Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263240
ทั้งหมด:13574523
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟกัมพูชา
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟกัมพูชา
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 93, 94, 95 ... 137, 138, 139  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/08/2017 7:12 am    Post subject: Reply with quote

กัมพูชา-รถไฟไม้ไผ่เก่าแก่กำลังจะถูกปิดตัวลง
ครอบครัวข่าว 3 วันที่ 28 ส.ค. 60 เวลา 06:08:25 น.

กัมพูชาเตรียมปิดให้บริการ"รถไฟไม้ไผ่โบราณ"ที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวมายาวนาน เนื่องจากเกรงว่า จะเกิดอันตรายจากการวิ่งสวนทาง กับรถไฟความเร็วสูง ที่เจ้าหน้าที่กำลังจะเปิดใช้บริการ

Norries หรือ รถไฟไม้ไผ่ มีชื่อเสียงอย่างมาก ในเขตพระตะบอง ประเทศกัมพูชา กำลังถูกรัฐบาลสั่งให้ปิดตัวลง เนื่องจากทางรถไฟเส้นนี้ กำลังจะถูกใช้เป็นอีกหนึ่งเส้นทางการวิ่งของรถไฟความเร็วสูง ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการอย่างสมบูรณ์เร็วๆ นี้ โดยทางการกังวลว่า อาจเกิดความไม่ปลอดภัยกับชาวบ้าน ที่ใช้งานรถไฟไม้ไผ่ ที่อาจวิ่งสวน หรือ ชน กับรถไฟความเร็วสูงได้

ในอดีตทางรถไฟสายนี้ ถูกใช้เพื่อลำเลียงสินค้า และทหารเข้าสู้สนามรบ กระทั่งสงครามกลางเมืองสงบลงจึงถูกทิ้งร้าง กลุ่มชาวบ้านจึงใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟ ขนข้าวของและขนส่งคนในละแวก

และได้สร้างรถไฟไม้ไผ่ขึ้น ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบง่ายๆ เพียงตัดไม้ไผ่ และต่อเป็นตัวรถไฟ และมีการสานไม้ไผ่เป็นที่นั่ง เชื่อมต่อเข้ากับชุดล้อโลหะ ติดเครื่องยนต์ดัดแปลง ที่นำมาจากเครื่องยนต์เรือ และนำมาวิ่งบนทางรถไฟ เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการ เที่ยวชมวิวของชาวบ้านในชนบทและธรรมชาติ ด้วยระยะทาง 500 เมตร ในราคาคนละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 330 บาทไทย

ชาวบ้าน เล่าว่า หากการเดินรถสายนี้จะต้องหยุดลง อาจต้องย้ายถิ่นที่อยู่เพื่อหางานใหม่ อีกทั้งหากไม่มีรถไฟไม้ไผ่แล้ว ก็คงไม่มีนักท่องเที่ยว ที่จะมาซื้อของฝากหรืออาหารที่พวกเขาเร่ขาย ซึ่งนักท่องเที่ยวบริเวณนั้นก็บอกว่า รถไฟไม้ไผ่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่อย่างมากที่ดึงดูดให้พวกเขามาเที่ยวที่นี่
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/08/2017 6:54 pm    Post subject: Reply with quote

“บิ๊กตู่” ติดตามความคืบหน้า เขตศก.พิเศษสระแก้ว ขู่ฟันจนท.เอี่ยวสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 28 สิงหาคม 2560 - 17:02 น.

“บิ๊กตู่” ประชุมติดตามความก้าวหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.สระแก้ว ขู่จัดการจนท.เอี่ยวเอื้อประโยชน์สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เด็ดขาดไม่มีละเว้น

เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 28 สิงหาคม ที่ห้องประชุมโรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมติดตามความก้าวหน้าของจ.สระแก้ว ในการเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนภาคเอกชนจังหวัดสระแก้วเข้าร่วมประชุม

นายกฯกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ บีโอไอ และการนิคมอุตสาหกรรมร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนให้มากขึ้น รวมทั้งให้เตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนในทุกๆ ด้าน เพื่อดึงดูดนักลงทุน เพราะการลงทุนต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมทั้งช่วยกันสร้างความเข้าใจ สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ซึ่งเมื่อมีการลงทุนในประเทศจำนวนมาก ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและรายได้ของประเทศตามมา พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายในการเอื้อประโยชน์ให้กับใคร แต่ต้องการให้เกิดการลงทุนภายในประเทศ ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจต่อต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการตามกฎหมายของไทย

“ผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าวให้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถ้าหมดระยะผ่อนผันแล้ว จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะไม่มีการผ่อนผันอีก ผมขอยืนยันว่าไม่ต้องการจะรังแกใคร แต่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงให้ระบบเดินหน้าต่อไปได้อย่างถูกต้องตามหลักสากล และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือค่าปรับแรงงานต่างด้าวให้เหมาะสม รวมถึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการเปิดหลักสูตรสอนวิชาชีพให้คนที่ไม่มีวุฒิการศึกษา เข้ามาเรียนเพื่อจะได้มีวิชาชีพในการทำงาน และเตรียมพร้อมรองรับตลาดแรงงานที่ในอนาคตจะขาดแคลน และพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงอย่าห่วงแต่ตัวเอง ขอให้คำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก และอย่ามองโอกาสแต่อย่างเดียว ให้เตรียมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วย” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ว่า เป็นเรื่องที่ถูกจับตาจากหลายประเทศ จะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังให้เป็นรูปธรรมให้ได้ และจะต้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หากเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินด้วย จะไม่มีการละเว้น

