RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311287
ทั่วไป:13269009
ทั้งหมด:13580296
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - "สมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเปิดรถไฟไทย-ลาวปฐมฤกษ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

"สมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเปิดรถไฟไทย-ลาวปฐมฤกษ์
Goto page Previous  1, 2, 3  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 09/03/2009 11:24 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
"ถ้าราคาคุยก็มีสายนี้สายแรก ส่วนที่วิ่งไปใต้จริงๆ เราไม่ได้วิ่งแบบนี้ เราวิ่งไปเปลี่ยนรถที่ชายแดน แต่สายนี้เราวิ่งไปเลย เป็นขบวนรถไฟไทยขบวนเดียว ไปหยุดที่หนองคายทำพิธีตรวจคนเข้าเมือง แล้วก็เดินทางต่อไปเลย

เรื่องนี้แย้งข้อมูลของผู้ว่าฯสักเล็กน้อยครับ ขบวน 35 นั้นไม่ได้เปลี่ยนรถ เพียงแค่เปลี่ยนรถจักรอย่างที่เราๆทราบกันอยู่
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
suraphat
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 12/02/2007
Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง

PostPosted: 10/03/2009 8:12 pm    Post subject: ขอนำเสนอใหม่เลยดีกว่า Reply with quote

เฮียวิศบทความที่ถูกต้องโดยไม่ตกหล่นทั้งหมดเป็นดังนี้นะครับ

Wisarut wrote:
ล้อหลบไป งูใหญ่จะข้ามโขงโดย : นิภาพร ทับหุ่น, จิรศักดิ์ วงษ์คำจันทร์
คอลัมน์ Life Style กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 9 มีนาคม 2552 01:00

Click on the image for full size


Quote:
เดินขบวนไปแล้วสำหรับทางรถไฟไทย-ลาว หลายคนคงเล็งผลเลิศด้านการค้า-ท่องเที่ยว แต่สำหรับ(บาง)คนลาว กลับมีความเชื่อว่าม้าเหล็กขบวนนี้จะมาช่วยแก้คำสาปให้พวกเขา


เปิดเดินรถไฟสายแรกแห่งประวัติศาสตร์ลาว รถไฟสายหนองคาย-ท่านาแล้ง หวังเปิดประตูการค้า ขนส่ง ท่องเที่ยว ไทย ลาว สู่อาเซียน

"ตราบใดที่ลาวยังไม่มีช้างเผือก หินฟู งูใหญ่ และพระเจ้าแผ่นดินที่เป็นธรรมมิกราชมาเหยียบประเทศ ก็ขออย่าให้มีความเจริญเลย’
ข้อความที่เชื่อกันว่าเป็นคำสาปแช่งของพระยาโคตรบอง เจ้าผู้ครองเมืองในสมัยล้านช้าง เป็นตำนานกล่าวขานถึงการย่ำอยู่กับที่ของประเทศลาว และหลายคนก็นำมาตีความกันไปต่างๆนานา

แต่ดูเหมือนว่าอาถรรพ์ปริศนาพันปีจะค่อยๆเสื่อมอำนาจลง เมื่อมีการถอดรหัสความหมายที่แฝงไว้ได้สำเร็จ ซึ่ง””ระเจ้าแผ่นดิน”หมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวช้างเผือก คือช้างที่เวียดนามได้มอบให้ลาว ส่วนหินฟูนั้น ตีความว่าเป็นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เหลือเพียง”งูใหญ่” เป็นปริศนาสุดท้ายที่ทุกคนต่างเฝ้ารอ เพราะเมื่อมีทุกอย่างครบตามคำกล่าว นั่นหมายความว่า ลาวจะพ้นจากคำสาปโดยทันที

กระทั่งวันที่ 5 มีนาคม 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างประเทศไทยกับประเทศสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(หนองคาย-ท่านาแร้ง) และเปิดใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ปริศนา”งูใหญ่” จึงถูกคลี่คลายลงด้วยขบวนรถไฟเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ

ลาวจะเจริญขึ้นเมื่อคำสาปถูกทำลายเป็นเรื่องเล่าหลอกเด็กหรือเปล่า นั่นคือความเชื่อ แต่ถ้าลองพิจารณาตามหลักของความจริง เมื่อมีการใช้ระบบคมนาคมขนส่งที่สะดวกประหยัดปลอดภัยและสามารถโยงใยไปในพื้นที่ต่างๆได้ทั่วถึงแน่นอนว่า การพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ก็จะตามมาในที่สุด

