Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264893
ทั้งหมด:13576176
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - การสร้างทางรถไฟเชื่อมกับเพื่อนบ้านของจีนแผ่นดินใหญ่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

การสร้างทางรถไฟเชื่อมกับเพื่อนบ้านของจีนแผ่นดินใหญ่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 74, 75, 76 ... 134, 135, 136  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 05/01/2022 1:41 am    Post subject: Reply with quote

จีนศึกษา (วันอังคารที่ ๔ ม.ค.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความสำเร็จของการขนส่งทางรถไฟตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (“一带一路”) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ในปี ๒๐๒๑ (พ.ศ.๒๕๖๔) การขนส่งทางรถไฟตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ได้เร่ง “ไปข้างหน้า” (“向前”) โดยเป็น "เส้นชีวิต" (“生命线”) สำหรับการขนส่งสิ่งของที่ขาดแคลนจากการป้องกันการแพร่ระบาด รวมทั้งเป็น "เหล็กกล้า" (“钢铁洪流”) ที่มีส่วนร่วมดำเนินงานด้านเศรษฐกิจทั่วโลก และเป็นสัญญาณที่สำคัญในการเปิดช่องทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อวันที่ ๓ ธ.ค.๖๔ รถไฟจีน-ลาวเปิดเดินรถตลอดทั้งสายอย่างเป็นทางการ เป็นก้าวสำคัญของการรถไฟสายทรานส์เอเชียที่เตรียมพร้อมมานานกว่าครึ่งศตวรรษได้ก้าวสู่ขั้นตอนสำคัญหนึ่งแล้ว โดยหลังจากรถไฟจีน - ลาว เปิดเดินรถ ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเวียงจันทน์ไปยังชายแดน สปป.ลาว - จีน ลดลงจาก ๒ วันเหลือเพียง ๓ ชั่วโมง และการเดินทางไปนครคุนหมิงของมณฑลหยูนหนาน ที่หากออกเดินทางในตอนเช้าจะสามารถถึงในตอนกลางคืนของวันเดียวกันได้ ทั้งนี้ มีรายงานการวิจัยของธนาคารโลก ระบุว่า รถไฟจีน - ลาว คาดว่าจะลดต้นทุนการขนส่งระหว่างเวียงจันทน์-คุนหมิงลง ๔๐% - ๕๐% และค่าใช้จ่ายในการขนส่งจากท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปยังนครคุนหมิงของจีน​ ที่คาดว่าจะลดลงอย่างน้อย ๓๒% รวมทั้งคาดว่าภายในปี ๒๐๓๐ (พ.ศ.๒๕๗๓) ปริมาณการขนส่งสินค้าประจำปีในช่วง​ สปป.ลาวของทางรถไฟจีน - ลาว จะสูงถึง ๓.๙ ล้านตัน
๒.​ โดยปี ๒๐๒๑ (พ.ศ.๒๕๖๔) เป็นวาระครบรอบ ๓๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อาเซียน ทั้งสองฝ่ายกำลังผลักดันการเชื่อมข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" และ "แผนโดยรวมสำหรับความเชื่อมโยงการติดต่อกันของอาเซียนปี ๒๐๒๕ (พ.ศ.๒๕๖๘)" รวมทั้งข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ ๑ ม.ค.๖๕ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" จะขับเคลื่อนการก่อสร้างทางรถไฟสายทรานส์เอเชียและส่งเสริมการเชื่อมต่อในภูมิภาค
บทสรุป นับถึงวันที่ ๑๖ ธ.ค.๖๔ จีนได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือด้านการสร้างสรรค์ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ร่วมกับ ๑๔๕ ประเทศและ ๓๒ องค์การระหว่างประเทศ เป็นจำนวนมากกว่า ๒๐๐ ฉบับ โดยจีนเสนอให้จัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (AIIB) กองทุนเส้นทางสายไหม และสถาบันการเงินอื่น ๆ เพื่อขยายช่องทางการระดมทุนสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งได้จุดประกายแห่งแสงสว่างที่แสดงถึงความสำเร็จอย่างมั่นคงและหนักแน่นของการก่อสร้าง "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง“ ทั้งนี้ เนื่องจากพบว่า การมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมที่อ่อนแอในหลายประเทศเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้ยากต่อการหลุดพ้นจากความยากจน ขณะที่ความสำเร็จของจีนได้เป็นตัวอย่างให้กับทุกประเทศในโลก
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4791858327527741
http://world.people.com.cn/n1/2021/1227/c1002-32317930.html
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/01/2022 10:51 am    Post subject: Reply with quote

