View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 31/07/2006 3:09 pm Post subject: |
|
|
Rakpong wrote: | แค่ nameplate ที่มีอยู่ ก็บอกคุณค่าของตู้รถไฟทั้งสามได้เป็นอย่างดี และถ้าใครจะไปช่วยเติมแต่งให้สักหน่อยว่า ตู้รถไฟทั้งสามเคยใช้ประจำการที่ไหน คนรุ่นหลังจะได้รู้จักด้วยครับ |
อยากให้เป็นเช่นนั้นครับ คุณหมอ จำได้ว่าชุดโบกี้นี้ เคยใช้งานกับ ข.ธรรมดา พิษณุโลก - เชียงใหม่ และ ข.รวม ชท.บ้านดารา - สวรรคโลก ก่อนปลดใช้งาน
pitch wrote: | ไม่น่าวางบนพื้นซีเมนต์น่าจะหาวางรางเป็นเรื่องเป็นราวจะดีกว่านี้มักมาก |
ตอนนี้คงหารางมาวางไม่ทันกระมังครับ ได้โบกี้มาเกินความยาวรางที่ทำไว้ เลยตั้งไว้พลางๆ ก่อน แต่น้ำหนักรถที่ตัดโครงหลังคาออก ก็เบาไปแยะล่ะครับ
KTTA-50-L wrote: | ป้ายประจำ บสพ. เดาลองอ่านดูนะครับ
R.S.R. = Royal State Railway = รถไฟหลวง = ร.ฟ.ล. ในสมัยนั้น
B.T.V. = Bogie Third Class & Van = รถโบกี้ชั้นสามและสัมภาระ = บ.ส.พ.
ส่วนตัวเลขน่าจะ 1x ครับ เลขหลักหน่วยดูไม่ออก |
อ่านได้แค่นี้ก็เยี่ยมแล้วล่ะ เจฟ ขนาดเล็งมุมกล้องแล้วเล็งอีก ยังอ่านไม่ค่อยออกเลย เฮ่อ... |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 31/07/2006 3:46 pm Post subject: |
|
|
ออกจากบริเวณที่ตั้งของโบกี้โดยสารประวัติศาสตร์ ผมเดินลงมาทางใต้สถานีอุตรดิตถ์ ตรงสะพานรถไฟข้ามคลองโพ
ตรงนี้มีร่องรอยน้ำท่วมอุตรดิตถ์อยู่แห่งหนึ่ง ตรงประตูระบายน้ำที่คลองโพ ที่พังทลายด้วยกระแสน้ำคราวนั้นครับ...
ประตูระบายน้ำแห่งนี้ ชาวอุตรดิตถ์ถึงกับเอ่ยปากว่า เป็นตัวสำคัญที่ขวางการระบายน้ำท่วมตัวเมือง ไม่ให้ไหลออกแม่น้ำน่านซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน เพราะมีกุญแจล็อกที่เปิดบานประตูระบายน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกว่าจะขออนุมัติเบิกกุญแจจากหน่วยงานตามลำดับชั้นได้ ก็สายเกินการณ์ ไม่มีใครใจกล้าลุยกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากไปเปิดกุญแจได้
จนกระทั่งกระแสน้ำกัดเซาะคันดินคอประตูระบายน้ำจนขาด แล้วพังประตูน้ำนั่นแหละ น้ำท่วมเมืองอุตรดิตถ์ถึงได้ลดลงในเวลาไม่นาน...
