ข่าวรถไฟเวียตนาม

[Mongwin]

สารคดี ท่องไปกับรถไฟสายอึด เวียดนาม
Ninja chanal Published on Jul 17, 2018


https://www.youtube.com/watch?v=-mqMM0U_8bM

[Wisarut]

รฟว.เริ่มโละหัวรถจักร-ตู้โดยสารเก่ากว่า 30 ปี ซื้อใหม่ 100 คันกว่า $200 ล้าน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561 14:17
ปรับปรุง: วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561 15:17




ซินหวา - การรถไฟเวียดนามที่กำกับดูแลเครือข่ายเส้นทางรถไฟของประเทศ เผยวันนี้ (20) ว่า ได้วางแผนที่จะลงทุนกว่า 202 ล้านดอลลาร์ จัดซื้อหัวรถจักรใหม่ 100 คัน และตู้โดยสารใหม่อีก 950 ตู้ จนถึงปี 2563

ภายใต้ข้อเสนอที่ยื่นต่อกระทรวงคมนาคมของประเทศ การรถไฟเวียดนามจะใช้เงินทุนเกือบ 4.7 ล้านล้านด่ง (มากกว่า 202 ล้านดอลลาร์) โดยประมาณ 70% ของทุนมาจากการกู้ยืมธนาคาร เข้าจัดซื้อหัวรถจักร 100 คัน มูลค่า 94.1 ล้านดอลลาร์ ตู้โดยสาร 150 ตู้ มูลค่า 72.8 ล้านดอลลาร์ ตู้สัมภาระ 300 ตู้ มูลค่า 11.7 ล้านดอลลาร์ และตู้ขนาดเล็กอีก 500 ตู้ มูลค่า 23.9 ล้านดอลลาร์

ปัจจุบัน การรถไฟเวียดนามมีหัวรถจักรทั้งหมด 282 คัน ซึ่งอยู่ในการใช้งาน 270 คัน โดยส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 30 ปี และวางแผนที่จะปลดระวางหัวรถจักรเก่าราว 60 คัน ตู้โดยสารเก่า 500 ตู้ และตู้สินค้าเกือบ 1,000 ตู้ ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2565

ภาคส่วนรถไฟของเวียดนามให้บริการขนส่งผู้โดยสาร 5.5 ล้านคนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และขนส่งสินค้ารวม 3.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.3% ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม.

[Wisarut]

ที่น่าสนใจคือ การฟื้นฟูโครงการรถไฟความไวสูงฮานอย ไป ไซ่ง่อน ระยะทาง 1,545 กิโลเมตร 23 สถานี มูลค่า 58000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยใช้เทคโนโลยีชิงกังเซน เพื่อลดเวลาการเดินทางจาก 24 ชั่วโมงเหลือ 8 ชั่วโมง ตอนแรกจะทำจาก ฮานอยไปเมืองท่าวินห์และจาก เมืองท่าญาตรังไปไซ่ง่อน ให้เปิดการเดินรถได้ในปี 2032 ใช้เวลาก่อสร้าง 10 ปี (ปี 2020 - 2030) หมดไป 24000 ล้านเหรียญสหรัฐ ช่วงแรกจะให้วิ่ง 160 - 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปก่อน แต่จะมีการปรับปรุงทางและ สร้างทางให้เชื่อมกัน เพื่อ ทำให้ วิ่งได้เร็วขึ้น เป็น 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ตอนนี้ให้ได้ที่ปรึกษายุโรปก่อน น่าสนใจว่า เขาจะ Upgrade และ rehab ทางกันอีกท่าไหนจึงเพิ่มความเร็วได้ขนาดนี้
https://e.vnexpress.net/news/business/industries/feasibility-report-ready-for-vietnam-s-58-billion-high-speed-railroad-3800113.html

[Wisarut]

เคาะราคารถไฟความเร็วสูงเวียดนาม 1,500 กม.$84,000 ล้านระบบญี่ปุ่น
เผยแพร่: 3 กันยายน 2561 05:25 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แผนที่เส้นทางรถไฟความไวสูงจากกรุงฮานอยไปนครไซ่ง่อน ระยะทาง 1,545 กม. มี 23 สถานี ผ่าน 20 จังหวัด กว่าจะเสร็จทั้ง 2 เฟส วิ่งตลอดสายได้ก็ราวปี 2573.

