View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Cummins
2nd Class Pass
Joined: 28/03/2006 Posts: 719
Location: มหาวิทยาลัยราชมงคลอิสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา
|
Posted: 19/07/2006 2:53 pm Post subject: เมื่อฝนตกถนนลื่นVS ฝนตกรางลื่น ความเหมือนที่แตกต่าง |
|
|
ในระหว่างการเดินทางในขณะที่ท่านกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขในรถนอนปรับอากาศ หรืออาจนั่งชมวิวข้างทางอย่างมีความสุข ขุนเขาและแมกไม้เขียวขจีท่ามกลางสายฝน บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกส์ชวนให้นึกถึงใครบางคน หรือไม่ก็เธอผู้นั้นอาจร่วมเดินทางมาด้วย แต่ท่านรู้มั้ยว่าในบรรยากาศเดียวกันนี้มีบุคคลบางคนที่ไม่มีโอกาสที่จะพิจารณาในความงดงามของธรรมชาติ นั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับหน้าที่ ๆ ต้องรับผิดชอบ เหงื่อซึมแผ่นหลังทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวเย็น เขาผู้นั้นคือพนักงานขับรถครับ เดี๋ยวเราจะมาดูกันครับว่า ระหว่างฝนตกถนนลื่นกับฝนตกรางลื่นนั้นต้องใช้ทักษะในการบังคับรถให้อยู่มือได้อย่างไร _________________ อดีตโชเฟอร์ล้อเหล็ก |
|
Back to top |
|
|
class1
3rd Class Pass
Joined: 03/07/2006 Posts: 27
Location: แถวๆสถานีสามเสนและชท.บางซื่อ
|
Posted: 19/07/2006 3:55 pm Post subject: |
|
|
ดีจังครับได้รู้หน้าที่ของผู้ที่เสียสละอย่างแท้จริง รอติดตามครับ |
|
Back to top |
|
|
tongchit
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1164
Location: ทับยาว เขต.ลาดกระบัง
|
Posted: 20/07/2006 10:39 am Post subject: |
|
|
อ.กิตติครับ รออยู่นะครับ ว่างเมื่อไหร่ก็กลับมาโพทส์ต่อนะครับ กำลังอยากรู้เลยครับ |
|
Back to top |
|
|
Mahachai
3rd Class Pass (Air)
Joined: 05/07/2006 Posts: 407
Location: ชั.
|
Posted: 20/07/2006 2:25 pm Post subject: |
|
|
สวัสดีครับ รอติดตามอยู่เช่นเดียวกันนัครับ |
|
Back to top |
|
|
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 1574
Location: เมืองช้าง
|
Posted: 20/07/2006 4:06 pm Post subject: |
|
|
วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับผู้รับเหมาทำรางรถไฟท่านหนึ่ง ได้เล่าสาเหตุที่ทำให้รางลื่นประการหนึ่งที่ฟังแล้วค่อนข้างเหลือเชื่อคือ เกิดจากตัวกิ้งกือยกพลไปเกาะตามรางรถไฟเป็นเหตุให้รางลื่น ต้องส่งแนวหน้าไปขูดกิ้งกือออกจากรางแล้วเอาทรายโรยรถไฟจึงวิ่งได้ เจ้ารถไฟเล็กทำเหตุให้รถไฟใหญ่ซะแล้ว
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/07/2006 4:22 pm Post subject: |
|
|
จริงครับ... เพราะหน้าสัมผัสระหว่างล้อกับรางมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับล้อรถยนต์ แค่ก้อนจารบีเปื้อนสันรางสักหน่อย ล้อรถไฟก็ลื่นแล้ว
