View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 08/08/2008 9:41 am Post subject: |
|
|
alderwood wrote: | ภาพของคุณกิมหยงที่พี่หม่องวินนำมาให้ดู ผมเริ่มสังเกตสะพานคล้ายๆกับที่เคยตั้งข้อสังเกตกับสะพานข้ามแม่น้ำมูลที่ท่าช้างครับ ดูจากรูปแล้วคานค่อนข้างห่างมากกว่าตำแหน่งของรางที่วางไว้ แต่สายนี้ไม่ได้มีการใช้ราง 1.435 เมตรเลย ก็เลยน่าสงสัยกับข้อสันนิษฐานที่ผมเคยตั้งไว้ครับ |
- สังเกตว่าอย่างไรครับ
(ขออภัยที่ถาม กระทู้มากจริงๆ ครับ ไม่สามารถอ่านได้ครบทุก post)
- ราง 1.435 เมตร ใช้ในบ้านเราช่วง พ.ศ.ใด - พ.ศ.ใดครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42620
Location: NECTEC
|
Posted: 08/08/2008 9:57 am Post subject: |
|
|
rodfaithai wrote: | alderwood wrote: | ภาพของคุณกิมหยงที่พี่หม่องวินนำมาให้ดู ผมเริ่มสังเกตสะพานคล้ายๆกับที่เคยตั้งข้อสังเกตกับสะพานข้ามแม่น้ำมูลที่ท่าช้างครับ ดูจากรูปแล้วคานค่อนข้างห่างมากกว่าตำแหน่งของรางที่วางไว้ แต่สายนี้ไม่ได้มีการใช้ราง 1.435 เมตรเลย ก็เลยน่าสงสัยกับข้อสันนิษฐานที่ผมเคยตั้งไว้ครับ |
- สังเกตว่าอย่างไรครับ
(ขออภัยที่ถาม กระทู้มากจริงๆ ครับ ไม่สามารถอ่านได้ครบทุก post)
- ราง 1.435 เมตร ใช้ในบ้านเราช่วง พ.ศ.ใด - พ.ศ.ใดครับ |
เท่าที่ทราบนั้น ทางรางมาตรฐานมีใช้เฉพาะ ทาง กรุงเทพ - โคราช กรุงเทพ - แปดริ้ว และ กรุงเทพ -เชียงใหม่เท่านั้น
เหตุที่สะพานทีสงขลามันกว้างกว่าปกติก็เพราะ จะได้ให้ รถ บตญ หรือ รถโดยสาร ของ FMSR เข้าไปได้ เพราะ รถพ่วง FMSR โตกว่า รถพ่วง ของกรมรถไฟ น่อ |
|
Back to top |
|
|
alderwood
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 08/08/2008 10:30 am Post subject: |
|
|
rodfaithai wrote: | - สังเกตว่าอย่างไรครับ |
พี่มิงค์ครับ ปกติที่ผมเคยลองเดินบนสะพาน (แต่ไม่เท่าพี่เต้ย) ก็สังเกตว่า คานของตัวสะพานในแนวยาวนั้น จะวางไว้ตำแหน่งที่ตรงกับรางพอดี แต่ที่ท่าช้างนั้น คานจะอยู่ด้านนอกรางครับ แต่พอมาเห็นรูปของคุณกิมหยงก็แปลกใจดูเหมือนว่าคานที่ว่ามันอยู่นอกรางครับ
อันนี้เป็นข้อสังเกตที่พี่เต้ยช่วยอธิบายอีกทีครับ
สะพานข้ามแม่น้ำมูลที่ท่าช้าง
ExtendeD wrote: | รูปนี้น่าจะอธิบายสิ่งที่น้องธีเล่าให้ฟังได้อย่างชัดเจนที่สุดครับ ตามปกติแล้วรางรถไฟจะวางอยู่ในแนวเดียวกันกับคานเหล็กที่รองรับน้ำหนักอยู่ข้างใต้ อย่างที่เห็นในรูปแถบสีเงินนั้นคือแนวของคานเหล็กที่รองรับน้ำหนักอยู่ข้างล่าง ถ้าวางรางเอาไว้ตามแนวนี้ก็น่าจะวัดความกว้างของรางได้เท่ากับ 1.435 เมตร ตามที่น้องธีพูดถึง แต่รางรถไฟที่วางอยู่บนสะพานนั้น วางอยู่คนละแนวกับคานเหล็กครับ
|
_________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/08/2008 6:20 pm Post subject: |
|
|
สะพานร้างที่น้ำน้อยปัจจุบัน ซึ่งรางหายไปแล้ว
เป็นสะพานตัวแรกดั้งเดิมสมัยปี 2456 หรือเปล่านะครับ
หรือว่าสร้างใหม่
ผมเดาว่าเป็นสะพานเดิม เพราะภาพเหมือนกับในหนังสือสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ฯ ทุกประการเลย
