สำรวจที่หยุดรถท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

[Nakhonlampang]

วันต้อนรับศักราชใหม่ 1 มกราคม 2552 คือฤกษ์ดีสำหรับการสำรวจอดีตที่หยุดรถแห่งนี้ครับ

สำหรับการไปสำรวจอดีตที่หยุดรถท่ามะกาในครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมการสำรวจมาตั้งแต่แรก ความตั้งใจเดิมในวันนี้คือการไปสำรวจอดีตที่หยุดรถวังลาน แต่เนื่องจากโปรแกรมการสำรวจอดีตสถานีวังลาน ตามกระทู้ สำรวจที่ตั้ง สถานีวังลาน(เดิม) จ.กาญจนบุรี ในครั้งนี้ผมขับรถไปเอง จึงทำให้สามารถเพิ่มโปรแกรมการสำรวจอดีตที่หยุดรถท่ามะกาได้อีก 1 แห่งครับ โดยมีป้าติ๋ว (Patiew) ร่วมเดินทางไปสำรวจด้วย

หลังจากรับประทานอาหารเช้าในตัวอำเภอท่ามะกาแล้ว ผมได้ขับรถย้อนกลับมาตามทางหลวงหมายเลข 323 เล็กน้อย แล้วเลี้ยวเข้าไปในซอยเทศบาล 8 ขับรถไปจนสุดซอยก็จะพบถนนเลียบทางรถไฟขวางอยู่ ซึ่งตำแหน่งปลายซอยเทศบาล 8 นี้จะอยู่ตรงกับช่วงปลายชานชาลาฝั่งทิศตะวันออก (ฝั่งไปหนองปลาดุก)

ภาพนี้จะมองเห็นทางลักผ่านซึ่งเชื่อมกับถนนเลียบทางรถไฟตรงข้ามกับซอยเทศบาล 8 แล้วซิกแวก วกขึ้นบนชานชาลาส่วนที่คาดว่าอยู่ข้างศาลาที่หยุดรถครับ (ผมยืนบริเวณหัวมุมซอยเทศบาล 8 ครับ)

[Nakhonlampang]

ตรงนี้จะเป็นช่วงทางลาดก่อนขึ้นบนพื้นชานชาลา


ช่วงนี้คาดว่าจะอยู่บนส่วนของพื้นชานชาลา สังเกตที่พื้นครับ จะเห็นว่ามีหินเกร็ดพื้นชานชาลาหลงเหลืออยู่ ต่างจากภาพข้างบน


ที่ผมสรุปภาพ 2 ภาพข้างบนไว้เช่นนั้นก็เพราะว่า เมื่อพิจารณาจากลักษณะเนินดินบริเวณที่มาทำการสำรวจส่วนที่มีร่องรอยรถยนต์ขึ้นไป จะมีความกว้างนับจากบริเวณรางลึกเข้ามามากกว่าส่วนอื่น และอยู่ชิดขอบด้านทิศตะวันออก เมื่อเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศเดิมแล้ว น่าจะเป็นส่วนที่อยู่ด้านข้างศาลาที่หยุดรถ ซึ่งเป็นด้านที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจรข้ามทางรถไฟไปอีกฝั่งมานานแล้ว เดี๋ยวติดตามการสำรวจต่อไปจะเห็นภาพชัดขึ้นเรื่อยๆครับ

[Nakhonlampang]

เมื่อขึ้นมาอยู่บนรางแล้ว ผมก็ได้เดินย้อนไปทางหนองปลาดุก เพื่อสังเกตว่าพื้นชานชาลาจะไปสิ้นสุดที่ไหน

เมื่อเดินมองพื้นชานชาลาซึ่งสูงกว่าระดับรางมาเรื่อยๆ จนสุดปลายชานชาลา ซึ่งพื้นจะลดระดับลงไปต่ำกว่าระดับคันทางแล้ว มองตรงไปก็พบว่าอยู่ตรงข้ามกับซอยเทศบาล 8 พอดีครับ (ภาพข้างล่างนี้ กอหญ้าที่อยู่กลางภาพยังอยู่บนพื้นชานชาลา แต่พุ่มไม้เตี้ยๆที่เห็นสีเขียวเข้มกว่าทางซ้ายจะอยู่ข้างล่างแล้ว)


ถ่ายไล่จากปลายชานครับ พุ่มไม้สีเขียวที่ขอบรูปด้านซ้ายข้างล่างขึ้นอยู่บนพื้นด้านล่าง ส่วนพุ่มที่อยู่ถัดไปอยู่บนพื้นชานชาลาแล้ว


สทล.ที่เห็นในภาพข้างบนครับ

[Nakhonlampang]

มองกลับไปทางด้านปลายชานฝั่งตะวันออกครับ


สทล. ในภาพยังเป็น 84/10 เช่นเดิม จะเห็นว่าเสาต้นนี้ปักอยู่บนพื้นด้านล่าง ยังไม่ถึงส่วนพื้นที่อยู่ข้างศาลา

[Nakhonlampang]

