RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311287
ทั่วไป:13269424
ทั้งหมด:13580711
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 142, 143, 144 ... 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44611
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/11/2016 6:53 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
"สมคิด"มอบ รฟม.เร่งรัดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพูภายในกลาง ธ.ค.นี้
โดย MGR Online
9 พฤศจิกายน 2559 16:08 น.

"สมคิด" เร่ง รฟม.เซ็นรถไฟฟ้า "ส้ม-ชมพู-เหลือง" ให้จบ ธ.ค.นี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 09 พ.ย. 2559 เวลา 17:25:01 น.

"สมคิด"เร่ง รฟม.เซ็นรถไฟฟ้า"ส้ม-ชมพู-เหลือง"ให้จบ ธ.ค.นี้ ขอบคุณ "บีทีเอส-ช.การช่าง" ขนเงินแสนล้านลงทุนโมโนเรล

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เดินทางมาตรวจเยี่ยมการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งรถไฟฟ้าทุกโครงการมีความคืบหน้าและดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าปีหน้าโครงการใหญ่ๆ ของ รฟม.จะผ่านอนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในไตรมาสแรกปี 2560 ทั้งสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) สีน้ำเงินบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 สีส้มศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน และสีเขียวต่อขยายช่วงคูคต-ลำลูกกา และสมุทรปราการ-บางปู

"หากเส้นทางรถไฟฟ้าของ รฟม.เชื่อมกับเส้นทางรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ก็จะทำให้เห็นภาพการเชื่อมต่อรถไฟในเมืองและระหว่างเมืองนับเป็นประวัติศาสตร์ของไทยที่มีโครงข่ายระบบรางเชื่อมการเดินทางในเมืองและระหว่างเมือง ก็จะสามารถเสนอสิ่งเหล่านี้ให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้ ก็ขอชื่นชมที่ รฟม.มีผลการเบิกจ่ายงบประมาณสูงสุดในรัฐวิสาหกิจอยากให้ รฟม.เร่งเบิกจ่ายในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2560 ให้มากขึ้น" นายสมคิดกล่าวและว่า

สำหรับการยื่นซองเอกสารประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 53,519 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร เงินลงทุน 51,931 ล้านบาท มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท มี 2 ราย คือ บมจ.ทางด่วนรถไฟฟ้ากรุงเทพ และกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)

"ขอบคุณเอกชนที่สนใจลงทุน เพราะเป็นโครงการแรกที่ให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ตามกฎหมายพระราชบัญญัติเอกชนร่วมลงทุนปี 2556 หากทำได้ดีโครงการนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับโครงการอื่นที่รัฐและเอกชนร่วมมือกัน ไม่เกินกลาง ธ.ค.จะประกาศรายชื่อเอกชนที่ได้สัมปทานในส่วนรถไฟฟ้าเส้นถัดไปคือสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีระยะทาง 21.2 กิโลเมตร วงเงิน 85,483 ล้านบาทที่รู้ผลชนะต้นปี 2560"

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มที่ดีอยู่แล้ว มีโครงการใหญ่ขับเคลื่อนตลอด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องมีการร่วมมือกันเพราะเม็ดเงินไม่น้อย หากเศรษฐกิจโลกปีหน้าดีขึ้นก็จะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าของประเทศดีขึ้น แต่การขับเศรษฐกิจต้องเน้นการกระจายกลุ่มจังหวัดด้วย จะต่างจากเมื่อก่อน เน้นการเติบโตภาพใหญ่ด้านการลงทุนและท่องเที่ยวอย่างเดียว ซึ่งรัฐมนตรีคมนาคมก็พร้อมผลักดันทุกโครงการให้เป็นตามแผนอยู่แล้ว

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี กล่าวว่า บีทีเอสลงทุนระบบรางมากว่า 20 ปี เชื่อว่ารถไฟฟ้าเป็นสิ่งเดียวที่แก้ปัญหาจราจรได้ เชื่อมั่นโครงการใหม่ๆ ภายใต้การกำกับของรัฐบาลขุดปัจจุบันจะผลักดันโครงการใหม่ๆ ออกมาอีกมาก

"บริษัทยินดีเข้าร่วมประมูลทุกโครงการในส่วนของสีชมพูกับเหลืองที่ยื่นประมูลดูจากทีโออาร์ไม่ง่ายเลยทีเดียว แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วถ้าบริหารจัดการต้นทุนเรื่องระบบการเดินรถในอนาคตคงจะทำให้มีกำไรได้ ตอนนี้ยังไม่ทราบผลชนะหรือไม่แต่เราทำดีที่สุด" นายคีรีกล่าว

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ บมจ.ทางด่วนรถไฟฟ้ากรุงเทพ กล่าวว่า บริษัทยื่นประมูลรถไฟฟ้าชมพู-เหลือง มีความมั่นใจเพราะศึกษามาเป็นอย่างดี คิดว่าน่าจะมีโอกาส หากชนะพร้อมจัดซื้อดำเนินการทันที

"โครงการใหม่ๆ เชื่อมั่นเป็นโครงการที่มีประโยชน์กับประเทศ และสามารถเดินหน้าทุกโครงการ"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 10/11/2016 2:02 am    Post subject: Reply with quote

“สมคิด” ตีปี๊บปี 60 รถไฟฟ้า 6 สายกระตุ้น ศก. “BTS-BEM” ห่วงส่งมอบพื้นที่ชมพู-เหลืองช้า
โดย MGR Online
9 พฤศจิกายน 2559 19:20 น.

“สมคิด” ตีปี๊บปี 60 รถไฟฟ้า 6 สายกระตุ้น ศก. “BTS-BEM” ห่วงส่งมอบพื้นที่ชมพู-เหลืองช้า

“สมคิด” เร่ง รฟม.ตัดสินผลประมูลรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง วงเงินกว่าแสนล้าน ก่อนกลาง ธ.ค.นี้ พร้อมเชิญบิ๊กบอส “BTS-BEM” ร่วมหารือ หลังยื่นร่วมทุน PPP กับรัฐบาลช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมทำคลอดรถไฟฟ้า 5 สายใน Q1/60 เดินหน้าลงทุนปี 60 เต็มสูบ “ผู้ว่าฯ รฟม.” ยอมรับเอกชนห่วงปัญหาเวนคืน ส่งมอบพื้นที่ช้า กระทบต้นทุนดอกเบี้ยบาน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและติดตามการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า ในปี 2560 รฟม.จะลงทุนรถไฟฟ้าหลายสายโดยจะเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในไตรมาส 1/60 ซึ่ง รฟม.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสูงสุดในปีที่ผ่านมา ดังนั้นต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาส 1 และไตรมาส 2/60 ให้มากที่สุด และหากรวมโครงการรถไฟฟ้าในเมืองของ รฟม.กับรถไฟทางคู่ระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่จะมีการลงทุนในปี 2560 แล้วจะทำให้โครงข่ายรถไฟในเมืองและระหว่างมีความสมบูรณ์ จะถือเป็นการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ที่จะส่งผลต่อการจัดเรตติ้งความสามารถของประเทศไทยด้วย

