รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล

[Mongwin]

ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง (แยกรัชดา - ลาดพร้าว ถึง แยกรัชโยธิน) ในวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2560 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมจันทร์จรัส ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
https://www.facebook.com/MRTA.PR/photos/a.1409211292628934.1073741828.1409174012632662/1931646617052063

[Wisarut]

จราจรสาหัสแน่! รฟม.แจ้งปิดเบี่ยงถนนรามอินทรา 1ช่อง ตั้งแต่4 ทุ่ม 14 ธ.ค.นี้ สร้างสีชมพู
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 13 ธันวาคม 2560 23:30:00
ทำใจแต่เนิ่นๆ 14 ธ.ค. ดีเดย์ปิดเบี่ยงจราจรหน้าเซ็นทรัลรามอินทรา สร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู
วันที่ 13 ธันวาคม 2560 - 18:53 น.

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจร ถนนรามอินทรา ตลอด24 ชม. เริ่ม 14 ธันวาคม นี้ ตั้งแต่4 ทุ่ม ตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ 1 ช่องทางขวา ชิดเกาะกลาง (ขาออก) มุ่งหน้ามีนบุรี เพื่อเตรียมการสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่าบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อเตรียมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู เช่น การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ การวางตัวกั้นถนน (Barrier) บริเวณเกาะกลางถนน ในแต่ละพื้นที่บนถนนรามอินทรา เป็นต้น

โดยในวันที่ 14 ธันวาคม 2560 เวลา 22.00 น. ทางโครงการฯ จะเริ่มดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรบนถนนรามอินทรา ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ 1 ช่องทางขวา ชิดเกาะกลาง (ขาออก) มุ่งหน้ามีนบุรี และ จะปิดเบี่ยงจราจรเพิ่มอีก 1 ช่องทาง ในเวลา 22.00-04.00 น. เฉพาะวันที่มีการขนย้ายเครื่องจักรเข้าพื้นที่ดำเนินงาน

สำหรับรูปแบบการปิดเบี่ยงจราจร จะทำการปิดเบี่ยงจราจรเป็นช่วง ๆ ระยะทางประมาณ 200 เมตร และเมื่อดำเนินงานในแต่ละช่วงเสร็จสิ้น ทางโครงการฯ จะทำการคืนผิวจราจรดังเดิม จากนั้นจะทำการปิดเบี่ยงจราจรในจุดถัดไปอีก 200 เมตร ดำเนินการเช่นนี้ไปจนแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้การจราจรชะลอตัว ติดขัด และอาจมีเสียงรบกวน โดยระหว่างที่มีการปิดเบี่ยงช่องจราจร ทางโครงการฯ จะติดตั้งป้ายเตือน ป้ายจราจร กรวยยางและสัญญาณไฟ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง ทางโครงการฯ จึงขออภัยในความไม่สะดวกกับประชาชนที่สัญจรในเส้นทางดังกล่าว สําหรับประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดการปิดเบี่ยงจราจร ได้ที่ เบอร์ 02 610 4915 และ 09 8827 5555

//-----------------------------------

เบี่ยงจราจร ถ.รามอินทรา เตรียมก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู คืนนี้ (11 ธ.ค. 60)
11 ธันวาคม 2560 , 20:20น.





น.ส.อรพรรณ สวัสดีผล เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) แจ้งว่าวันที่ 11-12 ธันวาคม 2560 เวลา 22.00-04.00 น. เจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู จะเข้าทำงาน 2 จุด

1) ถ.รามอินทรา ขาเข้า ฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองบังคับการ 8 ปิดจราจร 2 ช่องทางซ้าย เพื่อขนย้ายเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ดำเนินการเข็มทดสอบ

2) ถ.รามอินทรา ขาเข้า ตั้งแต่ซอยรามอินทรา 54 ถึง ซอยรามอินทรา 48/2 ปิดจราจร 2 ช่องทางขวา เพื่อดำเนินการวางตัวกั้นถนน (Barrier) บนเกาะกลางถนน สำหรับเตรียมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค




ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำงานในเวลาดังนี้

วันที่ 11 ธันวาคม 2560 เวลา 22.00-04.00 น. และ วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เวลา 22.00-04.00 น. ส่วนช่วงเวลานอกเหนือจากนี้สามารถใช้ช่องทางจราจรได้ตามปกติ

[Wisarut]

[Wisarut]

รฟม. ลุยศึกษาสร้างต่อขยายสายสีเหลือง แยกรัชดา-รัชโยธิน 2.6 ก.ม. เล็งตั้งตอม่อในสน.พหลโยธิน
วันที่ 15 ธันวาคม 2560 - 14:50 น.


นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยในการประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (PPP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย แยกรัชดา-แยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร ว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโมโนเรล จะเริ่มก่อสร้างช่วงต้นปี 2561 และแล้วเสร็จในปี 2564

ทั้งนี้ รฟม. มีแนวคิดว่าที่จะสร้างส่วนต่อขยายเพิ่ม จากสถานีลาดพร้าวไปตามถนนรัชดาและเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณแยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากขึ้น โดยขณะนี้กำลังศึกษาและออกแบบคาดว่าจะใช้เวลา 6 เดือน จะแล้วเสร็จประมาณ 15 มี.ค. 2561 ไม่รวมเวลาการพิจารณารายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการศึกษาเบื้องต้นส่วนต่อขยายแยกรัชดา-รัชโยธิน เบื้องต้นจะมีทั้งหมด 2 สถานี คือ สถานี YLEX-01 บริเวณหน้าศาลอาญาและมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทร์เกษม และสถานี YLEX-020 บริเวณแยกรัชโยธินวนตำแหน่งสถานีปลายทาง YLEX-02 บริเวณแยกรัชโยธินนั้นผลการศึกษาขณะนี้มี 2 ทางเลือก แนวทางที่ 1 คือ ตั้งตอม่อในสถานีตำรวจพหลโยธินและสร้างทางเดินเชื่อมต่อ (Sky Walk) กับสถานีพหลโยธิน 24 (N10) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คาดว่ามีความเป็นไปได้มากกว่าเพราะไม่ต้องเวนคืน

ส่วนทางเลือกที่ 2 คือพื้นที่บริเวณซอยพหลโยธิน 28 และสร้างทางเดินเชื่อมต่อไปยังสถานีรัชโยธิน (N11) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระยะทางประมาณ 330 เมตร โดยปัจจุบันเป็นพื้นที่ของประชาชนที่ต้องเวนคืนกว่า 1 ไร่
https://www.youtube.com/watch?v=mX29ec1QzPo

[Mongwin]

เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า BTSชี้ถ้ารัฐไม่ช่วย-ค่าโดยสารขยับขึ้น
แนวหน้า วันจันทร์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) เปิดเผยว่า หลังจากการเปิดใช้ระบบตั๋วร่วม หรือบัตรแมงมุม เพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะโดยใช้บัตรเพียงใบเดียว จะส่งผลให้ค่าโดยสารของรถไฟฟ้ามีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น
หากไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล

ทั้งนี้เนื่องจากมองว่าผู้ประกอบการทุกรายต้องการกำหนดอัตราค่าแรกเข้าเอง เช่น รถไฟฟ้าสายหนึ่งมีค่าแรกเข้า 1 บาท เชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีกสายหนึ่ง ที่มีค่าแรกเข้า 1 บาท แล้วค่าแรกเข้ารวมกันจะเป็น 1 บาท ได้อย่างไร และผู้ประกอบการยังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านซ่อมบำรุงที่เพิ่มมากขึ้นจากปริมาณผู้โดยสารที่ขยายตัวอย่างมากเมื่อมีการเชื่อมต่อเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้าแล้ว รวมถึงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตด้วย

ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ปัจจุบันมีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 900,000 คนต่อวัน คาดว่าภายใน 3 ปี จำนวนผู้โดยสารจะเติบโต 120% หรือประมาณ 2 ล้านคนต่อวัน ซึ่งมองว่าหลังจากที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง คาดว่าปริมาณผู้โดยสารของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย รวมกันประมาณ 400,000 คนต่อวัน ส่งผลให้ในปี 2563-2564 ทาง BTS ที่เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าระยะทางรวมกันทั้งสิ้น 144 กิโลเมตร จะมีภาระค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มมากขึ้น

“การตรึงค่าโดยสารเพื่อประชาชนเป็นสิ่งที่ดี แต่ในทางกลับกัน ผู้ประกอบการจะอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อเส้นทางเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารมากขึ้น แต่ยังต้องใช้เงินทุนเท่าเดิม” นายคีรี กล่าว

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการ และรักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า เตรียมเชิญ BTS และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เข้ามาหารือเกี่ยวกับแนวทางการจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อเข้ามาจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (CTC) ภายในเดือนธันวาคมนี้

ส่วนเรื่องค่าแรกเข้านั้น จะต้องรอการติดตั้งระบบให้แล้วเสร็จทั้งหมดก่อน ค่อยกลับมาหารือกับผู้ประกอบการอีกครั้ง แต่มองว่าการต่อขยายเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้าไม่น่ามีผลต่อค่าโดยสารที่จะเพิ่มขึ้น ในเมื่อผู้ประกอบการมีผู้โดยสารมากขึ้น ผลประกอบการของบริษัทก็มากขึ้นตามไปด้วย

[Wisarut]

[Wisarut]

สนข.เดินหน้าศึกษาการก่อกสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 17 ธันวาคม พ.ศ. 2560,18:24:00
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี ระยะทาง 21.5 กิโลเมตร ว่า อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของโครงการและการใช้ประโยชน์จากเสาตอม่อที่ก่อสร้างไว้แล้วบนแนวกึ่งกลางถนนประเสริฐมนูกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมเสนอรูปแบบการลงทุนและเปรียบเทียบทางเลือกที่เหมาะสม ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอีไอเอ รวมทั้งงบประมาณการก่อสร้าง ทั้งนี้ คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จตามกำหนด ในที่ 9 มิถุนายน 2561

[Mongwin]

"อาคม" สั่งต่อขยายสายสีม่วงไปสมุทรปราการ
โพสต์ทูเดย์ 18 ธันวาคม 2560 เวลา 20:33 น.

รมว.คมนาคม สั่งต่อขยายสายสีม่วงไปสมุทรปราการ เล็งเพิ่มสถานีเชื่อมต่อรับรถไฟฟ้าชานเมือง พร้อมเผย 3 ปัญหาการพัฒนารถไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมเปิดเผยภายหลังการประชุมผลการศึกษารถไฟฟ้าระยะที่สอง หรือ M-Map 2 ว่าการศึกษารถไฟฟ้าระยะที่ 2 จำนวน 10 เส้นทางนั้นเป็นแผนพัฒนาระบบขนส่งเมืองหลวงระยะ 20 ปี ช่วงปี 2560-2579 เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่และสะท้อนปัญหาการพัฒนาระบบโครงข่ายรถไฟฟ้าเฟส 1 ที่ผ่านมาจำนวน 10 สายแรก