เค้าเรื่องกิ้งกือนี้ ประทับใจกับผู้ออกแบบแสตมป์ชุดหัวรถจักร ( รุ่นแรก ) มากๆ ถึงกับแอบวาดลงไปในมุมล่างของแสตมป์ของหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom 4101 ตรงหินรองรางนั่นแหละครับ
ใครมีแสตมป์ชุดนี้อยู่ หยิบแว่นขยายมาส่องพิสูจน์ได้เลย ฮ่า.... |
|
Back to top |
|
|
Cummins
2nd Class Pass
Joined: 28/03/2006 Posts: 719
Location: มหาวิทยาลัยราชมงคลอิสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา
|
Posted: 20/07/2006 4:26 pm Post subject: มาแล้วครับ |
|
|
ก็โปรยไว้เรีกร้องความสนใจครับ แฮะ ๆ เคยมีคนตั้งคำถามครับว่าเวลาฝนตกเอาแบบประมาณว่า ปานกลางถึงหนักรถไฟต้องลดความเร็วมั้ย บางคนก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะวิ่งไปตามรางที่บังคับไว้อยู่แล้ว ก็จะขอตอบว่าเวลาฝนตกพนักงานขับรถไฟก็ต้องควบคุมรถอย่างระมัดระวังไม่น้อยไปกว่ารถยนต์เลยล่ะครับ เพราะข้อจำกัดอย่างแรกรถไฟไม่สามารถที่หลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ ฝนตกหนักทัศนวิสัยไม่ดีมีอะไรโผล่พรวดพราดเข้ามาก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ อย่างที่สองถ้าจำเป็นที่จะต้องลงห้ามล้อแบบแรง ๆ ก็ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งเลยล่ะครับระวังอย่าให้ล้อตายพูดเหมือนง่าย แต่ในทางปฏิบัติเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ โดยเฉพาะห้ามล้อลมอัด แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถเบา ๆ อย่างดีเซลราง เพราะถ้าลงห้ามล้อแรง ๆ จนล้อตาย ประการแรกรถก็จะลื่นไปบนรางที่เปียกน้ำก็มีค่าเท่ากับเอาไม่อยู่ และประการที่สองถ้าเป็นทางโค้งแล้วล้อคู่หน้าสุดไม่หมุน มีโอกาสที่ล้อจะปีนรางได้และถ้าล้อปีนรางได้ก็เอวังตัวใครตัวมันครับ ส่วนในทางขึ้นลงทางลาดชันนั้นยิ่งยากเข้าไปอีก เพราะรถไฟนั้นมีข้อจำกัดอยู่อันหนึ่งคือ ความเสียดทานในการเคลื่อนที่ต่ำครับยิ่งรางเปียกด้วยแล้ว เวลาขึ้นเขาต้องหาจังหวะส่งให้ดี ถ้ามีจังหวะส่งได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่มีจังหวะส่งตัวอย่างเช่น เป็นทางลงแล้วก็โค้งหักแล้วขึ้นอันนี้ก็คงต้องใช้ทักษะเฉพาะตัวล่ะครับ โดยเฉพาะถ้าหน่วยลากจูงมาก ๆ ต้องใจเย็น ๆ ครับถ้าผลีผลามอารามตกใจกลัวจะขึ้นไม่ได้ ชะดีชะร้ายขึ้นไม่ได้เอาจริง ๆ โดยเเฉพาะ พขร. มือใหม่ ๆ ในบ้านเก่าของเราผมจะพูดอยู่เสมอ ๆ ว่ารถอัลสตอมนั้นบังคับรถขึ้นเขาได้ง่ายกว่าเพราะระบบเร่งรอบของรถอัลสตอมนั้นเป็นไปแบบไม่เป็นขั้นเป็นตอนเอาเท่าไรก็ได้ ดังนั้นเราสามารถค่อย ๆ เคาะพวงมาลัยเพื่อปรับแต่งรอบเครื่องยนต์ให้พอเหมาะพอควรได้ครับ ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไป 15-20 กม./ชม. เมื่อขึ้นมาได้แล้วถึงตอนนี้ เราก็จะลงกันล่ะครับพฤติกรรมการลงทางลาดชันของรถไฟนั้นต่างจากรถยนต์ตรงที่ว่า