ทั้งนี้ ได้เชิญบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในนามกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เป็นเอกชน 2 กลุ่มที่ได้ยื่นข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุน (PPP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 53,519.50 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร เงินลงทุน 51,931.15 ล้านบาท เพื่อขอบคุณที่สนใจร่วมลงทุนกับรัฐบาล เพราะเป็น PPP โครงการแรกของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 โดยหากสามารถร่วมไปได้ดีจะถือเป็นตัวอย่างทำให้เกิดความมั่นใจในโครงการต่อๆ ไป

“มีเอกชนยื่นประมูลสายละ 2 ราย ไม่มากนัก จึงได้เร่งรัดให้เร่งพิจารณาคัดเลือกให้ได้ตัวผู้ชนะทั้ง 2 สายก่อนในกลางเดือนธันวาคมนี้ เพราะทั้ง 2 กลุ่มพร้อมลงทุน พร้อมกันนี้ได้ให้ รฟม.ไปลงทุนโครงการรถไฟฟ้าในเมืองใหญ่ในภูมิภาคด้วยซึ่งตั้งแต่ปี 2559 มีโครงการใหญ่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และในปี 2560 เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้น ส่งออกเริ่มดีจะยิ่งเสริม ซึ่งนายกฯ เน้นกระจายงบไปยังจังหวัดภูมิภาค เพื่อช่วยขับเคลื่อนGDP ไม่ใช่เน้นแต่การลงทุนที่ส่วนกลางเท่านั้น” นายสมคิดกล่าว

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ปี 2560 รฟม.มีงบลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 1.6 หมื่นล้านบาท มีการเบิกจ่ายได้ 100% ขณะที่โมโนเรลสีชมพู และเหลือง มีเงินลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท ถือว่าช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากเพราะมีเม็ดเงินลงทุนต่อเนื่อง

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า ในปี 60 มีโครงการรถไฟฟ้ารวม 5 โครงการ ได้แก่ สายสีเขียวใต้ ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 9.2 กม. วงเงิน 9,529.54 ล้านบาท, สายสีเขียวเหนือ ช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 6.5 กม. วงเงิน 9,236.07 ล้านบาท, สายสีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม. วงเงิน 21,120 ล้านบาท, สายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 16.4 กม. วงเงิน 85,288.54 ล้านบาท และสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 131,004.3 ล้านบาท ซึ่งจะปรับแผนเพื่อเร่งดำเนินโครงการได้เร็วขึ้นตามนโยบาย ในขั้นตอนการคัดเลือกประกวดราคา

ส่วนการพิจารณาข้อเสนอของสายสีชมพู และสีเหลือง คณะกรรมการตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 จะพิจารณาซองคุณสมบัติและข้อเสนอทางเทคนิค ใช้เวลา 15 วัน จากนั้นจะเปิดซองข้อเสนอทางการเงินและผลตอบแทน โดยจะมีการเจรจากับผู้เสนอที่ดีที่สุด

โมโนเรลสีชมพู และเหลืองนั้น เอกชนมีความกังวลในเรื่องการส่งมอบพื้นที่ เนื่องจากลงทุน 100% ดังนั้นเมื่อเริ่มงานจะมีดอกเบี้ยทันทีทุกวัน หากโครงการไม่สามารถเสร็จตามกำหนดและไม่สามารถสร้างรายได้ตามแผนจะเกิดภาวะขาดทุนทันที ที่ผ่านมาความล่าช้าของโครงการใหญ่ คือ การเวนคืน และส่งมอบพื้นที่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รฟม.ที่จะต้องเร่งรัด โดยขณะนี้ได้เริ่มทำงานล่วงหน้าแล้วมีการออก พ.ร.ฎ.เวนคืนแล้ว จะทำงานร่วมกับผู้รับจ้างใกล้ชิด หากจุดใดเกิดความล่าช้าจะมีการปรับแผนงานโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบ เพราะเป็นความเสี่ยงของการลงทุน นอกจากนี้จะประสานกับหน่วยงานเรื่องการรื้อย้ายสาธารณูปโภคให้เร็วด้วย

สำหรับสายสีชมพู มีค่าเวนคืน 6,847 ล้านบาท แนวเส้นทางจะต่อจากสายม่วงไปทางติวานนท์ เลี้ยวเข้าถนนแจ้งวัฒนะที่แยกปากเกร็ด ใช้แนวถนนเป็นหลัก เวนคืนหลักๆ ช่วงวงเลี้ยวแยกปากเกร็ด หลักสี่ ช่วงตลาดมีนบุรีเลี้ยวไปรามคำแหง สุวินทวงศ์ เพื่อเข้าศูนย์ซ่อมฯ

ส่วนสายสีเหลือง มีค่าเวนคืน 6,013 ล้านบาท แนวเส้นทางส่วนใหญ่อยู่บนถนนลาดพร้าว จะมีข้อจำกัดพื้นที่เขตทางบริเวณบางกะปิ หน้าเดอะมอลล์ อาจจะรื้อย้ายสะพานของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยจุดเวนคืนสำคัญ คือ ศูนย์ซ่อมที่วัดศรีเอี่ยม พื้นที่ประมาณ 100 กว่าไร่ ปัญหาที่คาดว่าจะเกิด คือ ผู้ถูกเวนคืนไม่ยอมรับราคาซึ่งจะใช้แนวทางค่าชดเชยของสายสีน้ำเงิน หรือเจรจาเพื่อใช้พื้นที่ร่วมกัน แล้วแต่กรณี

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบีทีเอส กรุ๊ป กล่าวว่า บีทีเอสลงทุนรถไฟฟ้ามาตั้งแต่ 20 ปีก่อน เพราะเชื่อว่าประเทศไทยจะก้าวหน้า ต้องลงทุนระบบรางเพื่อแก้ปัญหาจราจร และมั่นใจว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้จะมีโครงการใหม่ๆ ที่เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนอีกมาก สำหรับ BTS มั่นใจในการลงทุนเศรษฐกิจประเทศ พร้อมที่จะร่วมลงทุนในรถไฟฟ้าทุกสายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งการยื่นประมูลสายสีชมพู และสีเหลือง ทีโออาร์นั้นค่อนข้างที่จะลงทุนไม่ง่ายรอพิจารณาลึกๆ เห็นว่าหากสามารถจัดสรรในเรื่องระบบ การเดินรถในอนาคต โคางการคงจะสามารถทำกำไรได้ ซึ่งพิจารณาจาก 2 โครงการ อนาคตมีที่ดิน อีกมากที่จะสามารถพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้เกิดความมั่นใจ อีกทั้งมีผู้ร่วมทุนทั้ง บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง ที่ช่วยสร้างมั่นใจ

นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ราชบุรี โฮลดิ้ง กล่าวว่า บริษัทฯ มองหาโอกาสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งบริษัทมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้า ยืนยันว่าจะร่วมลงทุนโครงการในอนาคตด้วย

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ร่วมงานรับจ้างก่อสร้างเกือบทุกเส้นทางอยู่แล้ว จากการประมูลสายสีชมพู และสีเหลือง ผู้ยื่นทั้งสองกลุ่มไม่ว่าจะใครจะชนะ โครงการสำเร็จตามกำหนด พร้อมคุณภาพที่ดีส่งมอบให้ รฟม.แน่นอน

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานบริษัท BEM และ ช.การช่าง กล่าวว่า ได้ยื่นทั้ง 2 สาย มั่นใจมากเนื่องจากได้ศึกษามาอย่างดีและเตรียมความพร้อมทุกอย่าง น่าจะมีโอกาส และหากได้งานก็พร้อมที่จะลงทุนทันทีเพราะเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ส่วนโครงการใหม่ๆ มั่นใจว่าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศส่วนรวม บริษัทฯ พร้อมเข้าลงทุนในทุกโครงการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 10/11/2016 12:14 pm    Post subject: Reply with quote

"คีรี-ปลิว" บลั๊พชนะศึกชิงรถไฟฟ้าชมพู-เหลือง
เดลินิวส์
พฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2559 เวลา 08.49 น.

