View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
src_50
3rd Class Pass
Joined: 18/07/2007 Posts: 48
Location: Rayong
|
Posted: 19/02/2008 3:20 pm Post subject: |
|
|
ทิวทัศน์สวยงามมากครับ อยากไปเที่ยวบ้างจัง ชอบเก้าอี้ที่ทำจากล้อรถไฟมาก ขอเอากลับไปไว้ใช้ที่บ้านได้มั้ยเนี่ย |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 19/02/2008 3:42 pm Post subject: |
|
|
Aishwarya wrote: | ดูแล้ว คิดถึงนครสวรรค์จังเลยค่ะ เมื่อเกือบ ๒ อาทิตย์ก่อนไปมา รู้สึกประทับใจมากๆ คราวหน้าถ้ามีโอกาสได้เที่ยวนครสวรรค์อีก จะขอไปอ.ท่าตะโกดูบ้าง แต่รอบที่ไปหนก่อนก็ไปเที่ยววัดคีรีวงศ์มาด้วยนะคะ ประทับใจมาก How impressive! เพื่อนสมาชิกคนนึงมีอาการเวียนหัว เมารถด้วยค่ะ อิอิ.
I do Love Nakhorn Sawan! |
ค๊า...น้องเชอรี่ขาพี่ก็คิดถึงน้องเหมือนกันค๊า.....แฟนพี่บอกว่าน้องเชอรี่ตัวจริงน่ารักมากค๊า.....เสียดายเราไม่ได้เจอกันเลยนะค่ะ........รักนะจุ๊บ จุ๊บ.....คงได้เจอกันตอนไปทุ่งสงละค่ะ.....ว่างๆๆจะไปเที่ยววัดก็ยินดีมากนะครับ.....ขอให้บอกครับ
|
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 20/02/2008 5:21 am Post subject: |
|
|
Toyota1500 wrote: | ..........พี่เบียร์ครับ เบื่อ ล้อชุดนี้ยังครับ ลายนี้ที่โคราชไม่มีเลย วีออสผมจอง ได้ไหมครับ |
มันเป็นขนาด 4 รู 122 อ่ะครับน้องต้น ถ้าเป็นวิออสจะใช้ 4 รู 100 มิใช่หรือครับผม น๊อตล้อที่ใช้ก็ต้องเป็นน๊อตเฉพาะครับ เพราะออฟเซ็ท 45 เวลาใส่แล้วจะติด ดิสเบรคอ่ะครับ มันใส่กันไม่ได้อ่ะครับ ถ้าน้องต้นชอบแม็กลายสวยๆ แนะนำว่าขับรถเข้ามาเลือกแถวรามอินทราเลยครับ ร้านจรัสล้อแม็กครับ ราคาไม่แพงครับ แต่ยางเราต้องใช้ของที่ดีดีหน่อยครับ งบประมาณถ้าเป็นแม็กนอก + ยางดีดีนะครับ 32000 บาทครับ ขอบอกว่ามีทุกลายทุกขนาดครับ |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 03/03/2008 11:53 pm Post subject: |
|
|
umic2000 wrote: |
ว่าแต่ท่านพี่เบียร์ พี่รูุ้้ไหมครับ ว่าพี่กำลังอยู่ตรงสุดปลายทางโครงการสร้างทางรถไฟขนฟืนสายหัวหวาย-ท่าตะโกอยู่นาพี่ โครงการถมดินคันทางมาถึงเขาลูกนี้แล้ว แต่รางวางมาถึงแค่บ.ปลายราง ต.อุดมธัญญา อ.ตากฟ้าเอง พี่ต้องขับรถไปทางถนนท่าตะโก-ตาคลีถึงจะเห็นหมู่บ้านนี้ครับ
|