China-Laos Railway Boosts Tourism, Cross-border Trade Just One Month After Launch
Jan 4, 2022
CCTV Video News Agency


https://www.youtube.com/watch?v=GpFnYBJPeR4


China-Laos Railway boosts tourism, trade in one month of operation
Jan 4, 2022
CGTN


https://www.youtube.com/watch?v=TaJVpKy0aVs


รถไฟจีน-ลาว เปิดครบเดือน สินค้าผ่านแสนตัน | ย่อโลกเศรษฐกิจ 5 ม.ค.65
Jan 5, 2022
TNN Online


https://www.youtube.com/watch?v=pkMPLJZwm6o
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/01/2022 5:49 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟสินค้าจีน-เวียดนามขนถี่2เท่าในปี2564
5 มกราคม 2565 17:53 น.
ต่างประเทศ

Click on the image for full size

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองหนานหนิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ว่า แถลงการณ์ของบริษัทการรถไฟ ไชน่า เรลเวย์ หนานหนิง กรุ๊ป หรือ ซีอาร์เอ็นจี (China Railway Nanning Group ) ของจีน เมื่อวันพุธ ระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มเปิดเดินรถในเดือน ส.ค. 2560 รถไฟสินค้าของซีอาร์เอ็นจี บรรทุกสินค้าหลากหลายชนิด ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศอาเซียน สินค้าเหล่านี้รวมถึง กระจก ด้ายฝ้าย ผลไม้ อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นประจำวัน

Click on the image for full size

ในรอบปีที่ผ่านมา รถไฟสินค้าของซีอาร์เอ็นจี บรรทุกผลไม้นำเข้า ผ่านด่านเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง หรือกวางสี รวม 19,400 ตัน เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบอัตรารายปี โดยผลไม้นำเข้าส่วนใหญ่คือ ทุเรียน มะม่วง และลำใย


https://www.youtube.com/watch?v=TblJSVzIqXA

เครดิตภาพ – Xinhua, China Daily
เครดิตคลิป – New China TV
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 06/01/2022 12:14 am    Post subject: Reply with quote

จีนเปิดด่านรถไฟผิงเสียง นำเข้าทุเรียน-ลำไยจากไทย เริ่มวันนี้
เศรษฐกิจในประเทศ
วันที่ 4 มกราคม 2565 - 07:06 น.


จีนเปิดด่านรถไฟผิงเสียง นำเข้าทุเรียน-ลำไยผลไม้ไทย เริ่มวันนี้ (4 ม.ค.) ถึง 17 ม.ค. 65 แก้ปัญหาสินค้าตกค้างที่ด่านตงซิง

วันที่ 4 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศจีนเปิดด่านรถไฟผิงเสียง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) นำเข้าผลไม้ไทย ตั้งแต่วันนี้ (4 ม.ค.) ถึงวันที่ 17 มกราคม 2565 เพื่อคลี่คลายปัญหากรณีด่านตงซิง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน) ปิดด่าน ทําให้ทุเรียนและลําไยสดของประเทศไทยที่มีปริมาณมากต้องติดค้างอยู่ที่ด่านตงซิงซึ่งไม่สามารถยื่นคําร้องขอผ่านพิธีการศุลกากรเข้าประเทศจีนได้


ก่อนหน้านี้ ทางการจีนได้ประสานเป็นหนังสือขอความอนุเคราะห์ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจวแจ้งมายังหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อํานวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการผลไม้ทําการเปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขอนามัยพืชในช่วง วันที่ 1-3 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา โดยสินค้าผลไม้ไทยจะได้ยื่นคําร้องขอผ่านพิธีการศุลกากรผ่านด่านรถไฟผิงเสียงเพื่อขนส่งเข้าประเทศจีนได้


ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ ได้ขอให้ผู้ส่งออกรีบยื่นขอเปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขอนามัยพืชจากด่านตงชิงเป็นด่านรถไฟผิงเสียงและต้องระมัดระวังอย่าให้มีการปนเปื้อนโควิด-19 ทั้งคนขับ รถและสินค้าเพราะถ้าพบทางการจีนจะปิดด่านทันทีจึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันเข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ จากสถิติการส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีนของกรมวิชาการเกษตร พบว่า เดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 ไทยส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน มีปริมาณกว่า 2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 148,000 ล้านบาท โดยปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวอ่อน ตามลำดับ แต่เริ่มประสบปัญหาการขนส่งผลไม้ติดขัดตามด่านต่าง ๆ ของจีนในช่วงปลายปี 2564
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/01/2022 6:18 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟจีน-ลาว พลิกโอกาส ศก-ไทย
Source - กรุงเทพธุรกิจ
Thursday, January 06, 2022 04:26

โครงการรถไฟจีน - ลาว เปิดเดินรถอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตามแผนโครงการสายแถบและเส้นทาง (BRI) เชื่อมโครงข่ายคมนาคมระบบรางระหว่างจีนกับชาติอาเซียนเป็นแห่งแรก ซึ่งจะส่งผลต่อนัยสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนเป็นโอกาสและความท้าทายต่อเอกชนและเศรษฐกิจไทย

กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จัดเวทีหารือระดับสูงด้านการทูตเศรษฐกิจเรื่องการปรับตัวของไทยต่อโครงการรถไฟจีน-ลาว โดยเชิญผู้แทนกระทรวงคมนาคม และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานในภาคธุรกิจร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพื่อใช้โอกาสนี้สร้างเศรษฐกิจสัมพันธ์ ในยุคหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 "วิชาวัฒน์ อิศรภักดี" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อมองผ่านเลนการทูตเศรษฐกิจจะเห็นโอกาสจากโครงการรถไฟจีน-ลาว ใน 3 ประการได้แก่

1.ส่งเสริมขีดความสามารถภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย และในระยะยาว จะส่งผลต่อการดำเนินเศรษฐสัมพันธ์ระหว่างไทยกับนานาประเทศ

2.การขยายบทบาทของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งโครงการรถไฟ จีน-ลาว เป็นเพียงหนึ่งหมุดหมายส่งผล ในภาพรวม ขณะที่การชะงักงันของห่วงโซ่ อุปทานโลกยังเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย "ถึงเวลาแล้วหรือไม่ ไทยต้องปรับมุมมองเป้าหมายทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศให้ครอบคลุมในมิติกว้างกว่าตัวชี้วัดเดิม เช่น การค้า การลงทุน และท่องเที่ยว" วิชาวัฒน์กล่าว

3.โครงการรถไฟดังกล่าวเข้ามาประชิดพรมแดนไทย ทำให้จีนและไทยมีความใกล้ชิด กันมากขึ้น การดำเนินนโยบายแบบรักษาระยะห่างเท่าเทียม และไม่เลือกเข้ากับฝ่ายใด คงไม่เพียงพอ แต่ไทยต้องดำเนินนโยบาย "การทูตเศรษฐกิจแบบเข้าได้กับทุกฝ่าย" เพื่อให้สมดุลและบรรลุเป้าหมายการส่งเสริม ขีดความสามารถในการแข่งขันและ เพิ่มทางเลือกและประสิทธิภาพในการดำเนิน นโยบายในระยะยาว

ด้าน "เชิดชาย ใช้ไววิทย์" อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่าจะต้องจับตามองในแง่การเติบโตของภูมิภาค และมองว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า รถไฟเส้นนี้ จะเป็นเส้นทางเชื่อมโยงสำคัญ เพราะเชื่อมโยง ทางรางเส้นแรกที่พาดผ่านมาทางลาวและจะเชื่อมมายังไทยในอนาคต
    "ไทยมองตนเองว่าเป็นจุดกลางเชื่อมโยง ในภูมิภาคมานับร้อยปี แต่พอมีเส้นทางเชื่อมโยงที่ไม่ได้ออกแบบโดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง จึงต้องมาดูว่าไทยจะอยู่ในภาพการเชื่อมโยงนี้อย่างไร และพร้อมมากแค่ไหน" เชิดชายกล่าวเสริม หลังจากนี้จะเห็นกระบวนการต่อเนื่องได้แก่ นัยทางภูมิศาสตร์ ไทยจะต้องเปลี่ยนวิธีคิด ทัศนะ และมุมมองในการกำหนดยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงหรือไม่อย่างไร รวมถึงยุทธศาสตร์ความ เชื่อมโยงในภูมิภาค การเชื่อมต่อจากจีนเกิดขึ้นจริงแล้ว ในประเทศไทยมี กฎระเบียบภายในและกฎหมายต่างๆ แผนพัฒนาพื้นที่ชายแดนพร้อมหรือไม่อย่างไร รวมถึงการจะใช้ประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือเป็นปากประตูสู่การเชื่อมโยงของเส้นทางรถไฟดังกล่าว
สิ่งสำคัญคือ ทิศทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่เชิดชายเห็นว่า ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถ้าวันนี้รายได้จากการท่องเที่ยวยังคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เศรษฐกิจของประเทศไทยก็ยังเสี่ยงจะซบเซาซ้ำรอยช่วงโควิด และจะทำให้คนกว่า 4 ล้านคนเสี่ยงต่อภาวะการยกเลิกจ้างงาน

เส้นทางรถไฟนี้จะทำให้การค้าและการขนส่งสินค้าเปลี่ยนแปลงไป สภาอุตสาหกรรมประเมินว่า หากมีการเชื่อมต่อโดยสมบูรณ์มายังไทย จะช่วยลดต้นทุนทางการค้าตลอดเส้นทางได้ถึง 30-50% แต่ภาพเหล่านี้จะยังไม่เกิดจนกว่าเราจะเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งภาครัฐก็มีหน้าที่ต้องนำไปดำเนินการต่อ กระทรวงคมนาคมก็มีแผนการชัดเจนที่จะสร้างการเชื่อมต่อ แต่ต้องมีงบประมาณและต้องใช้เวลา รัฐบาลมีแผนว่าใน 3-5 ปีข้างหน้าน่าจะเกิดโครงสร้างพื้นฐานในส่วนนี้ขึ้นได้