สมคิดตรวจเยี่ยมและให้นโยบายการลงทุนโครงการรฟม. เจอช้างชนช้างร่วมต้อนรับ "คีรี-ปลิว” บลั๊พชนะศึกประมูลชิงรถไฟฟ้า2สายสีชมพู-เหลือง


เมื่อวันที่9พ.ย.ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและติดตามการลงทุนโครงการ รฟม.   นายคีรี กาญจนพาสน์  ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี  และนายปลิว ตรีวิศวเวทย์  ประธานกรรมการบริหารบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(บีอีเอ็ม)  ร่วมต้อนรับด้วย  


 นายสมคิด กล่าวว่า   ขณะนี้คณะกรรมการ รฟม. ได้รับซองประมูลโครงการรถไฟฟ้า2 สายสีเหลืองและชมพู มีเอกชนยื่นซอง 2 ราย คือกลุ่มบีทีเอสที่ร่วมกับพันธมิตร3บริษัทและบีอีเอ็ม  ได้ให้นโยบาย ต้องรู้ผลผู้ชนะก่อนกลางเดือนธ.ค.นี้   พร้อมขอให้ รฟม. เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนไตรมาส 1และ 2 ให้มาก จากที่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้สูงสุดกว่ารัฐวิสาหกิจอื่นๆและเดินหน้าหลายโครงการได้ดีตามแผน  โดยไตรมาส1 ปีหน้า รฟม.จะนำแผนโครงการรถไฟฟ้าทุกเส้นผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)  ทำให้การเชื่อมเมืองและระหว่างเมืองสมบูรณ์ นับเป็นการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ของบ้านเรา  จะส่งผลดีต่อการจัดอันดับความสามารถการแข่งขันของประเทศ  อีกทั้งการขับเคลื่อนโครงการใหญ่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย
 
นายพีระยุทธ    สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า   ปีงบประมาณ60รฟม. มีแผนลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าวงเงินรวม 3.6 หมื่นล้านบาท   ใน5 โครงการคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑล สาย 4  ,รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน- ราษฎร์บูรณะ   รถไฟฟ้า สายสีเขียวส่วนต่อขยาย สายเหนือ  คูคต-ลำลูกกา  และ สายใต้ สมุทรปราการ-บางปู   รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยายช่วงศูนย์วัฒนธรรมตลิ่งชัน   และรถไฟฟ้าภูเก็ต    รวมทั้งเตรียมศึกษารายละเอียดระบบขนส่งสาธารณะอีก3เมืองใหญ่เชียงใหม่ ขอนแก่น  และนครราชสีมาด้วย

นายคีรี กล่าวว่า  พร้อมลงทุนรถไฟฟ้าทุกสายทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด   เนื่องจากมั่นใจเศรษฐกิจไทยและบริษัทฯมีประสบการณ์ลงทุนรถไฟฟ้าและระบบรางมา 20 ปี  ขณะเดียวกันมีพันธมิตรแข็งแกร่งทั้งบริษัท    ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ช่วงแคราย - มีนบุรี)และสายสีชมพู (ช่วงแคราย – มีนบุรี)   หากชนะมีเงินลงทุนแน่นอน วันที่ 10พ.ย.นี้จะออกหุ้นกู้วงเงิน 22,000 ล้านบาท  


ได้ยื่นข้อเสนอหากชนะประมูลพร้อมเชื่อมต่อทั้ง2 โครงการกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต    และเชื่อมเข้าเมืองทองธานี  2.8 กม.วงเงิน 3,000 ล้านบาท ส่วนสายสีเหลืองจะแก้ปัญหาไม่ให้เกิดมิสซิ่งลิงค์  เชื่อมจากแยกรัชดา-ลาดพร้าวไปบนถนนรัชดาผ่านหน้าศาลอาญาเชื่อมกับสายสีเขียวแยกรัชโยธิน  2.6 กม.  พร้อมร่วมลงทุนกับบริษัทแสนศิริ  สร้างคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าด้วย   

นายปลิว  กล่าวว่า บริษัทฯ และกลุ่มช.การช่าง มั่นใจว่าจะมีโอกาศที่ชนะการประมูล   ขณะนี้ได้เตรียมแผนการลงทุนและการจัดซื้อจัดจ้างเรียบร้อยแล้ว และถ้ารัฐมีโครงการไหนที่ประกาศเชิญชวนเอกชนก็พร้อมจะประมูลเดินเน้าทุกโครงการเพราะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ  โดยเงินที่ใช้ในการลงทุนรถไฟฟ้าจะมาจากเงินลงทุนบริษัทฯ 30% และเงินกู้ 70%
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 16/11/2016 9:41 am    Post subject: Reply with quote

"สมคิด" จูงเจ้าสัวบีทีเอส-ช.การช่าง จุดพลุลงทุนแสนล้านสายสีชมพู-เหลือง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
15 พฤศจิกายน 2559 เวลา 08:10:00 น.


เหลือเวลาแค่ไม่กี่วัน จะหมดปี 2559 แต่งานประมูลโครงการใหญ่เครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจของ "รัฐบาล คสช." ยังไม่ทะลุเป้า

จึงไม่แปลกที่ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรีคุมเศรษฐกิจ จะบุก "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งนี้ไม่เพียงมาชม รฟม.ที่เบิกจ่ายงบฯลงทุนปี 2559 เข้าเป้า 1.6 หมื่นล้านบาท และเร่งให้เบิกจ่ายงบฯลงทุนปี 2560 กองอยู่บนหน้าตักกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ให้เสร็จในไตรมาส 2

ยังเกาะติดผลประมูลรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) กับสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 1 แสนล้านบาท หลังมีเอกชนตบเท้ายื่นประมูล 2 ราย คือ กิจการร่วมค้า BSR เป็นการจับมือกันระหว่าง "บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์-บมจ.ซิโน-ไทยฯ-บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง" และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ในเครือยักษ์รับเหมา บมจ.ช.การช่าง