เปิดหวูดรถไฟไทย-ลาว

ประเทศไทยโชคดีที่มีรถไฟใช้มากว่า 100 ปี โดยเริ่มมีการใช้มาตั้งแต่ปี 2429 ขณะนั้นรัฐบาลไทยได้ให้สัมปทานกับบริษัทเดนมาร์กทำการเดินรถ รถไฟขบวนแรกถูกสร้างขึ้นเพื่อวิ่งจากกรุงเทพฯไปสมุทรปราการ ระยะทาง 21 กิโลเมตร ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้ตั้ง “กรมรถไฟหลวง” ขึ้นสังกัดกระทรวงโยธาธิการ และในวันที่ 26 มีนาคม 2429 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่าง กรุงเทพฯ-อยุธยา ระยะทาง 71 กิโลเมตร จากนั้นจึงมีการขยายเส้นทางเดินรถไฟไปทั่วประเทศ
กิจการรถไฟดำเนินไปอย่างเรียบร้อยตลอดมา ทว่า เมื่อประสพภาวะวิกฤติในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กรมรถไฟหลวงที่ขึ้นกับรัฐบาลจึงต้องเปลี่ยนมาอยู่ในความดูแลของรัฐวิสาหกิจ ละใช้ชื่อว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเจริญของประเทศไทยส่วนหนึ่งนั้นมาจากการใช้รถไฟ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการโดยสาร ท่องเที่ยวหรือขนส่งสินค้า รถไฟถือเป็นระบบขนส่งมวลชนที่ประหยัดและสะดวกที่สุด
เป็นเรื่องแปลกที่แม้จะอยู่ใกล้ชิดติดกัน แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กลับยังไม่เคยมีการใช้รถไฟมาก่อนรถไฟสายหนองคาย(ไทย)-ท่านาแล้ง(ลาว) จึงถือเป็นรถไฟสายแรกของลาว ที่ประวัติศาสตร์การเดินรถระหว่างประเทศต้องบันทึกไว้

"จริงๆ แล้วรถไฟของลาวเกิดขึ้นเมื่อประมาณ ค.ศ.1994 แต่ติดขัดหลายประการทำให้กิจการหยุดชะงักไป เมื่อรถไฟระหว่างประเทศหนองคาย-ท่านาแล้ง เปิดใช้อย่างเป็นทางการ ทำให้คนลาวรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกของลาว"

เป็นคำบอกเล่าของ Mr.Sonesack N.NHANSANA รองหัวหน้าองค์การรถไฟลาว เกี่ยวกับรถไฟสายแรกของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่เชื่อมเส้นทางระหว่างจังหวัดหนองคาย ของไทย กับ ท่านาแล้ง ของลาว

ไม่เพียงแค่ส่งเสริมด้านการค้า การขนส่ง และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับลาวเท่านั้น แต่การเดินรถระหว่างประเทศดังกล่าว ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายเส้นทางคมนาคมทางรถไฟในระดับอาเซียนด้วย เรื่องนี้รองหัวหน้าองค์การรถไฟลาว เสริมว่า

"ประชาชนในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงจะได้รับความสะดวกสบาย สามารถไปมาหาสู่หรือค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งทำให้การพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งของลาวเป็นไปในทิศทางที่ดี เป็นการเปิดประตูต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม กัมพูชา และจีน ในอนาคตจะเป็นฐานรองรับการเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ทันสมัย สิ่งสำคัญคือทางรถไฟสายนี้จะสร้างแรงดึงดูดในการลงทุนเข้ามาในลาวมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจไทย-ลาว และนานาประเทศในภูมิภาคให้ก้าวหน้าด้วย"

นานาชาติ ชานชาลา

เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ หนองคาย-ท่านาแล้ง เป็นโครงการระยะแรกของโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟจากหนองคายถึงนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟผ่านทวีปเอเชีย (Trans Asian Railway) ขององค์การสหประชาชาติ ผู้สนับสนุนเงินทุนมาจากสำนักความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA) ประเทศไทย

สำหรับปูมหลังของการเดินรถไฟระหว่างประเทศ ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า เป็นโครงการที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2543 โดยครั้งนั้นรัฐบาลไทยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อสร้างทางรถไฟจากกึ่งกลางสะพานมิตรภาพ เชื่อมกับสถานีหนองคาย ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร (จริงๆ ระยะทาง อยู่ที่ 2.65 กิโลเมตร)

ขณะที่รัฐบาลลาวก็ได้พยายามผลักดันโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟสายหนองคาย-เวียงจันทน์ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในรูปแบบของการให้สัมปทานแก่หน่วยงานภาคเอกชนจากไทย แต่ด้วยเศรษฐกิจฟองสบู่ในปี 2540 ทำให้โครงการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟสายนี้ต้องชะงักลง การก่อสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อกันในสายสั้นๆ จึงเกิดขึ้น