ไปที่ย่านสถานีศิลาอาสน์กันนะครับ
ตรงที่ตั้งหัวรถจักร " ฮาโนแม็ก " หมายเลข 274 คันนี้ จะเห็นคราบระดับน้ำสูงถึงโครงประธานตัวรถจักรทีเดียว
มองไปแล้ว...โชคดีที่บ้านไม่ได้อยู่แถบนี้
ไม่งั้น..หมดตัวครึ่งหนึ่งแน่ๆ
Last edited by black_express on 11/11/2010 9:47 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 31/07/2006 5:55 pm Post subject: |
|
|
นี่แหละครับรถนอนชั้นหนึ่งที่สั่งจากเครเวนส์ (Cravens Railway Carriages and Wagons) เมื่อปี 2465 เพื่อทำขบวนรถด่วนสายใต้ ไปที่ปาดังเบซาร์ และ ไปร ซึ่งตอนหลังนำไปใช้กะรถด่วนเชียงใหม่
ส่วนเจ้ารถการ์ดผสมรถชั้น 3 ยาว (BTV - Bogie Third Class Van) ที่รหัส TSR 13 (Thai State Railways 13) น่ากลัวว่าเป็นของกรมรถไฟช่วงปี 2482-2490 โน่นโดยสั่งแคร่จากญี่ปุ่นมาประกอบน่อ
นี่ก็รถชั้น 3 (หอรืไม่ก็แคร่) ของ Utsunomiya Sharyo สั่งมาเมื่อปี 2499
ส่วนรูปตราภูเขาไฟฟูจี น่าจะเป็นนิปปอนชาเรียว (Nippon Sharyo) สั่งมาเมื่อปี 2491 แน่ๆ
ส่วนรูปตรานี้น่าจะเป็น คินกิชาเรียว ณ นครโอซากา (Kinki Sharyo - Osaka) สั่งมาเมื่อปี 2499 แน่ๆ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 31/07/2006 6:03 pm Post subject: |
|
|
ขออนุญาตแก้ไขภาพสักเล็กน้อยครับ คุณวิศรุต |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 31/07/2006 6:09 pm Post subject: |
|
|
วันนั้นที่ผมอยู่บนขบวนที่ 410 ก็คิดว่าแค่จะเอาตู้รถไฟพวกนี้ทาสีใหม่แล้วมาตั้งโชว์ไว้เฉย ๆ นะครับเนี่ย
ยิ่งดูใกล้ ๆ ยิ่งสวยครับพี่ตึ๋ง _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 31/07/2006 6:19 pm Post subject: |
|
|
ผมก็เห็นตอนช่วงปรับปรุง พ่นสีโบกี้ใหม่ เฉพาะ บสพ. ยังนึกๆ อยู่ว่าเอาไปใช้กับขบวนสายน้ำตก ถ่ายทำภาพยนต์หรือเปล่า ? ก็คิดว่าดีกว่าปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา
มาถึงตอนนี้ ก็บางอ้อ... สำคัญตรงประวัติอย่างที่คุณวิศรุตขยายความมานั่นแหละครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 31/07/2006 7:16 pm Post subject: |
|
|
ข้ามไปยังย่านสถานีศิลาอาสน์ ตรงลานกองคอนเทนเนอร์ ไปวัดระดับคราบน้ำตรงนั้นบ้าง ถ้าเป็นช่วงน้ำท่วมจริง มีหวังลุยน้ำร่วมเอวแหงมๆ ครับ
เอ๊ะ...เจอ ตญ. ขนอุปกรณ์อาณัติสัญญาณ กับ ขข. ที่ไม่ค่อยจะได้เห็น มาจอดอยู่ที่นี่ครับ เอาภาพมาดูกันหน่อย
คงมาจอดภายหลังน้ำท่วมแน่ๆ เลย เพราะไม่มีคราบน้ำเกาะอยู่
ออกจากย่านศิลาอาสน์ ผ่านหลังบ้านพักรถไฟ มีถนนไปสู่ที่หยุดรถท่าเสา ถิ่นครูมวยพระพิชัยดาบหัก ( เชียวนา ) มีสัญญลักษณ์หุ่นปูนปั้นเด็กคาดเชือกนักมวยยืนต้อนรับอยู่ครับ มองดูเวลาแล้ว น่าจะมีรถไฟผ่านมาสักขบวนสิ ?
