Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179319
ทั้งหมด:13490551
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 164, 165, 166 ... 277, 278, 279  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 28/09/2017 10:34 am    Post subject: Reply with quote

เลื่อนอีกตั๋วร่วม”ม่วง-แอร์พอร์ตลิงก์”ใช้ได้ก.ค.61 ส่วน BTSและMRT ยืดไปก.ย.
เผยแพร่: 28 กันยายน 2560 06:49:00




รฟม.ได้ฤกษ์ลงนาม MOU ตั๋วร่วม 11 ต.ค.นี้ พร้อมปรับแผนเลื่อนใช้ บัตรแมงมุม”สีม่วง-แอร์พอร์ตลิงก์” จากมี.ค. 61 เป็น ก.ค. 61 ส่วน BTSและสีน้ำเงิน ใช้ได้ก.ย. 61 เหตุ ต้องเจรจาธุรกิจและทำข้อตกลงอีกฉบับกับ BEM และ BTS ก่อนลงมือปรับปรุงระบบจริง

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแผนการดำเนินระบบตั๋วร่วมหรือบัตรแมงมุม ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบแนวทางการดำเนินงานเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ซึ่งในระยะแรก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม โดยรฟม.จะมีการลงนามในข้อตกลง (MOU) กับผู้ให้บริการ ซึ่งเริ่มต้นจะลงนาม MOU กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTS และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในวันที่ 11 ต.ค. 2560 และจะมีการปรับปรุงระบบและทดสอบช่วงพ.ย.2560-ส.ค.2561 เพื่อเริ่มใช้งานระบบตั๋วร่วมบนรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือ BTSและสายสีน้ำเงิน (MRT) ในวันที่ 1 ก.ย. 2561

ส่วน รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ในช่วงต.ค.-ธ.ค. 2560 จะจัดสรรงบประมาณ และดำเนินการจัดจ้าง เพื่อดำเนินการปรับปรุงระบบและทดสอบ ในช่วงม.ค.-มิ.ย. 2561 และเปิดใช้ระบบตั๋วร่วมได้ในวันที่ 1 ก.ค. 2561

โดยในช่วงแรก ระบบตั๋วร่วมจะเริ่มใช้กับรถโดยสารประจำทาง ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งล่าสุดจะมีการใช้งานจริงตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับการเลื่อนใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรผู้มีรายได้น้อย) โดย ขสมก.ได้ดำเนินการติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) บนรถ ขสมก. ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ 2,600 คัน ในวันที่ 1 เม.ย. 2561

แหล่งข่าวจาก รฟม.ระบุว่า แผนเดิมสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กำหนดจะใช้งานระบบตั๋วร่วมกับระไฟฟ้าสายสีม่วงและแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ในเดือนมี.ค. 2561 แต่ล่าสุดต้องปรับแผนงานเลื่อนออกไป เนื่องจากมีขั้นตอนที่ รฟม.จะต้องรับช่วงต่อจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) อีกทั้ง MOU นั้นไม่ได้มีผลผูกพันทางธุรกิจ ดังนั้นหลังจากทำ MOUกันแล้ว รฟม.จะต้องเจรจากับ BEM และ BTSในแผนธุรกิจต่างๆ เพื่อกำหนดไว้ในสัญญาข้อตกลงร่วมลงทุน หรือ Service Provider Agreement : SP และลงนามร่วมกันก่อน เอกชนจึงจะเริ่มลงทุนปรับปรุงระบบได้ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน โดยแต่ละรายจะลงทุนไม่น้อยกว่า 140 ล้านบาท และรายละเอียดใน SP ถือเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นก่อนที่จะมีการจัดตั้ง CTC เป็นบริษัทจำกัด ซึ่งจะมีการร่วมทุนกับเอกชนผู้ให้บริการต่อไป

ทั้งนี้รฟม.ได้ตั้งงบประมาณปี2561กว่า 40 ล้านบาท ในการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาความเหมาสมในเรื่องโครงสร้างบริษัทร่วมทุน ระบบการเงิน บุคลากร และการกำหนดสัดส่วนหุ้นของผู้ประกอบการแต่ละรายในบริษัทร่วมทุนฯ รวมถึงช่วยเจรจากับผู้ประกอบการทั้งที่เป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งและนอกระบบขนส่ง(Non-Transit) อีกด้วย