"เรามีโครงการสร้างทางรถไฟจากสะพานมิตรภาพถึงบ้านท่านาแล้ง เป็นระยะทาง 3.5 กิโลเมตร โดยวางแผนการใช้เงินไว้ที่ประมาณ 197 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 30 เปอร์เซ็นต์เป็นเงินที่ทางรัฐบาลไทยให้เปล่า ส่วน 70 เปอร์เซ็นต์เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็จะมีการเดินรถระหว่างประเทศ คาดว่าประโยชน์ที่จะได้รับ คือ ความสัมพันธ์ดีๆ ต่อกัน และการเชื่อมต่อระหว่างไทย-ลาว การขนส่งสินค้าจากลาวจะไปสู่ทะเล และก็อาจจะเชื่อมต่อจากลาวไปจีน หรือจีนลงมา ผ่านไทย หรือออกทางเวียดนาม โดยแผนต่อไปคือจะมีการสร้างทางรถไฟจากท่านาแล้งไปเวียงจันทน์ ระยะทาง 9 กิโลเมตร วงเงิน 900 ล้านบาท ซึ่งถ้ามีการดำเนินการอาจจะใช้เวลา 3 ปี กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย"

สำหรับการเดินรถจากสถานีหนองคาย-สถานีท่านาแล้ง ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การเดินรถจากสถานีหนองคายไปท่านาแล้ง ใช้เวลา 15 นาที โดยรถไฟจะวิ่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ซึ่งระหว่างการเดินรถจะปิดไม่ให้มีรถยนต์ข้ามผ่านสะพานเป็นเวลาประมาณ 15 นาทีด้วย

ในระยะแรกนี้ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. บอกว่า จะเปิดให้บริการประชาชนทั่วไปได้โดยสาร 4 ขบวนต่อวัน คือเที่ยวไป 2 ขบวน (หนองคาย-ท่านาแล้ง) และเที่ยวกลับ 2 ขบวน (ท่านาแล้ง-หนองคาย) เที่ยวไปออกจากสถานีหนองคายเวลา 10.00 น. และ 16.20 น. เที่ยวกลับออกจากสถานีท่านาแล้งเวลา 10.45 น.และ 17.06 น. อัตราค่าโดยสารรถตู้โดยสารชั้น 2 นั่งปรับอากาศ (บนท.ป.) ราคาคนละ 80 บาท หากมีจำนวนผู้เดินทางมาก รฟท.จะเพิ่มรถให้บริการ โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารไว้เป็นมาตรฐานแล้วคือ รถโดยสารชั้น 3 คนละ 20 บาท และรถโดยสารชั้น 2 คนละ 30 บาท

"เราคะเนไว้ว่าจะมีผู้โดยสารวันละประมาณ 300-500 คน คำนวณแล้วจะได้วันละ 7,000-8,000 บาท ต่อเที่ยว วิ่งวันละ 4 เที่ยว ก็ 20,000 กว่าบาทต่อวัน ปีหนึ่งก็เป็นสิบล้าน อันนี้คาดไว้เพราะเราไม่รู้ว่า ต่อไปผู้โดยสารจะมากน้อยแค่ไหน สำหรับผลประโยชน์ที่ลาวจะได้รับเป็นส่วนแบ่ง 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เราจ่ายให้เลย"

แม้จะเปิดใช้แล้ว แต่ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. บอกว่า ยังไม่เรียกว่าเปิดอย่างเป็นทางการ เป็นแค่การทดลองเดินรถเท่านั้น จะเปิดเป็นทางการเมื่อไรขึ้นอยู่กับกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎร

"ก็ทดลองเดินรถไปเรื่อยๆ จนกว่าข้อกฎหมายจะออกมา น่าจะอีกสัก 2 เดือนถึงจะผ่านสภา เรียกว่า พระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน"

เส้นทางรถไฟดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เหตุที่เปิดเดินรถล่าช้า ยุทธนา เผยว่า

"ยอมรับว่า บางส่วนยังหนักใจเรื่องยาเสพติด พูดกันตรงๆ เพราะฉะนั้นมาตรการนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง ข้อมูลที่คนจะข้ามประเทศ ข้ามพรมแดนเขามาหาเราหรือเราไปหาเขา มันต้องสามารถกดปุ๊บเช็คได้เลย เพราะฉะนั้นระบบที่จะเอามาใช้มันต้องทันที และสามารถครอบคลุม ซึ่งเพิ่งเสร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถ้าตรงนี้ไม่ได้ก็ไม่ได้ ไม่งั้นเป็นจุดล่อแหลมมาก แทนที่เราจะเชื่อมความสัมพันธ์ก็อาจจะกลายเป็นอะไรไป"

สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่างประเทศ ต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองตามกฎหมาย ผู้โดยสารต้องแจ้งชื่อให้กับพนักงานจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกครั้ง ส่วนการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือการคืนเงินค่าโดยสารกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้ ยังคงปฏิบัติเช่นเดียวกับตั๋วโดยสารที่ใช้ในปัจจุบัน

สถานีต่อไป ท่านาแล้ง

สถานีท่านาแล้ง ตั้งอยู่ที่บ้านดงโพสี เมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ ถือเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกของลาว และเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าที่สำคัญ ในอนาคตรัฐบาลลาวมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานีท่านาแล้งให้กลายเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแบบครบวงจร ตลอดจนศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวด้วย