แล้วในปัจจุบันนี้ยังมีร่อยรอย ของทางหลงเหลืออยู่ไหมครับ พี่อยากทราบรายละเอียดการไปหน่อยครับ จะได้ไปสำรวจมาฝากเพื่อนสมาชิกกันครับ พี่เองก็ไม่ค่อยชำนาญในทางสายนี้มากครับเพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ได้แค่ 3-4 ปีเองครับ และขอขอบคุณน้อง umic2000 มากนะครับที่มาให้ข้อมูลครับ ถ้าให้ดีพี่ขอทราบข้อมูล ของรางที่ยังหลงเหลือ หรือเพื่อนสมาชิกท่านใดทราบก็ รบกวนช่วยมากบอกกล่าวก็จักขอบพระคุณมากเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 23/04/2008 5:12 am Post subject: |
|
|
beer45 wrote: | umic2000 wrote: |
ว่าแต่ท่านพี่เบียร์ พี่รูุ้้ไหมครับ ว่าพี่กำลังอยู่ตรงสุดปลายทางโครงการสร้างทางรถไฟขนฟืนสายหัวหวาย-ท่าตะโกอยู่นาพี่ โครงการถมดินคันทางมาถึงเขาลูกนี้แล้ว แต่รางวางมาถึงแค่บ.ปลายราง ต.อุดมธัญญา อ.ตากฟ้าเอง พี่ต้องขับรถไปทางถนนท่าตะโก-ตาคลีถึงจะเห็นหมู่บ้านนี้ครับ
|
แล้วในปัจจุบันนี้ยังมีร่อยรอย ของทางหลงเหลืออยู่ไหมครับ พี่อยากทราบรายละเอียดการไปหน่อยครับ จะได้ไปสำรวจมาฝากเพื่อนสมาชิกกันครับ พี่เองก็ไม่ค่อยชำนาญในทางสายนี้มากครับเพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ได้แค่ 3-4 ปีเองครับ และขอขอบคุณน้อง umic2000 มากนะครับที่มาให้ข้อมูลครับ ถ้าให้ดีพี่ขอทราบข้อมูล ของรางที่ยังหลงเหลือ หรือเพื่อนสมาชิกท่านใดทราบก็ รบกวนช่วยมากบอกกล่าวก็จักขอบพระคุณมากเลยครับ |
ขออนุญาตขุดหน่อยนะครับ พอดีไล่อ่านมาเจอกระทู้ของพี่เบียร์ เดอะฟาสต์นี้พอดิบพอดีเลย
ปัจจุบันตอนนี้รางรถไฟไม่มีเหลือแล้วครับพี่เบียร์ เขารื้อถอนออกไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแต่แนวคันทางบางจุดที่ตอนนี้ยังพอมีให้เห็นบ้าง เนื่องจากสภาพส่วนใหญ่ถูกถนนสายท่าตะโก-ตาคลีสร้างทับไปเกือบหมดแล้วครับ บางช่วงก็ถูกชาวบ้านเอารถไถทลายคันทางจนแทบหาแนวทางเดิมไม่เจอ และแปลกมากที่ผมไม่พบหลักเขตรถไฟเลยแม้แต่หลักเดียว ไม่รู้ว่าโดนการรถไฟฯขุดไปหรือว่าถูกดินถมอยู่ข้างใต้ไปแล้วหรือว่าผมตาถั่วกันเองแน่ สภาพแนวคันทางโดยรวมที่เหลือยังพอมีแนวคันดินกับเศษหินรองรางเหลืออยู่นิดหน่อยพอให้สังเกตเห็นได้ครับ
โดยจุดแรกที่สังเกตเห็นแนวคันทางรถไฟขนฟืนได้ก็คือตรงจุดเริ่มต้นทางแยกสายนี้ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีหัวหวายทางด้านเหนือ แต่เราสามารถเดินเท้าหรือขับรถเข้ามาจากถนนเพียงนิดเดียวเองครับ โดยจากจุดเริ่มต้นนี้ทางแยกจะเบนขวาเข้าไปหาถนนสายท่าตะโก-ตาคลีหรือทางหลวงหมายเลข 3329 ซึ่งแยกมาจากถนนพหลโยธินข้างกองบิน 4 ตาคลีนั่นละครับ