"ยอมรับความล่าช้า เพราะในการดำเนินการเอกชนจะต้องมีความมั่นใจ แค่MOU ไม่มีผลผูกพันทางธุรกิจและไม่ทำให้เอกชนมั่นใจพอที่จะลงทุนเงินว่าร้อยล้านบาทได้ ต้องเจรจารายละเอียดทำสัญญาร่วมลงทุนหรือ SP ด้วย นอกจากนี้ ขั้นตอนภายในของรฟม.เอง จะต้องขออนุมัติบอร์ดซึ่งบอร์ดประชุมเดือนละครั้ง ซึ่งจะต้องเร่งรัดต่อไป โดยขณะนี้ ในส่วนของสีม่วง รฟม.ได้ให้BEM สำรวจแล้วว่าจะต้องปรับปรุงระบบอย่างไร ตามมาตรฐานกลางตั๋วร่วม เพื่อประเมินงบประมาณ ซึ่ง รฟม.จะลงทุนสายสีม่วงเอง"

อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือของรัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการ สำหรับรถเมล์และรถไฟฟ้ารวมกันที่วงเงิน 500 บาทต่อเดือนนั้นค่อนข้างต่ำไปสำหรับการเดินทาง ขณะที่เดิมประเมินวงเงินไว้ที่ 600 บาทต่อเดือน ซึ่งทำให้ไม่จูงใจและการเจรจากับเอกชนในการเข้ามาร่วมลงทุนทำได้ยากขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/10/2017 9:48 am    Post subject: Reply with quote

สนข. หารือบีทีเอส-บีอีเอ็มใช้ตั๋วร่วมรถไฟฟ้าพรุ่งนี้(2ต.ค.)
คมชัดลึก 2 ต.ค. 60

นายเผด็จ ประดิษฐเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สำนักงานนโยบายและแผนการขนและจราจร(สนข.)เผยความคืบหน้าการดำเนินการใช้ตั๋วร่วมรถไฟฟ้าว่า ในวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2560 นี้จะหารือร่วมกับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เพื่อเร่งรัดการติดตั้งระบบในรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วงและ แอร์พอร์ตลิงก์เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อระบบและใช้บริการได้ ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายปี 2561 จะสามารถใช้บริการได้ถือว่าช้ากว่ากำหนดการที่ตั้งไว้ว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2561 เนื่องจากจะต้องใช้เวลาในการปรับปรุงระบบประมาณ 7 เดือน ส่วนปีนี้มีเพียงรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เท่านั้น ที่พร้อมให้บริการ โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/10/2017 9:49 am    Post subject: Reply with quote

ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ : ตรวจแนวรบ "รถไฟฟ้า" กับการสร้างคอนโด (4/4)
2 October 2017

รายการ ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2560 เวลา 16.05-17.00 น. ดำเนินรายการโดย คุณวิลาสินี แวน ฮาเรน และคุณตะวันรุ่ง เตี๋ยประดิษฐ์ สร้างโอกาสทางธุรกิจกับฐานเศรษฐกิจ เจาะลึกประเด็น ตรวจแนวรบ "รถไฟฟ้า" กับการสร้างคอนโด รายละเอียดจะเป็นอย่างไรติดตามได้จากรายการ (ชมคลิป)


https://www.youtube.com/watch?v=ztMNpk4k3kU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/10/2017 12:26 pm    Post subject: Reply with quote

เคลียร์ปมเวนคืน 3 รถไฟฟ้า ปิดทางรับเหมายืดเวลา-ค่าก่อสร้างบาน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 3 ตุลาคม 2560 - 10:10 น.
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต

นับจากวันที่ 16 มิ.ย. 2560 ที่ “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย” ได้เซ็นสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, บมจ.ซิโน-ไทยฯ และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง สร้าง 2 โมโนเรล 88,868 ล้านบาท

แยกเป็นสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 34.5 กม. 45,764 ล้านบาท กับบจ. นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) 30.5 กม. 43,104 ล้านบาท กับ บจ.อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล


จนถึงขณะนี้ผู้รับเหมายังไม่ได้รับการส่งมอบพื้นที่จาก “รฟม.” เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมทางหลวง (ทล.) ขณะที่ “รฟม.” ก็ติดหล่มเวนคืนที่ดิน

ล่าสุด “ครม.-คณะรัฐมนตรี” วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา อนุมัติออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และประกาศเรื่องกำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน 3 เส้นทาง ได้แก่ สีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) 21.2 กม. สีชมพูและสีเหลือง เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน

เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาในเดือน ธ.ค.นี้ และก่อสร้างให้เสร็จตามกำหนด โดย “สีชมพู-สีเหลือง” เปิดปี 2564 และ “สายสีส้ม” ในปี 2566

“ออกประกาศเร่งด่วน เพื่อให้การเวนคืนที่ดินรวดเร็ว เพราะมีที่ดินเอกชนไม่ยอมมาตกลงราคากับ รฟม.ในเวลา 60 วัน ทำให้ส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาช้าและอาจจะกระทบการก่อสร้าง เพราะหากดำเนินการตาม พ.ร.บ.เวนคืนที่ดิน จะใช้เวลา 1-2 ปี กว่าจะแล้วเสร็จ” แหล่งข่าวจาก รฟม.กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ”

แหล่งข่าวกล่าวว่า หากส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ในส่วนของสายสีส้ม ทางผู้รับเหมาสามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้ได้ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างก่อสร้างขั้นต่ำ 0.0025% ต่อวัน ของวงเงินค่าจ้างแต่ละสัญญา

ส่วนสายสีชมพูและสีเหลือง ซึ่งเอกชนลงทุน PPP ทั้งโครงการ ไม่มีค่าปรับกรณีส่งมอบพื้นที่ล่าช้า แต่ รฟม.จะต้องส่งมอบพื้นที่ให้ผู้ร่วมลงทุนดำเนินการก่อสร้างได้ในวันแจ้งเริ่มงาน ซึ่งการเวนคืนต้องอาศัยประกาศการเวนคืนเร่งด่วนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 9 เดือน ซึ่งสายสีเหลืองต้องส่งมอบให้ก่อน 109 แปลง และสีชมพู 193 แปลง

“เอกชนที่รับสัมปทานลงทุนก็กังวลว่า รฟม.จะส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เพราะมีต้นทุนดอกเบี้ยในการกู้เงินมาลงทุน ตามสัญญาต้องสร้างเสร็จ 3 ปี 3 เดือน”

นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เกรงอาจเกิดภาระทางการเงินการคลัง

สำหรับการเวนคืนที่ดิน อยู่ระหว่างสำรวจประเมินราคาอสังหาฯและกำหนดราคา ซึ่งมีแล้วเสร็จบางส่วน โดยสายสีชมพูมีผู้ถูกเวนคืน 434 ราย เป็นที่ดิน 640 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 761 หลัง ค่าเวนคืน 6,847 ล้านบาท มียินยอมทำสัญญา 2 ราย ไม่ยินยอม 44 ราย ในพื้นที่เขตมีนบุรี

สายสีเหลืองมีผู้ถูกเวนคืน 198 ราย เป็นที่ดิน 298 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 284 หลัง ค่าเวนคืน 6,013 ล้านบาท มียินยอมทำสัญญา 25 ราย ไม่ยินยอม 28 ราย พื้นที่เขตประเวศ สวนหลวง และ อ.บางพลี และสายสีส้มมีผู้ถูกเวนคืน 329 ราย เป็นที่ดิน 518 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 412 หลัง วงเงิน 9,625 ล้านบาท จ่ายค่าเวนคืนแล้ว 22 ราย เป็นที่ดิน 27 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 17 หลัง มีผู้ไม่ยอมรับการเวนคืนและกำหนดราคา 188 ราย กระจายในแนวเส้นทาง แต่จุดใหญ่อยู่บริเวณศูนย์วัฒนธรรม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/10/2017 12:35 pm    Post subject: Reply with quote

กคช.เดินหน้าบ้านแนวรถไฟฟ้าเต็มสูบ ล่าสุดเลือกที่ดินชุมชนร่มเกล้าผุดโครงการPUD
MGR Online เผยแพร่: 2 ต.ค. 2560 15:26:00