สำหรับการประชุมในครั้งนี้เพื่อรับทราบความคืบหน้าเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว การลงทุนของภาคเอกชนและแนวโน้ม รวมถึงข้อเสนอการบริหารงานศุลกากรเพื่อรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว รวมถึงการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยความพร้อมของเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว มีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ครอบคลุม 4 ตำบล ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.อรัญประเทศ และอ.วัฒนานคร พื้นที่รวม 332 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันเปิดบริการให้เอกชนขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้แล้ว ส่วนภาพรวมโครงสร้างพื้นฐาน กระทรวง คมนาคมได้ดำเนินการก่อสร้างถนนเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดังนี้ 1. ก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองอรัญประเทศด้านใต้ แยก ทล.33 ด่านบ้านคลองลึก ระยะทาง 15.425 กิโลเมตร คาดแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคม 2561 2.โครงการทางหลวงอรัญประเทศ – ชายแดนไทย/กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท) ระยะแรก ก่อสร้างสะพานคลองพรมโหด และปรับปรุงถนนเชื่อมด่านคลองลึก ระยะที่ 2 ก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองอรัญประเทศ 4 ช่องทาง โดยทั้งสองโครงการคาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2562

และในส่วนความเชื่อมโยงกับประเทศกัมพูชา ได้ดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟช่วงชุมทางแก่งคอย – คลองสิบเก้า – สุดสะพานคลองลึกทางฝั่งไทยสร้างเสร็จแล้ว ทางฝั่งกัมพูชาจะสร้างเสร็จภายในปี 2561 พร้อมสามารถเปิดบริการเดินรถข้ามพรมแดนไทย – กัมพูชาได้ ในปี 2561 โดยอนุญาตให้รถบรรทุกและรถโดยสารไม่ประจำทาง รวมจำนวน 150 คัน ในการเดินรถข้ามพรมแดนระหว่างกัน รวมทั้งพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 กัมพูชา คาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ส่วนการบริหารงานด่านศุลกากรอรัญประเทศ จะดำเนินงานตามนโยบายของคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว โดยใช้กฎระเบียบของกรมศุลกากรให้ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามภายใต้การควบคุมดูแลของด่านศุลกากรอรัญประเทศ และให้เพิ่มโครงสร้างบริหารงานออกมาอย่างชัดเจนเพื่อกำกับดูแลการใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามนโยบาย กฎ ระเบียบของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมยกระดับด่านเป็นสำนักงานศุลกากรอรัญประเทศเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่และขอบเขตการปฏบัติงานต่อไป

สำหรับความคืบหน้าด้านแรงงานต่างด้าวหลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 2560 ผู้ประกอบการรวมถึงแรงงานต่างด้าวมีความตื่นตัวจดทะเบียนให้ถูกต้องตามพระราชกำหนดปัจจุบันมีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนแล้ว 544 ราย มีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้วจำนวน 1,555 คน ผ่านการคัดกรองแล้ว 1,260 คน ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้วมีแรงงานต่างด้าวที่เดินทางไป-กลับแต่ละวันจำนวน 35,471 คน ส่วนการแก้ไขปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทางจังหวัดได้ทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 2560 มูลค่ามากกว่า 150 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/08/2017 10:03 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคม เผยพร้อมเปิดเดินรถไฟอรัญประเทศ-ปอยเปตปีหน้า
สำนักข่าวเจ้าพระยา วันอังคาร 29 สิงหาคม 2560 9:57

กระทรวงคมนาคมรายงานนายกฯ พร้อมเปิดเดินรถไฟอรัญประเทศ-ปอยเปตปีหน้า

กระทรวงคมนาคมรายงานความ คืบหน้าการก่อสร้างระบบคมนาคมรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้วเชื่อมโยงกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ในการประชุมติดตามความคืบหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ จ.สระแก้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางมาประชุม ว่า ในปี 2561 ไทยและกัมพูชาพร้อมจะเปิดเดินรถไฟ จากชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี-ชุมทางคลองสิบเก้า จ.ฉะเชิงเทรา ถึงสถานีอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเชื่อมต่อไปยังอำเภอปอยเปต จังหวัดบันเตีย เมียนเจยของกัมพูชา

ขณะที่โครงการอื่นๆ อาทิ ถนนเลี่ยงเมืองอรัญประเทศด้านใต้ จะแล้วเสร็จเดือน ส.ค. โครงการทางหลวงอรัญประเทศไปยังด่านหนองเอี่ยน-สตึงบท ระยะแรก สะพานคลองพรมโหด และปรับปรุงถนนเชื่อมด่านคลองลึก ระยะที่ 2 ทางเลี่ยงเมืองอรัญประเทศ 4 ช่องทาง จะแล้วเสร็จภายในปี 2562

