RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311286
ทั่วไป:13268000
ทั้งหมด:13579286
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 169, 170, 171 ... 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 19/12/2017 1:37 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ไจก้า ลั่นก.ค.61 ชงแผนแม่บทรถไฟฟ้ากทม.-ปริมณฑล เฟส 2 เสนอไทยสร้างต่อขยายสีม่วง-แดง
ข่าวสด

วันที่ 18 ธันวาคม 2560 - 21:02 น.

เร่งศึกษาแผนรถไฟฟ้าระยะ2 ใช้เวลา 20ปี

จันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2560 เวลา 19.00 น.


เปิดแผนรถไฟฟ้าระยะ2 เล็งยกระดับสายชานเมือง-ปชช.โวย3ปัญหา
แนวหน้า
วันจันทร์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560, 19.44 น.

คมนาคมหารือแผนแม่บทระยะที่ 2 ร่วม JICA เน้นการศึกษาจากโครงข่ายกรุงเทพเป็นจุดศูนย์กลางต่อขยายสู่พื้นที่ปริมณฑลที่ไม่มีรถไฟฟ้าเข้าถึง

18 ธ.ค.60 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(JICA) ว่า ทาง JICA ได้รายงานร่างผลการศึกษาแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 (M-Map2) โดยได้มีการหารือร่วมกับคณะทำงาน JICA ในเรื่องของการศึกษาแผนรถไฟฟ้าระยะที่ 2 เนื่องจากขณะนี้แผนระยะที่ 1 ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และคาดว่าจะเสร็จในกระบวนการประกวดราคาในปีหน้า และมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2563

ทั้งนี้ การดำเนินการแผนโดยแผนระยะที่ 2 จะเป็นแผนแม่บทต่อเนื่อง มีระยะการศึกษาระหว่างปี 2560-2579 ในระยะ 20 ปี ซึ่งแผนระยะที่ 2 จำเป็นต้องเน้นสร้างการเชื่อมต่อในพื้นที่ที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า เนื่องจากในอนาคตโครงข่ายรถไฟฟ้าจะเป็นการวิ่งออกไปชานเมืองระยะยาว 40-60 กิโลเมตร จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่สถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอื่นๆทุก 20 กิโลเมตร เพิ่มขึ้น เพื่อลดความแออัดของผู้โดยสารและรองรับการมีผู้ประกอบการรถไฟฟ้า 2 สาย เช่น สถานีเตาปูนที่มีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของ BEM และรถไฟฟ้าสายสีม่วงของ รฟม. เบื้องต้นได้มองจุดที่เหมาะสมในการพัฒนา Interchange Station เบื้องต้นได้แก่ บางแค นนทบุรี สมุทรสาคร เป็นต้น

นายอาคม กล่าวอีกว่า การศึกษาแผนรถไฟฟ้าระยะที่ 2 จะเน้นการศึกษาจากโครงข่ายกรุงเทพเป็นจุดศูนย์กลางต่อขยายสู่พื้นที่ปริมณฑลที่ไม่มีรถไฟฟ้าเข้าถึง โดยในระยะที่ 2 จะไม่ให้มีระยะทางที่มากเกิน 60 กิโลเมตร หรืออาจจะแบ่งย่อยเป็นระยะ 20 กิโลเมตร ผู้ให้บริการมากกว่า 1 รายได้ อีกทั้งในอนาคตได้เสนอในที่ประชุมศึกษาเส้นทางรถไฟชานเมืองเดิม เช่น กรุงเทพฯ-สมุทรปราการ ที่อาจเปลี่ยนเป็นเส้นทางยกระดับในอนาคต

“หลังจากที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อรถไฟฟ้าระยะที่ 2 นั้น ปัญหาที่พบมากที่สุด 3 อันดับคือ 1.เส้นทางรถไฟฟ้าในปัจจุบันไม่ครอบคลุมพื้นที่เขตชานเมือง ที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก 2. ผู้โดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบัน รวมถึงรถใต้ดินมีความแออัดเป็นอย่างมาก รวมถึงเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูงมากขึ้นเรื่อยๆจนเกินรับภาระไหว 3.ไม่มีระบบเชื่อมต่อการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังที่หมาย” นายอาคม กล่าว

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายเดิมที่การศึกษาเห็นว่าเหมาะสมพัฒนาต่อขยายเส้นทางออกไปนั้นได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มีศักยภาพที่จะต่อขยายเส้นทางไปอีก 20 กิโลเมตร คือ เส้นทางช่วง ราษฎร์บูรณะ-สมุทรปราการ เพื่อรับประชาชนในเขตเมืองมากขึ้น และช่วยลดภาระความแออัดของรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้