โครงการรถไฟจีน-ลาว เป็นส่วนหนึ่ง ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนเพื่อพัฒนาภาคตะวันตก เป็นความจริงที่ หลีกเลี่ยงไม่ได้ของประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่มากๆ ที่ต้องขยายพื้นที่ทางเศรษฐกิจของตนออกไป เชิดชายกล่าวในตอนท้ายว่า การปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์ต่อเส้นทางรถไฟสายนี้ จึงเป็นเรื่องของประเทศที่รายล้อมอยู่ต่างหาก และไทย ในฐานะเพื่อนบ้านที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะต้องกลับมาดูว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะนี่เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย เพื่อร่วมกันยกระดับเศรษฐกิจในภูมิภาคให้มีเสถียรภาพและยั่งยืน

บรรยายใต้ภาพ

เชิดชาย ใช้ไววิทย์

วิชาวัฒน์ อิศรภักดี

ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 6 ม.ค. 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/01/2022 6:38 am    Post subject: Reply with quote

สัมภาษณ์พิเศษ: 'ธนกร วีรชาติยานุกูล' ชี้รถไฟจีน-ลาวยกระดับการท่องเที่ยวทางภาคอีสาน
Source - สยามรัฐ
Thursday, January 06, 2022 04:15

เมื่อเส้นทางรถไฟสายใหม่จีนลาวที่สร้างโดยจีนมูลค่ากว่า6,000 ล้านดอลลาร์ จากนครคุนหมิงมณฑลยูนนาน ลงมาสิบสองปันนาโม่หาน เชื่อมต่อ สปป.ลาว ที่เมืองบ่อเต็นจนมาสุดปลายทางที่นครเวียงจันทน์ รวมระยะทาง 414 กิโลเมตร ซึ่งประเมินกันว่าจากนครคุนหมิง (ประเทศจีน) มาถึงจังหวัดหนองคาย ใช้เวลาไม่เกิน 15 ชั่วโมง จากเดิมที่เดินทางด้วยรถใช้เวลาถึง 2 วัน จึงคาดว่ารถไฟจีน-ลาวจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและระยะเวลาที่เร็วขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กลุ่มนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

กระตุ้นภาคธุรกิจและท่องเที่ยว

ทั้งนี้ นายธนกร วีรชาติยานุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การ ค้ายูดีทาวน์ และโรงแรมโมโค่ อุดรธานี กล่าวว่า หลังจากรถไฟสายใหม่จีนลาวเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา น่าจะกระตุ้นภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวถือเป็นโครงข่ายที่เชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนและลาวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคอีสานของประเทศไทยได้สะดวก และเสียค่าใช้ในการเดินทางที่ถูกลงด้วย

จากแผนเดิมก่อนเกิดระบาดโรคโควิด-19 เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจาก4เมืองของจีน จะเข้ามาโดยสายการบินชาร์เตอร์ไฟลต์มาลงจังหวัดอุดรธานี 2 คืน จากนั้นจะไปต่อที่ สปป.ลาว อีก2คืน แต่ทั้งนี้คงจะต้องนโยบายจากรัฐบาลในช่วงปี 2565 เพื่อเปิดประเทศในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงด่านชายแดน ที่เชื่อมต่อกับโครงการเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง 3 ประเทศ คือ จีน ไทย และ สปป.ลาว นี้

โดย นายธนกร ยังกล่าวอีกว่า ทางผู้ประกอบได้เตรียมการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงพื้นที่ในหลายๆ จังหวัดภาคอีสานที่เป็นเขตติดต่อกับอุดรธานี อาทิ หนองคาย นครพนม สกลนคร เป็นต้น โดยใช้อุดรธานีเป็นศูนย์กลาง ซึ่งหากทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันให้เดินหน้าได้ตามแผนเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาคอีสานอย่างแน่นอน ซึ่งเวลานี้ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการในภาคอีสานได้หารือแผนการทำงานร่วมกับทางผู้ใหญ่ในฝั่งเมืองจีน เพื่อรองรับตลาดจีนในอนาคต รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่ดูแลด้านการท่องเที่ยว อาทิ เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นต้น ในหลายพื้นที่ต่างเตรียมพร้อมที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ให้ดีขึ้นพร้อมทั้งหาสินค้าใหม่มานำเสนอนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา

จีนเริ่มสนใจตลาดท่องเที่ยว อีสาน

อย่างไรก็ตามนายธนกร กล่าวว่า นักลงทุนจีนเริ่มสนใจตลาดการท่องเที่ยวในภาคอีสานเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวระหว่าง4เมืองของจีน คือ เซี่ยงไฮ้ กวางเจา ปักกิ่ง และเฉิงตู กับจังหวัดในภาคอีสาน ด้วยการใช้อุดรธานีเป็นศูนย์กลาง และนครเวียงจันทน์ (สปป.ลาว) จึงทำให้ทางด้านเมืองไทยได้มีการเตรียมพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวใหม่ รวมถึงศึกษาการลงทุนแหล่งท่องเที่ยวใหม่ การคมนาคมขนส่ง การรักษาพยาบาล ความปลอดภัยร้านอาหาร โรงแรม เป็นต้น พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรทางด้านภาษา ด้วยการสื่อสารได้ทั้งอังกฤษและจีน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในภาคอีสาน นั้นเอง