การเคหะฯ เลือกพื้นที่ชุมชนร่มเกล้า เล็งผุดโครงการขนาดใหญ่ (PUD) ตามนโยบายใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมเร่งศึกษาแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบสถานี และตามแนวรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง หลังจากที่ก่อนหน้า ประกาศเปิดตัว “THE NHA CONDO ประชานิเวศน์ 3” พร้อมกำหนดวันพรีเซล 30 กันยายน - 9 ตุลาคม 2560

นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติดำเนินการตามภารกิจในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และการพัฒนาเมือง ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรหลักด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนและเมือง เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนของสังคมไทย ”โดยจ้างศึกษาแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบสถานีและตามแนวเส้นทางรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง รองรับการพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์กรรมและที่อยู่อาศัย ล่าสุดเลือกพื้นที่ชุมชนร่มเกล้า ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับการจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4)

ทั้งนี้ กคช. มีแนวคิดดำเนินมาตรการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ (Planned Unit Development : PUD) ซึ่งเป็นการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดิน ระบบโครงสร้างมาตรฐาน และการออกแบบอาคารภายในโครงการพัฒนาที่ดินด้วยระเบียบ และ มาตรฐานที่กำหนดขึ้นเป็นพิเศษที่แตกต่างจากแผนผังและข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Zoning) เดิม โดยการกำหนดพื้นที่ควบคุมโครงการพัฒนาขนาดใหญ่นี้จะเปิดโอกาสให้เอกชนสามารถสร้างความหลากหลายของประเภทการใช้ที่ดิน (Mix Land Use) ความหนาแน่นอาคารและการออกแบบพื้นที่ได้โดยไม่ถูกจำกัดโดยข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเชิงเดี่ยวที่ควบคุมที่ดินแปลงนั้นอยู่ ซึ่งประโยชน์ของมาตรการนี้เป็นการสร้างความหลากหลายของการใช้ประโยชน์ที่ดิน สำหรับการเพิ่มพื้นที่โล่งว่างสาธารณะ การส่งเสริมการคมนาคมขนส่งแบบไม่ใช้เครื่องยนต์ฯ

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการประสานงานกับบริษัทที่ปรึกษา (โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด) ของกรุงเทพมหานคร โดยต้องมีความสอดคล้องกับโหมดการเดินทางในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม สีชมพู และการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในระยะที่ 2 ซึ่งจากวิธีการดังกล่าวเป็นการศึกษาเพื่อพิจารณาที่ดินของการเคหะแห่งชาติ ประมาน 630 ไร่ นำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ ประกอบด้วย พื้นที่สีเขียว และสาธารณูปการ รวมทั้ง FAR เพิ่มมากขึ้นโดยจากการศึกษามีวิธีการพัฒนาในหลายรูปแบบ ซึ่งการเคหะแห่งชาติอยู่ระหว่างเลือกรูปแบบที่เหมาะสมและดีที่สุดที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและสังคมทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กคช. เตรียมเปิดให้ประชาชนที่สนใจได้จองโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า (ประชานิเวศน์ 3) THE NHA CONDO ประชานิเวศน์ 3 ในระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 9 ตุลาคม60 ณ สำนักงานใหญ่กคช, และห้างเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ ชั้น 2 ระวหางวันที่ 2 - 12 ตุลาคม 60 ขณะเดียวกัน ก็เปิดให้จองที่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี

สำหรับ THE NHA CONDO ประชานิเวศน์ 3 นั้น เป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภายใต้วงเงินลงทุน 464.402 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 60 โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ภายในโครงการเคหะชุมชน ประชานิเวศน์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสามัคคี (สายสีชมพู) ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ดำเนินการก่อสร้างในรูปแบบอาคารพักอาศัย สูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 556 หน่วย ประกอบด้วย ห้องพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ห้อง 25.5 - 30 ตารางเมตร โดยห้องชุด 25.5 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 799,000 บาท และห้องชุด 30 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 990,000 บาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/10/2017 10:37 am    Post subject: Reply with quote