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน รวมทั้งเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนในทุกๆ ด้าน เมื่อมีการลงทุนในประเทศจำนวนมาก ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แรงงานต่างด้าว ขอให้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง หากหมดระยะผ่อนผันแล้ว จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่มีการผ่อนผันอีก ส่วนเรื่องสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งถูกจับตาจากหลายประเทศนั้น จะต้องแก้ไขให้เป็นรูปธรรม ดำเนินคดีกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่ละเว้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/08/2017 8:17 am    Post subject: Reply with quote

ปัญหาล่าช้าในการเปิดเดินรถไฟกัมพูชา-ไทย เกิดจากยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องค่าชดเชยอาคารบุกรุกเขตทางรถไฟ ระยะทาง 1,300 เมตรในเมืองปอยเปต

Cambodia-Thai rail link not in talks agenda
Chea Vannak / Khmer Times August 31, 2017

The joint cabinet meeting between Cambodia and Thailand next month will exclude discussions on the Phnom Penh-Bangkok rail link, leaving the exact date of its launch in limbo.

“I don’t think the Cambodia-Thailand railway will be on the agenda because there is still a stretch of rail track under contention and border talks to agree on the transport of goods by train are still inconclusive,” said Chan Kimleng, director of the Transport Ministry’s railway department.

The meeting will be co-chaired by Prime Minister Hun Sen and his Thai counterpart Gen Prayut Chan-o-cha and will be held in the first week of September in Siem Reap province.

“At this juncture, I cannot say with certainty when the rail link will be completed. There’s still 10 percent of it yet to be completed in Poipet city,” Mr Kimleng said.

“We expect the issue of the missing link to be resolved by October. After that the railway will be completed,” he added.

The train service between Cambodia and Thailand which was expected to begin operations early this year has been delayed due to a contentious one-kilometre stretch of track in Poipet city.

“We can’t lay tracks on a length spanning 1,300 metres due to the presence of some ‘unauthorised’ buildings right in the middle of the track area,” Mr Kimleng said earlier.

“We still haven’t come to a compromise on the compensation for people living along this slightly over one-kilometre track,” he added. “That seems to be taking a long time.”

“Once the issue of compensation has been settled, the last stretch of track can be laid between Serey Sophon district and Poipet,” said Mr Kimleng.

The Cambodia-Thailand train service will connect Phnom Penh and Bangkok and the Poipet border crossing in Banteay Meanchey is the gateway to the Thai town of Aranyaprathet.

The agreement to link railways between the two countries was made by Mr Hun Sen and Gen Prayut in late 2015 and aims to boost trade and travel. It is hoped it will boost bilateral trade to up to $15 billion by 2020.

Minister of Public Works and Transportation Sun Chanthol said late last year Mr Hun Sen and Gen Prayut agreed to get in a train together to cross the border at the official inauguration ceremony.

The railway between Poipet city and Serey Sophon district is part of the eastern corridor of the rail link between Singapore and Yunnan province’s Kunming city in China that will eventually connect all of Asean.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/09/2017 7:43 am    Post subject: Reply with quote

อำลารถไฟไม้ไผ่เลื่องชื่อของกัมพูชา
PPTV HD 22:46น. 1 ก.ย. 2560

ทางการกัมพูชาเตรียมยกเลิกการให้บริการรถไฟไม้ไผ่เพื่อความปลอดภัย รับรถไฟความเร็วสูง ที่เตรียมให้บริการเร็ว ๆ นี้

Click on the image for full size

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รถไฟไม้ไผ่ หรือ โนรี (Nori) ยานพาหนะยอดนิยมของชาวกัมพูชา ในจังหวัดพระตะบอง และหนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด กำลังจะกลายเป็นเพียงตำนาน หลังทางการเตรียมยกเลิกบริการเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากรถไฟความเร็วสูง ซึ่งใช้ทางรถไฟสายเดียวกันกำลังจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเร็วๆนี้

Click on the image for full size

ทั้งนี้ สร้างความวิตกกังวลแก่ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น คนขับรถไฟไม้ไผ่ พนักงานขายตั๋ว รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ที่มีรายได้จากบริการรถไฟไม้ไผ่อันเป็นเอกลักษ์ของกัมพูชา โดยพวกเขาเชื่อว่า ถ้าไม่มีบริการนี้ก็จะไม่มีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว และอาจทำให้ชาวบ้านต้องย้ายถิ่นที่อยู่เพื่อหางานใหม่

Click on the image for full size

สำหรับรถไฟไม้ไผ่สร้างขึ้นตามภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้ไม้ไผ่สานเป็นที่นั่ง จากนั้นก็ติดล้อโลหะและเครื่องยนต์ที่ดัดแปลงมาจากเครื่องยนต์เรือ ก่อนจะนำไปวิ่งบนทางรถไฟด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมาะกับการชมวิวทิวทัศน์ โดยค่าบริการอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ต่อคน

Click on the image for full size

ส่วนทางรถไฟสายนี้ เดิมทีถูกใช้ในการลำเลียงทหารและสินค้าในช่วงสงครามกลางเมือง จนกระทั่งสงครามสิ้นสุดและถูกทิ้งร้าง ผู้คนท้องถิ่นจึงใช้ประโยชน์ในการขนส่งสินค้า ก่อนประยุกต์เป็นบริการชมเมืองดึงดูดนักท่องเที่ยว