ซึ่ง นายธนกร ได้กล่าวต่อว่า เวลานี้ทางภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานียังไม่ได้เตรียมความพร้อมขั้นพื้นฐานไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเป็นจำนวนมากเช่น โครงการที่พักระหว่างทางสำหรับนักท่องเที่ยว หรือrest area ไว้รองรับและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปในพื้นที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหลัก อาทิ ทะเลบัวแดง, คำชะโนด เป็นต้น และที่สำคัญโครงการลงทุนในแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อพัฒนาจุดขายของจังหวัดในภาคอีสาน

สำหรับบริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด หรือกลุ่มศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ได้ลงทุนอีก 500 ล้านบาท สร้างโรงแรมภายใต้แบรนด์ โมโค่ โฮเต็ล เป็นพรีเมี่ยม บูทีคดีไซน์ โฮเทล บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ จำนวน 68 ห้อง บริเวณเดียวกับศูนย์การค้ายูดีทาวน์ และศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ ฮอลล์ เพื่อเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางเมืองอุดรธานี และตอบโจทย์นักเดินทางทั้งกลุ่มเพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยวและช่วยเติมเต็มโปรเจกต์ มิกซ์ยูส ให้สมบูรณ์ และมีความพร้อมที่สุดของจังหวัดอุดรธานี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศที่ชัดเจนในปี 2565 นี้เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากฝั่งสปป.ลาวจะกลับเข้ามา ซึ่งจะเชื่อมโยงตลาดหลักที่เป็นนักท่องเที่ยวจาก 4 เมืองใหญ่ของจีน

"เชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนและลาวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสานได้สะดวกและเสียค่าใช้ถูกลง"

ที่มา: นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 6 ม.ค. 2565


Last edited by Mongwin on 06/01/2022 4:36 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/01/2022 10:13 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟจีน-ลาว : ตรวจเข้มผักนำเข้า หลังเจอกะหล่ำปลีม่วงไม่มีใบรับรอง
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 6 มกราคม 2565 - 10:05 น.

กรมวิชาการเกษตร ตรวจเข้มศัตรูพืชพร้อมเชื้อโควิด-19 สกัดปนเปื้อนผักนำเข้าตามเส้นทางรถไฟไทย-จีน-ลาว หลังเปิดให้บริการ 1 เดือน พบสินค้านำข้าด่านตรวจพืชหนองคาย 159 ชิปเมนต์ ปริมาณรวมกว่า 2 พันตัน มูลค่ารวม 41 ล้านบาท ผักกาดขาวแชมป์นำเข้ามากสุด ด่านตรวจพืชหนองคายเฉียบ! ตรวจพบกะหล่ำปลีสีม่วงไม่แจ้งในรายการแถมขาดใบรับรองสุขอนามัยพืช สั่งผู้ประกอบการทำลายภายใน 14 วัน

วันที่ 6 มกราคม 2565 นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายไทย-จีน-ลาว ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา ทำให้เริ่มมีการนำเข้าผักสด และดอกไม้สดจากจีน โดยเส้นทางรถไฟผ่านด่านตรวจพืชหนองคาย ซึ่งนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบทั้งศัตรูพืชและเชื้อโควิด-19 ในสินค้าที่นำเข้าจากจีนอย่างเคร่งครัด

ส่งออกทุเรียนแสนล้านวิกฤต ปัญหาหนัก ขั้นตอนขนส่ง ขึ้นรถไฟจีน-ลาวไม่ได้
จีนเปิดด่านรถไฟผิงเสียง นำเข้าทุเรียน-ลำไยจากไทย เริ่มวันนี้
รถไฟจีน-ลาว เปิดครบเดือน สินค้าผ่านแสนตัน ส่งวันเดียวไม่ง้อท่าเรือไทย
เพื่อป้องกันไม่ให้มีศัตรูพืชต่างถิ่นและเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนมากับสินค้านำเข้า ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวเป็นแนวปฏิบัติเดียวกับที่จีนได้ตรวจสอบสินค้านำเข้าจากไทย โดยในช่วงระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม 2564-วันที่ 3 มกราคม 2565 ด่านตรวจพืชหนองคาย กรมวิชาการเกษตร ได้รายงานการตรวจสินค้านำเข้าจากจีนมีปริมาณการนำเข้าผ่านด่านตรวจพืชหนองคายจำนวน 159 ชิปเมนต์ ปริมาณรวม 2,292 ตัน มูลค่ารวม 41 ล้านบาท