มองไปทางฝั่งตะวันตกบ้างครับ


มองดูว่าชานชาลาน่าจะสิ้นสุดตรงไหน


สทล. ต้นที่เห็นครับ (84/11)

[Nakhonlampang]

มองไปเห็นป้าติ๋วกำลังให้ความสนใจกับรางและอุปกรณ์ประกอบรางครับ


แต่เมื่อมองกลับหลังหันไปอีกด้านก็เห็นอะไรบางอย่างที่จะเข้ามาขัดจังหวะการสำรวจเล็กน้อย เลยต้องเดินไปบอกป้าติ๋วให้หลบเข้าประจำที่

ขบวนรถธรรมดาที่ 257 (ธนบุรี - น้ำตก) นั่นเอง วันนี้ได้ ADD4419 ทำขบวนมาครับ แต่ทิศทางของแสงนี่ย้อนเต็มๆเลยหน้ามืดไปหน่อยครับ


ถ่ายไล่ท้ายขบวนอีกภาพก็แล้วกัน

[Nakhonlampang]

แล้วผมก็เดินอ้อมปลายชานชาลาฝั่งทิศตะวันตกลงมายืนบนพื้นด้านหลังชานชาลาครับ

สังเกตแนวพุ่มไม้ที่มีดอกสีขาวๆนะครับ พุ่มไม้นี้ขึ้นอยู่บนชานชาลาด้านนี้ สิ้นสุดแนวพุ่มไม้ก็คือจุดสิ้นสุดพื้นชานชาลาเช่นกัน ภาพนี้จะเห็นพุ่มไม้ยาวเลย สทล.84/11 ไปไม่ไกล ต้นไม้เขียวๆที่เห็นถัดไปคือต้นอ้อยที่อยู่อีกฝั่งของทางรถไฟครับ


อุปสรรคสำคัญช่วงนี้ก็คือ บนพื้นชานชาลาถัดจากแนวทางลักผ่านมาทางฝั่งตะวันตกทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ขึ้นหนาแน่นเต็มไปหมด การสำรวจพื้นด้านบนจึงต้องแหวกบรรดาต้นไม้เหล่านั้นเข้าไป แต่พื้นด้านล่างกลับไม่มีต้นไม้ขึ้นครับ เป็นต้นหญ้ากับไม้เตี้ยๆเป็นส่วนใหญ่

ต้องแหวกต้นไม้พวกนี้เข้าไปสำรวจแล้วครับ

[Nakhonlampang]

ท่อนไม้ที่พื้นอยู่บริเวณแนวขอบชานชาลาครับ


ความรกของต้นไม้ และต้นไม้ที่ล้มทับถมที่พื้นหลายชั้นทำให้การหาร่องรอยบนพื้นทำแทบไม่ได้เลย


เดินทะลุหลุดออกมาอีกด้าน พยายามมองหาร่องรอยในจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ตั้งศาลาครับ

[Nakhonlampang]

ตอนที่ลงไปด้านหลังชานชาลาฝั่งทิศตะวันตกนั้น ก่อนที่จะมุดดงไม้เข้ามา ผมสังเกตลักษณะพื้นเนินดินด้านหลังแล้ว ก็มองเห็นจุดที่คาดว่าจะเป็นมุมพื้นชานชาลาส่วนที่ล้อมศาลาอีกด้านหนึ่ง (ลืมถ่ายรูปมาครับ) แล้วสังเกตเห็นต้นไม้ที่ขึ้นตรงมุมพอดี พอทะลุออกมาด้านหน้าแล้วก็หมายตาไว้ เพื่อประมาณขนาดของพื้นที่ส่วนที่ล้อมศาลาเพื่อกะระยะศูนย์กลาง แล้วก็ได้ภาพนี้ครับ

^
ภาพข้างบนนี้ ต้นไม้สูงๆที่อยู่ใกล้ขอบภาพด้านขวาขึ้นอยู่บริเวณมุมพื้นด้านหลังครับ ถ้าศาลายังมีอยู่ ภาพนี้ก็น่าจะเก็บภาพศาลาไว้ได้ทั้งหมดเกือบเต็มกรอบภาพ ส่วนพื้นที่ล้อมศาลานั้น มุมด้านหลังน่าจะยังอยู่ในกรอบภาพนี้ทั้งคู่ครับ

[Nakhonlampang]

มองข้ามไปทางฝั่งไร่อ้อยนิดนะครับ

สิ่งที่ผมสังเกตจากภาพถ่ายทางอากาศเก่าและภาพถ่ายดาวเทียมภายหลังก็คือ จะเห็นพุ่มไม้กลมๆอยู่ในภาพทั้งสอง พอมาลงพื้นทีสำรวจก็เลยคาดว่าน่าจะเป็นต้นไม้ต้นนี้แหละ เพียงแต่ทางสัญจรข้างๆน่าจะเปลี่ยนไปบ้าง ถ้าต้นไม้ต้นนี้พูดได้ก็คงจะบอกเล่าอะไรได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย


มองดูแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นต้นอะไร เพราะมีสารพัดพืชเลื้อยขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด ป้าติ๋วเลยเดินไปพิสูจน์ดู พบว่าเป็นต้นข่อยครับ