View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 07/02/2009 2:13 pm Post subject: เล่าด้วยภาพข้างฝา : เมืองเชียงใหม่ |
|
|
เพิ่งกลับจากเชียงใหม่เช้าวันเสาร์นี้เองครับ...
เหตุที่โฉบไปเชียงใหม่กะทันหันนั้น ไปร่วมประชุมของหน่วยงานลุ่มน้ำที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าภาพจัดสถานที่ประชุมพร้อมสำรองห้องพักให้ผู้เข้าร่วมประชุมและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่
เป็นงานเป็นการจริงๆ ครับ มีการเสริฟอาหารว่างถึงในห้องประชุมเลยล่ะ เสร็จจากประชุมตอนบ่ายห้าโมงครึ่ง ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน เหลือระดับผู้ใหญ่เพียงไม่กี่คนที่รอเที่ยวชมงานไม้ดอกไม้ประดับ ประจำปี 2552 ที่สวนบวกหาด ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ และสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ครับ
มีบางช่วงขณะที่ออกมาแว่บไปห้องน้ำของโรงแรม ผมเหลือบไปเห็นภาพถ่ายยุคเก่าๆ ของเมืองเชียงใหม่ที่ทางโรงแรมใส่กรอบไม้ ติดโชว์ถึงในห้องน้ำชาย เป็นไอเดียตกแต่งสถานที่และให้สาระทางประวัติศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ เข้าใจว่าเป็นฝีมือถ่ายภาพของคุณบุญเสริม ศาสตราภัย ช่างภาพฝีมือเฉียบของเมืองเชียงใหม่ในอดีต แต่ยังไม่ถึงขั้นฟันธงนะครับ ต้องรอหลักฐานข้อมูลมายืนยันกันก่อนว่าเป็นฝีมือใคร แต่ที่แน่ๆ มือไวคว้ากล้องเก็บภาพมาให้ชมกันก่อนล่ะ
ภาพแรกคงถูกใจ อ.หม่องล่ะครับ เป็นภาพสถานีเชียงใหม่เมื่อปี 2496 ดูโล่งสุดสายตาครับ แต่ทุกวันนี้ พื้นที่โดยรอบแออัดไปด้วยตึกรามบ้านช่องไปแล้ว
ภาพต่อมา เป็นภาพประเพณีสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่ก่อน 25 พุทธศตวรรษ จนชาวต่างจังหวัดแห่ไปเที่ยวและเล่นสาดน้ำ ก่อเจดีย์ทราย ร่วมกับชาวเมืองเชียงใหม่ บริเวณสะพานนวรัฐ กันทุกปีจนถึงทุกวันนี้
ภาพนี้ใครจะไปเชื่อล่ะครับว่า เป็นเส้นทางไป ม.เชียงใหม่ และขึ้นดอยสุเทพ ที่แสนจะจอแจในปัจจุบัน แต่เมื่อก่อนนั้น จนถึงถนนสายลำปาง - เชียงใหม่ก่อสร้างเสร็จใหม่ๆ มีรถราวิ่งอยู่ไม่กี่คันเท่านั้นเอง
ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณตัวเมืองเชียงใหม่บริเวณถนนท่าแพ มองเป็น "กาดหลวง" หรือตลาดวโรรส อยู่ด้านซ้ายภาพ มุมไกลนั้นคือ" ขัวเหล็ก" หรือสะพานนวรัฐ นั่นเองครับ
ภาพสุดท้ายที่ติดไว้ในห้องน้ำโรงแรม เป็นภาพถนนข่วงเมรุ ใกล้ตลาดวโรรส เข้าใจว่าถ่ายภาพช่วงน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ ช่วงปี 2508 ครับ
ส่วนห้องน้ำหญิงจะมีภาพติดไว้แบบนี้หรือไม่ ไม่กล้าสำรวจครับ รอให้น้องเชรี่ เจ้าถิ่นเมืองเชียงใหม่เป็นผู้สำรวจดีกว่า
ช่วงโทรฯ รายงานตัวกับคุณน้าผม ซึ่งปลูกบ้านตั้งรกรากหลังเกษียณอยู่ที่ อ.หางดง นั้น น้าถามด้วยน้ำเสียงงงๆ ว่า โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่อยู่ที่แห่งใด ? ชื่อไม่คุ้นหู
พอตอบไปว่า ก็โรงแรมเชียงใหม่ โนโวเทล (เดิม) นั่นแหละ น้าผมถึงได้บางอ้อ ก่อนวางสาย
เป็นอย่างนี้ก็มีด้วย...
