View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/05/2008 7:15 am Post subject: |
|
|
จากเมื่อหลายวันก่อน พาลูกทัวร์มาดักเก็บภาพ ขบวนรถด่วนที่ 85 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีนครศรีธรรมราช ที่ สะพานจุลจอมเกล้า แล้ว ผมก็จะขอพาทุก ๆ คนเดินสำรวจสะพาน พร้อม ๆ กับชมบรรยากาศบนสะพานแห่งนี้กันต่อเลยแล้วกันครับ
เริ่มกันที่แผนที่จาก Pointasia แสดงพื้นที่ 2 ข้างทางรถไฟจาก สถานีสุราษฎร์ธานี ไปจนถึง สะพานจุลจอมเกล้า ลองวัดระยะทางคร่าว ๆ ได้ประมาณ 1.3 กิโลเมตรครับ
สะพานจุลจอมเกล้า ทางด้านทิศตะวันออก ( ฝั่ง สถานีสุราษฎร์ธานี ) มองไปทางทิศตะวันตก หรือ สถานีชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ ครับ
ประวัติสะพานจุลจอมเกล้า จาก Website ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
http://www.suratthani.go.th/ wrote: | สะพานจุลจอมเกล้าข้ามแม่น้ำตาปี ในทางหลวง 4153 ตอนแยกทางหลวง หมายเลข 41 ( บ. หนองขรี ) อ. พุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สะพานเดิมก่อสร้างเป็นสะพานโครงเหล็ก 3 ช่องจราจรเป็นทางรถไฟ 1 ช่องจราจรกว้าง 1 เมตร และทางรถยนต์ 2 ช่องจราจรกว้างช่องละ 3 เมตรความยาวสะพานแบ่งตาม ตอม่อเป็น 3 ช่วงคือ ( 80 + 60 + 60 เมตร ) รวมความยาวสะพาน 200 เมตร สะพานแห่งนี้เปิดการจราจรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2459 และในปี พ.ศ. 2468 ตัวสะพานโครงเหล็กถูกระเบิดพังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้มีการบูรณะ สะพานใหม่โดยใช้ฐานรากตอม่อเดิมและเปิดใช้การจราจร อีกครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 จนถึงปัจจุบัน ทำให้สะพานนี้มีอายุการใช้งานมา นานกว่า 50 ปี ตัวสะพานจึงมีสภาพชำรุดจนต้องจำกัดน้ำหนักยวดยานที่วิ่งผ่าน สะพานโดยห้ามรถบรรทุก 10 ล้อวิ่งผ่านประกอบกับสะพานเดิมแคบมีโค้งอันตราย และมีปริมาณจราจรเพิ่มมากขึ้นตามความเจริญเติบโตของบ้านเมือง ทำให้สะพานเดิมไม่ สามารถรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นได้อย่างเพียงพอ
ในปี พ.ศ. 2539 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานกรรมาธิการคมนาคม พิจารณาเห็นว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางสายนี้เป็นประตูเข้า - ออกตัวเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี จึงได้เสนอกระทรวงคมนาคมให้กรม ทางหลวงดำเนินการก่อสร้างทางหลวงสายนี้ พร้อมทั้งก่อสร้างสะพานจุลจอมเกล้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสะพาน สำหรับให้ยวดยานพาหนะต่าง ๆ รวมทั้งรถบรรทุก 10 ล้อสามารถใช้การจราจรได้รวดเร็ว สะดวก ปลอดภัย เพื่อเป็นการทดแทนสะพานจุลจอมเกล้าเดิม ซึ่งจะใช้เป็นเส้นทางสำหรับทางรถไฟแต่เพียงอย่างเดียวต่อไป และเมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็ได้แร่งรัด กรมทางหลวงให้เร่งดำเนินการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4153 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 