นอกจากนี้ยังมีแผนยกระดับรถไฟระหว่างเมืองเดิมเส้นทางกรุงเทพ-สมุทรปราการ ให้มาเป็นรถไฟชานเมืองที่มีทางวิ่งยกระดับ เนื่องจากปัจจุบันเส้นทางดังกล่าวมีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก จึงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นรถไฟชานเมืองได้ ขณะที่โครงการเดิมอย่างรถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล-เอกมัย และสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-บึงกุ่ม โดยได้สั่งการให้ทีมงานศึกษาไปดูรูปแบบการพัฒนาว่าแนวเส้นทางดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการรองรับผู้โดยสารหรือไม่

อย่างไรก็ตามประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ได้สั่งการให้ รฟม.ไปดำเนินการศึกษาแผนการก่อสร้างใหม่นั้น คาดว่า รฟม.จะเสนอแผนร่วมทุนพีพีพี และแนวทางการก่อสร้างรวมถึงเดินรถเข้ามาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาพร้อมกัน ส่วนเรื่องผู้ประกอบการเดินรถสายสีส้มตะวันตก-ตะวันออกนั้นยังคงยึดตามแนวทางเดิมคือให้มีผู้ประกอบการรายเดียวต่อไป

ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า สำหรับแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 นั้น จะมีการประชุมคณะทำงานอีกครั้งในเดือน ก.พ. 2561 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะได้ร่างแผนแม่บทดังกล่าวภายในเดือน เม.ย. 2561 และแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.ปีหน้า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 20/12/2017 5:39 pm    Post subject: Reply with quote

“บีทีเอส” พร้อมเจรจารัฐพิจารณาค่าโดยสารร่วมรถไฟฟ้าสารพัดสีรับบัตรแมงมุม
วันที่ 20 ธันวาคม 2560 - 16:58 น.

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าวออกมาว่าบีทีเอสจะขอขึ้นค่าโดยสารหลังมีบัตรตั่วร่วมแมงมุมว่า บริษัทขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า


ในความเป็นจริงแล้ว ทางคุณคีรี กาญจนพาสน์ มีความเป็นห่วงว่าหากรถไฟฟ้าสายใหม่เปิดให้บริการครบในปี 2563 และต้องจ่ายค่าแรกเข้าแต่ละสายจะทำให้ค่าเดินทางจากต้นทาง-ปลายทางสูงเกินไป จึงอยากให้รัฐเร่งดำเนินการพิจารณาส่วนนี้ เนื่องจากฐานผู้โดยสารจะขยายใหญ่มากขึ้น คาดว่าเฉพาะที่บริษัทรับสัมปทานเดินรถของสายสีเขียว สีชมพู และสีเหลือง จะมีผู้โดยสารถึง 2 ล้านเที่ยวคนต่อวันในปี 2563

“บีทีเอสให้ความร่วมมือกับรัฐมาตลอด และพร้อมจะหารือร่วมกับรัฐในการพิจารณาเรื่องค่าแรกเข้าการใช้รถไฟฟ้าต่างสายต่างสีกันในอนาคต เช่น จะลดค่าแรกเข้าหรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเราก็พร้อมแต่รัฐก็ต้องให้ความช่วยเหลือเอกชนด้วย ก็ต้องหารือร่วมกันต่อไปให้ win win ด้วยกัน ตอนนี้ยังไม่มีการหารือใดๆ ทั้งสิ้น และเราเป็นรายแรกที่ริเริ่มบัตรตั๋วร่วมนั้นก็คือบัตรแรบบิท และเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก็มีการเซ็นบันทึกความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อทำระบบตั๋วร่วมเชื่อมต่อระหว่างบีทีเอสกับรถไฟฟ้าใต้ดินมาแล้วด้วย”

ปัจจุบันเป็นการหารือร่วมกันจะใช้บัตรใบเดียวหรือบัตรแมงมุมเข้าใช้บริการรถไฟฟ้า 4 สาย ได้แก่ สายสีเขียว สีม่วง สีน้ำเงินและแอร์พอร์ตลิงก์ ที่กระทรวงคมนาคมคาดว่าจะเริ่มใช้ในเดือนต.ค.2561 ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องค่าโดยสารร่วมแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงคมนาคมมอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินการระหว่างรอการคัดเลือกให้เอกชนมาลงทุน

“สายสีเขียวเดิมและต่อขยายไปคูคตและสมุทรปราการอยู่ในความดูแลของกทม. จะไม่มีเรื่องค่าแรกเข้า แต่สายสีชมพู เหลือง น้ำเงิน ส้ม อยู่ในความดูแลของ รฟม. หากเดินทางร่วมกันจะไม่มีปัญหาเรื่องค่าแรกเข้า เพราะ รฟม.รับภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ เหมือนที่สายสีม่วงต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าใต้ดินในปัจจุบัน แต่หากต้องมาต่อเข้ากับสายสีเขียวจะต้องมีค่าแรกเข้า ตรงนี้ที่ทางเรามองว่ารัฐควรจะต้องเริ่มพิจารณา”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 21/12/2017 5:33 pm    Post subject: Reply with quote