Last edited by black_express on 08/02/2016 10:16 am; edited 4 times in total |
|
Back to top |
|
|
Aishwarya
1st Class Pass (Air)
Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 07/02/2009 11:46 pm Post subject: |
|
|
ภาพนี้เห็นแล้ว นึกถึงเรื่อง "เมื่อดอกรักบาน" จังเลยค่ะ ... บรรยากาศตอน "ชาย" เจอกับ "สายไหม" และ "น้องเคลีย" อยู่กับ "ตะวัน" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Cherie ชอบเพลงประกอบละครทั้ง ๒ เพลงของเรื่องนี้ค่ะ ทั้ง "คืนหนึ่ง" กับ "กว่าดอกรักจะบาน" ... ไม่อยากเชื่อเลยค่ะ ว่า ๔๐ กว่าปีก่อน บริเวณด้านซ้ายมือ บ้านสีทึมๆ นั้น จะกลายมาเป็นจวนผู้ว่าฯ ในปัจจุบัน เอ ... แล้วบ้านสีทึมๆ เหล่านี้ ในอดีต ก็ยังเป็นจวนผู้ว่าฯ เหมือนเดิมอยู่รึเปล่าคะ?
ภาพเมืองเชียงใหม่ในอดีตมีมนต์ขลังมากๆ เลยค่ะ Cherie ชอบทุกภาพเลย เห็นแล้วอยากจะมีตัวตนไปใช้ชีวิตอยู่ในช่วงยุค 50s, 60s เหมือนในภาพบ้างจังค่ะ ... ภาพทำนองเหล่านี้ Cherie ยังไม่เคยเห็นติดตามห้องน้ำของโรงแรมหรอกค่ะ พี่ตึ๋ง ... อาจจะเพราะอยู่ที่เชียงใหม่อยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ค่ะ เลยทำให้ไม่มีโอกาสได้เข้าโรงแรม ใช้บริการในโรงแรม นอกจากบางมื้อที่ออกไปทานข้าวที่โรงแรมต่างๆ แต่จากประสบการณ์นะคะ Cherie เคยไป "Novotel ช้างเผือก" อยู่ครั้งนึงค่ะ เมื่อ ๖ ปีก่อน ตอนนั้นไปร่วมฟัง seminar อะไรซักอย่างนึง แต่จำไม่ได้แล้วค่ะว่าได้เข้าห้องน้ำรึเปล่าค่ะ เลยไม่ทันสังเกตนะคะ ... แต่ภาพเก่าๆ ทำนองแบบนี้ มีให้เห็นชัดๆ เลย ก็ "ร้านโจ๊กสมเพชร" ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ที่ริมคูเมืองนั่นล่ะค่ะ ใครไปใครมา มักจะแวะทานโจ๊กที่ร้านนี้ เพราะว่าเค้าเปิด ๒๔ ชั่วโมง around the clock ด้วยนะคะ ... มีภาพบรรยากาศเก่าๆ ชาวเชียงใหม่ขี่ช้างย่านถ. ช้างม่อย ย่านกาดหลวง ย่านสะพานนวรัฐ แบบนี้เด๊ะๆ เลยค่ะ เวลาไปนั่งเพลินมากๆ ค่ะ Cherie ทานโจ๊กไปด้วย ดูภาพพวกนี้ไปด้วย มีความสุขค่ะ.
ส่วนภาพก็สวยมากๆ เลยค่ะ เห็น "ถ.ท่าแพ" ยาวเป็นทางเลย นี่ทำให้ Cherie ทราบเลยนะคะเนี๊ยะ ว่าเชียงใหม่เมื่อก่อนอุดมไปด้วยต้นไม้ น่าอยู่ทีเดียวค่ะ ... ส่วนเอกลักษณ์ของเชียงใหม่โบราณ ก็คงหนีไม่พ้น โบสถ์ของ "รร. เชียงใหม่ Christian" และ "สะพานดำนวรัฐ" ก่อนจะถูกรื้อทิ้งไป แล้วไปยกยอดไปไว้จุดใหม่หน้าบริเวณ "ททท. เชียงใหม่"ค่ะ.