อิตาเลียนไทยวินรถไฟฟ้าสายสีทอง
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 4 ต.ค. 2560 06:15

กทม.เตรียมมอบหมายกรุงเทพธนาคมจัดจ้าง-กำหนดเวลาสร้าง 2 ปี

รายงานข่าวจากศาลาว่าการ กทม. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง (กรุงธนบุรี-ประชาธิปก) ระยะทาง 2.7 กม. ว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที ซึ่งเป็นวิสาหกิจของ กทม. ได้ประกาศสรรหาผู้รับเหมางานโยธา โครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง สายสีทอง ระยะที่ 1 (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี-สำนักงานเขตคลองสาน) ระยะทาง 1.8 กม. วงเงิน 2,080 ล้านบาท

มีผู้ยื่นข้อเสนอประกวดราคา 3 ราย ได้แก่
1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และ
3.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ บริษัท บมจ.ซิโน-ไทยฯได้ขอสละสิทธิ์ คณะกรรมการประกวดราคาจึงได้เปิดซองเอกสารแสดงคุณสมบัติของผู้เสนองานพบว่า บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ได้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามข้อกำหนดงานจัดจ้างผู้รับเหมางานโยธา โดยจะมีการลงนามสัญญาว่าจ้างภายหลังที่ กทม.มอบหมายให้เคทีเป็นผู้ดำเนินโครงการ ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร กทม.อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด ข้อเสนอต่างๆ ของเคที เกี่ยวกับการบริหารโครงการสายสีทอง โดยที่ กทม.จะไม่สนับสนุนงบประมาณเหมือนกรณีเดินรถประจำทางด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) สายสาทร-ราชพฤกษ์ ก่อนที่ กทม.จะลงนามมอบหมายให้เคทีเป็นผู้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/10/2017 3:54 pm    Post subject: Reply with quote

คกก.ปฏิรูปคณะ5มั่นใจ1พ.ย.ใช้ตั๋วแมงมุมได้
INN News ข่าวการเมือง วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2560 15:44 น.

คกก.ขับเคลื่อนปฏิรูปคณะที่ 5 ตั้งศูนย์บริการจัดการรายได้กลางระบบตั๋วร่วม มั่นใจ 1 พ.ย.ใช้ตั๋วแมงมุมได้ทั้ง บขส.-รถไฟ

ร.ต.หญิงพรชนก อ่ำพันธุ์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ถึงการดำเนินการระบบตั๋วร่วม หรือ บัตรแมงมุม ว่า ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการจัดการรายได้กลาง ที่เชื่อมระหว่างผู้ให้บริการทั้งภาคขนส่ง และ นอกภาคขนส่ง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันที่ 1 พ.ย. 2560 จะสามารถใช้งานตั๋วร่วมได้ในรถประจำทาง บขส. และรถไฟ รวมถึงในส่วนของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รัฐบาลออกให้ด้วย และในเดือนเมษายน 2561 จะเริ่มมีการใช้ระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รถไฟฟ้าสายสีม่วง และประชาชนสามารถซื้อและใช้บริการได้ขั้นต่ำประเภทละ 500 บาท ต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม ในเดือน กรกฎาคม 2561 จะมีการขยายไปยังรถไฟฟ้าสายเขียว และรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน และในอนาคตจะครอบคลุมไปยังรถไฟฟ้าใหม่ๆ การทางพิเศษ และเรือโดยสาร รวมไปถึงการชำระสินค้า และค่าบริการ นอกระบบขนส่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา และทำ MOU ร่วมกับผู้ประกอบการ ส่วนการจัดทำร่าง พระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำ และพิจารณาร่วมกันของคณะกรรมการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนในทุกขั้นตอน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/10/2017 6:26 am    Post subject: Reply with quote

ผ่าศักยภาพ6สถานีร่วมน่าลงทุน
ฐานเศรษฐกิจ 8 October 2017

Click on the image for full size

จากโครงการรถไฟฟ้าหลายเส้นทางที่กำลังก่อสร้างและที่จะเริ่มการก่อสร้างในอนาคต ทำให้เกิดจุดตัดหรือว่าสถานีร่วมที่เป็นสถานีที่มีเส้นทางรถไฟฟ้า 2 เส้นทางขึ้นไปผ่านสถานีนั้น ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าจะทำให้สถานีนั้นๆ มีศักยภาพรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาพื้นที่รอบๆ มากขึ้นในอนาคต ได้แก่