End of the line for Cambodia's homegrown 'Bamboo Train'
AFP news agency Published on Aug 31, 2017

With a wooden platform jerry-rigged to a small engine, Cambodia's one-of-a-kind "Bamboo Train" delights tourists as it clatters through bucolic countryside -- but its days are numbered as the Southeast Asian nation plans a railways overhaul.


https://www.youtube.com/watch?v=eMIoSQF_Vos
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/09/2017 8:12 am    Post subject: Reply with quote

สถานีรถไฟตาแก้ว กัมพูชา ถ่ายจากโดรน

ផ្លូវដែកនៅកម្ពុជា (ខេត្តតាកែវ) Takeo Railway in Cambodia ក្រោមក្រសែភ្នែកបក្សីស្លាបជ័រ Drone
Tithya PhotographyPublished on Aug 7, 2017


https://www.youtube.com/watch?v=IWyuV0w_trU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 04/09/2017 8:02 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
แม้ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก เกี่ยวกับการมอบขบวนรถไฟของไทยให้เป็นของขวัญแก่กัมพูชา แต่ก็จะช่วยส่นับสนุนโครงการรถไฟที่ขาดแคลนงบประมาณได้

What’s Behind Thailand’s Engine ‘Gift’ to Cambodia?
Move is part of progress being made on a railway project.
By Ling Han
The Diplomat December 24, 2016


รถโดยสารเห็นว่าจะใช้รถ RHN ที่ปรับปรุงใหม่เดินระหว่างอรัญประเทศ กะปอยเปตนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/09/2017 5:47 pm    Post subject: Reply with quote

บทวิเคราะห์
อภิญญ ตะวันออก : แด่หนุ่มสาว (12) / กาลครั้งหนึ่ง ณ ทางรถไฟไทย-กัมพูชา
Arrow https://www.matichonweekly.com/in-depth/article_52353

Click on the image for full size
เครดิตภาพ : The Railway Atlas of Thailand, Laos and Cambodia : B.R. Whyte

ที่มา มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 กันยายน 2560
คอลัมน์ อัญเจียขะแมร์
เผยแพร่ วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ.2560

การเดินทางไปกัมพูชาของฉันในอดีต ดูจะใช้เวลายาวนาน เริ่มจากสถานีที่หัวลำโพง ผ่านหลายสถานีที่มีชื่อน่าจดจำ เช่น สถานีโพรงอากาศ โยทะกา ประจันตะคาม พระปรง ฯ

ยิ่งในเฉพาะช่วงฤดูเพาะปลูกได้เห็นทุ่งข้าวเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา บ้านเรือนชนบทบนที่ราบผืนใหญ่ โดยมีจุดหมายปลายทางสุดท้ายที่สถานีอรัญประเทศทั้งหมด 259 กิโลเมตร

ครั้นถึงสถานีแห่งนี้เวลาเกือบเย็น ฉันมักจะชอบเดินชมเล่นโดยเฉพาะบริเวณ ส่วนรางรถไฟที่ทอดไปยังฝั่งกัมพูชา ตรงสถานีที่เรียกว่าภูมิปอยเปต

นี่คือ เส้นทางรถไฟกัมพูชา ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสำคัญ ไม่เฉพาะแต่ระหว่างไทยกับเขมรเท่านั้น แต่ยังมีเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น (และฝรั่งเศส) ในเกร็ดประวัติตอนหนึ่ง

ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า ช่างแสนยากนัก กว่าที่ราชอาณาจักรกัมพูชาจะได้มาซึ่งเส้นทางรถไฟสายนี้ ด้วยสถานะบ้านเมืองขณะนั้นซึ่งปกครองโดยฝรั่งเศส ผู้แม้จะมีแนวคิดที่จะสร้างรถไฟในกัมพูชามาตั้งแต่ 2463 แต่ฝรั่งเศสก็รั้งรอ จนเมื่อเส้นทางสายตะวันออกของไทยได้สร้างแล้ว

นั่นเอง ที่กัมพูชาซึ่งฝรั่งหวังจะเริ่มต้นสร้างเส้นทางจากไซ่ง่อนผ่านไตนินห์มาจบที่พนมเปญ และวกลงไปทางใต้คือเส้นตาแก้ว-กำโปดเมืองโปรดเสียก่อน

ขณะเดียวกันก็วกขึ้นอีกทางเหนือ ทวนไปตามแม่น้ำโขง ผ่านเกาะแก่งคอนพะเพ็งและคอนอื่นๆ ที่ฝรั่งเศสก็ต้องการใช้ลำเลียงสินค้า และเชื่อมต่อลาวใต้ไว้ภายใต้เมืองรัฐนิคม แม้จะเป็นเส้นทางที่ได้ชื่อว่า “สายมรณะ” ที่คร่าชีวิตกรรมกรอันนัมและงบประมาณไปเป็นอันมาก