เมื่อวิ่งมาตามถนนสายนี้เรื่อยๆจะเจอกับบ.หัวประแจซึ่งพอจะสันนิษฐานได้ว่าตรงหมู่บ้านนี้น่าจะเคยเป็นสถานีหรือจุดสับหลีกขบวนรถขนฟืนมาก่อน เมื่อมาเรื่อยๆตามถนนจนมาถึงถนนบริเวณนี้ตามภาพแล้วสังเกตแนวเส้นสีเหลืองในแผนที่นะครับพี่ ทางรถไฟจะวิ่งตรงแยกออกไปแต่ถนนจะเลี้ยวขวาออกมาแล้วไปบรรจบกันที่หมู่บ้าน (ผมก็ไม่ได้จดชื่อหมู่บ้านมาเสียอีก)
แล้วถนนก็จะวิ่งจนมาเจอกับถนนสายท่าตะโก-ตากฟ้าหรือทางหลวงหมายเลข 1145 ครับ ซึ่งตรงสามแยกนี้ก็เป็นที่ตั้งของบ.ปลายรางด้วย และสามารถวิ่งตามถนนในหมู่บ้านนี้ไปวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์หรือวัดโคกเขาเผ่นได้ด้วยครับ
ป.ล. เรียกผมว่า "เอก" ก็ได้ครับท่านพี่เบียร์ |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 23/04/2008 6:10 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณน้องเอกมากครับ ที่มาให้ข้อมูลคนใต้พลัดถิ่นอย่างผม ว่างๆๆ มานครสวรรค์แวะมาเที่ยวบ้านพี่ได้เลยครับ หรือโทรมาก่อนได้ครับ 083-9629433 ครับยินดีต้อนรับเสมอครับ |
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 24/04/2008 5:42 pm Post subject: |
|
|
ขอแวะมาเพิ่มเติมข้อมูลนะครับ
จากข้อมูลในหนังสือที่ระลึก 100 ปี รถไฟไทย ได้ตีพิมพ์ประวัติทางรถไฟขนฟืนสายหัวหวาย-ท่าตะโกนี้ไว้ดังนี้
หนังสือที่ระลึก 100 ปี รถไฟไทย wrote: | ทางแยกสายหัวหวาย-ท่าตะโก
ทางสายนี้ได้ก่อสร้างโดยการเริ่มจากได้แก้ไขปรับปรุงเส้นทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก ซึ่งเดิมเป็นทางเล็กใช้ลำเลียงฟืนตั้งแต่ปีพ.ศ.2450 เป็นขนาดทาง 1.00 เมตรเมื่อปี พ.ศ. 2483 โดยรัฐบาลได้ประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินบริเวณที่เวนคืน เมื่อ 6 พ.ค. 2484 แต่ยังไม่ได้ออกพระราชบัญญัติเวนคืนเนื่องจากเกิดสงครามโลก
จวบจนปีพ.ศ. 2490 กรมรถไฟฯจึงได้เริ่มสร้างทางในสายนี้แยกจากสถานีหัวหวาย ที่กม.204/320 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร และรัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติเวนคืนภายหลังเมื่อ 24 ก.พ. 2496 การเวนคืนได้กระทำแล้วเสร็จตลอดแนวเมื่อ 9 ก.ย. 2497
สำหรับการก่อสร้างกระทำได้ถึงบริเวณ "บ้านปลายราง" (กม. 223/700) ระยะทาง 19.380 กม.เท่านั้น เนื่องจากงบประมาณน้อย ทางช่วงต่อจากนั้นได้ถมดินคันทางไว้ถึงอำเภอท่าตะโก เป็นระยะทาง 35.464 กม. รวมระยะทางตลอดเส้นทาง 54.844 กม.