BTS พร้อมร่วมมือรัฐบาลจัดทำระบบตั๋วร่วม ยืนยันไม่มีผลกับการปรับขึ้นค่าโดยสาร
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 21 ธันวาคม 2560 13:09:00
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า บริษัทฯ จะปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส หลังเปิดใช้ระบบตั๋วร่วม หรือบัตรแมงมุม เพื่อเชื่อมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นโดยใช้บัตรเพียงใบเดียว โดยยืนยันว่า ขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นค่าโดยสารแต่อย่างใด และพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการจัดทำตั๋วร่วมอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับภาครัฐเพื่อทำระบบตั๋วร่วม ให้สามารถนำมาใช้กับบัตร Rabbit ได้ และในอนาคต เมื่อมีส่วนต่อขยายออกไปหลายสาย ส่วนการปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสในส่วนของเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร สายสุขุมวิท และสายสีลม บริษัทฯ ได้มีการปรับราคาค่าโดยสารครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นไปตามสัญญาสัมปทานที่กำหนด จึงยืนยันว่าการจัดทำตั๋วร่วมของรัฐบาลไม่มีผลกับการปรับขึ้นค่าโดยสารบีทีเอส
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/12/2017 1:12 am    Post subject: Reply with quote

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน
Arrow http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/320/8.PDF

หน้า ๘
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๓๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๐
ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี

เรื่อง กําหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ
เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอําเภอบางพลี
อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
เป็นกรณีที่มีความจําเป็นโดยเร่งด่วน

ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา
กรุงเทพมหานคร และอําเภอบางพลี อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อดําเนินกิจการรถไฟฟ้า ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถ
สําหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้าตามโครงการรถไฟฟ้า สายสีเหลือง
ช่วงลาดพร้าว - สําโรง นั้น
ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกา
เห็นว่า การจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสําหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่น
ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้าตามโครงการดังกล่าว เป็นกรณีที่มีความจําเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออํานวย
ความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหาก
การเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้า
ขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะรัฐมนตรีโดยมติเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐
จึงกําหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน
ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ
เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอําเภอบางพลี อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจําเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจาก
เจ้าหน้าที่มีอํานาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 26/12/2017 3:56 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน
Arrow http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/320/8.PDF

หน้า ๘
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๓๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๐
ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี


ข่าวนี้ก็ลงมติชนด้วย => ดูที่นี่ครับ

ราชกิจจาเผยแพร่ประกาศเวนคืน-ใช้อสังหาฯ เขตพื้นที่สร้างรถไฟฟ้า กทม.-นนทบุรี-สมุทรปราการ กรณีเร่งด่วน

วันที่ 25 ธันวาคม 2560 - 18:51 น.

//----------------------------------

ราชกิจจาฯประกาศเวนคืนที่ดิน สร้างรถไฟฟ้า5ฉบับ

จันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2560 เวลา 22.37 น.

ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกฯ เรื่องให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ สร้างรถไฟฟ้า 5 ฉบับในหลายท้องที่

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ สร้างรถไฟฟ้า 5  ฉบับ  ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน

อ่านฉบับเต็ม

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ เพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน

อ่านฉบับเต็ม

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน

อ่านฉบับเต็ม

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการเป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน

อ่านฉบับเต็ม

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน

อ่านฉบับเต็ม
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2017 3:21 am    Post subject: Reply with quote

ทุนภูธรแห่ตั้งบริษัทพัฒนาเมือง ประเดิมลงขัน”รถไฟฟ้ารางเบา”
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 28 ธันวาคม 2560 - 00:02 น.

พัฒนาเมืองโมเดลใหม่ฮิต นักธุรกิจ 12 จังหวัดแห่ตั้งบริษัทพัฒนาเมือง ล่าสุด 4 จังหวัด “ตาก-อุดรธานี-กระบี่-สุราษฎร์ฯ” จ่อจดทะเบียนเพิ่ม ชี้ “ขอนแก่น” เวิร์กสุด เปิดยื่นซองประมูลสร้างรถไฟฟ้ารางเบา 1.3 หมื่นล้าน ก้าวขึ้น “สมาร์ทซิตี้” “สระบุรี” วาดแผนเป็นศูนย์กลางขนส่ง “เชียงใหม่-สุโขทัย” ลุยสมาร์ทบัส ส่วน “สมุทรสาคร” ปิ๊งนครครัวโลก