ที่ไม่อยู่ในสคริปต์ตรวจงาน "รองนายกฯสมคิด" สั่งให้เชิญ 2 เจ้าสัวรถไฟฟ้า "คีรี กาญจนพาสน์" จากบีทีเอส กับ "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" จากรถไฟฟ้าใต้ดิน พร้อมพันธมิตรที่ร่วมชิงชัยโมโนเรล เปิดโต๊ะแถลงข่าวโชว์ผลงานชิ้นแรกที่สามารถดึงเอกชนมาลงทุน PPP ซึ่งเป็นนโยบาย "รัฐบาล คสช." ได้สำเร็จเป็นโปรเจ็กต์แรก พร้อมหยอดคำหวาน หากทุกอย่างไปได้ดี จะเป็นตัวอย่างให้โครงการอื่น ๆ ต่อไป



"ทุกโครงการของ รฟม.ทำผลงานได้ตามแผน ปีหน้ารถไฟฟ้าที่เหลือจะผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในไตรมาสแรก หากรวมกับรถไฟทางคู่ของการรถไฟฯ ทำให้ภาพเศรษฐกิจปีหน้าดียิ่งขึ้นจากปีนี้ที่ดีอยู่แล้ว โครงการใหญ่ที่ขับเคลื่อนไม่ใช่ง่าย ๆ เม็ดเงินก็ไม่ใช่น้อย ๆ แต่ก็ใกล้คลอดทีละโครงการ เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้โครงข่ายระบบรางเชื่อมในเมืองและระหว่างเมืองของประเทศสมบูรณ์แบบ ยกระดับขีดความสามารถของประเทศให้มีเรตติ้งดีขึ้น" นายสมคิดกล่าว

"วันนี้เป็นวันพิเศษ เพราะมีเอกชน 2 รายยื่นประมูลสีชมพูกับสีเหลือง ขอบคุณที่เอกชนสนใจเข้ามาร่วมกับรัฐ นับเป็น PPP โครงการแรก ที่เป็นนโยบายรัฐบาล และทำตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนปี′56 ถ้าทำได้ดีจะเป็นตัวอย่างและสร้างความมั่นใจในการทำงานระหว่างรัฐและเอกชน ผมรอมานาน ใกล้ทำคลอดแล้ว ให้ รฟม.เร่งทำงานวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย ไม่เกินกลาง ธ.ค.นี้จะรู้ผู้ชนะ แต่ละสายมีแค่ 2 ราย คงใช้เวลาไม่นาน สายถัดไปสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มีเงินลงทุนกว่า 8 หมื่นล้านบาท"

"พีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล" ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ปี 2560 มีแผนลงทุนรถไฟฟ้า 5 สาย วงเงิน 249,337 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการส่วนต่อขยายของสายสีม่วง สีน้ำเงิน สีเขียว และสีส้ม (ดูตาราง) โดยรองนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้เร่งดำเนินการ ซึ่ง รฟม.จะปรับแผนให้เปิดประมูลก่อสร้างให้เร็วขึ้น เพื่อให้มีการลงทุนต่อเนื่อง

"ข้อเสนอเอกชนลงทุนสายสีชมพูและเหลือง จะเปิดซองคุณสมบัติและเทคนิค 17 พ.ย.นี้ จากนั้นเปิดซองการเงินและผลตอบแทนจะได้ผู้ชนะกลางเดือน ธ.ค.นี้"

ขณะที่ "คีรี กาญจนพาสน์" บอสใหญ่บีทีเอส กล่าวว่า บริษัททำธุรกิจระบบรางมากว่า 20 ปี เชื่อว่ารถไฟฟ้าเป็นสิ่งเดียวที่แก้ปัญหาจราจรได้ ยังเชื่อมั่นรัฐจะมีโครงการลงทุนใหม่อีกมาก พร้อมจะเข้าร่วมทุกโครงการ เพราะเชี่ยวชาญการเดินรถไฟฟ้าและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสีชมพูกับสีเหลืองหากบริหารจัดการดี ๆ และพัฒนาอสังหาฯมาต่อยอดจะทำให้คุ้มทุนได้ ตอนนี้ยังไม่รู้ผลชนะ แต่บริษัททำดีที่สุดและมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งเข้ามาช่วยด้านก่อสร้างและระบบไฟฟ้า

ด้าน "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" บิ๊ก ช.การช่าง กล่าวว่า กลุ่มบริษัทประกอบด้วยบีอีเอ็ม และ ช.การช่าง ยื่นประมูลทั้งสีชมพูและเหลือง มั่นใจว่ามีโอกาสได้งานเพราะศึกษามาเป็นอย่างดี รวมถึงพร้อมลงทุนรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ที่รัฐจะเปิดประมูลทุกโครงการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 16/11/2016 9:42 am    Post subject: Reply with quote

เร่งร่างกม.ตั๋วร่วมรองรับ “บัตรแมงมุม” BTS-BEM ขอ 8 เดือนปรับปรุงระบบ
โดย MGR Online
16 พฤศจิกายน 2559 08:30 น.


“คมนาคม”เร่งร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ บังคับใช้ให้ทันแผนนำร่อง “บัตรแมงมุม” มิ.ย. 60 ใช้ได้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส-สีน้ำเงิน-สีม่วง -แอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมชงครม.พ.ย.นี้ อนุมัติแผนรวมตั๋วร่วม เพื่อเริ่มต้น เจรจาเอกชน ปรับปรุงระบบให้ทันใน 8 เดือน ยอมรับลดค่าแรกเข้าคุยอีกยาวเหตุกระทบสัญญาสัมปทาน จ่อเปิดช่องในพ.ร.บ.ให้รัฐสามารถอุดหนุนได้เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.ศ... ว่า พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ จะกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯกำหนดอัตราค่าโดยสาร โดยจะมีรมว.คมนาคมเป็นประธาน ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธาน และมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ เช่น สำนักงานกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมการขนส่งทางบกและ ผู้ประกอบการ ซึ่งพ.ร.บ.ดังกล่าวจะว่าด้วยเรื่องอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำหนดอัตราค่าโดยสารตั๋วร่วมในการเดินทางข้ามระบบ รายละเอียดในการกำหนดอัตราโครงสร้างตั๋วร่วม และ บทบาทของผู้ประกอบการ สุดท้ายจะเป็นบทลงโทษ ซึ่งจะต้องกลั่นกรอง ไม่ให้ขัดกับค่าโดยสารของพ.ร.บ.อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยตามแผน จะใช้เวลาในการร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ 2-4 เดือน คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาได้ในเดือนมี.ค. 2560 จากนั้นจะเสนอไปกฤษฎีกาและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระยะเวลาบังคับใช้ สอดคล้องกับเป้าหมายการเริ่มใช้ระบบตั๋วร่วมในเดือนมิ.ย. 2560 นอกจากนี้จะต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (CTC) ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน ( PPP) คู่ขนานด้วย

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า ขณะนี้ สนข.ได้จัดทำแผนงานและโครงสร้างในการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมเสนอกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยอยู่ระหว่างปรับปรุงถ้อยคำให้มีความกระชับมากขึ้น คาดว่าจะเสนอครม.ได้ในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งในระยะเริ่มต้น สนข. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และธนาคารกรุงไทย (KTB) จะทำหน้าที่บริหาร Clearing House โดยเจรจากับ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า 4 ระบบหลัก ที่จะเริ่มนำร่องในการใช้ระบบตั๋วร่วม “บัตรแมงมุม” คือ รถไฟฟ้าบีทีเอส (บริษัท BTS) รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง (บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM) รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งจะใช้เวลาปรับปรุงระบบ 2 เดือน ทดสอบ6 เดือน