41 ( บ. หนองขรี ) อ. พุนพิน ซึ่งประกอบด้วยการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำตาปีแห่งใหม่ สะพานข้ามทางรถไฟ สายใต้ และก่อสร้างทางหลวงที่เป็นโครงข่ายเชื่อมต่อกับ สะพานทั้ง 2 แห่งเพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนของประชาชนในการใช้เส้นทางดังกล่าว และได้มีพิธีเปิดการจราจรเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2543 |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/05/2008 7:30 am Post subject: |
|
|
ป้ายที่ติดอยู่ด้านบนสะพานเขียนเอาไว้ว่า
ข้อมูลตามป้าย wrote: | สะพานจุลจอมเกล้า
ซ่อมสร้างเสร็จ พ.ศ. 2496 |
ทางด้านขวาของสะพานมีทางเดินที่เป็นแผ่นไม้วางต่อ ๆ กันอยู่ด้วย แต่สภาพก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ผมเองคิดว่าคงจะไม่มีใครนึกสนุก ใช้ทางเดินที่เห็นอยู่นี้เดินข้ามแม่น้ำตาปีไปยังอีกฝั่งหนึ่งของสะพานนานมากแล้วล่ะครับ ก็เพราะว่ามีถนนกว้าง ๆ อยู่ด้านในสะพานให้เลือกใช้แทนนี่ครับ ส่วนทางด้านขวาของรูปนั้นเป็นสะพานรถยนต์ที่สร้างขึ้นใหม่ ( ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว ) ตามข้อมูลที่ได้ให้ไปแล้วข้างต้นครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/05/2008 7:55 am Post subject: |
|
|
โครงสร้างของสะพานที่ตั้งอยู่บนคอสะพานครับ
ปีนลงมาดูโครงสร้างของสะพานที่อยู่ใต้ระดับของแนวรางรถไฟ และใต้พื้นถนนครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 21/05/2008 8:04 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
karoon
3rd Class Pass (Air)
Joined: 05/04/2007 Posts: 252
Location: ลาดพร้าว 71 นาคนิวาส
|
Posted: 21/05/2008 7:58 am Post subject: |
|
|
สุดยอด จริงๆ ครับ
ทุ่มเทกันมากๆเลย
นับถือ
.......................... |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/05/2008 8:05 am Post subject: |
|
|
ทางรถไฟที่อยู่บนสะพานนั้นใช้หมอนเหล็ก ที่มาพร้อม ๆ กับรางกันตกสะพาน และอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวรางแบบที่เห็นกันจนชินตา แล้วถ้ามองลงไปด้านล่างจะเห็นว่าริมแม่น้ำตาปี ฝั่ง สถานีสุราษฎร์ธานี นั้นมีถนนเส้นเล็ก ๆ ลอดใต้ทางรถไฟไปด้วยครับ
รางกันตกสะพานที่อยู่บน สะพานจุลจอมเกล้า แห่งนี้เป็นรางขนาด 70 ปอนด์ ส่วนทางประธานแค่ดูก็รู้ว่าเป็นรางขนาด 100 ปอนด์ ส่วนหลักฐานยืนยันมีให้ดูแน่ ๆ ครับ อดใจรออีกสักครู่
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
arhaja
3rd Class Pass
Joined: 14/05/2007 Posts: 147
Location: ปทุม
|
Posted: 21/05/2008 8:31 am Post subject: แอบย่องตามเงียบๆ |
|
|
แอบย่องตามเงียบๆ ตลอดเส้นทางครับน้องเต้ย |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 21/05/2008 9:05 am Post subject: |
|
|
โครงสะพานดูแล้วสนิมเริ่มลุกลามนะครับ คงมีโครงการทำสีใหม่ในอีกไม่นานนี้กระมัง ? |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/05/2008 9:29 am Post subject: |