ด้วยเหตุนี้ เส้นทางสายตะวันตกเฉียงเหนืออันน่าขันขื่นของกัมพูชานั้น จึงล่าช้ากว่าทุกยุทธศาสตร์ โดยกว่าที่รัฐบาลอินโดจีน จะตัดสินใจลงมือก่อสร้างสายแรกที่สถานีมงคลบุไรนั้น รถไฟสายตะวันออกของสยาม ก็มาบรรจบบริเวณที่ชายแดนในปี พ.ศ.2469

รัฐบาลอินโดจีนนั้น แม้จะถูกรุมเร้าด้วยปัญหาหลายอย่าง แต่เมื่อสยามทำเส้นทางรถไฟมาประชิดพรมแดนเขมรเสียแล้ว ฝรั่งเศสก็ตัดสินใจวางยุทธศาสตร์ไม้หมอนของเส้นทางสายนี้ได้เร็วขึ้น

แต่กลับเป็นว่า สร้างเสร็จไม่กี่ปี รถไฟสายปรารถนาก็กลายเป็นเส้นทางเดินทัพของสงครามมหาเอเชียบูรพา

และพบกาลวิบัติอีกครั้งในสงครามการเมืองสมัยเขมรแดงอย่างเสร็จสิ้นหายนะมาถึงปัจจุบัน


ฤๅเพราะว่ารถไฟสายตะวันออกของสยามที่แล้วเสร็จในปี 2469 หรือไม่? ที่ทำให้ในสองปีถัดมา ผู้สำเร็จราชการใหญ่อินโดจีน จึงอนุมัติเทงบประมาณสร้างเส้นทางรถไฟระยะทาง 385 กิโลเมตร “พนมเปญ-ปอยเปต” ในเขตปกครองกัมพูชา

ความจริง การเชื่อมต่อระบบรางจากไซ่ง่อน-พระตะบองนี้ มีโครงการมาตั้งแต่ 1920″s แล้วนั้น และรัฐบาลอินโดจีนก็ทดลองเล็กๆ กับเส้น “พนมเปญ-ตาเขมา” ที่มีความยาว 10 กิโลเมตรก่อนในปี 2468

แต่เนื่องจากการคมนาคมเก่า “พนมเปญ-ไซ่ง่อน” คือเส้นทางเรือตามน้ำโขง ด้วยเหตุนี้ พนมเปญ-ตาเขมาจึงไม่ประสบความสำเร็จเหมือนสายตะวันตกของกัมพูชาที่เริ่มจากสถานีสั้นๆ มงคลบุไรในปี 2469 โดยหมายการว่า จะใช้เป็นเส้นทางนี้ขนส่งเรือมายังเมืองหลวง ทว่า ฤดูแล้ง เมื่อน้ำในทะเลสาบงวดลง การเดินเรือก็หยุดชะงักไปร่วม 5 เดือน

ดังนั้น แม้สายตะวันตกจะเริ่มต้นที่โครงการไซ่ง่อน-พระตะบอง แต่เป้าหมายหลักนั้นคือพนมเปญ-ปอยเปต โดยกว่าวิศวรกรโยธาจะเริ่มงานก็ล่วงปลายปี 2471

แต่ไซ่ง่อน-พนมเปญ และมงคลบุไร-ปอยเปต ก็ยังต้องเลื่อนไปอีกครั้ง จน พ.ศ.2474 ระบบรางพนมเปญ-โพธิสัตว์จึงเดินหน้าเป็นระยะทาง 165.5 กิโลเมตร และรวดเร็วเสร็จสิ้นในกลางปีถัดไป

ความชำนาญในการวางแผนระบบรางของฝรั่งเศสด้านวิศวกรรมโยธาจากเขตโคชินจีน/ไซ่ง่อน ดูจะทำให้การสร้างเส้นรถไฟในกัมพูชาที่ยาวเกือบ 300 กิโลเมตร ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือกินเวลานานอย่างที่คิด

6 เดือนต่อมา เส้นทางเฟสที่ 2 โพธิสัตว์-พระตะบองก็เริ่มขึ้นและลุล่วงในอีก 6 เดือนต่อมา ด้วยระยะทาง 107.6 กิโลเมตรในเดือนธันวาคมของปี 2475 ที่สามารถเชื่อมต่อพนมเปญ-โพธิสัตว์

จากนั้น รถไฟสายนี้ก็ไปสิ้นสุดลงที่ระยะสุดท้ายที่ 51.1 กิโลเมตร จากพระตะบอง-มงคลบุไร ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดอีก 6 เดือนจึงแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นระยะเดียวกับประเทศไทยเปลี่ยนการปกครอง


พิธีสมโภชสถานีชานชาลากลางนครพนมเปญที่แล้วเสร็จในปี 2475 ราวกับทั้งหมดนี้ได้ถูกก่อสร้างพร้อมๆ กับเส้นทางรถไฟสายตะวันตก ที่ มร.ปิแอร์ ปาสกีเยร์ ผู้สำเร็จราชการใหญ่แห่งอินโดจีนขณะนั้น ถวายเป็นของขวัญแด่พระบาทสีโสวัตถิ์ มุนีวงศ์ ผู้วาดหวังแผ่นดินกัมพูชาด้วยระบบรถรางที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น

