View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 2:24 pm Post subject: ตามรอยอดีต: ทางรถไฟขนอ้อยโรงงานน้ำตาลเกาะคา จ.ลำปาง |
|
|
สวัสดีครับทุกท่าน
ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยได้เห็นผมโผล่มาประจำการในเว็บมากมายสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยภารกิจส่วนตัว และการใช้ชีวิตช่วงวันหยุดยาวที่ ตจว. กลับมา กทม. ได้ยังไม่ถึง 24 ชม. ก็ดันมาวุ่นวายกับม็อบปิดถนนที่ช่างน่าปวดกบาลดีเหลือเกิน เข้าเรื่องเลยดีกว่า แฟนๆ ขาประจำของเว็บน่าจะพอจำกันได้ กับกระทู้ รอยอดีต : ทางรถไฟเล็กโรงงานน้ำตาลเกาะคา ที่อาจารย์เอก เดอะแม็พ หรือคุณ Mongwin ได้จุดประกายเอาไว้ จนทำให้ผมเองซึ่งอยู่ที่ลำปางมาตั้งแต่เด็กๆ อยากรู้เป็นอย่างยิ่งว่า เส้นทางรถไฟดังกล่าว จะเริ่มจากจุดไหนแล้วไปสิ้นสุดที่ตำแหน่งใด แล้วในปัจจุบันมันได้แปรสภาพกลายเป็นอะไรไปแล้ว ยังคงร่องรอยอดีต เช่น มีคันทางอยู่หรือไม่? แล้วก็ ฯลฯ จนกระทั่งได้ลองมา Plot แนวทางลงบนภาพถ่ายดาวเทียม ดังที่เคยชมกันไปแล้ว ในกระทู้ที่เอ่ยถึงดังกล่าว
จนทราบมาว่าทางรถไฟสายนี้ มาสิ้นสุดลงแถวหลังบ้านคุณยายของผมที่ อ.แม่ทะ พร้อมทั้งได้รับการยืนยันจากญาติๆ ทั้งคุณยาย พ่อ แม่ น้า อา ว่าเมื่อก่อนนี้ ท่านเหล่านั้นยังเคยเห็นรถไฟขนอ้อย เคยไปดึงอ้อยจากบนขบวนรถกลับมาทานที่บ้าน ตลอดจนเคยนั่งรถไฟดังกล่าวไปซื้อกับข้าวที่ตลาด อ.เกาะคา แล้วก็นั่งกลับอีกด้วย ก็เลยทำให้ต่อมอยากรู้มันเริ่มจะบวมจนแทบจะปริ
ในที่สุดช่วงวันหยุดวันจักรีที่ผ่านมา ท่าน ผตก.เจฟ ท่าเรือ สละเวลาอันทีค่า มาเป็นแขกเยี่ยมเยียนผมถึงบ้านที่ จ.ลำปาง ดังนั้น ในฐานะเจ้าบ้านที่ดีก็เริ่มแผนการพาท่าน ผตก.เจฟ ไปลำบากสำรวจเส้นทางรถไฟขนอ้อยจนได้ ถึงแม้จะใช้เวลาในการสำรวจไม่นาน แต่ก็สร้างความตื่นเต้นและความดีใจ ที่สามารถตามหาร่องรอยอดีตที่ผ่านไปกว่า 30 ปีจนได้ในที่สุด
=======================
ก่อนที่จะเริ่มรายการย้อนรอยอดีตครั้งนี้ ขออนุญาตทำความเข้าใจเกี่ยวกับการนำเสนอเรื่องราวและรูปภาพให้กับท่านผู้ชม ดังนี้ครับ
1. ภาพที่นำเสนอนั้นถ่ายมาจากกล้อง 2 ตัวคือของผมและของ ผตก.เจฟ ดังนั้น มิต้องแปลกใจหากว่าชื่อผู้ถ่ายภาพจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดรายการ
2. เพื่อความเข้าใจโดยง่ายของผู้ชม ว่าขณะนี้คณะสำรวจกำลังอยู่ ณ บริเวณใด ผมจึงจะนำเอาภาพถ่ายดาวเทียมมาประกบเปรียบเทียบให้ดู ซึ่งตำแหน่งที่ถ่ายภาพอยู่นั้น (หรือบริเวณใกล้เคียง) จะมาร์กจุดเอาไว้ด้วย
3. เส้นสีเหลือง ในแผนที่ดาวเทียม หมายถึง แนวทางรถไฟขนอ้อย
4. ไม่รับประกันความถูกต้อง 100% ของข้อมูล ดังนั้น โปรดใช้จักรยานเพื่อลดภาวะโลกร้อนและใช้วิจารณญาณในการชม ถ้าผิดก็กรุณาช่วยแก้ไขเพิ่มเติมให้ด้วยครับ
เมื่อทำความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาเริ่มตามรอยอดีตกันเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 2:41 pm Post subject: |
|
|
ก่อนจะเริ่มเข้าเรื่อง ขออนุญาตเกริ่นนำเกี่ยวกับเรื่องของน้ำตาลและการผลิตน้ำตาลในบ้านเราสักเล็กน้อย ว่ามีที่มาอย่างไรและใช้อะไรเป็นวัตถุดิบในการผลิต
====================================
ประวัติอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย
อ้อยเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณไม่เพียงแต่นำมาผลิต เป็นน้ำตาลเท่านั้น แต่จากประวัติศาสตร์พบว่า อ้อยมีบทบาทหลายอย่างในอตีดกาล เช่น ใช้ในพิธีกรรมต่างๆแสดงถึงความสมบูรณ์ และความหวานแสดงถึงปัญญา โดยมักจะนำอ้อยและกล้วยเป็นของใช้ประกอบในพิธีคู่กัน เช่นใช้ในพิธีมงคล หรือเทศกาลต่างๆ ทั้งเพื่อประดับ หรือมีความหมาย ในทางที่เป็นสิริมงคล เช่น ในขบวนแห่ขันหมาก เป็นต้น และที่ไม่ค่อยทราบกันก็คือน้ำอ้อยผสมกับปูนขาวใช้สอปูนและฉาบผนัง ในการประกอบ เป็นประติมากรรมและสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยทวารวดีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ตลอดจนยังปราก เป็นบทเพลง ไทยต่างๆ มากมาย นอกจากนั้นอ้อยยังเป็นส่วนผสมในตำรับยาแผนโบราณได้อีกด้วย
สำหรับการทำน้ำตาลจากอ้อยในประเทศไทยนั้น มีหลักฐานว่าเริ่มมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยทำเป็นน้ำตาลงบ แหล่งผลิตอยู่ที่ จังหวัดสุโขทัย กำแพงเพชร และพิษณุโลก ซึ่งปัจจุบันยังมีการผลิตน้ำตาลงบอยู่ในบางจังหวัด ต่อมาใน ปี พ.ศ. 1951 และ พ.ศ. 1955 ได้มีการส่งออกน้ำตาลทรายแดงไปยังประเทศญี่ปุ่น การผลิตน้ำตาลทรายแดงได้ดำเนินกิจการด้วยดีโดยมี แหล่งผลิตใหม่ที่ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และ จังหวัดชลบุรี เมื่อปริมาณการผลิตมีมากกว่าความต้องการบริโภค จึงมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ ก่อนที่แหล่งผลิตจะย้ายมายังลุ่มน้ำท่าจีน และบริเวณตอนล่างของลุ่มน้ำเจ้าพระยา
โดยมีการส่งออกอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 2 และ 3 (พ.ศ. 2352-2375) และเริ่มเสื่อมถอยจนต้องมีการนำเข้าในปี พ.ศ. 2436 จนกระทั่งได้มีการพัฒนาการผลิตน้ำตาลด้วยกรรมวิธีสมัยใหม่ในยุโรป ทำให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกต่ำลง การผลิตน้ำตาลในประเทศไทยจึงต้องหยุดกิจการไปบ้าง เหลือเพียงการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศเท่านั้น
ต่อมาการบริโภคได้เพิ่มขึ้น จนกระทั่งต้องมีการนำเข้าจากประเทศ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รัฐบาลจึงเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับ โครงการอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายขึ้น การปลูกอ้อยเริ่มใหม่อีกครั้งประมาณปี พ.ศ. 2475 มีโครงการขอตั้งโรงงานน้ำตาลที่จังหวัดชลบุรีโดยเอกชนสนใจที่จะลงทุน ผลิตน้ำตาลด้วยวิธีการสมัยใหม่ ต่อมารัฐบาลได้ตั้งโรงงานน้ำตาลขึ้นมาเองในปี พ.ศ. 2480 ชื่อว่า "โรงงานน้ำตาลไทยลำปาง" ที่ อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยผลิตน้ำตาลทรายขาว เพื่อที่จะลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
การผลิตน้ำตาลทรายขาวในประเทศไทยเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2480 โรงงานที่ทันสมัยแห่งแรกสร้างขึ้นที่ อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ในสมัยพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรี มีชื่อว่า "โรงงานน้ำตาลไทยลำปาง" เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2479 โดยบริษัท สโกด้าเวอรค์ ประเทศเชคโกสโลวาเกีย เริ่มเปิดดำเนินการหีบอ้อยในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2480 มีกำลังการหีบอ้อยในระยะแรก วันละ 500 ตัน ในปี พ.ศ. 2484 ได้มีการสร้าง "โรงงานน้ำตาลไทยอุตรดิตถ์" ขึ้นเป็นแห่งที่ 2 โดยซื้อโรงงานมาจากฟิลิปปินส์