|
|
arhaja wrote: | แอบย่องตามเงียบๆ ตลอดเส้นทางครับน้องเต้ย |
ไม่ต้องย่องเงียบก็ได้ครับพี่อู๊ด บังเอิญไกด์ทัวร์เป็นคนขี้เหงาซะด้วย เห็นกระทู้เงียบ ๆ ถ้าเบื่อเมื่อไหร่เดี๋ยวหนีไปเที่ยวนานเป็นเดือนอีกนะครับ ( ผ่านมานานแล้ว ไม่จบซะที )
black_express wrote: | โครงสะพานดูแล้วสนิมเริ่มลุกลามนะครับ คงมีโครงการทำสีใหม่ในอีกไม่นานนี้กระมัง ? |
ถ้าถึงเวลานั้นแล้วมีพี่ ๆ น้อง ๆ แจ้งข่าวมาเข้าหู จะทุบกระปุกลูกหมู ซื้อตั๋วนั่งรถไฟลงไปดูครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ผมพาลูกทัวร์ทุกคนเดินผ่านช่วง Span แรกมาจนถึงช่วง Span ที่ 2 ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำตาปีแล้วครับ
มาถึงกลางแม่น้ำแล้ว ก็ต้องขอชื่นชมบรรยากาศบนสะพานกันสักหน่อย ถ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ( สถานีชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ ) แล้วหันมองไปทางขวา ก็จะเห็นสะพานรถยนต์บังอยู่เต็ม ๆ เลยครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะดูวิวสวย ๆ ก็คงต้องหันมองออกไปทางซ้ายเพียงแค่ด้านเดียว จะเห็นแม่น้ำตาปีอันกว้างใหญ่แบบนี้
ผมมองไล่แนวลำน้ำของแม่น้ำตาปีในแผนที่จาก Pointasia ไม่ค่อยชัดเจนครับ เพราะว่ากลุ่มเมฆบังอยู่หลายจุด อาจจะให้รายละเอียดผิดพลาดได้ เลยเปลี่ยนไปหาข้อมูลใน Google ดู ก็ไปเจอใน รักบ้านเกิด.คอม ที่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแม่น้ำตาปีเอาไว้ว่า...
http://www.rakbankerd.com wrote: | แม่น้ำตาปี ยาวประมาณ 200 กิโลเมตร ตั้งต้นจากภูเขาหลวงในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีแควเล็กแควน้อยไหลมาบรรจบกันหลายแคว จนรวมเป็นแม่น้ำสายใหญ่ เรียกว่า " แม่น้ำตาปี " ไหลมาจากอำเภอฉวาง ผ่านอำเภอทุ่งใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานีในอำเภอพระแสง อำเภอบ้านนาสาร อำเภอเคียนซา อำเภอพุนพิน และอำเภอเมืองฯ ออกสู่ทะเลที่อ่าวบ้านดอน |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/05/2008 9:59 am Post subject: |
|
|
เท่าที่ผมลองเดินดูแล้ว ที่ สะพานจุลจอมเกล้า แห่งนี้ ไม่มี nameplate ติดอยู่ครับ แต่ที่โครงเหล็กทั้ง 3 ช่วง Span นั้นมีตัวอักษรนูน ๆ สลักอยู่ อ่านได้ความว่า
" DORMAN LONG & COLD MIDDLESBROUGH 1 " รู้สึกคุ้น ๆ กันบ้างหรือเปล่าครับ
นั่นก็เป็นเพราะว่าโครงเหล็กที่นำมาประกอบกันจนเป็น สะพานจุลจอมเกล้า แห่งนี้ มาจากโรงงานเดียวกันกับที่ผลิตโครงเหล็กของ สะพานพระราม ๖ ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/05/2008 10:15 am Post subject: |
|
|
เดินต่อมาจนถึงช่วง Span ที่ 3 ซึ่งเป็นช่วง Span สุดท้ายของ สะพานจุลจอมเกล้า ครับ
จริง ๆ แล้วโครงสร้างของช่วง Span นี้ก็ไม่ต่างจากทั้ง 2 ช่วง Span ที่เดินผ่านมาสักเท่าไหร่ครับ แต่ผมเห็นว่ามีป้ายระบุพิกัดน้ำหนักกดเพลาที่สะพานแห่งนี้รับได้ติดอยู่ที่โครงสะพานด้วย
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|