แต่ทรงคาดไม่ถึงว่า ในอีก 9 ปีต่อมา เส้นทางรถไฟสายปรารถนาของพระองค์ จะมีอันเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากสงครามมหาเอเชียบูรพา จากกรณีสนธิสัญญาโตเกียว (9 พฤษภาคม 2484) ส่งผลให้ไทยได้คืนพระตะบอง ศรีโสภณ มงคลบุไรและเสียมราฐ (เว้นนครวัด-นครธม)

และนี่เอง ที่ทำให้เส้นทางรถไฟสายตะวันออกของไทย ณ สถานีอรัญประเทศ ได้มีโอกาสเชื่อมต่อกับสายตะวันตกของกัมพูชา ณ สถานีมงคลบุไรในปลายปีเดียวกัน

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการรายใหญ่ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือกองทัพซามูไรญี่ปุ่นที่บุกเบิกเส้นทางสายนี้ เพื่อลำเลียงอาวุธและกำลังพลเข้าไปในเขตกัมพูชา

จากนั้นก็ถึงคราวเปิดบริการสถานีกรุงเทพฯ-พระตะบองของไทยบ้าง (ในวันที่ 10 เมษายน 2485) โดยเปลี่ยนชื่อเสียมราฐ-สีโสภณเป็นพิบูลสงคราม โดยเส้นทางรถไฟไทยสายนี้ ไปสิ้นสุดที่ฝั่งซ้ายแม่น้ำสังแก พรมแดนพิเศษตามข้อตกลงระหว่างไทย-ฝรั่งเศสเวลานั้น

ทว่า ในปีถัดมา กองทัพซามูไรก็เข้าคุมยุทธศาสตร์เส้นทางรถไฟในกัมพูชาทั้งหมด รวมทั้งเส้นทางรถไฟของลาวใต้/แม่โขงคอนพะเพ็ง

แต่สงครามมหาเอเชียบูรพาที่จบลงด้วยการแพ้สงครามอย่างรวดเร็วของญี่ปุ่นในปี 2489 ทำให้ไทยต้องคืนเขตยึดครองฝั่งบูรพาให้ฝรั่งเศส เช่นเดียวกับกิจการรถไฟ แต่กลางปี พ.ศ.2495

นั่นเอง รัฐบาลเอกราชชั่วคราวกัมพูชาได้เปลี่ยนชื่อกิจการรถไฟฝรั่งเศสอินโดจีน (CFSI) เป็น “Royal Cambodian Railways” / ราชยสมัยยานกัมพูชา


แต่หลังจากคืนกิจการรถไฟสายตะวันตกกัมพูชาแล้ว แต่ทางการไทยและกัมพูชายังคงเชื่อมต่อพรมแดนโดยทางรถไฟตามแนวคิดที่ฝรั่งเศสให้การแนะนำ ทว่า เป็นไปอย่างลุ่มๆ ดอนๆ

โดยเริ่มจาก 2502 ที่มิตรภาพทั้งสองจมดิ่งเหวลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด การเดินรถไฟเที่ยวสุดท้ายระหว่าง 2 ประเทศก็มีอันสิ้นสุดลงในวันที่ 27 ตุลาคม 2504

ทว่า สถานี “ปอยเปต-อรัญญประเทศ” ก็ยังกลับมาเชื่อมต่อระหว่างพรมแดนอีกครั้งในปี 2513 เมื่อกิจการ “ราชยสมัยยาน” ซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น “รถไฟกัมพูชา” ตามระบบปกครอบสาธารณรัฐได้กลับมาเชื่อมไมตรีกับไทยอีกครั้ง

แต่หายนะในกิจการรถไฟสายนี้ก็สิ้นสุดทันที เมื่อกองทัพประชาชน/เขมรแดง ได้บุกรื้อทำลายเริ่มจากศรีโสภณตะวันตกเป็นระยะทาง 48 กิโลเมตร

จากนั้นเป็นต้นมา เส้นทาง “ปอยเปต-อรัญประเทศ” ก็กลายเป็นตำนานที่ถูกลืมตลอดกาล


กัมพูชากลับมาฟื้นคืนชีพ “ราชยสมัยยาน” อีกครั้งหลังเลือกตั้ง/2536

และเพิ่งจะฟื้นบริการเดินรถไฟสายใต้อีกครั้งในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวและชาวกัมพูชาที่ได้กลับมาเห็นขบวนม้าเหล็กอันเก่าแก่กลับมาโลดแล่นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้จะใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงกับระยะทางราว 264 กิโลเมตร พนมเปญ-สีหนุวิลล์

ผู้นำกัมพูชาเพิ่งเล็งเห็นความสำคัญของการขนส่งระบบรางอีกครั้ง เมื่อพนมเปญกลายเป็นเมืองใหญ่แออัดด้านการจราจร จนเมื่อไปเยือนญี่ปุ่นครั้งสุดท้าย นายกรัฐมนตรีเขมรได้เชื้อเชิญญี่ปุ่นมาลงทุนสร้างรถไฟสายพิเศษโปเชนตง-พนมเปญ

แต่ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยใช้เส้นทางรถไฟกัมพูชาในสงครามมหาเอเชียบูรพา เป็นตัวกลางในสนธิสัญญาโตเกียวให้แก่ทางการไทย และผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มปลดแอกปฏิวัติฝรั่งเศสในพนมเปญ ได้ทำในสิ่งที่มากกว่าการชดเชยการกระทำของตนในอดีต