MGR ออนไลน์ -- บริษัทที่ปรึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงของเวียดนาม ได้จัดประชุมสรุปผลการศึกษาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสรุปมูลค่าก่อสร้างออกมาเป็นเงินทั้งหมดกว่า 58,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับเส้นทาง 1,545 กิโลเมตรจากกรุงฮานอย ไปยังนครโฮจิมินห์ พร้อมเสนอแผนการก่อสร้างที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

บริษัทที่ปรึกษา คือ กลุ่ม TEDI-TRICC-TEDIS เสนอว่า ในระยะแรกรถไฟความเร็วสูง จะยังไม่แล่นด้วยความเร็วเต็มพิกัด แต่จะจำกัดเอาไว้ไม่เกิน 200 กม./ชั่วโมง เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยแวดล้อมหลายประการ แต่ภายในปี 2573 รถไฟซึ่งแล่นด้วยความเร็วสูง 350 กม./ชม.จะรับผู้โดยสารได้ วันละ 1.9 ล้านคนกับสินค้าอีก 2.8 ล้านตัน

ผลการศึกษาชี้ว่า เมื่อรถแล่นด้วยเร็ว 200-350 กม./ชม. จะสามารถแข่งขันกับบริการของสายการบินต่างๆ ได้ แต่ถึงแม้ว่าในเฟสแรก รถจะแล่นด้วยความเร็วเพียงไม่เกิน 200 กม./ชม. ก็จะสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลาราว 2 ชั่วโมง ในการเข้าคิวเช็คอินและผ่านกระขบวนการต่อเนื่องอื่นๆ ที่ท่าอากาศยาน

บริษัทที่ปรึกษาได้เสนอให้รฐบาลเลือกเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น และ คาดว่ากระทรวงขนส่งจะนำผลการประชุมเสนอต่อรัฐบาลในวันนี้ เพื่อเสนอเข้าสู่วาระการพิจารณาในรัฐสภาสมัยปลายปี ซเวินจี๊ออนไลน์ (Dan Tri Online) เว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามรายงาน

การก่อสร้างทั้งระบบจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส คือ ทางเหนือ -- จากฮานอยไปถึงเมืองวีง (Vinh) จ.เหงะอาน (Nghệ An) ระยะทาง 285 กม. กับทางใต้ -- จากเมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งฮวา (Khánh Hòa) ในภาคกลางตอนล่าง ไปยังโฮจิมินห์ 364 กม. -- และ เฟสสุดท้ายจะเป็นช่วงยาววีง-ญาจาง อีก 896 กม.

เส้นทางฮานอย-วีง มีมูลค่าก่อสร้าง 10,830 ล้านดอลลาร์ ญาจาง-โฮจิมินห์ 13,830 ล้านดอลลาร์ กับช่วงยาวที่เป็นช่วงกลางอีก 34,050 ล้านดอลลาร์ รวมตลอดสาย 58,710 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1,935,140 ล้านบาทเศษ สาหรับแผนการลงทุนระยะยาว 10 ปีระหว่างปี 2563-2573


ทางรถไฟสายใหม่นี้จะแวะจอดรับส่งผู้โดยสาร 23 สถานีรายทาง มีอู่จอด/ซ่อมบำรุงรวมทั้งหมด 5 แห่ง -- ถ้าหากโครงการนี้ผ่านการอนุมัติได้เร็ว การทดลองแล่นให้บริการอาจจะเริ่มขึ้นได้ภายในปี 2571-2572 บริษัทที่ปรึกษากล่าว

นายเหวียน หง็อก ลม (Nguyễn Ngọc Long) รองประธานสมาคมสะพานและถนนแห่งเวียดนาม เสนอให้แบ่งซอยการบริหารจัดการรถไฟความเร็วสูง เป็นระยะทางสั้นๆ เพื่อให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงกลางวีง-ญาจาง นั้นยาวเกินไป

นอกจากนั้นช่วงที่สถานีอยู่ในโฮจิมินห์ กับฮานอย จะต้องสามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ รวมทั้งรถไฟฟ้าในเขตเมืองสายต่างๆ อย่างลงตัวด้วย ดร.ลมกล่าว

อย่างไรก็ตามถ้าหากผ่านการอนุมัติ รัฐสภาเวียดนามยังจะต้งกำหนดกฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งผ่านร่างรัฐบัญญัติหลายฉบับเพื่อรองรับโครงการ ทั้งนี้เพื่อสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย ที่จะนำไปสู่การพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณกับเงินกู้ รวมทั้งอีกส่วนหนึ่งที่คาดหวังจากการร่วมทุนโดยภาคเอกชน ซเวินจี๊ออนไลน์กล่าว

