แบกเป้ตะลอนขึ้นเหนือพานั่งรถไฟดูวิว - ลุยขึ้นเขาค้อ

[ExtendeD]

มาดูบรรยากาศภายในห้องพักกันบ้างดีกว่าครับ ผมจำราคาไม่ได้แล้วว่าประมาณคืนละเท่าไหร่ แต่ที่แน่ ๆ ทั้ง 2 ชั้น ( ทั้งหลัง ) ไม่ต่ำกว่าคืนละ 2000 บาท ( รวมอาหารเช้าของแขกที่เข้าพักทุกคน ) ครับ

ที่เห็นอยู่นี้เป็นบรรยากาศภายในห้องพักชั้นล่างครับ




เตียงนอนเป็นเตียงขนาดใหญ่ พอนอนได้ 3 คนสบาย ๆ แต่พวกเรานอนกันแค่เตียงละ 2 คนครับ เจ้าตี๋นอนกลิ้งเล่นสบาย ๆ เลย




ส่งท้ายค่ำคืนแรกที่เขาค้อด้วยรูปนี้ก็แล้วกันครับ ฝีมือน้องชายผมเอง เหอะ เหอะ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เช้ามืดวันที่ 2 ของการเดินทาง ผมลุกขึ้นจากที่นอนประมาณ 05.15 น. กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ออกจากห้องมาสูดอากาศอยู่ข้างหน้าบ้านพักก็เป็นเวลา 05.45 น. แล้ว ยังไม่มีแสงอาทิตย์ส่องมาให้เห็นแต่อย่างใด ที่อยู่ในรูปข้างล่างนี้เป็นบ้านพักที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นบ้านพักแบบชั้นเดียวครับ




ส่วนนี่คือบรรยากาศหน้าห้องพักของพวกเรา . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศตอนที่พระอาทิตย์ขึ้น ไร่จันทร์แรมรีสอร์ท แห่งนี้ ก็มีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวยืนชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่พ้นขอบฟ้าหลังแนวเขาครับ




_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ถึงแม้ว่าบ้านพักของ ไร่จันทร์แรมรีสอร์ท จะไม่สวยงาม หรือใหญ่โตเท่ากับรีสอร์ทหลาย ๆ แห่งที่ได้ขับรถผ่านเมื่อเย็นวานนี้ แต่ทีเด็ดที่ผมชอบที่สุดของที่นี่ก็คือ อาหาร ครับ ติดใจตั้งแต่มื้อเย็นเมื่อวานแล้ว แต่แสงน้อยก็เลยไม่ได้เก็บภาพห้องอาหารที่รีสอร์ทมาให้ดูกัน พอดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้วก็เลยต้องพาชมสถานที่กันสักหน่อย

ที่เห็นอยู่นี้คือห้องอาหารไร่จันทร์แรมครับ




จากทางเข้าเดินทะลุห้องอาหารไปถึงชานอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะเป็นพื้นที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าเข้าพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ มาเก็บภาพ และชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นกัน




พระอาทิตย์ขึ้นหลังแนวเขาสวยดีครับ แต่ผมยังใช้กล้องตัวนี้ไม่คล่อง ( ยังไม่เคยอ่านคู่มือเลยครับ ) . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

นอกจากภายในห้องอาหารแล้ว ยังมีบ้านหลังเล็ก ๆ อีกประมาณ 4 - 5 หลัง ใช้เป็นโต๊ะอาหารสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แยกออกมาจากห้องอาหารใหญ่อีกทีหนึ่งครับ




ตามทางเดินก็ได้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับเรียงรายเอาไว้อย่างสวยงาม ป้ายแนะนำเมนูอาหารที่อยู่ทางขวานี้ แต่ละเมนูก็อร่อยทั้งนั้นครับ ขนาดนักท่องเที่ยวที่เข้าพักที่รีสอร์ทแห่งอื่น ยังต้องมาทานข้าวที่ห้องอาหารแห่งนี้เลย ส่วนเมนูที่ถูกใจผมที่สุดก็คือ มะระหวานผัดไข่ แนะนำเลยครับ แนะนำ นึกถึงแล้วหิว . . .