ต่อมาการรถไฟฯได้ยกเลิกกิจการรถไฟสายนี้ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2507 และมอบที่ดินให้กระทรวงการคลัง เมื่อ 21 เม.ย. 2513 ที่จังหวัดนครสวรรค์ |
ส่วนนี้เป็นประวัติบางส่วนของโรงพยาบาลตากฟ้า จาก http://203.157.114.10/homepage/tfhos/history.htm นะครับ
Quote: | ปี 2510-2517 เราไม่มีแพทย์ปฏิบัติงานประจำ เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ตอนนั้นมีคุณปาน อ่ำรอด สาธารณสุขอำเภอเป็นคนแรก มีพยาบาล 1 คน ผดุงครรภ์ 3 คน นานๆจะมีแพทย์จากตาคลีมาช่วยบริการตรวจ-รักษาเป็นครั้งคราว แต่สายงานการบังคับบัญชาเราแยกจากอำเภอตาคลี เมื่อยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อ พ.ศ.2513 เวลาออกหน่วยเคลื่อนที่สมัยก่อนๆ เราไม่มียาแจกเหมือนสมัยตั้งแต่มีแพทย์ประจำ ส่วนมากจะเป็นไปในรูป ฉีดวัคซีนป้องกันเสียส่วนใหญ่ ถนนดินลำบากมากหน้าฝนเราจะนั่งรถแทรกเตอร์ติดเทลเล่อร์ (ชาวบ้านเขาเรียกว่า สาลี่) ตำบลที่ไกลที่สุดคือตำบลอุดมธัญญา สมัยนั้นมีอุบัติเหตุจากรถไถนาที่ติดสาลี่มาก มาทีก็เสียชีวิตอย่างน้อย 2-3 ศพ เวลาออกหน่วยที่นึง เราก็อาราธนาพระช่วยคุ้มครองเกือบทุกครั้ง ตำบลอุดมธัญญา เวลาไปกับรถติดสาลีขากลับ จะขอกลับทางหมู่บ้านปลายราง นั่งรถถ่อติดเครื่องเรือหางยาวไปตามรางเหมือนรถไฟ ไปขึ้นสถานีรถไฟหัวหวาย รถใช้ไม้ประกอบเป็นรถเป็นชิ้น ๆ เวลาสวนทางกันสามารถยกหนีหลีกทางกันได้ เวลาวิ่งแรง ๆ แรงสั่นสะเทือนของเครื่องเจ้าไม้ที่ประกอบบางทีก็ยืดออก บางทีก็หดเข้าหนีบเก้าเราสะดุ้งสุดตัวก็มี เราต่อรถไฟจากหัวหวายถึง อ.ตาคลี แล้วต่อรถเมล์โดยสารประจำทางกลับตากฟ้า เป็นการออกหน่วยที่ประทับใจมาก เพราะหาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้ |
จากข้อมูลส่วนนี่ยืนยันได้ว่าทางรถไฟสายนี้ ณ เวลาหลังปีพ.ศ. 2503 นั้นยังไม่ถูกรื้อถอนรางออกไปแต่ก็มิได้มีการทำขบวนรถขนฟืนอีกแล้ว ชาวบ้านเองจึงได้ใช้พวกรถถ่อหรือรถรางไม้ไผ่ติดเครื่องยนต์วิ่งบนราง ส่วนการก่อสร้างถนนหลวงหมายเลข 3329 นั้นน่าจะทำภายหลังปีพ.ศ. 2520 เป็นต้นมาครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/07/2008 1:05 am Post subject: |
|
|
คุณ umic2000 ครับ
ผมลองเปิดราชกิจจานุเบกษา ปี 2489 ดู ตอน 25 เล่ม 63 หน้า 249
จากภาพนี้ ด้านขวามือมันจะมีโค้งหักมุมฉาก ตรง ต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ น่ะครับ
ตรงนั้น คันทางโบราณยังอยู่นะครับ ตามภาพ (สีแดงผมตั้งใจให้ห่างจากแนวคันทางจริงๆ มานิดนึง จะได้ไม่บัง ดูง่ายขึ้นนะครับ
|
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 14/12/2008 5:17 pm Post subject: |
|
|