ไหมล่ะ ? ข.10 แล่นเข้าโค้งมาอย่างสวยงาม หนึ่งวันต่อมาได้ข่าวว่า ไปจ๊ะเอ๋กับรถเก๋งตรงทางข้ามด้านใต้ที่หยุดรถท่าเสาเสียแล้ว เหอๆๆๆ
คงถามใจท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ล่ะว่า ถนนใหม่ก็ทำแล้ว แกะฟุตบาทปูกระเบื้องกันใหม่ก็ทำแล้ว ลองเจียดเงินมาทำเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติตรงย่านท่าเสาสักสี่แห่งไม่ได้หรือครับ ? มีพี่น้องชาวบ้านอยู่หลังวัดใหญ่ วัดดอยท่าเสาก็แยะ ขับรถข้ามโค้งทางรถไฟไปมา ท่านไม่ห่วงเขาบ้างหรือ ?
อีกสักพัก ข.ก๊าซ NGV บางละมุง - นครลำปางที่หมายตาเอาไว้ตั้งแต่ย่านสถานีศิลาอาสน์ ก็แล่นเข้าฉากรับกับป้ายที่หยุดรถท่าเสาพอดีครับ
พอสร้างภาพลักษณ์ให้กับอดีตสถานีเก่าแก่แห่งนี้ได้ดีทีเดียว
Last edited by black_express on 11/11/2010 10:00 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 02/08/2006 10:13 am Post subject: |
|
|
วันนี้มาต่อเรื่องครับ...
จากท่าเสา ก็ห้อรถต่อมาที่ ต.น้ำริด ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบความเสียหายจากน้ำป่าที่ไหลจากบริเวณเขาพลึงซึ่งกั้นเขตจังหวัดระหว่าง อุตรดิตถ์ กับ แพร่ ข้ามทางหลวงหมายเลข 11 และทางรถไฟสายเหนือบริเวณ ต.บ้านด่านนาขาม ซึ่งภาพความเสียหายบนเส้นทางรถไฟ คิดว่าหลายๆ ท่านคงได้เห็นไปแล้ว เลยย้อนรอยมาที่จุดถ่ายภาพกันสักหน่อยครับ
อ่ะ...ช่วงวันที่ตระเวนเก็บภาพนั้น ใช้เวลาสอง - สามวัน แต่ลงในภาพเป็นวันเดียวกัน ต้องขอชี้แจงเอาไว้ก่อนครับ
ริมเส้นทาง รพช.สายบ้านน้ำริด - บ้านด่าน ดูสภาพเอาเถอะครับว่า กระแสน้ำวันนั้นมีมากขนาดไหน ลองเทียบกับระดับตัวรถที่ผมขับไปแล้ว ตรงครึ่งบานหน้าต่างพอดี...
เลี้ยวเข้าทาง รพช.สายบ้านน้ำริด - ทางหลวงสาย 11 ครับ
มาแวะตรงทางข้ามรถไฟหน้าวัดน้ำริดเหนือ ตอนนี้ทางสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดได้เข้ามาซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว ยังเห็นร่องรอยน้ำท่วมที่คลองเลียบทางรถไฟ
เท่าที่ประมาณด้วยสายตา แนวทางที่ซ่อมบำรุงใหม่จะอยู่ด้านใต้จุดตัดแห่งนี้ราวๆ 400 เมตร และเป็นจุดเริ่มต้นน้ำท่วมทางเป็นช่วงๆ ไปจนถึงบริเวณเหนือสะพานข้ามห้วยลึก ที่คุณเอ็มเก็บภาพตรงท้าย ข.101 เมื่อก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน
เดินเก้ๆ กังๆ ตรงนั้นได้สักพัก จังหวะเหมาะ มี ข.น้ำมันผ่านมาพอดี เลยได้ภาพรับกับแนวทางที่ซ่อมใหม่ด้วยครับ
Last edited by black_express on 11/11/2010 10:08 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 02/08/2006 11:34 am Post subject: |