โดยผักที่มีการนำเข้าจากจีนมากที่สุด คือ ผักกาดขาว ปริมาณ 419 ตัน มูลค่า 4,777,466 บาท บร็อคโคลี 253 ตัน มูลค่า 6,607,693 บาท กะหล่ำปลีรูปหัวใจ ปริมาณ 120 ตัน มูลค่า 1,566,356 บาท บัวหิมะปริมาณ 81 ตัน มูลค่า 1,486,863 บาท และผักกาดหัว 80 ตัน มูลค่า 87,912 บาท ตามลำดับ

รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากการตรวจสอบโรคและแมลงศัตรูพืชผักสดนำเข้าในช่วงที่ผ่านมาจำนวนทั้งหมด 159 ชิปเมนต์ พบว่าในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 และวันที่ 1 มกราคม 2565 มีสินค้านำเข้าจำนวน 2 ชิปเมนต์ที่ไม่มีใบแจ้งรายการนำเข้าผ่านระบบ NSW และตรวจพบกะหล่ำปลีสีม่วงไม่แจ้งมาในรายการพืชและไม่มีใบรับรองสุขอนามัยพืชรับรองทั้ง 2 รายการ ซึ่งด่านตรวจพืชหนองคายได้แจ้งผู้ประกอบการที่นำเข้าทำลายให้เสร็จสิ้นภายใน 14 วัน พร้อมกับได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังจีนแล้ว

ด่านตรวจพืชหนองคาย ตั้งอยู่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย ตรงกับนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2564 พบว่ามีสินค้าพืชและผลผลิตพืช ที่นำเข้าจาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวผ่านด่านตรวจพืชหนองคายเพียงประเทศเดียว

โดยสินค้าที่นำเข้า ได้แก่ ใบยาสูบแห้ง ปริมาณ 1,322 ตัน คิดเป็นมูลค่า 129 ล้านบาท, มันสำปะหลัง ปริมาณ 5,970 ตัน คิดเป็นมูลค่า 27.85 ล้านบาท ไม้กฤษณาปริมาณ 1.40 ตัน คิดเป็นมูลค่า 10.27 ล้านบาท ไม้แปรรูป ปริมาณ 1,249 ตัน คิดเป็นมูลค่า 8.93 ล้านบาท และกากข้าวบาเรย์ ปริมาณ 14,526 ตัน คิดเป็นมูลค่า 8.38 ล้านบาท โดยปริมาณการนำเข้าทั้งปีรวม 23,069 ตัน คิดเป็นมูลค่า 184.91 ล้านบาท

“รัฐมนตรีมนัญญาได้สั่งการมาให้ด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตร เข้มงวดตรวจสอบสินค้านำเข้าจากจีนที่ผ่านเข้ามาตามเส้นทางรถไฟสายไทย-จีน-ลาว เพราะมีความเป็นห่วงว่าจะมีศัตรูพืช และเชื้อโควิดปนเปื้อนมากับผลผลิตที่นำเข้า ซึ่งผมได้ลงพื้นที่ไปกำกับดูแลการปฏิบัติงานของด่านตรวจพืชหนองคายพบว่าในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมามีการนำเข้าผักจากจีนผ่านเส้นทางรถไฟจำนวน 159 ชิปเมนต์ ปริมาณรวม 2,292 ตัน มูลค่ารวมกว่า 41 ล้านบาท

โดยผักที่มีการนำเข้าจากจีนมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ ผักกาดขาว บร็อคโคลี กะหล่ำปลีรูปหัวใจ บัวหิมะ และผักกาดหัว ซึ่งผมได้รับรายงานเพิ่มเติมอีกว่ามีกะหล่ำปลีสีม่วงไม่แจ้งมาในรายการพืชและไม่มีใบรับรองสุขอนามัยพืช ด่านตรวจพืชหนองคายจึงได้แจ้งผู้ประกอบการที่นำเข้าทำลายให้เสร็จสิ้นภายใน 14 วัน พร้อมกับได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังจีนแล้วว่าพบการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้าระหว่าง 2 ประเทศ”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 06/01/2022 8:21 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟสินค้าจีน-เวียดนามขนถี่2เท่าในปี2564
5 มกราคม 2565 17:53 น.
https://www.youtube.com/watch?v=TblJSVzIqXA

เครดิตภาพ – Xinhua, China Daily
เครดิตคลิป – New China TV


รถไฟสินค้าจีน-เวียดนามขนสินค้าเพิ่มเป็น 346 เที่ยว นับว่าเพิ่มจากเดิม 108% ตามที่ บริษัทไชนาเรลเวยืหนานหนิงกรุปจำกัดรายงาน และ มีการขนทุเรียน มังคุด และลำไย ไป 19400 ตันทางรถไฟ นับว่าเพิ่มขึ้น 14.7% เชื่อว่าปี 2022 จะมีการขนสินค้าทางรถไฟข้ามแดนจีนเวียดนาม 400 เที่ยว

https://www.facebook.com/AmazingPuer/posts/227563079555737
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 06/01/2022 8:24 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟจีน-ลาว พลิกโอกาส ศก-ไทย
Source - กรุงเทพธุรกิจ
วันพฤหัสบดี ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 04:26 น.