"ก็จะได้ผลประโยชน์ ค่าขนส่งจะถูกลง เช่น ขนส่งน้ำมัน เหล็ก คือจะถูกลงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการท่องเที่ยวก็มีคนไปคนมามากขึ้น เพราะการขนส่งระบบรางถือเป็นระบบที่ถูกที่สุด ดังนั้นจะช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาว" Mr.Sonesack บอก

ถามว่าการเดินทางจากลาวมาไทยในระยะก่อนที่จะมีรถไฟเป็นอย่างไร รองผู้ว่าการรถไฟลาว แจงว่า คนลาวจะใช้รถส่วนบุคคล รถประจำทาง หรือรถสองแถว เพื่อเดินทางไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งระยะทางจากเวียงจันทน์ถึงด่านประมาณ 28 กิโลเมตร เมื่อไปถึงแล้วต้องรอต่อคิวข้ามแดนเป็นชั่วโมง เสียเวลา และสิ้นเปลืองพลังงานมาก

"ถ้าใช้รถไฟ จากสถานีท่านาแล้งอีก 9 กิโลเมตรก็ถึงเวียงจันทน์ ไม่ไกล มีรถบัสมารับต่อเข้าไปเวียงจันทน์ได้เลย เราวางระบบลอจิสติกส์ไว้ว่าต่อไปจะเข้าเวียดนาม เข้าฮานอย ไปคุนหมิง จีน อันนั้นเป็นโครงการระยะยาว"

Mr.Sonesack บอกว่า คนลาวมีความตื่นตัวมากเกี่ยวกับการใช้บริการรถไฟ สังเกตได้จากปริมาณผู้ใช้บริการในวันที่มีการทดลองวิ่ง 8 วัน มีผู้โดยสารทั้งหมด 6,000 คน เป็นชาวไทย 4,000 คน และชาวลาว 2,000 คน

"ลาวเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ร้อยปีพันปีไม่เคยมีรถไฟ มีแต่สนามบิน นี่เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นก็สร้างความปลาบปลื้มให้กับคนลาวเป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะคนเวียงจันทน์นะ คนจากที่อื่นๆ ของลาวก็มาใช้กันคึกคัก" รองผู้ว่าการรถไฟลาว บอก

ผู้โดยสารที่คาดว่าจะใช้บริการรถไฟระหว่างประเทศสายนี้ อย่าง สมจิต อัคลา ชาวหนองคาย บอกว่า รู้สึกดีใจ เพราะถือเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ที่เกิดจากความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีของทั้งสองประเทศ และเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้หลายสิ่งหลายอย่างดีขึ้น โดยเฉพาะด้านการคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยวคึกคัก

ด้าน พิเชษฐ ตันเทิดทิตย์ นักธุรกิจในจังหวัดเดียวกัน กล่าวว่า การขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟจะทำให้ลดต้นทุนการขนส่งและประหยัดพลังงานได้เป็น 2 เท่า ส่วนการท่องเที่ยวนั้นทางรถไฟจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่จังหวัดหนองคายและเวียงจันทน์มากขึ้น

การเปิดเส้นทางดังกล่าวอาจส่งผลดีกับคนส่วนใหญ่ แต่สำหรับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวอย่าง สุกานดา พันธุ์เสือ เจ้าของ บริษัท กานตนาทัวร์ จำกัด บอกว่า การเดินทางที่ประหยัดและสะดวกนี้อาจทำให้ผู้ประกอบการบางรายมีรายได้ที่ลดลง

"สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ประกอบการจะต้องยอมรับและหาวิธีการหรือจุดขายใหม่ๆ ขึ้นมาใช้เพื่อให้อยู่รอด ซึ่งจากนี้ไปก็ต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว"

ดูเหมือนว่าตอนนี้ลาวจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ทั้งจากนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ แว่วๆมาว่ามีนักธุรกิจไทยหลายคนสนใจจะไปลงทุนในฝั่งลาวมากขึ้น

สงสัยว่า คำสาปที่ถูกสะกดไว้เมื่อหลายพันปีก่อน จะถูกถอนเพราะงูใหญ่อย่างรถไฟข้ามประเทศซะแล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นสีสันจากหลายแง่มุมของผู้ที่เกี่ยวข้องบนเส้นทางรถไฟสายแรกของลาว ณ วันนี้.