เมื่อคืนตอนที่มานั่งกินข้าวมื้อเย็นที่บ้านหลังเล็ก ๆ ที่เห็นอยู่ในรูปข้างบน ไปสะดุดตาเข้ากับป้ายนี้ครับ แต่ถ่ายเท่าไหร่รูปก็ออกมาไม่ชัด ต้องมาเก็บตกเอาตอนเช้า " พักเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี " ถ้าเป็นจริงก็ดีครับ แต่ที่แน่ ๆ อากาศที่นี่ดีมาก ๆ สูดเข้าไปเต็มปอดได้อย่างสบายใจ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ยังเดินดูไม่ทั่วเลย แต่ตอนนี้ได้เวลาอาหารเช้าแล้วครับ เอาไว้พรุ่งนี้เช้าจะพาเดินเที่ยวต่อ กลับไปรอที่ห้องอาหารใหญ่ดีกว่าครับ

บรรยากาศภายในห้องอาหารใหญ่ ก็เป็นอย่างที่เห็นนี้ ทางซ้ายจะเป็นทางเดินเข้า - ออก ส่วนทางขวาจะเป็นชานสำหรับนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นครับ




บนโต๊ะตัวที่เห็นอยู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมเอาไว้ครับ กาแฟ โอวัลติน จัดการได้ตามความสามารถ และความชอบของแต่ละคน




ส่วนอาหารหลักของเช้าวันนั้นก็คือข้าวต้มครับ ปาท่องโก๋กับนมข้นหวาน + โอวัลตินผสมกาแฟ อร่อยสุดยอด . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปหาอาหารตากันบ้าง จุดหมายแรกของวันที่ 2 ของการเดินทางก็คือ ภูทับเบิก ครับ




จากที่พักของพวกเรา ก็กลับเข้าสู่ถนนหมายเลข 12 อีกครั้งหนึ่ง ขับลัดเลาะไปตามเขาเรื่อย ๆ




วิวข้างทางก็เป็นภูเขาสวย ๆ เหมือนเมื่อวานแต่ไม่ได้เห็นบ่อย ๆ กลับกรุงเทพก็ไม่มีให้ดูแล้วครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จากถนนหมายเลข 12 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 2372 ไปตามป้ายบอกทางไปสู่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อีกครั้ง แต่ถ้าเข้าทางฝั่งนี้จะเป็นทางเข้าคนละด้านกับที่เมื่อวานพวกเราเข้าทาง ด่านน้ำไซ ครับ

จากถนนหมายเลข 2372 ก็ต้องเลี้ยวซ้ายอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 2331 ซึ่งถนนสายนี้ตามป้ายเตือนที่อยู่ข้างทางบอกเอาไว้ว่า . . .

[ExtendeD]

แต่ขึ้นเขามาสักพัก พอมาถึงป้ายชื่อ หมู่บ้านดอยน้ำเพียงดิน สภาพทางก็เป็นอย่างที่เห็น . . .



หมู่บ้านดอยน้ำเพียงดิน นั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ครับ


หมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านเรือนของชาวเขาปลูกอยู่หลายหลังคาเรือน นับว่าเป็นอีก 1 ช่วงที่ได้พบเห็นชุมชนขนาดใหญ่มาก ๆ ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นระหว่างทางครับ




สภาพทางไม่ดี แถมยังคดเคี้ยวขึ้นเขา แล้วยังต้องระวังรถและเครื่องกลหนักที่กำลังทำงานกันอยู่บนทางด้วย นับว่าขับผ่านไปได้ยากมากครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

นี่คือสภาพทางหลังจากที่ผ่านจุดที่กำลังมีการซ่อมแซมถนนมาแล้วครับ น้อง ๆ พื้นผิวดวงจันทร์ดี ๆ นี่เอง ที่สภาพทางได้รับความเสียหายมากขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะถูกน้ำฝนที่ไหลลงเขามากัดเซาะจนเป็นอย่างที่เห็นครับ




มาถึงตอนนี้ก็ต้องยอมรับนับถือฝีมือการควบคุมรถของพี่คนขับรถจริง ๆ ครับ อย่างที่เคยบอกไปว่าสภาพทางไม่ดี แถมยังคดเคี้ยวขึ้นเขาตลอดเวลา แต่ก็ยังสามารถขึ้นมาถึงข้างบนนี้ได้ กำลังของรถตู้คงมีไม่มากเท่ากับรถกระบะ ก็เลยต้องปิดแอร์ เปิดหน้าต่างสูดอากาศภายนอกแทน




นอกจากจะต้องคอยลุ้นกับพี่คนขับรถแล้ว พอมองออกไปนอกหน้าต่างก็ไปเจอกับ . . . วิวสวยมาก ๆ ก็จริง แต่สูงชะมัดเลย . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.