบวนแรกจะเสร็จภายในเดือน ก.ค. และนำออกมาวิ่งให้บริการได้ในช่วง ส.ค. คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้ง 4 ขบวนในเวลา 4 เดือน ส่วนการซ่อมบำรุงใหญ่ตามวาระของระบบขบวนรถไฟฟ้า ที่จะมีขึ้นภายในเดือน ม.ค.61 นั้นต้องใช้ระยะเวลาสำรองอะไหล่จากต่างประเทศประมาร 7-8 เดือน นั้น จะไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการ เพราะ รฟฟท. นอกจากรถที่ให้บริการ 5 ขบวนแล้ว ยังมีรถเสริมอีก 2 ขบวน ในวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ มีขบวนรถให้บริการ 4 ขบวน "นายสุเทพกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือ ร.ฟ.ท.ซ่อมบำรุง โดยได้นำเข้ารถเจียรราง ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถเจียรได้ทั้งรางรถไฟธรรมดาของ ร.ฟ.ท. ที่มีขนาดกว้าง 1 เมตร และรางของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ขนาดความกว้าง 1.435 เมตร ตามมาตรฐานความปลอดภัย และทำให้มีความนุ่มนวลของการวิ่งมากขึ้น เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 2 เดือน พร้อมทั้งยังเตรียมสร้างลิฟต์ บันไดเลื่อน และทางลาดเลื่อนเพิ่มเติมทั้ง 8 สถานี เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้บริการระบบรถไฟฟ้าแก่ผู้โดยสาร.

//------------------------
รฟม.เตรียมแล้ว เปิดขายซองประกวดราคารถไฟฟ้า 3 สี ส้ม ชมพู เหลือง
มติชน
วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2559 เวลา: 13:55 น.

นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาหาแหล่งเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 110,116 ล้านบาท โดยจะพิจารณาทั้งแหล่งเงินกู้ภายในและต่างประเทศ หากได้ข้อสรุปใช้แหล่งเงินกู้ภายในประเทศ ทาง รฟม.จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธานพิจารณาอนุมัติ จากนั้นสามารถเปิดขายซองประกวดราคาภายในเดือนมิถุนายนนี้

สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาของคณะกรรมการตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 เพื่อพิจารณารูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 56,690 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.2 กม. วงเงิน 54,644 ล้านบาทนั้น ใกล้เสร็จแล้ว โดยอัยการได้ตรวจสอบร่างสัญญาหลัก ซึ่งต้องแนบไปกับร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) หากแล้วเสร็จจะเปิดขายซองได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน

“เอกชนที่ซื้อซองประกวดราคาสามารถยื่นข้อเสนอกลับมาภายในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ คาดว่าสิ้นปีนี้จะได้เอกชนเข้ามาดำเนินการทั้งสองโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการ ม.35 ได้ประชุมและพิจารณากำหนดกรอบการลงทุนแล้วหลายครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทุนโครงการ และแนวทางการจ้างเอกชนที่จะมาลงทุน” นายธีรพันธ์กล่าว

//-------------

"รฟม.เตรียมเปิดขายซองประมูลรถไฟฟ้า 3 โครงการ กว่า 2 แสนล้าน
เรื่อง และ ภาพโดย Nation TV
5 มิถุนายน 2559 12:01 น.

รฟม.เตรียมเปิดขายซองประมูลรถไฟฟ้า 3 โครงการ วงเงินกว่า 2 แสนล้านบาทในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนการเปิดทดลองรถไฟฟ้าสายสีม่วง ล่าสุดมีประชาชนสนใจรับบัตรแล้ว 11,800 ใบ จากจำนวน 15,000 ใบ"

[Wisarut]

งานนี้ ซีเมนส์ พูดถึงการเติบโตทั้งรถไฟฟ้า บีทีเอสและรถใต้ดิน
http://www.siemens.com/innovation/en/home/pictures-of-the-future/mobility-and-motors/urban-mobility-public-transport-in-bangkok.html

[Wisarut]

'สมคิด' เดินหน้าลงทุน 5.5 ล้านล้านใน 5ปี
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 08 มิถุนายน 2559, 17:31
"รองนายกฯ" เปิดแผน "สมคิด แฟคเตอร์" ประกาศเดินหน้าลงทุน วงเงิน 5.5 ล้านล้านบาทใน 5 ปี ประเดิมเปิดประมูลรถไฟ 3 เส้นทางเดือน มิ.ย. นี้