นายฐาปนา บุณยประวิตร อุปนายกสมาคมการผังเมืองไทย และผู้ประสานงานเครือข่ายกิจการพัฒนาเมือง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้วที่ บจ.ขอนแก่นพัฒนาเมืองก่อกำเนิดขึ้น และหลังจากนั้นบริษัทพัฒนาเมืองอีก 11 แห่ง ก็เกิดขึ้นตามมา ได้แก่ บจ.ภูเก็ตพัฒนาเมือง บจ.สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) บจ.พิษณุโลกพัฒนาเมือง บจ.ระยองพัฒนาเมือง บจ.สระบุรีพัฒนาเมือง บจ.เชียงใหม่พัฒนาเมือง บจ.กรุงเทพพัฒนาเมือง บจ.ชลบุรีพัฒนาเมือง บจ.สุโขทัยพัฒนาเมือง และล่าสุดคือ บจ.สงขลาพัฒนาเมือง
นอกจากนี้ยังมีจังหวัดที่อยู่ระหว่างการเตรียมจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมืองอีก 4 จังหวัด ประกอบด้วย บจ.ตากพัฒนาเมือง บจ.อุดรธานีพัฒนาเมือง บจ.กระบี่พัฒนาเมือง และ บจ.สุราษฎร์ธานีพัฒนาเมือง

ทั้งนี้ กรอบการพัฒนาเมืองของไทยยังต้องเดินตามระเบียบข้อกฎหมาย ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงกฎหมายผังเมือง และวิธีการรวมศูนย์อำนาจของส่วนกลางในการกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงของเมืองได้ แต่ที่บริษัทพัฒนาเมืองกำลังพยายามทำคือ การอุดช่องโหว่การพัฒนาจากส่วนกลาง โดยสร้างทิศทางการพัฒนาของตนเองขึ้น ชัดเจนสุดคือ แผนงานโครงการระบบขนส่งทางราง ของ บจ.ขอนแก่นพัฒนาเมือง และ บจ.ภูเก็ตพัฒนาเมือง ซึ่งพัฒนาจากความไม่พร้อมด้านงบประมาณของส่วนกลาง

เชียงใหม่-สุโขทัยผุดสมาร์ทบัส

นายฐาปนากล่าวว่า รูปแบบการพัฒนาของบริษัทพัฒนาเมืองหลัก ๆ คือ การใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นธงนำ เพื่อทำให้รูปแบบของเศรษฐกิจเมืองเปลี่ยนแปลงตาม เมืองจะประหยัดพลังงานขึ้น เพราะประชาชนจะทิ้งรถยนต์หรือลดการครอบครองรถยนต์ส่วนบุคคล เศรษฐกิจจะเติบโตขึ้นในพื้นที่รอบสถานี และบริเวณ 2 ข้างทางรถขนส่งมวลชน ค่าใช้จ่ายครัวเรือนจะลดลง ความฝันที่จะเป็นเมืองสุขภาพจะเป็นจริง จะเกิดพื้นที่แห่งการเดิน (walkable areas)

สำหรับภาคเหนือ ขณะนี้ บจ.เชียงใหม่พัฒนาเมือง และ บจ.สุโขทัยพัฒนาเมือง อยู่ระหว่างเตรียมลงทุนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 2 เส้นทาง ในเชียงใหม่ 1 เส้นทาง สุโขทัย 1 เส้นทาง ในรูปแบบ smart bus พื้นชานต่ำ เพียบพร้อมด้วยบริการไวไฟ (WiFi) และสิ่งอำนวยความสะดวก

ขอนแก่น “สมาร์ทซิตี้ 2029”

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ผู้ร่วมก่อตั้ง บจ.ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) กล่าวว่า ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) มูลค่าลงทุน 1.3 หมื่นล้านบาท ล่าสุด 22 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา มีบริษัททั้งไทยและต่างชาติ ยื่นซองประมูลก่อสร้างโครงการดังกล่าว ระหว่างนี้อยู่ระหว่างรอผลการศึกษาโครงการจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ก.พ. 2561

จากนั้นจะคัดเลือกบริษัทเอกชนที่ยื่นข้อเสนอดีที่สุดเข้ามาลงทุน
ส่วนระบบขนส่งมวลชนรูปแบบอื่น ๆ อาทิ smart bus ซึ่งศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างร่วมกับเทศบาล องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ศึกษาแนวทางปรับปรุงรูปแบบป้ายรถเมล์

“จากนี้ไปเราจะเดินหน้าเรื่องขอนแก่นสมาร์ทซิตี้ โดยบริษัทพัฒนาเมือง จะร่างแผนยุทธศาสตร์ ใช้ชื่อว่าแผนขอนแก่นสมาร์ทซิตี้ 2029 ช่วงแรกเน้นเรื่องสมาร์ทเอดูเคชั่น เช่น การเรียน 2 ภาษา สำหรับเด็กในขอนแก่น ส่วนสมาร์ทเฮลท์แคร์ที่เสร็จแล้ว คือ แอปพลิเคชั่นสำหรับรถฉุกเฉิน ส่งข้อมูลไปยังศูนย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นได้ หากคนไข้วิกฤตในรถ หมอสามารถสั่งให้บุรุษพยาบาล หรือพยาบาลรักษาก่อนได้ เป็นต้น”