รถไฟจีน – ลาว พลิกโอกาส ศก.ไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 9:00 น.

โครงการรถไฟจีน - ลาว เปิดเดินรถอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตามแผนโครงการสายแถบและเส้นทาง (BRI) เชื่อมโครงข่ายคมนาคมระบบรางระหว่างจีนกับชาติอาเซียนเป็นแห่งแรก ซึ่งจะส่งผลต่อนัยสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนเป็นโอกาสและความท้าทายต่อเอกชนและเศรษฐกิจไทย

กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จัดเวทีหารือระดับสูงด้านการทูตเศรษฐกิจเรื่องการปรับตัวของไทยต่อโครงการรถไฟจีน-ลาว โดยเชิญผู้แทนกระทรวงคมนาคม และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานในภาคธุรกิจร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพื่อใช้โอกาสนี้สร้างเศรษฐกิจสัมพันธ์ ในยุคหลังการแพร่ระบาดโควิด-19



"วิชาวัฒน์ อิศรภักดี" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อมองผ่านเลนการทูตเศรษฐกิจจะเห็นโอกาสจากโครงการรถไฟจีน-ลาว ใน 3 ประการได้แก่

1. ส่งเสริมขีดความสามารถภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย และในระยะยาวจะส่งผลต่อการดำเนินเศรษฐสัมพันธ์ระหว่างไทยกับนานาประเทศ

2. การขยายบทบาทของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งโครงการรถไฟจีน-ลาว เป็นเพียงหนึ่งหมุดหมายส่งผลในภาพรวม ขณะที่การชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานโลกยังเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย "ถึงเวลาแล้วหรือไม่ ไทยต้องปรับมุมมองเป้าหมายทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศให้ครอบคลุมในมิติกว้างกว่าตัวชี้วัดเดิม เช่น การค้า การลงทุน และท่องเที่ยว" วิชาวัฒน์กล่าว

3. โครงการรถไฟดังกล่าวเข้ามาประชิดพรมแดนไทย ทำให้จีนและไทยมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น การดำเนินนโยบายแบบรักษาระยะห่างเท่าเทียม และไม่เลือกเข้ากับฝ่ายใดคงไม่เพียงพอ แต่ไทยต้องดำเนินนโยบาย "การทูตเศรษฐกิจแบบเข้าได้กับทุกฝ่าย"เพื่อให้สมดุลและบรรลุเป้าหมายการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มทางเลือกและประสิทธิภาพในการดำเนินนโยบายในระยะยาว”


ด้าน "เชิดชาย ใช้ไววิทย์" อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่าจะต้องจับตามองในแง่การเติบโตของภูมิภาค และมองว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า รถไฟเส้นนี้จะเป็นเส้นทางเชื่อมโยงสำคัญ เพราะเชื่อมโยงทางรางเส้นแรกที่พาดผ่านมาทางลาวและจะเชื่อมมายังไทยในอนาคต

"ไทยมองตนเองว่าเป็นจุดกลางเชื่อมโยงในภูมิภาคมานับร้อยปี แต่พอมีเส้นทางเชื่อมโยงที่ไม่ได้ออกแบบโดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง จึงต้องมาดูว่าไทยจะอยู่ในภาพการเชื่อมโยงนี้อย่างไร และพร้อมมากแค่ไหน" เชิดชายกล่าวเสริม หลังจากนี้จะเห็นกระบวนการต่อเนื่องได้แก่ นัยทางภูมิศาสตร์ ไทยจะต้องเปลี่ยนวิธีคิด ทัศนะ และมุมมองในการกำหนดยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงหรือไม่อย่างไร รวมถึงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงในภูมิภาค การเชื่อมต่อจากจีนเกิดขึ้นจริงแล้ว ในประเทศไทยมีกฎระเบียบภายในและกฎหมายต่างๆ แผนพัฒนาพื้นที่ชายแดนพร้อมหรือไม่อย่างไร รวมถึงการจะใช้ประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นปากประตูสู่การเชื่อมโยงของเส้นทางรถไฟดังกล่าว

สิ่งสำคัญคือ ทิศทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่เชิดชายเห็นว่า ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถ้าวันนี้รายได้จากการท่องเที่ยวยังคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เศรษฐกิจของประเทศไทยก็ยังเสี่ยงจะซบเซาซ้ำรอยช่วงโควิด และจะทำให้คนกว่า 4 ล้านคนเสี่ยงต่อภาวะการยกเลิกจ้างงาน