แอบดู 'งูใหญ่' ตัวอื่นๆ

สำหรับรถไฟระหว่างประเทศไทยกับเพื่อนบ้าน เส้นทางที่หลายคนคุ้นเคย คือ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ แต่ ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กลับบอกว่า รถไฟเชื่อมระหว่างประเทศเต็มรูปแบบสายแรกคือ หนองคาย (ไทย) - ท่านาแล้ง (ลาว)

"ถ้าราคาคุยก็มีสายนี้สายแรก ส่วนที่วิ่งไปใต้จริงๆ เราไม่ได้วิ่งแบบนี้ เราวิ่งไปเปลี่ยนรถที่ชายแดน แต่สายนี้เราวิ่งไปเลย เป็นขบวนรถไฟไทยขบวนเดียว ไปหยุดที่หนองคายทำพิธีตรวจคนเข้าเมือง แล้วก็เดินทางต่อไปเลย ถ้าถามผม อยากทำที่เขมรเพราะเดิมเราเคยมีเส้นทางรถไฟอยู่แล้ว ตรงอรัญประเทศ เข้าปอยเปต ไม่ไกล เคยมีการเปิดใช้ แต่การเมืองของเขาทำให้ต้องหยุดบริการ อีกที่ที่อยากเข้าไปคือ พม่า ตรงด่านเจดีย์สามองค์ กาญจนบุรี อันนี้คือที่ผมอยากทำนะ"

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20090309/22776/สี่ล้อหลบไป-งูใหญ่จะข้ามโขง.html



เหตุที่กระผมต้องมาเพิ่มให้นี้ก็เนื่องจากว่าวันนี้ทั้งวันกระผมได้มีโอกาสไปขอรับบทความที่ว่านี้ทั้งบทความโดยไม่ตกหล่น มาจากเพื่อนที่เดินทางมาจากสำนักพิมพ์โดยตรง เนื่องจากบทความที่มีในอินเตอร์เน็ตนั้น มันมีไม่ครบนะครับ Rolling Eyes


Last edited by suraphat on 11/03/2009 2:57 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42732
Location: NECTEC

PostPosted: 10/03/2009 11:13 pm    Post subject: Reply with quote

คุณสุรผัด, น่ากลัวว่า ทาง The Nation ได้ หั่นข้อความสำคัญในเวอร์ชันที่ออกทาง Internet หนะสิครับ Sad
//--------------------------------------------------------------------------------------

รถไฟไทย-ลาวเปิดเดินรถบริการต่อเนื่องแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2552 15:00 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000027384

Click on the image for full size

หนองคาย - รถไฟระหว่างประเทศ หนองคาย-ท่านาแล้ง เริ่มเปิดบริการผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องแล้ว หลังทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลงเดินรถร่วมกัน

นายทวีป เสือรอด นายสถานีรถไฟหนองคาย เปิดเผยว่า ขณะนี้รถไฟระหว่างประเทศ สายหนองคาย-ท่านาแล้ง ได้เปิดให้บริการเดินรถรับส่งผู้โดยสารตามปกติแล้ว หลังจากมีพิธีเปิดเดินรถไฟอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ในช่วงแรกยังไม่สามารถให้บริการอย่างเต็มที่ได้ เนื่องจากยังไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงเดินรถไฟร่วมกันระหว่างสองประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย และหัวหน้าองค์การรถไฟลาว ได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการเดินรถไฟร่วมกันแล้ว ทำให้สามารถให้บริการรถไฟได้ตามปกติและต่อเนื่อง นับแต่นี้เป็นต้นไป คนลาวก็จะได้ใช้บริการรถไฟเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ภายหลังเปิดรถไฟอย่างต่อเนื่องเป็นปกติแล้ว ในช่วงแรกยังพบว่ามีปัญหาในการกรอกเอกสารผ่านแดน ทั้งเกี่ยวข้องกับด่านตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร ทำให้ต้องเสียเวลาในการดำเนินการเล็กน้อย ซึ่งผู้โดยสารที่จะเดินทางข้ามประเทศจะต้องทำเอกสารผ่านแดนชั่วคราว หรือต้องมีพาสปอร์ตทุกคนตามกฎหมายการเข้าเมือง เช่นเดียวกับการเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว

สำหรับขบวนรถไฟที่จะให้บริการในแต่ละวัน มีจำนวน 2 เที่ยว หรือ 4 ขบวน
เที่ยวแรก (ขบวน 69) รถไฟออกจากสถานีหนองคาย เวลา 10.00 น.ใช้เวลาเดินรถไฟ 15 นาที ถึงสถานีท่านาแล้ง 10.15 น.

พักรถไฟ 30 นาที จนถึงเวลา 10.45 น. รถไฟออกจากสถานีท่านาแล้ง (เป็นขบวน 914) ถึงสถานีหนองคาย และเที่ยวที่ 2 (ขบวน 913) เวลา 15.00 น.ถึงสถานีท่านาแล้ง 15.15 น. พักรถ 30 นาที แล้วออกจากสถานีท่าแล้ง (เป็นขบวน 70) ถึงสถานีหนองคายเวลา 16.00 น.