นั่นคือ การเป็นผู้บริจาครายใหญ่กว่า 78,000 ล้านบาทให้กัมพูชาในปัจจุบัน และการให้ความช่วยเหลือกัมพูชาอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะอนุสรณ์สุดท้ายที่ญี่ปุ่นมอบแก่สองประเทศเพื่อนบ้าน

นั่นคือ กาลครั้งหนึ่ง การบรรจบพบกันของเส้นทางรถไฟไทย-กัมพูชา
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/09/2017 8:48 am    Post subject: Reply with quote

Phnom Penh Railway Station with Filipino Street Photographer
PhPeter Published on Sep 3, 2017

On the 3rd of September 2017 I went to the old railway tracks in Phnom Penh with my former Filipino lecturer, Mr. Arvin and my senior Mr. Physens. Phnom Penh Royal Railway Station, is a railway station in Phnom Penh, Cambodia. It is located next University of Health Science and the National University of Management and the Canadian embassy. As of February 2014, the station is only used for sporadic goods transport, chiefly oil-tank trains. This station was renovated and formally reopened October 22, 2010. However, the station buildings and platforms are no longer accessible to the public, given that there are currently no passenger services.


https://www.youtube.com/watch?v=Hx3y0iTDcGU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44521
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/09/2017 1:16 pm    Post subject: Reply with quote

ชื่นมื่น! “บิ๊กตู่” หารือทวิฯ “สมเด็จฮุนเซน” กระชับความร่วมมือชายแดนทุกมิติ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 7 กันยายน 2560 - 12:29 น.

Click on the image for full size

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 เวลา 09.45 น. ณ สำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หารือทวิภาคี ในโอกาศเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา อย่างเป็นทางการ และการเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 พร้อมด้วย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลเอก อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลเอก ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติและนายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่มีพรมแดนติดกันเกือบ 800 กม. และต่างเป็นสมาชิกอาเซียน ซึ่งยึดมั่นในหลักการว่า เราจะพัฒนาและเข้มแข็งด้วยกัน และไม่ทิ้งประเทศใดไว้เบื้องหลัง ปัจจุบันนี้ ความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา ที่มีความใกล้ชิดที่สุดในทุกระดับและเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ทั้งระดับรัฐบาล และภาคเอกชน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ไทยและกัมพูชาเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง (Partnership for Peace and Prosperity) อย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลสองฝ่ายระหว่างการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีครั้งที่ 2

ด้านความมั่นคงนั้น กรอบความร่วมมือต่าง ๆ ด้านการเมืองและความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา มีความคืบหน้า การลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชาลดน้อยลงมาก ความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ เห็นพ้องให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยโดยตรงอย่างทันการณ์ ความคืบหน้าในกรอบการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ประสบความสำเร็จการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนที่ดำเนินการไปแล้ว 68 หลักเขตแดนยังเหลืออีก 5 หลัก ซึ่งจะเร่งดำเนินการต่อไป

Click on the image for full size


ภาพรวมด้านการค้าและการผลักดันเป้าหมายทางการค้า ที่มูลค่าการค้ามีการปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา แต่ยังห่างจากเป้าหมายที่ตั้งร่วมกันไว้ คือ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 จึงต้องหามาตรการส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ครอบคลุมทั้งการอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน การทำเกษตรแบบมีสัญญา (contract farming) รวมทั้ง จะมอบหมายให้คณะกรรมการร่วมด้านการค้า (JTC) หารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางขยายการค้าและช่วยลดการขาดดุลการค้าของฝ่ายกัมพูชา อาจมีการพัฒนาสู่การ “แบ่งกันผลิต” สินค้าที่แต่ละฝ่ายมีศักยภาพในการผลิตสูง โดยมุ่งไปสู่การสร้างห่วงโซ่อุปทานให้มากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้า

และเสริมสร้างศักยภาพการผลิตในระดับภูมิภาค ไทยจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชามากขึ้น ควบคู่กับการสนับสนุนด้านการพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้าการเกษตร การขนส่งสินค้าผ่านแดน ให้หน่วยงานของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าผ่านแดนจัดทำความตกลงร่วมกันว่าด้วยการขนส่งสินค้าผ่านแดนโดยเร็ว เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและอำนวยความสะดวกในการนำผ่านสินค้า และเพื่อเป็นการรองรับกับพระราชบัญญัติศุลกากรฉบับใหม่ของไทย รวมทั้งความตกลงที่มีอยู่แล้วในกรอบอื่น ๆ เช่น GMS