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ “อนาคตประเทศไทยกับทศวรรษใหม่แห่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน” ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีขึ้นหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน แม้ว่าจีดีพีจะไม่โตแบบก้าวกระโดด โดยช่วงเดือนที่ผ่านมามีข่าวดีตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจหรือจีดีพี ไตรมาส 1/2559 ที่ออกมาโตร้อยละ 3.2 แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ดังนั้น เราต้องพึ่งตัวเอง ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ เพราะช่วงปีนี้เป็นปีที่สำคัญมาก

อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายทั้งหมดเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบ "สมคิด แฟคเตอร์" ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐและเอกชนเร่งลงทุนทั้งระบบ จะเริ่มดำเนินการอย่างเข้มข้นตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จากการเปิดประมูลโครงการรถไฟ 3 เส้นทางเดือนมิถุนายนนี้ ได้แก่ สายสีชมพู แคราย – มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 53,490 ล้านบาท สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 51,810 ล้านบาท และสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร วงเงิน 82,907 ล้านบาท ซึ่งวันที่ 10 มิถุนายน จะเดินทางร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้า

นอกจากนี้ รัฐบาลวางโครงการระยะ 5 ปี ทั้งการลงทุนระบบดิจิตอล จากวงเงินทั้งหมด 500,000 ล้านบาท แต่จะมีการเบิกจ่ายลงทุนปีนี้ 15,000 ล้านบาท , โครงการพลังงาน วงเงิน 2.5 ล้านล้านบาท และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีก 2.5 ล้านล้านบาท รวมแล้ว 5.5 ล้านล้านบาท เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ ดังนั้น หวังว่าเอกชนจะกล้าลงทุนตามภาครัฐ เพราะปีนี้รัฐบาลมีมาตรการลดหย่อนภาษีให้ 2 เท่าสำหรับเอกชนที่ลงทุนปีนี้เท่านั้นและอัตราดอกเบี้ยต่ำมากเอื้อต่อการลงทุน ทั้งหมดนี้หากดำเนินการร่วมกันเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้

[Wisarut]

ชงครม.เคาะ3เมกะโปรเจ็กต์ รถไฟทางคู่-แอร์พอร์ตลิงค์ ยันไฮสปีดเทรนยังไม่สรุป
ไทยโพสต์
วันที่ 08 มิถุนายน 2559,- 00:00

“อาคม” เตรียมชง ครม.พิจารณาอนุมัติสร้าง 3 เมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า-ทางคู่-แอร์พอร์ตลิงค์ มูลค่าเฉียดแสนล้านในเดือน ก.ค.นี้ พร้อมแจงข้อกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ยันตัวเลขลงทุนไฮสปีดเทรนไทย-ญี่ปุ่นยังไม่ชัดเจน เพียงแค่การศึกษาขั้นกลางเท่านั้น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายในเดือน ก.ค.2559 นี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมจะเสนอโครงการก่อสร้างระบบราง 3 เส้นทางให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาวงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ถนนจิระ วงเงิน 2.96 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็น เพื่อเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะสรุปและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา จากนั้นจะเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างได้ และจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในสิ้นปี 2559 นี้

นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง บางซื่อ-หัวหมาก วงเงินรวม 3.8 หมื่นล้านบาท และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ส่วนต่อขยายช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง วงเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางจำเป็นที่จะต้องเสนอ ครม.พิจารณาพร้อมกัน เพราะเป็นรูปแบบที่ต้องใช้แนวเส้นทางบางช่วงร่วมกัน ดังนั้นการก่อสร้างจึงต้องดำเนินการไปพร้อมกัน

