RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179700
ทั้งหมด:13490932
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เรื่องของสายโทรเลข
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เรื่องของสายโทรเลข
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/07/2006
Posts: 1346

PostPosted: 23/04/2008 1:43 pm    Post subject: Reply with quote

การสื่อสารทางโทรเลขในประเทศไทย เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2412
โดยนายแฮนรีริส และ นายเปเตอร์สัน เจ้าพนักงานบริษัทเดินสายโทรเลข ของอังกฤษ
ได้ยื่นเรื่องราวต่อรัฐบาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสนอขอสัมปทานตั้งบริษัทอังกฤษ ทำการสร้างและดูแลรักษาเส้น ทางสายโทรเลขตามหัวเมืองมณฑลต่าง ๆ
ภายในพระราชอาณาจักรสยาม
.
.
.
ในปี พ.ศ. 2418 รัฐบาลจึงได้ลงมือสร้างทางสายโทรเลขในประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก
โดยมอบให้กรมกลาโหมเป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการ ทางโทรเลขสายแรกที่ได้สร้างขึ้น คือ
สายระหว่างกรุงเทพฯกับสมุทรปราการ มีระยะทาง 45 กม.
ต่อมาภายหลังได้ต่อสายนี้ไป ถึงแหลมภูราย และจากแหลมภูรายได้มีการทอดสายลวดใหญ่ใต้น้ำ
(เคเบิลใต้น้ำ) ต่อออกไปจนถึงประภาคารที่ปากน้ำเจ้าพระยา
เพื่อใช้สำหรับส่งข่าวสารเกี่ยวกับการเดินเรือผ่านเข้าออกสันดอนมายังกรุงเทพฯ
ต่อจากนั้น ในปี พ.ศ. 2421 ได้มีการสร้างสายโทรเลขสายที่สองขึ้น
ระหว่างกรุงเทพฯ ถึงบางปะอินและต่อมาได้ขยายออกไปถึงพระนครศรีอยุธยา
ทางสายโทรเลขทั้ง 2 สายนี้ ในขั้นต้นกำหนดให้ใช้เฉพาะราชการเท่านั้น

เครื่องโทรเลขที่ใช้อยู่ในสมัยนั้น เป็นเครื่องแบบ Simple Morse System
และได้มีการเริ่มสร้างสายโทรเลขโดยลวดอาบสังกะสีในสายบูรพาเป็นสายแรก
จากกรุงเทพฯผ่านจังหวัดปราจีนบุรี กบินทร์บุรี อรัญประเทศ ศรีโสภณ จนถึงคลองกำป่งปรัก อันเป็นพรหมแดนประเทศสยาม
และประเทศกัมพูชาในปกครองฝรั่งเศส และต่อเข้ากับสายโทรเลขอินโดจีน
เชื่อมโยงกับเมืองไซ่ง่อนซึ่งนับว่าเป็นสายโทรเลขสายแรกที่ติดต่อกับต่างประเทศได้
และได้มีการเปิดบริการให้สาธารณชนใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2426
เป็นต้นมา อัตราค่าคำโทรเลขในพระราชอาณาจักรนั้นคิดคำละ 1 เฟื้อง
และได้มีการเปิดทางโทรเลขสายระหว่างกรุงเทพฯ ถึง สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ถึง อยุธยา
ให้ประชาชนใช้ โดยคิดค่าคำโทรเลขคำละ 2 ไพ

ที่มา :

http://203.121.175.10/history_post/his1.html



ต่อมา

ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
(สมัยนั้น เรียกว่า สหภาพโทรเลขระหว่างประเทศ) เมื่อ วันที่ 1 กรกฎาคม 2428
และได้เริ่มใช้กฎข้อบังคับ และระเบียบการโทรเลขระหว่างประเทศสำหรับบริการระหว่างประเทศ
และในช่วงระยะเวลาระหว่าง พ.ศ. 2438-2440 ได้มีการสร้างสายโทรเลข เพิ่มขึ้นอีก 3 สายคือ
1. สายชลบุรี-ตราด ผ่านศรีราชา จันทบุรี ระยอง
2. สายศรีราชา-เกาะขาม
3. สายสวรรคโลก-แม่สอด
อนึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในการดำเนินงานโทรเลขระยะตั้งแต่เดือนมีนาคม 2426 จนถึงเดือนเมษายน 2427 นั้น
ปรากฎว่าขาดทุนเป็น จำนวนมาก โดยมีรายรับทั้งสิ้น 25,588.50 บาท ในขณะที่มีรายจ่ายรวม 178,265.75 บาท


อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะขาดทุนแต่กรมโทรเลขก็ยังดำเนินงานโทรเลขต่อไปไม่หยุดยั้งและ
ได้ขยายบริการต่อไป ดังเช่นในปี พ.ศ. 2441 ได้มีการ สร้างสายโทรเลขระหว่างไทรบุรี-สงขลา และไทรบุรี-กัวลาบุดา ซึ่งสายที่สองนี้เชื่อมต่อกับสายโทรเลขของสหพันธรัฐมลายา
จึงได้มีการติดต่อกับปีนัง และสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีการขยายงานโทรเลขออกไปทั่วราชอาณาจักร และได้มีการจัดตั้งชุมสายโทรเลขขึ้นตามเมืองสำคัญทั้งหมดซึ่งสามารถ เชื่อมโยงกับกรุงเทพฯได้อย่างดี

ที่มา :

http://203.121.175.10/history_post/hisframeset2.html
Back to top
View user's profile Send private message
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/07/2006
Posts: 1346

PostPosted: 23/04/2008 2:34 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

หน้าจอ Terminal ของโทรเลขยุคสุดท้ายก่อนจะเลิกใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ขอบคุณที่มา :

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=224512
Back to top
View user's profile Send private message
saraburi
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/07/2006
Posts: 3321
Location: ถิ่นเนื้อนุ่ม นมดี กะหรี่(ปํ๊บ)ดัง สระบุรี

PostPosted: 23/04/2008 2:48 pm    Post subject: Reply with quote

RORONOA wrote:
เคยสังเกตรึเปล่าครับว่ามีเสาโทรเลขบางช่วงที่ไม่ได้มี 16 ต้น ตามหลักอย่างเช่นหน้าบ้านผมจะมีเสาต้นที่ 17 ด้วยไว้จะเก็บภาพมาให้ชมทีหลังครับ แต่ผมยังไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมเสาโทรเลขถึงต้องมี 16 ต้น


16 ต้นนี้ ก็เหมือนมาตรฐานการนับ สทล ในทางปรกติครับ อย่าง ในทางเขาแถวๆ ผ่าเสด็จ - มวกเหล็กนี้ มี 20 -30 ต้น ต่อ 1 กม เชียวครับ Laughing
_________________
ช่างภาพระดับพื้นโลก

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/07/2006
Posts: 1346

PostPosted: 23/04/2008 3:17 pm    Post subject: Reply with quote

RORONOA wrote:
เคยสังเกตรึเปล่าครับว่ามีเสาโทรเลขบางช่วงที่ไม่ได้มี 16 ต้น ตามหลักอย่างเช่นหน้าบ้านผมจะมีเสาต้นที่ 17 ด้วยไว้จะเก็บภาพมาให้ชมทีหลังครับ แต่ผมยังไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมเสาโทรเลขถึงต้องมี 16 ต้น


สายโทรเลขถือเป็นสายนำสัญญาณอย่างหนึ่ง

โดยทั่วไปการเดินสายนำสัญญาณ(หรือ สายไฟฟ้า หรือ ใยแก้วนำแสง) พาดไปตามเสา ก็จะมีข้อกำหนดว่า
ให้มีระยะการยึด(แขวน) ทุกระยะกี่เมตร(หรือฟุต) เพื่อไม่ให้สายเสียหายเนื่องจากน้ำหนักของตัวมันเอง

จริงๆ แล้วเราไม่ทราบว่ามาตรฐานของสายโทรเลขเป็นเท่าไร
แต่ก็อาศัยการคิดย้อนกลับไปว่า
ถ้าเรายึด สาย (ปักเสา) ที่ระยะ 1 กิโลเมตร (ช่วงเดียว)มันก็ไกลเกินไป
ที่ระยะ 500 เมตร (สองช่วง) ก็ไกลเกินไปอยู่
ที่ระยะ 250 เมตร (สี่ช่วง) มันก็ยังไกลเกินไป
ที่ระยะ 125 เมตร (แปดช่วง) ก็ยังไกลเกินไปอยู่ดี

แล้วถ้าเป็น 17, 18, 19 ช่วงเสา
ระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้นจะเป็นตัวเลขที่ไม่ลงตัว
ส่วน 20 ช่วงเสา แม้ตัวเลขจะได้ตัวเลขระยะห่างที่ลงตัวก็ตาม
แต่ก็จะเปลืองเสา และลูกถ้วยมากกว่า 16 ช่วงเสา