“ชลบุรี” ดึงมหา”ลัยออกแบบ

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ ประธานกรรมการ บจ.ชลบุรีพัฒนาเมือง กล่าวว่า บริษัทเกิดขึ้นจากการรวมตัวของกรรมการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จ.ชลบุรี 16 คน ขณะนี้แค่ลงขันจดทะเบียนบริษัท ยังไม่มีโครงการที่ชัดเจนเพราะต้องรอ พ.ร.บ.พัฒนาเมืองฯ ที่รัฐบาลกำลังผลักดันว่าจะออกมาแนวทางใด ประกอบกับ จ.ชลบุรี แตกต่างจากพื้นที่อื่นที่สามารถกำหนดโครงการ เช่น ระบบขนส่งมวลชน แต่ชลบุรีมีโหนดเมืองเยอะมาก และแต่ละเมืองโตในแบบของตัวเอง

ดังนั้นแนวคิดคือ การเข้าไปมีส่วนร่วมเรื่องการทำเออร์เบิร์นแพลนนิ่ง คือ การออกแบบเมือง วิธีการคือ ต้องอาศัยสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาผังเมือง ทุกมหาวิทยาลัย ทำวิจัย โดยเก็บข้อมูลในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์เผยแพร่แนวคิดของที่อยู่อาศัยในอนาคตว่าแต่ละโซนควรจะเป็นอย่างไร สำคัญที่สุดคือในการศึกษาวิจัยจะต้องสื่อออกมาเป็นระยะ ๆ ให้ชุมชนมีส่วนรับรู้

“สมุทรสาคร” ปิ๊งนครครัวโลก

ขณะที่นายสมศักดิ์ ดารารัตนโรจน์ ประธานกรรมการ บจ.สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) เปิดเผยว่า หลายฝ่ายได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทสมุทรสาครพัฒนาเมือง ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2560 โดยระดมทุนจดทะเบียน 108 ล้านบาท จากเอกชน 27 บริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างวางแผน และกำหนดยุทธศาสตร์ จ.สมุทรสาคร เป็นนครแห่งครัวโลก เนื่องจากมีจุดเด่นเป็นแหล่งซัพพลายวัตถุดิบทางการเกษตร วัตถุดิบสำเร็จรูป มีโรงงานอุตสาหกรรมด้านอาหารเกือบ 1,000 โรงงาน มีตลาดทะเลไทย รวมถึงเป็นประตูสู่ภาคใต้ มีหลายโปรเจ็กต์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การสร้างนิคมอุตสาหกรรมอาหารแห่งใหม่ จะดึงโรงงานอุตสาหกรรมด้านอาหารทั้งในและนอกจังหวัดมาไว้ด้วยกัน โดยเสนอขอสิทธิประโยชน์ในการเข้ามาลงทุนให้เป็นแหล่งซัพพลายวัตถุดิบ ให้มีสถานการศึกษาทางด้านอาหาร เป็นวันสต็อปเซอร์วิส ครอบคลุมทั้ง R&D และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ใบเซอร์ติฟิเคต การผลิตเชฟไทยไปทั่วโลก โดยได้หารือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บ้างแล้ว นอกจากนี้จะผลักดันแหล่งท่องเที่ยวทางด้านอาหาร และพัฒนาเส้นทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเก่าแก่ ยกระดับรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต

ดัน “สระบุรี” ศูนย์กลางขนส่ง

ด้านนายนพดล ธรรมวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บจ.สระบุรีพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า ได้ตั้งบริษัทพัฒนาเมืองด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท โดยใช้ต้นแบบจาก จ.ขอนแก่น และเตรียมเพิ่มทุนเพื่อนำมาพัฒนาจังหวัดเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเร่งพัฒนาเมืองจากปัญหาที่เห็นชัดเจน 2 เรื่องคือ 1.การคมนาคม จะเริ่มพัฒนาโครงการพัฒนาขนส่งมวลชนสาธารณะ ต้นปี 2561 2.การพัฒนาย่านเศรษฐกิจและที่อยู่อาศัย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ชูจุดเด่นเรื่องธรรมชาติ ทำสมาร์ทบัส ลดจราจรติดขัด การจ่ายเงินโดยใช้แอปพลิเคชั่นพัฒนาให้สระบุรีเป็นจุดศูนย์กลางของระบบขนส่ง โดยเฉพาะรถไฟรางคู่ ผลักดันเรื่องของ ICD (Inland Container Depot) หรือโรงพักสินค้า เพื่อตรวจบรรจุของทั้งขาเข้าและขาออกด้วยตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งจะทำให้สระบุรีเป็นจุดกระจายสินค้าแห่งสำคัญของประเทศ เกิดการสร้างงาน ทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2017 3:29 am    Post subject: Reply with quote