ขออนุญาตขุดกระทู้นะครับ เนื่องจากภาพที่ผมจะลงต่อไปนี้ก็เป็นภาพเกี่ยวกับวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์หรือวัดโคกเขาเผ่นเช่นกันครับ เนื้อหาก็ต่อเนื่องมาจากในกระทู้ของพี่เบียร์นี่เองครับ ถ่ายภาพไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๑ สัปดาห์ก่อนที่งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์นี่เองครับ
จริงๆในตอนท้ายของภาพชุดนี้ ผมกะว่าจะลงภาพคันทางของโครงการทางรถไฟขนฟืนสายหัวหวาย-ท่าตะโกบริเวณสามแยกวัดทำนบด้วย แต่แล้วก็เหมือนบุญมีแต่กรรมบังครับ เดินสำรวจจนน้ำร้อน ควันดำ เร่งไม่ขึ้นกะว่าจะเก็บภาพสัก ๔-๕ ภาพ แต่ถ่านกล้องถ่ายรูปเจ้ากรรมดันหมดครับ ถ่านสำรองก็ไม่มี แต่เอาละครับมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จะพร่ำพรรณาอยู่ไย ในเมื่อคันทางตรงนี้มันไม่ได้หนีไปไหนอยู่แล้ว คราวหน้ามาถ่ายใหม่ก็ได้ครับ
ก่อนอื่นขอเริ่มเกริ่นก่อนว่า วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯประกอบด้วยพื้นที่จำนวน ๓ ชั้น ในชั้นแรกจะเป็นชั้นที่อยู่ของกุฏิสงฆ์ ชั้นที่ ๒ จะเป็นชั้นของโบสถ์รูปเรือสถานที่ประกอบศาสนพิธีครับ และในชั้นที่ ๓ ชั้นบนสุดจะเป็นชั้นของเจดีย์ศรีพุทธคยาครับ
ขอเริ่มที่ภาพแรกคือบันไดทางขึ้นที่ชั้นแรกของวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯครับ ที่ชั้นแรกนี้เป็นชั้นที่บรรดาผู้มาเยือนจะนำรถมาจอดกัน เพราะถ้าจะนำรถขึ้นไปเองที่ชั้น ๒ และ ๒ นั้น สภาพทางค่อนข้างอันตรายเนื่องจากมีความลาดชันและมีโค้งมาก แม้แต่รถกระบะ ๔x๔ ยังขึ้นไปได้ยากมากครับ แต่ทางวัดเองก็มีรถสองแถวและรถตู้คอยบริการขนส่งขึ้นไปยังชั้นต่างๆ โดยคิดค่าบริการ ๒๐ บาทครับ
ในภาพนี้ โปรดสังเกตทางด้านขวาของบันไดจะมีป้ายบอกทางไปยังพระพระตำหนักราชนครินทร์ เรือนประทับในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ครับ
ผมกับแม่ได้เลือกใช้บริการรถตู้ให้ไปส่งที่ชั้น ๓ ก่อนแล้วจะเดินลงมาในภายหลัง ซึ่งสภาพทางก็น่ากลัวมากเลยครับ ทางโค้งหักศอกบางจุดไม่มีรั้วกั้นเลย น่าหวาดเสียวจริงๆ
เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นถ่ายภาพทิวทัศน์รอบองค์ พระเจดีย์ศรีพุทธคยา ก่อนครับ ซึ่งบริเวณด้านหน้าขององค์เจดีย์ศรีพุทธคยาในขณะนั้นกำลังมีการจัดเตรียมงานและประดับตกแต่งผ้าขาว-ดำเพื่อน้อมถวายการไว้อาลัยแด่องค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์อุปถัมภ์ของวัดแห่งนี้ซึ่งมีหมายกำหนดการพระราชทานเพลิงพระศพในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 นี้ครับ
ผมเองก็ได้เริ่มเกบรูปตามจุดต่างๆ โดยเริ่มเก็บภาพทิวทัศน์บริเวณรอบๆวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์จากลานหน้าองค์เจดีย์ศรีพุทธคยานี้ก่อนครับ โดยภาพแรกเป็นภาพทิวเขาในเขตอ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ครับ
Last edited by umic2000 on 15/12/2008 3:14 am; edited 4 times in total |
|
Back to top |
|
|
|