ในส่วนอัตราค่าโดยสารในช่วงแรกจะมีเฉพาะราคาตู้ปรับอากาศ 50 บาท (ชั้น 2 ปรับอากาศ) เนื่องจากเป็นรถไฟขบวนรถด่วนจากกรุงเทพฯ ในช่วงต่อไปเมื่อมีขบวนรถไฟเพิ่มเติมจึงจะปรับอัตราค่าโดยสารเป็น 20 บาท และ 30 บาท
Back to top
View user's profile Send private message
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 11/03/2009 1:26 pm    Post subject: Reply with quote

คลิป VDO จาก ผู้จัดการครับ
http://www.manager.co.th/Multimedia/ViewVideo.aspx?NewsID=9520000027283
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42732
Location: NECTEC

PostPosted: 12/03/2009 1:34 pm    Post subject: Reply with quote

รายงาน:ก้าวแรกเส้นทางรถไฟหนองคาย-ท่านาแล้งเปิดประตูมิติเชื่อมเศรษฐกิจไทย-อินโดจีน

Click on the image for full size
โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 12 มีนาคม 2552 12:59 น.
http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9520000028372

18 เดือนของการรอคอย ในที่สุดเมื่อ 5 มี.ค. 52 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ก็ได้ฤกษ์เปิดหวูดเดินรถในเส้นทางหนองคาย-ท่านาแล้ง ระยะทาง 3.5 กม. ที่เชื่อมต่อไปยังประเทศลาวเป็นครั้งแรก ถือเป็นปฐมฤกษ์ของการเปิดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศอย่างเป็นทางการ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการเดินรถอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีของการเจริญสำพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อม เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าลาวถือว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องมาช้านาน อีกทั้งยังแฝงนโยบายเชื่อมความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจของสองประเทศที่จะงอกเงยขึ้นในอนาคต

โดยเส้นทางสายหนองคาย-ท่านาแล้งนับว่าเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยก่อสร้างเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศไปมาหาสู่กันสะดวกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาการเดินทางส่วนใหญ่ของประชาชนจะเดินทางโดยรถยนต์ ซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง กว่าจะถึงท่านาแล้ง

สำหรับที่มาที่ไปเกิดจากรัฐบาลไทยในปี 2537 มีแผนจะก่อสร้างเส้นทางรถไฟเพื่อเชื่อมกับประเทศบ้าน ซึ่งในขณะนั้นรัฐบาลออสเตรเลียเสนอให้ความช่วยเหลือโดยการให้เงินลงทุนแบบให้เปล่าแก่ไทยและลาวในการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการ และก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อระหว่าง 2 ประเทศ โดยได้มีการทำบันทึกข้อตกลง 3 ฝ่าย คือ ไทย –ลาว-ออสเตรเลีย มีการกำหนดให้ทำการศึกษาครอบคลุมทางรถไฟบนสะพานและย่านสถานีทั้งประเทศด้วย ทั้งนี้โครงการก่อสร้างทางรถไฟบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สายหนองคาย-ท่านาแล้ง เพิ่งเริ่มดำเนินการอีกครั้งเมื่อปี 2549 ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาลไทยเป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าจำนวน 197 ล้านบาท หรือ 30% ส่วนอีก 70% เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 900 ล้านบาท

เส้นทางเริ่มจากสถานีหนองคาย วิ่งข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเข้าสู่ประเทศลาวสิ้นสุดที่สถานีท่านาแล้ง โดยสถานีท่านาแล้งถือว่าเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกของลาวและเป็น Freight Terminal ที่สำคัญ และในอนาคตลาวมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีท่านาแล้งให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแบบครบวงจร ตลอดจนศูนย์กลางการท่องเที่ยว ระหว่างเวียงจันทน์กับหนองคายอีกด้วย นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นอาเซียนที่มีความสำคัญต่อภูมิภาคและประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขงให้สามารถไปมาหาสู่แลกเปลี่ยนสินค้ากันและกันได้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมาลาวถือว่าเป็นประเทศที่ไม่มีพื้นที่เชื่อมต่อ (Land Lock) มานาน ดังนั้นการเปิดเส้นทางรถไฟดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการเปิดประตูประเทศลาวสู่ประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ทั้งเวียดนาม กัมพูชา จีน

เส้นทางรถไฟเส้นทางดังกล่าวจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการ 4 ขบวน คือเที่ยวไป 2 ขบวน เที่ยวกลับ 2 ขบวน ได้แก่

ขบวนรถด่วน 69 ออกจากหนองคาย เวลา 10.00 น. ถึงท่านาแล้ง เวลา 10.15 น.
ขบวนรถพิเศษ 913 ออกจากหนองคาย เวลา 16.20 น. ถึงท่านาแล้ง เวลา 16.35 น.
รถไฟเที่ยวกลับขบวนรถด่วน 914 ออกจากท่านาแล้ง เวลา 10.45 น. ถึงหนองคาย เวลา 11.00 น. และ
ขบวนรถด่วน 70 ท่านาแล้ง 17.06 น. ถึงหนองคาย 17.20 น.