รฟม. มอบความสุขในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 เตรียมความพร้อมมาตรการความปลอดภัย ในเส้นทางก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย
สวพ. FM91 27 ธ.ค. 2560 | 18:51:37

ตามที่ รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม มีนโยบายกำหนดมาตรการเข้มข้น 777 ให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561

วันนี้ (27 ธันวาคม 2560) นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการ (บริหาร) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 รฟม. ได้กำชับให้บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงบางซื่อ – ท่าพระ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้โดยสะดวกและปลอดภัย โดยเฉพาะโครงการที่มีแนวเส้นทางสัญจรออกสู่ภูมิภาคอื่นๆ ได้

โดยให้ผู้รับจ้างตรวจสอบและจัดสภาพหน้างานให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เช่น การจัดเคลียร์พื้นที่ปิดปากบ่อ หลุม และช่องเปิดต่างๆ การจัดทำป้ายเตือน ป้ายทางเบี่ยงทางเลี่ยง การจัดให้มีไฟส่องสว่างเพียงพอ การปิดกั้นแนวรั้วคอนกรีตบริเวณจุดที่เป็นอันตรายให้เรียบร้อย การจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักร ให้เรียบร้อยและปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจร การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและการจัดเก็บวัตถุไวไฟหรือสารไวไฟให้เรียบร้อย รวมถึงการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและจัดเตรียมอุปกรณ์ด้านจราจร เพื่อเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ รฟม. ยังร่วมรณรงค์มาตรการด้านความปลอดภัยของกระทรวงคมนาคมกับการกำหนด 3 มาตรการขับขี่ปลอดภัย “ขับช้า เปิดไฟหน้ารถ คาดเข็มขัด” รณรงค์ด้านความปลอดภัยในการเดินทางตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ได้แก่ การขับรถช้า กรณีขับรถใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับรถในระยะกระชั้นชิดหรือกะทันหันจะสามารถช่วยลดความสูญเสียจากหนักให้เป็นเบาได้ การเปิดไฟหน้าขณะขับรถ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุลงได้ถึง 30% และการคาดเข็มขัดนิรภัย ช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 80%

สำหรับ การดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 มีความก้าวหน้างานโยธาดังนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฯ 97.05% โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ 51.21% และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ 3.97% ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค

ทั้งนี้ รฟม. มีนโยบายที่จะเร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน และลดผลกระทบด้านการจราจรแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง สามารถติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊คแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/12/2017 8:04 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.กำชับผู้รับเหมาดูแลความปลอดภัยงานก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสาย รองรับการเดินทางปชช.ช่วงปีใหม่
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2560 11:03:18 น.

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการ (บริหาร) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 รฟม. ได้กำชับให้บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงบางซื่อ – ท่าพระ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้โดยสะดวกและปลอดภัย โดยเฉพาะโครงการที่มีแนวเส้นทางสัญจรออกสู่ภูมิภาคอื่นๆ ได้

โดยให้ผู้รับจ้างตรวจสอบและจัดสภาพหน้างานให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เช่น การจัดเคลียร์พื้นที่ปิดปากบ่อ หลุม และช่องเปิดต่างๆ การจัดทำป้ายเตือน ป้ายทางเบี่ยงทางเลี่ยง การจัดให้มีไฟส่องสว่างเพียงพอ การปิดกั้นแนวรั้วคอนกรีตบริเวณจุดที่เป็นอันตรายให้เรียบร้อย การจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักร ให้เรียบร้อยและปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจร การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและการจัดเก็บวัตถุไวไฟหรือสารไวไฟให้เรียบร้อย รวมถึงการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและจัดเตรียมอุปกรณ์ด้านจราจร เพื่อเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ รฟม. ยังร่วมรณรงค์มาตรการด้านความปลอดภัยของกระทรวงคมนาคมกับการกำหนด 3 มาตรการขับขี่ปลอดภัย “ขับช้า เปิดไฟหน้ารถ คาดเข็มขัด" รณรงค์ด้านความปลอดภัยในการเดินทางตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ได้แก่ การขับรถช้า กรณีขับรถใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับรถในระยะกระชั้นชิดหรือกะทันหันจะสามารถช่วยลดความสูญเสียจากหนักให้เป็นเบาได้ การเปิดไฟหน้าขณะขับรถ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุลงได้ถึง 30% และการคาดเข็มขัดนิรภัย ช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 80%

สำหรับ การดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 มีความก้าวหน้างานโยธาดังนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฯ 97.05% โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ 51.21% และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ 3.97% ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ทั้งนี้ รฟม. มีนโยบายที่จะเร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน และลดผลกระทบด้านการจราจรแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/01/2018 1:18 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งสร้างเร่งเปิดใช้รถไฟฟ้าหลากสี ปลายปี”61 ได้นั่ง “แบริ่ง-ปากน้ำ”
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 1 มกราคม 2561 - 09:30 น.