PS. งานไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ประจำปีนี้กำลังเปิดฉากค่ะ วันนี้เชียงใหม่คนแยะมากๆ ๆๆ ปีนี้ทางเทศบาลใช้โอกาสอันสวยงามนี้ ๗-๘ กุมภาพันธ์ เปิด campaign งาน รวบรวมเอาอัญมณีจุดเด่นทั้ง ๗ ของเมืองเชียงใหม่ ผ่านแผนท่องเที่ยวฉบับพิเศษ โดยตั้งชื่อซะเก๋เลยค่ะว่า "๗ มหัศจรรย์มนต์เสน่ห์แห่งเวียงพิงค์ (7 Wonders in Chiang Mai)" เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ใครสนใจ ยังมาทันนะคะ งานยังมีไปจนถึงวันพรุ่งนี้อีก ๑ วันค่ะ
๗ สิ่งมหัศจรรย์มีอะไรบ้าง ซึ่งเป็น campaign ของเมืองคราวนี้ ก็ตามนี้เลยค่ะ ...
Quote: | 1. มหัศจรรย์ดอกไม้บาน The Wonder Chiang Mai Flora Paradise ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์2549 ระหว่างวันที่ 7-8กุมภาพันธ์ 2552 Chiang Mai Flora Paradise at Royal Flora Ratchaphruek 2006 7th 8th February, 2009
2. มหัศจรรย์หัตถศิลป์ ถิ่นล้านนา งานล้ำค่า ไม้แกะสลัก The Wonder of Fine Wood Carvingศูนย์กลางการแกะสลักไม้ที่มีขนาดใหญ่สุดในประเทศ ระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2552 ณ ศูนย์หัตถกรรมหมู่บ้านถวาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ (Wood Craving Festival at Ban Tawai Village, Hangdong District 6th 8th February, 2009)
3.มหัศจรรย์นครโบราณใต้พิภพ เวียงกุมกาม The Wonder of Wiang Kum Kam, The Underground Empire ศูนย์กลางอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของล้านนา 700 กว่าปี นามเวียงกุมกาม อำเภอสารภี Wiang Kum Kam, Sarapee District พบการแสดง แสง สี เสียง สุดอลังการ ชุด "มังรายราชอาณาจักรแห่งความรุ่งเรือง เวียงนพบุรีศรีนครพิงค์ เชียงใหม่" ในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์2552Light & Sound Show on 8th February, 2009
4. มหัศจรรย์ไม้ดอกไม้ประดับ บุพผาชาติล้วนงามตา The Wonder of Flower Paradise มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 6-8กุมภาพันธ์ 2552 ณ สวนสาธารณะบวกหาด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (Chiang Mai Flower Festival 6th 8th February, 2009 At Nong Buakhaad Public Park)
5. มหัศจรรย์ผ้าทอตีนจก สืบสานหัตถกรรมล้านนา อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ The Wonder of Dhene Chok Hand Made Weaving Tube Skirt, Amphur Maejam มหกรรมผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม ระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2552 ชมขบวนแห่ผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม ในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 Mae Chaem Hand Made Weaving Tube Skirt Festival, 7th 8th February, 2009 at Mae Cham District
6. มหัศจรรย์สีสันแห่งเมืองหนาว ลิ้มรส สตรอเบอร์รี่รสเยี่ยม The Wonder of Delicious & sweet Strawberry ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต Central Plaza Chiang Mai Airport ระหว่างวันที่ 5-11 กุมภาพันธ์2552 พบกับบุฟเฟ่ต์เค้กสตรอเบอร์รี่การกุศล หลากเมนูอร่อยจากสตรอเบอร์รี่ และเมนูสตรอเบอร์รี่สุดพิเศษจากศิลปินไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา สอบถามข้อมูลโทร. 053999199 ต่อ 1308
7. มหัศจรรย์โลกใต้น้ำ ซู อควาเรี่ยม เชียงใหม่ ณ สวนสัตว์เชียงใหม่ The Wonder of The Under Water World, Chiang Mai Zoo Aquarium เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม โทร.05389-3013-7 |
ขอขอบพระคุณ www.7wonderscm.com สำหรับข้อมูลเผยแพร่ในครั้งนี้ค่ะ ...
ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วเยือนเมืองเจ้า ... |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 08/02/2009 9:51 pm Post subject: |
|
|
จำได้คร่าวๆ ว่า ด้านซ้ายภาพตรงหัวสะพานนวรัฐ น่าจะเป็นบ้านพักผู้พิพากษาศาลภาค 5 ด้านขวาภาพ จะมีบ้านพักรอง ผวจ.เชียงใหม่ด้วย
เคยลงไปเล่นสงกรานต์ที่แม่น้ำปิงช่วงที่สะพานนวรัฐ (ปัจจุบัน) กำลังก่อสร้างด้วย ขึ้นจากน้ำ ทรายเต็มกระเป๋ากางเกงเลย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44606
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/02/2009 7:25 am Post subject: Re: เล่าด้วยภาพข้างฝา : เมืองเชียงใหม่ |
|
|
black_express wrote: |
ภาพแรกคงถูกใจ อ.หม่องล่ะครับ เป็นภาพสถานีเชียงใหม่เมื่อปี 2496 ดูโล่งสุดสายตาครับ แต่ทุกวันนี้ พื้นที่โดยรอบแออัดไปด้วยตึกรามบ้านช่องไปแล้ว
|
ขอบคุณพี่ตึ๋งมากๆ ครับที่นำมาให้ชมกัน
เป็นภาพสถานีเชียงใหม่ หลังจากสร้างได้เพียง 5 ปีนะครับ เพราะสถานีเชียงใหม่หลังใหม่เปิดใช้ปี 2491
ผมตรวจสอบดูแล้ว จากแสงเงาของภาพ ซึ่งเป็นภาพถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ เป็นภาพชุดเดียวกับภาพข้างล่างนี้อย่างแน่นอนครับ
พอลองค้นๆ ดูก็เลยทราบว่าถ่ายโดยคุณบุญเสริม สาตราภัยจริงๆ ครับ
และเมื่อเปรียบเทียบภาพถ่ายข้างฝาที่พี่ตึ๋งนำมาให้ชม กับภาพที่สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รวบรวมไว้ ก็พบว่าเป็นภาพเดียวกัน แต่ต่างก๊อบปี้ครับ
(อัดจากฟิล์มต้นฉบับคนละคราวกัน)
น่าสนใจศึกษาจริงๆ ครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44606
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/02/2009 7:44 am Post subject: |
|
|
มีข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งครับ
โบกี้ที่จอดอยู่นี้เหตุใดจึงมีเงาดำๆ อยู่ตรงกลางทุกโบกี้เลยนะครับ
เกิดจากเปิดประตูตู้ทิ้งไว้ หรือว่าเงาอะไรพอจะทราบไหมครับ
เพราะในกรณีภาพถ่ายทางอากาศที่สถานีปอยเปต ปี 2517 ก็มีเงาแบบเดียวกันเลยครับ
|
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/02/2009 9:07 am Post subject: Re: เล่าด้วยภาพข้างฝา : เมืองเชียงใหม่ |
|
|
Mongwin wrote: |
พอลองค้นๆ ดูก็เลยทราบว่าถ่ายโดยคุณบุญเสริม สาตราภัยจริงๆ ครับ
|
ผมขออนุญาตชอบ 2 ภาพนี้ด้วยคนนะครับ เอาเป็นว่าชอบมากๆเลยครับ
ขอบคุณพี่ตึ๋งมากที่ไปพบภาพประวัติศาตร์เหล่านี้
ทำให้ผมอยากจะไปค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับรถไฟอีกแล้ว แทบจะต้องไปตามหาญาติที่เก็บภาพรถไฟในอดีตไว้เดี๋ยวนี้เลย
ภาพที่อาจารย์เอกนำมาเพิ่มเติมเรื่องราว ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
เพราะมี Round House ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว รื้อไปช่วงเวลาไหนพอทราบมั้ยครับ อ.เอก _________________
|
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/02/2009 9:15 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | มีข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งครับ