นายเหวียน หง็อก โดง (Nguyễn Ngọc Đông) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงขนส่งกล่าวว่า เป็นการยากที่จะสามารถคุ้มทุนในเร็ววัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายทั้งหมด -- ทั้งสังคมควรจะได้รับประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูง มากกว่าจะพิจารณาแต่เรื่องผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียว

"มันเป็นการยากที่จะได้ทุนคืนทั้งหมด" สำนักข่าวออนไลน์อ้างคำพูด รัฐมนตรีเวียดนาม

รายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับเส้นทางก็คือ 60% จะเป็นสะพาน 10% เป็นอุโมงค์ลอด อีก 30% เป็นการวิ่งบนทางเรียบ มีรั้วกั้นสองข้างทางตลอดสาย ไม่มีสี่แยกใดๆ ตัดผ่าน ปัจจุบันกระทรวงฯ กำลังทำงานร่วมกับทางการ 20 จังหวัดตามเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เพื่อจัดเตรียมการอันจำเป็นต่างๆ

นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ที่เวียดนามกลับมาเข้าใกล้รถไฟความเร็วสูงอีกครั้ง ตั้งแต่รัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ได้ริเริ่มแผนการรถไฟหัวกระสุนในปี 2549 เพื่อเชื่อมภาคเหนือกับภาคใต้ เป็นระยะทางกว่า 1,600 กม. ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น

โครงการในช่วงปีโน้นเริ่มจากงบลงทุน 33,000 ล้านดอลลาร์เศษ แต่กว่าผลการศึกษาจะออกมาในปี 2552 งบก่อสร้างก็บานปลายกลายเป็นเกือบ 56,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบเท่าตัว

เดือน มิ.ย.2553 รัฐสภาฯ ที่กำลังหวาดวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การเงินของประเทศ โหวตลงมติด้วยเสียง 41% ต่อ 37% คว่ำโครงการรถไฟหัวกระสุน โดยให้รัฐบาลจัดทำโครงการให้เล็กลง และนำเสนอใหม่ -- ผู้แทนราษฎรจำนวนมากได้อภิปรายแสดงความห่วงใยต่อหนี้สินของประเทศ ขณะที่ยังมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่ในภาคใต้ด้วย

โครงการรถไฟหัวกระสุน ไม่มีโอกาสได้กลับเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาอีกเลย จนกระทั่งรัฐบาลชุดปัจจุบัน -- โดยนายกรัฐมนตรี เหวียน ซวน ฟุก ได้ปัดฝุ่นกลับมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งต้นปีนี้ ภายใต้สถานการณ์ใหม่ ที่เศรษฐกิจของปราะเทศกลับมาขยายตัวรวดเร็วและในอัตราสูงอีกครั้งและประชากรเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 90 ล้านคน.

[Wisarut]

รถไฟความเร็วสูงเวียดนาม 1,545 กม. ผ่าน 20 จังหวัด 23 สถานี
ขั้นแรกที่จะเสร็จในปี 2030 คือ
1. ฮานอย ถึง วินห์ ระยะทาง 285 กิโลเมตร มูลค่า 10800 ล้านเหรียญสหรัฐที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 90 นาที
2. ญาตรัง ถึง ไซ่ง่อน ระยะทาง 364 กิโลเมตร มูลค่า 13800 ล้านเหรียญสหรัฐที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 120 นาที

ขั้นที่สอง ที่จะเสร็จ ปี 2040คือ
1. วินห์ ถึง ญาตรัง ระยะทาง 896 กิโลเมตร มูลค่า 34000 ล้านเหรียญสหรัฐที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 180 นาที

เมื่อบรรลุผลแล้ว การเดินทางจากฮานอยไปไซ่ง่อนจะกินเวลาแค่ 300 นาที มูลค่าโครงการแค่ 58600 ล้านเหรียญสหรัฐเองงานนี้ได้กู้เงินคนญวน และ กู้ญี่ปุ่น และ ร่วมทุนกะเอกชน เพื่อ พัฒนาที่ดินตลอดเส้นทาง และ กองทุนที่ดิน และ ค่าตั๋วอยู่ที่ 75% ของราคาตั๋วเครื่องบินเพื่อจูงใจให้ขึ้น
https://e.vnexpress.net/infographics/economy/vietnam-s-high-speed-railway-proposal-3812048.html