ผู้ออกแบบมีวิสัยทัศน์ดีมากนะครับ เผื่อไว้อย่างที่คุณวิศรุตบอกเลย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/12/2008 4:22 pm Post subject: |
|
|
จากภาพเก่าราวปี พ.ศ. 2477 สมบัติของคุณพรเลิศ ละออสุวรรณ ข้างล่างนี้
ทำให้ทราบว่า จริงๆ แล้วมีประแจอีก 2 ตัว เชื่อมราง 2 ของทางรถไฟสายท่าเรือทะเลสาบสงขลา กลับเข้าสู่รางประธานที่มีตู้ ตญ.จอดอยู่ด้วยครับ
ตำแหน่งของประแจ 2 ตัวนี้ ผมยังหาไม่พบครับ น่าจะอยู่ใต้บ้านบุกรุกที่ไหนสักแห่งครับ
เพราะดูจากภาพ ใกล้ทะเลสาบสงขลาแล้ว น่าจะอยู่เลยจุดตัดถนนนครนอกไปอีกครับ
จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7301168/E7301168.html
Last edited by Mongwin on 12/12/2008 5:24 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/12/2008 4:25 pm Post subject: |
|
|
ซึ่งหากดูในภาพนี้ จะเห็นเพียงประแจตัวเดียวที่แยกเข้าราง 2 ครับ
แต่ประแจสองตัวในภาพของคุณพรเลิศ อยู่ไกลเกินกว่าที่จะมองเห็นครับ
ภาพจากหนังสือ สมบัติเมืองสงขลา โดยเอนก นาวิกมูล |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/12/2008 4:37 pm Post subject: |
|
|
ทางเชื่อมที่ค้นพบใหม่ คือสีเขียวในภาพข้างล่างนี้ครับ
|
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 12/12/2008 7:00 pm Post subject: |
|
|
ภาพนี้สุดยอดจริงๆครับท่านอ.เอก บรรยากาศในภาพคลาสสิกมากจริงๆครับ
แต่เอ...อาจารย์ครับ ผมลองมองดูรางทางซ้ายมือมันพุ่งตรงไปที่ท่าเรือเลยนี่ครับ ไม่เห็นเบนออกทางซ้ายเหมือนแนวเส้นสีแดงในภาพจาก Google Earth เลยครับ หรือว่าผมเข้าใจผิดไปเอง ? |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/12/2008 8:15 pm Post subject: |
|
|
จริงๆ ด้วยสิครับน้องเอก
อย่างนี้แสดงว่า ราง 2 (รางทางซ้าย) จะต้องมีการแก้ใหม่ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งครับ
เพราะในภาพถ่ายทางอากาศปี 2517 รางก็โค้งแล้ว
แสดงว่ามีการสร้างท่าเรือขึ้นใหม่ทางด้านซ้ายของท่าเรือเดิม หลังปี 2477 แต่ก่อนปี 2517 ครับ
ไว้จะลองหาหลักฐานแผนที่มาอ้างอิงนะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อสังเกตครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/12/2008 8:03 am Post subject: |
|
|
umic2000 wrote: | แต่เอ...อาจารย์ครับ ผมลองมองดูรางทางซ้ายมือมันพุ่งตรงไปที่ท่าเรือเลยนี่ครับ ไม่เห็นเบนออกทางซ้ายเหมือนแนวเส้นสีแดงในภาพจาก Google Earth เลยครับ หรือว่าผมเข้าใจผิดไปเอง ? |
ผมเลยไปเอาแผนที่เขตต์เทศบาลเมืองสงขลา พ.ศ.๒๔๗๘ มาดูครับ
เนื่องจากคุณพรเลิศ ละออสุวรรณบอกว่าภาพโปสการ์ดขอบหยักดังกล่าวถ่ายเมื่อปี 2477
ดังนั้นอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ผลปรากฏว่า
สีม่วงคือ ประแจตัวแรก เมื่อเลยโค้งที่มีคนสองคนขี่จักรยานในปี 2491 ครับ (โค้งอยู่ที่มุมล่างซ้ายซึ่งเป็นสี่แยก)
สีเขียว คือประแจตัวที่สองและสามที่ค้นพบใหม่
สีแดง คือท่าเรือ
รางด้านซ้าย เป็นเส้นตรงจริงๆ อย่างที่น้องเอก umic2000 ตั้งข้อสังเกตไว้ครับ
แสดงว่าในภาพถ่ายทางอากาศปี 2517 และรางบนท่าเรือที่เห็นเหลืออยู่ในปัจจุบันนั้น
เป็นการปรับปรุงเพิ่มเติมในภายหลังจริงๆ ด้วยครับ
|
|
Back to top |
|
|
|