Click on the image for full size

“รถไฟฟ้า” เป็นโครงการไฮไลต์ที่รัฐบาลหวังเป็นตัวช่วยปลดเปลื้องการจราจรของกรุงเทพฯ แต่ด้วยงบประมาณมีจำกัด ทำให้การรันโครงการในแผนแม่บททำไว้ตั้งแต่ปี 2547 ดำเนินการล่าช้า แต่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีรถไฟฟ้าครบ 10 เส้นทาง ปัจจุบันเปิดบริการแล้ว 4 เส้นทาง ได้แก่ บีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน แอร์พอร์ตลิงก์ และสายสีม่วง (เตาปูน -คลองบางไผ่)

ส่วนที่กำลังก่อสร้าง เมื่อไล่ไทม์ไลน์การเปิดให้บริการ ในเดือน ธ.ค. 2561 เป็นคิวของสายสีเขียวต่อขยาย “แบริ่ง-สมทุรปราการ” เชื่อมการเดินทางใจกลางเมืองกรุงเทพฯไปยังสมุทรปราการ

จากนั้นไตรมาสแรกปี 2562 ต่อด้วยสายสีเขียวต่อขยาย “หมอชิต-คูคต” ที่มีเส้นทางพาดยาวเชื่อมกรุงเทพฯกับปทุมธานี ทาง “บีทีเอสซี-บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ” ผู้รับจ้างเดินรถ เตรียมจะเปิดใช้ก่อน 1 สถานี จาก “หมอชิต-สถานีห้าแยกลาดพร้าว” เพื่อช่วยบรรเทาการจราจร ส่วนตลอดเส้นทางจะเปิดในปี 2563 ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้า 51.21%

ถัดจากนั้นเป็นคิวสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย “บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค” โครงข่ายเชื่อมการเดินทางสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตามแผนจะเปิดช่วงหัวลำโพง-บางแค ในเดือน มี.ค. 2562 และบางซื่อ-ท่าพระ ในปี 2563 ขณะนี้งานก่อสร้างรุดหน้า 97.05% ตามมาด้วยรถไฟชานเมืองสายสีแดง “บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน” ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตั้งเป้าจะเปิดบริการพร้อมกันในปี 2563 หลังจากลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาหลายปีที่ผ่านมา

ส่วนปี 2564 ประเทศไทยจะมีซูเปอร์โมโนเรล 2 สายแรกเปิดใช้บริการ คือสายสีชมพู “แคราย-มีนบุรี” และสายสีเหลือง “ลาดพร้าว-สำโรง” กำลังเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง

ขณะที่สายสีส้ม “ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี” ซึ่งเชื่อมไปยังพื้นที่โซนตะวันออก ผู้รับเหมากำลังเปิดไซต์เร่งการก่อสร้างให้เสร็จใน 5 ปี จะเปิดบริการในปี 2566 ปัจจุบันงานก่อสร้างก้าวหน้า 3.97%
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/01/2018 4:30 pm    Post subject: Reply with quote

มหกรรมลงทุนแห่งปี 2561 ลุย 44 เมกะโปรเจ็กต์ 2 ล้านล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 2 มกราคม 2561 - 11:26 น.

“รัฐบาลทหาร” ต้องแข่งกับเวลา กระทรวงคมนาคมต้องแข่งกับตัวเอง เพื่อผลักดันโครงการใหญ่ให้เป็นจริงแผนปฏิบัติเร่งด่วนปี 2559-2561 มี 51 โครงการ มูลค่า 2.39 ล้านล้านบาท ถ้าสำเร็จจีดีพีจะทะลุ 4%

“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศว่า ปี 2561 จะเป็นปีที่แผนเร่งด่วนเปิดประมูลและขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเริ่มโครงการและส่งต่อให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการแผนลงทุนมีโครงการต่อเนื่องปี 2559-2560 จำนวน 43 โครงการ วงเงิน 2.29 ล้านล้านบาท โครงการใหม่ปี 2561 จำนวน 8 โครงการ วงเงิน 103,285 ล้านบาท รวม 51 โครงการ มูลค่าลงทุน 2.39 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นยุทธศาสตร์คมนาคมขนส่งปี 2558-2565 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