|
|
ออกจากบ้านน้ำริด ลัดเลาะไปจนถึงสถานีบ้านด่าน แวะเข้าไปดูกันสักหน่อยครับ มองดูซ้ายขวา สภาพกลับคืนสู่ปกติหมดแล้ว
ออกจากสถานีกันดีกว่าครับ เดี๋ยวเราจะขึ้นเหนือไปที่ปางต้นผึ้ง สองข้างทางช่วงนี้ยังมองเห็นสภาพความแรงของน้ำ ไปจนถึงทางแยกบรรจบทางหลวงหมายเลข 11 ที่บ้านแม่เฉย
จุดนี้เป็นสะพานข้ามลำห้วยแม่เฉย ที่รับน้ำป่ามาจากเขาพลึงกันเต็มๆ เจอศึกหนักถึงกับปิดทางช่วงน้ำท่วมเลยล่ะครับ
ผ่านตลาดแม่เฉย เข้าสู่เส้นทาง รพช. สายบ้านแม่เฉย - ปางต้นผึ้งซึ่งโอนให้ อบต.บ้านด่านนาขาม ไปดูแลแล้ว ลัดเลาะตามไหล่เขาได้สักพัก มาโผล่เจอเส้นทางสายเหนืออีกครั้งหนึ่ง ลัดเลาะห้วยลึก ที่ไหลมาสมทบห้วยน้ำริด
เห็นแนวเส้นทางที่ซ่อมบำรุงกันใหม่แล้ว มุมมองสวยดีจัง
ตรงสุดสายตาโน้นตรงสะพานรถไฟด้านทิศเหนือ เป็นจุดสิ้นสุดระยะซ่อมบำรุงทางหลังน้ำท่วมล่ะครับ
Last edited by black_express on 11/11/2010 10:15 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 02/08/2006 2:41 pm Post subject: |
|
|
ตามที่เห็นเส้นทางด้านทิศใต้ คงจะเห็นตัวสะพานรถไฟที่ตอม่อพังจากกระแสน้ำป่าคราวนั้นแล้วนะครับ ตรง สทล.ที่ 503/11 - 503/12
ก็..เป็นโชคของผมด้วยสิ ที่ไม่ต้องเสียเวลาค้นหานานนัก แถมมีเส้นทางลำลองเพื่อขนวัสดุเข้าไปซ่อมสะพานด้วย
ขับรถข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวลัดเลาะไปใกล้ๆ ตัวสะพานเลยล่ะ
ตรงไหล่เขาข้างเคียงทางด้านตะวันตก มีร่องรอยดินถล่มตามกระแสน้ำที่กว้างขวางไม่น้อย จนไม่แปลกใจล่ะครับว่า ปริมาณดินผสมกระแสน้ำป่าถึงได้มีแรงมากมายจนทำให้ตอม่อสะพานรถไฟแห่งนี้ชำรุดหมดสภาพอย่างไม่น่าเชื่อ
พอถึงตัวสะพานได้ก็ไม่รอช้า มุดลงไปดูกันหน่อยว่า เขาซ่อมสะพานชั่วคราวจนสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วนั้น ทำได้อย่างไร ?
มาทางด้านตะวันออกของตัวสะพานบ้าง เห็นตอม่อที่ชำรุดหมดสภาพได้อย่างชัดเจนครับ อืมม์..
ความเข้าใจตอนแรก ผมยังคิดว่า คงใช้วิธีก่อตอม่อคอกหมูโดยใช้ไม้หมอนรองตัวสะพานเสียอีก ลืมไปว่าสมัยนี้ ยุคพัฒนา โครงสร้างชั่วคราวที่รองรับตัวสะพาน เป็นโครงแบลี่ย์เกือบทั้งหมด ข้างบนเอารางเหล็กมัดเป็นลูกบวบถ่ายน้ำหนักลงบนตอม่อชั่วคราว แทนตอม่อเดิมที่ชำรุด
เสียดายครับ... ที่เวปเรายังไม่มีสมาชิกทางด้านโยธามาร่วมวงด้วย ไม่งั้นคงได้สาระอะไรที่สนุกๆ อีกแยะ
Last edited by black_express on 11/11/2010 10:22 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|