เริ่มหีบอ้อยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์พ.ศ. 2485 มีกำลังการผลิต 500 ตันอ้อยต่อวันเช่นเดียวกัน โรงงานน้ำตาลทั้ง 2 แห่ง ยังเปิดดำเนินการจนถึงปัจจุบัน โดยโรงงานน้ำตาลลำปางมีกำลังการผลิต 2,938 ตันอ้อยต่อวัน และ โรงงานน้ำตาลไทยอุตรดิตถ์ มีกำลังการผลิต 1,738 ตันอ้อยต่อวัน
ปัจจุบันอ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญพืชหนึ่งของประเทศไทย มีชาวไร่อ้อยมากกว่า 100,000 ครอบครัว พื้นที่ปลูกกระจายใน จังหวัดต่างๆ มากกว่า 40 จังหวัด ประมาณ 6 ล้านไร่ ผลผลิตอ้อยต่อปีประมาณ 45-70 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 5-7 ล้านตัน เป็นน้ำตาลที่บริโภคภายในประเทศ 2 ล้านตันที่เหลือส่งออกขายในต่างประเทศ มีมูลค่ารวมมากกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีโรงงานน้ำตาล 46 โรงงาน กําลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 623,390 ตันต่อวัน ตั้งกระจายอยู่ใน 24 จังหวัด ดังนี้
1. ภาคเหนือ มี 9 โรงงาน ในเขตจังหวัดดังนี้ ลําปาง อุตรดิตถ์ กําแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์
2. ภาคกลาง มี 18 โรงงานในเขตจังหวัดดังนี้ สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์
3. ภาคตะวันออก (ภาคกลาง) มี 5 โรงงาน ในเขตจังหวัด ดังนี้ ชลบุรี สระแก้ว
4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 14 โรงงาน ในเขตจังหวัดดังนี้ นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร บุรีรัมย์ สุรินทร์
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=211093
====================================
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในบ้านเราโรงงานน้ำตาล จะใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งในสมัยก่อนนั้น การคมนาคมที่สะดวกที่สุดก็หนีไม่พ้นรถไฟ ดังนั้น จึงได้มีการสร้างทางรถไฟเล็กขึ้น สำหรับใช้บรรทุกอ้อยจากไร่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อมาส่งยังโรงงานสำหรับการผลิตน้ำตาลทรายนั่นเอง |
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 2:48 pm Post subject: |
|
|
จากแผนที่ปี 2501 ที่อาจารย์เอก ได้นำมาให้ชมนั้นจะเห็นว่า ทางรถไฟขนอ้อยของโรงงานน้ำตาลเกาะคา มีปรากฏอยู่ในแผนที่ในหลายเส้นทาง แต่เท่าที่พอจะสามารถติดตามผ่านทางภาพถ่ายดาวเทียมได้ ก็คือเส้นทางจากโรงงานน้ำตาลเกาะคา ไปยังพื้นที่ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ส่วนเส้นทางสายอื่นๆ นั้น แทบจะไม่เหลือร่องรอยใดๆ ไว้ให้ติดตามเลย
ดังนั้นในที่นี้ เราก็เลยจะทำการลงพื้นที่สำรวจกัน ด้วยเส้นทางสายเกาะคา-แม่ทะ ระยะทางประมาณ 22.5 กม. (วัดจากดาวเทียม) โดยขออนุญาตนำภาพดาวเทียมที่ อ.เอก ได้ลงเส้นเอาไว้มาประกอบเพื่อความเข้าใจครับ
|
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 2:57 pm Post subject: |
|
|
ผมเริ่มการสำรวจ ในบ่ายวันที่ 6 เม.ย. 52 หลังจากที่พา ผตก.เจฟ มาทานขนมจีนน้ำเงี้ยวที่บ้านคุณยายของผมไปเป็นที่เรียบร้อย โดยจะเริ่มตามหาจุดที่เป็นปลายราง และแนวทางรถไฟในช่วงปลายสายให้เจอเสียก่อน เพื่อจะจับจุดว่าแนวทางรถไฟเก่านั้น อยู่ ณ บริเวณใด แล้วทอดตัวไปยังหมู่บ้านต่างๆ ตามภาพดาวเทียมได้อย่างไร
ภาพดาวเทียม จากโปรแกรม PointAsia (ภาพที่ 1-1)