1. สถานีเตาปูน สถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีนํ้าเงิน ในอนาคตเมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยายเปิดให้บริการ อีกทั้งเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เริ่มดำเนินการเป็นรูปธรรม กอปรกับสถานีเตาปูนเป็นสถานีที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีกลางบางซื่อ และเป็นสถานีที่ภาคเอกชนสามารถเข้าไปจับจองที่ดินเพื่อพัฒนาได้แบบอิสระไม่ใช่เช่าระยะยาวแบบในสถานีกลางบางซื่อ จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าพื้นที่รอบๆ สถานีเตาปูนจะน่าสนใจมากกว่าปัจจุบันแน่นอนในอนาคต ปัจจุบันพื้นที่รอบๆ สถานีเตาปูนมีคอนโดมิเนียมเปิดขายทั้งหมดประมาณ 1,641 ยูนิต ขายไปได้แล้วประมาณ 80%

2.สถานีรัชโยธิน อยู่บนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) ช่วงต่อขยายจากสถานีหมอชิตขึ้นไปทางทิศเหนือ เป็นอีกเส้นทางที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการค่อนข้างมาก ดังจะเห็นได้จากการที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากมายในช่วงที่ผ่านมา โดยพื้นที่รอบๆ สถานีรัชโยธินเป็นอีกทำเลที่มีโครงการเปิดขายใหม่ค่อนข้างมาก เนื่องจากสถานีรัชโยธินมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสถานีร่วมระหว่างรถไฟฟ้าสาย
สีเขียว และสายสีเหลืองที่ต่อขยายเส้นทางขึ้นมาจากสถานีรัชดาภิเษก ณ ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมเปิดขายในพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,122 ยูนิตขายไปได้ประมาณ 97% ราคาขายเฉลี่ยของโครงการในพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 85,200 บาทต่อตารางเมตร แต่โครงการที่เปิดขายในปีนี้มีราคาขายค่อนข้างสูงคือมากกว่า 130,000 บาทต่อตารางเมตร เมื่อความชัดเจนของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นรูปธรรมมากขึ้นเชื่อว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่มากขึ้น

3. สถานีบางหว้า สถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีลมกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของที่ดินต่างๆ ในพื้นที่บ้างแล้ว แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน อาจจะเป็นเพราะว่าผู้ประกอบการเลือกที่จะรอเวลาต่อไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินคืบหน้ากว่าปัจจุบัน เพราะว่ากำหนดเปิดให้บริการอยู่ที่ปี 2563 โดยในปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมเปิดขายในพื้นที่อยู่ทั้งหมด 3,656 ยูนิตขายไปได้ประมาณ 91% มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 76,200 บาทต่อตารางเมตร

4. สถานีวงเวียนใหญ่ สถานีที่มีคนใช้บริการค่อนข้างมาก เพราะเป็นสถานีที่คนที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางจากพื้นที่ต่างๆ สามารถมาใช้บริการรถไฟฟ้าได้สะดวกที่สุดอีกสถานีหนึ่ง ส่งผลให้พื้นที่รอบๆ ก่อนหน้านี้หลายปีมีโครงการคอนโด มิเนียมเข้ามาเปิดขายหลายโครงการ แต่ไม่มีโครงการใหม่มาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากโครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้ยังคงเหลือขายอยู่พอสมควร ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่ในพื้นที่ประมาณ 2,720 ยูนิตขายไปได้ประมาณ 90% ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 113,850 บาทต่อตารางเมตรซึ่งค่อนข้างสูงเพราะโครงการส่วนใหญ่สร้างเสร็จแล้วพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งในอนาคตเมื่อความชัดเจนของเส้นทางรถ ไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เป็นรูปธรรมมากขึ้น สถานีวงเวียนใหญ่จะเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 เส้นทางและเป็นสถานีที่คนที่ใช้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้สามารถเปลี่ยนเส้นทางเพื่อเดินทางเข้าเมืองชั้นในเพื่อทำงานได้