นายกรัฐมนตรียินดีการลงนามในความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเชื่อมั่นว่าช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและลดภาระของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการลงทุน ของภาคเอกชนไทยในกัมพูชามากยิ่งขึ้น สนับสนุนให้มีโครงการ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและชุมชนของกัมพูชา หวังว่ากัมพูชาพิจารณาสนับสนุน ดูแลและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนให้แก่นักลงทุนชาวไทยในกัมพูชาด้วย โดยเฉพาะ Smart Start Up ความเชื่อมโยงในภาพรวม ทั้งทางถนน ทางราง และทางทะเล การเชื่อมโยงเศรษฐกิจพิเศษและการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติม การเชื่อมโยงระบบทางรถไฟ ขณะนี้รางรถไฟระหว่างไทยกับกัมพูชาได้เชื่อมต่อกันแล้ว หวังว่า การก่อสร้างเส้นทางรถไฟที่เหลืออยู่ดำเนินไปได้ด้วยดี เพื่อให้สามารถเดินทางโดยรถไฟในเส้นทางอรัญประเทศ – ปอยเปต – ศรีโสภณ – พระตะบอง – พนมเปญ ได้ภายในปี 2563 การเชื่อมโยงทางบก ขอให้สองฝ่ายเร่งรัดสานต่อการจัดทำความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการขนส่งข้ามแดนเพื่อให้สองฝ่ายสามารถขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนถาวรได้ทุกจุด เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการขนส่งและการพัฒนาด้าน logistics ตลอดจนช่วยลดภาวะความแออัดของจุดผ่านแดนถาวรอรัญประเทศ – ปอยเปตอีกด้วย

Click on the image for full size

นายกรัฐมนตรี ประทับใจนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ได้กรุณาแต่งเพลงให้ 4 เพลง เกี่ยวกับ “สะพาน มิตรภาพ” ที่บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท จึงให้สองฝ่ายเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างอาคาร ถนน สะพานและกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง hardware และ software เพื่อให้เปิดจุดผ่านแดนถาวรที่บ้านหนองเอี่ยน จ. สระแก้ว– สตึงบท จ. บันเตียเมียนเจย ได้โดยเร็ว เพื่อให้เป็นสะพานแห่งมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ เป็นสะพานที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์และนำมาซึ่งความเจริญระหว่างทั้งสองประเทศ ตามบทเพลงของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

การพัฒนาพื้นที่ชายแดน ขอให้มีการสำรวจและเก็บรายละเอียดภูมิประเทศ บริเวณจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าที่บ้านมะม่วง จังหวัดตราด – โชกโรกา จังหวัดพระตะบอง เพื่อซ่อมแซมถนนสำหรับประชาชน ในการสัญจร และก่อสร้างสะพานข้ามแดนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาดจังหวัดจันทบุรี – ปรม จังหวัดไพลิน ความร่วมมือว่าด้วยการเดินเรือชายฝั่งไทย – กัมพูชา – เวียดนาม เวียดนามยินดีจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งที่ 2 ว่าด้วยการเดินเรือตามแนวชายฝั่ง ไทย – กัมพูชา – เวียดนาม ในปี 2561 ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสองจัดทำแผนการท่องเที่ยวให้สอดรับกับการพัฒนาความเชื่อมโยงทางคมนาคมทั้งทางบก ทางราง และทางเรือที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ภายใต้โครงการ “สองราชอาณาจักร จุดหมายหนึ่งเดียว” (Two Kingdoms, One Destination) ความร่วมมือทางวิชาการ ทั้งสองฝ่ายได้จัดทำแผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุมในสาขาการศึกษาสาธารณสุขและเกษตร ความร่วมมือด้านแรงงาน ขอให้กัมพูชาเร่งรัดการแจกหนังสือเดินทางแก่แรงงานกัมพูชาในไทยที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว และขอให้กัมพูชาเร่งรัดการพิสูจน์สัญชาติแรงงานที่เหลือให้แล้วเสร็จ

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวชื่นชมความมุ่งมั่นในการทำงานของนายกรัฐมนตรี หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วม ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2558 ก็มีความก้าวหน้าในหลายประเด็น อาทิ การลงนามในบทเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ของ IICBTA ไทย – กัมพูชาภายใต้กรอบ GMS เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2559 เพิ่มจำนวนใบอนุญาตรถขนส่งสินค้าและรถโดยสารไม่ประจำทางที่สามารถผ่านจุดผ่านแดนถาวรอรัญประเทศ – ปอยเปต จาก 40 คัน เป็น150 คัน รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างอาคาร ถนน สะพานและกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้เปิดจุดผ่านแดนถาวรที่บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท ได้โดยเร็ว และจะมีการเร่งคัดเลือกบริษัท เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสะพาน และเส้นทางต่างๆ รวมทั้ง ขอบคุณรัฐบาลไทยที่จะส่งมอบหัวรถจักรรถไฟแก่กัมพูชา

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังเห็นสอดคล้องในแนวทางต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค้าการค้าระหว่างกัน ทั้งการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน การขนส่งสินค้าผ่านแดน การเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษ กัมพูชายังเชิญชวนให้มีการลงทุนในกัมพูชา ด้วย สำหรับความมั่นคง ก็ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่ทำงานอย่างเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาตามแนวบริเวณชายแดน รวมทั้งการค้าผิดกฎหมาย และการลักลอบค้ามนุษย์ และการค้าอาวุธ

นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวในตอนท้ายว่า ได้มีการมอบหมายให้สมเด็จพิชัยเสนาเตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานสมาคมมิตรภาพกัมพูชา – ไทย (ฝ่ายกัมพูชา) ด้วย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา โดยรอบต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 93, 94, 95 ... 137, 138, 139  Next
Page 94 of 139

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©