View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/02/2016 10:18 am Post subject: |
|
|
อินโดนีเซียจ่อซื้อเครื่องยนต์หัวรถจักรรองรับเส้นทางรถไฟความยาวกว่า 700 กม.
RYT9 -- อังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 09:47:26 น.
นายอิกนาเซียส โจนาน รมว.คมนาคมอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียจะซื้อเครื่องยนต์หัวรถจักรประมาณ 400 เครื่องจากบริษัทเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) หรือจากบริษัทอิเล็กโตร-โมทีฟ ดีเซล เนื่องจากอินโดนีเซียเตรียมขยายเครือข่ายรางรถไฟในประเทศ
ความคืบหน้าของรัฐบาลในการสร้างทางรถไฟระยะทาง 3,258 กิโลเมตร (2,025 ไมล์) ช่วงกลางปี 2562 ยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า แต่นายโจนานเชื่อมั่นว่า ภารกิจดังกล่าวยังคงมีแนวโน้มลุล่วงไปด้วยดี
เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลอินโดนีเซียได้สร้างทางรถไฟความยาว 250 กิโลเมตร และกำลังวางแผนเร่งการก่อสร้างให้ได้มากกว่า 700 กิโลเมตรในปีนี้
"ตราบใดที่มีงบประมาณ ผมก็จะดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย" นายโจนานซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทรถไฟของรัฐ PT Kereta Api Indonesia มาเป็นเวลา 5 ปีก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในปี 2557 กล่าว "เราจะเร่งมือ การเริ่มต้นก้าวแรกในงานก่อสร้างนั้นยากที่สุด แต่ก้าวต่อๆ ไปก็จะง่ายขึ้นเยอะ"
หลังจากลงทุนโครงการดังกล่าวไปได้หลายปี ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ได้สั่งการให้เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการรถไฟ, ถนน และท่าเรือ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของอินโดนีเซียให้เติบโตที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ นายวิโดโดกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียสามารถจ่ายค่าดำเนินงานได้ประมาณ 30% ของการเรียกเก็บค่าโครงสร้างพื้นฐานซึ่งมีมูลค่าประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์ และต้องการให้นักลงทุนภาคเอกชน รวมถึงองค์กรข้ามชาติ อีกทั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ซึ่งจีนเป็นผู้ริเริ่ม มาลงทุนในส่วนที่เหลือ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/04/2016 4:59 pm Post subject: |
|
|
โครงการรถไฟความเร็วสูงในอินโดนีเซีย: การสมประโยชน์กับจีน?
โดย : ASEAN Insight วันที่ 28 เมษายน 2559, 01:00
กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียได้ตัดสินใจลงนามในสัญญามอบสัมปทานระยะเวลา 50 ปี
แก่บริษัท PT KeretaCepat Indonesia-China (KCIC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐวิสาหกิจอินโดนีเซียกับจีน ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางจาการ์ตา-บันดุง ความยาว 142 กิโลเมตร พร้อมออกใบอนุญาตให้เริ่มก่อสร้างเส้นทาง 5 กิโลเมตรแรกได้ทันที
ข้อตกลงนี้นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญ เพราะนอกจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงมูลค่ากว่า 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท) นี้จะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางจากเมืองเศรษฐกิจ 2 แห่งบนเกาะชวา จาก 3 ชั่วโมงเหลือเพียง 40 นาทีแล้ว เป้าหมายระยะยาวของโครงการยังสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของทั้งอินโดนีเซียและจีน
ก่อนหน้านี้ ถึงแม้อินโดนีเซียจะประกาศแผนแม่บทการรถไฟแห่งชาติ ซึ่งกำหนดทิศทางการขยายเครือข่ายเส้นทางรถไฟและรถไฟฟ้าบนหมู่เกาะต่างๆ ความยาวกว่า 12,100 กิโลเมตร มาตั้งแต่ปี 2554 แต่โครงการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงยังไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน จนกระทั่ง โจโกวี ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2557
วิสัยทัศน์ของโจโกวี คือการพัฒนาเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุนด้วยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ รวมถึงโรงไฟฟ้า โดยมีโครงการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นหนึ่งใน 12 โครงการยุทธศาสตร์แห่งชาติเพื่อมุ่งสู่ยุทธศาสตร์การเป็นแกนกลางทางทะเลโลก (Global Maritime Axis) และการสร้างงาน
ในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่ง โจโกวีเลือกเดินทางเยือนญี่ปุ่นและจีนเป็นประเทศแรกๆ เพื่อหารือความเป็นไปได้ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในอินโดนีเซีย ผลสำคัญประการหนึ่ง คือ ญี่ปุ่นเสนอเงินกู้มูลค่ากว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42,000 ล้านบาท) สำหรับโครงการสร้างทางรถไฟในกรุงจาการ์ตา ขณะที่การหารืออย่างต่อเนื่องกับจีน นำไปสู่การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง
ทั้งญี่ปุ่นและจีนต่างมองเห็นความสำคัญของการลงทุนสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงในอินโดนีเซีย เห็นได้จากการที่ทั้งสองฝ่ายต่างลงพื้นที่ศึกษาความเป็นไปได้และเสนอโครงการให้กับรัฐบาลอินโดนีเซียพิจารณาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2558
แม้ว่าข้อเสนอของทั้งสองประเทศจะถูกปฏิเสธไปในช่วงแรกด้วยเหตุผลทางเทคนิคและเหตุผลทางการเงิน ส่วนหนึ่งเนื่องจากรัฐบาลอินโดนีเซียเห็นว่าไม่ควรใช้จ่ายงบประมาณของรัฐจำนวนมากไปกับโครงการดังกล่าว แต่ท้ายที่สุด ข้อเสนอฉบับใหม่จากจีนก็ได้รับการตอบรับ
นักวิเคราะห์มองว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้อินโดนีเซียยอมรับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องมาจากแผนการทางการเงินที่ลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ด้วยการหันมาอาศัยเงินทุนกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการพัฒนาของจีน (China Development Bank) ขณะเดียวกันข้อเสนอนี้ยังมีลักษณะครอบคลุมมากกว่า เพราะนอกจากจีนจะเสนอตัวลงทุนสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้ว ยังมุ่งลงทุนร่วมในการผลิตขบวนรถไฟสำหรับรถไฟรางเบาและรถไฟฟ้าความเร็วปานกลางอีกด้วย
ความกระตือรือร้นของจีนตอกย้ำว่ายุทธศาสตร์ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) ซึ่งประกอบไปด้วยการส่งเสริมการเชื่อมโยงและบูรณาการทางเศรษฐกิจผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและขยายการค้าระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบก (Silk Road Economic Belt) และทางทะเล (21st Maritime Silk Road Economic Belt) เป็นกรอบยุทธศาสตร์ระดับพหุภาคีที่สำคัญเป็นลำดับต้นๆ ของจีนในปัจจุบัน
ยุทธศาสตร์ดังกล่าวเน้นย้ำความสำคัญของความเชื่อมโยง (Connectivity) ในฐานะหัวใจของความร่วมมือทุกระดับ ที่ผ่านมารัฐบาลจีนจึงพยายามเจรจาต่อรองเพื่อเข้าไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมในหลายประเทศในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นลาว เมียนมา เวียดนาม มาเลเซีย ไทย
ในกรณีการร่วมลงทุนในอินโดนีเซีย ความสำเร็จของการเจรจาสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงทำให้จีนอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในการรักษาบทบาทนำทางเศรษฐกิจในอาเซียน ขณะเดียวกันยังเป็นเดิมพันครั้งสำคัญของจีนเองด้วยเนื่องจากหากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงประสบความสำเร็จตามกำหนดเวลา ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นของจีนจะมีส่วนช่วยให้การเจรจาเพื่อลงทุนในลักษณะเดียวกันกับประเทศอื่นๆ เป็นไปได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการยักษ์ใหญ่มูลค่ากว่า 40,000 ล้านริงกิต (ราว 3.6 แสนล้านบาท) ที่จีนหมายตาอยู่ อย่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียกับประเทศสิงคโปร์
ในทางกลับกัน หากโครงการล่าช้าหรือประสบปัญหาต่างๆ อาทิ ปัญหาด้านความปลอดภัยหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังกังวลอยู่ในขณะนี้ ผลเสียก็จะตกอยู่กับฝ่ายจีนเอง ทั้งยังกระทบโดยตรงต่อประชาชนชาวอินโดนีเซีย รวมถึงรัฐบาลของโจโกวีอย่างเลี่ยงไม่ได้
ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงของอินโดนีเซียกับจีน จึงอาจช่วยแก้ไขหรือไม่ ก็อาจตอกย้ำภาพลักษณ์ของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานจีน ซึ่งถูกวิจารณ์มาโดยตลอดว่า มักได้ผลงานที่ไม่ได้มาตรฐานสากล ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทั้งยังไม่สามารถปิดโครงการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่บ่อยครั้ง
นอกจากนี้ วัฒนธรรมทางธุรกิจแบบจีนที่เน้นดึงคนจีนเข้าไปทำงานในต่างประเทศเป็นจำนวนมากแทนการจ้างงานคนท้องถิ่น ก็อาจกลายเป็นชนวนของความขัดแย้งในอนาคต เช่นที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ขณะเดียวกันก็อาจทำให้ความหวังของรัฐบาลโจโกวีว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้จะช่วยสร้างงานให้ชาวอินโดนีเซียไม่เป็นจริง และอาจส่งผลต่อเนื่องให้เสียงต่อต้านภายในประเทศเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
----------------------
ภาคิน นิมมานนรวงศ์
ผู้ช่วยผู้ประสานงานโครงการ จับตาอาเซียนสกว. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 06/07/2016 9:29 pm Post subject: |
|
|
รถไฟอินโดฯ เพิ่ม 14 เที่ยวรถพิเศษรับการเดินทางช่วงอีดิ้ลฟิตรี
โดย MGR Online
6 กรกฎาคม 2559 15:42 น.