เส้นทางรถไฟนี้จะทำให้การค้าและการขนส่งสินค้าเปลี่ยนแปลงไป สภาอุตสาหกรรมประเมินว่า หากมีการเชื่อมต่อโดยสมบูรณ์มายังไทย จะช่วยลดต้นทุนทางการค้าตลอดเส้นทางได้ถึง 30-50% แต่ภาพเหล่านี้จะยังไม่เกิดจนกว่าเราจะเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งภาครัฐก็มีหน้าที่ต้องนำไปดำเนินการต่อ กระทรวงคมนาคมก็มีแผนการชัดเจนที่จะสร้างการเชื่อมต่อ แต่ต้องมีงบประมาณและต้องใช้เวลา รัฐบาลมีแผนว่าใน 3-5 ปีข้างหน้าน่าจะเกิดโครงสร้างพื้นฐานในส่วนนี้ขึ้นได้

โครงการรถไฟจีน - ลาว เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนเพื่อพัฒนาภาคตะวันตก เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่มาก ๆ ที่ต้องขยายพื้นที่ทางเศรษฐกิจของตนออกไป เชิดชายกล่าวในตอนท้ายว่า การปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์ต่อเส้นทางรถไฟสายนี้ จึงเป็นเรื่องของประเทศที่รายล้อมอยู่ต่างหาก และไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะต้องกลับมาดูว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะนี่เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย เพื่อร่วมกันยกระดับเศรษฐกิจในภูมิภาคให้มีเสถียรภาพและยั่งยืน
https://www.bangkokbiznews.com/pr-news/biz2u/980954
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/01/2022 7:29 am    Post subject: Reply with quote

ส่งออกทุเรียนสะดุดขนขึ้นรถไฟจีน-ลาวไม่ได้ | BUSINESS WATCH | 07-01-2565
Jan 7, 2022
TNN Online

อีกไม่กี่เดือนผลไม้ภาคตะวันออกเริ่มให้ผลผลิต โดยเฉพาะทุเรียนเป็นราชาแห่งผลไม้ส่งออกปีละกว่า 1 แสนล้านบาทมีข้อกังวลเรื่องการส่งออกทุเรียน จีนเริ่มใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้นการตรวจสอบโควิดมาก ทำให้เกิดปัญหากับการขนส่งลำไย และทุเรียนภาคใต้ตกค้างตามด่านเกิดความเสียหายที่สำคัญยังไม่สามารถขนส่งทุเรียนทางรถไฟจีน-ลาวได้ จนถึงกลางปี 2565 เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ และระบบยังไม่พร้อม ซึ่งถ้ารอถึงกลางปีก็หมดหน้าทุเรียนตะวันออกพอดี ต้องลุ้นว่าจะสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้หรือไม่ เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ของไทย ถ้าส่งออกมีปัญหาไม่ได้น่าจะสร้างปัญหาผลไม้ไทยพอสมควร

หวั่นส่งออกทุเรียนสะดุด ขนขึ้นรถไฟจีน-ลาวไม่ได้ หลังจีนคุมเข้มโควิด ผัก-ผลไม้ตกค้างหน้าด่านนับเดือน จับตาภาพรวมส่งออกปีนี้โตสวนโควิดร้อยละ 4 หรือไม่


https://www.youtube.com/watch?v=tEJ9v_LKANU



รถไฟจีน-ลาว โกยนำเข้าส่งออกกว่า 3.5 พันล้านบาท
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 7 มกราคม 2565 - 11:03 น.

Click on the image for full size
ภาพ : Xinhua
จีนนำเข้า-ส่งออกสินค้าผ่านเส้น ‘ทางรถไฟจีน-ลาว’ ทะลุกว่า 676 ล้านหยวน

วันที่ 7 มกราคม 2565 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จากการเปิดเผยของศุลกากรนครคุนหมิง เมืองเอกมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ระบุว่า ทางรถไฟจีน-ลาวให้บริการรถไฟสินค้าผ่านคุนหมิงแล้ว 116 ขบวน เมื่อนับถึงวันที่ 3 ม.ค. โดยขนส่งสินค้ามากกว่า 49,800 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 676 ล้านหยวน (ราว 3.54 พันล้านบาท)

ศุลกากรฯ ระบุว่ามีการขนส่งสินค้าหลายชนิดผ่านทางรถไฟจีน-ลาว นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนที่แล้ว โดยสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ยางพารา สินแร่เหล็ก และถ่าน ขณะที่สินค้าส่งออกชั้นนำ ได้แก่ ผักสด สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า

ปัจจุบันสินค้าจาก 12 เมืองในมณฑล 7 แห่งทั่วประเทศจีน ได้รับการขนส่งถึงลาวด้วยรถไฟสินค้าระหว่างประเทศผ่านทางรถไฟจีน-ลาว และมีการส่งออกสินค้าบางชนิดผ่านลาวไปยังหลายประเทศ เช่น เมียนมา ไทย และสิงคโปร์


ด่านรถไฟผิงเสียง ทางระบายสินค้าจากไทยไปจีน
Jan 6, 2022
NBT Central 11HD


https://www.youtube.com/watch?v=d5JVHRu1q8s
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 74, 75, 76 ... 134, 135, 136  Next
Page 75 of 136

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©