สำหรับนโยบายที่ได้มอบให้ฝ่ายญี่ปุ่นไปศึกษาแนวทางพัฒนารถไฟฟ้าระยะที่สองนั้นได้ให้เน้นไปที่การเขื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนรูปแบบต่างๆให้เกิดการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ทั้งการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าไปเชื่อมต่อโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน ตลอดจนพัฒนาให้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงและโครงการรถไฟรางคู่เส้นทางต่างๆเพื่อกระจายผู้โดยสารไม่ให้เข้ามากระจุกแค่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน อย่างไรก็ตามการพัฒนารถไฟฟ้าในอนาคตนั้นได้เสนอแนะให้เน้นไปที่การออกแบบสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างหรือ Interchange Station ให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในอนาคตโครงข่ายรถไฟฟ้าจะเป็นการวิ่งออกไปชานเมืองระยะยาว 40-60กิโลเมตร ดังนั้นจำเป็นต้องมีพื้นที่สถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ทุก 20 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มขึ้นเพื่อลดความแออัดของผู้โดยสารและรองรับการมีผู้ประกอบการรถไฟฟ้าสองสาย อาทิ สถานีเตาปูนที่มีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของบีอีเอ็มและรถไฟฟ้าสายสีม่วงของรฟม. เบื้องต้นได้มองจุดที่เหมาะสมในการพัฒนา Interchange Station ไว้คร่าวๆอาทิ บางแค นนทบุรี สมุทรสาคร

นายอาคมกล่าวต่อว่าสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายเดิมที่การศึกษาเห็นว่าเหมาะสมพัฒนาต่อขยายเส้นทางออกไปนั้นได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มีศักยภาพที่จะต่อขยายเส้นทางไปอีก 20 กิโลเมตร คือเส้นทางช่วง ราษฎร์บูรณะ-สมุทรปราการเพื่อรับประชาชนในเขตเมืองมากขึ้นและช่วยลดภาระความแออัดของรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้

นอกจากนี้ยังมีแผนยกระดับรถไฟระหว่างเมืองเดิมเส้นทางกรุงเทพ-สมุทรปราการ ให้มาเป็นรถไฟชานเมืองที่มีทางวิ่งยกระดับเนื่องจากปัจจุบันเส้นทางดังกล่าวมีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมากจึงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นรถไฟชานเมืองได้

ขณะที่โครงการเดิมอย่างรถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล-เอกมัยและสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-บึงกุ่ม ได้สั่งการให้ทีมงานศึกษาไปดูรูปแบบการพัฒนาว่าแนวเส้นทางดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการรองรับผู้โดยสารหรือไม่

อย่างไรก็ตามสำหรับประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ที่ได้สั่งการให้รฟม.ไปดำเนินการศึกษาแผนการก่อสร้างใหม่นั้นคาดว่ารฟม.จะเสนอแผนร่วมทุนพีพีพีและแนวทางการก่อสร้างรวมถึงเดินรถเข้ามาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาพร้อมกัน ส่วนเรื่องผู้ประกอบการเดินรถสายสีส้มตะวันตก-ตะวันออกนั้นยังคงยึดตามแนวทางเดิมคือให้มีผู้ประกอบการรายเดียวต่อไป

ทั้งนี้หลังจากไปสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อรถไฟฟ้าระยะที่สองนั้น ปัญหาที่พบมากที่สุด 3 อันดับคือ 1.เส้นทางรถไฟฟ้าในปัจจุบันไม่ครอบคลุมพื้นที่เขตชานเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก 2. ผู้โดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีความแออัดเป็นอย่างมากจนรวมถึงเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูงมากขึ้นเรื่อยๆจนเกินรับภาระไหว 3.ไม่มีระบบเชื่อมต่อการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังที่หมาย

ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า สำหรับแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 นั้น จะมีการประชุมคณะทำงานอีกครั้งในเดือน ก.พ. 2561 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะได้ร่างแผนแม่บทดังกล่าวภายในเดือน เม.ย. 2561 และแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.ปีหน้า

[Wisarut]

ไจก้า ลั่นก.ค.61 ชงแผนแม่บทรถไฟฟ้ากทม.-ปริมณฑล เฟส 2 เสนอไทยสร้างต่อขยายสีม่วง-แดง
ข่าวสด