5. สถานีหมอชิต-พหลโยธิน 2 สถานีนี้เป็นอีกพื้นที่ที่จะกลายเป็นสถานี
ร่วมในอนาคต เพราะเส้น
ทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) ที่กำลังก่อสร้างเพราะจุดเริ่มต้นที่สถานีหมอชิตเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวปัจจุบัน และยังเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟใต้ดินสถานีจตุจักร รวมไปถึงสถานีรถไฟใต้ดินพหล โยธินในอนาคตเมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเปิดให้บริการ อีกทั้งพื้นที่นี้ยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีกลางบางซื่อที่มีแผนพัฒนาเป็นศูนย์กลาง การเดินทางขนาดใหญ่ของอาเซียนในอนาคตทำให้ความน่าสนใจของพื้นที่นี้มีมาก นอกจากนี้ในพื้นที่รอบๆ บริเวณนี้ยังมีโครงการมิกซ์-ยูสขนาดใหญ่อีก 1-2 โครงการที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่อาจจะยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกหลายปีกว่าจะเป็นรูปธรรมชัดเจน พื้นที่นี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมาระยะหนึ่งแล้วด้วยศักยภาพปัจจุบันของพื้นที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายหลายโครงการรวมแล้วประมาณ 5,524 ยูนิตขายไปได้ประมาณ 81% ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 133,600 บาทต่อตารางเมตร

6. สถานีรัชดาภิเษก สถานีที่จะเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินในอนาคต แม้ว่าเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอาจจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าขนาดเล็กไม่ได้มีขนาดใหญ่แบบเส้นทางรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปัจจุบันแต่ก็ช่วยส่งเสริมให้ศักยภาพของพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางมีมากขึ้นอย่างแน่นอน พื้นที่รอบๆ สถานีรัชดาภิเษกก่อนหน้านี้ก็มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายหลายโครงการและได้รับการตอบรับที่ดีแม้ว่าราคาขายอาจจะสูงกว่าโครง การก่อนหน้านี้ไปพอสมควร โดยคอนโดมิเนียมทั้งหมดในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 2,969 ยูนิตขายไปได้ประมาณ 98% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 122,800 บาทต่อตารางเมตร

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,303 วันที่ 8 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 11/10/2017 2:42 am    Post subject: Reply with quote

BBL-SCB-KTB ปล่อยกู้รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง 6.3 หมื่นลบ.
Money Channel
10 ตุลาคม พ.ศ. 2560 16.46 น.

ธนาคารกรุงเทพ - ธนาคารไทยพาณิชย์ - ธนาคารกรุงไทย ร่วมปล่อยกู้โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง วงเงินรวม 63,360 ล้านบาท

ในวันนี้ (10 ต.ค.)ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกรุงไทย (KTB) ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ ( Credit Facilities Agreement ) รวมมูลค่า 63,360 ล้านบาท ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง กับบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด

สำหรับสัญญาเงินกู้ (Credit Facilities Agreement ) แบ่งเป็น 2 ฉบับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี วงเงิน 31,680 ล้านบาท ระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร รวม 30 สถานี

ส่วนอีกฉบับเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง วงเงิน 31,680 ล้านบาท ระยะทางประมาณ 30.4 กิโลเมตร รวม 23 สถานี

ส่วนเงินกู้จากทั้ง 3 สถาบันการเงิน จะนำไปใช้ในการก่อสร้างสถานี ทางวิ่งยกระดับงานระบบเครื่องกล งานระบบอาณัติสัญญาณ ขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ซึ่งจะทำให้โครงการสามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และบริษัทอีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าทั้งสองสายนี้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โมโนเรล แบบยกระดับ สองสายแรกของประเทศ เป็นโครงการร่วมทุนในลักษณะ PPP Net Cost กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

โดยผู้ร่วมลงทุนประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้ถือหุ้นทั้ง 3 บริษัท จะนำความรู้ความชำนาญในสายงานที่ตนมีร่วมกันดำเนินงานโครงการทั้ง 2 เส้นทางให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ และตามกำหนดการที่ได้ตั้งไว้