ในขณะเดียวกัน จะเสนอเรื่อง การร่วมทุนจัดตั้ง CTC ตามขั้นตอนของพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)และคณะกรรมการ PPP ขออนุมัติโครงการ โดยทุนเริ่มต้นในการพัฒนาระบบของภาครัฐ ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนเอกชนผู้ประกอบการ จะต้องปรับปรุงระบบหัวอ่านบัตร และซอฟต์แวร์ของตัวเอง และตีมูลค่าลงทุนเป็นสัดส่วนหุ้นในบริษัท CTC ซึ่งรัฐจะถือหุ้นไม่เกิน 49% เพื่อไม่ให้เป็นหน่วยงานรัฐ และสามารถเพิ่มผู้ถือหุ้นในอนาคตได้ หากมีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากรายขึ้นเช่น เรือโดยสาร รถเมล์ ทางด่วน โดยมูลค่าการลงทุนรวมของบริษัทจะไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เพื่อให้เข้าเงื่อนไขพ.ร.บ.ร่วมทุน 56 ที่จะใช้วิธีการเจรจาแทนประมูลได้

“กรณีถือตั๋วร่วมเดินทางต่อเนื่องข้ามระบบ ในระยะแรกอาจจะยังไม่สามารถลดค่าแรกเข้าได้ เนื่องจากต้องพูดคุยรายละเอียดกับผู้ประกอบการแต่ละรายซึ่งมีสัญญาสัมปทานกำหนดอัตราค่าโดยสารไว้ ดังนั้นต้องมีการกำหนดสูตรที่เป็นธรรมและไม่กระทบต่อสัญญา โดยหลักการระบบตั๋วร่วมต้องลดค่าแรกเข้ากรณีใช้งานข้ามระบบ ดังนั้นในร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วมอาจจะต้องเขียนในกรณีที่รัฐต้องสนับสนุนด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบขนส่งสาธารณะและให้ประชาชนได้รับประโยชน์และใช้ระบบขนส่งในการเดินทางมากที่สุด ทั้งนี้ในช่วงแรกแม้จะยังไม่สามารถลดค่าแรกเข้าได้แต่อาจจะต้องหารือเพื่อจัดทำโปรโมชั่น ลดราคาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง “นายชัยวัฒน์กล่าว

//------------

ใช้ตั๋วแมงมุม'ถูก'มิ.ย.60 เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 4 สาย
เดลินิวส์
พุธที่ 16 พฤศจิกายน 2559 เวลา 10.17 น.
"คมนาคม" ยันเปิดใช้ตั๋วแมงมุมมิ.ย.60 เสียค่าแรกเข้าแค่ครั้งเดียว เชื่อมรถไฟฟ้า 4 สาย-ค่าโดยสารถูก


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยหลังประชุมพ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ...ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาจัดทำร่างพ.ร.บ.ฯเพื่อรองรับการให้บริการระบบตั๋วร่วม โดยเฉพาะการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสาร ระหว่างผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะที่จะใช้ตั๋วร่วม หรือที่เรียกว่า "บัตรแมงมุม" เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละราย มีเงื่อนไขสัญญาสัมปทานแตกต่างกัน จึงต้องมีกฎหมายรองรับ ทั้งนี้ได้กำหนดเปิดให้บริการตั๋วแมงมุมเดือนมิ.ย.60  กับรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายก่อน คือ รถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที, รถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์  โดยผู้ให้บริการพร้อมให้ความร่วมมือบริการบัตรแมงมุมและมีส่วนลดค่าแรกเข้าโดยเสียค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวเชื่อมต่อทั้ง 4 ระบบตามนโยบายของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รมว.คมนาคม เพื่อส่งเสริมการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ
 
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดตั้งบริษัทบริหารจัดการตั๋วร่วม หรือ "ซีทีซี" เพื่อบริหารจัดการตั๋วร่วมนั้น นายอาคมให้สนข.ปรับเพิ่มรายละเอียดเล็กน้อยคาดว่าจะนำเสนอใหม่ในเดือน พ.ย.นี้ และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเดือนเดียวกัน  โดยรัฐถือหุ้น 49% เอกชน 51% สนข.ลงเงินพัฒนาระบบไปแล้ว 1 พันล้านบาท จากมูลค่าโครงการไม่เกิน 5 พันล้านบาท  จะเจรจาเอกชนให้เข้ามาร่วมทุนต่อไป  ระหว่างการจัดตั้งบริษัทไม่แล้วเสร็จ สนข.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ธนาคารกรุงไทย จะเป็น 3 หน่วยงานที่ช่วยกันดูแลระบบบริหารจัดการตั๋วร่วมไปก่อน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 17/11/2016 1:46 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.เร่งโครงการรถไฟฟ้าใหม่อีก 5 สาย เตรียมเสนอครม.ใน Q1 ปี 2560
ที่มา นิตยสารบ้านพร้อมอยู่
วันที่บันทึกข้อมูล 10 พฤศจิกายน 2559 10:57:49
วันที่แก้ไข 10 พฤศจิกายน 2559 10:57:49

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังได้ตรวจเยี่ยมและติดตามการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่ารฟม.มีโครงการรถไฟฟ้าใหม่อีก 5 สาย เพื่อขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีภายในไตรมาส 1 ของปี 2560 ได้แก่

1) สายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 9.2 กม. วงเงิน 9,529.54 ล้านบาท,
2) สายสีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 6.5 กม. วงเงิน 9,236.07 ล้านบาท,
3) สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม. วงเงิน 21,120 ล้านบาท,
4) สายสีส้ม (ส่วนตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 16.4 กม. วงเงิน 85,288.54 ล้านบาท และ
5) สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 131,004.3 ล้านบาท โดยจะมีการปรับแผนเพื่อเร่งดำเนินโครงการได้เร็วขึ้นตามนโยบายในขั้นตอนการคัดเลือกประกวดราคา

ขณะที่ปี 2560 นั้น รฟม.ได้รับงบประมาณ 36,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ได้รับงบประมาณ 16,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับงบลงทุนจากภาคเอกชนทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูกับสายสีเหลืองสองสายรวมกันกว่า 100,000 ล้านบาท ก็จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และก่อให้เกิดความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากรวมโครงการรถไฟฟ้าที่จะดำเนินของรฟม.และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)แล้ว ในปีหน้าจะได้เห็นเส้นทางเชื่อมโยงทั้งในเมืองและระหว่างเมืองอย่างค่อนข้างสมบูรณ์ ถือเป็นประวัติศาสตร์ของการพัฒนาระบบรางของไทย ซึ่งจะมีผลต่อการจัดเรตติ้งความสามารถของไทยอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าอีก 3 สาย ที่กำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ร่วมลงทุนก็มีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยในส่วนของ

สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 53,519.50 ล้านบาท และ
สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร เงินลงทุน 51,931.15 ล้านบาท