รถไฟนั้นถึงแม้ว่าหัวขบวนจะลงแล้วแต่ถ้าหัวยังเบากว่าหางมันจะยังไม่ยอมลงเราก็ต้องรักษารอบเครื่องยนต์ไว้ในเวลาเดียวกันก็ต้องเตรียมการห้ามล้อเอาไว้ด้วย ในขณะเดียวกันช่างเครื่องก็ต้องคอยช่วยมองท้ายขบวนไว้เพื่อคอยดูว่ามันข้ามเขามาเกิน 1 ใน 3 ของขบวนรถทั้งหมดหรือยังโดยเฉพาะรถสินค้าหนัก พขร. จะได้เตรียมมัดห้ามล้อ ไม่ต้องคอยมองหาป้ายหยุดขอบดำ หรือป้ายหยุดทดสอบห้ามล้อให้เสียเวลา ที่สำคัญต้องระวังอย่าให้ล้อรถจักรล็อคตาย โดยเฉพาะถ้าเป็นทางโค้ง ขบวนรถโดยสารข้อปฏิบัติก็คล้าย ๆ กันครับ จะเห็นว่าฝนตกรางลื่นนั้นความระมัดระวัง และความยุ่งยากไม่ได้ต่างไปกว่าฝนตกถนนลื่นสักเท่าไรเลย แถมจะยังอันตรายกว่าด้วยซ้ำ _________________ อดีตโชเฟอร์ล้อเหล็ก |
|
Back to top |
|
|
tongchit
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1164
Location: ทับยาว เขต.ลาดกระบัง
|
Posted: 21/07/2006 6:48 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูลและความรู้ แต่ผมมีอีกเรื่องนึงครับที่อยากทราบ ถ้ามีคนเอาหินรองราง ไปวางบนรางมีโอกาสที่ ล้อจะดิ้นหรือเปล่าครับหมายถึงวางเรียงเป็นแถวยาวสักประมาณ 5 -6 เมตรมีโอกาสหรือเปล่าครับ (สมัยเด็กๆเคยทำแบบนี้มาคิดถึงตอนนี้อยากตบกระโหลกตัวเองจัง ) รบกวนถามหน่อยนะครับ อ.กิตติ
ป.ล.น้องๆที่อ่านแล้ว "อย่าทำตามอย่างโดยเด็ดขาดเลยนะครับ"
Last edited by tongchit on 21/07/2006 10:17 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Cummins
2nd Class Pass
Joined: 28/03/2006 Posts: 719
Location: มหาวิทยาลัยราชมงคลอิสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา
|
Posted: 21/07/2006 10:18 am Post subject: ตอบคำถาม |
|
|
กรณีของก้อนหินอันตรายอยู่ที่ว่าก้อนหินจะแตกกระเด็นมากว่าครับ เว้นไว้แต่ว่าหินก้อนใหญ่ และแข็ง ถ้าเป็นหินปูนอย่างหินที่ใช้รองทางรถไฟหินจะแตกก่อน แต่เศษของมันที่กระเด็นออกมาล่ะครับ อาจทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ท้องรถได้ ส่วนเวลาขึ้นทางลาดชัน หรือต้องหยุดขบวนรถเพื่อรอสัญญาณคาทางลาดชันเวลาฝนตกรางลื่น แถมมีกิ้งกือมาช่วยเพิ่มความลื่นอีกบางทีก็ต้องโรยทรายช่วยเหมือนกันเวลาออกรถ อย่างเช่นแต่ก่อนนั้นเอาขบวน 37 ขึ้นไปเชียงใหม่ตอนเข้าพรรษา 18 คันแล้วต้องไปรอทางก่อนจะถึงสถานีผาคัน กว่าจะออกได้เล่นเอามือเย็นเลย ก็เพราะรถไฟน้อย(กิ้งกือ) นี่แหละทำเหตุ _________________ อดีตโชเฟอร์ล้อเหล็ก |
|
Back to top |
|
|
alderwood
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 21/07/2006 12:11 pm Post subject: |
|
|
ประสบการณ์กับการไต่ทางลาดชันที่อาจจะลื่น ถ้าไปไม่ไกลกรุงเทพ ก็คงต้องใช้บริการขบวน 909/910 ครับ ตอนที่ขึ้นไปส่งผู้โดยสารที่น้ำตก ตอนที่นำรถลงมาเก็บ และตอนที่ขึ้นไปรับผู้โดยสาร ตอนนั้นล่ะครับ ถ้าฝนตกเมื่อไรก็ดูฝีมือพขร.กันครับ |
|
Back to top |
|
|
|