ของฝากจาก Switzerland, 2008 (ตอนที่ 1)

[tuie]

ขบวนรถธรรมดาของผมแล่นผ่านย่านทางรถไฟสายเก่าข้างต้นมาได้อีกนิดก็จอด ชะโงกหน้าต่างมองไปตามทางข้างหน้าเห็นปากอุโมงค์ฟูก้าอยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรแล้วครับ



จอดรอหลีกประมาณ ๒ นาที ขบวนรถกลาเซียเอ็กเพรส (Glacier Express) ก็ออกจากอุโมงค์ฟูก้าแล้วก็แล่นสวนกับขบวนรถธรรมดาของผมไปครับ



ท่านที่ชอบชมบรรยากาศในเส้นทางสายนี้ แต่ไม่อยากเหนื่อยขนสัมภาระขึ้นๆลงๆในการต่อรถไฟหลายขบวนแบบผม เชิญใช้บริการกลาเซียเอ็กซ์เพรส ซึ่งเดินระหว่างเซนต์มอริท/ดาโวส-เซอแมท ได้แต่ต้องนั่งเป็นปลายิ้มเหงือกแดงในตู้กระจกชมวิว เปิดหน้าต่างไม่ได้เลยแบบที่ผมมาเที่ยวสวิสฯเมื่อครั้งก่อนในปี ๒๕๕๐/๒๐๐๗ น่ะครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

สรุปว่าใช้เวลารอหลีกกลาเซียเอ็กซ์เพรสรวมแล้วไม่เกิน ๓ นาที ขบวนรถธรรมดาของผมก็เคลื่อนสู่อุโมงค์ฟูก้าครับ



ปากอุโมงค์เป็นคอนกรีตทรงเหลี่ยมๆแบบอุโมงค์สมัยใหม่ ไม่ใช่ผนังก้อนอิฐสุดแสนสวยงามคลาสสิค เนื่องจากอุโมงค์ฟูก้าเพิ่งจะสร้างเสร็จและเปิดใช้เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๘๒ (พ.ศ. ๒๕๒๕) นี่เอง เห็นปากอุโมงค์กว้างมีทางรถไฟเข้าไปสองทางแบบนี้ มิใช่อุโมงค์สำหรับทางคู่นะครับ เนื่องจากขบวนรถของผมกำลังใช้ทางหลีกซึ่งมีประแจเข้าสู่ทางประธานหลังจากเข้าอุโมงค์ไปไม่กี่สิบเมตรครับ



เห็นเขาทำทางหลีกยาวเข้าไปถึงในอุโมงค์ฟูก้าโดยให้มีประแจอยู่ในอุโมงค์แล้ว ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมต้องทำแบบนี้ให้ต้องเจาะปากอุโมงค์กว้างกว่าปกติ หากวางประแจและทางหลีกอยู่นอกอุโมงค์ทั้งหมดแบบที่สถานีขุนตานก็ไม่ต้องเจาะปากอุโมงค์ให้กว้างเพื่อรองรับทางหลีก หรือว่า MGB อาจจะมีแผนใช้ประโยชน์จากทางหลีกในอุโมงค์และปากอุโมงค์กว้างๆแบบนี้โดยที่ผมยังไม่ทราบข้อมูลก็เป็นได้นะครับ



ความที่อุโมงค์ฟูก้ามีความยาวมากถึง ๑๕.๔ ก.ม. ขบวนรถธรรมดาของผมใช้เวลาลอดอุโมงค์นี้ประมาณ ๑๗-๑๘ นาที รวมจอดในอุโมงค์ราวๆ ๒ นาที(น่าจะจอดรอทาง)ด้วยครับ ระหว่างที่รถจอดในอุโมงค์ผมก็ถ่ายภาพผนังอุโมงค์ฟูก้ามาสักหน่อย ดูเผินๆคล้ายกับผนังอุโมงค์พระพุทธฉายเลยนะครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