[Wisarut]

ฟื้นฟูการเดินรถจากดาลัตไปทัปจามยาว 84 กิโลเมตร เพือการท่องแที่ยวแม้ว่าจะฟื้นฟูกา่รเดินไปแล้า 7 กิโลเมตร เริ่มทำปี 2020 เสร็จปี 2030 เส้นทางสายนี้อัฐบาลอินโดจีนฝรั่งเศสสร้างให้ ช่วงปี 1908 ถึง 1932 มี 12 สถานี 5 อุโมงค์ และมีเส้นทาง ช่วงที่ชันเป็นพิเศษ ยาว 14 กิโลเมตรที่ต้องใช้รถจักรมีเฟือง ในการฟื้นฟูทางนั้น กะ จะให้มี ความเร็วสูง 50 - 60 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในปี 2020 และ กะ จะทำทาง ที่ทำให้รถราง 1 เมตรและ รางมาตรฐานใช้ร่วมกันได้ โดยทางมาตรฐานกะให้เร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง งานนี้ให้เอกชนทำเพราะ แม้ว่ารัฐบาลมีแผนแต่ปี 2006 จะลงทุน 5 ล้านล้านด่องเพื่อฟื้นฟูทางสายดาลัตไปทัปจามยาว 84 กิโลเมตร (220 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่ก็ยังไม่ทำกันจริงจัง
https://e.vnexpress.net/news/news/a-ghost-train-to-return-to-life-in-central-vietnam-3821884.html

โรงงานรถไฟที่ยาลัมที่สร้างมาแต่ปี 1905 นั้นบริษัทรถไฟเวียตนามสั่งรถจากโรงงานนี้มาน้อยลง ร้ายกว่านั้นคือ การเดินทางด้วยรถไฟลดลงเหลือ 11 ล้านคน ในปี 2015
https://e.vnexpress.net/projects/losing-track-vietnam-s-ailing-railway-network-3598612/index.html

[Wisarut]

[Wisarut]

ชาวเวียดนาม-นักท่องเที่ยวแห่เซลฟี่คู่รางรถไฟสมัยอาณานิคมอวดลงสื่อโซเชียล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 26 ตุลาคม พ.ศ.2561' 15:06
ปรับปรุง: 26 ตุลาคม พ.ศ.2561' 18:19




เอเอฟพี - ใจกลางย่านเมืองเก่าที่จอแจของกรุงฮานอย รางรถไฟที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวต่างพากันเซลฟี่ลงสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่บรรดาเจ้าของร้านกาแฟได้อานิสงส์เสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มร้อนเย็นให้แก่ผู้คนที่มาเยือนกันริมราง

นอกเหนือไปจากการถ่ายรูปในสถานที่แปลกใหม่ แต่ความตื่นเต้นจากรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วก็เป็นส่วนหนึ่งของความน่าสนใจที่ดึงดูดให้ผู้คนมาเยือนสถานที่แห่งนี้

“มันทั้งน่าตื่นตาตื่นใจแล้วก็น่ากลัวไปพร้อมกันที่อยู่ใกล้รถไฟแบบนั้น” นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย กล่าว

รางรถไฟนี้สร้างขึ้นครั้งแรกโดยอดีตเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส ที่ใช้รถไฟขนส่งสิ่งของและผู้คนทั่วเวียดนาม ซึ่งสมัยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีน พร้อมกับลาวและกัมพูชา แต่ระหว่างสงครามเวียดนาม รางรถไฟหลายส่วนได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ

ในทุกวันนี้ รางรถไฟที่มีความกว้างของราง 1 เมตร ยังคงเป็นหนึ่งในรูปการคมนาคมสำหรับนักท่องเที่ยว และนักเดินทางที่มองหาทางเลือกการเดินทางราคาถูก

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ที่มาเยือนกรุงฮานอยต่างก็ไม่พลาดที่จะหามุมถ่ายรูปในสถานที่แห่งนี้ รางรถไฟที่แวดล้อมไปด้วยบ้านและคาเฟ่ เสน่ห์ของสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร และยังเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับเจ้าของร้านกาแฟ

“มันมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร มีดอกไม้ที่ห้อยย้อยลงมาจากระเบียง มีอาคารเก่าหลายหลังเรียงติดกัน คุณได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ที่อาศัยอยู่ติดกับรางรถไฟ” นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง กล่าว

เมื่อรถไฟวิ่งเข้ามาใกล้ ทุกคนต่างเก็บข้าวของหลบออกจากราง แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเก็บภาพ

“มันรู้สึกเหมือนเรากำลังรอวันคริสต์มาส และเมื่อเวลานั้นมาถึง เรารู้สึกตื่นเต้น มันคุ้มค่ากับการรอคอย” นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ กล่าว.