มีเอกชน 2 รายที่ได้ยื่นข้อเสนอร่วมลงมุน (PPP) ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) อันประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนแบบ PPP โครงการแรกของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 และหากสามารถดำเนินไปได้ดีจะถือเป็นตัวอย่างทำให้เกิดความมั่นใจในโครงการต่อๆไป โดยจะเร่งรัดให้มีการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะทั้ง 2 สายก่อนภายในกลางเดือนธันวาคมนี้

ส่วนสายสีส้ม ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการประกวดราคา คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ประมาณไตรมาสแรกของปี 2560 และเริ่มลงมือก่อสร้างได้ประมาณช่วงปลายปีเดียวกัน

ขณะเดียวกัน รฟม.ยังมีแผนที่จะเข้าไปพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในส่วนภูมิภาค ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งปัจจุบันสนข.กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการฯ ทั้งที่ เชียงใหม่, ขอนแก่น, นครราชสีมา และภูเก็ต โดยเส้นทางแรกที่รฟม.จะได้นำแผนฯมาศึกษาออกแบบรายละเอียดในปี 2560 คือ ที่จังหวัดภูเก็ต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 17/11/2016 11:10 am    Post subject: Reply with quote

ลุ้น'บีอีเอ็ม' คว้ารถไฟฟ้าสีชมพูหรือสีเหลือง?
โดย : นงนภัส ปิฏฐปาตี
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2559, 02:30

กรณีการยื่นซองประมูล โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร
วงเงิน 53,490 ล้านบาท และสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1กิโลเมตร วงเงินลงทุน 51,810 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางเป็นรถไฟฟ้าโมโนเรล โดยให้เอกชนร่วมลงทุนรูป PPP แบบ Net Cost พบว่า มีผู้รับเหมา2 ราย ที่ยื่นซองประมูลครั้งนี้ คือ กลุ่มช.การช่างโดยบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ BEM และ กิจการร่วมค้า BSR (BSR Joint Venture) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น(STEC) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง( RATCH)

ขณะที่รฟม. เตรียมเปิดซองที่ 1 ในวันที่ 17 พ.ย. 2559 และทยอยเปิด ซองที่ 2 และ 3 ภายใน 3 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ประมาณเดือนเม.ย. 2560

จากการสำรวจความเห็นของโบรกเกอร์พบว่า ให้น้ำหนักกับบริษัท BEM ที่จะมีโอกาสคว้าชัยชนะในครั้งนี้

บล.เอเซียพลัส ประเมินว่า การยื่นซองประมูลครั้งนี้นี้ถือว่าเป็นไปตามที่ฝ่ายคาดว่า ผู้รับเหมารายใหญ่จะจับมือร่วมกับพันธมิตรที่มีความชำนาญ คือ BTS ร่วมกับ STEC (และ RATCH) ส่วน BEM มี CK เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อีกทั้งเป็นแบบ PPP Net Cost ที่ต้องมีความพร้อมในเรื่องฐานเงินทุน ซึ่งฝ่ายวิจัยแนะนำ ช.การช่าง เนื่องจากมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งสุด

บล.ทิสโก้ประเมินว่า BEM มีโอกาสชนะสายสีชมพูและสายสีเหลือง โดยฝ่ายวิจัยมองว่า BEM มีโอกาสการเติบโตจากโครงการภาครัฐ โดย BEM ได้ยื่นซองเข้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ซึ่งทั้งสองเส้นทางมีสัมปทานอายุ 30 ปีและมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 2 รายเท่านั้น ซึ่'มองว่า BEM มีโอกาสที่จะชนะการประมูลหนึ่งเส้นทาง ซึ่งทางรัฐบาลได้เร่งรัดให้ รฟม. ประมูลและทราบผลในเดือนธันวาคมนี้ ในขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายมีความล่าช้าในการเจรจา โดยล่าสุดได้มีการต่อระยะเวลาการเจรจาไปอีก 30 วัน โดยมองว่าทั้ง 2 โครงการน่าจะได้ทราบข้อสรุปภายในปีนี้ และด้วยศักยภาพการเติบโตของ BEM จากสัญญาสัมปทานที่มีอยู่เดิม และโอกาสการได้รับสัมปทานเส้นทางใหม่

บล.ทรีนีตี้ ประเมินว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และเหลืองมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่ง BEM ได้เข้ายื่นซองเอกสารโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทาง และผลปรากฎว่ามีผู้เข้าร่วมเพียง 2 กลุ่มเท่านั้น คือ BEM และ BTS+STEC+RATCH ส่งผลสนับสนุนความเห็นฝ่ายวิจัยที่ว่า BEM จะชนะการประมูลดังกล่าวอย่างน้อย 1 เส้นทาง และในช่วงปลายปีนี้ ยังมีลุ้นบรรลุข้อตกลงการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็นสัญญาเดียวกัน ซึ่งการบรรลุข้อตกลงในสัญญาดังกล่าวยังเป็นการปลดล็อกเส้นทางเดินรถช่วงสถานีเตาปูน-บางซื่อให้เชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ และคาดจะส่งผลให้มีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เพื่อเดินทางเข้าสู่สายสีน้ำเงินมากขึ้น และการเดินทางจากสายสีม่วงเข้าสู่สายสีน้ำเงินนั้นรัฐบาลจะสนับสนุน 16 บาท/เที่ยวคน/วัน ให้กับ BEM
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 17/11/2016 12:27 pm    Post subject: Reply with quote

รื้อระบบ "สาธารณูปโภค" งานหินรถไฟฟ้าชมพู-เหลือง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา 08:00:58 น.


ในทีโออาร์สร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) กับสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) นอกจากเอกชนที่สนใจจะต้องมีเงินทุนจดทะเบียนที่ชำระเต็มต่อสายไม่น้อยกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทแล้ว

อีกหนึ่งงานหินที่กลายเป็นโจทย์ใหญ่ให้เอกชนว้าวุ่นใจ คือ ภาระต้นทุนที่อาจจะเพิ่มขึ้น หาก "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนด

แม้แต่ "คีรี กาญจนพาสน์" ยังออกปากขอให้ "รฟม." ทำตามสัญญาส่งพื้นที่ก่อสร้างให้จบ 3 ปี 3 เดือน อย่าล่าช้าเหมือนกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ที่ผ่านมา ที่มีปัญหาส่งมอบพื้นที่จนผู้รับเหมาต้องขยายเวลาออกไป เพราะโครงการนี้เอกชนกู้เงินลงทุนเอง ทุกนาทีจึงมีค่า ไม่ใช่งานรับจ้างก่อสร้างเหมือนที่ผ่านมา

"ค่าเวนคืนสายสีชมพู 6,847 ล้านบาท ส่วนสีเหลือง 6,013 ล้านบาท ซึ่งการเวนคืนที่ดินที่ยังไม่มีข้อยุติ ส่วนใหญ่เป็นการใช้พื้นที่ของหน่วยงานราชการ เช่น กรมทางหลวง กรุงเทพมหานคร (กทม.) อาจจะมีติดปัญหากับเจ้าของที่ดินบ้างบางรายในแนวเส้นทาง ซึ่งเอกชนก็ขอให้เร่งตรงนี้" แหล่งข่าวจาก รฟม.กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