ส่วนราคาค่าโดยสารในส่วนของรถชั้น3 เก็บค่าโดยสาร 20 บาท และรถไฟปรับอากาศชั้น 2 เก็บคนละ 80 บาท นอกจากนี้ในช่วงทดลองเดินรถ ร.ฟ.ท.จะขอทางลาวให้ยกเลิกค่าผ่านชายแดนจำนวน 200 บาท (ค่าเหยี่ยบแผ่นดิน) เพื่อเป็นการจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถไฟ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือ ทั้งนี้คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารวันละ 500 คน และมีรายได้ในปีแรกของการเปิดเดินรถปีละกว่า 10 ล้านบาท

ส่วนภารกิจที่ ร.ฟ.ท. ต้องดำเนินการควบคุม คือ การทำสัญญาข้อตกลงการเดินรถร่วมไทย-ลาว การจัดให้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ขององค์กรการรถไฟของลาว การเตรียมการด้านการเดินรถ รวมทั้งจัดเตรียมสถานที่ปฎิบัติงาน ในระยะแรกของการเปิดเดินรถ แต่ทั้งนี้คงต้องรอให้ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนเข้าสภาและประกาศบังคับใช้ก่อน ซึ่งในระหว่างที่รอกฎหมายผ่านสภา ร.ฟ.ท. ก็จะดำเนินการทดสอบเดินรถตามเดิมไปก่อน

ในระยะเริ่มต้นของการเปิดใช้เส้นทางหวังผลแค่เรื่องการท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก ส่วนใหญ่เมื่อเดินทางมากรุงเทพฯ ก็มักจะนั่งรถไฟเพื่อเดินทางไปที่ลาวเป็นเป้าหมายต่อไป โดยใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย และนั่งรถโดยสารต่อเข้าไปในลาวอีกทอดหนึ่ง ซึ่งการเชื่อมต่อเส้นทางนี้จะช่วยการเดินทางเกิดความสะดวกมากขึ้น และในอนาคตเป้าหมายต่อไปก็หวังผลในด้านการขนส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์ระหว่างไทย-ลาว ซึ่งลาวเป็นหนึ่งในตลาดหลักของการส่งออกสินค้าไทย และในอนาคตที่เส้นทางรถไฟเชื่อมไปถึงจีนก็จะช่วยส่งเสริมด้านการค้าระหว่างประเทศในกลุ่มอินโดจีน ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนค่าขนส่งลดลงจากเดิมที่ใช้การขนส่งทางรถเป็นหลัก

ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การที่ทำเส้นทางวิ่งเข้าไปถึงท่านาแล้งเป็นแค่จุดเริ่มต้น เป็นทางรถไฟสายแรกในลาว ต่อไปลาวจะต้องทำเส้นทางขยายไปอีก จนไปเชื่อมกับจีนได้ แต่คงจะเป็นแบบค่อยไปค่อยไป เพราะลาวอาศัยเงินกู้และเงินช่วยเหลือเป็นหลัก ซึ่งในระยะต่อไปลาวมีแผนจะขยายเส้นทางต่อจากท่านาแล้งไปถึงเวียงจันทน์ ระยะทาง 9 กม.

//---------------------------------------------------------------------------------------------------
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44606
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/03/2009 4:59 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ใช้บอลิกานลดไฟลาว-ไท ต้องแจ้งปึ้มผ่านแดน หรือ Passport
นสพ.เวียงจันใหม่ 12 มี.ค. 2009

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
MayyaM
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/07/2007
Posts: 1194

PostPosted: 12/03/2009 8:49 pm    Post subject: Reply with quote

รบกวนผู้เชียวชาญด้านภาษาลาว หรือมีความสัมพันธ์กับคนที่อ่านภาษาลาวได้

ช่วยแปลจากภาษาลาว เป็นภาษาไทยให้อ่านด้วยนะคะ


ขอบคุณหลายๆ เน้อ Razz
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 30/03/2006
Posts: 3642
Location: Thailand

PostPosted: 12/03/2009 8:53 pm    Post subject: Reply with quote

MayyaM wrote:
รบกวนผู้เชียวชาญด้านภาษาลาว หรือมีความสัมพันธ์กับคนที่อ่านภาษาลาวได้

ช่วยแปลจากภาษาลาว เป็นภาษาไทยให้อ่านด้วยนะคะ

ขอบคุณหลายๆ เน้อ Razz


ให้ท่านท้าววงกบประตูหน้าต่างแปลให้ไหมครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
pattharachai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย

PostPosted: 12/03/2009 8:58 pm    Post subject: Reply with quote

CENTENNIAL wrote:


ให้ท่านท้าววงกบประตูหน้าต่างแปลให้ไหมครับ



^
^
^
ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาจารึกภาษาตะวันออก (แต่เรียนจากที่ไหนไม่รู้ ยังหาสำนักไม่เจอ Laughing )
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44606
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/03/2009 9:27 pm    Post subject: Reply with quote