กะเวลาว่าน่าจะใกล้ออกจากอุโมงค์ฟูก้าแล้ว ผมก็เดินมายืนหลังห้องขับคอยดูแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ครับ



ออกจากอุโมงค์ฟูก้ามาประมาณ ๒ นาที ก็ถึงสถานี Oberwald ภาพนี้ผมชะโงกหน้าต่างด้านขวามองย้อนไปทางท้ายขบวนครับ



ชมวิวไปยังทางข้างหน้าบ้าง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนมีแต่ภูเขาสูงชันตระหง่านทั้งนั้นครับ



แม้แต่ป้ายโฆษณาที่ชานชาลาผมว่ายังออกแบบมาได้สวยงามเลยครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

ออกจากสถานี Oberwald ไปแล้ว ขบวนรถก็แล่นไปตามเส้นทางที่อยู่บนที่ราบสูงมีภูเขาสูงขนาบอยู่สองข้าง



ช่วงนี้พระพิรุณเว้นวรรคให้ช่างภาพพรนรกปฏิบัติหน้าที่ได้บ้าง พอขบวนรถจอดที่หยุดรถ Obergesteln ผมก็เปิดหน้าต่างออกไปชมที่หยุดรถและหมู่บ้าน “ชาวเขาสวิสฯ” ครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[CENTENNIAL]

เห็นภาพวิวสวยงามราวกับเมืองในเทพนิยายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้ว คงต้องบอกว่าในชีวิตนี้ ต้องนอกจากจะไปนั่งรถไฟเกาหลีให้ครบทุกเส้นทาง และครบทุกฤดูแล้ว

ประเทศที่ในชีวิตนี้จะต้องไปให้ได้ก็น่าจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์นี่ล่ะครับ

[tuie]

^
ไปเที่ยวรถไฟสวิสฯโดยใช้สวิสพาสนั้นไม่แพงอย่างที่คิดครับน้องเอ็ม ยิ่งไปกันเป็นคู่แล้วซื้อสวิสพาสแบบคู่ (Swiss Saver Pass) เดินทางพร้อมๆกันสองคนขึ้นไป เมื่อคิดราคาต่อคนแล้วยิ่งประหยัดและคุ้มค่าเข้าไปใหญ่เลยละครับ

--------------------------------------------------------------------------

ชมวิวชมสถานีในชนบทท่ามกลางภูเขาสูงไปเรื่อยๆนะครับ อาคารสถานี Ulrichen ดูจะใหญ่กว่าที่หยุดรถไม่มากนัก



สถานีนี้ชื่ออะไรไม่ทราบ เนื่องจากมีขบวนรถจอดรอหลีกอยู่หน้าสถานีครับ



พอขบวนรถที่บังสถานีออกไปแล้วถึงทราบชื่อว่า คือ สถานี Munster ยังไม่มีอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟเชื่อมระหว่างชานชาลา ผู้โดยสารที่จะขึ้นขบวนรถธรรมดาของผมจึงต้องรอให้ขบวนรถที่รอหลีกเมื่อสักครู่นี้ เคลื่อนออกจากสถานีไปก่อนถึงจะข้ามมาขึ้นรถครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

อาคารสถานี Reckingen ดูคล้ายกับอาคารสถานี Munster แต่หน้าสถานีมีทางหลีกมากกว่าครับ



ตามเสาส่งกระแสไฟฟ้าในเขตย่านสถานีก็มีป้ายชื่อสถานีติดไว้เป็นระยะๆ รู้สึกว่าสถานีชุมพรก็จะมีป้ายชื่อสถานีขนาดเล็กติดตามเสาไฟฟ้าริมชานชาลาเป็นระยะๆในทำนองเดียวกันนะครับ