เมื่อพลิกดูขอบเขตงานก่อสร้างของ "สายสีชมพู" จะประกอบด้วย งานโครงสร้างทางยกระดับระยะทาง 34.5 กม. สถานี 30 แห่ง ศูนย์ซ่อมบำรุง ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาคารจอดและจร

อีกทั้งยังมีงานปรับย้ายและสร้างทางเชื่อมต่อ (Skywalk) สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีของสายสีม่วง ปรับแนวเส้นทางบริเวณด่วนศรีรัชเพื่อลดการเวนคืน ย้ายสถานีนพรัตนราชธานี ก่อสร้างอาคารชดเชยให้หมวดการทางธัญบุรี 2 บริเวณสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ปรับปรุงให้มีทางเข้าออกเดโป้บนสะพานข้ามคลองสองต้นนุ่นถนนรามคำแหงและถนนร่มเกล้า

ส่วน "สายสีเหลือง" งานก่อสร้างประกอบด้วยงานโครงสร้างยกระดับระยะทาง 30 กม. สถานี 23 แห่ง ศูนย์ซ่อมบำรุง ระบบสาธารณูปโภค อาคารจอดและจร

รวมถึงงานปรับปรุงโครงสร้างสะพานข้ามแยกบางกะปิ ปรับปรุงโครงสร้างสะพานข้ามคลองแสนแสบ ก่อสร้างสะพานข้ามแยกพรีเมียร์ ก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกพัฒนาการ รื้อย้ายและก่อสร้างอาคารและระบบสาธารณูปโภคภายในบริเวณพื้นที่ของแขวงทางหลวงสมุทรปราการ และปรับปรุงระบบระบายน้ำบนถนนศรีนครินทร์บนพื้นที่กรมทางหลวง

ได้แต่หวังว่า อย่าเกิดปัญหาซ้ำรอยสายสีน้ำเงินต่อขยาย "บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค" ที่งานก่อสร้างทับซ้อนกับอุโมงค์ของกทม.จนทำให้การส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ทำให้ผู้รับเหมาต้องขอต่อเวลาไปหลายวัน ส่งผลให้ค่าก่อสร้างบานไปกว่า 1 พันล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 17/11/2016 2:54 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม.เปิดซองข้อเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลืองวันนี้ คาดได้ผู้ชนะก่อนกลางธ.ค.
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
พฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2559 09:52:27 น.
รฟม.ดีเดย์เปิดซองประมูลรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง บ่ายนี้
Money Channel
พฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2559 12.17 น. 17 พ.ย. 59
Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย
"ความคืบหน้าประมูล รถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลือง
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV
17 พฤศจิกายน 2559 14:21 น."



นายธีระพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า วันนี้ รฟม.จะเปิดซองข้อเสนอการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซองที่ 1 คือข้อเสนอด้านคุณสมบัติและเทคนิค ในเวลาประมาณ 13.00 น. ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาข้อเสนอด้านคุณสมบัติและด้านเทคนิค เพราะแต่ละรายได้นำข้อมูลเข้ามามาก

หลังจากนั้น รฟม.จะเปิดซองที่ 2 คือ ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน โดยคาดว่าจะพิจารณาให้ได้ตามกรอบเวลาที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้นโยบายให้เร่งประกาศผู้ชนะ ไม่เกินกลางเดือนธ.ค.นี้ ทั้งนี้หากรายใดเสนอราคาที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าหรือให้รัฐชดเชยน้อยทีสุดก็จะได้รับการคัดเลือกและจะเรียกมาเจรจา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมี 2 กลุ่มเข้ามาประมูลแต่รฟม.จะต้องพิจารณาข้อเสนออย่างละเอียด

อนึ่ง เมื่อวันที่ 7 พ.ย.59 มีเอกชน 2 กลุ่มเข้ายื่นเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนทั้ง 2 โครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ได้แก่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบมจ.ช.การช่าง (CK) และ กลุ่ม BSR Join Venture ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส (BTS) , บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH)

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 53,490 ล้านบาท และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 51,810 ล้านบาท เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) กำหนดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP- Net Cost ซึ่งภาครัฐลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และ เอกชนลงทุนค่างานโยธา ระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า รวมทั้งบริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โดยให้เอกชนร่วมลงทุนรวมเป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน (ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน และระยะเวลาเดินรถ 30 ปี)

https://www.youtube.com/watch?v=QFjSa1BNzfI
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42737
Location: NECTEC

PostPosted: 18/11/2016 12:36 pm    Post subject: Reply with quote

แต้มต่อ "บีทีเอส vs บีอีเอ็ม" มวยคู่เอกชิงโมโนเรลแสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 18 พฤศจิกายน 2559 เวลา 08:15:58 น.


ด้วยเม็ดเงินลงทุนร่วม 1 แสนล้านบาทที่เอกชนต้องควักลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) กับสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จึงไม่เหนือความคาดหมายจะมีเพียงกลุ่มบีเอสอาร์กับ "บีอีเอ็ม-บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ" ในเครือ บมจ.ช.การช่างที่ชิงดำ

"แนวโน้มกลุ่มบีทีเอสจะเป็นผู้ชนะทั้ง 2 สายเพราะเป็นระบบจะมาเชื่อมกับบีทีเอสต่อขยายสายเหนือและใต้ อีกทั้งดูจากการเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้ว แสดงว่าทำการบ้านมาอย่างดีและเอาจริง กล้าได้กล้าเสีย เหมือนกับเมื่อครั้งลงทุน 100% รถไฟฟ้าบีทีเอส ขณะที่กลุ่ม ช.การช่าง ด้วยสไตล์แล้ว จะไม่ค่อยเข้าไปลงทุนหากโครงการนั้นมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะก่อสร้างหรือรับสัมปทานโครงการ ขณะที่การต่อเชื่อมเส้นทางจะไม่ได้ประโยชน์เท่ากับกลุ่มบีทีเอส" แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

"คีรี" รีเทิร์นในรอบ 20 ปี

หากครั้งนี้ "บีทีเอส" ทำสำเร็จเท่ากับ "คีรี กาญจนพาสน์" รีเทิร์นลงทุนรถไฟฟ้าเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 20 ปี หลังเข็ดขยาดกับครั้งแรกแบกหนี้หลายหมื่นล้านบาทที่ใช้ทุ่มบุกเบิกรถไฟลอยฟ้าสายแรกของประเทศไทย

ในแผนปฎิบัติการเที่ยวล่าสุด "คีรี" ปรับสูตรการลงทุนใหม่ จะไม่รับความเสี่ยงเองทั้งหมด เพราะรู้เต็มอกรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายกว่าจะคุ้มทุนต้องใช้เวลาเกิน 10 ปีไปแล้ว จึงดึงพันธมิตรร่วมลงขันเพื่อกระจายความเสี่ยง แยกเป็นบีทีเอส 75% บมจ.ซิโน-ไทยฯรับเหมาใต้ปีก "ตระกูลชาญวีรกูล" 15% ที่เหลือ 10% เป็นของ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งที่แตกไลน์จากธุรกิจพลังงานมาชิมลางธุรกิจรถไฟฟ้า ซึ่งทั้ง 3 บริษัทจะใช้เงินลงทุนรถไฟฟ้า 2 สายประมาณ 1 แสนล้านบาท มาจากการลงขันกัน 2.8 หมื่นล้านบาทจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ ส่วนที่เหลือ 7.2 หมื่นล้านบาทจะมาจากเงินกู้