ผมเริ่มต้นที่ บ้านหลุก อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการแกะสลักไม้ โดยจากภาพดาวเทียมจะเห็นว่าทางรถไฟส่วนปลาย จะผ่านข้างๆ ฌาปนสถาน (ป่าช้า) แล้วไปสุดอยู่ประมาณกลางทุ่งนา แต่ก่อนที่จะไปสำรวจ ผมดันลืมปรินต์แผนที่เอาไว้ ทำให้กว่าจะหาแนวทางเจอก็เล่นเอาขับรถวนไปวนมาเสียตั้งนาน
|
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 2:59 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้ผมและ ผตก.เจฟ จะอยู่ที่บริเวณจุด A ในภาพดาวเทียมที่ 1-1 ครับ ในภาพนี้คือแนวทางรถไฟ ที่จะทอดตัวไปทางเหนือ แล้วสุดทางที่บริเวณกลางทุ่งนาไกลลิบๆ
หากมองกลับไปอีกทาง แนวคันทางก็กำลังจะถูกปรับปรุงเป็นถนน คสล. ซึ่งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
|
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 3:02 pm Post subject: |
|
|
จากถนน หันหลังมองกลับไป จะเห็นแนวคันทางรถไฟเก่าตัดกับถนนได้ชัดเจน ซ้ายมือคือปลายราง ส่วนขวามือคือแนวทางที่จะไป อ.เกาะคา
แนวทางฝั่งที่จะไป อ.เกาะคา ที่เห็นต้นไม้ทึบๆ เยอะๆ นั่น ก็คือ ป่าช้า
แนวทางฝั่งที่จะไปยังสุดปลายราง
|
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 3:04 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้ ผตก. เจฟ ย้ายมายืนที่แนวทางฝั่งปลายราง มองไปยังทาง อ.เกาะคา
แล้วก็ย้ายมาอีกด้านนึง มองไปยังสุดปลายราง
|
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 3:10 pm Post subject: |
|
|
จากที่บอกไว้ว่า ไม่ได้พิมพ์แผนที่เอาไว้ ดังนั้น จึงต้องอาศัยวิชาดำน้ำ งมหาแนวทางกันจนชุลมุนวุ่นวาย สุดท้ายก็เลยตัดสินใจว่า ขอกลับไปดูที่หมู่บ้านก่อนละกันว่า แนวทางรถไฟที่เรากำลังถ่ายภาพอยู่นั้น มันถูกต้องหรือไม่อย่างไร ถ้าเป็นแนวเดียวกันกับในหมู่บ้าน ก็มั่นใจได้ว่ามาถูกทาง แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องงมหากันใหม่
ตอนนี้ผมและ ผตก. ย้ายมาถ่ายภาพกันอยู่ที่ตำแหน่งตัว C ในภาพดาวเทียมที่ 1-2 ส่วนตำแหน่ง A นั้นก็คือตำแหน่งที่เราถ่ายภาพกันก่อนหน้านี้ (ที่อยู่ข้างๆ ป่าช้านั่นแหล่ะ)
ภาพดาวเทียมที่ 1-2
จากตำแหน่ง C มองไปยังทาง อ.เกาะคา ตอนนี้กลายเป็นถนนซอยในหมู่บ้านไปแล้ว
มุมตรงข้ามกันจากตำแหน่ง C ส่วนหนึ่งกลายเป็นถนนใหญ่ แล้วก็เป็นซอยที่วิ่งตรงเข้าไป (ถนนจะเลี้ยวไปทางขวา) ซึ่งก็คือแนวเดียวกันกับแนวทางบริเวณข้างๆ ป่าช้า
|
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 3:59 pm Post subject: |
|
|
ขับรถเข้าไปในซอย จนถึงตำแหน่ง B จากภาพดาวเทียม ก็จะเจอกับถนน ค.ส.ล. ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่านี่คือแนวทางรถไฟแนวเดียวกัน ไม่ผิดแน่ๆ
|
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 10/04/2009 4:04 pm Post subject: |
|
|
จากบ้านหลุก ผมกับ ผตก.เจฟ ก็เปลี่ยนแนวทางไปสำรวจกันต่ออีกจุดหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปตามแนวทางรถไฟเก่าได้ (ดันเอารถเก๋งมา) ซึ่งจุดที่สองที่เรากำลังจะไป ก็คือ ถนนที่เข้าสู่บ้านน้ำโท้ง โดยจากภาพดาวเทียมจะเห็นได้ว่า แนวทางรถไฟเก่าจะตัดผ่านถนนบริเวณช่วงกลางด้วย ซึ่งก็คือตำแหน่งตัว A ในภาพดาวเทียมที่ 1-3 นั่นเอง
ภาพดาวเทียมที่ 1-3
จากจุดนี้ หากมองไปทาง อ.เกาะคา จะเห็นแนวทางทอดตัวยาวผ่านกลางทุ่งนาอย่างชัดเจน หากย้อนเวลาได้ก็คงจะเห็นภาพสองข้างทางที่เต็มไปด้วยไร่อ้อย แล้วก็มีขบวนรถไฟแล่นอยู่ตรงกลาง
|
|
Back to top |
|
|
|