นายอาคมกล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มีวงเงินสูงกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วว่า ตัวเลขที่ญี่ปุ่นเสนอมา 5.3 แสนล้านบาทนั้น ยังไม่แน่นอน ขณะนี้ทางทีมงานของญี่ปุ่นอยู่ระหว่างทำตัวเลขอยู่ ส่วนกรณีที่ระบุเงินค่าก่อสร้างต่อระยะทางแพงกว่านั้น ก็ต้องเปรียบเทียบกันดูว่า ใช้แนวเส้นทางเดียวกันหรือไม่ และเทคนิคเดียวกันหรือไม่ รวมถึงรายละเอียดของโครงการยืนยันว่าขณะนี้ยังต้องรอผลการศึกษา และที่ญี่ปุ่นส่งมานั้นเป็นเพียงการศึกษาขั้นกลางเท่านั้น โดยเบื้องต้นที่พิจารณากันไว้ จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น คือ ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ แต่หากต้องการให้เกิดเร็วก็อาจจะก่อสร้างจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองที่อยู่ระหว่างกลางก่อนจะถึงพิษณุโลก ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะเลือกเมืองใดเมืองหนึ่ง

“ตอนนี้ตัวเลขยังไม่แน่นอน เพราะอยู่ระหว่างการศึกษาเบื้องต้นของทางญี่ปุ่น ส่วนจะชัดเจนเมื่อไหร่ก็ต้องให้เขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฝ่ายเทคนิคของเราก่อน ก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง โดยทั้งปีนี้จะเป็นเรื่องของการศึกษาเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นของการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาก็พูดมาตลอดว่า ในเดือน มิ.ย.59 นี้ จะเป็นการรายงานผลการศึกษาขั้นกลาง ดังนั้นทางญี่ปุ่นจะยังไม่มีเรื่องเม็ดเงินการก่อสร้าง เพราะเป็นขั้นการศึกษาเท่านั้น” นายอาคมกล่าว

สำหรับรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมานั้น ขณะนี้ใกล้ได้ข้อสรุปเรื่องวงเงินการลงทุนร่วมกันแล้ว ยืนยันว่าได้ตัวเลขใกล้เคียงกันมากแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ โดยจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งที่ไทยในช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้ จากนั้นจะเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนได้ ตั้งเป้าหมายจะเริ่มก่อสร้างในเดือนกันยายนนี้.

[Wisarut]

รื้อผังเมืองนนท์บูมรถไฟฟ้า"ม่วง-ชมพู-แดง" แจกโบนัสสร้างตึกสูง500ม.รอบสถานี-ตัดถนนใหม่43สาย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
09 มิถุนายน 2559 เวลา 08:00:38 น.


ยก เครื่องผังเมืองรวมนนทบุรี งัด FAR-OSR คุมการใช้ที่ดิน บูมที่ดินแนวรถไฟฟ้า 3 สาย "ม่วง-ชมพู-แดง" เปิดพัฒนาเต็มที่ 500 เมตรรอบสถานี ยกระดับถนนราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์เป็นย่านที่อยู่อาศัย "บางเลน-บางกร่าง-ไทรม้าใต้" แจ็กพอตพื้นที่สีเขียว ขีดถนนใหม่เพิ่ม 43 สาย รับเมืองขยาย เชื่อมมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจน์-ทวาย ปั้น "อบต.ละหาร" ฮับโลจิสติกส์

แหล่งข่าวจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำผังเมืองรวมนนทบุรี มีพื้นที่ 622 ตร.กม. หรือ 388,939 ไร่ เนื่องจากผังฉบับเดิมหมดอายุตั้งแต่เดือน ต.ค. 2555 จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผังเมืองบังคับใช้ มีแต่ข้อบัญญัติควบคุมการก่อสร้างที่แต่ละเทศบาลออกประกาศให้สอดคล้องกับผังเมืองรวมปี 2548

รื้อผังนนท์รับรถไฟฟ้า-ถนนใหม่

"ร่างผังเมืองใหม่ กำลังปิดประกาศ 15 วัน คาดว่าจะบังคับใช้ในปี"60 เพราะพื้นที่เปลี่ยนไปมากหลังมีรถไฟฟ้าสีม่วงเตาปูน-บางใหญ่ มีถนนใหม่ สะพานข้ามแม่น้ำเกิดขึ้น ต้องมีมาตรการผังเมืองคุมการใช้ที่ดินเพื่อจัดระเบียบเมือง"