วันที่ 18 ธันวาคม 2560 - 21:02 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ว่า ไจก้า มาหารือถึงความคืบหน้าในการจัดทำแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ระยะที่ 2 (M-MAP2) โดยระบุว่าการทำรถไฟฟ้าระยะที่ 1 จำนวน 10 สายทางที่จะเปิดให้บริการครบในปี 2563 ยังไม่ครอบคุลมการเดินทาง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีประชาชนหนาแน่น รวมทั้งการให้บริการรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปัจจุบันเช่น รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และรถไฟฟ้าบีทีเอสเริ่มแออัด ดังนั้นจำเป็นต้องสร้างเครือข่ายรถไฟฟ้าเพิ่มเติม รวมทั้งจากการสำรวจความเห็นพบว่าประชาชนบางส่วนไม่ใช้บริการรถไฟฟ้าเพราะการเดินทางยังไม่สะดวกไม่เชื่อมต่อกับระบบอื่นและต้องเสียค่าโดยสารหลายครั้ง

ดังนั้นไจก้าเสนอตัวจะช่วยออกแบบเส้นทางให้ในส่วนพื้นที่ที่ยังไม่ครอบคลุม ส่วนปัญหาการใช้บริการที่เริ่มแออัดโดยเฉพาะบริเวณสถานีสยามสแควร์ให้พิจารณาเพิ่มเติมเครือข่ายทางเลือกอื่น เพื่อไม่ให้ทุกสายทางต้องมาต่อรถที่สยามสแควร์ ส่วนการแก้ปัญหาการเชื่อมต่อกับระบบอื่นจะต้องมีการวางแผนให้มีการเชื่อมต่อกับระบบรถชานเมือง เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดงด้วย รวมไปถึงรถไฟทางคู่ระหว่างจังหวัด และรถไฟความเร็วสูงด้วย

“เบื้องต้นไจก้าจะศึกษาจัดทำแผนแม่บท เฟส 2 แผนระยะ 20 ปี คือระหว่างปี 2560-79 คาดว่าจะนำเสนอแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์ให้ไทยพิจารณาในเดือนก.ค.ปี 61 “



นายอาคม กล่าวว่า จากการหารือเบื้องต้นไจก้าเสนอว่าสำหรับเฟส 2 ไทยควรจะก่อสร้างรถไฟฟ้าเพิ่มหลายเส้นทาง รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ตามแผนที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาไว้ และเสนอให้ก่อสร้างส่วนต่อขยายโครงการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ให้ต่อขยายออกไปจนถึงสมุทรปราการด้วย เพื่อให้การเดินทางครอบคลุมและจะสามารถเข้ามาเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปูด้วย รวมทั้งเสนอให้สร้างส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจากหัวลำโพงต่อไปยังสมุทรสาคร (มหาชัย) ระยะทางประมาณ 30-40 กม. ด้วยซึ่งก็สอดคล้อกับแผนของคมนาคม

นอกจากนี้ ยังขอให้ไจก้าศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สะดวกในการเดินทางหากต้องใช้บริการรถไฟฟ้าสายยาว เพราะในอนาคตจะมีการสร้างเชื่อมต่อแต่ละสายออกไปอีก ซึ่งเบื้องต้นอาจจะต้องอาจจะกำหนดให้ทุกสายทางต้องมีสถานีเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารทุก 20 ก.ม. เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชนไม่ต้องเดินทางยาวเกินไป และอาจจะพิจารณาให้รถไฟฟ้า 1 สายทาง มีผู้ประกอบการเดินรถมากกว่า 1 ราย หรือ 1 สัญญา เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น โดยจะเริ่มนำมาบังคับใช้ในโครงการรถไฟฟ้าเฟส 2 เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง เพราะหากสร้างต่อขยายครบทั้งเส้นทาง คือจากบางใหญ่ไปจนถึงสมุทรปราการ จะมีระยะทางไกลถึง 60 ก.ม. อาจจะต้องแบ่งสัญญาเดินรถออกเป็นช่วงสั้นๆ 20 ก.ม.

[Wisarut]