มาช่วยแกะอักขระให้ครับ Very Happy

Quote:
ผู้ใช้บอลิกานลดไฟ ลาว-ไท ต้องแจ้งปึ้มผ่านแดน หรือ Passport

ผู้โดยสานที่ต้องกานใช้บอลิกานลดไฟ ไลยะที่ I ขัวมิดตะพาบ ลาว-ไท 1 ที่ได้เปิดเปนทางกาน ในวันที่ 5 มีนา 2009 ที่ผ่านมา ต้องแจ้งปึ้มผ่านแดน หรือ ปาดสะปอ (Passport) ในเวลาซื้อปี้โดยสาน

ท่าน ดร.คำแสง ไซยะกอน หัวหน้าองกานทางลดไฟ กะซวงโยทาทิกาน และขนส่ง ได้ถะแหลงข่าว ในวันที่ 10 มีนา 2009 ว่า: โดยปะติบัดตามสันยาว่าด้วยกานแล่นลดไฟฮ่วมกัน ละหว่างสองลัดถะบาน ลาว-ไท ได้ลงนามในวันที่ 3 มีนา 2008 ที่นะคอนหลวงเวียงจัน องการทางลดไฟลาว และการลดไฟแห่งปะเทดไทย ได้ค้นคว้าปึกสาหาลือกันกับแผนการละเอียด ในการแล่นลดไฟฮ่วมกัน ละหว่าง 2 องกานทางลดไฟ ก็คือละหว่าง ลาว-ไท ดั่งนั้น จึ่งได้ตกลงเซ็นบดบันทึกซ่วยจำ ละหว่าง 2 ฝ่าย ในวันที่ 8 มีนา 2009 ผ่านมา เซิ่งได้ละบุไว้ดั่งนี้

1. ทังสองฝ่ายได้ตกลงบอลิกานแล่นลดไฟฮ่วมกัน ย่างเป็นทางกาน นับแต่วันที่ 9 มีนา 2009 เปน ปกกะติทุกๆ วัน

2. ละเบียบการในการแล่นลดไฟยู่เบื้องลาว และ ไท แม่นมีข้อบังคับในการเดินลดไฟของการลดไฟแห่งปะเทดไท เกี่ยวกับแผนแล่นลดไฟทั้งสองฝ่าย เห็นดีแล่นลดไฟวันละ 2 เถี้ยว คือ :

2.1 เถี้ยวที่หนึ่ง ออกจากสะถานีหนองคายเวลา 10:00 โมง เถิงสะถานีท่านาแล้ง 10:15 โมง และออกจากสะถานีท่านาแล้ง เวลา 11:00 โมง เถิงหนองคาย 11:15 โมง
2.2 เถี้ยวที่สอง ออกจากหนองคาย 15:00 โมง ฮอดท่านาแล้ว 15:15 โมง
และออกจากท่านาแล้ง 15:45 โมง ฮอดหนองคาย 16:00 โมง

3. สำลับลาคาปี้โดยสาน แม่นได้กำนดไว้ดั่งนี้
3.1 ผู้โดยสารชั้น I ปับอากาดลาคา 12,500 กีบ/เถี้ยว (50 บาดเงินไท)
3.2 ตู้โดยสานชั้น II 7,500 กีบ/เถี้ยว (30 บาดเงินไท) และ
3.3 ตู้โดยสานชั้น III 5,000 กีบ/เถี้ยว (20 บาดเงินไท)

4. ลาคาปี้โดยสานลดบัด (ปับอากาด) แต่สะถานีท่านาแล้ง เถิงคิวลดเมตะหลาดเซ้า และตะหลาดเซ้าเถิงท่านาแล้ง องการลดไฟแห่งปะเทดไท เห็นดีกับลัดวิสาหะกิดลดเมนะคอนหลวงเวียงจัน ในลาคาปี้ละ 12,500 กีบ/เถี้ยว(50 บาทเงินไท) ส่วนเวลาลดบัดจะออกจากคิวตะหลาดเซ้าเวลา 9:30 โมง และ ตอนบ่ายจะไปเถิงท่านาแล้ง 14:30 โมง เพื่อลับผู้โดยสานใหม่

5. สะถานที่ขายปี้ลดไฟ-ลดบัด (ปับอากาด) เบื้องลาวขายยู่สะถานีท่านาแล้ง และ ไท ขายยู่สะถานีลดไฟหนองคาย บันดาท่านที่เลือกจะเดินทางด้วยลดไฟ กะลุนาแจ้งปึ้มผ่านแดน หรือ ปาดสะปอ เวลาซึ้อปี้โดยสานกับพะนักงาน เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องฝ่ายลาว และ ไท จะได้มีการกวดกาการเข้า-ออกเมืองของผู้โดยสาน ตามละเบียบหลักกาน ในการเดินทางละหว่างปะเทด


ขออนุญาตปรับเป็นหัวข้อเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นนะครับ Wisarut
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3  Next
Page 2 of 3

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©