ภาพนี้แอบถ่ายเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถซึ่งสวมสูทสีกรมท่าทำหน้าที่คล้ายๆ พรร. บ้านเรา แต่เวลาขบวนรถจอดตามที่หยุดรถแบบในภาพนี้ พรร. ของ MGB จะลงจากขบวนรถไปยืนดูการโดยสารจนเรียบร้อยถึงกลับขึ้นมาบนขบวนรถ โดยไม่มีการยกธงเขียวแต่เห็นพูดวิทยุสื่อสาร ผมเดาว่าน่าจะสื่อสารกับ พขร. นะครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

ภาพนี้ถ่ายที่สถานี Biel ไม่เห็นมีผู้โดยสารขึ้น-ลงเลยครับ



ทางรถไฟช่วงนี้กำลังลาดลงเขาสู่เมืองเล็กๆในหุบเขาข้างล่าง ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นแนวทางรถไฟสายนี้ในหุบเขาเป็นแนวทางตรงช่วงกลางๆภาพด้วยนะครับ



ขบวนรถกำลังเข้าโค้งขวาผ่านสะพานเสาหินโค้งข้ามลำน้ำเข้าสู่เมืองที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ครับ



ริ้วขบวนรถธรรมดาของผมยังประกอบไปด้วยรถโดยสารสามคันแรก รถคันที่สี่เป็นรถกำลังทำหน้าที่ดันรถโดยสารคันที่ ๑-๓ และลากรถโดยสารคันที่ ๕ เช่นเดิมครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

เมื่อลงจากภูเขาเข้าสถานีแล้ว ถึงทราบว่าเมืองนี้ชื่อว่า Fiesch สังเกตว่าข้างๆสถานีมีรถประจำทาง(โพสต์บัส)มาจอดรอรับส่งผู้โดยสารตามตารางเวลาซึ่งสัมพันธ์กับเวลาเดินรถไฟ รถประจำทางบ้านเขามีเดิน ถึง-ออกตามป้ายระหว่างทางตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ครับ



ออกจาก Fiesch แล้ว ขบวนรถก็แล่นลัดเลาะไปตามไหล่เขาโค้งซ้ายโค้งขวาไปเรื่อยๆ



จากภาพที่แล้วมองต่อไปทางขวาเห็นหมู่บ้านในหุบเขาสวยงามดีจริงๆ แม้ว่าอากาศจะไม่เป็นใจก็ตามที


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

ขบวนรถกำลังข้ามสะพานเสาหินโค้งในแนวโค้งซ้ายลาดลงเขาเล็กน้อยครับ



แน่นอนครับว่าต้องมองย้อนกลับไปทางท้ายขบวนด้วยครับ



จากนั้นก็ได้ยินเสียงห้ามล้อ(อันไพเราะเสนาะหู)ดังวี๊ดดดดดด ขบวนรถลดความเร็วลงเหลือประมาณ ๑๐ ก.ม./ช.ม วัยรุ่นชรารีบเปิดหน้าต่างชะโงกดูเหตุการณ์ในบัดดล



ไม่เห็นมีรถกระบะ อีแต๋น สิบล้อ โค-กระบือฯลฯ ตัดหน้าขบวนรถ เห็นมีแต่ป้ายตัวอักษร A และอุปกรณ์จำพวกพลั่ว ไม้แยง ไม้กวาดฯลฯ ปักอยู่ข้างทางด้านซ้ายของขบวนรถ จากนั้นก็มีเสียงเหล็กกระทบกันเสียงปังๆ ปังๆ ดังเป็นจังหวะจากใต้ท้องรถ ผมว่าเสียงดังคล้ายๆเวลานั่งรถไฟสายเหนือ/อีสานผ่านทางตัดกันเป็นกากบาทใกล้ๆ ก.ม.๑๑ น่ะครับ สรุปว่าเรากำลังจะเข้าสู่ทางช่วงที่มีร่องฟันเฟืองอยู่ตรงกลางระหว่างรางสองข้างอีกแล้ว ส่วนเสียงดังปังๆ ปังๆ เป็นเสียงฟันเฟืองกำลังสบเข้ากับร่องฟันเฟืองบนทางรถไฟช่วงนี้ครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/