สำหรับผังเมืองรวมฉบับใหม่จะนำข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเรื่องFARหรืออัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินและOSRหรืออัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวมเหมือนกับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) เนื่องจากมีรถไฟฟ้า 3 สายพาดผ่านในพื้นที่ คือ สีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) สีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ขณะที่ผังเมืองรวมฉบับเดิมยังไม่มี ดังนั้นการใช้ประโยชน์ที่ดินจะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่มีทั้งคอนโดมิเนียมและศูนย์การค้าขนาดใหญ่เกิดขึ้น



บูม500ม.รอบสถานีสีม่วง-ชมพู

พื้นที่จะเปลี่ยนแปลงอาทิแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงมี 13 สถานี ได้แก่ คลองบางไผ่ ตลาดบางใหญ่ สามแยกบางใหญ่ บางพลู บางรักใหญ่ ท่าอิฐ ไทรม้า สะพานพระนั่งเกล้า แยกนนทบุรี 1 ศรีพรสวรรค์ ศูนย์ราชการนนทบุรี กระทรวงสาธารณสุข และแยกติวานนท์ จากเดิมสีเหลือง ย.1-ย.3 (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) และสีส้ม ย.4-ย.6 (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง) จะปรับเป็นสีน้ำตาล ย.7-ย.8 (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) จะได้สิทธิ์ FAR สูงสุด 7.5:1 และ OSR ไม่น้อยกว่า 5%

"พื้นที่รอบสถานี 500 เมตร จะไม่จำกัดความสูงและขนาดพื้นที่อาคาร หากเกินรัศมีนี้ขึ้นอยู่กับขนาดความกว้างของถนน" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ส่วนแนวสายสีชมพูจากแยกแคราย-ถนนประชาชื่นมี 10 สถานี ได้แก่ ศูนย์ราชการนนทบุรี แคราย สนามบินน้ำ สามัคคี ชลประทาน ปากเกร็ด เลี่ยงเมืองปากเกร็ด แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 เมืองทองธานี และศรีรัช ซึ่งพื้นที่จากแคราย-หน้าเมืองทองธานี จะปรับสีเหลืองเป็นสีน้ำตาล และช่วงเมืองทองธานี-คลองประปา ปรับสีเหลืองเป็นสีส้ม

"การใช้ที่ดินรอบสถานี 500 เมตร สายสีชมพู เหมือนกับสายสีม่วง แต่ FAR จะน้อยกว่า สูงสุดอยู่ที่ 6:1 และ OSR ไม่น้อยกว่า 6% เพราะถนนติวานนท์แคบกว่ารัตนาธิเบศร์ ระบบรถเป็นโมโนเรล สามารถจุคนได้น้อยกว่า นอกจากนี้มีปรับพื้นที่เทศบาลศาลากลาง อ.บางกรวย จากสีเหลืองเป็นสีส้มรับรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-ตลิ่งชัน"




ชูบางใหญ่ ซับเซ็นเตอร์

ขณะที่พื้นที่อื่นแหล่งข่าวกล่าวว่า มีบริเวณเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ปรับจากเดิมสีส้มและเหลืองเป็นสีน้ำตาลและสีแดง มองว่าเมื่อมีรถไฟฟ้าอาจจะมีการพัฒนาพาณิชยกรรมตามมาในอนาคต เช่นเดียวกับบริเวณเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ปรับจากสีเหลืองและส้มเป็นสีส้มและน้ำตาลให้พัฒนาได้มากขึ้น ส่วนเซ็นทรัลเวสต์เกตและด้านหลังสถานีคลองบางไผ่จะส่งเสริมให้เป็นซับเซ็นเตอร์

นอกจากนี้จะปรับพื้นที่แนวถนนราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์รองรับการพัฒนาและการขยายตัวของเมืองจะเปลี่ยนจากพื้นที่สีเขียว(ที่ดินชนบทและเกษตรกรรม)และสีเหลือง เป็นสีเหลืองและส้ม เช่น ช่วงเชื่อมต่อห้าแยกปากเกร็ดถึงถนนชัยพฤกษ์ ส่วนบริเวณศรีสมานปรับสีเหลืองเป็นสีส้มเนื่องจากเมืองเริ่มขยายตัว มีศูนย์การค้าโรบินสัน และส่วนราชการ