โบกี้ที่จอดอยู่นี้เหตุใดจึงมีเงาดำๆ อยู่ตรงกลางทุกโบกี้เลยนะครับ
เกิดจากเปิดประตูตู้ทิ้งไว้ หรือว่าเงาอะไรพอจะทราบไหมครับ
|
กรณีแรกเปิดประตูไว้แน่นอนครับ เพื่อรอการขนถ่ายสินค้า
หรืออีกกรณี เป็นระเบียบหรือเปล่าครับ ว่าถ้าเป็นรถเปล่าต้องเปิดประตู _________________
Last edited by BanPong1 on 09/02/2009 11:19 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Aishwarya
1st Class Pass (Air)
Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 09/02/2009 10:04 am Post subject: Re: เล่าด้วยภาพข้างฝา : เมืองเชียงใหม่ |
|
|
Mongwin wrote: |
|
ชอบภาพนี้มากๆ เลยค่ะ มาก-มากที่สุด ... ภาพนี้แหล่ะค่ะ เป็นภาพนึงที่ติดอยู่ที่ผนังของร้าน "โจ๊กสมเพชร" ด้วย แล้วคำบรรยายใต้ภาพเขียนเอาไว้ว่า "สถานีรถไฟเชียงใหม่ ปี ๒๔๙๕" ... สถานีเมื่อราว ๕๗ ปีก่อน ดูสงบ รางก็ยังไม่แยะเท่ากับสมัยนี้เลยนะคะ ส่วนทิวทัศน์ทางซีกขวาเป็นต้นไม้แยะทีเดียว ไม่นึกไม่ฝันนะคะ มาวันนี้มีทั้งโรงแรม Bosotel มีทั้ง 7-11 มีร้านรวงต่างๆ แยะไปหมด ... ภาพเหล่านี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์จริงๆ เลยค่ะ. |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 09/02/2009 11:56 am Post subject: เล่าด้วยภาพข้างฝา : เมืองเชียงใหม่ |
|
|
BanPong1 wrote: | Mongwin wrote: | มีข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งครับ โบกี้ที่จอดอยู่นี้เหตุใดจึงมีเงาดำๆ อยู่ตรงกลางทุกโบกี้เลยนะครับ
เกิดจากเปิดประตูตู้ทิ้งไว้ หรือว่าเงาอะไรพอจะทราบไหมครับ
|
กรณีแรกเปิดประตูไว้แน่นอนครับ เพื่อรอการขนถ่ายสินค้า
หรืออีกกรณี เป็นระเบียบหรือเปล่าครับ ว่าถ้าเป็นรถเปล่าต้องเปิดประตู |
ขอบคุณพี่ตึ๋งและ อ.หม่อง มาที่นำภาพประวัติศาสตร์สถานีรถไฟเชียงใหม่งให้ อ.วิรัตน์ และผมต้องมาแสดงความเป็นไปได้ครับ
- คำถาม อ.หม่องจากภาพเงาดำนั้น คือประตูรถ ตญ.ตามที่ อ.วิรัตน์ แจ้งให้ทราบ...
- จากภาพรางที่รถ ตญ.จอดอยู่นอาคารที่เห็นน่าเป็นย่านและอาคารทำการที่รับ-ส่งสินค้าครับ...
- บริเวณตู้ที่สองจากท้าย(ปลายลูกศร)เห็นเป็นกลุ่มคนคงเป็นเจ้าของสินค้า,เจ้าหน้าที่รถไฟ,และกรรมกรกำลังรับหรือขนสินค้าขึ้นตู้ ครับ...
น่าสังเกตจากภาพของสถานีปีที่ถ่าย คือยังไม่มีหลังคาคลุมชานชาลาสถานีครับ
ขอบคุณพี่ตึ๋ง และ อ.หม่องมากครับที่นำภาพประวัติศาสตร์เหล่านี้มาให้ได้ชมครับ _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 09/02/2009 12:15 pm Post subject: Re: เล่าด้วยภาพข้างฝา : เมืองเชียงใหม่ |
|
|
Mongwin wrote: |
|
ภาพที่ อ.หม่องนำมาลงก็มีนัยยะ ครับ......
- รถสินค้าจะเห็นว่าชัดเจนว่าวิ่งเข้าย่านรับ-ส่ง และอาคารจะอยู่อีกแห่งเลย...
- รถโดยสารจอดส่งผู้โดยสารที่ชานชาลาสถานีแล้วหัวรถจักรจะถูกตัดแล้ววิ่งเข้ารางตัน แล้วสับประแจเดินถอยหลังเพื่อเข้าวงเวียนกลับรถจักร
เพื่อกลับรถลำเลียงหันหัวรถจักรรอเดินทางกลับกรุงเทพ ชัดเจนเลยครับ... _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
|