แบงก์กรุงเทพปล่อยกู้ 33% ของวงเงินรวม
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารเป็นผู้นำในการจัดหาเงินกู้สนับสนุนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายดังกล่าวโดยมีวงเงินสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) ในรูปแบบการปล่อยกู้ร่วม (Syndicate Loan) รวมทั้งสิ้น 63,360 ล้านบาท ในส่วนนี้ธนาคารกรุงเทพมีส่วนการปล่อยสินเชื่อคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 33% ของวงเงินกู้รวมในโครงการนี้ หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 21,120 ล้านบาท โดยจะทยอยเบิกจ่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560

นายวีระพงศ์ ศุภเศรษฐศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารมั่นใจได้ว่าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองจะสำเร็จตามแผนที่วางไว้ และด้วยความสามารถในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าของกลุ่มบีทีเอส มากว่า 24 ปี ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กลุ่มผู้ร่วมลงทุน และนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการพัฒนาสาธารณูปโภคครั้งสำคัญในระดับประเทศ

นายวศิน ไสยวรรณ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด Multi-Corporate Segment และผู้บริหารสูงสุด Corporate Segment ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้านระบบขนส่งมวลชนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว

อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของการขับเคลื่อนแนวนโยบายการพัฒนาเมืองกระจายสู่พื้นที่รอบนอก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ธนาคารไทยพาณิชย์มีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/10/2017 8:11 am    Post subject: Reply with quote

จัดมาตรการคุ้มภัยแนวรถไฟฟ้า8สาย เตือนฝ่าฝืนสั่งระงับโครงการ
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9813 ข่าวสดรายวัน

ศาลาว่าการกทม. - เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร โดยพล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า สำนักการโยธา (สนย.) ได้ชี้แจงสถานการณ์การก่อสร้างรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้ง 8 สาย ได้แก่

1.สายสีม่วง ก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่คืนแล้ว 2.สายน้ำเงิน 3.สายสีเขียว และ4.สายสีแดง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1.สายสีส้ม 2.สายสีเหลือง 3.สายสีชมพู อยู่ระหว่างการขอพื้นที่ก่อสร้าง และ4.สายสีทอง อยู่ระหว่างการสำรวจสาธารณูปโภค ซึ่งในการขอใช้พื้นที่ถนนสาธารณะในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าจะต้องมีการยื่นข้อมูลเพื่อแสดงให้แก่กทม.ได้รับทราบ อาทิ แบบรายละเอียดแสดงตำแหน่งโครงสร้างสถานี แผนงานก่อสร้าง มาตรการความปลอดภัยจากการก่อสร้าง และรายการทรัพย์สิน

ภายหลังกทม. ได้ส่งมอบพื้นที่ให้ดำเนินการแล้ว กทม.มีสิทธิ์ระงับการก่อสร้างชั่วคราว หากการดำเนินการเข้าข่ายจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายหรือเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ไม่เป็นไปตามแผนงานการจราจรที่กทม. ได้พิจารณาแล้ว

กทม.ได้กำหนดมาตรการแก้ไขข้อร้องเรียนและแนวทางป้องกันอันตราย ดังนี้ กำหนดหลักเกณฑ์ให้ รฟม. ตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกวัน และรายงาน กทม. ทุก 7 วัน สนย. โดย กองแผนงานและประสานสาธารณูปโภค จัดเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าประจำทุกวัน พร้อมแจ้งหน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งเข้าแก้ไขโดยด่วน ภายใน 24 ช.ม.

"หากผู้รับผิดชอบโครงการไม่ดำเนินการแก้ไข กทม. จะสั่งระงับการก่อสร้าง และเข้าดำเนินการเองโดยคิดค่าใช้จ่ายจากหน่วยงานเจ้าของโครงการ แจ้งหน่วยเบสต์ เร่งแก้ไข และเพิ่มช่องทางการแจ้งหรือร้องเรียน เช่น Line@ (ภาคีเครือข่ายดูแลถนน) , ไลน์ กรุ๊ป และเฟซบุ๊ก ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว" พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 164, 165, 166 ... 277, 278, 279  Next
Page 165 of 279

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©