ดาวน์โซนบางเลน-บางกร่าง

อีกทั้งปรับลดความหนาแน่น (ดาวน์โซน)บริเวณบางเลน บางกร่าง และไทรม้าด้านใต้(คลองอ้อมนนท์) มีสะพานนนทบุรี 1 จากเดิมสีเหลืองเป็นสีเขียว เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรม มีสวนทุเรียน มังคุด กระท้อน เกรงว่าจะสูญหายไป เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเริ่มมีบ้านจัดสรรเข้าไปพัฒนา

จะเพิ่มพื้นที่สีม่วงอ่อน อ.2 (ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมเฉพาะกิจ) บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองขวางอ.ไทรน้อย เพื่อก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะของจังหวัด จากเดิมก่อสร้างไม่ได้ และเพิ่มพื้นที่สีขาวมีกรอบและเส้นทแยงม่วง (ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่เป็นมลพิษต่อชุมชน หรือสิ่งแวดล้อม และคลังสินค้า) เป็นสีใหม่เพิ่มขึ้นมาอยู่บริเวณ อบต.ละหาร จะครอบคลุมพื้นที่ 2 ฝั่งถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าเฟอร์นิเจอร์และคลังสินค้า

"บริเวณนี้มีโรงงานเฟอร์นิเจอร์ 140 โรง คลังสินค้าโลตัสและเซเว่นฯ อนาคตจะกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติสก์ใหม่เชื่อมจากไทยไปทวาย เพราะจะตัดถนนใหม่ไปเชื่อมกับมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี-ทวาย"

ตัด-ขยายถนนใหม่ 43 สาย

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ในส่วนเส้นทางคมนาคมจะปรับปรุงถนนเก่าและตัดถนนใหม่ 43 สาย ให้เชื่อมโยงกันสะดวกขึ้น เช่น ตัดถนนเชื่อมจากแนวเหนือ-ใต้กับถนนพุทธมณฑลสาย 2-3, ถนนเชื่อมถนนนครอินทร์กับถนนบางกรวย-ไทรน้อย ซอย 17 เป็นต้น

"การวางผังเมืองต้องมอง 20 ปี หากปรับเปลี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งผืนสอดคล้องกัน ที่สำคัญต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับผังเมืองจังหวัดอยู่ติดกันทั้ง กทม. ปทุมธานี นครปฐม สำหรับร่างนี้ยังไม่สิ้นสุด อยู่ขั้นรับฟังข้อเสนอแนะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และคณะกรรมการผังเมืองพิจารณาด้วย"

--------------

สาระในผังเมืองรวมนนทบุรีฉบับใหม่ นอกจากปรับสีผังใหม่ในบางพื้นที่ ยังให้มาตรการเพิ่ม FAR ด้วยเพื่อเป็นโบนัสพิเศษสำหรับเจ้าของที่ดินและผู้ประกอบการ ใน 3 กรณี คือ 1.จัดให้มีพื้นที่โล่งเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือสวนสาธารณะในแปลงที่ดินที่ขออนุญาต ให้ FAR เพิ่มอีกไม่เกิน 2 เท่า

2. จัดให้มีที่จอดรถสำหรับคนทั่วไปและช่องจอดสำหรับผู้พิการและสูงอายุ ใน 9 สถานี ได้แก่ ตลาดบางใหญ่ บางพลู บางรักใหญ่ ไทรม้า สะพานพระนั่งเกล้า บางกระสอ ศูนย์ราชการนนทบุรี กระทรวงสาธารณสุข และแยกติวานนท์ จะได้ FAR เพิ่ม 20% มีพื้นที่อาคารรวมที่เพิ่มขึ้นต้องไม่เกิน 30 ตร.ม.ต่อที่จอดรถเพิ่มขึ้น 1 คัน

และ 3.หากถอยร่นแนวอาคาร พร้อมรั้ว กำแพง และสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นห่างจากเขตทาง 2 ฟากถนน 6 สาย คือ ถนนแจ้งวัฒนะ รัตนาธิเบศร์ นครอินทร์ ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ เลี่ยงเมืองปากเกร็ดและเลี่ยงเมืองนนทบุรี-สนามบินน้ำ ในระยะมากกว่า 15 เมตร และจัดให้มีพื้นที่โล่งเพื่อประโยชน์สาธารณะ ให้มี FAR เพิ่มขึ้นไม่เกิน 2 เท่าของพื้นที่โล่ง