บริษัท การรถไฟ ของทางการอินโดนีเซีย ปรับเพิ่มขบวนรถพิเศษ จำนวน 14 เที่ยว ในการเดินทางไปยังเมืองยอกยาการ์ตา จ.ชวากลาง และ จ.ชวาตะวันออก เพื่อเตรียมพร้อมรับการเดินทางของผู้โดยสาร ในช่วงเทศกาลอีดิ้ลฟิตรี พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า ในช่วงเทศกาลดังกล่าว ประจำปี 2559 นี้ จะมีผู้โดยสารจำนวน 1.59 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.52 ล้านคน จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/08/2016 3:24 pm Post subject: |
|
|
รถไฟเร็วสูงอินโดฯฝ่าวิบาก เวนคืนที่ดินไม่ได้-แบงก์จีนไม่ปล่อยเงินกู้อ้างเหตุล่าช้า
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 20 August 2559
รถไฟเร็วสูงอินโดฯฝ่าวิบาก เวนคืนที่ดินไม่ได้-แบงก์จีนไม่ปล่อยเงินกู้อ้างเหตุล่าช้า
โครงการรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุงซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างอินโดนีเซียและจีน ยังไม่ตั้งไข่ หลังวางศิลาฤกษ์โครงการเมื่อต้นปีล่วงเข้าครึ่งปีหลังวิบากกรรมยังซ้ำซัด ขาดความคืบหน้า พื้นที่สำคัญรายรอบเส้นทางยังไม่สามารถเวนคืน ส่งผลให้ธนาคารจีนแหล่งเงินทุนไม่ยอมปล่อยกู้ตามแผน หวั่นหากล่าช้ายืดเยื้อแนวโน้มเป็นไปได้ที่ผู้นำอินโดฯ อาจสั่งรื้อสัญญา
เพิ่งประกาศข่าวลงเสาเข็มโครงการไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ในขณะนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงสายแรกของอินโดนีเซีย เส้นทางระหว่างกรุงจาการ์ตาและเมืองบันดุง ก็ดูจะประสบภาวะชะงักงันแล้ว โดยบริษัทร่วมทุนอินโดนีเซีย-จีนที่ได้รับสัมปทานการก่อสร้างโครงการ แทบจะไม่ได้สร้างความคืบหน้าแม้ว่าเวลาจะผ่านไปครึ่งปีแล้วก็ตาม
รายงานข่าวระบุว่า มีหลากหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดความล่าช้าอย่างไม่คาดฝัน เช่น ความยากลำบากในการเวนคืนที่ดิน อุปสรรคในการขอใบอนุญาตตามกำหนดเงื่อนไขของทางภาครัฐ และปัญหาในด้านเงินทุน แม้กระทั่งประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ที่มาเป็นประธานพิธีเปิดโครงการนี้เมื่อต้นปี ก็ยังพูดถึงโครงการดังกล่าวน้อยลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ส่วนบริเวณพื้นที่ทำพิธีเปิดโครงการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดที่จะก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงเมืองบันดุง ยังคงมีสภาพเป็นพื้นที่ถมดินลูกรังแดงๆและมีคนงานนั่งปรับพื้นที่อยู่เพียงไม่กี่คน
บริษัทร่วมทุนที่ได้รับสัมปทานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงสายนี้ คือบริษัท เคเรทา เซปัต อินโดนีเซีย ไชน่า (KCIC) ออกมายอมรับว่าโครงการแทบจะไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากปัญหาสำคัญคือ ขาดแหล่งเงินทุนมาสนับสนุนโครงการซึ่งประมาณการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมที่เกือบๆ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.75 แสนล้านบาท ในตอนแรกนั้นบริษัทเชื่อว่าจะสามารถหาแหล่งเงินกู้ได้จากบรรดาธนาคารของจีน แต่สุดท้ายแล้วการเจรจาเรื่องเงินกู้ก็แทบจะไม่มีอะไรคืบหน้าเช่นกัน
ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถานะการเงินของโครงการ นายฮังโกโร บูดี วิรยาวัน ประธาน KCIC กล่าวยอมรับทั้งน้ำตาว่า การระดมทุนสำหรับโครงการนี้ประสบความยากลำบากมาก ทั้งนี้ ฝ่ายธนาคารจีนหลายรายที่เป็นผู้ปล่อยกู้มาก้อนหนึ่งแล้ว ได้ปฏิเสธที่จะให้เงินกู้เพิ่มเนื่องจากโครงการมีปัญหาในการเวนคืนที่ดินล่าช้ากว่ากำหนด ทางผู้บริหารของ KCIC ก็ได้พยายามเจรจาทำความเข้าใจกับผู้ครอบครองที่ดินตามแนวทางที่เส้นทางรถไฟจะตัดผ่าน แต่สุดท้ายแล้วแม้กระทั่งพื้นที่ที่เป็นต้นทางและสุดปลายทางของสถานีก็ยังไม่สามารถเวนคืนพื้นที่มาเป็นของโครงการ
นอกจากนี้ KCIC ยังได้รับใบอนุญาตดำเนินการก่อสร้างโครงการสำหรับระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตรจากระยะทางทั้งหมด 140 กิโลเมตร เนื่องจากเส้นทางบางส่วนที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตนั้นเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลอินโดนีเซียเข้มงวดในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อพายุฝน ฟ้าผ่า และสภาพอากาศที่เลวร้าย แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามยังระบุด้วยว่า บางฝ่ายยังได้หยิบยกประเด็นความคุ้มค่าและประโยชน์ของโครงการขึ้นมาแสดงท่าทีคัดค้านหลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนแผน จากเดิมที่จะให้สถานีต้นทางเริ่มที่ใจกลางกรุงจาการ์ตา ปัจจุบันได้ขยับเลื่อนมาเป็นใกล้ๆสนามบินนานาชาติฮาลิม เพอร์ดา กุสุมา ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงจาการ์ตาไปอีก 15 กิโลเมตร
ความล่าช้าดังกล่าวทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุงจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ทันในเดือนพฤษภาคม 2562 ตามที่วางแผนไว้หรือไม่ บางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้จะมีความล่าช้าอย่างชัดเจนของโครงการ แต่ผู้นำอินโดนีเซียก็ยังไม่มีท่าทีที่จะออกมาเร่งรัดหรือตำหนิติเตียนผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการแต่อย่างใด ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า ท่าทีดังกล่าวสะท้อนอิทธิพลของจีนที่มีต่อผู้นำรัฐบาลของอินโดนีเซีย การนิ่งเฉยไม่กล่าวถึงโครงการที่ล่าช้านี้ อาจจะเป็นการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าลำบากใจ เพราะด้านหนึ่งรัฐบาลอาจจะเกรงใจจีน แต่อีกด้านก็คือประชาชนที่ทุกวันนี้เริ่มมองจีนอย่างไม่ไว้วางใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่อินโดนีเซียกำลังประสบปัญหาแรงงานผิดกฎหมายจากจีนหลั่งไหลเข้ามาแย่งงานทำ หนำซ้ำจีนเองยังมีท่าทีแข็งกร้าวในกรณีข้อพิพาทหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ฉะนั้นภายใต้สถานการณ์ที่กดดันดังกล่าว จึงเป็นไปได้ว่าผู้นำอินโดนีเซียเลือกที่จะเลี่ยงพูดถึงโครงการร่วมทุนที่กำลังมีอยู่กับจีนในเวลานี้
แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามแสดงความเห็นว่า ประธานาธิบดีวิโดโดของอินโดนีเซียเป็นคนคิดเร็วตัดสินใจเร็ว และโครงการนี้ก็เป็นโครงการแห่งความภูมิใจที่เกิดขึ้นในเทอมแรกของการดำรงตำแหน่งของเขา ดังนั้น จึงยังมีความเป็นไปได้ที่ว่าหากโครงการไม่คืบหน้า เขาอาจสั่งรื้อทบทวนสัญญาโครงการก็เป็นได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,184 วันที่ 18 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|