ดังนั้น ระยะห่างระหว่างเสา ที่ 62.5 เมตร (16 ช่วงเสา) จึงเป็นระยะที่เหมาะสม
Back to top
View user's profile Send private message
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/07/2006
Posts: 1346

PostPosted: 23/04/2008 3:22 pm    Post subject: Reply with quote

saraburi wrote:

RORONOA wrote:
เคยสังเกตรึเปล่าครับว่ามีเสาโทรเลขบางช่วงที่ไม่ได้มี 16 ต้น ตามหลักอย่างเช่นหน้าบ้านผมจะมีเสาต้นที่ 17 ด้วยไว้จะเก็บภาพมาให้ชมทีหลังครับ แต่ผมยังไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมเสาโทรเลขถึงต้องมี 16 ต้น


16 ต้นนี้ ก็เหมือนมาตรฐานการนับ สทล ในทางปรกติครับ อย่าง ในทางเขาแถวๆ ผ่าเสด็จ - มวกเหล็กนี้ มี 20 -30 ต้น ต่อ 1 กม เชียวครับ Laughing


เป็นช่วงทางโค้งใช่ไหมครับ

ในทางโค้งคงต้องเพิ่มเสาเพื่อให้แนวสายโค้งไปตามแนวรางครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/04/2008 3:31 pm    Post subject: Reply with quote

ทางโค้งต้องเพิ่มเสาให้สายโทรเลขโค้งไปตามแนวราง
แต่ผมไม่ทราบว่าเลขแสดงพิกัดจะเพิ่มขึ้นตามด้วย
หรือรักษาระบบ /1 ถึง /16 ไว้เหมือนเดิม แต่เสาที่เพิ่มเข้ามา ไม่ต้องแสดงพิกัด Question

เคยเห็นอีกแบบคือ การเปลี่ยนทิศของเสาโทรเลขเนื่องจากข้อจำกัดของทำเลที่ตั้งสถานี
กรณีนี้เสาที่เกินมา 1 ต้น จะใช้พิกัดเดียวกันกับเสาที่อยู๋ตรงข้ามครับ เพราะระยะทางไม่เพิ่ม แค่เปลี่ยนทิศเท่านั้น ดังภาพนี้ครับ ถ่ายที่ อดีตสถานีทะเลบก สายสุพรรณบุรีครับ ประมาณ กม.99 ครับ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 23/04/2008 3:35 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ทางโค้งต้องเพิ่มเสาให้สายโทรเลขโค้งไปตามแนวราง
แต่ผมไม่ทราบว่าเลขแสดงพิกัดจะเพิ่มขึ้นตามด้วย
หรือรักษาระบบ /1 ถึง /16 ไว้เหมือนเดิม แต่เสาที่เพิ่มเข้ามา ไม่ต้องแสดงพิกัด Question


ต้องแสดงเลขเพิ่มด้วย เช่นกรณีไต่เขาพังเหย ที่ กม. เป็น สทล. 249/20 ก็มี
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 23/04/2008 3:45 pm    Post subject: Reply with quote

เสาโทรเลขช่วงเลาะอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ระหว่างสถานีซับม่วง - คลองไผ่ ก็มีจำนวนเสามากกว่าปกติด้วยครับ
Back to top
View user's profile Send private message
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/07/2006
Posts: 1346

PostPosted: 26/04/2008 4:42 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

เจอภาพเสาโทรเลขมาจากเน็ต

http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R6550565/R6550565.html#7

จะเห็นว่าสายมีหลายเส้น (มากกว่าทางสายใต้)
Back to top
View user's profile Send private message
beer45
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/06/2007
Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม

PostPosted: 26/04/2008 8:46 pm    Post subject: Reply with quote

เรื่องสายโทรเลขที่ สทล. ก็จะมีหลายสายล่ะครับ พรร.สมัยก่อนจะมีสายเอาไว้เกี่ยวเสาโทรเลขแจ้งเหตุแก่ พนักงานควบคุมการเดินรถแขวงครับ ในกรณีที่ขบวนรถเกิดชำรุดกลางทาง ยิ่งพนังงานโทรเลขของรถไฟสมัยก่อนนี้สุดยอดมากครับ สามารถอ่านแถบโทรเลขเป็นคำได้เลยล่ะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
Page 3 of 4

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©