[Wisarut]

เวียดนามลงทุนไฮสปีด

3 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13:06 น.

โพสต์ทูเดย์ - คมนาคมเวียดนามชูแผนลงทุนรถไฟฟ้า 5 แสนล้าน แก้รถติดโฮจิมินห์-ฮานอย

นายฮว่าง ฮู เชียน ผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม ประเทศเวียดนาม กล่าวในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2561 ว่า ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้งแบบยกระดับและใต้ดินภายใน 2 หัวเมืองใหญ่อย่างฮานอยและโฮจิมินห์ ซึ่งปัจจุบันมีประชากรอาศัยรวมกันอยู่เกือบ 20 ล้านคนก่อให้เกิดปัญหาการจราจรอย่างมากในเขตใจกลางของเมืองหลวง

สำหรับแผนลงทุนในระยะแรกช่วงปี 2561-2573 ของทั้งสองเมืองอยู่ที่ 5.38 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นราคาค่าก่อสร้างเฉลี่ย กม.ละ 1,700 ล้านบาท เริ่มจากเมืองฮานอย ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างรถไฟฟ้าไปแล้ว 2 สาย คือ

สาย 2A ช่วงคัทลินห์-แขวงฮาดอง วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท และ
สาย 3 ช่วงหน่อน-สถานีกลางฮานอย วงเงิน 3.2 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี ภายในปี 2573 จะมีแผนลงทุนเพิ่มเติมอีก 4 สาย ระยะทางรวม 171 กม. วงเงินลงทุน 2.9 แสนล้านบาท ได้แก่
สาย 1 ช่วงเมืองหง่อกโห่ย-เย็นเวียน-นู ควินห์
สาย 2 นอยไบ-ถั่งดิงห์-บ่วย ก่อนต่อขยายช่วงบ่วย-ซ็อคซอน
สาย 3 ช่วงฮานอย-เย็น ก่อนต่อขยายช่วงเย็น-ซอนเท
สาย 5 เวินกาว-หล๋าง-หว๋าลัก

อย่างไรก็ตามยังมีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลอีก 3 เส้นทาง ได้แก่
M1 ช่วงเหลี๋ยนฮา-อานแค๊ง
M2 ช่วงหมายหยิก-ฟู่ลวง
M3 ช่วง นั่มฮง-ได๋ถิ่ญ

ด้านเมืองโฮจิมินห์ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงตลาดบินถั่น-สวนสนุกเสื่อยเตี๋ยน วงเงินลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเปิดบริการในปี 2563 สำหรับแผนลงทุนในระยะแรก 2561-2573 ของทั้งสองเมืองนั้นอยู่ที่ 2.48 แสนล้านบาท ระยะทางรวม 146 กม.ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงเมืองกู๋จี-แขวงถูเทียม รถไฟฟ้าสายเขียวตะวันตกช่วงตลาดบินถั่น-แขวงถั่นเคียน รถไฟฟ้าสายเขียวช่วงตะวันออกช่วงแยกข๋งฮั่ว-แขวงเหียปบิ่ญเฟื้อก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงแขวงเหียปบิ่ญเฟื้อก-แขวงถัญซวน รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงสถานีขนส่งขั่นกร๊วก-สะพานไซ่ง่อน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแยกบาเฉียว-แยกฟู้หลำ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังมีแผนศึกษาความเหมาะสมเพื่อลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง 350 กม./ชม. ซึ่งจะเป็นเส้นทางทอดยาวจากเหนือไปใต้ช่วงฮานอย-โฮจิมินห์ ระยะทางรวม 1,570 กม. ขนาดราง 1.45 เมตร วงเงินลงทุน 1.75 ล้านล้านบาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ และเป็นการจัดผังเมืองใหม่ โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมที่จะเชื่อมจากปักกิ่ง-หนานหนิงของจีน

[Wisarut]