ควงบีแลนด์ดึงสีชมพูเข้าเมืองทอง

สเต็ปต่อไป "คีรี" จะผนึกกำลังกับพี่ชาย "เสี่ยช้าง-อนันต์ กาญจนพาสน์" เจ้าของแลนด์ลอร์ดและศูนย์แสดงสินค้าเมืองทองธานี ร่วมด้วยช่วยกันดึงรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าไปจอดป้ายในอิมแพ็คอารีน่า ขณะที่สายสีเหลืองจะขยายเส้นทางจากแยกรัชดา-ลาดพร้าวไปบรรจบกับสถานีรัชโยธินเชื่อมกับสายสีเขียวต่อขยาย เป็นออปชั่นเสริมปิดผนึกเป็นซองที่3ที่"คีรี"ให้"รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย"รับไว้พิจารณานอกเหนือจากทีโออาร์ และมีทีท่าว่าจะได้รับการตอบรับ เพราะแนวคิดนี้อยู่ในใจ รฟม.อยู่แล้ว เมื่อเอกชนเสนอจึงพร้อมที่จะสนอง เพราะรัฐไม่ต้องควักเงินสักแดงเดียวแค่เปิดไฟเขียวเท่านั้น

หาก "บีทีเอส" คว้าสายสีชมพู-สีเหลืองไปครอง จะเป็นรถไฟฟ้าสายรองป้อนคนเข้ามาเติมบีทีเอสต่อขยายที่สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ของ "หมอชิต-คูคต" และสถานีสำโรงของช่วง "แบริ่ง-สมุทรปราการ" ซึ่งบีทีเอสรับจ้างเดินรถให้ "กทม.-กรุงเทพมหานคร"

"เราลงทุนรถไฟฟ้ามา 20 ปี ดูจากทีโออาร์ไม่ง่าย ถ้าบริหารจัดการดีจะมีกำไรในอนาคต ซึ่งทั้ง 3 บริษัทมีศักยภาพแข็งแกร่งที่สุด ดึงราชบุรีโฮลดิ้งกับซิโน-ไทยฯเข้ามาร่วม เพื่อเป็นทัพเสริมให้เราแข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อให้มีต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งเราคงจะให้รัฐช่วยอุดหนุนบ้าง ต้น ธ.ค.จะสรุปผลชนะ เพราะรัฐก็เร่งให้จบโดยเร็ว ทั้งนี้มีความกังวลการส่งมอบพื้นที่ เพราะเรากู้เงินมาลงทุน ดอกเบี้ยเดินทุกวัน ขอให้ รฟม.ส่งมอบพื้นที่ในเวลา" นายคีรีกล่าวและว่า

ยึดสีเหลืองเชื่อมสีเขียวรัชโยธิน

ได้ร่วมกับ บมจ.บางกอกแลนด์ (บีแลนด์) ขยายสายสีชมพูเข้าไปเมืองทองธานี เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนอยู่อาศัยและมาเที่ยวงานที่อิมแพ็ค ปัจจุบันเมืองทองธานีกลายเป็นเมืองอยู่อาศัยและศูนย์กลางการแสดงสินค้าและการประชุมของประเทศไทยไปแล้ว เป็นข้อเสนอที่จะลงทุนเพิ่มหากชนะประมูล ถ้าไม่ชนะก็ไม่ทำเพราะไม่คุ้ม

ส่วนสายสีเหลืองขยายอีก 2.6 กม. สร้างเพิ่ม 2 สถานีเชื่อมกับบีทีเอสที่รัชโยธินไม่ใช่ว่า รฟม.คิดไม่รอบคอบ แต่ให้ตอบโจทย์การเดินทางของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่ง รฟม.ก็ให้ความสนใจ เพราะช่วยแก้ไขจราจร

"ต้องเปิดซองที่ 1 และ 2 ให้รู้ผู้ชนะก่อน ถึงจะพิจารณาซองที่ 3 ซึ่งเงินที่จะลงทุนเพิ่มกว่า 6 พันล้านบาท ไม่รวมกับเงินลงทุน 2 สายทางจำนวน 80,000-100,000 ล้านบาท และต้องให้ รฟม.อนุมัติถึงจะดำเนินการได้ หากเราชนะขอให้รัฐพิจารณาซองที่ 3 โดยเร็ว เป็นข้อเสนอที่เราอยากให้โครงข่ายสมบูรณ์ที่สุด"

ผนึกแสนสิริตุนที่ 2 หมื่นล้าน

ขณะเดียวกัน "คีรี" ยังร่วมกับ "แสนสิริ" ตุนที่ดินมูลค่า 2 หมื่นล้านบาทไว้ในมือรอพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า เป็นการต่อยอดธุรกิจในระยะยาว นอกเหนือจากค่าโดยสารและพื้นที่สถานีที่จะได้รับสัมปทาน 30 ปีจาก รฟม.

เป็นความพร้อมเต็มอัตราศึกที่ "บีทีเอส" จัดเต็มทั้งเงินตราและพันธมิตร เพื่อพิชิตรถไฟฟ้าที่รอคอยมานาน

"ปลิว" สู้ไม่ถอย

ด้านความเคลื่อนไหวของ "บีอีเอ็ม" ทาง "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" บอสใหญ่ ถึงสไตล์จะพูดน้อย แต่ย้ำเสียงดังฟังชัด "ทางกลุ่มพร้อมทุกด้าน ทั้งการเงินจะใช้เงินทุน 30% และเงินกู้ 70%"

ส่วนก่อสร้างทาง ช.การช่างเคยสร้างรถไฟฟ้ามาทั้งใต้ดินและบนดิน ขณะที่ บีอีเอ็ม มีประสบการณ์เดินรถไฟฟ้าและบริหารพื้นที่สถานีของรถไฟฟ้าใต้ดินและรับจ้างเดินรถสายสีม่วง (เตาปูน-บางใหญ่) โดยบริษัทยื่นข้อเสนอ 2 ซองคือ ด้านเทคนิค กับราคาและผลตอบแทนที่จะให้รัฐ จะไม่มีข้อเสนอเพิ่มเติมเหมือนบีทีเอส และมั่นใจว่าจะมีโอกาสได้งานทั้ง 2 สายทาง

ออกตัวบลั๊ฟกันขนาดนี้ อีกไม่กี่วัน คงได้รู้กันใครจะกำชัยชนะ แต่ไม่ว่าใครจะถึงเส้นชัย จะกลายเป็นผู้ผูกขาด "ระบบโมโนเรล" ในประเทศไทยโดยอัตโนมัติ!
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 142, 143, 144 ... 278, 279, 280  Next
Page 143 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©