แม้ “คมนาคม” อยากเทกระจาดโครงการยักษ์ให้หมด แต่ด้วยข้อจำกัดและได้รับโจทย์จาก “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” มือเศรษฐกิจรัฐบาล คสช. ขอให้จัดลำดับโครงการก่อนหลัง โดยให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นลำดับแรก เพื่อเปิดประมูลให้จบในปี 2561

Click on the image for full size

ทำให้ “สนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร” ต้องรีวิวโครงการใหม่จาก 51 โครงการ เหลือ 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.9 ล้านล้านบาท เช่น ทางคู่สายใต้รวบจาก 3 โครงการ นครปฐม-หัวหิน, หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร เป็นโครงการนครปฐม-ชุมพร 422 กม. ส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท-ดอนเมือง) และรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง รวบเป็นโครงการเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)

และตัดบางโครงการออกจากบัญชี เช่น สายสีเขียวคูคต-ลำลูกกา และสมุทรปราการ-บางปู เนื่องจากเคลียร์หนี้ 6 หมื่นล้านบาทจากการโอนทรัพย์สินของสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-คูคต ให้กับ “กรุงเทพมหานคร” ยังไม่ลงตัว

ส่วนรายละเอียด 44 โครงการ แยกเป็นกลุ่มโครงการคณะกรรมการ PPP เห็นชอบ หรือ ครม.อนุมัติได้ภายในปี 2561 จำนวน 21 โครงการ ได้แก่ ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง ศูนย์ขนส่งชายแดนนครพนม ซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 35 คัน มอเตอร์เวย์ 3 สาย มีนครปฐม-ชะอำ, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และกรุงเทพฯ-มหาชัย

ส่วนต่อขยายโทลล์เวย์ช่วงรังสิต-บางปะอิน รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และกรุงเทพฯ-หัวหิน สายสีแดง บางซื่อ-หัวหมากและบางซื่อ-หัวลำโพง สายสีม่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ โมโนเรล จ.ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา และขอนแก่น พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ท่าเรือบก จ.ขอนแก่น และศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

อีก 23 โครงการเป็นกลุ่มโครงการประกวดราคาแล้วเสร็จ หรือเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2561 ได้แก่ จุดจอดพักรถบรรทุก จ.บุรีรัมย์ และขอนแก่น ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ช่วงเกษตร-นวมินทร์-วงแหวนตะวันออก

ทางคู่นครปฐม-ชุมพร, ลพบุรี-ปากน้ำโพ, มาบกะเบา-จิระ และทางคู่เฟส 2 มีปากน้ำโพ-เด่นชัย, จิระ-อุบลราชธานี, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, เด่นชัย-เชียงใหม่ และทางคู่สายใหม่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และบ้านไผ่-นครพนม

รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สายสีแดงช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต สายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และตลิ่งชัน-ศิริราช สายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม โครงการก่อสร้างลานจอดและระบบไฟฟ้าสนามบินกระบี่ ขยายอาคารผู้โดยสารสนามบินขอนแก่นและพัฒนาระบบตั๋วร่วม

เรื่องคิวเปิดประมูล “อาคม” ย้ำว่า ต้นปี 2561 จะเปิดประมูลทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก รถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ สีแดง ศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา สีส้มศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เปิดยื่นข้อเสนอ ก.พ. ประกาศผู้ได้รับคัดเลือกเดือน พ.ค. เซ็นสัญญาเดือน ส.ค. 2561

ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 จะเปิดประมูลกลางปี และเซ็นสัญญาสิ้นปี 2561 รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ผ่านการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว กำลังเสนอบอร์ด PPP สายกรุงเทพฯ-โคราช เริ่มสร้างแล้วที่สถานีกลางดง-ปางอโศก 3.5 กม. ที่เหลือจะประมูลให้เสร็จในปี 2561 ส่วนรถไฟทางคู่เฟส 2 และทางคู่ 9 เส้นทางสายใหม่ เสนอ ครม.ในเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้

ส่วนโครงการที่ไม่อยู่ในแผนเร่งด่วน จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP fast track คือบำรุงรักษามอเตอร์เวย์ 30 ปี สายบางปะอิน-โคราช ระยะทาง 196 กม. แบ่งเป็นค่าก่อสร้างด่านและระบบ 15,611 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษา 18,962 ล้านบาท และบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. ค่าก่อสร้าง 12,636 ล้านบาท และค่าบำรุงรักษา 19,558 ล้านบาท

ปี 2561 จึงต้องลุยกันต่อกับเมกะโปรเจ็กต์ที่ผลักดันกันมานานหลายยุคหลายรัฐบาล
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 169, 170, 171 ... 278, 279, 280  Next
Page 170 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©